MQDC เปิดตึกเสร็จ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao พร้อมเข้าอยู่ ชูจุดแข็งรับประกันยาวนาน 30 ปี
· ~ 1 min readบริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ MQDC พร้อมเปิดตึกเสร็จ คอนโด Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao (วิสซ์ดอม อเวนิว รัชดา-ลาดพร้าว) ติดกับรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีลาดพร้าว เจาะกลุ่มเป้าหมายคนเมือง และคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต มีไลฟ์สไตล์ทันสมัย พิถีพิถันในการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง ในช่วงอายุระหว่าง 20-40 ปี พร้อมสร้าง Sense of Living ตอบสนองทุกแง่มุมของการใช้ชีวิต ชูจุดแข็งการรับประกันนาน 30 ปี พร้อม Zero Defects Delivery พร้อมเผยแผนโครงการใหม่ปีหน้า Whizdom Asoke-Sukhumvit
นายอัษฎา แก้วเขียว ประธานผู้อำนวยการ-วิสซ์ดอม บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี้ ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (MQDC) กล่าวถึง “โครงการ Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao ” ว่ามีจุดเด่นด้วย 5 ปัจจัย คือ
- ทำเล ติดสถานี รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลาดพร้าว
- รับประกันนานถึง 30 ปี โดยรับประกันด้านคุณภาพโครงสร้างอาคาร ใน 4 เรื่องหลัก
- รอยร้าว และกำลังคอนกรีต เสา คาน พื้น
- เรื่องความแข็งแรงทั่วไปและการรั่วซึมของหลังคาและดาดฟ้า
- การรั่วซึมของท่อน้ำในระบบประปาและสุขาภิบาล การรั่วของกระแสไฟฟ้า
- การใช้งานและการรั่วซึมของน้ำฝน ของบานวงกบ ประตู และหน้าต่าง
- การออกแบบอย่างพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด ผสมผสานการวิจัยและพัฒนา เข้ากับการดีไซน์ และความใส่ใจในเรื่องการประหยัดพลังงานและรักษาสิ่งแวดล้อม ออกแบบตามมาตรฐานอาคารเขียว ระดับ Gold และรายละเอียดอื่นๆ เช่น การจัดวางพื้นที่ภายในห้องพักสอดคล้องกับหลักสรีระศาสตร์เหมาะสมกับระยะร่างกายของมนุษย์ เพื่อความสะดวกสบาย การวางตำแหน่งไฟ ตำแหน่งแอร์ที่ส่งเสริมสุขภาพที่ดีของผู้อยู่อาศัย ทิศทางการวางตำแหน่งตัวตึกสอดคล้องกับทิศทางแสงอาทิตย์และทิศทางลม เพื่อลดความร้อน และเพิ่มการหมุนเวียนถ่ายเทของอากาศภายในห้องพัก เป็นการช่วยประหยัดพลังงาน และเพิ่มความสบายให้ผู้อยู่อาศัย การจัดวางห้องพักซึ่งเริ่มต้นที่ชั้น 5 เพิ่มความเป็นส่วนตัวและห่างไกลจากเสียงรบกวน มีการออกแบบสวนและแนวต้นไม้ช่วยบังแนวเสียงและฝุ่นละอองในอากาศที่จะพัดเข้าสู่ตัวอาคาร เป็นต้น
- customer activities / services เป็นกิจกรรมที่ตอบสนองคนรุ่นใหม่ (New Generation) ที่มีกิจกรรมหลากหลายรูปแบบตอบสนองคน WHIZDOM ไม่ว่าจะเป็นเรื่ององค์ความรู้ที่สามารถนำไปใช้ในชีวิตการทำงาน Entertainment สุขภาพ Networking, knowledge sharing และอื่นๆ นอกจากนี้เรามีการเพิ่ม Senses ของการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง หรือ “Sense of Living” การใส่ใจด้านการอยู่อาศัยจริงของคนปัจจุบันที่อาศัยอยู่คอนโด อาทิเช่น การเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับลูกบ้าน เช่น พื้นที่สำหรับล้างรถ ที่ชงชากาแฟที่ล็อบบี้ เตา BBQ เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญพร้อมที่อบผ้า อุปกรณ์ปฐมพยาบาล First aid kit, อุปกรณ์ซ่อมบำรุง Maintenance box ที่ลูกค้าใช้ได้ง่ายๆ และอื่นๆ
- Zero Defects Delivery ด้วยการใช้ technology ต่างๆมาช่วยตั้งแต่ขั้นตอนแรก เช่น การออกแบบเพื่อลดสิ่งที่จะก่อให้เกิด defects ตั้งแต่แรกและด้วยการนำ BIM (Building Information Model) มาใช้เพื่อขึ้นรูปแบบ 3 มิติก่อนสร้างจริง พร้อมทั้งขั้นตอนการควบคุมและตรวจสอบคุณภาพงานก่อสร้างในทุกขั้นตอนโดยทีม MQDC ด้วยเครื่องมือการตรวจสอบที่มีความแม่นยำสูงและทันสมัย ลดงาน re-work ที่อาจจะกระทบงานตกแต่งอื่นๆ การติดตามงานแก้ไข ด้วยโปรแกรม “Novade” ซึ่งเป็นโครงการแรกของประเทศไทยที่นำโปรแกรมนี้มาใช้ในการตรวจ defects
นอกจากนี้ นายอัษฎา แก้วเขียว ยังกล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ และภาพรวมธุรกิจในครึ่งปีแรก2560 ว่า “ภาพสรุปของอสังหาฯในกรุงเทพ ครึ่งปีแรกที่ผ่านมามีการขยายตึกต่อเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาจากหลายปัจจัย อาทิเช่น การลงทุนโครงการรถไฟฟ้าหลายสายของภาครัฐ การเร่งเปิดตัวของผู้ประกอบการหลายราย โดยที่ตลาดคอนโดมิเนียมเป็นตลาดหลักที่ใหญ่ที่สุดประมาณ 60% ของตลาดรวม ในอีกด้านหนึ่งคือการขยายตัวของภาคอสังหาฯ ก็คือ ราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก ส่งผลโดยตรงต่อราคาที่อยู่อาศัย จากสภาวะปัจจุบันโอกาสในการเกิดโครงการในเมืองลดลงแต่การเปิดโครงการมากขึ้นในบริเวณส่วนต่อขยายของรถไฟฟ้าต่างๆ ทิศทางการพัฒนาที่เกิดขึ้นในกรุงเทพและปริมณฑลได้เริ่มปรับเปลี่ยนพฤติกรรมและรูปแบบการอยู่อาศัยของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง”
และสำหรับแผนงานในปีหน้า MQDC มีแผนจะเปิดตัวโครงการอีก 5-6 โครงการ ทั้งแนวสูงและนาวราบ โดยตั้งเป้ายอดขายประมาณ 20,000 ล้านบาท ไฮไลท์อยู่ที่ Whizdom Asoke-Sukhumvit บริเวณตลาดปลาวาฬเดิม ใกล้กับอาคาร Lake Ratchada
ส่วนโครงการ วิสซ์ดอม รัชดา-ลาดพร้าว แห่งนี้ ถือว่าเราประสบความสำเร็จ มียอดจองไปราว 90% เ โดยเราจะทำการเปิดตัวครั้งแรกในงาน Whizdom Avenue Ratchada-Ladprao Grand Opening ในวันที่ 2 กันยายน 2560 นี้ ซึ่งเรามีห้องตัวอย่างถึง 7 แบบ เพื่อให้ลูกค้าเลือกชมเป็นไอเดียการตกแต่งห้องตามความชอบ โดยร่วมกับแบรนด์ CK furniture ซึ่งเป็นแบรนด์ระดับโลกที่จับกลุ่มคนรุ่นใหม่ เรามีการทำ Co-branding แพคเกจ furniture “Fully furnished by CK furniture” อีกด้วย
“ด้านการส่งเสริมการตลาดในปี 2560 เราจะเน้นสื่อสารผ่านทางสื่อ Social Media เป็นช่องทางหลัก และเสริมด้วย out-of-home media ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ในการสร้าง brand awareness สามารถเข้าถึงและสื่อสารกับกลุ่มลูกค้าให้ขับรถไปใกล้ๆที่ของโครงการเนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าในปัจจุบันจะใช้ smart phone ในการติดตามข่าวสาร และเป็นกลุ่มที่มีไลฟ์สไตล์การเดินทางหรือประกอบกิจกรรมนอกบ้านเป็นส่วนใหญ่ ”นายอัษฎา แก้วเขียว กล่าวในตอนท้าย