บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) เผยผลประกอบการ 9 เดือน แรกของปี 2561 ซึ่งบริษัทสามารถประสบความสำเร็จได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ โดยสามารถทำยอดขายได้ถึง 28,668 ล้านบาท โตขึ้นจากปีที่แล้ว 14% โดยแบ่งเป็นสัดส่วนยอดขายในส่วนโครงการคอนโดมิเนียม 54% และโครงการแนวราบ 46% และคิดเป็น 86% จากเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ 33,000 ล้านบาท อีกทั้งสามารถทำรายได้รวม 17,143 ล้านบาท ซึ่งได้มาจากการทยอยส่งมอบคอนโดมิเนียมทั้งในเขตกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ทั้งนี้รายได้ของ ศุภาลัย หลักมาจากโครงการแนวราบ 58% และจากโครงการคอนโดมิเนียม 42%
ศุภาลัย สามารถทำกำไรสุทธิได้ 3,332 ล้านบาท โดยมีอัตราหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นอยู่ที่ 51% ส่วนต้นทุนการเงินที่อัตราเฉลี่ย 2.45% ต่อปี ณ 30 ก.ย. 2561 และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ประมาณ 44,040 ล้านบาท โดยคาดว่าจะสามารถทยอยโอนที่อยู่อาศัยให้แก่ลูกค้า และรับรู้เป็นรายได้ในปี 2561 จำนวน 8,137 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 35,903 ล้านบาทจะรับรู้รายได้ในอีก 4 ปีถัดไป
ในช่วง 9 เดือนแรกศุภาลัย มีการเปิดตัวโครงการใหม่ในกรุงเทพฯ และภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 18 โครงการ มูลค่ารวม 21,500 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 3 โครงการ และแนวราบ 15 โครงการ ซึ่งในช่วงไตรมาส 3 อย่างเดียว ศุภาลัย ได้เปิดตัวโครงการใหม่ 8 โครงการ มูลค่ารวม 13,900 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ 6 โครงการ และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีโดยเฉพาะโครงการ ศุภาลัย เวอเรนด้า รามคำแหง และ โครงการศุภาลัย ลอฟท์ ประชาธิปก – วงเวียนใหญ่
สำหรับแผนงานในช่วง 3 เดือนสุดท้าย บริษัทกำหนดเปิดตัวโครงการแนวราบในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และหัวเมืองภูมิภาค จำนวน 10 โครงการ ซึ่งในเดือนตุลาคมที่ผ่านมา เปิดตัวไปแล้ว 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,300 ล้านบาท ได้แก่ ศุภาลัย ริเวอร์ วิลล์ ระยอง, ศุภาลัย เอสเซ้นส์ สวนหลวง, ศุภาลัย พรีโม่ กาญจนาภิเษก-ชัยพฤกษ์ และ ศุภาลัย วิลล์ ศรีราชา-สวนเสือ นอกจากนี้ในวันที่ 24-25 พฤศจิกายนนี้จะเปิดตัวโครงการใหม่พร้อมกัน 3 โครงการ มูลค่ารวม 2,900 ล้านบาท ได้แก่ ศุภาลัย เบลล่า ถลาง ภูเก็ต, ศุภาลัย พรีโม่ พัทยา และ ศุภาลัย พาร์ควิลล์ แม่กรณ์-เชียงราย โดยคาดว่าจะได้รับความสนใจจากลูกค้าในหัวเมืองภูมิภาคทั้ง 3 จังหวัดเป็นอย่างดี