กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ “ALL” ลั่นไม่ขายหุ้น เชื่อธุรกิจมีศักยภาพในการเติบโตต่อเนื่อง

· ~ 1 min read

 นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน)

กล่าวว่า กลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ตระกูล “ธนวริทธิ์” ที่ถือหุ้นรวมกัน 4 ราย คิดเป็นสัดส่วนการถือหุ้นรวม 73.21% ไม่มีความประสงค์จะขายหุ้นออก ซึ่งกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่มีความตั้งใจจะทำงาน เพื่อให้บริษัทมีการเติบโตที่ยั่งยืนอย่างต่อเนื่อง และเป็นหุ้นที่เติบโตเร็ว หรือ “Growth Stock” โดยหลังจากที่บริษัทได้ระดมทุนผ่านการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) ทำให้บริษัทมีกระแสเงินสดในมือมากขึ้น มีสภาพคล่องในการขยายธุรกิจ

ล่าสุด ณ วันที่ 2 เมษายน 2562 รายชื่อกลุ่มผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 4 รายประกอบด้วย

1.นายธนากร ธนวริทธิ์ ถือหุ้นจำนวน 291,099,900 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 51.98%,

2.นางสาวชวนา ธนวริทธิ์ ถือหุ้นจำนวน 78,720,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 14.06%,

3.ดญ.สิริกร ธนวริทธิ์ ถือหุ้นจำนวน 20,090,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.59%

4.ดญ.กชพรรณ ธนวริทธิ์ ถือหุ้นจำนวน 20,090,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 3.59%

สำหรับเงินระดมทุนจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 735 ล้านบาท บริษัทใช้ชำระคืนหนี้ที่เป็นหุ้นกู้ จำนวน 300 ล้านบาท ขณะเดียวกันยังมีโครงการ ไรส์ พระราม 9 (Rise Rama 9) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท เริ่มทยอยส่งมอบต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 2/2562 ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทมีกระแสเงินสดในการชำระเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน อย่างไรก็ตาม การทยอยชำระหนี้ดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) และอัตราส่วนภาระหนี้สินที่มีดอกเบี้ยต่อทุน (Interest-Bearing Debt : IBD/E Ratio) ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

หุ้น All Inspire(ภาพที่1)

 

นอกจากนี้นายธนากร กล่าวอีกว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีจากนี้ (ปี 2562-2564) จะมีอัตราการเติบโตที่ระดับ 100% ต่อปี จะมาจากการทยอยส่งมอบยอดขายรอโอน (Backlog) และบริษัทยังมีสินค้าเหลือขายที่สามารถขายได้ทันที ทั้งนี้ ล่าสุดบริษัทมียอด Backlog ในมือมูลค่ารวมประมาณ 7,200 ล้านบาท จาก 13 โครงการในมือ และยังมีสินค้าเหลือขายในมือมูลค่ารวมกว่า 12,000 ล้านบาท แบ่งเป็นสินค้าพร้อมโอน (สต๊อก) ภายในปี 2562 ประมาณ 40% ส่วนในอนาคตก็มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่รวม จำนวน 6 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 18,250 ล้านบาท ซึ่งบริษัทตั้งเป้าหมายจะมียอดขาย (Presale) ที่ระดับ 70-80% ของมูลค่าโครงการ โดยในช่วง 4 เดือนแรก

อย่างไรก็ตาม แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 2/2562 ทั้งยอดขาย ยอดโอนกรรมสิทธิ์ และกำไรสุทธิ จะเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการทยอยส่งมอบยอดขายรอโอน (Backlog) โดยในช่วงไตรมาส 2/2562 มีโครงการสร้างเสร็จใหม่ จำนวน 2 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ ไรส์ พระราม 9 (Rise Rama 9) มูลค่าโครงการ 1,600 ล้านบาท และโครงการ เดอะ วิชั่น ลาดพร้าว-นวมินทร์ (The Vision Ladprao-Nawamin) มูลค่าโครงการ 1,391 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมียอดขายแล้วกว่า 400 ล้านบาท จะเริ่มส่งมอบในเดือนมิถุนายนนี้ ส่วนในเดือนกรกฎาคมนี้ บริษัทจะเปิดขายโครงการโครงการ อิมเพรสชั่น เอกมัย (Impression Ekkamai) อย่างเป็นทางการ และในช่วงเดือนมิถุนายน บริษัทจะเปิดขายในทำเลสุทธิสาร-ลาดพร้าวอีกด้วย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *

ALL COMMENT (0)
icon-yusabuy-titleRELATED ARTICLE
back to top

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ และประสบการณ์ที่ดีในการใช้เว็บไซต์ของคุณ คุณสามารถศึกษารายละเอียดได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และสามารถจัดการความเป็นส่วนตัวเองได้ของคุณได้เองโดยคลิกที่ ตั้งค่า

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

ยอมรับทั้งหมด
Manage Consent Preferences
  • คุกกี้ที่จำเป็น
    Always Active

    ประเภทของคุกกี้มีความจำเป็นสำหรับการทำงานของเว็บไซต์ เพื่อให้คุณสามารถใช้ได้อย่างเป็นปกติ และเข้าชมเว็บไซต์ คุณไม่สามารถปิดการทำงานของคุกกี้นี้ในระบบเว็บไซต์ของเราได้

  • คุกกี้สำหรับการวิเคราะห์

    คุกกี้นี้เป็นการเก็บข้อมูลสาธารณะ สำหรับการวิเคราะห์ และเก็บสถิติการใช้งานภายในเว็บไซต์นี้เท่านั้น ไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวที่ไม่เป็นสาธารณะใด ๆ ของผู้ใช้งาน

บันทึก