รัฐบาลติดเครื่องสร้างต้นแบบเมืองอัจฉริยะในพื้นที่ EEC หวังต่อยอดครบ 100 พื้นที่ทั่วประเทศ ด้าน “ออริจิ้น” จับมือภาครัฐ-เอกชนชั้นนำ ร่วมเนรมิต “Origin Smart City Rayong” ภายใต้ 3 แกนสมาร์ท Smart Tech, Smart Eco และ Smart Community กับคอนเซ็ปต์ Beyond A Living Platform สร้างแลนด์มาร์คใหม่สู่ “Lifestyle Hub” พร้อมคอนโดสูงที่สุดในระยอง มูลค่าโครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาท เปิดจองครั้งแรก 28 ก.ย. นี้ ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.29 ล้านบาท
นายอินทรีย์ เกิดมณี ปลัดจังหวัดระยอง ในฐานะประธานพิธีเปิดโครงการ Origin Smart City Rayong กล่าวว่า การพัฒนาเมืองอัจฉริยะ หรือ Smart City ถือเป็นวาระแห่งชาติที่รัฐบาลให้ความสำคัญ และมุ่งมั่นเดินหน้าอย่างจริงจัง เพื่อให้มีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการเมืองอย่างชาญฉลาด กระจายความเจริญไปยังทุกภูมิภาค สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่ประชาชน โดยพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ซึ่งประกอบด้วย 3 จังหวัด ได้แก่ ระยอง ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ถือเป็นพื้นที่นำร่องในเฟสแรกที่รัฐบาลเดินหน้าสร้างต้นแบบ Smart City อย่างจริงจัง
ภายใต้โรดแมปสมาร์ทซิตี้ ภาครัฐมุ่งมั่นผลักดันให้เกิดสมาร์ทซิตี้ทั่วประเทศจำนวน 100 แห่ง ภายในปี 2565 โดยปีนี้ได้เปิดโอกาสให้ภาคเอกชนสามารถยื่นขอให้โครงการเดิมและโครงการที่กำลังจะพัฒนา ได้รับตราสัญลักษณ์เมืองอัจฉริยะต้นแบบกับคณะกรรมการขับเคลื่อนการพัฒนาเมืองอัจฉริยะด้วย โดยโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง จัดเป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบ แห่งแรกในจังหวัดระยองที่ร่วมตอบรับกับนโยบายรัฐ
ด้านนายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI กล่าวว่า บริษัทมุ่งมั่นจะพัฒนาโครงการออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong) บนที่ดินกว่า 24 ไร่ บริเวณสี่แยกเนินสำลี ถ.สุขุมวิท จ.ระยอง ให้เป็นเมืองอัจฉริยะต้นแบบและเล็งเห็นศักยภาพของระยองว่าเป็นจังหวัดที่จะสามารถเติบโตถึงขั้นเป็น New CBD ได้ จึงได้ร่วมมือกับทั้งภาครับและเอกชนต่างมาช่วยเติมเต็มให้ทั้งโครงการกลายเป็นสมาร์ท ซิตี้ และสมาร์ทแพลทฟอร์มไปพร้อมกัน ได้แก่ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (PEA) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ธนาคารกสิกรไทย (KBank) คอตโต้ และคลาส คาเฟ่ (CLASS CAFÉ) มาร่วมเนรมิตโครงการมิกซ์ยูส มูลค่าโครงการรวมกว่าหมื่นล้านบาทแห่งนี้ ให้สามารถทรานส์ฟอร์มการใช้ชีวิตสู่สังคมแห่งอนาคต ภายใต้คอนเซ็ปต์ “Beyond A Living Platform
ทางPEA ได้ให้ความร่วมมือด้าน Smart Eco ทำให้โครงการมีการจัดการพลังงานอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ในขณะที่ ทรู คอร์ปอเรชั่น ร่วมมือด้าน Smart Tech วางโครงข่ายโครงสร้างพื้นฐานของโครงการให้พร้อมรองรับ 5G ส่วนคลาส คาเฟ่ จะมาช่วยส่งเสริมด้าน Smart Community ที่มาพร้อมร้านกาแฟ และ Co-Working Space 24 ชั่วโมง อีกทั้งภายในโครงการต้องการสร้างไลฟ์สไตล์ฮับแห่งใหม่ของระยอง เราและพันธมิตรจะร่วมกันทำให้ที่นี่เป็นเมืองต้นแบบอัจฉริยะ ตอบโจทย์ทุกการอยู่อาศัยและการใช้ชีวิต นับเป็นการสร้างเมืองใหม่เพื่อตอบสนองการพัฒนาของภาครัฐ ในขณะเดียวกันยังเป็นเมืองต้นแบบด้านการบริหารจัดการพลังงานอย่างคุ้มค่าด้วยเทคโนโลยีด้านพลังงานทดแทน ทั้งพลังงานไฟฟ้า และพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น พร้อมสู่การเป็นย่านใจกลางธุรกิจแห่งใหม่ หรือ New CBD
ใจกลางเมืองระยอง
ด้านนายอรุช ช่างทอง กรรมการผู้จัดการ กลุ่มธุรกิจใน EEC บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แผนการพัฒนาโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ ออริจิ้น สมาร์ท ซิตี้ ระยอง (Origin Smart City Rayong) มูลค่าโครงการรวมกว่า 1 หมื่นล้านบาท ประกอบด้วย คอนโดมิเนียมที่สูงที่สุดในระยอง, คอมมูนิตี้ มอลล์, ซุปเปอร์มาร์เก็ตระดับพรีเมียม, ร้านกาแฟชั้นนำอย่าง CLASS CAFÉ, Co-Working Space, โรงแรม Holiday Inn Express ในเครือ Intercontinental Hotels Group (IHG) เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตที่ทันสมัย เป็นสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) โดยในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 จะเริ่มต้นด้วยการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยที่มาพร้อมกับ Home Automation และ Intelligence Facility จำนวนรวมถึง 1,234 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 2,300 ล้านบาท ได้แก่
1.โครงการคอนโดมิเนียม เคนซิงตัน ระยอง (Kensington Rayong) เป็นอาคาร Low-rise 8 ชั้น 4 อาคาร 697 ยูนิต มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 23.20-36.90 ตร.ม. เริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4/2563
2.โครงการคอนโดมิเนียม นอตติ้ง ฮิลล์ ระยอง (Notting Hill Rayong) เป็นอาคาร High-rise 33 ชั้น 1 อาคาร 537 ยูนิต และเป็นอาคารที่สูงที่สุดใน จ.ระยอง โครงการ มีห้องพักแบบ 1 ห้องนอนและ 1 ห้องนอนพลัส ขนาด 22.50-34.80 ตร.ม. พิเศษ! Smart Mirror สำหรับ Exclusive Room เริ่มก่อสร้างไตรมาส 4/2562 คาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาส 4/2564 ทั้ง 2 โครงการจะเปิดพรีเซลพร้อมกัน 28 ก.ย. นี้ ในราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท*
นอกจาก Facility ในอาคารที่อยู่อาศัยของตัวเองแล้ว ผู้พักอาศัยจะได้รับประโยชน์จากพื้นที่ส่วนกลางของมิกซ์ยูส ที่ประกอบไปด้วย Smart Tech, Smart Eco, Smart Community ตอบโจทย์การใช้ชีวิตยุค 5.0 อาทิ Smart Shelter สเตชั่นอัจฉริยะ ผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ผ่าน Solar Cell ติดตั้ง Smart Screen ที่สามารถเช็คสภาพจราจร เช็คอุณหภูมิ สภาพอากาศ และค่าฝุ่น PM 2.5 พร้อมจุดบริการ Bike&Scooter Sharing
ภาพห้องตัวอย่าง