ใครที่กำลังมองหาคอนโดย่านรามอินทรากันอยู่ วันนี้เรามีรีวิว ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น ( The Origin Ramintra 83 Station )  คอนโดมิเนียม Low rise ที่ชูจุดเด่นเรื่อง Facility แบบจัดเต็มรวมถึงไฮไลท์ที่น่าสนใจอย่าง Sky Running ที่เชื่อมต่อ 8 อาคารเข้าด้วยกัน ซึ่งอยู่บนชั้นดาดฟ้าของโครงการค่ะ นอกจากนี้ยังมีเรื่องทำเลที่อยู่ติดถนนใหญ่ในเส้นรามอินทรา ใกล้รถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีสินแพทย์ค่ะ

ตัวโครงการเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียมทั้งหมด 8 อาคาร สูง 8 ชั้น จำนวน 879 ยูนิต + 3 ร้านค้า ซึ่งมีแบบห้องให้เลือก 5 แบบ ตั้งแต่ 1 ห้องนอน ไปจนถึงแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 22.5-44 ตร.ม. นอกจากนี้โครงการ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น ยังมาพร้อมแปลนห้องแบบใหม่ของแบบ 1 ห้องนอน พลัสอีกด้วย ถ้าอยากรู้ว่าเป็นอย่างไรก็ตามไปดูกันต่อเลยค่ะ

The Origin Ramnintra 83 Station

( ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น )

• เจ้าของโครงการ >>> The Origin Property Public Company Limited
• ที่ตั้งโครงการ >>> ติดถนนรามอินทรา ระหว่างซอยรามอินทรา 79/1 และ 81
• ขนาดที่ดิน >>>  6-3-53 ไร่
• จำนวนอาคาร >>>  8 อาคาร
• จำนวนชั้น >>> 8 ชั้น
• ประเภทห้อง >>>
  • 1 Bedroom ขนาด 22.50 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Smart Walk in-closet ขนาด 26.00 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 26-27 ตร.ม.
  • 1 Bedroom  Plus ขนาด 30-34.50 ตร.ม.
  • 2 Bedroom ขนาด 43.50-44 ตร.ม.
• ความสูงของฝ้า >>> 2.4 ม.
• จำนวนยูนิต >>> 879 ยูนิต  + 3 ร้านค้า
  • อาคาร A  65 ห้อง
  • อาคาร B  112 ห้อง
  • อาคาร C  119 ห้อง
  • อาคาร D  119 ห้อง
  • อาคาร E  113 ห้อง
  • อาคาร F  113 ห้อง
  • อาคาร G  119 ห้อง
  • อาคาร H  119 ห้อง
• ที่จอดรถ >>> 369 คัน  ประมาณ 42% (รวมจอดซ้อนคัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  เริ่ม  1.69  ล้านบาท* ได้ห้องแบบ Fully Fitted
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรทั้งโครงการ >>> ราคาเฉลี่ย 79,900  บาท/ตารางเมตร
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> Q4/2563
• พิกัด GPS >>>  13.835562, 100.666619
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• โทร >>> 020-300-000

.

ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น ตั้งอยู่บนถนนรามอินทรา อยู่ระหว่างซอยรามอินทรา 79/1 และซอยรามอินทรา 81  ซึ่งบริเวณถนนรามอินทราจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย-มีนบุรี โดยโครงการอยู่ใกล้สถานีสินแพทย์มากที่สุด ห่างเพียง 30 เมตร เป็นระยะที่เดินได้สบายเลยนะคะ ส่วนการเข้าถึงก็มาได้จากถนนหลายเส้นสาย ทั้งถนนประดิษฐ์มนูธรรม, ถนนนวมินทร์, ถนนคู้บอน, ถนนรัชดา-รามอินทรา วิ่งเข้ามายังถนนรามอินทราเพื่อไปยังโครงการค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนี้ก็อุดมสมบูรณ์มี ร้านค้า ตลาด ศูนย์การค้า รายล้อมอยู่ รวมไปถึงโรงเรียนและสถานพยาบาล ซึ่งมีโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทราอยู่ฝั่งตรงข้ามกับโครงการค่ะ

(คลิกซูมดูแผนที่ขยายได้นะคะ)

แต่ก่อนจะเข้าไปสู่รายละเอียดในตัวคอนโด The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น  ก็ต้องเล่าคร่าวๆ ก่อนว่าคอนโดนี้จะเป็นส่วนหนึ่งในโครงการ Origin Smart City Ramintra ที่พัฒนาในรูปแบบ Mixed-use Project ซึ่งทางออริจิ้นตั้งใจจะทำพื้นที่ประมาณ 13 ไร่ ให้กลายเป็นสมาร์ทแพลทฟอร์มการใช้ชีวิตบนสังคมยุคใหม่บนทำเลย่านรามอินทรา

Origin Smart City Ramintra  นั้นพัฒนาภายใต้แนวคิด BEYOND A LIVING PLATFORM โดยใช้ 5 แกนหลักสำคัญในการต่อยอดแนวคิด นั่นก็คือ

• Smart Tech >> นวัตกรรมที่เอื้อต่อการอาศัยและการทำงาน ที่มีทั้ง Home Automation และ Intelligence Facility
• Smart Eco >> แนวคิดการบริหารจัดการพลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ‘‘ENERGY Management System’’
• Smart Community >> แหล่งรวมคอมมูนิตี้ไลฟ์สไตล์ ของเหล่า Gen Z แบบครบวงจร Live & Work & Play & Balance
• Smart Security >> เทคโนโลยีรักษาความปลอดภัย
• Smart Wellness >> แพลทฟอร์มที่ช่วยอำนวยความสะดวกในการเข้าถึง บริการด้านสุขภาพ

โดยภายในจะมีทั้ง Condominium, Office Condominium , 24 Hours Co-working Space ,Co-Cooking , Co-Dining, Community Mall, Hotel & Service Apartment ที่ใช้เชนอันดับต้นๆ ของประเทศ และสุดท้ายคือ Medical hub บริการสำหรับสายรักสุขภาพค่ะ

ภายใต้คอนเซปท์ ” BEYOND A LIVING PLATFORM ” แพลทฟอร์มการอยู่อาศัยที่นำโลกอนาคตมาอยู่ในปัจจุบัน ที่มาพร้อมพื้นที่ สำหรับทุกไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ทั้งยัง เป็น Unicorns Lifestyle HUB  แหล่งเพาะพันธุ์สตาร์ทอัพแห่งใหม่ ที่รวมตัว Gen Z ผู้มี  Passion อันแรงกล้าจากทั่วทั้งประเทศ แห่งใหม่ของกรุงเทพฯ ใจกลางย่าน ‘‘รามอินทรา’’ โลกแห่งสายพันธุ์อนาคต… กำหนดได้ที่นี่

แต่ยังไงก็ตาม  รีวิวนี้เราจะเน้นไปที่ส่วนของคอนโดมิเนียม ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น  เป็นหลักนะคะ  ตามไปดูกันเลย

การเดินทาง

การเดินทางไปโครงการ ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น สามารถมาได้หลายเส้นทาง แต่ในวันนี้เราเลือกใช้ถนนประดิษฐ์มนูธรรม วิ่งตรงมาวนลงยังถนนรามอินทรา หลังจากนั้นก็ให้ตรงมาอีกประมาณ  3.2 กม. ก็จะเจอที่ตั้งโครงการทางซ้ายมือแล้วค่ะ

ตอนนี้เราอยู่บนเส้นถนนประดิษฐ์มนูธรรมกำลังมุ่งหน้าไปรามอินทรา

วิ่งตรงมาเรื่อยๆ จะเจอกับป้ายบอกทางไปถนนวัชรพล-มีนบุรี ก็ให้เราตรงไปตามทางได้เลยค่ะ

เส้นทางจะพาเราขึ้นสะพานมาเพื่อวนลงไปยังถนนรามอินทรา

ตอนนี้เรามาอยู่บนเส้นรามอินทราฝั่งขาออกมุ่งตรงไปมีนบุรี

วิ่งตรงมาเรื่อยๆ ขึ้นสะพานข้ามแยกรามอินทรา กม. 8

เมื่อลงมาแล้วให้ชิดซ้าย

และตรงมาอีก 240 เมตร ก็ถึงที่ตั้งโครงการ ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น แล้วค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ตัวโครงการ The Origin Ramintra 83 Station ตั้งอยู่ติดถนนใหญ่รามอินทรา การเดินทางเข้าออกเมืองก็ค่อนข้างสะดวกเพราะมีจุดเชื่อมกับถนนได้หลากหลายสาย ทั้งถนนวัชรพล ถนนประดิษฐ์มนูธรรม ถนนคู้บอน ถนนนวมินทร์ และถนนรัชดา-รามอินทรา ที่สามารถเชื่อมไปประเสริฐมนูกิจได้ นอกจากนี้ยังมีทางพิเศษอย่างทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์และทางพิเศษหมายเลข 9 (วงแหวนกาญจนาภิเษก) อยู่ใกล้ๆ กับโครงการค่ะ แต่ถึงอย่างนั้นก็เป็นเส้นถนนที่รถติดพอสมควร ยิ่งช่วงเวลาเร่งรีบ ก็ควรเผื่อเวลากันสักหน่อยนะคะ

ในอนาคตบนเส้นถนนรามอินทรายังเป็นแนววิ่งของรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) ที่เป็นเส้นทางเชื่อมต่อระหว่างจังหวัดนนทบุรีมายังเขตมีนบุรี ซึ่งจะผ่านจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าหลายสายและผ่านแหล่งงานอย่างศูนย์ราชการแจ้งวัฒนะอีกด้วย สถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการเรามากที่สุดคือ สถานีสินแพทย์  รถไฟฟ้าเส้นนี้คาดว่าแล้วเสร็จในปี 64 อดใจรอกันอีกนิดนะคะ 

สิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนี้จัดได้ว่าอุดมสมบูรณ์พอสมควร มีตั้งแต่ระดับร้านค้าในชุมชน ตลาดขนาดเล็ก ขนาดใหญ่ไปจนถึงศูนย์การค้า กระจายตัวกันอยู่ โดยเส้นถนนประดิษฐ์มนูธรรมจะมี ตลาดนัดเลียบด่วน ที่เป็นตลาดขนาดใหญ่บริเวณนี้ มีร้านค้า ร้านอาหารอยู่มากมาย ให้เราไปเดินหาอะไรทานกัน  ขยับลงมาหน่อยก็จะมี ตลาดหัวมุม และ The Walk เกษตร-นวมินทร์ ค่ะ ส่วนเส้นนวมินทร์ก็จะเป็นพวก Hypermarket เป็นส่วนใหญ่ อย่าง Big C และ Tesco lotus ค่ะ

ในเส้นรามอินทราเองนั้นก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างไม่แพ้กัน ซึ่งมี Community Mall และศูนย์การค้า ที่อยู่ใกล้เรามากที่สุดจะมีทั้ง โครงการ KM 8 Place ตึกแถวอาคารพาณิชย์ที่มีร้านค้าต่างๆ อยู่ภายใน  หากเราตรงไปทางมีนบุรีก็จะเจอศูนย์การค้าในสเกลใหญ่อย่าง The Promenade, Fashion Island และ Amorini ที่เป็น Community Mall ค่ะ

ซูมมาดูใกล้ๆ ขึ้นอีกหน่อย เพื่อนบ้านรอบๆ เราก็มีทั้งที่ดินเปล่าและร้านค้าค่ะ ข้างๆ โครงการเป็นปั๊มน้ำมันซัสโก้ ส่วนตรงข้ามเป็นศูนย์มาสด้า รามอินทรา เยื้องๆ กันหน่อยเป็นที่ตั้งของโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ใกล้เรามากที่สุด เจ็บป่วยก็ไม่ต้องเดินทางไกล เลยโครงการไปก็มีร้าน KFC แบบ Drive thru หิวๆ ก็เดินมามาสั่งไก่ทอดกินกันได้ ขยับไปอีกนิดเป็นตลาด กม.9 ที่ข้างๆ มี 7-11 ตั้งอยู่ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

จากที่เราได้ดูแผนที่ของคอนโด The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น กันไปแล้ว ทีนี้เราเดินไปสำรวจบรรยากาศรอบๆ โครงการกันค่ะ

เราจะขอเริ่มจากที่ตั้งของโครงการแล้วไล่สำรวจสภาพแวดล้อมไปทางถนนประดิษฐ์มนูธรรมกันก่อน

ตั้งต้นกันที่หน้าโครงการติดกับทางเข้าทางขวามือ จะมีอาคารพาณิชย์ขายยางรถยนต์และอะไหล่ สูง 2-3 ชั้นตั้งอยู่

ฝั่งตรงกันข้ามเป็นศูนย์มาสด้า รามอินทรา

ขยับมาไม่ไกลจากโครงการมากนักก็มีปั๊มน้ำมันซัสโก้ เราสามารถแวะเติมน้ำมันกันก่อนเข้าโครงการกันได้

บริเวณสามแยกคู้บอนก็มี KM 8 Place ที่เป็นอาคารพาณิชย์ ที่รวมร้านค้า ร้านอาหารพร้อมที่จอดรถอยู่ภายใน

ตรงมาเรื่อยๆ บริเวณหน้าปากซอยรามอินทรา 40 ก็จะเจอกับโรงเรียนสายอักษรค่ะ

คราวนี้เรามาไล่ดูสภาพแวดล้อมจากหน้าโครงการไปทางมีนบุรีกันบ้าง

เริ่มจากเพื่อนบ้านที่ติดกับเราเลยเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 ชั้น

ฝั่งตรงข้ามเป็นโรงพยาบาลสินแพทย์ รามอินทรา เราสามารถใช้สะพานลอยข้ามถนนไปยังโรงพยาบาลได้นะคะ

ตรงข้ามกันบริเวณนี้จะมี KFC Drive-thru สาขานวมินทร์ตั้งอยู่

ตรงมาอีกนิดก็จะมีตลาด กม.9 ที่เป็นตลาดสดใกล้ๆ กับเรา

ติดกันเลยบริเวณนี้ก็มี 7-11 หิวตอนดึกๆ ก็แวะมาซื้ออาหารทานได้

ตรงมาเรื่อยๆ ลอดใต้ทางด่วนกาญจนาภิเษกมาก็จะเจอกับ The Promenade

และศูนย์การค้า Fashion Island ค่ะ

บริเวณใกล้แยกสวนสยามยังมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตั้งอยู่

เยื้องๆ ฝั่งตรงกันข้ามกันมี Community Mall ของ Amorini  ที่ภายในมีร้านอาหาร ร้านค้าและซุปเปอร์มาร์เก็ต Tops

เรามาต่อกันที่เส้นนวมินทร์กันบ้าง โดยจะเริ่มสำรวจกันตั้งแต่เลี้ยวเข้ามาจากถนนรามอินทรา

เส้นนี้จะมีไปรษณีย์ไทย สาขาจรเข้บัวตั้งอยู่

ถัดมามีโรงพยาบาล พญาไท นวมินทร์ เป็นอาคารสูงเห็นมาแต่ไกล

ติดๆ กันมี Tesco Lotus สุขาภิบาล 1 ตั้งอยู่ ซึ่งภายในยังเป็นที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ Tesco Lotus อีกด้วย

ฝั่งตรงข้ามโลตัสเป็น ไทวัสดุ นวมินทร์ ที่นี่ก็ค่อนข้างใหญ่

และเส้นสุดท้ายที่เราจะพามาชมกัน คือ เส้นประดิษฐ์มนูธรรม

เริ่มกันที่ตลาดนัดเลียบด่วน ย่านนี้รู้จักกันดีอยู่แล้ว มีร้านอาคาร ร้านค้าอยู่ในนี้มากมาย

ตรงลงมายังเรื่อยๆ จะเจอกับ The Walk เกษตร-นวมินทร์

และตลาดหัวมุมที่เป็นตลาดขนาดใหญ่อีกแห่ง  ลักษณะคล้ายกับตลาดนัดเลียบด่วนเลย

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ

หลังจากไปเดินสำรวจทำเลกันมาแล้ว กลับมาที่สำนักงานขายกันต่อ

โดยสำนักงานขายตั้งอยู่ที่เดียวกับโครงการ ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่นเลยค่ะ

ตัวอาคารสำนักงานขายดีไซน์ออกมาดูโมเดิร์น แปลกใหม่ ไม่เหมือนใครดี แต่แอบคล้ายเปียโนหน่อยๆ นะคะ

ใครที่ขับรถมาเอง ที่นี่ก็มีพื้นที่จอดรถอยู่ด้านใน ไม่ต้องไปหาที่จอดให้ปวดหัว

เดินเข้ามาภายในสำนักงานขายจะพบกับโถงต้อนรับกว้างขวาง แต่งเป็นโทนสีดำแดงตัดกันแบบเข้มๆ ใช้สีขาวของฝ้าเพดานและเฟอร์นิเจอร์เข้ามาตกแต่งเพิ่ม

พื้นที่ส่วนนี้จะจัดโชว์โมเดลและเป็นพื้นที่รับรองลูกค้า ซึ่งมีชุดโซฟารับรองอยู่หลายจุดเลยทีเดียวค่ะ

ใครที่อยากได้ความเป็นส่วนตัวก็มีห้องรับรองแยกออกมาให้

เข้ามาด้านในจะเป็นโถงทางเดินที่เชื่อมต่อกับไปยังห้องตัวอย่างต่างๆ ซึ่งทางเดินมีการตกแต่งโดยใช้สีและเส้นสายที่ตัดกันทำให้พลางสายตาดูเป็นทางเดินที่ยาวมากๆ

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวคอนโด The Origin Ramintra 83 Station ตั้งอยู่ติดถนนรามอินทรา สามารถเข้าออกได้เพียงทางเดียว ซึ่งที่ดินของอาคารจะมีลักษณะเหมือนตัว L วางตัวลึกเข้าไป เพื่อนบ้านข้างเคียงของเราก็จะมีอาคารพาณิชย์ต่างๆ สูง 2- 5 ชั้น และที่ดินเปล่า ห้องส่วนใหญ่จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ และทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่ะ ที่ดินเปล่าด้านที่อยู่ทางทิศตะวันออกจะเป็นพื้นที่ของทางออริจิ้นที่คาดว่าในอนาคตจะพัฒนาต่อเป็นโครงการ ออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ รามอินทรา แต่อย่างไรก็รอคอนเฟิร์มกันอีกครั้งว่าจะสร้างเป็นอะไรนะคะ

เรื่องทิศทางของแสงแดด ถ้าเลือกห้องอาคาร A และ B จะได้ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้และตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนอาคารที่เหลือจะมีห้องหันหน้าไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงเหนือค่ะ  พื้นที่โดยรอบยังไม่มีอาคารสูงมาบังนะคะ

ส่องโมเดล

ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น  ประกอบไปด้วย 8 อาคาร สูง 8 ชั้น เลือกใช้โทนสีเทาตัดกับสีแดง สร้างความโดดเด่นให้แตกต่างจากสีของตึกอื่นบริเวณนี้ค่ะ  ความเก๋คือ บนชั้นดาดฟ้าของทุกตึกจะเป็นพื้นที่ส่วนกลางที่มีทางเชื่อมถึงกัน ทำให้สามารถเดินไปยังจุดต่างๆ ได้ง่ายมากขึ้น

ตำแหน่งด้านหน้าโครงการจะเป็นที่ตั้งของอาคาร A และอาคาร B

ซึ่งอาคาร A จะมีรูปแบบการดีไซน์ที่แตกต่างจากตึกอื่นๆ เนื่องจากมีการวางแปลนพื้นที่ Facilities อยู่ที่ตึกนี้เกือบทั้งหมด โดยจะวางอยู่ในฝั่งหนึ่งของอาคาร A ที่มีรูปร่างเหมือนเอาบล็อคสี่เหลี่ยมมาซ้อนทับสลับกัน บิดไปมา พร้อมทั้งยังทำโถงกระจกสูง เพื่อสร้างบรรยากาศน่าใช้งานในพื้นที่ส่วนกลางอีกด้วยค่ะ ส่วนในชั้น 7-8 ของอาคารจะเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำและฟิตเนส

ถ่ายจากมุมสูงเจาะเข้าไปยังพื้นที่ตรงกลางด้านในระหว่างอาคาร ซึ่งพื้นที่ระหว่างอาคาร C และ H จะเป็นพื้นที่จอดรถ

ถัดเข้าไปด้านในตรงกลางบริเวณนี้จะเป็นพื้นที่สีเขียวภายในโครงการ

ส่วนพื้นที่ด้านหลังโครงการระหว่างอาคาร E และ F เป็นส่วนของที่จอดรถค่ะ

นอกจากนี้ทางโครงการยังทำ Sky bridge เชื่อมต่อระหว่างพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร E และ F บริเวณชั้น 8 อีกด้วย เพื่อความสะดวกในการใช้งานพื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลาง

มาดูพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ แบบเจาะลึกกันต่อดีกว่านะคะ ว่าอะไรอยู่บริเวณไหนแล้วมีฟังก์ชั่นอะไรน่าสนใจบ้าง โดยขอเริ่มกันที่ตึก A กันก่อน ซึ่งบริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ Lobby ต้อนรับ ที่มีทั้ง Self storage, Smart locker, Sharing service และ Laundry service

ส่วนชั้น 2-3 จะเป็นพื้นที่ Co-living space และ Co-working space ให้เราสามารถนัดเพื่อนมาพบปะพูดคุยกันหรือเปลี่ยนบรรยากาศมาทำงานที่นี่ นอกจากนี้ยังมีบริการส่วนของ Office supply และ Vending machine อยู่ในพื้นที่เดียวกันอีกด้วย  ภาพรวมของส่วนกลางในโครงการจะออกแบบมาในแนวโมเดิร์นเรียบๆ คุมโทนสีหลักเป็น ขาว ดำ ครีม และมีการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีสีสันมาตกแต่งเพิ่มเติมให้สเปซดูสนุกสนานมากยิ่งขึ้นค่ะ

ขยับขึ้นมาชั้น 4 จะเป็นส่วนของ Co-passion room และ Meeting room โดยสเปซตรงนี้ดีไซน์เป็นสเต็ปขั้นบันไดเอาไว้ให้นั่งเล่นนอนเล่นเอกเขนกกันได้  Mood & Tone ดูเป็นสเปซที่มีความสนุกสนานดีทีเดียว

ชั้น 5-6 จะเป็นพื้นที่ Activity แบบชิลล์ๆ ที่มีทั้ง Co-kitchen, Co-dining space และ Private dining room ให้เราสามารถนัดเพื่อนมาทำอาหารหรือจัดปาร์ตี้ในส่วนนี้กัน

ส่วนพื้นที่ชั้น 7-8 ทั้งหมดของตึกจะเป็นของ Fitness และ Swimming pool ที่สามารถมองเห็นวิวฝั่งถนนรามอินทราได้  สเปซภายในใช้สีแดงทำให้ดู Active มากทีเดียว

ในส่วนของสระว่ายน้ำจะเป็นแนวยาวที่สามารถว่ายสโตรคออกกำลังกายแบบจริงจังได้ค่ะ

ในตึก E ชั้น 7-8 ทางโครงการก็ออกแบบให้เป็น Library room สูง 2 ชั้น ที่ภายในมีทั้งส่วนที่สามารถจับกลุ่มติวหนังสือไปจนถึงมุมเล็กๆ ส่วนตัวสำหรับใครที่ต้องการความสงบ

ตึก F ในชั้นเดียวกัน พื้นที่ส่วนนี้จัดให้เป็น Entertainment ที่รวมเอา Game room และ Theater room มาไว้ด้วยกันค่ะ

ซึ่ง 2 ตึกนี้จะมีทาง Sky Bridge เชื่อมเข้าหากัน เบื่อๆ ไม่อยากอ่านหนังสือแล้วก็สามารถเดินเชื่อมไปยัง Game room ได้เลย (จะได้ทำงานไหมเนี้ย 555)

ชั้นดาดฟ้าของตึกทางโครงการออกแบบให้เป็น Sky running ที่เชื่อม 8 ตึกเข้าด้วยกัน มีความยาวประมาณ 400 เมตร เท่ากับเราวิ่งรอบสนามฟุตบอล 1 รอบเลยทีเดียวค่ะ หากใครต้องการใช้ Facility ในอาคาร A เราก็สามารถใช้ทางเชื่อมนี้ไปลงยังตึก A ได้นะคะ

สวนของโครงการจะถูกจัดให้อยู่บริเวณตรงกลางระหว่างตึก ซึ่งมีการออกแบบเป็นสวนเล่นระดับและมีจุดให้นั่งพักผ่อนหลายที่

นอกจากเรื่อง Facilities แล้วในโครงการยังมี Service Excellence ที่ทางโครงการจัดมาบริการให้ไม่ว่าจะเป็น Hotel service on demand , Facility Booking บริการจองพื้นที่ส่วนกลาง ผ่าน Mobile Application, Super Maintenance Service บริการเรียกช่างเทคนิค ช่างซ่อมต่างๆ, Dine in Service บริการ SNACK และเครื่องดื่มผ่าน Machine ภายในโครงการ และ Smart Bill Pay บริการส่งบิลออนไลน์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่าน Mobile Application

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

Master Plan คอนโด The Origin Ramintra 83 Station

ผังรวมของโครงการจะขอเล่าถึงเส้นทางการเดินรถกันก่อน ดูได้จากลูกศรสีแดงและสีฟ้า โดยเส้นทางเดินรถเป็นไปตามเข็มของนาฬิกา สามารถวนรอบตัวโครงการได้ ทำให้ทางไม่ตัดกัน สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 369 คัน หรือคิดเป็น 42%  แบบรวมจอดซ้อนคันค่ะ

การวางแปลนของอาคาร ทางโครงการจะวางให้ตึก A และ B อยู่ด้านหน้าโครงการ และหันหน้าไปทางถนนรามอินทรา ใครที่ใช้ Facility บ่อยๆ ก็เป็นตัวเลือกที่ดีแต่ก็แลกมาด้วยความเป็นส่วนตัวที่น้อยลง  ส่วนอาคาร C,D,E,F,G และ H จะวางตัวขนานกันค่ะ

จากนั้นเรามาดูกันทีละอาคารนะคะ

The Origin Ramintra 83 Station
Building A

Floor Plan ชั้น 2-6  

จะเป็นชั้นพักอาศัยที่แบ่งพื้นที่ทางด้านขวาเป็นส่วนของ Facility โดยมีประตูกั้นแยกโซนมาให้ ยูนิตในอาคาร A จึงมีเพียง 65 ยูนิตเท่านั้น พร้อมทั้งไม่มีห้องแบบ 2 ห้องนอนให้เลือกนะคะ 

Floor Plan ชั้น 7-8 

ชั้น 7-8 ของอาคารจะเป็น ส่วนของ Fitness และ Swimming Pool ให้เราไปเลือกว่าอยากจะออกกำลังกายประเภทไหน 

ใครที่ออกกำลังกายใน Fitness ก็จะได้วิวเมืองและวิวสระว่ายน้ำที่อยู่ติดกันไปในตัวอีกด้วยนะคะ

The Origin Ramintra 83 Station
Building B

Floor Plan ชั้น 2-8  

เป็นชั้นพักอาศัยของอาคาร B ซึ่งรูปร่างของอาคาร B จะเป็นตัว L ทำให้มีห้องหันหน้าไปหลายทิศมากกว่าอาคารอื่นๆ มีทั้งทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือ, ทิศตะวันออกเฉียงใต้และทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งห้องแบบ 2 ห้องนอนในอาคารนี้จะได้ห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ได้วิวส่วนกลางของโครงการ ส่วนการวางตำแหน่งของลิฟต์ก็อยู่ตรงกลางอาคาร ทำให้แต่ละห้องไม่ต้องเดินไกลจนเกินไป

The Origin Ramintra 83 Station
Building C

Floor Plan ชั้น 2-8  

แปลนของอาคาร C จะมีลักษณะเป็นสีเหลี่ยมพื้นผ้า วางห้องนอนขนาดเล็กหันออกไปด้านนอกเป็นส่วนใหญ่  ปลายทางเดินทั้ง 2 ข้างของอาคารจะมีช่องแสงและหน้าต่างระบายอากาศมาให้ เพื่อช่วยให้มีแสงเข้าถึงภายในอาคารและสามารถเปิดหน้าต่างให้มีอากาศหมุนเวียนได้มากขึ้นค่ะ

The Origin Ramintra 83 Station
Building D

Floor Plan ชั้น 2-8  

ลักษณะของแปลนอาคาร D เหมือนกับแปลนอาคาร C เพียงแต่กลับด้านกันเท่านั้น มี 17 ยูนิตต่อชั้น โดยแบบ 1 ห้องนอนพลัสมี 2 ยูนิต่อชั้นและจะหันหน้าเข้าคอร์ทกลาง

The Origin Ramintra 83 Station
Building E

Floor Plan ชั้น 2-6  

เป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด มีการวางแปลนของ 2 ห้องนอนให้อยู่ในตำแหน่งริมสุดทางเดินติดกับบันไดหนีไฟทางซ้ายมือค่ะ 

Floor Plan ชั้น 7-8 

ส่วนในชั้น 7-8 ของอาคารนี้ก็ยังเป็นพื้นที่พักอาศัยแต่มีการแบ่งพื้นที่บางส่วนออกมาทำเป็น Facility โดยทางโครงการติดตั้งประตูกั้นแยกโซนเอาไว้ให้เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับลูกบ้านในชั้นนี้

The Origin Ramintra 83 Station
Building F

Floor Plan ชั้น 2-6 

ชั้น 2-6 เป็นชั้นพักอาศัยเช่นเดียวกัน มีทางบันไดหนีไฟ 2 จุด ซ้ายขวา เพื่อความปลอดภัยค่ะ ส่วนยูนิตแต่ละชั้นมี 17 ยูนิต ห้องนอนขนาดเล็กส่วนใหญ่จะได้ห้องหันหน้าออกนอกโครงการ  

Floor Plan ชั้น 7-8 

การวางแปลนมีลักษณะคล้ายกันเพียงแต่สลับด้าน เพื่อให้ทางโครงการสามารถทำทางเดิน Sky Bridge เชื่อมเข้าหากันได้ระหว่าง Facility ในอาคาร E และ F

The Origin Ramintra 83 Station
Building G

Floor Plan ชั้น 2-8  

อาคาร G ชั้น 2-8 เป็นชั้นพักอาศัยที่ทำแปลนเป็นแบบ Typical Floor Plan ค่ะ มีลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ต่อ 1 อาคาร

The Origin Ramintra 83 Station
Building H

Floor Plan ชั้น 2-8  

มาถึงแปลนของอาคารสุดท้ายในโครงการกันแล้ว อาคาร H จะมีจำนวน 119 ยูนิต แต่ละชั้นจะมีจำนวน 17 ยูนิต โดยมีบันไดหนีไฟ 2 จุด ซ้ายขวา ห้องขยะจะอยู่บริเวณโถงลิฟต์ทำให้ไม่มีปัญหาเรื่องกลิ่นของขยะเข้ามารบกวนภายในห้องค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

ห้องของคอนโด The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น มีทั้งหมด 879 ยูนิต มีทั้งแบบ

• 1 ห้องนอน ขนาด 22.5 ตร.ม
• 1 ห้องนอน Smart Walk-in closet 26.00 ตร.ม.
• 1 ห้องนอน ขนาด 26-27 ตร.ม
• 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 30-34.50 ตร.ม
• 2 ห้องนอน ขนาด 43.5-44 ตร.ม

โดยแบบ 1 ห้องนอนจะมีแยกออกมาเป็นแบบมีและไม่มี Smart Walk-in closet ค่ะ ชอบแบบไหน ฟังก์ชั่นไหนที่เข้ากับไลฟ์สไตล์เราก็สามารถเลือกได้ตามใจชอบเลยค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.5  ตารางเมตร

สำหรับห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.5 ตารางเมตร เป็นแบบเล็กสุดของโครงการ  สำหรับคนที่อาจจะมีงบประมาณไม่มากนักค่ะ ทางโครงการได้ออกแบบแปลนห้องให้ส่วนด้านหน้าเป็น Service Area เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับห้องครัวและห้องน้ำที่แยกส่วนแห้ง เปียกเอาไว้ให้ พื้นที่ Service Area จะถูกแบ่งออกจากห้องนอน มีประตูกระจกบานเลื่อนกันแยกโซนเพื่อป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์เข้าไปภายในห้องนอนค่ะ ห้องนอนจะอยู่ทางด้านในสุดติดกับระเบียงและหน้าต่าง ทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติได้ดี ส่งผลต่อเรื่องความปลอดโปร่งของห้องด้วย  เพราะก็ต้องยอมรับว่าขนาดพื้นที่นั้นไม่ใหญ่นัก

พื้นที่ภายในห้องนอนแบ่งออกเป็นพื้นที่สำหรับวางเตียงขนาด 5 ฟุต และยังสามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่งได้สบายๆ ส่วนข้างๆ เตียงนอนใกล้หน้าต่างทางโครงการทำพื้นที่เว้าออกไป ตรงนี้สามารถวาง Daybed หรือโต๊ะทำงานได้อีก 1 ตัวค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26-27 ตารางเมตร

สำหรับแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตารางเมตร ซึ่งภายในได้เครื่องปรับอากาศ แบรนด์ Daikin, Home Automation, Digital Door Lock,  ตู้เก็บรองเท้า,  เคาน์เตอร์ครัว, ชั้นวางทีวี, เตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าค่ะ   เปิดเข้าห้องมาจะพบกับส่วนของห้องรับแขกเชื่อมต่อกับพื้นที่รับประทานอาหาร ตรงพื้นที่ห้องรับแขกสามารถวางโซฟาขนาด 2-3 ที่นั่งได้พอดี ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งได้ ถัดเข้าไปเป็นส่วนของห้องนอน แบ่งพื้นที่โดยใช้ประตูกระจกบานเลื่อนเป็นฉากกั้น เพิ่มความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนให้กับห้องได้ดี พื้นที่ห้องนอนสามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้พร้อมกับตู้เสื้อผ้าอีก 1 หลัง

ทางด้านห้องครัวและห้องน้ำจะโดนผลักไปไว้อีกฝั่งของห้อง โดยห้องครัวจะอยู่ติดกับระเบียงมีประตูบานเลื่อนเปิด-ปิด สามารถระบายกลิ่นอาหารได้ดี ส่วนห้องน้ำทางโครงการได้แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้วค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตารางเมตร แบบมี Smart Walk-in closet 

ต่อกันที่แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตารางเมตรแบบ Smart Walk-in closet เป็นห้องที่ทางออริจิ้นออกแบบมาเป็นพิเศษให้มีพื้นที่เก็บของขนาดใหญ่มาไว้ในห้องค่ะ  เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับห้องครัวแบบปิด ถัดเข้ามาจะเป็นพื้นที่ห้องรับแขกและห้องนอนเชื่อมต่อกันเป็นสเปซขนาดใหญ่ กว้างและโล่งมากทีเดียว ตรงพื้นที่ส่วนนี้สามารถวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งพร้อมกับเตียงนอนขนาด 5 ฟุต ได้สบายๆ ปลายเตียงจะมีทางเชื่อมไปยัง Smart Walk-in closet ที่มีความยาวเกือบตลอดช่วงของห้อง  ซึ่งห้องแบบนี้เหมาะกับคนที่มีสมบัติเยอะ เสื้อผ้าเยอะ  ต้องการพื้นที่เก็บของมากๆ ค่ะ  ส่วนด้านในสุดของ Smart Walk-in closet จะเป็นห้องน้ำ ซึ่งเป็นข้อจำกัดหน่อยเพราะหากมีเพื่อนมาห้องแล้วต้องการใช้ห้องน้ำก็จะต้องเดินผ่าน Walk in-closet เข้าไปอีกที

แปลนห้องคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 30-34.50 ตารางเมตร

ห้องต่อมาเป็น 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.50 ตารางเมตร ซึ่งเป็นห้องดีไซน์ใหม่จากออริจิ้น โดยความพิเศษของห้องนี้จะอยู่ที่พื้นที่ระหว่างห้องนอนและห้องอเนกประสงค์สามารถเปิดประตูบานเลื่อนขยายพื้นที่เข้าหากันได้ เกิดเป็นสเปซขนาดใหญ่ และมีความยืดหยุ่นในการใช้งาน หากใครไม่ต้องการใช้ห้องอเนกประสงค์ก็สามารถแปลงมาเพิ่มเป็นพื้นที่ภายในห้องนอนได้ หรือจะทำเป็น Walk-in Closet ส่วนตัวก็ยังได้ค่ะ

ส่วนทางด้านห้องรับแขกจะอยู่ตรงประตูทางเข้า สามารถวางโซฟา ขนาด 2-3 ที่นั่งได้ พร้อมกับวางโต๊ะรับประทานอาหาร ขนาด 1-2 ที่นั่งได้อีก 1 ชุด แต่ในห้องแบบใหม่นี้จะได้ห้องครัวที่มีขนาดเล็กกว่าห้อง Type อื่นๆ อยู่เล็กน้อยทั้งยังเป็นห้องครัวแบบเปิดอีกด้วยนะคะ น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบรับประทานอาหารนอกบ้านหรือทำอาหารนิดหน่อยเท่านั้น  ไม่งั้นกลิ่นจะเข้ามารบกวนในห้อง ถ้าจะกั้นห้องครัวแยกก็จะดูอึดอัดไป  ส่วนห้องน้ำก็แยกส่วนแห้งและส่วนเปียกตามมาตรฐานโครงการค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43.50-44 ตารางเมตร

และก็มาถึงแบบห้องขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการ The Origin Ramintra 83 Station คือ ห้องแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 43.5 ตารางเมตร เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับสเปซขนาดใหญ่ที่เชื่อมต่อพื้นที่ 3 ส่วนเข้าด้วยกันอย่าง ห้องครัว, พื้นที่รับประทานอาหาร และห้องรับแขก โดยจะได้ครัวเข้ามุมรูปตัว L ขนาดใหญ่ เป็นครัวแบบเปิดค่ะ

ส่วนพื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ตรงกลางแปลนติดกับระเบียง สามารถวางโซฟาขนาด 2 ที่นั่ง พร้อมกับโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2 ที่นั่งอีก 1 ชุด ห้องนอนของแบบแปลนนี้จะแยกออกจากกัน โดยจัดวางห้องนอนใหญ่อยู่ฝั่งซ้ายมือ สามารถวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต ได้สบายๆ พร้อมกับห้องน้ำภายในตัว ส่วนอีกห้องนอนนึงจะอยู่ทางด้านขวามือของห้อง สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าอีก 1 หลัง แต่ต้องใช้ห้องน้ำที่อยู่ติดกันเป็นแบบ Double Access ร่วมกับด้านนอกค่ะ

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างที่เรานำมาให้ดูมีทั้งหมด 4 ห้อง คือแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตร.ม., 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตร.ม. แบบ Smart Walk-in closet และ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.50 ตร.ม. ค่ะ ความสูงฝ้าของห้องโดยทั่วไปอยู่ที่ 2.4 เมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted ชุดครัว ชุดสุขภัณฑ์ ชั้นวางทีวี ฐานเตียงนอน 5 ฟุต เครื่องปรับอากาศ Daikin ตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บรองเท้าค่ะ ในแบบ 1 ห้องนอนที่มี Smart Walk- in closet ก็ทำ wireless charger มาให้บริเวณโต๊ะข้างเตียง ตู้เสื้อผ้า Smart Walk-in closet พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งและ Beauty Mirror ส่วนแบบ 1 ห้องนอนพลัส และ 2 ห้องนอน จะได้ Smart mirror ในห้องน้ำอีกด้วย

นอกจากนี้ยังมีระบบ Home automation  มาช่วยอำนวยความสะดวกให้เราใช้ชีวิตในคอนโดได้ง่ายมากยิ่งขึ้น โดยตัว app จะสามารถสั่งการอุปกรณ์ต่างๆได้ ทั้ง Digital door lock ไฟ แอร์ภายในห้องและ Smart mirror ภายในห้องน้ำค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน 22.5 ตร.ม.

ส่วนแรกของห้องเป็นพื้นที่ของฟังก์ชั่น Service ที่มีทั้งโซนครัวและห้องน้ำอยู่บริเวณนี้ ถัดเข้าไปด้านในเป็นสเปซของห้องนอนที่มีประตูบานเลื่อนมากั้นแยกโซนมาให้

ซึ่งแพนทรี่ครัวจะจัดวางไว้ชิดผนังห้อง สามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ใต้เคาน์เตอร์ได้นะคะ ขวาสุดเป็นที่วางตู้เย็น

ฝั่งตรงข้ามกับเคาน์เตอร์ครัวทางโครงการก็ Built-in ชั้นวางรองเท้ามาให้ สามารถใส่ได้หลายคู่เลยทีเดียว

มาส่องห้องน้ำกันหน่อยนะคะ ภายในจะแยกโซนเปียก โซนแห้งเอาไว้ ชุดสุขภัณฑ์จะเป็นของ American standard

พื้นที่ส่วนอาบน้ำมีขนาดกว้างพอสมควร มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ด้วยนะคะ

เดินเข้าไปด้านในจะเห็นได้ว่าพื้นที่วางเตียงกับพื้นที่นั่งเล่นรวมอยู่ในสเปซเดียวกัน ตำแหน่งวางเตียงจะอยู่ใกล้กับหน้าต่างทำให้เราสามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้อย่างเต็มที่

พื้นที่ปลายเตียงมีขนาดกว้างพอสมควร สามารถเดินผ่านไปมาได้ แต่ขอแนะนำถ้าหากต้องการวางเก้าอี้ก็ควรเลือกซื้อขนาดไม่ใหญ่มาก เพื่อทำให้ห้องดูโปร่งและไม่กินพื้นที่ทางเดินไปค่ะ

ซึ่งพื้นที่บริเวณนี้ทางโครงการได้ Built-in ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางทีวีมาให้เรียบร้อย

ด้านข้างเตียง ทางโครงการออกแบบให้เป็นพื้นที่เว้าออกไป เราสามารถวาง Daybed หรือ โต๊ะทำงานเล็กๆ ได้นะคะ

ส่วนระเบียงห้องนอนมีขนาดไม่กว้างมาก  แค่พอตากผ้าได้

ห้องตัวอย่างคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตร.ม. 

เปิดประตูเข้ามาจะพบกับพื้นที่ของห้องนั่งเล่น ที่สามารถวางโซฟา 2 ได้สบาย และยังมีมุมสำหรับวางโต๊ะรับประทานอาหารแบบ 2 ที่นั่งอีกด้วย

พื้นที่ทางขวามือติดกับประตูทางเข้าจะเป็นตู้สำหรับเก็บของ เก็บเท้าและชั้นวางทีวี ที่ทางโครงการ Built-in มาให้ค่ะ

เดินเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ของห้องนอน สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตและตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งพื้นที่ของห้องนอนนั้นจะมีประตูบานเลื่อนมากั้นแยกโซนเพื่อความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนมากยิ่งขึ้น

เราลองเดินมาส่องพื้นที่ข้างเตียงติดกับกระจกสักหน่อย จะเห็นได้ว่ายังเหลือสเปซอยู่พอสมควรสามารถเดินเข้าออกได้

ทางเดินเชื่อมไปยังห้องครัวและห้องน้ำ จะมีพื้นที่เล็กๆ ที่เราสามารถออกแบบเป็นโต๊ะเครื่องแป้งหรือทำเป็นมุมโชว์โมเดลของหนุ่มๆ ก็ได้เช่นกันค่ะ

ห้องน้ำทางโครงการจะใช้โทนสีขาวทั้งหมด ทำให้ห้องดูกว้าง มีการแยกโซนเปียก โซนแห้งเอาไว้ให้เรียบร้อย

ส่วนพื้นที่ครัวของห้อง Type นี้จะได้เป็นครัวแบบปิดและอยู่ตำแหน่งติดระเบียง เหมาะกับคนชอบทำอาหารเพราะสามารถเปิดระบายกลิ่นออกไปทางระเบียงได้

เดินมาดูพื้นที่ระเบียงกันหน่อย ซึ่งพื้นที่ตรงนี้จะมีขนาดใหญ่กว่าแบบห้องขนาด 22.50 ตร.ม. ขึ้นมาเล็กน้อยเท่านั้น

ห้องตัวอย่างคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 26 ตร.ม. แบบมี Smart Walk-in closet 

มาต่อกันที่แบบ 1 ห้องแบบมี Smart walk in-closet ซึ่งจัดฟังก์ชั่นใช้งานที่เป็นห้องครัวแบบปิดให้อยู่ในโซนแรก

โดยจุดนี้ทางโครงการติดตั้งมาให้ทั้งเคาน์เตอร์ครัว ชุดครัวต่างๆ และชั้นวางของที่มีช่องเก็บของให้พอสมควร

ฝั่งตรงข้ามกันก็มีตู้เก็บของและตู้เก็บรองเท้ามาให้

ด้านในห้องจะรวมฟังก์ชั่นพื้นที่นั่งเล่นและส่วนของที่นอนพักผ่อนอยู่ในสเปซเดียวกัน แต่ห้องก็ยังดูกว้างและไม่อึดอัด

พื้นที่นั่งเล่นสามารถวางโซฟาขนาดใหญ่แบบ 2-3 ที่นั่งได้

แล้วยังเหลือพื้นที่ไว้สำหรับวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้

โดยโต๊ะตัวนี้มีความพิเศษตรงที่ทางโครงการได้ติดตั้ง Wireless changer มาให้เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้งานและหากสังเกตดีๆ อีกจุดหนึ่งตรงปลั๊กไฟข้างหัวเตียง ทางโครงการจะให้ USB Outlet มาด้วยนะคะ

พื้นที่ปลายเตียงถูกออกแบบให้เป็นทางเข้าไปยัง Smart walk in-closet

ฟังก์ชั่นนี้จัดได้ว่าเป็นจุดขายของห้องนี้และยังเหมาะกับคนที่ต้องการพื้นที่เก็บของเยอะ อยากได้ที่เก็บของที่มีความเป็นสัดส่วนระเบียบเรียบร้อย

ซึ่งเราจะได้ตู้เป็นลักษณะแบบนี้เลยค่ะ มีช่องเก็บของให้เลือกใช้หลากหลายขนาด พร้อมทั้งมีโต๊ะเครื่องแป้งที่ทางโครงการติดตั้งกระจกเงา Beauty Mirror มาให้ด้วย ทำให้สาวๆ ไม่ต้องกลัวแสงไม่พอเวลาแต่งหน้า

ห้องน้ำจะอยู่ด้านในสุดของ Smart walk in-closet ทำให้เวลามีเพื่อนมาเยี่ยมแล้วต้องการเข้าห้องน้ำจะต้องเดินผ่าน Walk in-closet เข้าไปค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Origin Ramintra 83 Station

แบบ 1 ห้องนอน พลัส ขนาด 34.50 ตร.ม. 

ห้องสุดท้ายที่เราจะพามาชมกันเป็นแปลนห้องแบบใหม่ของออริจิ้นเป็นแปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน พลัส โดยจะได้ห้องแบบหน้ากว้าง ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูโปร่งโล่ง พร้อมทั้งมีฟังก์ชั่น Flexible สามารถรวมพื้นที่ภายในห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ให้เป็นพื้นที่เดียวกันได้ด้วยประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่าง 2 ห้อง

เมื่อเปิดเข้ามาจะพบกับพื้นที่โซนห้องนั่งเล่นที่สามารถวางโซฟาและชุดโต๊ะรับประทานอาหารได้ 2 ที่นั่งค่ะ

พื้นที่ห้องนอนมีขนาดค่อนข้างกว้าง ได้กระจกบานใหญ่สามารถมองเห็นวิวได้มากขึ้น

ห้องตัวอย่างจะวางเตียงขนาด 5 ฟุตเอาไว้ แต่จริงๆ ดูจากพื้นที่ที่เหลือรอบด้านถ้าใครชอบนอนเตียงใหญ่ๆ ก็สามารถวางเตียงขนาด 6 ฟุตได้นะคะ

ประตูบานเลื่อนที่กั้นระหว่างห้องนอนกับห้องอเนกประสงค์

ห้องอเนกประสงค์จะได้ตำแหน่งติดกับระเบียงค่ะ เราสามารถดีไซน์พื้นที่ส่วนนี้เป็นห้องทำงานหรือสร้างเป็นพื้นที่  Walk in-closet เพิ่มเติมเองได้เช่นกัน

ระเบียงที่อยู่ติดกับห้องอเนกประสงค์

ห้องครัวของห้องที่นี่จะได้เป็นแบบเปิด สามารถเดินตรงมาจากห้องอเนกประสงค์และห้องนั่งเล่นได้ค่ะ

พื้นครัวจะปูด้วยไม้ลามิเนตเหมือนกับพื้นห้องทั่วไปค่ะ เคาน์เตอร์ครัวจะได้ทั้งชุดครัวและชั้นเก็บของ มีช่องสำหรับใส่เครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

ภายในห้องน้ำในแบบ 1 ห้องนอน พลัส จะได้ Smart mirror มาด้วย

พร้อมทั้งติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้ เพื่อแยกส่วนเปียก ส่วนแห้ง

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของคอนโด The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น ห้องที่ได้เป็นแบบ Fully Fitted นะคะ คือได้เคาน์เตอร์ครัว ชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำ  American standard หรือเทียบเท่า ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in และเครื่องปรับอากาศ  ตัวห้องจะได้พื้นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ส่วนพื้นตรงห้องครัวจะเป็นแกรนิตโต้ ผนังฉาบเรียบทาสี และฝ้าฉาบเรียบสีขาว นอกจากนี้ในแบบ 1 ห้องนอน ที่มี  Smat walk in-closet จะได้ wireless charger บริเวณโต๊ะข้างเตียง ส่วนแบบ 1 ห้องนอนพลัสและ 2 ห้องนอนจะได้ smart mirror ภายในห้องน้ำค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (Pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Materials)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคย

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (Pantry)

เคาน์เตอร์ครัวที่มาพร้อมชั้นวางของและช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าแบบฝาหน้า

ซึ่งจะมีลิ้นชักที่สามารถดึงออกมาใส่อุปกรณ์ชุดครัวได้

ชุดครัวก็จะได้ทั้งที่ดูดควันของ Hafele

และเตาไฟฟ้า 2 หัว จากแบรนด์เดียวกัน

อ่างล้างจานพร้อมก๊อกน้ำทรงสูง

วัสดุห้องน้ำ

ในห้องน้ำจะได้ทั้งอ่างล้างมือ American standard แบบแขวนผนัง

พร้อมก๊อกน้ำแบบก้านโยก

บริเวณใกล้ๆ อ่างล้างมือ จะมีปลั๊กไฟแบบมีฝาปิดมาให้

ในห้องแบบ 1 ห้องนอน พลัส และ 2 ห้องนอนจะได้  Smart mirror

ส่วนห้องอื่นๆ จะได้เป็นกระจกเงาบานใหญ่แทนค่ะ

โถสุขภัณฑ์สีขาวของ American standard

ฝักบัวอาบน้ำจากแบรนด์เดียวกัน

พัดลมดูดอากาศภายในห้องน้ำ

ฉากกั้นอาบน้ำที่มีมาให้ในทุกห้องน้ำ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (Finishing)

พื้นห้องปูด้วยลามิเนตหนา 8 มม.

ส่วนของห้องครัวปูด้วยแกรนิตโต้

ส่วนห้องน้ำจะปูด้วยกระเบื้องสีเทาขนาด 30×30 ซม.

ประตูบานเลื่อนกั้นแยกโซนระหว่างห้องนอนกับห้องอเนกประสงค์ในแบบ 1 ห้องนอน พลัส

ประตูกระจกบานเลื่อน กรอบอลูมิเนียมสีดำ

ตู้เก็บของในแบบ 1 ห้องนอน Smart Walk in-closet

โต๊ะข้างเตียงในห้อง Smart walk in-closet ที่มี Wireless charger มาให้

ชั้นวางทีวีแบบ Built-in

ตู้ใส่รองเท้าในแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 22.50 ตร.ม. สามารถใส่รองเท้าได้หลายคู่เลยทีเดียว

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ในห้องนอน

แผงควบคุมไฟ Schneider electric

ปลั๊กไฟข้างหัวเตียง มีช่องเสียบแบบ USB Outlet

สวิตซ์ปิด/เปิดไฟภายในห้อง

ไฟบริเวณระเบียง

แอร์ภายในห้อง ของ Daikin

ที่เปิดประตูจะเป็นแบบ Digital door lock ของ Liliwise

 เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นคอนโด The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น ราคาเริ่มต้น 1.69 ล้านบาท* ราคาเฉลี่ยทั้งโครงการอยู่ 79,900 บาทต่อตารางเมตรค่ะ (รีวิว ณ ก.ย. 62)  ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Fitted ทั้งหมดค่ะ

ราคา ณ วันเดือนกันยายน  2562

ราคาเริ่มต้น :

ราคาเริ่มต้น 1,690,000 บาท*

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

n/A

• ผ่อนดาวน์

n/A

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง n/A บาท/ตร.ม.
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  n/A บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

เรื่องการเดินทางนั้นก็จัดได้ว่าสะดวก เพราะถนนเส้นรามอินทราเป็นถนนสายหลักที่มีจุดเชื่อมต่อไปยังถนนได้หลากหลายสายค่ะ จะเข้าเมืองก็สามารถใช้ถนนรามอินทรา ถนนประเสริฐมนูกิจวิ่งไปเกษตร บางเขนได้ หรือใครอยากวิ่งเข้าเมืองไปฝั่งลาดพร้าวก็เพียงใช้ถนนประดิษฐ์มนูธรรมตรงยาวลงมาเรื่อยๆ ค่ะ ส่วนเส้นทางที่จะใช้ออกนอกเมืองก็มีให้เลือกหลายเส้นทางไม่ว่าจะไปมีนบุรีหรือลำลูกกา ทางด่วนที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดจะมีทั้งเส้นกาญจนาภิเษก (ทางพิเศษหมายเลข 9) และทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ค่ะ  ใครที่ต้องการเดินทางด้วยรถสาธารณะก็ไม่ต้องเป็นห่วง มีให้เลือกเยอะแยะมากมาย ทั้งพี่วิน รถสองแถว รถตู้ รถแท็กซี่ และรถเมล์

ส่วนจุดเด่นอีกเรื่องของการเดินทางก็คือตัวโครงการ The Origin Ramintra 83 Station  อยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าสถานีสินแพทย์ที่กำลังก่อสร้างอยู่  คือ เดินชิลล์ๆ ได้เลยนะคะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ศักยภาพการเติบโตในย่านนี้บริเวณหน้าโครงการ The Origin Ramintra  83 Station มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีชมพู แคราย-มีนบุรี ซึ่งจะเป็นสาย feeder ที่นำส่งคนไปยังจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่างๆ ที่วิ่งเข้าเมือง คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในปี 2564  โดยมีสถานีสินแพทย์อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด รับรองว่ารถไฟฟ้าวิ่งเมื่อไหร่  การเดินทางก็จะสะดวกสบายมากขึ้นอีกอย่างแน่นอน

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น จัดเป็นโครงการที่มีความพิเศษกว่า The Origin ตัวอื่นๆ โดยตัวโครงการนี้อยู่ในพื้นที่ของ ออริจิ้น สมาร์ทซิตี้ รามอินทรา ที่ทางออริจิ้นเองก็ตั้งใจจะปั้นให้เป็นสมาร์ทแพลทฟอร์มที่ครบวงจรการใช้ชีวิตแบบ Live & Work & Play & Balance อยู่ในที่เดียวกันค่ะ  แต่ตัว Origin Smart City รามอินทรา จะเป็นยังไงบ้าง  เดี๋ยวคงจะมีข้อมูลอัปเดตกันเพิ่มเติมในอนาคตค่ะ

ตัวโครงการดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น เองเป็นกลุ่มคอนโดมิเนียม Low rise จำนวน 8 อาคาร ที่ตั้งอยู่บนที่ดินขนาดกว่า 6 ไร่ โดยแปลนที่ดินมีลักษณะเป็นรูปตัว L ค่ะ ส่วนเรื่องการดีไซน์อาคารที่น่าสนใจในโครงการนี้ คือ ทางโครงการจะทำ Sky running บนชั้นดาดฟ้าเชื่อมเข้าหากันทั้ง 8 อาคาร ระยะทางประมาณ 400 ม. และมี Sky Bridge ที่เชื่อม Facility ในอาคาร E และ F เข้าหากัน การออกแบบเช่นนี้ช่วยให้เราสามารถเข้าถึงการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้ง่ายมากขึ้น  และเป็นการใช้พื้นที่ดาดฟ้าให้เป็นประโยชน์มากกว่าที่จะปล่อยให้เป็นพื้นคอนกรีตเหมือนโครงการอื่นๆ ทั่วไปค่ะ

สำหรับแปลนห้องของ The Origin รามอินทรา 83 สเตชั่น จะมีห้องให้เลือก 5 แบบ โดยปกติแล้วแบรนด์ ดิ ออริจิ้น จะชูจุดเด่นเรื่องห้องที่มี Smart Walk-in closet ที่ถูกพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ lifestyle ของคนรุ่นใหม่ ที่ต้องการพื้นที่เก็บของที่เยอะและเป็นสัดส่วน แต่ในโครงการนี้ทางออริจิ้นก็มีแปลนห้องแบบใหม่เพิ่มขึ้นมาให้เป็นอีกตัวเลือกในแบบ 1 ห้องนอน พลัส  ซึ่งความพิเศษของห้องนี้จะอยู่ที่พื้นที่ระหว่างห้องนอนและห้องอเนกประสงค์ที่สามารถเปิดประตูบานเลื่อนขยายพื้นที่เข้าหากันได้ จนเกิดเป็น Space ขนาดใหญ่ และมีความ Flexible มากขึ้นค่ะ หากใครไม่ต้องการใช้ห้องอเนกประสงค์ก็สามารถขยายพื้นที่ทำเป็นห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นได้ หรือจะทำเป็น Walk-in closet ส่วนตัวเพิ่มเติมเองก็ได้เช่นกัน  ส่วนแปลนห้องแบบอื่นๆ ก็ถือว่าทำมาได้ตามมาตรฐานที่ออริจิ้นทำมาตลอดในช่วงหลังนะคะ จัดสเปซได้ค่อนข้างโอเคทีเดียว

ด้านวัสดุของโครงการก็ถือว่าเทียบกับราคาแล้วก็โออยู่ ได้ห้องแบบ Fully Fitted ที่มีทั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in เคาน์เตอร์ครัว Hob & Hood ของ HAFELE ภายในห้องผนังฉาบเรียบทาสี พื้นปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ประตูบานเลื่อนและหน้าต่าง ทำจากอลูมิเนียม ภายในห้องน้ำจะได้สุขภัณฑ์จาก American Standard หรือเทียบเท่า ภายในห้องยังได้ Home Automation ที่สามารถสั่งการและควบคุมสิ่งต่างๆ ผ่าน Smart Phone นอกจากนี้แบบ 1 ห้องนอน Smart Walk-in closet จะได้  wireless charger บริเวณโต๊ะข้างเตียง ส่วนแบบ 1 ห้องนอนพลัส และ 2 ห้องนอนจะได้ Smart mirror ด้วยค่ะ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางก็อย่างที่บอกว่าจุดเด่นคือการใช้พื้นที่ดาดฟ้าตึกให้เป็นประโยชน์  โดยรวมจัดว่าให้ส่วนกลางมาหลากหลาย แต่ส่วนมากจะอยู่ในอาคาร A เกือบทั้งหมดค่ะ โดยพื้นที่สวนกลางจะมีทั้ง Lobby, Self-storage, Smart locker, Sharing service, Co-living space, Co-passion room, Co-working space , Meeting room ที่มาพร้อม Office supply และ Vending machine  ส่วนสาย Activity และสาย Entertainment ก็มีให้เลือกใช้ได้หลายอย่าง มีตั้งแต่ Co-kitchen, Co-dining space, Private dining room, Fitness, Swimming pool, Library room ไปจนถึง Games room และ Theater room เลยค่ะ จุดที่เราชอบที่สุดในโครงการก็เห็นจะเป็นชั้นดาดฟ้าที่ทำเป็นลู่วิ่ง Sky Running  ยาว 400 ม. เสมือนกับวิ่งรอบสนามบอลเลย

นอกจากเรื่อง Facility แล้วในโครงการยังมี Service อื่นๆ ที่จะมาช่วยให้เราใช้ชีวิตเป็นมนุษย์คอนโดในปัจจุบันให้ง่ายขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Hotel service on demand , Facility Booking บริการจองพื้นที่ส่วนกลาง ผ่าน Mobile Application, Super Maintenance Service บริการเรียกช่างเทคนิค ช่างซ่อมต่างๆ, Dine in Service บริการ SNACK และเครื่องดื่ม ผ่าน Machine ภายในโครงการ และ Smart Bill Pay บริการส่งบิลออนไลน์ และชำระค่าใช้จ่ายต่างๆ ผ่าน Mobile Application ค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

THE ORIGIN RAMINTRA 83 STATION

เปิดจองครั้งแรก 19 ตุลาคม นี้

บนเมกะโปรเจค  “Origin Smart City Ramintra’’ กับ  ‘‘ดิ ออริจิ้น รามอินทรา 83 สเตชั่น ’’ ติดสถานีรถไฟฟ้าสินแพทย์ ที่สุดแห่งส่วนกลาง 8 ชั้น พร้อม Sky Running เชื่อมต่อ 8 อาคาร

เริ่ม 1.69 ล้าน*

เตรียมพบกับปรากฎการณ์ทรานฟอร์มที่อยู่อาศัย สู่รูปแบบการใช้ชีวิตอนาคต

“ORIGIN Smart CITY Ramintra’’   คลิ๊ก  https://bit.ly/2kKO4Xl

เปิดชมห้องตัวอย่างแล้ววันนี้!! สามารถรับ GIFT VOUCHER ส่วนลด 200,000 บาท ได้แล้วที่สำนักงานขาย

พร้อมแล้วไปพบกับความสมาร์ทกันเลย เส้นทาง http://wow.in.th/g422

#จัดจ้านย่านรามอินทรา  #SmartCityRamintra  #TheOrigin  #BlueOcean #StayTuned

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^