นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)(LPN) เปิดเผยว่า หลังจากที่ LPN ได้สื่อสารแบรนด์ภายใต้แนวคิด “ความพอดี ที่ดีกว่า” ผ่านหนังสั้น “Dream Home” อันจะช่วยสะท้อนความมุ่งมั่นและตั้งใจในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ (Product & Service Value) ของแบรนด์ “LPN” ซึ่งมี “ชุมชนน่าอยู่” เป็นตัวขับเคลื่อน หลังจากนี้ บริษัทได้เตรียมลุยเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งอาคารชุดพักอาศัย และบ้านพักอาศัย จำนวน 10 โครงการ โดยจะเปิดตัวในไตรมาส 4 ยาวไปถึงต้นปีหน้า ทำเลดังต่อไปนี้
LPN กางแผน 6 เดือนหลัง เตรียมเปิดตัว 10 โครงการทั้งบ้านและคอนโด กว่า 13,000 ลบ.
· ~ 1 min readอาคารชุดพักอาศัย รวมมูลค่าประมาณ 11,050 ล้านบาท
- ย่านเตาปูน คอนโด High Rise เปิดตัวปีนี้ จำนวน 800 ยูนิต มูลค่า 1,900 ล้านบาท
- แจ้งวัฒนะ ซอย 10 คอนโด Low Rise เปิดตัวปีนี้ จำนวน 476 ยูนิต มูลค่า 600 ล้านบาท
- แจ้งวัฒนะ ซอย 17 คอนโด High Rise เปิดตัวปี 2563 อาคารด้านหน้าจำนวน 719 ยูนิต มูลค่า 1,600 ล้านบาท
และอาคารด้านหลังจำนวน 788 ยูนิต มูลค่า 1,450 ล้านบาท - ย่านเอกชัย แถวเซ็นทรัลพระราม 2 คอนโด Low Rise เปิดตัวปี 2563 จำนวน 2,293 ยูนิต มูลค่าประมาณ 2,500 ล้านบาท
- โครงการลุมพินี มิกซ์ นราธิวาส-รัชดา คอนโด High Rise เปิดตัวปี 2563 มูลค่าประมาณ 3,000 ล้านบาท
- โครงการในอนาคต อยู่ระหว่างการเจรจา
บ้านพักอาศัย รวมมูลค่าประมาณ 5,420 ล้านบาท
- ย่านพหลโยธิน 54/1 ห่าง BTS สะพานใหม่ (ในอนาคต) ระยะทาง 3 กม. จำนวน 253 แปลง มูลค่า 880 ล้านบาท
- ย่านลาดกระบัง ห่างจากสนามบินสุวรรณภูมิ 4 กม. จำนวน 400 แปลง มูลค่า 1,250 ล้านบาท
- Baan 365 ย่านเมืองทองธานี จำนวน 182 แปลง มูลค่า 1,890 ล้านบาท
- ย่านสุขุมวิท 113 บ้านแฝด 2 ชั้น และบ้านทาวน์โฮมจำนวน 133 แปลง มูลค่า 750 ล้านบาท
- ย่านท่าข้าม-พระราม 2 บ้านแฝด 2 ชั้น 108 แปลง มูลค่า 650 ล้านบาท
ทั้งนี้ LPN มีเป้าหมายในการโอนกรรมสิทธิ์อาคารชุดพักอาศัยและบ้านพักอาศัยในไตรมาส 4 ได้แก่
- ลุมพินี พาร์ค วิภาวดี-จตุจักร มูลค่า 2,000 ล้านบาท
- ลุมพินี เพลส รัชดา-สาธุ มูลค่า 1,620 ล้านบาท
- ลุมพินี ซีเล็คเต็ด สุทธิสาร-สะพานควาย มูลค่า 1,265 ล้านบาท
- ลุมพินี วิลล์ สุขสวัสดิ์-พระราม 2 มูลค่า 720 ล้านบาท
- ลุมพินี พาร์ค พหล 32 มูลค่า 1,867 ล้านบาท
- บ้านพักอาศัย มูลค่า 530 ล้านบาท
- Baan 365 มูลค่า 500 ล้านบาท
นายโอภาสกล่าวต่อว่า “แผนธุรกิจในปีนี้ได้กระจายฐานรายได้ออกหลายๆ ส่วนเพื่อลดความเสี่ยง โดยยังคงรักษารายได้จากการสร้างและขายอาคารชุดพักอาศัยปีละหมื่นล้านบาท รวมถึงขยายการเติบโตของโครงการบ้านพักอาศัยอย่างน้อย 50% ของอาคารชุดพักอาศัย เมื่อรวมกับรายได้จากธุรกิจบริการอื่นๆ ก็เชื่อว่าจะสร้างรายได้และการเติบโตอย่างต่อเนื่องให้กับบริษัทได้อย่างแน่นอน”