FACILITIES
ครั้งนี้เนื่องจากโครงการ THE LINE สุขุมวิท 101 เป็นตึกสร้างเสร็จแล้ว เราจะพามาเริ่มดู Facilities ตั้งแต่ด้านหน้าทางเข้ากันเลยค่ะ ในภาพจะเป็นส่วนด้านข้างของจุด Drop-Off ตอนเช้าหรือยามเย็นสามารถพาลูกหลานมานั่งเล่นหรือจะมานั่งรอรถที่เรียกไว้ก็ได้นะคะ ไม่ต้องออกไปรอข้างนอกให้เมื่อยขา ออกแบบมาในทรงโค้งคล้ายคลื่นตัดด้วยสีส้มที่เป็นสีประจำโครงการ ดูโดดเด่น สดใสดีค่ะ
เข้ามาด้านในโครงการส่วนแรกที่จะเจอเลยคือ Lobby จัดวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งและเก้าอี้อาร์มแชร์อีก 3 ตัว รองรับได้ถึงครอบครัวขนาดใหญ่หลายคน นอกจากนี้ Lobby ออกแบบมาให้มีเพดานสูงถึง 8 เมตร จึงทำให้ส่วนนี้ดูโล่ง โปร่ง สบาย น่านั่ง
ผนังด้านข้างของ Lobby ตกแต่งด้วยหิน Rainbow Onyx Stone ที่มีเอกลักษณ์จากแร่ธาตุสีส้มที่แทรกอยู่ตามเนื้อหินสีขาวครีมตามสีส้มที่เป็น Identity ของโครงการนี้ค่ะ
ด้านบนแขวน Sculpture สีทอง ลักษณะคล้ายริบบิ้น ดูโดดเด่น ไม่เหมือนใคร
เข้ามาด้านในอีกนิดจะเจอกับเก้าอี้นั่งเล่นอีกชุดหนึ่ง ลูกบ้านสามารถลงมานั่งเล่น หรือคุยกับเพื่อนที่มาเยี่ยมเยีนนได้ค่ะ
Smart Locker เป็นจุดหนึ่งที่ทางโครงการอัพเกรดติดตั้งมาให้เพิ่มเติมจากเดิมที่ไม่ได้มีให้นะคะ เพื่ออำนวยความสะดวกของลูกบ้าน
เดินเข้ามาด้านในสุดจะเจอกับห้องจดหมายค่ะ ยาวมากแทบจะตลอดแนวผนังด้านหลังเลย จัดมาให้พร้อมกับโต๊ะที่สามารถนั่งได้ทั้งอ่านจดหมายหรือปรับเปลี่ยนมานั่งทำงานได้อีกด้วย
ในแต่ละจุดทางโครงการเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ที่หลากหลาย ทำให้ห้องดูมีสีสันขึ้นมาก และจากที่สังเกตคือ ในโครงการนี้จะให้โต๊ะ โซฟา เก้าอี้ต่างๆ มาตามจุดเยอะมาก ย้ายไปนั่งจุดนู้นจุดนี้ 30 วันยังไม่ครบเลยมั้งคะทั้งตึก ฮ่าๆ
ถ้าเดินมาทางด้านขวาของ Lobby จะเจอกับ Co-Working Space แบ่งออกเป็น 4 ห้องหลักๆ โดยในแต่ละห้องจะมีชั้นลอยที่สามารถทำเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้อีกด้วย ห้องแรกเข้ามาจะเจอกับโต๊ะยาว สามารถนั่งประชุมงานได้พร้อมกับ Office Supply อย่างเครื่องถ่ายเอกสาร ข้างๆ กันเป็นตู้ขนมจาก Blue Mart ค่ะ
ถัดมาที่ห้องที่ 2 เราจะเจอกับโต๊ะทำงานหน้าตาแปลก เหมือนลูกครึ่งระหว่างเครื่องออกกำลังกายและโต๊ะทำงาน อันนี้ทางโครงการบอกว่าเตรียมไว้ให้สำหรับคนที่อยากทำงานไปด้วยออกกำลังกายไปด้วยโดยเฉพาะเลย ประหยัดเวลา ใครสาย Healthy แต่งานเย้อเยอะ มาจับจองห้องนี้เลย ถ่ายลง IG เก๋สุดๆ
ด้านบนห้องที่เป็นเครื่องออกกำลังกาย+โต๊ะทำงาน ทางโครงการบอกว่าในอนาคตจะเป็นบาร์น้ำและขนมอีกห้องนึงค่ะ ออกกำลังกายเสร็จ ขึ้นมากินด้านบนต่อได้เลย
ห้องที่ 3 ที่เราจะพามาดูเริ่มจะเป็นห้องนั่งทำงานแบบจริงจังมากขึ้น จัดเป็นโต๊ะขนาด 6 ที่นั่ง พร้อมกับติดตั้งทีวีไว้สำหรับใช้หาข้อมูลหรือพรีเซ้นต์งานได้ค่ะ
เอาบันไดขึ้นชั้นลอยมาฝาก เปรี้ยวจี๊ดเข้ากับความเป็นวัยรุ่นอย่างเราๆ
ด้านบนจัดเป็นโต๊ะทำงานอีก 4 ที่ และยังมีเคาน์เตอร์บาร์สำหรับคนที่มาเดี่ยวหรือมาคู่ให้อีกด้วย
และห้องสุดท้ายจะเป็นห้องที่ขนาดใหญ่ที่สุดและให้อารมย์ทำงานแบบจริงจังมากที่สุดอีกด้วย จัดโต๊ะมาให้ถึง 8 ที่นั่งพร้อมโต๊ะแบบบาร์อีก 2 ที่นั่ง ติดตั้งทีวีมาให้พร้อมใช้งาน
ส่วนใครที่ไม่ชอบบรรยากาศขรึมๆ แบบด้านล่าง สามารถขั้นมาที่ชั้นลอยได้ มีโต๊ะเก้าอี้คุยงานได้แบบชิลล์ๆ ตั้งอยู่ค่า
และถ้าจะเข้าถึง Lift Lobby ได้ ทางลูกบ้านจะต้องใช้การสแกนใบหน้าค่ะ ถือว่าทางโครงการให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยมากเลยทีเดียว
จากชั้น G มาต่อกันที่ชั้น 5 กันบ้าง ตรงนี้จะเป็น Facilities อีกส่วนของโครงการ THE LINE SUKHUMVIT 101 ห้องแรกที่พามาดูนั้นเป็นห้อง Games Room ชื่อก็บอกอยู่แล้วใช่มั้ยละว่า ห้องเกมส์ เป็นห้องที่รวมเกมต่างๆ ไว้ให้ลูกบ้านสามารถมาผ่อนความความเครียดได้ที่นี่เลย
มีตู้เกมต่างๆ มากมายให้เล่น เกมแบบยุค 80’s 90’s ก็มีน้า
แถมยังตั้งหุ่น ET ไว้ให้ด้วย เอ็นดูน้องงงงงงงง
หรือจะรวมกลุ่มเพื่อนๆ มานั่งเล่นเกมตรงนี้ก็ได้ เพราะทางโครงการได้จัดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมกับทีวีไว้ให้พร้อมเลย เสียงดังแค่ไหนก็ได้ข้างห้องไม่ออกมาด่าแน่นอน
มีจอโปรเจคเตอร์ด้วยนะ
นอกจากตู้เกมตู้ใหญ่ๆ แล้วยังมีเกมเล็กๆ น้อยๆ อย่าง ปาลูกดอกหรือเกมกดแบบโบราณให้เลือกเล่นรำลึกความหลังด้วย
ข้างๆ Games Room เป็นสระว่ายน้ำของโครงการ ขนาดค่อนข้างยาวและใหญ่ ว่ายออกกำลังกายไปกลับได้สบายและยังมี Aqua Bike ไว้ให้เล่นกันด้วย
ข้างๆ ขอบสระทางโครงการวางเป็นเก้าอี้ให้สามารถมานั่งชิลล์รับลม รับวิวเมืองได้ หากใครไม่อยากว่ายน้ำค่ะ
และอย่างที่เคยเล่าไว้ข้างต้น ทางโครงการมีกิมมิกที่เล่นกับสีสันตัวตึกด้วยสีต่างๆ สีเหล่านั้นจะไหลลงมารวมกันที่สระว่ายน้ำแบบในรูปเลยค่ะ สื่อถึงการอยู่ร่วมกันได้แม้ทุกคนจะแตกต่างกัน
เข้ามาด้านในอาคารจะเจอกับห้องออกกำลังกายที่เทควิวสระว่ายน้ำ
ภายในมีอุปกรณ์เครื่องเล่นหลากหลายให้เลือกทั้งลู่วิ่ง, ที่ปั่นจักรยาน, เครื่องยกน้ำหนัก เป็นต้น ซึ่งเครื่องออกกำลังกายเหล่านี้เน้น Cardio ด้วยเหมาะกับไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่ที่เทรนด์การออกกำลังกายมาในทิศทางนี้
มีดัมเบลล์ให้เลือกอยู่เยอะมาก น่าจะเพียงพอต่อการใช้งาน
ฝั่งตรงข้ามห้องออกกกำลังกายเป็นห้องซักผ้าค่ะ สามารถใช้งานได้ผ่าน Sansiri Home Service App โดยไม่ต้องควานหาเหรียญในกระเป๋าออกมาซักผ้าอีกต่อไป สะดวก ทันสมัย แก้ปัญหาการหาเหรีญมาหยอดได้ดี
และห้องสุดท้ายบนชั้นนี้ที่เราจะพามาดูคือ Co-Kitchen Space
มีพื้นที่นั่งเล่นภายใน Co-Kitchen Space ให้มานั่งเล่น กินขนมกันได้ทั้งเป็นกลุ่มใหญ่, มาเป็นคู่ และมาเดี่ยวค่ะ
เข้าไปด้านในจะเป็นส่วนของห้องครัว ที่เราสามารถทำอาหารแบบจริงจังได้เลย
ให้เคาน์เตอร์ครัวมาขนาดใหญ่มากกกกกก เหมือนกับครัวของร้านอาหารเลยค่ะ
เครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์ครัวต่างๆ เป็นของยี่ห้อ Scavolini (Diesel)/SMEG/Severin เลยนะ
ใกล้ๆ กันมีโต๊ะรับประทานอาหารจัดไว้ให้อีก 2 ชุดใหญ่ๆ พาเพื่อนมาปาร์ตี้ได้เลยนะคะเนี่ย นอกจากนี้ยังมีเครื่อง Vending Machine ให้มาด้วย ซื้อขนม นม เนยตรงนี้ได้เลย ง่ายและสะดวกสุดๆ
ด้านนอกของ Co-Working Space จะสามารถมองเห็น Garden Pavillion ประกอบด้วยสวนหย่อมและพื้นที่นั่งเล่น รับลม ชมวิว ประดับด้วย Sculptures รูปทรงคล้ายลูกข่าง
ถัดมาด้านหลังนิดหน่อยจะเจอกับแปลงปลูกผักของโครงการ เป็นพื้นที่บางส่วนทางโครงการได้แบ่งเอามาปลูกพืชผักแบบ Organic ไว้ให้ลูกบ้านสามารถมาเอาไปรับประทานได้อย่างปลอดภัย ไร้สารเคมีค่ะ
และชั้นสุดท้ายของ Facilities นั้นอยู่ที่ชั้น Rooftop นั่นเอง ด้านบนประกอบด้วยสวนหย่อมและพื้นที่นั่งเล่น รับลม ชมวิว ประดับด้วย Sculptures รูปทรงคล้ายลูกข่าง มี Jogging Track ทอดตัวยาวตลอดแนวนึกเลยค่ะ วิ่งด้านบนปลอดภัยแน่นอน ไม่ต้องคอยระวังรถยนต์ด้วย
ส่วนเสริมที่ทางโครงการให้มาเพิ่มเติมคือ Rock Climbing อันนี้เลย ใครสายลุยต้องมาลอง
ส่วนนี้เป็น LED Multi-Sports Court เป็นสนามกีฬาที่สามารถปรับเปลี่ยนได้ที่แรกใน Southeast Asia ซ่อนระบบไฟไว้ใต้พื้นแก้วหนา รองรับแรงกระแทกได้ดี สามารถเปลี่ยนเป็นสนามบาสเก็ตบอล, สนามฟุตบอล สนามเทนนิส ฯลฯ ได้ตามต้องการ ล้ำยุคมากเลยนะเนี่ย
นอกจากนี้ทางโครงการยังมีบริการ Smart Move ด้วยการที่ลูกบ้านสามารถเช่ารถยนต์ BMW i3 ไปใช้ได้, บริการ Shuttle Service จากที่ตั้งโครงการไปยัง BTS ปุณณวิถี และระบบ LIV-24 (Smart Command Center) บริการดูแลความปลอดภัยจากศูนย์ควบคุมของแสนสิริแบบเรียลไทม์ตลอด 24 ชั่วโมง เรียกได้ว่าอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยของลูกบ้านกันแบบสุดๆ ไปเลย เรื่องการดูแลลูกบ้านว่าดีแล้ว ทางแสนสิริยังใส่ใจเรื่องของพลังงานและสิ่งแวดล้อม ด้วยการใช้ Omni Flow เสาไฟฟ้าอัจฉริยะ Smart Lighting Pole บน Smart Energy Platform ที่ใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานลมในการผลิตไฟฟ้าบริเวณพื้นที่ส่วนกลางภายในโครงการที่ติดตั้งอยู่ที่บริเวณลานจอดรถ
ในด้านที่จอดรถนั้นจอดได้ 41% ไม่รวมจอดรถซ้อนคัน ส่วนลิฟต์ก็ให้มา 5 ตัวและ Serviced Lift อีก 1 ตัว เมื่อเทียบกับอาคาร กับจำนวนห้องพักอาศัย 778 ยูนิตแล้ว คิดเป็น 130 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวตาม ซึ่งในช่วง Rush Hours อาจจะต้องรอลิฟต์กันสักหน่อยค่ะ