แสนสิริ ประกาศความสำเร็จ ปิดขาย 21 โครงการใน 6 เดือน มูลค่ากว่า 34,500 ลบ. จ่อคิวโอนเดอะ เบส อีก 2 โครงการ มั่นใจยอดโอนรวมสิ้นปีตามเป้า 39,000 ลบ.
· ~ 1 min readนายอุทัย อุทัยแสงสุข ประธานผู้บริหารสายงานปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในระยะเวลา 6 เดือน ที่ผ่านมาของปีนี้ แสนสิริประสบความสำเร็จ ได้รับการตอบรับเป็นอย่างสูงจากกลุ่มลูกค้า โดยได้เดินหน้าปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยไปแล้วถึง 21 โครงการ แบ่งเป็นโครงการบ้าน 7 โครงการ โครงการทาวน์โฮม 6 โครงการ และคอนโดมิเนียมอีกถึง 8 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 34,500 ล้านบาท ตอกย้ำความแข็งแกร่งของแสนสิริ แบรนด์ที่เข้าถึงทุกคนในทุกระดับราคา สะท้อนความเชื่อมั่นแบรนด์อันดับหนึ่งของคนอยากมีบ้าน ด้วยมาตรฐานการออกแบบและคุณภาพโครงการ ตลอดจนบริการหลังการขาย
โดยล่าสุดได้ปิดการขายโครงการ เดอะ เบส สุขุมวิท 50 คอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับโตคิว คอร์ปอเรชั่น มูลค่าโครงการ 1,320 ล้านบาท ได้รับการตอบรับจากกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทยและต่างชาติ ด้วยศักยภาพด้านทำเลที่ตอบโจทย์เรียลดีมานด์ของชุมชนที่มีการอยู่อาศัยอย่างแท้จริง ทำให้มีลูกค้าซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองหรือเรียลดีมานด์คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 80%
นอกจากนี้ บริษัทยังปิดการขายโครงการ เดอะ ไลน์ พหลฯ-ประดิพัทธ์ คอนโดมิเนียมภายใต้ความร่วมมือกับบีทีเอส กรุ๊ป มูลค่าโครงการ 5,640 ล้านบาท ตอบโจทย์การอยู่อาศัยของครอบครัว โดยมีกลุ่มลูกค้าที่ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง ในสัดส่วนสูงถึง 90% ซึ่งนับเป็นบทพิสูจน์ความสำเร็จ ที่ตอกย้ำการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพตอบรับทุกระดับราคา และเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงทุกคน นอกจากนี้กลุ่มลูกค้ายังให้การตอบรับในความโดดเด่นโครงการ ไปจนถึงบริการหลังการขาย หรือแสนสิริ เซอร์วิส ที่ครอบคลุมอีกด้วย
เตรียมเดินหน้าโอนโครงการ เดอะ เบส 2 โครงการ
- “เดอะ เบส สะพานใหม่”
ภายใต้ความร่วมมือระหว่างแสนสิริและบีทีเอส กรุ๊ป จำนวน 820 ยูนิต มูลค่าโครงการกว่า 2,800 ล้านบาท ตั้งอยู่บนทำเลที่น่าจับตามองในอนาคต เพียง 0 เมตรจากสถานีสายหยุด ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวที่เปิดให้บริการแล้วในปัจจุบัน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ พร้อมเชื่อมต่อถนนหลายสายหลักอย่างวิภาวดีรังสิต พหลโยธิน และสนามบินดอนเมือง ทั้งยังตั้งอยู่ใกล้โรงพยาบาล มหาวิทยาลัยและสถานที่ราชการหลายแห่ง
เต็มอิ่มกับการใช้ชีวิตด้วยพื้นที่ส่วนกลางเปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง 7 วัน ซึ่งมีพื้นที่รวมสูงถึง 4,800 ตารางเมตร จากพื้นที่โครงการทั้งหมด 4 ไร่ พร้อมโดดเด่นด้วย Rooftop Facilities เต็มพื้นที่ชั้นดาดฟ้าของโครงการ ที่รวบรวมทั้งสวนสวย พื้นที่ดูดาว ลู่วิ่ง และสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และ Panoramic Gym ที่ชั้น 14เข้าไว้ด้วยกันพร้อมเชื่อมต่ออาคาร 2 ฝั่งด้วยทางเชื่อมแบบ Spiral Bridge ซึ่งออกแบบขึ้นด้วยหลัก Universal Design รองรับการใช้งานของคนทุกวัย นอกจากนี้ยังนำเสนอประสบการณ์ใหม่ของการอยู่อาศัยแนวสูงด้วยยูนิตแบบลอฟท์ (Loft Unit) เพดานสูง 4.55 เมตร ที่ชั้น 14 ช่วยเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้มากขึ้นกว่าเดิม โดยมีพื้นที่ใช้สอยให้เลือกสรรหลายขนาดตามความต้องการ พร้อมเปิดขายแบบแต่งครบ (Fully Furnished) ที่พร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าภายในเดือนสิงหาคมนี้
- ‘เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต’
ประสบความสำเร็จ ปิดการขายทันทีในวันพรีเซลล์โครงการ ด้วยมูลค่าโครงการ 1,660 ล้านบาท บนทำเลทองใจกลางเมืองภูเก็ต ใกล้เซ็นทรัล ภูเก็ต เฟสใหม่ เพียง 1 นาที เรียกได้ว่า ทำเลของเดอะ เบส เซ็นทรัล-ภูเก็ต เป็นที่ดินทำเลทอง และหายากในย่านนี้ที่สามารถพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมแบบฟรีโฮลด์ (Freehold) โดยชูไฮไลต์การออกแบบแรงบันดาลใจจาก “เพอรานากัน” วัฒนธรรมบาบ๋ามนต์สเน่ห์แห่งเมืองภูเก็ต สู่การอยู่อาศัยใจกลางเมือง ตั้งอยู่บนพื้นที่ขนาด 4 ไร่ เป็นอาคารที่พักอาศัยสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร มีจำนวน 590 ยูนิต แต่ละยูนิตมีการออกแบบฟังก์ชันที่เข้าใจการอยู่อาศัย ทั้งในเรื่องของสถาปัตยกรรม และการตกแต่งภายในที่ได้นำเอามาใช้ในส่วนต่างๆ สะท้อนความมุ่งมั่นของแสนสิริในการนำเอกลักษณ์ของภูเก็ตมาสมผสานกับความทันสมัยอย่างลงตัว
การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางแต่ละส่วนอย่างมีเอกลักษณ์ในทุกรายละเอียด เช่น ล็อบบี้ที่มีแรงบันดาลใจจากสถาปัตยกรรมดั้งเดิมของภูเก็ต พร้อมเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งด้วยผ้าปาเต๊ะลายพื้นถิ่นหลากสีสัน ฟิตเนสตั้งอยู่บนชั้น 2 โดดเด่นด้วยการออกแบบสเปซรับวิวสวนสวยทั้ง 3 ด้าน พร้อมฉากกั้นทำลายพิเศษฉลุดอกโบตั๋น ให้แสงลอดผ่านเปลี่ยนแปลงตามวันเวลาสะท้อนสีสันจังหวะชีวิตที่ไม่เคยหยุดนิ่ง ห้องอเนกประสงค์ ที่เปรียบเสมือนห้องนั่งเล่น Relax with ease ตั้งอยู่บนชั้น 3 เป็นมุมพักผ่อนที่หลากหลาย ที่พร้อมส่งมอบให้แก่ลูกค้าภายในเดือนกรกฎาคมนี้
“ด้วยความเชื่อมั่นของลูกค้าที่มีต่อแสนสิริ ทั้งด้านการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพ ตอบรับทุกระดับราคา และเป็นแบรนด์ที่เข้าถึงทุกคน นอกจากนี้กลุ่มลูกค้ายังให้ความเชื่อมั่น ในความโดดเด่นของโครงการ ทั้งในด้านการออกแบบฟังก์ชั่นดีไซต์ของโครงการ ไปจนถึงบริการหลังการขาย หรือแสนสิริ เซอร์วิส และ Sansiri Security System บริการด้านความปลอดภัยจากแสนสิริที่ครอบคลุมอีกด้วย สะท้อนให้เห็นจากยอดขายโตสวนกระแส ครองอันดับหนึ่ง ในตลาดอสังหาฯ ในขณะนี้ เมื่อรวมกับการสร้างแบรนด์เดอะ เบส ภายใต้คอนเซ็ปต์ “MARK MY BASE” ที่เข้าใจคนรุ่นใหม่ จึงเชื่อมั่นว่าจะส่งผลให้โครงการคอนโดมิเนียม เดอะ เบส สะพานใหม่ และ เดอะ เบส เซ็นทรัล – ภูเก็ต ได้รับการตอบรับโอนที่ดีจากลูกค้า ทั้งในด้านราคา ทำเล พื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชั่นการใช้งาน ซึ่งจะสร้างการรับรู้รายได้จากการโอนให้เป็นไปตามเป้าหมาย 39,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายใหม่ที่วางไว้” นายอุทัยกล่าว