สำหรับพื้นที่ส่วนกลางโครงการ เมทริส ดิสทริค ลาดพร้าว ออกแบบโดยใช้คอนเซปต์ MAXIMALIFE ให้ชีวิตไร้ขีดจำกัดตอบโจทย์ชีวิต Next Normal เพื่อให้ภายในโครงการมีพื้นที่ส่วนกลางครบครันมากที่สุดด้วย Maximal Facilities อาทิ เช่น Multi Sport Carpark พื้นที่จอดรถที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นสนามบาส และลูปสำหรับวิ่งระยะ 110 เมตร
พื้นที่ส่วนกลางในโครงการ Metris District ลาดพร้าว ออกแบบมารองรับวิถีชีวิตใหม่แบบ NEXT Normal โดยเฉพาะเรื่องของความสะอาด และการลดการสัมผัส ทางเข้าโครงการใช้ประตูอัตโนมัติ มีหลอด UVC สำหรับฆ่าเชื้อในห้องที่ส่งพัสดุ, ลดการสัมผัสโดยใช้ลิฟต์แบบ Touchless ซึ่งตรงนี้ในช่วง COVID คนที่อยู่คอนโดทุกคนคงทราบกันดีว่าเป็นจุดที่ต้องสัมผัสร่วมกันบ่อยที่สุด
เทคโนโลยีเพื่อการอยู่อาศัยยุค Next Normal ที่ถูกนำมาใช้ภายในโครงการ
นอกจากนั้นโครงการก็ยังเตรียม Wireless Charger เอาไว้ในจุดสำคัญต่างๆ ให้ลูกบ้านสามารถมาใช้บริการกันได้ มี EV Charger ตามแบบฉบับของคอนโดยุคใหม่ ส่วนในห้องทุกยูนิตก็มีระบบ Home Automation ให้เป็นมาตรฐานครับ
มาดูที่ Master Plan ตัวโครงการมีทางเข้าออกอยู่ติดกับถนนลาดพร้าวเลย ทำให้การเดินทางเข้าออกถือว่าสะดวกสบายครับ เมื่อเลี้ยวรถเข้ามาในโครงการก็จะแบ่งออกเป็นสองโซนหลัก ๆ ได้แก่ ได้แก่พื้นที่ส่วนกลางแบบ Outdoor ประกอบด้วย Sensory Garden และ Multi Sport Carpark อีกโซนจะเป็นอาคารพักอาศัยสูง 45 ชั้น
ด้านนอกอาคาร Multi sport car park เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ผสมผสานพื้นที่สวนหย่อม-ที่จอดรถ-สนามสตรีทบาส แต่งแต้มด้วยสีสันที่ฉูดฉาดไม่ธรรมดาอย่างสีเหลือง สีแดง ที่ดูคอนทราสกับความเขียวของต้นไม้โดยรอบ เกิดเป็นพื้นที่พักผ่อนที่หลากหลายอารมณ์ รวมถึงยังใช้งานได้หลากหลาย เช่นใช้เล่นบาส หรือเป็นที่จอดรถเพิ่มเติมได้อีก 19 คัน เวลาที่พื้นที่จอดรถในอาคารเต็มได้ครับ
ภายในอาคารพักอาศัยจะจัดพื้นที่ส่วนกลางเอาไว้ที่ชั้น 1 ชั้น 8 ชั้นที่ 43 ชั้น 44 และที่ Roof Top ครับ โดยที่ชั้น 1 จะมี Double Volume Lobby ใช้งานเป็นส่วนต้อนรับสำหรับรับแขก หรือคุยธุระต่างๆ เซ็นเอกสารได้ และมี Co Working Lounge สำหรับใช้เป็นพื้นที่ทำงานอยู่เป็นส่วนต่อเนื่องกับ Lobby และมี Retail Space ทั้งหมด 3 ร้านอยู่ใกล้กับส่วนทางเข้าของโครงการเพื่อช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวให้แก่ผู้อาศัยภายในโครงการ นอกจากนี้ด้านหลังของโครงการยังมีพื้นที่สำคัญอีก 1 จุดนั่นคือ Pet Park ที่ลูกบ้านในโครงการสามารถพาสัตว์เลี้ยงมาเดินเล่น ออกกำลังกายได้ด้วยครับ
Double Volume Lobby เพดานสูง 5.4 เมตร ที่เชื่อมต่อกับสวน การออกแบบเลือกใช้วัสดุในส่วนนี้สะท้อนแนวคิดของแบรนด์ Metris ที่เป็นงานออกแบบในรูปแบบของ Mid- Century Modern Design ใช้เส้นสายที่มีความเรียบง่ายมาสร้างรูปทรงที่มีเอกลักษณ์ ลดทอนรายละเอียดที่ไม่จำเป็นออกไป มีการเล่นกับผิวสัมผัสของวัสดุที่แตกต่างกัน
พื้นที่ Co-Working lounge จะเห็นการใช้สีสันที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีการใช้วัสดุตกแต่งผสมผสานกันทั้งโลหะ ไม้ และกระเบื้อง นอกจากนั้นยังมีเก้าอี้สวยๆ ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของงานออกแบบยุค Mid century modern โดยเฉพาะด้วยครับ
บรรยากาศวิวเมืองจาก Sky Pool ครับ รับวิวเมืองได้กว้างมากครับ
สำหรับส่วนกลางภายในอาคารจะมี Panoramic Gym และ Weight Training Studio ที่ออกแบบรับวิวเมืองมุมกว้างผ่านหน้าต่างสูงพิเศษแบบเต็มบาน พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังครับ
ส่วน Living Area จัดให้ส่วนนั่งเล่น และ ส่วนรับประทานอาหารอยู่ร่วมกัน ทำให้ห้องดูกว้างมากขึ้น ทำให้เราสามารถนั่งทานข้าวพร้อมกับดูโทรทัศน์ไปด้วย หรือปรับเปลี่ยนโต๊ะทานอาหารเป็นโต๊ะทำงานเวลา Work From Home ก็ได้ครับ
กลับมาต่อที่ห้องนอนกันครับ ภายในห้องนอนจะวางตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์โดยเมื่อเดินเข้ามาในห้อง ทางซ้ายมือจะเป็นมุม Work from home ด้านขวามือเป็นตู้เสื้อผ้า ส่วนด้านในของห้องเป็นตำแหน่งเตียงนอนครับ โดยที่โครงการให้มาจะเป็นขนาด 5 ฟุต มีเฮดบอร์ดปิดผิวลายไม้สีเข้มครับ ที่ฐานเตียงมีลิ้นชักเก็บของให้ โดยตำแหน่งเตียงนอนจะอยู่ใกล้กับหน้าต่างของห้องช่วยให้รับแสงธรรมชาติผ่านหน้าต่าง และยังสามารถรับวิวเมืองภายนอกได้ด้วย
มุม Work from home เราสามารถปรับเปลี่ยนใช้งานอย่างอื่นได้ เช่น ถ้าต้องการให้มุมนั่งทำงานมีความเป็นส่วนตัวสักหน่อย เช่นเวลา Video Conference แต่เราไม่อยากให้เห็นภายในห้องนอน ก็สามารถย้ายไปไปที่ส่วนก็อาจปรับมุมนี้เป็นโต๊ะเครื่องแป้ง แล้วย้ายมุมนั่งทำงานไปในส่วน Living Area ได้ด้วยเช่นกันครับ
ยูนิตแปลนของห้องนี้จะแบ่งส่วนใช้สอยออกเป็น 3 ส่วนหลัก ๆ ครับ โดยส่วนแรกเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับ Living Area ที่มีขนาดกว้างขวางเป็นพิเศษรวมเอาทั้งครัวเปิด ส่วนนั่งเล่น และส่วนรับประทานอาหารไว้ในพื้นที่เดียวกัน มีห้องอเนกประสงค์พื้นที่ค่อนข้างกว้าง และมีห้องนอนที่ขนาดกำลังพอดี ๆ
เริ่มจากพื้นที่ส่วนแรกกันก่อนนั่นคือ Living Area อย่างที่ได้บอกไปครับว่าส่วนนี้จัดพื้นที่แบบ Combine Space โดยรวมส่วนนั่งเล่น ส่วนรับประทานอาหาร และครัวเปิดไว้ด้วยกันในพื้นที่ขนาดใหญ่ ทำให้เราสามารถใช้งานนั่งเล่น ดูโทรทัศน์ไปด้วยทานข้าวไปด้วยพร้อม ๆ กันได้ หรือจะปรับเปลี่ยนโต๊ะทานอาหารให้เป็นโต๊ะทำงานสำหรับ Work from home ก็ได้เช่นกันครับ
ใน Living Area จะได้เฟอร์นิเจอร์ที่มาได้พร้อมกับได้แก่ ชุดโซฟาผ้า 2 ที่นั่งครับ ตู้โทรทัศน์ส่วนขาเป็นโครงเหล็กสีดำแบบด้านบนเป็นตู้ไม้บานเปิดปิดผิวด้วยเมลามีนลายไม้สีเข้มครับ