วันนี้เราจะพาไปรีวิวคอนโดมิเนียมโครงการใหม่จากโนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งโครงการนี้ถือว่าอยู่ในทำเลสุดฮอตของกรุงเทพเลยครับ นั่นคือ NUE District R9 คอนโดใกล้ห้าง ทำเลพระราม 9

โดยโครงการนี้เป็นหนึ่งใน “3 คอนโดฯติดห้าง” ที่ทางโนเบิลเปิดตัวขึ้น โดยชูดจุดเด่นเป็นคอนโดที่อยู่ใน HUB ของความสะดวกสบายรอบด้านที่อยู่รอบนอกใจกลางเมือง มีแพคเกจของห้องชุด และราคาที่จับกลุ่มคนเมืองรุ่นใหม่ที่ต้องการความสะดวกสบายรอบด้านในการใช้ชีวิต

แต่สำหรับโครงการ NUE District R9 มีความพิเศษตรงที่โครงการนี้อยู่ใจกลางของทำเล New CBD อย่างพระราม 9 เลยครับ และมีจุดเด่นทั้งใกล้เซ็นทรัล พระราม 9 และ  MRT สถานีพระราม 9 รวมทั้งอาคารสำนักงานชั้นนำมากมายของทำเลนี้ด้วย ที่สำคัญคือราคาเริ่มต้นของ NUE District R9 ก็เชิญชวนน่าเป็นเจ้าของมากทีเดียว

ถ้ากำลังหาคอนโดทำเลพระราม 9 แบบนี้ ตามมาอ่านรีวิวกันได้เลยครับ

ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 340,000 บาท* คลิกที่นี่

NUE District R9 
(นิว ดิสทริค อาร์ 9 )

Location ทำเลที่ตั้งโครงการ

โครงการ NUE District R9 เป็นคอนโดมิเนียมที่ตั้งอยู่ในใจกลางของทำเลพระราม 9 อย่างแท้จริง โดยทำเลพระราม 9 ถือว่าเป็นทำเลอยูู่อาศัยใจกลางเมืองที่มีความสำคัญอย่างมากเพราะเป็นย่าน new cbd ของกรุงเทพที่ต่อขยายมาจากทำเลอโศก และยังมีจุดเด่นในด้านการผสมผสานกันของที่ย่านอาคารสำนักงานยุคใหม่ ศูนย์การค้า และที่อยู่อาศัย ทำให้พระราม 9 เป็นทำเลที่อยู่อาศัยชั้นดีใจกลางเมืองที่น่าสนใจมาก

ที่ตั้งของโครงการก็นับว่ามีความสะดวกสบายมากทีเดียว ไม่ว่าจะเดินทางไปยังสถานที่ทำงาน หรือพักผ่อนแฮงเอาท์เพราะบริเวณที่โครงการตั้งอยู่นั้นมีพร้อมทั้งอาคารสำนักงาน ร้านอาหาร และศูนย์การค้า ที่สำคัญก็คือสิ่งอำนวยความสะดวกทั้งหมดอยู่ในระยะที่เดินถึงได้เพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น อย่าง ตึก G Tower ห่างจากโครงการ 180 เมตร อาคารชำนาญเพ็ญชาติระยะห่างจากโครงการ 80 เมตร หรืออาคารเดอะ ไนน์ ทาวเวอร์ก็ห่างไป 290 เมตรเท่านั้น

ซึ่งจากที่ทีมงานลองจับเวลาเดินไป (เดินแบบช้า ๆ สบาย ๆ) ก็แค่ 6 นาทีเท่านั้นครับ ซึ่งผู้ที่ทำงานในบริษัทชั้นนำที่มีสำนักงานอยู่ในอาคารเหล่านี้ก็นับว่าสะดวกสบายมาก ใช้เวลาเดินจากที่พักไปที่ทำงานเพียงไม่กี่นาทีก็จะมีเวลาพักผ่อน หรือออกกำลังที่ส่วนกลางได้ครับ

นอกจากโครงการจะอยู่ใกล้สถานที่ทำงาน และใช้เวลาเดินจากโครงการไปเพียงไม่กี่นาทีแล้ว การเดินเท้าจากโครงการไปยังสถานที่ต่าง ๆ ถือว่ามีความสะดวกทั้งด้วยฟุตบาทที่ค่อนข้างกว้างสามารถเดินสวนกันได้

ด้านการเดินทาง ทำเลพระาม 9 ก็นับว่าเป็นอีกทำเลที่มีการเดินทางที่ครบเครื่องมากอีกแห่งทั้งรถไฟฟ้า MRT สถานีพระราม 9  เพื่อเข้าเมืองหรือไปยังย่านสำคัญอื่น ๆ มีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ทเรลลิ้งค์สถานีมักกะสันเดินทางเชื่อมระหว่างสนามบินสุวรรณภูมิ หรือจะนั่งย้อนไปทางพญาไทก็ได้ ซึ่งจากโครงการแค่นั่ง MRT ไป 1 สถานีที่ MRT เพชรบุรี สำหรับคนที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวเพื่อเข้าเมืองไปย่านสำนักงาน ย่านช้อปปิ้งต่าง ๆ ก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัชโดยมีจุดขึ้นทางด่วนที่ด่านอโศก 1 แค่ขับรถจากโครงการไปแล้วเลี้ยวขวาที่แยกอ.ส.ม.ท แล้วขับตรงไปอีกเล็กน้อยก็สามารถขึ้่นทางด่วนได้เลย

นอกจากนี้โครงการยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมซึ่งตรงนี้ก็จะเป็น Interchange กับรถไฟ MRT สายสีน้ำเงินที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน

อาคารยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์ เป็นอาคารสำนักงานขนาดใหญ่มีพื้นที่สำนักงาน 18,600 ตรม. อยู่ติดกับโครงการเลย ใครที่ทำงานอยู่ที่นี่ก็นับว่าไปกลับที่ทำงานได้สะดวกสุด ๆ

อาคารเดอะไนน์ ทาวเวอร์ แกรนด์พระราม 9 พื้นที่สำนักงาน 57,000 ตรม. ก็อยู่ติดกับโครงการด้านหลัง มีระยะเดินแค่ 290 เมตร ใครที่ทำงานอยู่ที่นี่ก็นับว่าสะดวกสุดๆ เช่นกัน

อาคาร G Tower ซึ่งมีพื้นที่สำนักงาน กว่า 66,000 ตรม.ที่หัวมุมแยกพระราม 9 ห่างจากโครงการไปแค่ 180 เมตรเท่านั้นเอง โดยอาคารนี้เป็นที่ตั้งสำนักงาน บริษัทใหญ่ๆ เช่น  Huawei….. เป็นต้น

ด้านหน้า G Tower จะมีทางเชื่อมเพื่อเข้าสู่ MRT สถานีพระราม 9 และเดินต่อไปยังเซ็นทรัล พระราม 9 ได้ครับ

นอกจากนี้เรื่องการกินอยู่ของทำเลนี้ก็ถือว่าสะดวกสบายมาก เพราะโครงการจัดว่าเป็นคอนโดใกล้ห้างที่อยู่รายล้อมแหล่งอาหารการกินทั้งสตรีทฟู้ดส์ ร้านอาหารต่าง ๆ ที่อยู่ในโซนนี้ จะสั่งไรเดอร์ให้มาส่งที่โครงการก็ใช้เวลาไม่นาน ค่าส่งก็ไม่แพง หรือถ้าอยากไปนั่งทานที่ร้านก็มีเซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 9 เชื่อมต่อกับ G Tower ที่ชั้นใต้ดิน เราสามารถเดินต่อเนื่องผ่านทางเข้าข้างต้นได้เลย หรือถ้าจะขัามฝั่งไปฟอร์จูนทาวน์ก็ไม่ต้องข้ามถนน สามารถใช้ทางเชื่อมใต้ดินของ MRT พระราม 9 ไปได้เลย

จากเซ็นทรัล พลาซ่า พระราม 9 เราสามารถใช้ทางเชื่อมใต้ดินเดินข้ามไปยังฟอร์จูนทาวน์ได้โดยไม่ต้องข้ามถนน

และยังมีอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ใกล้เคียงกับโครงการเช่น AIA SET บนถนนรัชดาภิเษก สถานีศูนย์วัฒนธรรม หรือ อาคารสำนักงานต่างๆเรียงราย ริมถนน อโศกมนตรี ก็นั่งรถไฟฟ้า แค่ 1-2 สถานีเท่านั้น

Project Walkthrough

การเดินทางมายังโครงการ NUE District R9 ถือว่าง่ายมากครับ โดยหากใช้ MRT ให้ลงที่สถานีพระราม 9 โดยเราสามารถใช้ทางเชื่อมมาออกที่ทางออก 3 ด้านหน้าตึก G Tower ได้เลย จากนั้นเลี้ยวขวาแล้วเดินต่อไปอีก 180 เมตรก็จะถึงสำนักงานขายของโครงการแล้ว

ส่วนใครที่ใช้รถยนต์ส่วนตัวหากมาทางถนนรัชดาภิเษกก็ให้เลี้ยวซ้ายที่แยกพระราม 9 จากนั้นขับไปต่อประมาณ 200 เมตร ก็จะถึงที่ตั้งของโครงการ หรือหากมาจากในเมืองก็สามารถใช้ทางด่วนศรีรัช ออกทางลงถนนรัชดาแล้วเลี้ยวขวาที่แยกพระราม 9 แล้วขับต่อไปตามเส้นทาง 200 เมตรก็ถึงโครงการแล้วครับ

งานออกแบบสถาปัตยกรรม และพื้นที่ส่วนกลาง

ตัวโครงการ NUE District R9 เป็นคอนโด 1 อาคาร แบ่งเป็นทาวเวอร์ R สูง  33 ชั้น 550 ยูนิต 1 ร้านค้า และทาวเวอร์ 9  สูง 41 ชั้น มี 891 ยูนิต ทั้งสองอาคารตั้งอยู่บนโพเดียมที่ออกแบบเป็นพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่แบบเต็ม Floor ซึ่งจะมีพื้นที่ถึง 3,000 ตารางเมตรเลยทีเดียว และพื้นที่จอดรถ ตั้งอยู่บนส่วนโพเดียมของตึก 9 ทั้งหมด 6 ชั้น สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้ระหว่างสองตึก ส่วนที่ชั้น 7 ก็จะเป็นสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางของโครงการ

ทางเข้าตัวโครงการจะอยู่ถัดจาก Unilever House มานิดเดียว ติดกับถนนพระราม 9 เลยครับ โดยตัวอาคารจะเว้นระยะห่างจากถนนพระราม 9 ประมาณ 30 เมตร

เมื่อเข้ามาภายในพื้นที่โครงการแล้ว การเดินรถภายในโครงการจะเป็นการเดินรถทางเดียวรอบอาคาร เพื่อขึ้นพื้นที่จอดรถ โดยที่จอดรถของโครงการส่วนใหญ่จะเป็นแบบ Conventional และมีที่จอดรถอัตโนมัติ 15 คัน รองรับรถได้ประมาณ 40%

พื้นที่ส่วนกลางของโครงการจะเริ่มตั้งแต่ที่ชั้น G ของทั้งสองอาคาร โดยจะมีล็อบบี้ ห้อง Mail Room ห้อง Laundry แบบ Pick up และห้อง Food Delivery Pick up เพื่อรองรับไลฟ์สไตล์การสั่งอาหารและ ช้อปปิ้งออนไลน์

Moon Lobby ที่อาคาร R  พร้อมที่นั่งรับรอง ดีไซน์สุดโปร่งโล่งด้วยผนังกระจกที่สูงแบบ Double Volume

Cloud Lobby ที่อาคาร 9 ออกแบบส่วนต้อนรับให้มีดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากก้อนเมฆ พร้อมกับที่นั่งรับรอง และพักผ่อน

ส่วนด้านในสุดก็จะเป็นส่วนกลางแบบ Outdoor โดยจะเป็นสวนพักผ่อน พื้นที่สันทนาการ รวมถึงพื้นที่สนามเด็กเล่นด้วยครับ

ชั้นที่ 2-6 จะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ คือที่อาคาร R จะเป็นห้องพักอาศัย มีด้วยกันทั้งหมด 15 ยูนิตต่อชั้นโดยจะเชื่อมกับพื้นที่จอดรถของโครงการที่ส่วนของโพเดียมยาวไปจนสุดตัวอาคาร ซึ่งพื้นที่จอดรถของโครงการส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบ Conventional สามารถจอดได้ 40 % อย่างที่บอกไปครับ  โดยการรักษาความปลอดภัยตรงส่วนก็จะมีประตูคีย์การ์ด 2 จุด คือที่ประตูเปิดไปยังที่จอดรถ และประตูที่เปิดเข้าชั้นพักอาศัย

ถัดขึ้นมาจะเป็นส่วนกลางที่ชั้น 7 ตรงนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของโครงการนี้เลย เพราะเค้าออกแบบให้ชั้นนี้ทั้งชั้นเป็นพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมด โดยมีพื้นที่ถึง 3,000 ตารางเมตร ทำให้เกิดพื้นที่ใช้สอยส่วนขนาดใหญ่รองรับการพักผ่อนของลูกบ้านในโครงการ โดยโครงการจะออกแบบพื้นที่ส่วนกลางมาทั้งหมด 4 โซน 14 ได้แก่ Recreation Zone, Recharge Zone, Reinspire Zone และ Revive Zone

Recharge Zone : Urban Yoga & Pilates, Golf Simulator, Harmony Park

รีชาร์จโซนนี้จะอยู่ที่บริเเวณอาคาร R และเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางแบบ outdoor ของอาคาร โดยมี Urban Yoga & Pilates ออกแบบเป็นมุมสงบสำหรับออกกำลังยืดเส้นยืดสาย ห้อง Golf Simulator ใช้ฝึกวงสวิงได้ไม่ต้องเสียเวลาออกไปที่สนาม และ Harmony Park เป็นสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 1,400 ตารางเมตร ที่เชื่อมระหว่างสองอาคาร ปลูกต้นไม้ร่มรื่น มี Gazebo สำหรับนั่งพักผ่อนในสวน และมีพื้นที่สำหรับเด็กครับ

Mellow Co-kitchen พร้อมชุดครัว และอุปกรณ์ทำอาหาร

พื้นที่ศิลปะ Art Hub ออกแบบให้สามารถเปิดเชื่อมต่อไปยังโซน Outdoor ด้านนอกได้

Recharge Zone : Urban Yoga & Pilates, Golf Simulator, Cityscape Garden
รีชาร์จโซนนี้จะอยู่ที่บริเเวณอาคาร R และเชื่อมต่อออกไปยังพื้นที่ส่วนกลางแบบ outdoor ของอาคาร โดยมี Urban Yoga & Pilates ออกแบบเป็นมุมสงบสำหรับออกกำลังยืดเส้นยืดสาย ห้อง Golf Simulator ใช้ฝึกวงสวิงได้ไม่ต้องเสียเวลาออกไปที่สนาม และ Cityscape Garden เป็นสวนส่วนกลางขนาดใหญ่ถึง 1,400 ตารางเมตร ที่เชื่อมระหว่างสองอาคาร ปลูกต้นไม้ร่มรื่น มี Gazebo สำหรับนั่งพักผ่อนในสวน และมีพื้นที่สำหรับเด็กครับ

ห้อง Urban Yoga & Pilates ออกแบบให้รับวิวสวน Harmony Park และสามารถเปิดเชื่อมต่อออกไปได้

Harmony Park เป็นสวนที่เชื่อมต่อระหว่างอาคาร R ไปยังอาคาร 9 ออกแบบให้มีพื้นที่พักผ่อนอย่างเป็นส่วนตัวให้เลือกใช้งานหลายจุด

Reinspire Zone : Synergy Space & Library, Private Focus Room

โซนรีอินสไปร์ จะอยู่ภายในอาคาร 9 โดยจัดเอาพื้นที่ใช้สอยส่วนกลางที่ต้องการความเงียบสงบมาไว้ที่อาคารด้านหลังเพื่อให้เกิดความสงบมากที่สุด โดยจะมี Synergy Space & Library เป็นพื้นที่อ่านหนังสือ พื้นที่ทำงาน และมี Private Focus Room เป็นห้องแยกส่วนตัวสำหรับงานที่ต้องการสมาธิคั้นไอเดียสร้างสรรค์ใหม่ ๆ

Synergy Space & Library พร้อมมุมอ่านหนังสือ และพื้นที่ทำงาน Private Focus Room สำหรับการทำงาน หรืออ่านหนังสือที่ต้องการความสงบเป็นส่วนตัว

Revive Zone : Mingle Games Room (VR station, E-Sport, Pool Lounge, Board Game), Private Spa Room, Styling Salon, Recess Garden Screen reader support enabled

รีไวฟ์โซน จะอยู่ถัดมาทางด้านหลังของอาคาร 9  เพื่อให้เป็นพื้นที่ๆ มีความไพรเวท เป็นส่วนตัว โดยจะมีห้อง Mingle Games Room ที่จัดไว้เป็น VR station, E-Sport, Pool Lounge และ Board Game สำหรับเล่นสนุกได้ มี Private Spa Room สำหรับพักผ่อนคลายเครียดแบบเป็นส่วนตัว และ Styling Salon สำหรับตัดแต่งทรงผมซึ่งเราสามารถจ้างช่างจากภายนอกมาตัดให้เราแบบเป็นส่วนตัวได้ด้วยนะ

Private Spa Room พื้นที่สปาแบบเป็นส่วนตัวออกแบบให้ดูโปร่งโล่งด้วยผนังกระจกสูงถึงฝ้าเพดาน

Styling Salon พื้นที่สำหรับตัดผม เสริมสวย แบบไม่ต้องไปไหนไกลสามารถจ้างช่างมาทำที่โครงการได้เลย

สำหรับอาคาร R  ชั้น 8 ไปจนถึงชั้น 32 จะเป็นโซนพักอาศัยทั้งหมดครับ โดยมียูนิตต่อชัันสูงสุดที่ 19 ยูนิต
 

ส่วนอาคาร 9 จะเริ่มตั้งแต่ชั้นที่ 8 ไปจนถึงชั้นที่ 40 โดยมียูนิตต่อชั้นสูงสุด 27 ยูนิต

สำหรับส่วนกลางชั้น Rooftop ก็จะมีอยู่ทั้ง 2 อาคารเลยครับ โดยที่อาคาร R  ส่วนกลาง Rooftop จะเริ่มที่ชั้น 33 ส่วนอาคาร 9 จะเริ่มที่ชั้น 41 

เริ่มที่อาคาร R กันก่อนครับ ชั้นที่ 33 จะจัดให้ฟิตเนสให้ออกสู่ถนนพระราม 9 โดยมุมนี้ก็จะสามารถเห็นวิวเมืองแยกพระราม 9 ทางด่วน และ City scape ฝั่งสุขุมวิทได้ มี Surf Studio สำหรับออกกำลังกายด้วยการเล่นเครื่องเซิร์ฟ ถัดมาเป็น Rising Pool ขนาด 5×25 เมตร หันรับวิวทิศตะวันออก ภายในมีทั้ง Lap Pool จากุชชี่ สระเด็ก และสระน้ำตื้น โดยตรงส่วนนี้จะมีบันไดวนที่เชื่อมไปยังส่วนกลางชั้นดาดฟ้า อีกฝั่งจะเป็น Ivory Lounge เป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนสังสรรค์ดื่มด่ำวิวเมืองพร้อมพื้นที่แบบ Semi Outdoor  สำหรับส่วนห้องน้ำก็จะมี Steamroom เตรียมไว้ด้วย

ห้องฟิตเนสออกแบบรับวิวเมืองแบบพาโนรามา

Surf Studio สำหรับออกกำลังกายด้วยการเล่นเครื่องเซิร์ฟ

Rising Pool สระว่ายน้ำ พร้อมจากุซชี่ และสระเด็กหันรับวิวเมืองทางทิศตะวันออก

Ivory Lounge ออกแบบให้ใช้ผนังกระจกแบบเต็มบาน รับวิวเมืองฝั่งแยกพระราม 9 ได้เต็มอิ่มทีเดียว

ที่ชั้นดาดฟ้าเลยจะมี Rooftop garden โดยมี sky bridge เป็นสะพานเชื่อมระหว่างสวนด้านหน้ากับสวนทางด้านหลัง และยังใช้เป็นจุดชมวิวเมืองสวย ๆ ได้

ส่วนอาคาร 9 ส่วนกลาง Rooftop เริ่มที่ชั้น 41 ครับ โดยจัดเอา Indigo Lounge ของโครงการไว้ส่วนด้านหน้าอาคาร ซึ่งจะมีประตูเปิดไปยังโซน Semi Outdoor ได้ด้วยเช่นกัน ถัดมาเป็น Twilight Pool ขนาด 5×25 เมตรที่หันรับวิวเมืองทางทิศตะวันตก ซึ่งภายในจะมีทั้ง Lap Pool พร้อมจากุซชี่ สระเด็ก สระน้ำตื้น และ The Sunken Pavilion ส่วนด้านหลังจะเป็น ที่นั่งแบบ ฟิตเนส Energy Club (Gym) ที่เปิดเชื่อมไปยัง Live Training Studio ได้

พื้นที่ฟิตเนส Energy Club (Gym) หันรับวิวเมืองทางถนนรัชดาภิเษก ศูนย์วัฒนธรรม

Twilight Pool สระว่ายน้ำของตึก 9 จะหันรับวิวทางทิศตะวันตกครับ ทำให้สามารถรับวิวเมือง และพระอาทิตย์ตกดินสวย ๆ ได้

Indigo Lounge

และที่ชั้นดาดฟ้าเป็น  Panoramic roof garden พร้อม sky bridge เป็นสะพานเดินเชื่อม

สำหรับระบบรักษาความปลอดภัยก็ใช้ตามมาตรฐานของคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองครับ โดยจะนำระบบ Face Scan มาใช้ควบคุมการเข้าออกอาคาร ใช้ระบบ Keycard เพื่อเข้าโถงลิฟท์ และสั่งการลิฟท์แบบล็อคชั้น มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมกล้อง CCTV

ROOM TYPE

สำหรับแบบห้องพักภายในโครงการ NUE District R9 จะมีด้วยกันทั้งหมด 5 แบบหลักครับ โดยลักษณะของแปลนห้องจะเป็นดีไซน์แบบห้องหน้ากว้างมีขนาดพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 26 – 46 ตารางเมตร ซึ่งถือว่าเป็นขนาดพื้นที่ใช้สอยที่เหมาะกับการอยู่อาศัยในเมืองของคนรุ่นใหม่ โดยทางโครงการจะขายห้องเป็นแบบ Fully Furnished มีเฟอร์นิเจอร์ครบพร้อมเข้าอยู่ พร้อมประตูแบบ Digital Doorlock ทุกยูนิต เพิ่มความสะดวกให้แก่เจ้าของห้องไม่ต้องเหนื่อยซื้อหาเฟอร์นิเจอร์เอง

• 1 Bed M พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 26.00 ตารางเมตร
• 1 Bed L พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 30.20 ตารางเมตร
• 1 Bed Plus พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 34.80 ตารางเมตร
• 2 Bed 1 Bath พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 40.50 ตารางเมตร
• 2 Bed 2 Bath พื้นที่ใช้สอย ประมาณ 46.00 ตารางเมตร

… … … … … … … … … … … … … … … … … … …

ห้องตัวอย่างแบบ 1 Bed M พื้นที่ใช้สอย 26.00 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน 26 ตารางเมตร ตัวห้องจะมีหน้ากว้างที่ 5.3 เมตร การออกแบบห้องนี้จะแบ่งแปลนออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ครับ นั่นคือ Living Area + Dinning Area และอีกส่วนจะเป็นห้องนอน + ห้องน้ำ โดยโครงการจะดันส่วน Living Area กับห้องนอนไว้ติดกับด้านนอกของห้องเพื่อให้สามารถรับวิว และแสงธรรมชาติได้ดีช่วยให้ห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้น และส่วนห้องนอนของยูนิตนี้จะมีผนังกั้นส่วนทำให้การพักผ่อนมีความเป็นส่วนตัวมากยิ่งขึ้นครับ

มาดูภายในห้องกันครับ เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายในห้อง ทางซ้ายมือจะเจอกับตู้เก็บรองเท้าก่อน และถัดไปจะเป็นโต๊ะรับประทานอาหาร ส่วนฝั่งขวามือจะเป็นครัวเปิด

ส่วน Living Area ออกแบบให้รวมเอาส่วนใช้สอยทั้ง มุมนั่งเล่น โต๊ะรับประทานอาหารสำหรับ 2 ที่นั่ง และห้องครัวเปิดไว้ด้วยกัน

ตู้เก็บรองเท้าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานที่โครงการให้มาพร้อมกับห้องตอนส่งมอบครับ ตู้จะเป็นบานเปิดคู่ภายในแบ่งชั้นวางออกเป็น 3 ชั้นครับ 

อีกฝั่งจะเป็นครัวเปิด ทางโครงการจะแถมชุดครัวเป็นสีเทาโทนเข้มมากับห้อง โดยชุดครัวที่่ได้จะมีทั้งตู้แขวนผนัง และตู้ตั้งพื้น

ตู้แขวนผนังจะให้มา 3 ใบ โดยใบทางซ้ายมือจะเป็นตู้ด้านบนฮู้ดดูดควันครับ และจะมีตู้บานเปิดพร้อมชั้นแบ่งในตู้ให้อีก 2 ใบ ถือว่าโครงการให้ตู้ครัวมาเยอะพอสมควรครับ สามารถใช้เก็บของกินของใช้ต่าง ๆ ได้เยอะทีเดียวครับ

ฮู้ดดูดควันที่ทางโครงการให้มาจะเป็นแบบสลิมไลน์ ยี่ห้อ Hafele หรือเทียบเท่าครับ

ท็อปครัวให้พื้นที่มาค่อนข้างเยอะครับ ช่วยให้เราใช้งานได้สะดวก โดย เตาจะได้เป็นเตาไฟฟ้า 2 หัว แบบฝังลงเคาน์เตอร์ ส่วนท็อปครัวเป็นหินสังเคราะห์พร้อมติด Backsplash ให้

ถัดมาเป็นก๊อกน้ำ และซิงค์ล้างจานทรงสี่เหลี่ยมแบบฝังลงเคาน์เตอร์ครับ

ตู้ตั้งพื้นทางซ้ายมือจะแบ่งเป็นตู้ลิ้นชัก ช่องเว้นไว้สำหรับวางไมโครเวฟ และด้านล่างสุดเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บจานชามของใช้ครับ ด้านขวามือเป็นตู้ใต้ซิงค์ล้างจาน

ลิ้นชักชั้นบนจะมีช่องแบ่งสำหรับเก็บช้อนส้อมมาด้วย

ส่วนตู้ลิ้นชักชั้นล่างจะเป็นตู้ที่ไม่ลึกมาก สามารถใช้จานชาม และของใช้ได้พอประมาณครับ

มาต่อที่ส่วนนั่งเล่น พื้นที่ตรงนี้มีสูงจากพื้นถึงเพดานที่ 2.6 เมตร และอยู่ใกล้กับด้านนอกของอาคารทำให้สามารถรับวิวภายนอก รวมถึงยังได้แสงธรรมชาติช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้นด้วย โดยส่วนนั่งเล่นนี้โครงการจะให้โซฟาผ้า 2 ที่นั่ง และโต๊ะกลางมาพร้อมกับห้องครับ

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นตู้วางโทรทัศน์ ข้าง ๆ จะเป็นประตูที่เปิดไปสู่ห้องนอน

โดยตัวตู้จะเป็นบานสไลด์สามารถเปิดสลับกันได้ และมีช่องสำหรับวางของใช้ต่าง ๆ โดยตรงนี้จะมีระยะจากโซฟาไปยังโทรทัศน์รองรับขนาดจอ 40 นิ้วขึ้นไปได้สบายๆ

ถัดจากส่วนนั่งเล่นไปจะเป็นประตูบานเลื่อนกระจกขนาดใหญ่ที่เปิดออกสู่ระเบียงห้อง ซึ่งการจัดส่วนนั่งเล่นไว้ใกล้กับระเบียงห้องจะช่วยให้พื้นที่ตรงส่วนนี้ดูโปร่งโล่ง ได้บรรยากาศน่าพักผ่อนมากยิ่งขึ้นด้วยครับ

ที่ระเบียงห้องจะจัดมุมสำหรับวางเครื่องซักผ้าเอาไว้ตรงจุดนี้ โดยโครงการจะเดินท่อน้ำดี-น้ำทิ้งไว้ให้ พร้อมกับมีปลั๊กไฟ และกริลช่วยบังสายตา

ห้องนอนออกแบบได้น่าอยู่ทีเดียว โดยมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.6 เมตร รวมทั้งยังให้กระจกสูงแบบ Full Height ด้วยทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งโล่งดีครับ

ภายในห้องนอนเราจะได้เตียงนอนขนาด 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้งข้างเตียง และตู้เสื้อผ้ามาพร้อมกับห้องตอนส่งมอบด้วยนะ ช่วยเพิ่มความสะดวกให้เจ้าของห้องไม่ต้องเสียเวลาเดินเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์เอง

ตู้เสื้อผ้าที่ทางโครงการให้จะเป็นทรงสูงจนถึงฝ้าเพดาน ตัวหน้าบานจะติดกระจกเงาให้แบบในห้องตัวอย่าง

ภายในตู้เสื้อผ้าสามารถแขวนเสื้อผ้าได้พอสมควรครับ ด้านบนจะเป็นชั้นให้สามารถเก็บของใช้อื่น ๆ ได้อีก

ถัดจากตู้เสื้อผ้าจะเป็นประตูที่เปิดไปยังห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำโครงการจะออกแบบให้สุขภัณฑ์ต่าง ๆ วางชิดไว้ที่ผนังฝั่งเดียวกันแบบนี้ ด้านข้างโถสุขภัณฑ์มีช่องสำหรับติดชั้นวางของได้ครับ โดยสุขภัณฑ์ที่โครงการให้ก็จะตามรายการในห้องตัวอย่างเลยครับ

พื้นที่อาบน้ำของห้องจะติดฉากกั้นเป็นกระจกนิรภัยให้ พร้อมชุดฝักบัวพร้อมราวปรับระดับแบบในห้องตัวอย่าง

… … … … … … … … … … … … … … … … … … …

ห้องตัวอย่าง NUE District R9
แบบ 1 ห้องนอนพลัส พื้นที่ใช้สอย 34.60 ตารางเมตร

ห้องแบบ 1 ห้องนอนพลัส ดีไซน์จะเป็นลักษณะห้องหน้ากว้างครับ โดยห้องนี้มีความกว้างอยู่ที่  8.05 เมตรเลยทีเดียว ลักษณะการจัดแปลนก็จะวาง Dining Area และครัวเปิด ไว้ใกล้ประตูทางเข้าห้อง และจับเอาห้องนอง Living Area และห้องอเนกประสงค์ (ห้องพลัส) ไว้ส่วนใกล้กับด้านนอกของอาคาร ช่วยให้สามารถรับวิวมุมสูงด้านนอก รวมถึงแสงธรรมชาติที่สามารถส่องผ่านเข้ามาได้ดียิ่งขึ้นด้วยครับ

เมื่อเข้ามาภายในห้องจะพบกับชุดครัวอยู่ทางซ้ายมือเป็นส่วนแรกครับ ซึ่งข้อดีของการวางครัวไว้ในตำแหน่งนี้คือเมื่อเรากลับมาถึงห้องเราสามารถวางพักของที่ถือมาเพื่อถอดเก็บรองเท้าให้เรียบร้อยก่อนเข้าห้อง สำหรับชุดครัวที่โครงการให้จะมีทั้งตู้แขวนผนัง ตู้ตั้งพื้นพร้อม Backsplash แบบในห้องตัวอย่างครับ

สำหรับตู้แขวนผนังที่ให้มาจะมี 3 ใบครับ จะเป็นตู้บานเปิดแบบ ภายในตู้มีชั้นแบ่งจัดหมวดหมู่ของที่จะเก็บได้เป็นระเบียบมากขึ้น

ส่วนท็อปครัวใช้เป็นหินสังเคราะห์สีขาว  ทางซ้ายมือเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว ด้านบนเป็นฮู้ดดูดวันแบบสลิมไลน์ ส่วนทางขวาเป็นซิ้งค์ล้างจานทรงเหลี่ยมแบบฝังลงเคาน์เตอร์ ที่ผนังติด backsplash  ให้ครับ

ใต้เตาไฟฟ้าเป็นลิ้นชักสำหรับเก็บช้อนส้อมพร้อมช่องแบ่งมาให้เรียบร้อย

ส่วนตู้ตั้งพื้นใบแรกจะเป็นบานเปิดด้านในแบ่งเป็นสองชั้นแบบในภาพ ตรงกลางเว้นพื้นที่ไว้สำหรับเครื่องซักผ้า ส่วนทางขวามือเป็นตู้ใต้ซิงค์ล้างจานครับ

เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานในแบบ 1 ห้องนอนพลัส 34.60 ตารางเมตร ทางโครงการจะให้ตัว Island มาด้วยครับ โดยด้านบนก็ใช้วางของกินของใช้ต่าง ๆ ได้ ส่วนตู้ด้านล่างแต่ละด้านก็จะมีฟังก์ชันที่แตกต่างกันออกไป อย่างด้านนี้จะเป็นที่วางไมโครเวฟ ส่วนอีกด้านจะเป็นตู้บานเปิดด้านในมีตัวแบ่งเป็น 2 ชั้นครับ

ด้านข้างเป็นตู้บานเปิด เราสามารถใช้เป็นตู้เก็บของใช้ต่าง ๆ หรือจะเป็นตู้เก็บรองเท้าก็ได้นะ

อีกฝั่งของตู้เป็นช่องไว้วางของแบบนี้ ถัดไปจะเป็นโต๊ะทานอาหารสามารถจัดโต๊ะเก้าอี้นั่งทานได้ 4 คน ในห้องตัวอย่างโต๊ะกับ island จะบิ้วติดเป็นชิ้นเดียวกัน ส่วนเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานที่ได้พร้อมตอนส่งมอบตัวโต๊ะกับ island จะแยกชิ้นกันนะครับ

ภายในยูนิตแบบ 1 ห้องนอนพลัสจะออกแบบแปลนให้พื้นที่อเนกประสงค์ (ห้องพลัส) ส่วนนั่งเล่น และห้องนอนไว้เป็นส่วนติดกับด้านนอกของอาคาร โดยห้องอเนกประสงค์นี้โครงการจะเตรียมเตียงขนาด 3 ฟุต มาให้ แต่โครงการก็ได้นำเสนอไอเดียปรับเปลี่ยนใช้ห้องนี้เป็นมุมนั่งทำงาน ก็สามารถทำได้ครับ

สำหรับพื้นที่อเนกประสงค์ในห้องมาตรฐานที่ส่งมอบ ผนังกันส่วนด้านหลังโทรทัศน์จะเป็นผนังทึบนะครับ

มาต่อกันที่ส่วนนั่งเล่น พื้นที่ตรงนี้ได้ความโปร่งโล่งมากเพราะอยู่ใกล้กับประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ที่เปิดสู่ระเบียงทำให้ได้แสงธรรมชาติส่องผ่านเข้ามาช่วยให้บรรยากาศของห้องดูสบาย ๆ น่าพักผ่อน โดยตรงส่วนนี้เราจะได้เฟอร์นิเจอร์มาตรฐานจะมีโซฟา โต๊ะกลาง และตู้วางโทรทัศน์

ถัดจากส่วนนั่งเล่นไปจะเป็นห้องนอน โดยประตูทางเข้าอยู่ติดกับโซฟาครับ ส่วนประตูข้าง ๆ กันจะเป็นประตูห้องน้ำครับ

ห้องนอนมีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว หน้าต่างห้องมีขนาดใหญ่สูงถึงฝ้าเพดานช่วยรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาภายในห้องได้ดีขึ้น ฝ้าเพดานในห้องอยู่สูงที่ 2.6 เมตรทำให้บรรยากาศในห้องดูโปร่งมากยิ่งขึ้น ส่วนเฟอร์นิเจอร์มาตรฐานของห้องนี้จะมีเตียงนอน 5 ฟุต โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า

ตู้เสื้อผ้าที่โครงการแถมมากับห้องก็สามารถเก็บเสื้อผ้า และของใช้ต่าง ๆ ได้พอสมควรนะ ด้านบนมีช่องสำหรับเก็บของใช้ต่าง ๆ อย่างผ้านวม หรือหมอน และมีช่องด้านขวามือสามารถวางกระเป๋าเดินทางได้

สำหรับห้องน้ำรายการสุขภัณฑ์ที่ได้ก็จะมี อ่างล้างมือพร้อมตู้ใต้อ่าง กระจกเงาติดผนัง โถสุขภัณฑ์ ตู้เก็บของ พื้นที่อาบน้ำติดกระจกกั้นอาบน้ำให้พร้อมฝักบัว และราวปรับระดับความสูง

นอกจากนี้ภายในสำนักงานขายก็ยังมีห้องแบบอื่น ๆ อีก 2 แบบครับ นั่นคือ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30.20 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 46.00 ตารางเมตร โดยทีมงานได้เก็บภาพบรรยากาศห้องมาฝากกันด้วยครับ

… … … … … … … … … … … … … … … … … … …

ห้องตัวอย่าง NUE District R9
แบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30.20 ตารางเมตร

ภาพรวมของแปลนห้องจะคล้ายกับแบบ 26.00 ตารางเมตรเลย แต่จะสลับตำแหน่งระหว่างส่วนนั่งเล่น กับครัว โดยห้องนี้ส่วนนั่งเล่นจะอยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้อง ส่วนห้องครัวจะได้เป็นครัวปิดอยู่ใกล้กับระเบียงซึ่งจะเหมาะมากกับผู้ที่ชอบทำอาหารเป็นประจำ สำหรับในส่วนห้องนอนตำแหน่งเตียงนอนวางใกล้หน้าต่างห้อง แต่ที่พิเศษคือห้องนี้จะมี walk in closet มีตู้เสื้อผ้า 2 ใบครับ

ภายในส่วนนั่งเล่น บรรยากาศ และหน้าตาจะคล้ายกับแปลน 1 ห้องนอนที่ใช้กันในตลาดคอนโดมิเนียมครับ

ส่วนใช้สอยต่าง ๆ ภายในห้องดูเป็นสัดส่วนดี

พื้นที่ส่วนห้องนอนมีความกว้างขวาง และโปร่งโล่งดี

ถัดจากส่วนเตียงนอนไปจะเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง และ walk in closet โดยเว้นทางเดินตรงกลางไว้สำหรับเปิดสู่ห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำวางแปลนสุขภัณฑ์ไว้คล้ายกับแบบ 26.00 ตารางเมตร รวมถึงรายการสุขภัณฑ์ที่ให้มาพร้อมกับห้องก็จะได้แบบเดียวกันครับ

… … … … … … … … … … … … … … … … … … …

ห้องตัวอย่าง NUE District R9
แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 46.00 ตารางเมตร

สำหรับแปลนห้องแบบ 2 ห้องนอน 46.00 ตารางเมตร จัดวางส่วน Living Area ให้เป็นพื้นที่ใช้สอยร่วมกันของสมาชิกในครอบครัว โดยพื้นที่ตรงส่วนนี้จะรวมเอาทั้งส่วนนั่งเล่น โต๊ะทานอาหาร และครัวเปิดไว้ด้วยกันจึงเกิดเป็นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ที่โปร่งโล่ง เพื่อให้การใช้สอยได้อารมณ์คล้ายบ้าน โดยมีห้องน้ำใกล้บริเวณห้องครัวเพื่อใช้งานร่วมกัน  ในส่วนห้องนอนที่ 1 จะมีฟังก์ชันครบทั้งห้องนอน โต๊ะเครื่องแป้ง ตู้เสื้อผ้า และห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนที่ 2 มีพื้นที่กว้างขวางดีภายในห้องมีเตียงนอน โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้า โดยจะใช้ห้องน้ำร่วมกับส่วน Living Area ครับ

บรรยากาศภายในส่วน Living Area ออกแบบให้ส่วนนั่งเล่น โต๊ะทานอาหาร และห้องครัว รวมไว้ในพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่เพื่อรองรับกิจกรรมการพักผ่อนของครอบครัว

บรรยากาศภายในห้องนอนที่ 1

บรรยากาศภายในห้องนอนที่ 2

ราคาคอนโด NUE District R9

สำหรับราคาของโครงการ NUE District R9 ก็นับว่าเปิดตัวด้วยราคาที่น่าเป็นเจ้าของมากทีเดียวครับ โดยโครงการเปิดขายห้องในราคาเริ่มต้นที่ 2.9 ล้านบาท

ซึ่งราคาเริ่มต้นของโครงการก็นับว่าทำออกมาตอบโจทย์กลุ่มคนรุ่นใหม่ คนวัยทำงาน พนักงานบริษัท ไปจนถึงกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการลงทุนคอนโดในทำเลที่มีศักยภาพสูงอย่างแท้จริง ก็ถือว่าโครงการ NUE District R9 เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจมากครับ เพราะโครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ที่ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ๆ ครบทั้งห้องทำให้ห้องที่ส่งมอบพร้อมเข้าพักอาศัย หรือปล่อยเช่าเพื่อสร้างรายได้

ที่สำคัญคือราคาเฉลี่ยของโครงการเริ่มต้นอยู่ 134,000 บาท/ตารางเมตรเท่านั้น ซึ่งหากมองราคาเฉลี่ยที่ของคอนโดที่เปิดขายอยู่ในทำเลนี้ก็จะว่ายังมีช่องว่างให้ราคาปรับขึ้นได้อีกเยอะทีเดียวครับ รวมไปถึงการพัฒนาโปรเจคขนาดใหญ่ในที่ส่งผลด้านบวกให้กับโครงการ เช่น รถไฟฟ้าสายส้มที่มีอินเตอร์เชนจ์กับ MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรม รวมไปถึงแปลงที่ดินขนาดใหญ่ด้านข้างเซ็นทรัล พระราม 9 ที่มีข่าวว่าจะพัฒนาเป็นโครงการมิกซ์ยูสที่มีทั้งพื้นที่การค้า สำนักงาน ซึ่งหากเกิดขึ้นจริงก็จะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับห้องที่เราซื้อไปอย่างมากทีเดียวครับ

SUMMARY

ภาพรวมโครงการ และไฮไลท์สำคัญ

• NUE District R9 เป็นคอนโดมิเนียมสูง 2 อาคาร สูง 33 ชั้น และ  41 ชั้น ที่อยู่ใจกลางความสะดวกสบายของทำเลพระราม 9 ด้วยระยะห่างที่สามารถเดินไปถึงด้วยเวลาไม่กี่นาทีเท่านั้น
• ตัวอาคารทั้งสองอาคาร วางอยู่บนโพเดียมขนาดใหญ่สามารถเดินเชื่อมต่อกันได้
• มีพื้นที่จอดรถให้ 40% เป็นแบบ Conventional ทั้งหมด
• สิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการจัดมาหลากหลายถึง 8 โซน 50 facilities ตอบโจทย์การใช้สอยทั้งพักผ่อน ทำงาน ของกลุ่มคนวัยทำงานได้เป็นอย่างดี
• แต่ละอาคารมีล็อบบี้ และ Rooftop Facilities แยกเฉพาะอาคาร  main facilities อยู่ที่ชั้น 7 ออกแบบเป็นส่วนกลางแบบเต็มพื้นที่ประมาณ 3,000 ตารางเมตร จัดโซนแยกประเภทการใช้งานได้ดีช่วยให้สามารถใช้งานได้โดยไม่รบกวนกัน
• ยูนิตพักอาศัยเป็นแบบหน้ากว้าง ให้กระจกหน้าต่างบานใหญ่ และมีความสูงจากพื้นถึงเพดานที่ 2.6 เมตร ทำให้ภายในห้องดูโปร่งโล่งน่าพักอาศัย
• มีแบบห้องตั้งแต่ขนาด 26.00 – 46.00 ตารางเมตร ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การพักอาศัยที่แตกต่างกัน รวมถึงยังตอบโจทย์กลุ่มนักลงทุนอีกด้วย
• การออกแบบแปลนห้องถือว่าลงตัวใช้สอยได้สะดวก
• โครงการขายห้องแบบ Fully Furnished ทำให้ห้องที่ส่งมอบมีเฟอร์นิเจอร์พร้อมอยู่ เจ้าของห้องไม่ต้องหาซื้อเฟอร์นิเจอร์เอง รวมถึงสะดวกกับผู้ที่ลงทุนคอนโดเพื่อปล่อยเช่าอีกด้วย

ทำเล และการเดินทาง

• ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ MRT สถานีพระราม 9 เพียง 180 เมตร สามารถเดินไปยังสถานีรถไฟฟ้าได้โดยไม่ต้องข้ามถนน จึงสะดวกกับผู้ที่ต้องเดินทางด้วย MRT เป็นประจำ
• โครงการอยู่ใกล้กับจุดเชื่อมต่อการคมนาคมสำคัญของทำเล ได้แก่ ทางด่วนศรีรัชทีแยก อ.ส.ม.ท สามารถนั่งรถไฟ MRT ไป 1 สถานีเชื่อมต่อกับรถไฟแอร์พอร์ทเรลลิ้งค์สถานีมักกะสัน  และยังอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้าสายสีส้มที่สถานีศูนย์วัฒนธรรมอีกด้วย
• ที่ตั้งโครงการอยู่ในจุดเป็นคอนโดใกล้ห้าง และอาคารสำนักงานขนาดใหญ่ พื้นที่กว่า 140,000 ตรม. ได้แก่ ยูนิลีเวอร์ เฮ้าส์  G Tower อาคารเดอะไนน์  รวมถึงศูนย์การค้าขนาดใหญ่ ได้แก่ เซ็นทรัล พระราม 9 ฟอร์จูนทาวน์ มีระยะห่างที่สามารถใช้เวลาเดินไปเพียงไม่กี่นาทีเท่านั้น
• ห่างจาก CBD สำคัญของกรุงเทพ อย่างอโศกไปเพียง 2 สถานีรถไฟฟ้า และยังเชื่อมต่อไปย่านสำคัญอื่น ๆ เช่น พร้อมพงษ์ เพลินจิตได้สะดวกรวดเร็ว

เหมาะกับใคร

• โครงการ NUE District R9 เหมาะกับคนรุ่นใหม่ พนักงานบริษัท กลุ่มอาชีพพิเศษที่รายได้สูงที่ทำงานในโซนพระราม 9
• ผู้ที่ทำงานในย่านสำนักงานใจกลางเมือง เช่น อโศก สาทร สีลม พร้อมพงษ์ เพลินจิต
• ผู้ที่ใช้งานรถไฟฟ้า MRT เป็นประจำ เช่น เดินทางไปทำงาน หรือไปศึกษาในสถานศึกษาใกล้เคียง
• นักลงทุน และผู้ที่มองหาคอนโดในทำเลศักยภาพสูง เช่น คอนโดใกล้ห้าง ใกล้สำนักงานขนาดใหญ่เป็นที่ตั้งของบริษัทข้ามชาติชั้นนำ
• ผู้ที่ชื่นชอบสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางขนาดใหญ่มีให้เลือกหลากหลาย
• ผู้ที่มีงบประมาณในการซื้อคอนโดมิเนียมตั้งแต่ 3 ล้านบาทขึ้นไป มีกำลังผ่อนชำระต่อเดือน 1 หมื่นต้นๆ

ลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุด 340,000 บาท* คลิกที่นี่