รีวิว ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ (Supalai Parc Ekkamai-Pattanakarn)  คอนโด High Rise ติดถนนพัฒนาการใกล้ Airport Rail Link สถานีรามคำแหง เดินทางง่ายสะดวกสบาย รองรับไลฟ์สไตล์คนเมืองด้วยเส้นทางรอบโครงการที่เชื่อมไปสู่ย่านเอกมัยและทองหล่อ ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วนฉลองรัช แถมโครงการ Supalai Parc เอกมัย-พัฒนาการ ยังตั้งอยู่ในทำเลถนนที่สามารถเดินทางต่อไปยังถนนหลักได้หลายสาย เชื่อมต่อผู้อยู่อาศัยเข้ากับย่านเมืองหลวง

โดยการกลับมาคราวนี้ของทางศุภาลัย ปาร์ค มาพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ด้วยแนวคิด Rest to Recharge, Live in your PARC เปลี่ยนชื่อชื่อจาก Supalai ‘Park’ สู่ Supalai ‘Parc’ ให้ทุกคนได้พักผ่อนในที่พักอาศัยที่เป็นมากกว่าบ้าน พร้อมลูกเล่นใหม่ ๆ มากมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ชีวิต Modern Living ของคนเมืองในปัจจุบัน เป็นโครงการแรกที่มีการรับประกันโครงสร้าง 10 ปี และมีการรับประกันส่วนควบห้องชุดลูกค้า 3 ปีค่ะ

ภายโครงการจะมีทั้งหมด 2 อาคาร ประกอบไปด้วย อาคาร A 30 ชั้น และอาคาร B 27 ชั้น รวมทั้งหมด 1,642 ยูนิต ตัวโครงการ ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ สร้างบนพื้นที่สนามกอล์ฟเก่า ติดกับถนนพัฒนาการและกินพื้นที่ไปจนถึงถนนเส้นรถไฟที่อยู่ด้านหลัง  เดินทางเข้าเมืองสะดวกเหมาะสำหรับชาวพนักงานออฟฟิศมาก ๆ เพราะเป็นทำเล Easy Connect มีการเชื่อมต่อการเดินทางหลากหลายเส้นทาง ใกล้กับจุด ขึ้น-ลง ทางด่วนฉลองรัชที่มุ่งหน้าไปยังอาจณรงค์-รามอินทรา และวงแหวนรอบนอกฝั่งตะวันออก  มีกำหนดเริ่มสร้างปลายปี 2566 วางแผนแล้วเสร็จในปลายปี 2569

ข้อมูลโครงการ Supalai Parc Ekkamai-Pattanakarn (ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ)

LOCATION : ทำเลโครงการ ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ

ทำเลของโครงการ ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ เป็นทำเลที่เขยิบห่างออกจากย่านใจกลางเมืองมาเล็กน้อย โดยโครงการจะตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ ใกล้จุดขึ้น-ลง ทางด่วนฉลองรัชและทางด่วนศรีรัช สามารถแตกแขนงเชื่อมต่อเส้นทางไปได้หลายสาย ทั้งย่านสุขุมวิท ย่านทองหล่อ ถนนรามคำแหง และถนนเพชรบุรี

นอกจากการเดินทางโดยทางด่วนแล้ว จุดนี้ยังเป็นทำเลที่อยู่ใกล้กับ Airport Rail Link สถานีรามคำแหงเพียง 700 เมตรเท่านั้น โดยทางโครงการจะมี Shuttle Service คอยบริการรับ-ส่ง ไปยัง Airport Rail Link เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายอีกด้วยค่ะ

รอบ ๆ โครงการจะมีทางพิเศษทั้งหมด 2 สายที่วิ่งมาตัดกันตรงบริเวณโครงการ คือ ทางพิเศษศรีรัช และทางพิเศษฉลองรัช โดยในส่วนของสภาพแวดล้อมบริเวณโดยรอบสงบและไม่วุ่นวายค่ะ สามารถเดินทางออกไปตามถนนหลักเส้นต่าง ๆ เพื่อไปยังห้างค้าใหญ่ ๆ หรือ Comunity Mall ได้ มีข้อดีคือเป็นทำเลที่เดินทางต่อไปได้หลากหลายที่ มีบรรยากาศรอบด้านที่ค่อนข้างสงบและเป็นส่วนตัว

ตรงเส้นพัฒนาการถ้าขับออกไปเพียง 3.4 กิโลเมตรก็จะเจอกับห้าง Lotus พัฒนาการสาขาใหญ่  หากขับขึ้นไปทางถนนรามคำแหงก็จะมีฟู้ดแลนด์ หัวหมาก, The Mall รามคำแหง, โฮมโปร,  Big C หัวหมาก และตลาดนัดกกท. (การกีฬาแห่งประเทศไทย) ตั้งอยู่ถัดจากราชมังคลากีฬาสถาน เป็นถนนสายที่ขับยาวไปบรรจบกับแยกลำสาลีในเขตบางกะปิได้ 

สำหรับโรงพยาบาลใกล้เคียง จะได้แก่ โรงพยาบาลแพทย์ปัญญา, โรงพยาบาลกรุงเทพ, โรงพยาบาลเพชรเวท, โรงพยาบาลปิยะเวท และโรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท คอยให้บริการรอบด้านค่ะ

ในส่วนที่ตั้งของโครงการจะเป็นที่ดินที่มีความยาวจากถนนพัฒนาการทะลุไปตรงถนนกำแพงเพชร 7 มีทางเข้า-ออกหลักติดกับถนนพัฒนาการใกล้กับทางทางพิเศษฉลองรัช โดยถัดจากทางเข้าหลักไปประมาณ 180 เมตรจะมีสะพานลอยให้ข้ามถนนได้ ส่วนทางออกหลังโครงการที่อยู่ตรงถนนกำแพงเพชร 7 เลียบทางรถไฟนั้นจะเป็นประตูสำหรับเดินเท้าเข้า-ออก ไม่สามารถนำรถเข้ามาได้ค่ะ

มาถึงส่วนของ Sales Gallery จะตั้งอยู่ใกล้กับตัวโครงการเลยค่ะ ห่างกันเพียงสองซอยย่อย สามารถเดินไปกลับได้ในเวลาเพียง 10 นาที โดยทางเข้านั้นจะอยู่ใต้ทางขึ้น-ลง ทางพิเศษฉลองรัช ขับผ่านโรงเหล้าตะวันแดงพัฒนาการซอย 7 ไม่นานก็จะเจอเข้ากับซอยทางเข้า Sales Gallery ค่ะ โดยทางเข้านั้นจะติดถนนใหญ่ ต้องเลี้ยวเป็นซอยเข้าไปข้างในและสามารถจอดรถในอาคารแกลอรี่หน้าทางเข้าได้เลย

สถานที่ใกล้เคียง โครงการ Supalai Parc เอกมัย-พัฒนาการ

ทำแลและการเดินทาง

• ทางด่วนฉลองรัช 300 เมตร
• Airport Rail Link รามคำแหง 700 เมตร
• ย่านเอกมัย 2.2 กิโลเมตร
• ย่านทองหล่อ 2.4 กิโลเมตร
• MRT สถานีเพชรบุรี 4.8 กิโลเมตร
• MRT สถานีพระราม 9 8.3 กิโลเมตร

แหล่ง Shopping

• เดอะมอลล์ รามคำแหง 3.0 กิโลเมตร
• Lotus พัฒนาการ 3.3 กิโลเมตร
• Donki Mall 3.3 กิโลเมตร
• J Avenue ทองหล่อ 4.1 กิโลเมตร
• Big C เอกมัย 4.2 กิโลเมตร
• โฮมโปร พระราม 9 4.4 กิโลเมตร
• เดอะไนน์ พระราม 9 5 กิโลเมตร

โรงพยาบาล

• โรงพยาบาลกรุงเทพ 3.3 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลเพชรเวช 4.0 กิโลเมตร
• โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท 4.3 กิโลเมตร

สถานศึกษา

• โรงเรียนนานาชาติเอกมัย 3 กิโลเมตร
• St. Andrews International School 4.0 กิโลเมตร

THE PROJECT

เมื่อเข้ามาภายใน Sales Gallery จะเจอเข้ากับการตกแต่งในสีเขียวเข้มโทนเย็น ผสมผสานกับสีส้มให้ความรู้สึกสบายตาค่ะ มีการจัดสรรพื้นที่อย่างเป็นระบบ วางตัวอย่างโมเดลของโครงการไว้ตรงกลาง และจัดให้โต๊ะกับเก้าอี้สำหรับลูกค้าหรือบุคคลอื่น ๆ นั้นวางชิดกำแพงโดยรอบ  ดีไซน์แบบนี้นอกจากจะทำให้มีพื้นทางเดินอย่างกว้างขวาง ยังสามารถทำให้เกิดความรู้สึกเป็นส่วนตัวแม้จะอยู่ร่วมกับบุคคลอื่นในแกลลอรี่ค่ะ

พื้นที่ตรงกลางหน้าล็อบบี้จะเป็นจุดที่ตั้งของโมเดลโครงการคอนโดศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ โมเดลนี้จะแสดงภาพโดยรวมของตึกทั้งสองตึก รวมถึงการจัดสรรพื้นที่ของสวน 3 สวนภายในโครงการ เราจะเห็นว่าศุภาลัยจะใช้สีเขียว Dark Forest เป็นหลัก ผสมเข้ากับแนวคิดส่วนเว้าส่วนโค้งแบบ Arch ทำให้มีมิติลูกเล่นที่น่าสนใจค่ะ

จากโมเดลของทางโครงการ เราจะเห็นว่าคอนโด ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ เป็นโครงการคอนโดที่เน้นให้ความสำคัญใน Facilities และพื้นที่สีเขียว โดยทางโครงการได้มีการจัดสรรสวนออกเป็น 3 สวน เริ่มจากทางเข้า, ตรงกลางระหว่างอาคารทั้งสองอาคาร และสวนตรงประตูหลัง มีลู่วิ่ง Jogging Track ระยะ 950 เมตรกินพื้นที่โดยรอบโครงการพร้อมพื้นที่สีเขียวมากถึง 4.5 ไร่* แถมยังมีพื้นที่ให้จอดรถได้มากถึง 989 คัน หรือนับเป็น 60% ของห้องจำนวนพัก  มีทางเข้าออกสองทาง โดยทางข้างหน้าจะสามารถนำยานพาหนะเข้าไปได้ แต่เนื่องจากทางออกข้างหลังติดกับถนนทางรถไฟจึงทำให้ไม่สามารถนำรถเข้าได้ค่ะ

แน่นอนว่ากิมมิกของโครงการคือพื้นที่สีเขียว 4.5 ไร่* พร้อมสวน 3 สวน โดยเรามาเริ่มจากสวนที่ 1 ของโครงการกันก่อนค่ะ ตรงนี้จะเป็นจุด “Welcome” มีฟังก์ชันคอยเป็นจุดสะท้อนวิวของโครงการและต้อนรับผู้คนค่ะ ในแต่ละฤดูบรรยากาศก็จะเปลี่ยนไป สวนตรงหน้าก็จะทำหน้าที่สะท้อนบรรยากาศโดยรอบของฤดูนั้น ๆ เพื่อสร้างมู้ดและโทนของโครงการ โดยจุดนี้จะมีน้ำพุอยู่ตรงกลางให้ความสวยงามทำหน้าที่เป็นจุดต้อนรับผู้คนที่ผ่านไปมา 

สวนที่ 2 เป็นจุด “Active” สวนตรงกลางระหว่างอาคาร A และอาคาร B ตรงนี้จะเป็นสวนที่มีขนาดยาวที่สุดในบรรดาสวนทั้งหมด จะมีสระบึงบัว, อัฒจรรย์ ที่นั่งริมบ่อ และน้ำตก ให้คนได้มาใช้เวลาและทำกิจกรรมร่วมกัน ภายใต้บรรยากาศร่มรื่นของสระบึงบัวขนาดใหญ่

สวนตรงกลางนี้จะนับเป็นพื้นที่สีเขียวที่กินพื้นที่มากที่สุดในโครงการ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ส่วน คือ Court A – B – C  แต่ละจุดจะมีฟังก์ชันและ Landscape ที่ค่อนข้างต่างกันแม้จะอยู่ในสวนเดียวกันก็ตาม โดยส่วนแรกของพื้นที่จะเป็นพื้นที่ลานหญ้าเปิดโล่ง มีฟังก์ชันให้ลูกบ้านมาทำกิจกรรมเล็ก ๆ และนั่งผ่อนคลายตรงนี้ได้ค่ะ

ต่อมาตรงกลางเป็นบ่อน้ำบึงบัวแบบขุดเองของทางโครงการ มีชานไม้ยื่นออกไปเล็กน้อยสามารถนั่งชมวิวสระบัวได้

และส่วนที่สามจะเป็นน้ำตกหน้าอาคารนั่นเองค่ะ

ปิดท้ายกันตรงจุดที่ 3 ในจุด “Active Enjoy” นี้จะมีเนินยกระดับเพื่อช่วยเพิ่มความท้าทายของการวิ่งออกกำลังกาย จำลองเสมือนว่าไปวิ่งตามเส้นทางธรรมชาติที่มีพื้นที่เนินชัน สร้างความท้าทายให้กับผู้วิ่งให้ไม่รู้สึกจำเจ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันเป็นลานกิจกรรมอีกด้วยค่ะ

นอกจากพื้นที่สีเขียวข้างล่าง บนดาดฟ้าของตึกทั้งสองจะมีสวน Sunset Deck ที่เป็นพื้นที่สีเขียวบนชั้นสูงสุดของแต่ละตึก เพื่อให้ลูกบ้านได้เข้ามาพักผ่อนทำกิจกรรมต่าง ๆ และใช้เวลาในยามอาทิตย์ตกนั่นเองค่ะ

ในภาพผัง Master Plan จะเห็นว่าทั้งสองตึกนั้นถูกวางเป็นผังรูปตัว U เหมือนกันทั้งสองอาคารเลยค่ะ ตำแหน่งของสระว่ายน้ำในตึกก็อยู่ในจุดเดียวกัน ต่างกันตรงที่ขนาดของอาคาร A จะใหญ่กว่าอาคาร B อากาศถ่ายเทง่ายไม่บังลมกันและกัน มีวิวเป็นสวนบึงบัวตรงกลางระหว่างทั้งสองอาคารเหมือนกันค่ะ หากจะต่างก็มีแต่ตึก A นั้นอยู่ติดกับฝั่งสวน Welcome ที่มีน้ำพุและเป็นทางเข้าหน้าโครงการ ในขณะที่ตึก B จะเห็นสวนทางประตูออกฝั่งถนนกำแพงเพชร 7 นั่นเอง

สำหรับผังโครงสร้างภายในส่วนของห้องพักได้ถูกวางเป็นรูปตัว U และเป็นการดีไซน์แบบ Double Corridor ค่ะ ซึ่งห้องขนาด 1 Bedroom Plus จะเป็นห้องที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการค่ะ

ในส่วนของอาคาร B ก็ใช้การดีไซน์ในรูปแบบของ Double corridor  เช่นเดียวกันค่ะ โซนยูนิตห้องพักอาศัยส่วนใหญ่จะรวมอยู่ที่ชั้น 6 – 26

FACILITIES : พื้นที่ส่วนกลาง

เนื่องจากคราวนี้ ทางศุภาลัยต้องการจะจัดหนักจัดเต็มในส่วนของ Facilities เพื่อตอบโจทย์ชีวิตที่หลากสไตล์ของผู้อยู่อาศัยจริง ๆ เราจึงจะพบว่าในโครงการมีกิจกรรมให้ทำเยอะมากค่ะ โดยทั้งตึก A และตึก B ก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกแตกต่างกันออกไป การตกแต่งภายในทั้งหมดจะอยู่ภายใต้แนวคิด  ฤดู “So Bloom” อ้างอิงจากฤดูต่าง ๆ ในธรรมชาติ มีการสร้าง Lobby ขนาดใหญ่ไว้ใต้อาคารทั้งสองอาคาร แถมตรงโซนล็อบบี้ก็ยังมีบริการใหม่ ๆ มากมายที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ Modern Living ของผู้คนในยุคปัจจุบัน

เริ่มจากอาคาร A กันก่อนค่ะ อาคารนี้มีจำนวนทั้งหมด 30 ชั้น ในส่วนของชั้น 1 ของอาคารจะเป็นที่ตั้งของจุดบริการ มีฟังก์ชันหลาย ๆ อย่างที่ถูกดีไซน์ให้ตอบโจทย์ชีวิตแบบ Modern Living  

• Lobby ขนาดใหญ่ มี Mailbox อยู่ด้านนอกเพื่อลดความวุ่นวาย
• Drop Store 
• Shop
• Vending Machine
• EV Charger
• Food Drop เป็นจุดดร็อปอาหาร Delivery โดยจะมีการกำหนดบล็อคไว้เลยว่าออเดอร์ไหนเป็นของห้องไหนเพื่อป้องกันปัญหาการหยิบสลับออเดอร์ผิดนั่นเองค่ะ

ในส่วนของชั้น 2 และชั้น 5 จะเป็นที่จอดรถ และชั้นต่อไปที่เป็นแหล่งรวมกิจกรรมต่าง ๆ ก็คือชั้นที่ 6 ซึ่งเป็นศูนย์รวมของพื้นที่ส่วนกลางทั้งหลายค่ะ จะประกอบไปด้วย

• Swimming Pool (50m.) ขนาด Olympic และ Jacuzzi
• Big Fitness
• BoardGame
• Aerobic & Yoga
• Stream Room
• ห้องพักอาศัย

สระว่ายน้ำ Olympic Pool ของตึก A จะมีขนาด 50 เมตรซึ่งถือว่ามีขนาดใหญ่เลยค่ะ เหมาะสำหรับคนที่ต้องการว่ายน้ำเพื่อออกกำลังกายอย่างจริงจัง

มาถึงส่วนของห้อง Boardgame จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ มีกระจกใสมองทะลุออกไปยังวิวข้างนอกได้

ทางโครงการจะมีห้อง Fitness ขนาดใหญ่เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การการออกกำลังกายอย่างหลากหลายค่ะ นอกจากฟิตเนสก็ยังมีห้อง Aerobic & Yoga อีกด้วย

ถัดจากชั้น 6 ที่เป็นศูนย์รวมของพื้นที่ส่วนกลางในอาคารแล้ว เมื่อมาถึงชั้น 7 ขึ้นไปจนถึงชั้น 29 จะเป็นที่พักอาศัยทั้งหมดค่ะ จนมาถึงชั้นที่ 30 ก็จะเป็น Co-Living Space ผสมกับที่พักอาศัยและสวนพื้นที่สีเขียว ซึ่งในชั้นที่ 30 นี้เป็นที่ตั้งของห้อง Presidential Suite นั่นเอง จากรูปผังจะเห็นว่ามีการแบ่งสัดส่วนห้องพักกับสวน Sunset Deck อย่างละครึ่ง โดยมี Co-Living Space กั้นตรงกลาง

จบจากอาคาร A ก็มาต่อกันในส่วนของอาคาร B อาคารนี้จะมีทั้งหมด 27 ชั้น รูปทรงเดียวกันกับอาคาร A มีผังรูปตัว U เหมือนกัน การแบ่งลำดับสัดส่วนที่พักอาศัยกับพื้นที่ส่วนกลางก็ค่อนข้างคล้ายกัน แต่มี Facilities และฟังก์ชันของพื้นที่ส่วนกลางที่แตกต่างกันค่ะ  โดยในชั้น 1 ของอาคาร B นั้นจะประกอบไปด้วย

• Lobby ขนาดใหญ่
• Drop Store 
• Shop
• Vending Machine
• EV Charger
• Food Drop
• Half-Court Basketball

ชั้น 2-4  จะเป็นที่จอดรถ และมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 5 ได้แก่

• Fun & Adventurous Pool
• Game Area
• ที่พักอาศัย

สระว่ายน้ำของอาคาร B จะแตกต่างกับอาคาร A ตรงที่มีความขี้เล่นมากกว่าค่ะ ค่อนข้างให้อารมณ์เน้นไปทางสนุกสนาน ปาร์ตี้ได้ ว่ายเล่น ๆ ได้ แต่ของอาคาร A มีขนาดเทียบเท่าสระโอลิมปิกจึงเหมาะกับคนที่ต้องการว่ายน้ำอย่างจริงจัง แถมโถงตรงกลางระหว่างห้องพักก็ถูกจัดให้เป็น Game Zone ขนาดใหญ่ ตอบโจทย์ชีวิตที่รักความสนุกสนานในทุกด้านเลยค่ะ

เมื่อมาถึงชั้น 6-26 จะเป็นชั้นของที่พักอาศัยทั้งหมดค่ะ มีห้องตรงปีกของทั้งสองฝั่งเป็นห้องขนาดใหญ่ที่สุด วางรูปแบบการดีไซน์เป็น Double Corridor โดยมีโถงตรงกลางเป็นพื้นที่ของลิฟต์และที่ทิ้งขยะ

มาถึงชั้นสุดท้าย ซึ่งก็คือชั้นที่ 27 มีฟังก์ชันเป็นจุดรวมพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดของอาคาร B มีการแบ่งสัดส่วนด้านหนึ่งเป็นโซนของยูนิตห้องพัก Presidential Suite และอีกด้านจะเป็นพื้นที่ของสวน Sunset Deck ค่ะ โดยกิจกรรมในพื้นที่ส่วนกลางของชั้นนี้จะประกอบไปด้วย 

• Sky Louge
• Workshop Studio
• Live Studio
• Private Meeting Room
• ห้องพักอาศัย
• สวน

จากรูปโดยรวม เราจะเห็นว่าการตกแต่งภายในทั้งหมดจะเน้นไปสีเขียวและสีส้ม ซึ่งเป็นดีไซน์ภายใต้คอนเซ็ปต์ของฤดูต่าง ๆ สะท้อนแนวคิดของการพักผ่อนที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติค่ะ ทั้งอาคาร A และอาคาร B จะมีแนวคิดของพื้นที่ส่วนกลางที่ต่างกันออกไป โดยอาคาร A จะเหมาะกับการอาศัยเป็นครอบครัว หรือคนที่ชอบทำกิจกรรมที่ค่อนข้างจริงจังขึ้นมาหน่อย ส่วนอาคาร B จะเป็นกิจกรรมแบบสนุก ๆ มีความขี้เล่นมากกว่า โดยลูกบ้านจากทั้งสองอาคารจะสามารถสลับกันไปเข้าไปใช้บริการในอาคารทั้งสองได้อย่างเป็นอิสระค่ะ

ROOM TYPE : แบบห้อง

Supalai Parc Ekkamai-Patanakarn มีห้องทั้งหมด 5 Type ด้วยเพดานห้องสูง 2.7 เมตรทำให้ห้องมีความโล่งโปร่งสบายมาก ๆ ในทุกขนาด โดยตอนนี้ที่ Sales Gallery มีตัวอย่างเป็นห้องเป็นห้องขนาด 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus แค่สอง Type เท่านั้น ซึ่งจะสามารถเลือกได้ว่าต้องการห้องแบบ Fully Furnished เฟอร์นิเจอร์ครบครัน หรือแบบ Fully Fitted แล้วแต่ตามใจชอบ แถมส่วนต่างของห้องจะสามารถเปลี่ยนไปเป็นส่วนลดได้ด้วย

โดยในส่วนของแบบห้องเราจะมาเริ่มกันที่ห้องแรกกันเลยค่ะ

1 BEDROOM
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 34.0 – 35.5 ตร.ม.

สำหรับห้องตัวอย่างห้องแรกจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom มีขนาดพื้นที่ตั้งแต่ 34.0 – 35.5 ตารางเมตร เข้ามาจะเป็นทางตรงเข้าไปสู่โซน Living Room เปิดโล่งมีแอร์ปรับอากาศแบบกรองฝุ่น Pm 2.5 ทั้งหมด 2 ตัวติดตั้งภายในห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีห้องครัวแบบปิดพร้อมประตูกระจกบานเลื่อนและมีห้องน้ำแบบสำเร็จรูปในตัวค่ะ

จากผังห้องจะเห็นว่าห้องต่าง ๆ มีการแบ่งเป็นสัดส่วนทั้งหมด ทั้งครัวแบบปิด โซนห้องอเนกประสงค์ที่มีประตูกระจกกั้นกับห้องนั่งเล่น และตัวห้องอเนกประสงค์ก็จะมีกำแพงแบ่งสัดส่วนกับห้องนอน ให้ความรู้สึกของการแบ่งพื้นที่ห้องอย่างชัดเจนและเพิ่มความรู้สึกความเป็นส่วนตัวเข้ามาค่ะ

โดยในห้องตัวอย่างของทางโครงการ ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ ได้วางแบบห้องให้มีห้องน้ำตั้งอยู่ใกล้กับทางเข้าเลยค่ะ ลึกเข้าไปอีกในระนาบเดียวกันก็จะเป็นห้องครัวแบบปิด เยื้อง ๆ กันอีกนิดจะเป็นโซนนั่งเล่น และลึกสุดของห้องจะเป็นในส่วนของโซนอเนกประสงค์ก่อนจะเข้าสู่ห้องนอนที่อยู่ข้างในสุด

สำหรับคอนโด Supalai Parc เอกมัย-พัฒนาการ ในโครงการจะใช้ห้องน้ำแบบสำเร็จรูปจากแบรนด์ SCG ซึ่งมีความแข็งแรงตามมาตรฐาน และมีความสูงของพื้นห้องน้ำจากพื้นภายนอกเล็กน้อย

เมื่อเข้ามาก็จะเจอกับอ่างล้างหน้าและกระจกเป็นอย่างแรก พร้อมฝักบัวอาบน้ำและประตูบานเลื่อนที่กั้นพื้นที่ระหว่างโซนอาบน้ำกับโซนอื่น ๆ ในห้องน้ำ ซึ่งสุขภัณฑ์ที่ทางโครงการเลือกใช้จะเป็นของแบรนด์ Hafele และ Cotto คุมโทน Modern ด้วยการใช้สีขาวดำทั้งหมด มีพื้นที่ใต้อ่างล้างหน้าเหลือมากพอสมควร สามารถวางของหรือต่อเติมอะไรด้วยตนเองเพิ่มได้ แถมบนอ่างล้างหน้าเองก็มีพื้นที่เยอะให้ความสะดวกสบายในการวางอุปกรณ์ต่าง ๆ

ไฮไลท์ที่สำคัญอีกอย่างคือทางโครงการศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ ได้เพิ่มลูกเล่นเข้ามาในส่วนของห้องน้ำด้วย ซึ่งก็คือระบบ Touchless Flush ซึ่งเป็นระบบเซ็นเซอร์เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการใช้ห้องน้ำให้มากขึ้นนั่นเองค่ะ

ต่อมาจะเป็นส่วนของห้องครัว ที่นี่ใช้พื้นแบบ SPC มาพร้อมวัสดุ Backsplash กันเลอะ ภายในห้องครัวนี้จะมีประตูกั้นส่วนระหว่างโซนนั่งเล่นกับโซนห้องครัว สร้างความรู้สึกเป็นสัดเป็นส่วนและช่วยควบคุมในเรื่องของกลิ่นอาหารได้ เครื่องครัวภายในจะใช้ของ Hafele ทั้งหมดและเน้นโทนสีขาวดำเช่นเดียวกัน

ต่อมาจะเป็นในส่วนของโซนอเนกประสงค์หรือที่ทางโครงการเรียกว่า ME CORNER ซึ่งเป็นส่วนติดกับห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ ตรงนี้จะเป็นมุมห้องที่เปิดพื้นที่ให้เป็นอิสระ สามารถตกแต่งหรือปรับเปลี่ยนให้กลายเป็นห้องแบบใดก็ได้ตามความต้องการ โดยจะมีกระจกสูงกั้นระหว่างมุมอเนกประสงค์กับโซนนั่งเล่น สร้างความเป็นสัดส่วนและความรู้สึกเป็นส่วนตัวให้กับพื้นที่

มาต่อกันภายในห้องนอนค่ะ ในห้องตัวอย่างนี้จะจัดเป็นเตียง 5 ฟุต โดยเหลือพื้นที่ในห้องให้สามารถเดินเข้าออกขึ้น-ลง บนเตียงจากทั้งสองฝั่งได้ ภายในห้องตัวอย่างนี้จะเห็นการจัดแบ่งพื้นที่ให้โต๊ะเครื่องแป้งกับตู้เสื้อผ้าขนาดย่อมนั้นวางติดผนังอยู่ในโซนเดียวกันทำให้มีพื้นที่ใช้สอยมากขึ้นนั่นเองค่ะ

ห่างจากเตียงเล็กน้อยจะเป็นส่วนของระเบียงห้อง ระเบียงตรงนี้จะมีขนาดไม่กว้างมากจนเกินไป เน้นไปที่ความยาวเสียมากกว่าค่ะ เป็นพื้นที่พอเหมาะสามารถปลูกต้นไม้ประถางเล็ก ๆ ได้

ภาพโดยรวมทั้งหมดของห้อง 1 Bedroom  จะมีพื้นที่กว้างที่สุดคือโซนนั่งเล่น ซึ่งจะมีทั้งห้องน้ำและห้องครัวแบบปิดขนาดพอดีตั้งอยู่ติดกัน มีกระจกบานสูงกั้นให้ความเป็นสัดส่วนของพื้นที่ มาพร้อมแอร์ 2 ตัว ติดตั้งในห้องนั่งเล่นและห้องนอน มีการอัปเกรดวัสดุและเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระดับเดียวกันกับแบรนด์ Supalai Loft แต่มาในราคาที่เบากว่านั่นเองค่ะ 

นอกจากผังข้างบน ทางโครงการยังมีผังห้อง 1 Bedroom ในขนาดอื่น ๆ มาให้เพื่อน ๆ ได้ชมกันด้วยค่ะ

1 BEDROOM PLUS
ขนาดพื้นที่ใช้สอย 40.0 – 46.0 ตร.ม.

ขยับมาอีกหน่อย เข้าสู่ห้อง 1 Bedroom Plus ด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอย 40.0 – 46.0 ตารางเมตรทำให้ภายในห้องมีพื้นที่ส่วนห้องนั่งเล่นค่อนข้างกว้างขวาง ภายในห้องจะมีแอร์ 3 ตัว ซึ่งเป็นระบบกรองฝุ่น PM 2.5 เช่นกัน ติดตั้งภายในห้องนั่งเล่น, ห้องอเนกประสงค์ และห้องนอนค่ะ

เมื่อเข้ามาภายในห้องตัวอย่างจะเจอเข้ากับเป็นห้องนั่งเล่นเป็นอย่างแรก โดยมีฝั่งตรงข้ามเป็นห้องครัว และมีพื้นที่ทางเดินจากห้องนั่งเล่นลากยาวไปเชื่อมต่อกับห้องอเนกประสงค์และห้องนอน

ภายในห้องน้ำมีการจัดวางและตกแต่งเหมือนกับห้อง 1 Bedroom เลยค่ะ แต่มีขนาดกว้างกว่า มาพร้อมสุขภัณฑ์ของ Cotto และ Hafele คุมโทน Modern สีขาวดำ มีกระจกกั้นโซนเปียกกับโซนแห้งและมีระบบ Touchless Flush เช่นเดิมค่ะ

ในส่วนของห้องครัวเองก็เหมือนกับห้อง 1 Bedroom มีการใช้วัสดุจาก Hafele เหมือนกัน แต่มีพื้นที่กว้างขวางมากขึ้นค่ะ

ถัดจากห้องครัวเป็นห้องอเนกประสงค์ ตรงนี้จะต่างกับห้อง 1 Bedroom ตรงที่มีผนังกั้นกับห้องนอนเลยค่ะ แถมยังมีบานกระจกแบบสามตอนคอยกั้นสัดส่วนกับห้องนั่งเล่น และทำให้ห้องมีพื้นที่โล่งมากขึ้นค่ะ ในส่วนนี้ของห้องตัวอย่างจะมีโต๊ะทำงาน แอร์ 1 ตัว และเปิดพื้นที่ให้มีการตกแต่งเพิ่มเติม เป็นห้องอเนกประสงค์ที่ให้อิสระผู้อยู่อาศัยได้ใส่ความเป็นตัวเองเข้าไปนั่นเองค่ะ

ระเบียงขนาดพอดีติดกับห้องอเนกประสงค์ มีพื้นที่พอเหมาะ สามารถปลูกต้นไม้กระถางเล็ก ๆ ได้

มาถึงในส่วนของห้องนอน ข้างในจะมีเตียงนอนขนาด 5 ฟุตตั้งอยู่ สามารถขึ้น-ลง จากเตียงได้ทั้งสองฝั่ง ในห้องตัวอย่างจะมีทีวีจอกว้างติดผนังตรงข้ามกับเตียงนอน พร้อมมุมแขวนเสื้อผ้าและเก็บของใช้ต่าง ๆ ติดกับผนังค่ะ โดยรวมแล้วเป็นห้องที่มีขนาดพอเหมาะสำหรับ 1 – 2 คน ให้ความรู้สึกโล่งโปร่งด้วยเพดานสูง 2.7 เมตร พื้นที่ขนาดพอดีไม่รู้สึกอึดอัดค่ะ

สำหรับห้อง Studio ขนาด 30.0 ตร.ม. จะแบ่งสัดส่วนอย่างพอดีและมีกระจกสองบาน ติดตั้งแอร์ให้ 1 ตัวพร้อมเตียงนอน 5 ฟุต เป็นขนาดที่พอเหมาะพอสมควรเลยค่ะสำหรังห้องยูนิตแบบ Studio

ต่อมาจะเป็นภาพตัวอย่างและภาพแปลนห้องรูปแบบ 2 Bedroom ค่ะ

มาดูแปลนห้องขนาดใหญ่ที่สุดของโครงการกันค่ะ เป็นห้องประเภท Presidential Suite โดยจะมีขนาดตั้งแต่ 46.0 – 100 ตร.ม. ซึ่งจะมีแปลนบอกขนาดที่แตกต่างกันไปของแต่ละห้องในแต่ละตึกค่ะ

ราคา ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ (Supalai Parc Ekkamai-Pattanakarn)

ราคาเริ่มต้นของคอนโด ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัยพัฒนาการ จะอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท* โดยมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 75,xxx* บาท/ตารางเมตร ในพื้นที่ขนาดตั้งแต่ 30.0 – 100 ตารางเมตร (ราคาวันทำรีวิว เดือนพฤษภาคม 2566)

เป็นโครงการคอนโดที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ชีวิตของคนทำงานทั่วไป ที่ต้องการซื้อคอนโดราคาย่อมเยาที่ทำเลขยับออกมาจากย่านตัวเมืองเล็กน้อยแต่ก็ยังสามารถเดินทางเข้าไปในเมืองได้อย่างสะดวกสบาย เหมาะสำหรับคนทำงานที่มีรายได้ 35,000 บาทขึ้นไป

*หมายเหตุ :  ข้อมูลรีวิวเป็นข้อมูลที่ทีมงานรวบรวมมา ณ วันเขียนบทความเท่านั้น  โปรดสอบถามรายละเอียดโดยตรงจากโครงการอีกครั้ง

SUMMARY 

ภาพรวมโครงการ

• ศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการ (Supalai Parc Ekkamai-Pattanakarn) รีแบรนด์ใหม่เป็น Supalai Parc มาพร้อมแนวคิดที่จะยกระดับ Facilities ในโครงการ รวมไปถึงการอัปเกรดวัสดุให้มีระดับเทียบเท่าแบรนด์ Supalai Loft แต่อยู่ในราคาห้องที่จับต้องได้ เป็นโครงการแรกของทางศุภาลัยที่ให้การรับประกันโครงสร้าง 10 ปี และประกันส่วนควบห้องชุดลูกค้า 3 ปี
• ภายในโครงการมีห้องทั้งหมด 5 แบบ ราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท* ในปัจจุบันจะมีเพียงห้อง 1 Bedroom  และ 1 Bedroom Plus ที่ตั้งเป็นห้องตัวอย่างใน Sales Gallery มีขนาดห้องเริ่มต้น 30 – 100 ตารางเมตร และมีราคาเฉลี่ยปัจจุบันจะอยู่ที่ 75,xxx* บาท/ตารางเมตร
• เพิ่มนวัตกรรมตอบโจทย์ Modern Living เช่น Drop Delivery, Storage, Drop Store, Touchless Flush เป็นต้น แถมยังมีมุมอเนกประสงค์ให้ เพื่อเพิ่มอิสระสำหรับคนที่อยากตกแต่งห้องให้มีความเป็นตัวของตัวเองค่ะ
• สามารถเลือกห้องแบบ Fully Furnished หรือ Fully Fitted ก็ได้ โดยส่วนต่างของห้องจะแปรเปลี่ยนเป็นส่วนลด
• โลเคชันตั้งอยู่ติดถนนพัฒนาการ ตรงจุดขึ้น-ลง ทางพิเศษฉลองรัช ใกล้กับย่านเอกมัยและทองหล่อ สามารถเดินทางสะดวกได้ด้วย Airport Rail Link สถานีรามคำแหง
• มีกำหนดการก่อสร้างในเดือนกันยายนนี้วางแผนแล้วเสร็จในปี 2026 

ทำเลและการเดินทาง

• Easy Connect ใกล้กับย่านเอกมัยและทองหล่อ สามารถเดินทางไปได้หลายที่ ตอบโจทย์ชีวิตคนทำงานในเมืองที่ต้องการกระเถิบออกมาอยู่ในคอนโดสงบไม่วุ่นวาย แต่ยังสามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวกสบายค่ะ
• โครงการอยู่ใกล้ทางด่วนฉลองรัช และอยู่ในบริเวณจุดตัดของทางด่วนฉลองรัชและทางด่วนศรีรัช
• โครงการตั้งอยู่ใกล้กับ Airport Rail Link สถานีรามคำแหง มี Shuttle Service คอยบริการรับส่งลูกบ้านไปยัง Airport Rail Link สถานีรามคำแหง
• โครงการตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ ซึ่งสามารถเชื่อมต่อออกไปได้หลายสาย เช่น ถนนรามคำแหง, ถนนสุขุมวิท  71 และถนนพระราม 9 เป็นต้น

เหมาะกับใคร

• เหมาะกับกลุ่มคนวัยทำงานที่มีไลฟ์สไตล์ชีวิตเชื่อมโยงอยู่กับตัวเมืองเป็นหลัก และอยากได้คอนโดในทำเลที่สงบและคุ้มค่าคุ้มราคา
• กลุ่มคนที่ทำงานในย่านเอกมัยและทองหล่อ
• กลุ่มคนที่มีครอบครัวหรือมีผู้อยู่อาศัยด้วยรวมกันเป็นครอบครัวขนาดเล็ก
• กลุ่มคนที่มีธุรกิจห้างร้านหรือกิจการในละแวกใกล้เคียง
• กลุ่มคนทำงานที่มีโอกาสได้เดินทางโดย Airport Rail Link เป็นประจำ
• กลุ่มคนที่เดินทางด้วยทางด่วนฉลองรัชเป็นประจำ