ถ้าทุกคนสามารถเลือกย่านที่อยู่อาศัยย่านใดก็ได้ในกรุงเทพมหานคร ย่านไหนจะเป็นตัวเลือกในใจคะ? Yusabuy คิดว่าย่านอารีย์ต้องเป็นตัวเลือกที่หลายคนฝันถึงแน่นอน เพราะไม่ว่าจะความสะดวกในแง่ไหนอารีย์ก็ดูจะลงล็อคไปซะหมด

วันนี้ Yusabuy จะพาทุกคนไปชมโครงการที่เรียกว่าเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ที่น่าสนใจที่สุดในอารีย์ตอนนี้กันกับ Noble Around Ari  (โนเบิล อราวน์ อารีย์) คอนโดมิเนียมที่มี 2 อาคาร ทั้งแบบ Low Rise และ High Rise ไม่หนาแน่นยูนิตไม่เยอะ สไตล์ดีแบบ Timeless Modernism ที่นับเป็นโครงการที่ 5 แล้วสำหรับโนเบิลในย่านนี้เรียกได้ว่าช่ำชอง รู้ใจชาวอารีย์แน่นอนค่ะ

ก่อนจะพาทุกคนไปชมโครงการ Noble Around อารีย์ ก็คงต้องเล่าจุดเด่นที่น่าสนใจของโครงการนี้กันก่อนอย่างทำเลของโครงการนี้อยู่ติดถนนพหลโยธินและใกล้รถไฟฟ้า BTS อารีย์เพียง 90 เมตร* รูปแบบห้องที่เหลือ ณ​ วันที่เขียนรีวิวก็จะมีแบบ 1 Bedroom และ 1 Bedroom Plus ในราคาที่ดีกว่าตอนเปิดโครงการที่ 1 ห้องนอน เริ่มต้น 5 ล้านบาท หรือ 175,000 ตร.ม.* * ส่วนลดสูงสุด 500,000 บ. ลงทะเบียน คลิกที่นี่ ถ้าเริ่มสนใจแล้วตามมาอ่านรีวิวกันได้เลยค่ะ

LOCATION : Around Ari มีอะไร?

ถ้าพูดถึงทำเลที่น่าอยู่ในกรุงเทพฯ TOP 3 น่าจะต้องมี “อารีย์” อยู่ในใจใครหลายคนแน่นอน ถึงขั้นเคยติดอันดับย่านน่าอยู่ระดับโลกมาแล้ว เพราะนอกจากความสะดวกสบายด้านการเดินทางที่สะดวกทั้งแบบส่วนตัวและสาธารณะก็ดี ด้าน Lifestyle ของที่อารีย์ก็เด่นสุดๆ ครบทั้งเรื่องกิน-ดื่ม-อยู่อาศัย-ทำงาน เลยค่ะ

“OLD & NEW”

เสน่ห์ของย่านอารีย์ที่หลายคนชอบก็ต้องเป็นเรื่องบรรยากาศที่มีความผสมผสานอย่างลงตัวระหว่างวิถีชีวิตแบบเก่าและแบบใหม่ เห็นได้จากบ้านเรือน-คอนโดมิเนียมที่นี่ ที่มีทั้งบ้านเก่าหน้าตาวินเทจไปจนถึงโครงการคอนโดมิเนียมใหม่ ๆ ที่หรูหราดูโมเดิร์นสุด ๆ อาคารสำนักงานแถวนี้ก็มีทั้งอาคารที่ตั้งมานานไปจนถึงที่สร้างใหม่หน้าตาเด่น ๆ ก็มีให้เห็นกันค่ะ

จะเห็นได้จากแผนที่ข้างล่างเลยว่าทำเลอารีย์เป็นทำเลที่มีความคล่องตัวสูงทีเดียวค่ะ ถนนสายหลักไม่ว่าจะเป็นพหลโยธิน วิภาวดี และพระราม 6 อีกทั้งสามารถขึ้นทางด่วนพิเศษศรีรัชได้ที่สนามเป้า ในระยะที่สะดวกสบาย โดยเฉพาะโครงการ Noble Around Ari ที่อยู่ติดถนนใหญ่พหลโยธิน เรียกได้ว่าเป็นทำเล Limited Edition เลยก็ว่าได้

โดยโซนสีแดงจะเป็นซอยอารีย์ที่มีทั้งที่อยู่อาศัยทั้งแนวราบและแนวสูง มีร้านรวงขนาดเล็กกระจายอยู่ทั่วพื้นที่ตั้งแต่แถวรถไฟฟ้าสถานีอารีย์ไปจนถึงฝั่งกระทรวงการคลังด้านหลัง ปัจจุบันร้านค้าก็เริ่มกระจายตัวมากขึ้นค่ะ อย่างซอยสายลมที่อยู่ฝั่งเดียวกับโครงการ Noble Around Ari ก็มีร้านดัง ๆ เริ่มเข้ามาแล้วเช่นกัน หรือจะเลยออกไปยังโซนประดิพัทธ์ก็คึกคัก เรียกได้ว่าทำเลนี้เป็นย่านไลฟ์สไตล์แบบ 24 ชั่วโมงเลยค่ะ

และเมื่อดูจากแผนที่จะเห็นได้ว่าบริเวณใกล้เคียงนี่มีโรงพยาบาลล้อมเลยทีเดียวค่ะ จากข้อมูลพบว่าโซนนี้มีบุคลากรทางการแพทย์อยู่ร่วมกว่าหมื่นชีวิต อีกทั้งย่านอารีย์ยังเป็นย่านที่มีการชูนโยบายสู่ย่านนวัตกรรมที่มุ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเชิงลึกในสาขาอารีเทค (ARI Tech) ทำให้ย่านนี้มีความน่าสนใจในเรื่องการพัฒนาในอนาคตอีกด้วยค่ะ

มาดูรอบโครงการ โนเบิล อราวน์ อารีย์ กันบ้างค่ะ จุดสีน้ำตาลก็คือโครงการที่โนเบิลเคยทำมาในโซนอารีย์โครงการนี้นับเป็นโครงการที่ 5 แล้ว ถ้าถามว่า Developer เจ้าไหนรู้ใจชาวอารีย์เบอร์ต้นก็ต้องโนเบิลเนี่ยแหละค่ะ เพราะโครงการก่อน ๆ ก็ Sold Out หมด ผลตอบรับดีทีเดียว

ในพื้นที่สีฟ้าในแผนที่จะเป็นโซนที่ผสมผสานทั้งร้านอาหารและที่อยู่อาศัยแนวราบกระจายตัวอยู่ในซอยทำให้ย่านนี้เหมาะกับการเดินที่สุดค่ะ โซนสำนักงานอาคารสูงจะอยู่บริเวณสีเหลืองติดถนนพหลโยธิน โซนเดียวกับตัวโครงการ Noble Around Ari และสามารถเดินสู่รถไฟฟ้า BTS ระยะเพียง 90 เมตร*

ดูแผนที่ไปแล้ว ตามมาเดินชมแถวโครงการ Noble Around Ari กันค่ะ เดินออกมาด้านหน้าโครงการมองไปทางฝั่งบีทีเอสก็จะเห็นทางขึ้นสถานีแล้วค่ะ เพราะระยะทางห่างเพียง 90 เมตร

ตรงนี้คือทางออก 2 ค่ะ เดินยังไม่ทันเหนื่อยก็ถึงแล้ว

เดินเลยมาอีกหน่อยก็จะเริ่มเจอกับร้านอาหารแล้วค่ะ

ฝั่งตรงข้ามก็จะเป็นสำนักงานสรรพากรเขตพญาไท

ตรงมาอีกนิดก็ถึงแล้ว La Villa Ari คอมมูนิตี้มอลล์ที่อยู่ติดรถไฟฟ้าอารีย์ ที่มีทั้งร้านอาหาร, ขนม, ร้านขายยา และ Villa Martket เรียกได้ว่าครบเลยนะคะ ของกินที่นี่ก็หลากหลายเลยที่มาเปิดล่าสุดก็มี Sushiro ที่ชั้นบน ใครเบื่อใช้ Co-Working Space ในโครงการก็มานั่งทำงานที่ Starbucks ได้

ใครที่เบื่อวิลล่าก็เดินมาทางฝั่งปั้มน้ำมันเลยมาอีกนิดก็จะเจอกับ Vanit Village ค่ะ เป็นอีกหนึ่งคอมมูนิตี้ที่มีร้านอาหารชื่อดัง

ส่วนอีกโซนที่มีร้านอาหารราคาสบายกระเป๋าขึ้นมาก็ต้องฝั่งด้านหน้าอารีย์เลยค่ะ

ซอยฝั่งตรงข้ามเยื้องกับโครงการอย่าง พหลโยธิน 5 ก็มีร้านอาหารหลากหลายบรรยากาศน่านั่งค่ะ

The Project

จุดเด่นของโครงการนี้คือลายเซ็นของโนเบิลที่โดดเด่นในเรื่องของการดีไซน์ภายนอกอาคารมามีกลิ่นอายความเรียบเท่ สุขุม โดยโทนสีหลักของโครงการนี้จะเป็นโทนเทาอ่อน-ดำ จะเห็นความตัดกันระหว่างสองสีนี้ทำให้อาคารดูเด่นขึ้นมาค่ะ แต่ก็ได้พื้นที่สวนด้านหน้าที่มีต้นไม้ใหญ่ด้านหน้ามาช่วยเพิ่มความ Privacy แก่ตัวอาคารด้วยค่ะ คนที่เดินผ่านด้านหน้าอาคารก็จะไม่ได้เห็นตัวอาคารชัดนักทำให้ตอบโจทย์คนที่ชอบความเป็นส่วนตัวค่ะ

โดยทางเข้าอาคารสำหรับคนเดินเท้าก็จะมีแยกมาพร้อมระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาเลยค่ะ ตัวทางเดินตรงนี้ดีไซน์มาให้มีไม้เลื้อยขึ้นมาบนหลังคาอาจจะต้องรออีกซักหน่อย

เรื่องแรงบันดาลใจในการออกแบบของโครงการนี้มาจาก คอนเซ็ปต์ “THE SKIN & BONES ARCHITECTURE” ของสถาปนิกระดับตำนานของดีไซน์โมเดิร์นอย่าง ลุดวิก มิส ฟาน เดอร์ โรห์

ถ้ามองจากฝั่งตัวโครงการไปด้านหน้าฝั่งรถไฟฟ้าบีทีเอสก็จะเห็นอาคาร Pearl เด่นมาเลยค่ะ ใครที่ทำงานอยู่ตรงนี้ก็ถือว่าสะดวกมาก

ภายในโครงการ โนเบิล อราวน์ อารีย์ จะมีอาคารที่อยู่อาศัย 2 อาคาร อาคารฝั่งซ้ายจะเป็นแบบ Low Rise สูง 7 ชั้น ชื่อว่าอาคาร Y ฝั่งขวาจะเป็น อาคาร High Rise สูง 39 ชั้น ชื่อว่าอาคาร X  โดยมีพื้นที่สวนส่วนกลางกั้นตรงกลางค่ะ

จะเห็นได้จากภาพเลยว่าการออกแบบ Facade ของโครงการนี้จะให้ความรู้สึกที่ดูเท่ ขรึมเป็นความหรูหราที่ไม่เหมือนใครดีค่ะ เพราะนอกจากโทนสีและวัสดุแล้วรูปทรงของอาคารก็ออกแบบมาเรียบเท่ เน้นความโมเดิร์นด้วยเส้นสายตรงไปตรงมาด้วยรูปทรงเรขาคณิต

FACILTIES : พื้นที่ส่วนกลาง

ชมภายนอกอาคารไปแล้ว มาต่อกันที่อีกส่วนที่น่าสนใจของโครงการนี้อย่างพื้นที่ส่วนกลางกันค่ะ ทั้งสองอาคารจะมีพื้นที่ส่วนกลางที่สามารถใช้งานร่วมกันได้ โดยจะมีพื้นที่สวนและลานพักผ่อนกั้นตรงกลางระหว่างทั้งสองอาคารทำให้มีพื้นที่สำหรับลมพัดผ่านและสร้างความสบายตา

อาคาร Y

ส่วนแรกที่จะพาทุกคนไปชมกันก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร Y กันค่ะ เมื่อเดินผ่านซุ้มทางเดินเข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่นั่งรอรถจากที่จอดระบบ Automatic Parking โดยโซนนี้จะเป็นพื้นที่กระจกโล่งๆ มีจอแสดงสถานะเรียกรถยนต์ที่เห็นวิวสวนด้านข้าง

นอกจากนี้ยังมีโซนรับรองด้านในที่มีพื้นที่นั่งเล่นและโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับประชุมคุยงานด้วยค่ะ

ที่สำคัญจะได้วิวสวนขนาดใหญ่แบบเต็มตาสามารถเดินออกไปยังสวนได้เวลาเบื่อๆ ค่ะ

ภายในสวนจะมีที่นั่ง Sunken Seat ไว้ชมวิวสวนหินแบบนี้เลยค่ะ บรรยากาศตอนเย็นคงสวยทีเดียว

อาคาร X

มากันที่อาคาร X  กันบ้างค่ะ บนอาคารนี้จะมีพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 1, 2, 23, 39 และดาดฟ้า

เมื่อเข้าอาคารมาจะเจอกับพื้นที่รับรองพื้นถึงฝ้าสูงโปร่งมีกระจกบานใหญ่กั้นระหว่างพื้นที่ล็อบบี้กับลานน้ำพุด้านข้างอาคารที่มีกำแพงต้นไม้เพิ่มมุมมองเขียวๆ ให้กับผู้ใช้งาน

โดยตรงลานน้ำพุนี้สามารถออกมาใช้งานนั่งเล่นชมบรรยากาศได้ แถมรับลมเต็มๆเลยค่ะตรงนี้

จุดเด่นคือตรงนี้สามารถมองเห็นเวลารถไฟฟ้าวิ่งผ่านแต่คนข้างนอกไม่สามารถเข้ามาได้อีกทั้งมีระแนงด้านหน้าบังมุมมองไว้เพิ่มความเป็นส่วนตัว

เมื่อขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเจอพื้นที่ Co-Working Space ที่ตกแต่งมาดู Futuristic น่าใช้งานสุดๆ เลยค่ะ

จุดเด่นของห้องนี้ก็น่าจะเป็นโคมไฟวงกลมหลายจุดพอสะท้อนกับวัสดุ High Gloss ที่ใช้แต่งแล้วยิ่งดูอลังการ โดยห้องนี้จะเป็นพื้นที่ใช้ไฟแบบสว่างที่สุดของโครงการเมื่อเทียบกับห้องอื่นๆ ทำให้เวลามาใช้งานจะรู้สึกกระตือรือร้นไม่รู้สึกผ่อนคลายจนเกินไป ห้องนี้มีทั้งเก้าอี้นั่งทำงานแบบปกติและที่นั่งเอนหลังทำงานและปลั้กไฟเยอะไม่ต้องกลัวว่าจะไม่พอเลยค่ะ

สำหรับที่ชั้น 23 จะเป็นโซน Sky Lounge พื้นที่ที่สามารถเข้ามานั่งผ่อนคลายชมวิว หรือนั่งทำงานก็ได้เช่นกันค่ะ

มาที่ชั้น 39 กันต่อค่ะ ชั้นนี้ถือว่าเป็น Highlight ของโครงการนี้เลยเพราะเป็นชั้นสระว่ายน้ำที่ล้อมแกนอาคารไว้ทำให้สามารถว่ายวนรอบได้เลย รับวิวเมืองกรุงเทพฯ แบบ 360 องศาอย่างแท้จริง

เนื่องจากพื้นที่ตรงนี้อยู่ชั้น 39 ทำให้ความสูงมากกว่าอาคารข้างๆ บางอาคารทำให้วิวทางทิศใต้จะเปิดโล่งเลยค่ะ

ฝั่งด้านหน้าก็จะติดวิวส่วนบนของตึกรอบๆ บ้างก็ดูดีไปอีกแบบค่ะ

มาที่ชั้น Mezzanine ที่อยู่ด้านบนของสระว่ายน้ำกันค่ะ พื้นที่ตรงนี้ก็จะเป็นห้องออกกำลังกายคอนเซ็ปต์เดียวกับสระว่ายน้ำเลยเพราะสามารถเห็นวิวได้แบบ 360 องศา

เห็นวิวแบบจัดเต็มด้วยบานกระจกไร้ขอบเต็มตาสุดๆ อุปกรณ์ออกกำลังกายก็ใช้แบรนด์ตัวท็อปจากอิตาลีอย่าง Technogym ค่ะ

และชั้นบนสุดที่ดาดฟ้ามีมุมนั่งเล่นชิวๆ ในสวน รับบรรยากาศเมืองกรุงเทพฯ ยามเย็นกับเพื่อนก็คงดีไม่น้อยเลยนะคะ

ROOM TYPE : แบบห้อง

ภายในโครงการ โนเบิล อราวน์ อารีย์ จะมีแบบห้องพักที่เหลือ ณ ปัจจุบัน (มิถุนายน 2566) เป็นแบบ 1 Bedroom – 1 Bedroom Plus ขนาดเริ่มต้นที่ 26.40-44.89 ตร.ม. ค่ะ การจัดพื้นที่ใช้สอยของที่นี่ทำมาเน้นพื้นที่ใช้สอยภายในห้องพักขนาดใหญ่ โดยเฉพาะโซน Living และ ห้องนอน เน้นความสูง Floor to Ceiling ที่ 2.7 เมตร ทำให้สเปซในห้องดูโปร่งสบายตา บวกกับหน้าต่างบานใหญ่แล้วทำให้สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มๆ โดยโครงการจะขายในแบบ Fully Furnished แต่งมาครบเรียบร้อยพร้อมให้ลากกระเป๋าเข้าอยู่ได้เลยค่ะ

1 Bedroom

พื้นที่ใช้สอย 34.8 ตร.ม.

แบบห้องแรกที่ Yusabuy จะพาทุกคนมาชมเป็นแบบ 1 ห้องนอนพื้นที่ใช้สอย 34.8 ตร.ม. ค่ะ แปลนนี้จะเป็นแบบที่หลายคนน่าจะคุ้นเคยคือเปิดห้องเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ห้องครัว ที่อยู่ติดกับห้องนั่งเล่น ความพิเศษของห้องนี้คือจะได้พื้นที่โซนนั่งเล่นกว้างสบายยิ่งขึ้นเนื่องจากผังของห้องนี้มีการเพิ่มพื้นที่ด้านหลังชั้นวางทีวีจากแปลนห้องแบบปกติค่ะ

เมื่อเปิดเข้ามาจะเจอกับพื้นที่ครัวพร้อมช่องสำหรับวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าและตู้เย็นค่ะ มีเตาและซิงค์ล้างจานติดตั้งไว้ให้เรียบร้อย

เลี้ยวเข้ามาที่ด้านขวาของห้องก็จะเจอกับโต๊ะทานข้าวขนาด 2 ที่นั่งและโซนห้องนั่งเล่นติดกับระเบียงจะเห็นได้ว่าชั้นวางทีวีจะหลบเข้าไปในผนังที่ให้ได้พื้นที่มากขึ้นสามารถเดินได้สบายๆ

เมื่อเข้ามาห้องนอนก็จะเจอกับพื้นที่แนวกว้างมีโซนแต่งตัวอยู่ที่ด้านซ้ายโดยตู้เสื้อผ้าจะมีสองฝั่งเลยค่ะ ใครที่อยู่สองคนก็ไม่ต้องแย่งกัน สำหรับการตกแต่งอย่างผนังด้านบนหัวเตียงที่เป็นกระจกทำให้ดูกว้างขึ้นส่วนนี้มาพร้อมกับห้องเลยค่ะ ในส่วนของดีไซน์อาจจะมีแต่งต่างไปบ้างแต่ละห้อง

ความพิเศษของห้องนี้คือสามารถมองเห็นรถไฟฟ้า เสียงไม่ได้รบกวนแต่อย่างใด

มุมมองเมื่อออกจากห้องน้ำก็จะเจอกับโซนแต่งตัวก่อน ตัวหน้าบานตู้เสื้อผ้าจะเป็นกระจกสีชาดำดูไม่ทึบมาก ภายในเดินระบบ LED มาให้เรียบร้อยแล้วเวลาเปิดตู้จะมีไฟเปิดอัตโนมัติค่ะ

ภายในห้องน้ำจัดมาเป็นสัดส่วนมีช่องเก็บของหลายจุดค่ะ สุขภัณฑ์จะเป็นของแบรนด์ Kohler

1 Bedroom Plus (B03)

พื้นที่ใช้สอย 41.56 ตร.ม.

ขยับมาอีกแปลนที่ตอบโจทย์ครอบครัวที่อยู่ 2-3 คนกันค่ะ Yusabuy ถ่ายแบบแปลนนี้จากสองมุมมาให้ทุกคนชมกัน

เมื่อเปิดเข้าห้องมาจะเจอกับพื้นที่ภายในห้องที่ดูมีหลายห้องย่อยแบบนี้ค่ะ

โดยจะพบกับพื้นที่ Open Plan ที่เป็นฟังก์ชันสำหรับใช้งานร่วมกันขนาดค่อนข้างใหญ่เลย ส่วนหนึ่งเพราะฝ้าที่สูงทำให้ห้องดูโปร่ง

โซนครัวของห้องนี้จะเป็นแบบตัว L ฟังก์ชันการใช้งานครบครัน ทำอาหารได้ค่ะ

ตรงที่นั่งทานข้าวนี้ก็รองรับถึง 4 ที่นั่ง สามารถนั่งทานข้าวดูทีวีได้ด้วยได้เลย

ห้องนอนใหญ่ก็มาพร้อมเตียงขนาด 5 ฟุต มีทางเข้าห้องน้ำจากภายในห้องนอนค่ะ

แปลนห้องน้ำก็เรียงลำดับการใช้งานแยกสัดส่วนโซนเปียกโซนแห้งเรียบร้อย เป็นห้องน้ำแบบ Double Access ค่ะ

เมื่อออกจากห้องนอนใหญ่มาก็จะเห็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นดูกว้างๆ ประมาณนี้เลยค่ะ

สำหรับห้องนอนนี้จะเป็นห้องที่อเนกประสงค์ทีเดียวค่ะ เพราะทางโครงการ Built-in ชุดโต๊ะทำงานที่สามารถปรับลงมาเพื่อเตียงนอนได้ ภายในห้องมีตู้เสื้อผ้าในตัว สำหรับใครที่อยู่คนเดียวเวลามีเพื่อนมาหาก็ถือว่าตอบโจทย์เลยค่ะ

โซนห้องนั่งเล่นจากห้องอีกมุมก็จะเห็นพื้นที่ใช้งานสวยงามแบบนี้เลยค่ะ เวลานั่งเล่นที่โซฟาจะเห็นมุมดูทีวีที่กว้างพอสมควร

มุมมองไปยังพื้นที่ครัวก็มีพื้นที่สำหรับเดินสบาย ๆ

ชุดตู้ที่ทางโครงการ Build-in มาพร้อมห้องก็มีช่องเก็บของหลากหลายเรียบร้อยดีค่ะ

1 Bedroom Plus (B01)

พื้นที่ใช้สอย 44.70 ตร.ม.

และสุดท้ายแบบแปลนที่ Yusabuy คิดว่ามีการจัดฟังก์ชันการใช้งานที่สนใจค่ะ แบบนี้จะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom Plus อีกเช่นกัน มีจุดเด่นที่ห้องน้ำ Double Access ที่เป็นทางเข้าแยกคนละฝั่ง ได้ประโยชน์ทั้งจากการเข้าใช้งานทางฝั่งห้องนอนและเวลากลับเข้าห้องสามารถเข้าห้องน้ำได้สะดวก ทุกห้องมีหน้าต่างบานใหญ่เป็นของตัวเองทำให้ห้องนี้มีการระบายอากาศที่ดีและรับแสงธรรมชาติได้เต็มที่

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับพื้นที่ Open Planing กว้างๆ คล้ายแบบที่เราได้ไปชมกันมา มีโซนครัวอยู่ที่ฝั่งด้านซ้าย

พื้นที่นั่งเล่นกว้างทีเดียวค่ะ ภายในห้องจะใช้เป็น Love Seat 2 ที่นั่ง ภาพรวมก็ออกมาดูสบายๆ

มองจากหน้าห้องอเนกประสงค์ก็จะดูกว้างแบบนี้เลยค่ะ

ด้านข้างชุดทีวีจะเป็นทางเข้าห้องอเนกประสงค์ค่ะโดยห้องนี้จะได้หน้าต่างของตัวเองอีกหนึ่งจุด ทำให้ห้องนี้ดูโปร่งจะเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเล็กก็เวิร์ค

จะเห็นได้จากหน้าต่างว่าฝั่งนี้เป็นโซนที่ไม่มีอาคารมาบังเลยค่ะ สามารถรับลมได้เต็มๆ

ฝั่งด้านขวาจากทางเข้าจะเป็นห้องน้ำที่แยกสัดส่วนโซนเปียกโซนแห้งมาแล้ว

โดยประดูบานสไลด์ที่เห็นด้านหลังคือทางเข้า-ออกห้องน้ำจากห้องนอนใหญ่ค่ะ

เมื่อเลยห้องน้ำมาจะเจอกับพื้นที่ Walk-in Closet ที่มีตู้เสื้อผ้าทั้งสองฝั่งเลยค่ะ

หน้าต่างด้านขวามือนี้สามารถเปิดเพื่อระบายอากาศได้ และบวกกับตำแหน่งห้องน้ำแล้วทำให้เป็นอีกจุดที่ทำให้ห้องนี้มีการระบายอากาศที่ดีเลย

เตียงนี้จะเป็นเตียงขนาด 5 ฟุตค่ะ

ผนังฝั่งนี้สามารถติดทีวีเอาไว้ดู Netflix สบายๆ ในห้องนอนก็ได้เช่นกัน

ระเบียงของที่นี่จะเป็นระเบียงที่เหมาะกับการใช้เปิดรับลมมากว่าออกมาใช้งานค่ะ กลุ่มที่ชอบความคุ้มค่าอยากได้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องเยอะๆ ก็น่าจะถูกใจกับการออกแบบนี้มากกว่า

SUMMARY

ภาพรวมโครงการ

• โครงการคอนโดมิเนียม มี 2 อาคาร คือ อาคาร Y แบบ Low Rise สูง 7 ชั้น และ อาคาร X แบบ High Rise สูง 39 ชั้น ออกแบบมาในสไตล์ Timeless Modernism Design ที่ดูเรียบเท่ด้วยเส้นสาย Geometric โทนสีเทา-ดำ ที่สร้างเสร็จเรียบร้อยพร้อมเข้าอยู่
• เป็นโครงการที่อยู่ในย่านอารีย์ พิเศษที่ติดถนนพหลโยธิน(ระหว่างซอย 4 และ 6) ห่างจาก BTS อารีย์เพียง 90 เมตร*
• เดินทางสะดวกไม่ว่าจะใช้รถไฟฟ้า BTS หรือรถยนต์ส่วนตัว
• โดยรอบโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน โดยเฉพาะในหมวดไลฟ์สไตล์ เช่น ร้านอาหาร คาเฟ่ ฟิตเนส จนไปถึงแหล่งงาน
• ราคาก่อนปิดโครงการมาพร้อมโปรโมชั่นพิเศษเบากว่าช่วงเปิดตัว เริ่มต้นที่ 5 ล้านบาท หรือ 175,000 บาท/ตร.ม.* ราคา ณ เดือน มิ.ย. 2566
• ภายในห้องพักพื้นที่ใช้สอยครบ พื้นถึงฝ้า 2.7 เมตร เพิ่มความโปร่งให้กับตัวห้อง แต่ละห้องแต่งภายในมาเรียบร้อยแบบ Fully Furnished

ทำเลและการเดินทาง

• เป็นโครงการบนทำเลน่าอยู่อาศัยระดับโลกที่ได้รับความนิยมอย่างทำเล “อารีย์“
• ตัวโครงการอยู่ห่างจากรถไฟฟ้าอารีย์เพียง 90 เมตร
• นอกจากใกล้รถไฟฟ้าแล้วยังสามารถเชื่อมต่อได้หลากหลายเส้นทางเนื่องจากตัวโครงการอยู่ติดถนนพหลโยธิน สามารถใช้ทางลัดออกสู่วิภาวดีได้ สามารถออกสู่ถนนพระราม 6 หรือเชื่อมต่อสู่ทางพิเศษศรีรัชที่สนามเป้าได้ ทำให้เรื่องการเดินทางโดยรถยนต์ก็ถือว่าสะดวกสบายมาก
• เป็นทำเลที่เรียกได้ว่าแหล่งคาเฟ่และร้านไลฟ์สไตล์ตัวท็อปของกรุงเทพฯ เปิดตั้งแต่ช่วงเช้าไปจนยามดึก สายคาเฟ่หรือ Night Life ก็คึกคัก
• มีโซนสำนักงานที่เป็นอาคารสูงทั้งของภาครัฐไปจนถึงเอกชนเกาะอยู่ที่เส้นพหลโยธินเรียกได้เป็นอีกแหล่งงานที่มีความหนาแน่น
• มีโซนชุมชนดั้งเดิมทำให้ย่านอารีย์เป็นโซนที่มีสเน่ห์แบบ Old & New

เหมาะกับใคร?

• ผู้ที่ทำงานหรือมีธุรกิจอยู่ในย่านอารีย์
• ผู้ที่อยากลงทุนบนทำเลศักยภาพใจกลางเมืองในอารีย์ ติดถนนพหลโยธิน ใกล้อนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ไม่ไกลจากลาดพร้าว ใกล้รถไฟฟ้าอารีย์เพียง 90 เมตร ที่มีความ Limited อย่าง โนเบิล อราวน์ อารีย์
• กลุ่ม DINK ที่อยากได้คอนโดใกล้ที่ทำงานสำหรับอยู่อาศัยวันจันทร์-ศุกร์ บนทำเลที่ดีสามารถปล่อยเช่าได้อนาคต
• กลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ที่อยากได้คอนโดมิเนียมบนทำเลอารีย์เน้นฟังก์ชันครบครัน พื้นที่ส่วนกลางหรูหราน่าใช้งาน
• ผู้ที่อยากได้คอนโดฯพร้อมอยู่ ทำเลดี มีงบประมาณ 200,000 บาท/ตร.ม.

ข้อมูลโครงการ Noble Around Ari (โนเบิล อราวน์ อารีย์)