เรามาเริ่มกันตั้งแต่ด้านหน้าบ้านเลยค่ะ ตัวบ้านออกแบบมีกลิ่นอายของบ้านสไตล์อังกฤษ ใช้โทนสีขาว-เทา ที่ดูละมุนตา อบอุ่นแต่มีคาร์เร็คเตอร์ของความเป็นผู้ใหญ่ อยู่อาศัยได้นานดูไม่เบื่อง่าย เน้นการใช้กระจกและหน้าต่างขนาดใหญ่ทำให้มีช่องให้แสงเยอะ โดยตรงชั้น 2 เราจะเห็นระเบียงเป็นแบบ Double Volume ที่เชื่อมต่อมาจากพื้นที่ภายในบ้านค่ะ
แบบบ้านนี้จะจอดรถได้ 3 คันเลยค่ะ บริเวณโรงจอดรถจะปูเป็นพื้น Stamp Concrete มาให้แบบนี้ บริเวณทางเข้าหลักจะเป็นประตูสีน้ำเงินเพื่อความเด่นชัดค่ะ
มีพื้นทางลาดมาให้ รองรับได้ทั้งรถเข็นเด็ก หรือวีลแชร์เลยค่ะ จะเห็นว่าทางลาดทำเป็นขนาดที่กว้างพอที่จะเข็นวีลแชร์ขึ้นได้สะดวก นอกจากนี้บริเวณนี้ก็จะมีห้องเก็บของไว้สำหรับเก็บอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ค่ะ
สำหรับบ้านไหนที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้าก็ไม่ต้องกังวล เพราะทางโครงการเดินไฟและติดตั้ง Junction EV Charger มาให้ในบ้านทุกหลัง
ส่วนของประตูทางเข้าเป็นประตูนั้นเป็นแบบ Oversized Door ทำจากไม้จริงค่ะ วีลแชร์สามารถเข็นเข้าบ้านสะดวกเลย มีกิมมิคในการออกแบบด้วยสีน้ำเงินโดดเด่นตัดกับตัวบ้านโทนสีขาว ทำให้ดูมีลูกเล่นไม่น่าเบื่อ
พอเข้าบ้านมาเราจะเจอมุมเก็บของที่หลบสายตาไปเป็นสัดเป็นส่วน ซึ่งสามารถใช้เป็นจุดเก็บรองเท้า และอุปกรณ์ต่าง ๆ เช่น ร่ม เพื่อหยิบจับง่ายก่อนออกจากบ้านค่ะ เราสามารถกั้นบางส่วนเป็นห้องเก็บของได้ด้วย
จะเห็นว่ามุมเก็บรองเท้าและห้องเก็บของนั้นวางหลบสายตาเพื่อความเรียบร้อย แต่ยังอยู่ในจุดที่ใช้งานได้สะดวกค่ะ
ภายในบ้านติดตั้งระบบ Home Automation สามารถเปิดปิดไฟ และแอร์ได้อัตโนมัติผ่านทางแอปพลิเคชั่นได้เลย สะดวกสบายทีเดียวค่ะ
ระบบรักษาความปลอดภัยมีกล้องวงจรปิดมาให้ทั้งภายนอกและภายในตัวบ้านเลยค่ะ ให้ลูกบ้านที่นี่มั่นใจได้เลยในเรื่องระบบความปลอดภัย
ภาพรวมเมื่อเข้ามาจากประตูหน้าบ้านก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ บริเวณทางเข้าบ้านก็จะตรงกับห้องนอนผู้สูงอายุพอดี โดยที่ด้านขวาก่อนถึงห้องนอนผู้สูงอายุจะเป็นห้องน้ำแบบ Non-Step และสามารถทำเป็น Double Access เชื่อมตัวทั้งจากตัวห้องนอนและในส่วนของ Common Area ได้
จะเห็นได้ว่าพื้นที่ตรงนี้ทางโครงการเลือกใช้เป็นกระจกรอบด้านเลย โดยพื้นที่ครัวจะอยู่บริเวณด้านหน้าบ้าน และพื้นที่ในส่วน Common Area จะจัดวางเป็นโซนรับประทานอาหารกับโซนนั่งเล่นแบบนี้ค่ะ ซึ่งจริง ๆ แล้วเราก็สามารถปรับเปลี่ยนวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างอิสระเลยค่ะ
ในส่วนของโซนรับประทานอาหารนั้นสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้และยังมีพื้นที่เหลือเดินได้สบาย
มุมจากโต๊ะรับประทานอาหารจะสามารถมองเห็นสวนด้านหลังบ้านได้ด้วย
ในส่วนของห้องครัวทางโครงการได้ติดตั้งกระจกบานสไลด์มาไว้ให้แบบนี้เลยค่ะ นอกจากจะช่วยให้บ้านดูเป็นสัดเป็นส่วนขึ้นแล้วยังช่วยในเรื่องกันกลิ่นรบกวนเข้ามาภายในบ้านเวลาทำอาหารอีกด้วยค่ะ
จุดนี้สามารถดัดแปลงได้ตามที่ต้องการเลย มีหน้าต่างระบายอากาศออกไปยังโรงจอดรถหน้าบ้านและมีประตูกระจกที่สามารถเปิดออกด้านข้างให้อากาศถ่ายเทและระบายกลิ่นได้ค่ะ
มาถึงมุมที่น่าจะเป็นมุมโปรดของใครหลาย ๆ คน อย่างมุมนั่งเล่น สำหรับพื้นที่ตรงนี้จะเป็นกระจกรอบด้านทำให้บ้านดูโปร่ง ในบ้านตัวอย่างเลือกใช้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์โทนสีครีมตัดกับสีน้ำตาลเข้ม ทำให้พื้นที่ในส่วนนี้ดูอบอุ่นเหมาะกับการนั่งพักผ่อน เป็นความหรูหราที่รู้สึกผ่อนคลายค่ะ โดยสเปซตรงนี้จะอยู่ด้านหลังบ้านที่สามารถเชื่อมต่อกับสวน British Backyard ได้ เสมือนเรานั่งพักผ่อนอยู่ในสวนเลยค่ะ
ถ่ายให้ดูกันหลาย ๆ มุม สเปซตรงนี้สามารถจัดฟังก์ชันได้อย่างหลากหลาย อย่างจุดนี้ทางโครงการเลือกวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งและเก้าอี้เดี่ยวอีกหนึ่งตัว จริง ๆ แล้วเราสามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามที่ต้องการเลยค่ะ อาจจะวางเป็นโซฟาตัว L ขนาดใหญ่แทน หรือจะจัดโต๊ะเล็ก ๆ เป็นมุมทำงานวิวสวนก็ได้ หรือใครชอบผ่อนคลายอาจจะวางเก้าอี้นวดไฟฟ้าเข้ามุม นอนชมวิวสวนก็สามารถทำได้เหมือนกันค่ะ
พื้นที่ด้านหลังบ้านที่เชื่อมต่อกับสวนหลังบ้าน British Backyard ก็จะมีเฉลียงมาให้แบบนี้และมีพื้นที่สามารถวางเป็นโต๊ะเล็ก ๆ เพิ่มมุมพักผ่อนด้านนอกตัวบ้านได้ แต่บ้านจริงที่โครงการส่งมอบจะมีรั้วกั้นให้เพื่อความปลอดภัยและเป็นส่วนตัวนะคะ ไม่ได้เปิดโล่งแบบนี้
มาต่อกันที่ห้องนอนชั้นล่างที่เหมาะกับการทำเป็นห้องนอนผู้สูงอายุมาก ๆ ด้วยฟังก์ชันที่เอื้อต่อการใช้งาน ขนาดห้องอาจจะไม่ได้ใหญ่มากแต่สามารถวางเตียง Queen Size ได้แบบมีพื้นที่เดินรอบเตียงได้แบบไม่อึดอัดค่ะ
ด้วยความที่ห้องนี้อยู่บริเวณด้านหลังของตัวบ้านทำให้ห้องนอนนี้สามารถเทควิวสวนหลังบ้านได้ ให้ความที่รู้สึกร่มรื่นเข้าถึงบรรยากาศการพักผ่อนได้ดีทีเดียว
มุมปลายเตียงตรงนี้สามารถทำเป็น Built-in ตู้เสื้อผ้าเต็มพื้นที่ไปเลยหรือจะทำเป็นตู้โชว์บางส่วนแบบนี้ปรับแต่งได้อย่างอิสระเลยค่ะ
โดยพื้นของห้องนี้จะเป็นแบบ Absorbtion Floor ด้วยค่ะ เป็นพื้นที่สามารถลดแรงกระแทกเวลาล้มได้ เพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานสำหรับผู้สูงอายุค่ะ
มุมหัวเตียงสามารถวางเป็นโต๊ะเครื่องแป้งเข้ามุมแบบนี้ได้
ห้องน้ำชั้นล่างสามารถทำเป็น Double Access ที่เชื่อมต่อกับห้องนอนและส่วน Common Area ได้ มีสุขภัณฑ์มาให้ครบเลย ซึ่งสุขภัณฑ์ทางโครงการเลือกใช้เป็นผลิตภัณฑ์ของ Kohler ทั้งหมดเลยค่ะ
ทางเข้าห้องน้ำไม่มีสเต็ปและได้ประตูกว้าง ผู้สูงอายุและผู้ที่ใช้วีลแชร์ใช้งานได้สะดวก
ห้องนำชั้นล่างจะมาพร้อมที่นั่งอาบน้ำและราวจับมาให้ผู้สูงอายุสามารถลุก-นั่งอาบน้ำได้สะดวกค่ะ
มีปุ่มฉุกเฉินติดตั้งมาให้แบบนี้ ในกรณีที่ผู้สูงอายุลื่นล้มหรือต้องการความช่วยเหลือจากคนภายในบ้านก็สามารถกดปุ่มเรียกให้คนมาช่วยได้ทันที
มาต่อกันที่บริเวณชั้น 2 ค่ะ สำหรับบริเวณโถงบันไดตรงนี้ก็มีกิมมิคทำเป็นพื้นที่โชว์งานศิลปะได้ โดยเมื่อขึ้นบันไดมาจะมีส่วน Family Area เป็นพื้นที่ Common area อีกจุดอยู่ด้านหน้าบ้านค่ะ
ในส่วนของ Family Area เป็นพื้นที่ที่สามารถจัดฟังก์ชันได้อย่างหลากหลาย อย่างในห้องนี้จัดเป็นมุมนั่งเล่น และทำฉากกั้นเป็นมุมทำงานด้านหลัง จัดวางฟังก์ชันออกมาได้คุ้มค่ากับพื้นที่การใช้งานเลยค่ะ นอกจากนี้ส่วนของห้องนี้ก็สามารถเชื่อมต่อกับระเบียงที่เราเห็นฝั่งด้านหน้าบ้านได้อีกด้วย เรียกว่าใช้พื้นที่ใช้สอยได้คุ้มทั้ง Indoor และ Outdoor เลย
มุมนั่งเล่นตรงนี้ทางโครงการเลือกใช้เป็นกระจกบานใหญ่เช่นกัน เห็นหน้าต่างขนาดใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่ต้องกังวลเพราะทางโครงการเลือกใช้กระจกตัดแสงสีเขียวที่ลดแสง UV และช่วยถนอมสายตา พื้นที่ในส่วนนี้รับแสงธรรมชาติได้ดีเหมาะกับทั้งการพักผ่อนและการทำงานเลยค่ะ มีพื้นที่กว้างพอที่จะวางโซฟาขนาดใหญ่ได้
มุมทำงานตรงนี้สามารถวางเป็นโต๊ะทำงานเข้ามุมริมหน้าต่างแบบนี้ แล้วพื้นที่ด้านหลังมีเหลือก็วางเก้าอี้เดี่ยวไว้สำหรับทำเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือเล็ก ๆ โดยที่มุมห้องเราก็สามารถทำเป็น Built-in ตู้โชว์หรือวางของสะสมหรือจะทำเป็นที่เก็บเอกสารไปเลยก็ทำได้ค่ะ ส่วนนี้ปรับเปลี่ยนตามไลฟ์สไตล์ผู้อาศัยได้อย่างอิสระเลย
บริเวณด้านนอกระเบียงมีกันสาดมาให้เรียบร้อยตรงนี้สามารถนำต้นไม้มาวางเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับชั้นบนของตัวบ้านได้
มาดูในส่วนของห้องนอน Master Bedroom กันบ้างค่ะ ส่วนนี้จะอยู่บริเวณด้านหลังตัวบ้าน เมื่อเดินเข้ามาจากโถงบันไดก็จะเจอกับพื้นที่ที่สามารถทำเป็น Walk-in closet ขนาดใหญ่เก็บเสื้อผ้าได้พอสมควรเลยค่ะ จะเว้นตรงกลางทำเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้งแบบนี้หรือจะทำเป็น Walk-in closet แบบเต็มพื้นที่ไปเลยก็ได้
ฝั่งตรงข้ามของ Walk-in Closet จะเป็นห้องน้ำค่ะ
ห้องน้ำมีฉากกั้นแยกโซนแห้ง-เปียกไว้ให้เรียบร้อย มี Bathtub มาให้มาพร้อมอ่างล้างหน้าแบบ His & Her สามารถใช้งานพร้อมกันได้ในเวลาที่เร่งรีบค่ะ
ภายในโซนเปียกมีเจาะผนังไว้สำหรับวางผลิตภัณฑ์อาบน้ำไว้ให้ มี Bathtub ระบบน้ำวนเป็นผลิตภัณฑ์จาก Kohler ที่นอกจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อแล้วยังส่งผลดีต่อสุขภาพอีกด้วย
ในส่วนของห้อง Master Bedroom มีขนาดที่กว้างขวางทีเดียว มีพื้นที่ด้านข้างที่สามารถกั้นเป็นห้องทำงานได้เลย หรือจะทำเป็นมุมนั่งอ่านหนังสือแบบนี้ก็ดูเข้าท่า
มุมนี้จะเป็นมุมที่มองออกไปด้านหลังบ้านค่ะ โดยปกติแล้วบ้านโครงการทั่วไป มุมที่มองไปด้านหลังบ้านมักจะไม่มีหน้าต่างบานใหญ่ เพราะต้องคำนึงถึงความเป็นส่วนตัวและมุมมองจากบ้านที่หลังบ้านชนกัน แต่เนื่องจากบ้านแบบนี้มีสวน British Backyard อยู่ และมีระยะห่างระหว่างด้านหลังบ้านมากเป็นพิเศษ จึงสามารถเปิดช่องแสงบานใหญ่ได้ค่ะ เราสามารถติดม่านกรองแสงทำให้ห้องดูไม่สว่างจนเกินไปเหมาะแก่การพักผ่อน และได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มขึ้น พื้นที่ภายในห้องสามารถวางเตียง King Size และวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้อีก 2 ตัว แบบที่ยังมีพื้นที่เดินได้แบบเหลือ ๆ เลยค่ะ
ภายในห้องทางโครงการเลือกใช้โทนสีขาว ครีม ตัดกับคิ้วตกแต่งผนังสีเข้ม ทำให้ภาพรวมบรรยากาศห้องนี้ดูอบอุ่นและสุขุม เหมาะกับการเป็นห้องนอนสำหรับคุณพ่อและคุณแม่ค่ะ ใครชอบก็ลองเอาไอเดียไปปรับใช้กันได้
สำหรับพื้นที่ภายในห้องนอนมุมนี้เราก็สามารถจัดฟังก์ชันการใช้งานได้อย่างยืดหยุ่นเลย จะทำเป็นมุมนั่งทำงานอดิเรก วาดรูป อ่านหนังสือ หรือจะกั้นห้องเป็น Studio ทำงานกระจุกกระจิกของตัวเอง โดยที่ด้านข้างก็สามารถทำเป็น Built-in ตู้โชว์ไว้วางของสะสมหรือหนังสือก็ทำได้อย่างอิสระเลยค่ะ
ในส่วนของพื้นที่ระเบียงนั้นสามารถนำต้นไม้เล็ก ๆ มาวางเพิ่มความสดชื่นบริเวณชั้นบนได้ โดยวิวที่ได้จากระเบียงชั้น 2 ก็จะได้ทั้งวิวสวน British Backyard ด้านหลังบ้านค่ะ
มาต่อกันที่โถงบริเวณชั้น 3 เมื่อขึ้นมาจากบันไดส่วนแรกที่จะเจอคือมุม Family Area และด้านขวาจะเป็นพื้นที่ของห้องนอนที่มาพร้อมห้องน้ำในตัวทั้ง 2 ห้อง
สำหรับพื้นที่ Family Area ในชั้นนี้น่าจะเป็นห้องโปรดของใครหลาย ๆ คนเลยค่ะ พื้นที่ส่วนนี้ทางโครงการเลือกทำเป็นห้องเล่นเกมส์สะท้อนให้เห็นว่าพื้นที่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องเป็นแค่ห้องทำงานเสมอไปและสามารถดัดแปลงเป็นไปตามผู้อาศัยได้อย่างเต็มที่
มุมตรงนี้ก็จะวางโต๊ะแบบยาว ทำชั้น Built-in เป็นชั้นวางของสะสมแบบนี้วาง Art toy เอาไว้ดูฟิน ๆ ได้เลย เป็นพื้นที่ฮีลใจ ไว้เป็นกำลังใจเล็ก ๆ ในวันที่เหนื่อยล้า
หรือสำหรับใครที่ชอบงานศิลปะ สามารถจัดทำพื้นที่ตรงนี้เป็น Art Gallery แบบส่วนตัวของตัวเองได้เลย
มาดูในส่วนของห้องนอนฝั่งด้านหน้าบ้านกันก่อนค่ะ เมื่อเข้ามาส่วนแรกที่จะเจอก็จะเป็น Walk-in Closet ฝั่งด้านในก็จะเป็นส่วนนอนและห้องน้ำค่ะ
พื้นที่ตรงนี้ลูกบ้านสามารถจัด Space ได้ตามความชอบ แต่ทางโครงการจัดเป็น Walk-in Closet ให้ดูเพื่อเป็นไอเดีย จะเห็นว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่สามารถเก็บเสื้อผ้าได้พอสมควรเลย หรือจะทำเป็นมุมวาง Skincare ต่าง ๆ ก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ค่ะ
ห้องนอนใช้เป็นกระจกบานใหญ่เช่นเคย มาพร้อมกับหน้าต่างระบายอากาศที่สามารถเปิดให้อากาศถ่ายเทได้ การตกแต่งของห้องนี้เลือกใช้โทนสีน้ำเงินและเทา ทำให้คาเร็คเตอร์ของห้องนี้ดูเป็นห้องนอนที่มีความสนุกสนาน จัดวางฟังก์ชันมาอย่างเรียบง่ายแต่เพียงพอต่อการใช้งาน
โดยห้องนี้สามารถวางเตียง King Size ได้สบาย พื้นที่หัวเตียงสามารถวางโต๊ะข้างหัวเตียงได้ทั้ง 2 ฝั่ง วางเก้าอี้ปลายเตียงและโซฟาเดี่ยวข้างเตียงได้อีกหนึ่งตัว และที่สำคัญยังเหลือพื้นที่เดินได้สะดวกเลยค่ะ สำหรับมุมปลายเตียงก็สามารถทำเป็นชั้นวางทีวีและตู้โชว์วางของแบบนี้ได้อีกด้วยค่ะ
ในส่วนของห้องนี้จะไม่ได้มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ค่ะ เราสามารถนำฉากกั้นอาบน้ำมาติดตั้งเพิ่มเติมได้ มีสุขภัณฑ์มาให้ครบเหมือนเคย บริเวณที่อาบน้ำก็เจาะผนังทำเป็นที่วางผลิตภัณฑ์อาบน้ำมาไว้ให้เรียบร้อยเลย มาพร้อมหน้าต่างระบายอากาศที่สามารถเปิดให้อากาศถ่ายเทได้
มาถึงห้องนอนสุดท้ายกันแล้ว เข้ามาก็จะเจอกับห้องน้ำก่อนเลย และด้านในจะเป็นส่วนของห้องนอนค่ะ
ห้องน้ำขนาดห้องเล็กลงมากว่าห้องเมื้อกี้เล็กน้อย แต่ฟังก์ชันการใช้งานนั้นจัดเต็มเหมือนเดิมมีสุขภัณฑ์มาให้ครบเลยค่ะ กระจกที่ได้จะเป็นกระจกฝ้าเพื่อความเป็นส่วนตัวนะคะ แต่ถ้าใครยังไม่มั่นใจก็แนะนำติดมูลี่แบบกันน้ำเพิ่มเติมได้เลย
มุมทางเข้าห้องจัดพื้นที่การใช้งานได้อย่างคุ้มค่าเลยค่ะ ทำเป็น Built-in ตู้เสื้อผ้าเข้ามุมแบบนี้ได้เลย
ห้องนอนนี้ทางโครงการจัดฟังก์ชันเป็นห้องนอนของเด็กที่มีขนาดกว้างมากทีเดียวค่ะ การตกแต่งภายในห้องเลือกใช้โทนสีชมพูทำให้ห้องดูมีความละมุน เด็ก ๆ น่าจะชอบเลยค่ะห้องนี้ มีพื้นที่กว้างพอสามารถวางเตียง King Size ได้สบาย และมีพื้นที่เหลือทำเป็นมุมงานอดิเรกได้ พอเป็นห้องเด็กที่มีความกว้างขนาดนี้ก็เหมือนได้เพิ่มพื้นที่การเรียนรู้สำหรับเด็ก ๆ เลยค่ะ
มุมตรงข้างเตียงตรงนี้ก็ทำสามารถเป็นจุดนั่งทำงานศิลปะได้ เพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับเด็ก ๆ
บรรยากาศภายในห้องนี้ดูน่ารักมากเลยค่ะ
ภายในห้องมีพื้นที่ส่วนตัวที่สามารถทำเป็นมุมทำการบ้านหรืออ่านหนังสือได้จากภายในห้องของตัวเองเลย เรียกว่าเป็นห้องเด็กที่จัดฟังก์ชันแบบได้อย่างหลากหลายและใช้งานได้จริง
