สิงห์ คอมเพล็กซ์ (SINGHA COMPLEX) โครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ย่านอโศกที่หลายคนจับตามองกันอยู่ก็ได้ฤกษ์เปิดให้เข้าใช้ในส่วนของพื้นที่ร้านค้าด้านล่างแล้วตั้งแต่ต้นเดือนตุลาคมนะคะ  ทีมงาน YUSABUY เลยแวะไปเก็บภาพบรรยากาศมาฝากัน  เพราะส่วนของพื้นที่ไลฟ์สไตล์มอลล์นั้นมีร้านค้าตบเท้าเข้ามาจับจองพื้นที่กันเกือบจะเต็มทุกล็อคแล้ว บรรยากาศจะเป็นยังไงนั้น ตามทีมงานมาเลยค่ะ

นี่คือพิกัดของโครงการ SINGHA COMPLEX ที่เราจะพาไปดูกันวันนี้คะนะ ใครที่ไม่ทราบว่าตัวโครงการอยู่ที่ไหนก็จิ้มตามพิกัดมาได้เลยที่ GPS >>>13.748562, 100.563975 

โครงการ SINGHA COMPLEX นี้เป็นเป็นโปรเจคที่ทาง SINGHA ESTATE ขยายการลงทุนเข้ามาในธุรกิจที่เป็น Non-core business เดิมอย่างธุรกิจเครื่องดื่มประเภทแอลกอฮอล์ที่เรารู้จักกันดีค่ะ  ในโครงการมีทั้งที่เป็นส่วนอาคารสำนักงานอย่าง The Office at SINGHA COMPLEX, ส่วนของ Retail Shop, Convention รวมถึง luxury condominium อย่างโครงการ THE ESSE at SINGHA COMPLEX นั่นเอง

อาคารส่วนแรกของที่ SINGHA COMPLEX เปิดก็คือส่วนของ Lifestyle Mall ที่มีร้านค้าหลากหลายค่ะ  พื้นที่ตรงนี้เป็นจุดเชื่อมต่อระหว่างอโศก, เพชรบุรี และรัชดาภิเษก  ทำให้มีปริมาณคนสัญจรหนาแน่นโดยเฉพาะในช่วงวันธรรมดา  พื้นที่ Retail ตรงนี้จึงไม่ได้รองรับเฉพาะคนในโครงการ SINGHA COMPLEX เท่านั้น  แต่ยังรองรับคนทำงานในย่านอโศกโดยเฉพาะบรรดาพนักงานออฟฟิศทั้งหลายด้วยค่ะ

จริงๆ เมื่อพื้นที่ทั้งหมดของ Singha Complex สร้างเสร็จสมบูรณ์  ก็จะมีทางเชื่อมจากรถไฟฟ้าใต้ดินขึ้นมาได้เลย  แต่ในตอนนี้เราต้องเดินมาออกที่ทางออก 2 แล้วข้ามถนนไปนะคะ

โผล่ขึ้นมาจากใต้ดินก็จะเจอกับอาคาร สิงห์ คอมเพล็กซ์ สีทองเป็นประกาย มองหาไม่ยากเลยค่ะ ซึ่งเราต้องข้ามถนนไปนะคะ แยกอโศก – เพชรบุรีรถค่อนข้างเยอะตลอดเวลา ต้องระมัดระวังกันด้วย

เราจะมองเห็นตึกอยู่ 2 ตึกด้วยกัน ซึ่งอาคารทางซ้ายมือที่สร้างเสร็จแล้วนั้นคือ อาคารที่โครงการแบ่งเป็น พื้นที่สำนักงาน 27 ชั้น, พื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น และ พื้นที่จอดรถ 12 ชั้น ส่วนอาคารด้านข้างที่ยังก่อสร้างอยู่นั้นเป็นส่วนของ Residential ระดับ Luxury ของโครงการ THE ESSE at SINGHA COMPLEX ค่ะ

เมื่อเราข้ามฝั่งมาเราก็จะพบกับทางเข้าด้านข้างที่ติดกับถนนอโศกมนตรี

เมื่อเข้ามาแล้วจะพบกับส่วนของ Retail ที่มีร้านมากมาย ไม่ว่าจะเป็นร้านอาหารหรือจะเป็นร้านกาแฟให้เลือกชิมอยู่หลายร้าน

โดยในพื้นที่โซน Retail at SINGHA COMPLEX นั้นมีทั้งหมด 4 ชั้นด้วยกัน ทำหลังคาเป็นกระจกให้แสงรอดผ่านเข้ามา จึงทำให้พื้นที่ส่วนนี้ดูโปร่งและกว้างขึ้นอีก

มาเริ่มกันที่ชั้น G กับ Tops daily ที่ให้มาฝากท้อง ชอปปิ้งกันได้ แต่ต้องบอกก่อนว่า Tops daily ที่นี้ นั้นมีความพิเศษตรงที่เป็นสาขาแรกที่นำ Tops Box Application มาใช้ในการจับจ่ายใช้สอย รองรับสังคมไร้เงินสด และยังสะดวกรวดเร็ว พร้อมทั้งสาขานี้มีการจัดดีไซน์และรูปแบบการวางสินค้าให้เหมาะกับลูกค้าพนังงานออฟฟิศอย่าง Food to go อาหารทำสดใหม่ ร้านกาแฟและเครื่องดื่ม และสินค้าต่างๆ

เดินออกมาฝั่งตรงข้าม Tops Daily เป็น The Coffee Club ร้านรอาหารที่มีทั้งคาเฟ่และเป็นบาร์ในตัว

ใกล้ๆ กันมีร้าน 1887 คือร้านที่นำสินค้าน่าสนใจจากเมืองฟูจิโยชิดะของญี่ปุ่นมาวางจำหน่าย

สำหรับสายรักสุขภาพก็มีร้าน Dressed มาให้บริการอิ่มอร่อยแบบมีประโยชน์

ใครที่กำลังรอร้านเบเกอรี่สัญชาติฝรั่งเศส Gontran Cherrier (กงทรอง เชอคีเย่) ก็มาเปิดสาขาแรกให้ได้มาลิ้มลองแล้วที่ SINGHA COMPLEX

เราเดินมาเรื่อยๆ อีกโซนจนถึงฝั่งที่เป็น The Office at SINGHA COMPLEX ค่ะ

ถ้าจะเข้าพื้นที่สำนักงาน จะต้องสแกนบัตรก่อนนะคะ ถึงจะผ่านเข้าไปได้ การตกแต่งผนังก็มาในโทนสีเหมือนกับตัวตึกที่เป็นสีรวงข้าวบาร์เลย์สี Champagne gold

ในโซนนี้มีร้านขายดอกไม้และแน่นอนว่าที่นี่จะขาดร้านนี้ไปไม่ได้เลย กับ SINGHA PARK เชียงราย ใครที่ชื่นชอบกับแบรนด์นี้ก็ไม่ต้องไปไกลถึงเชียงรายก็มีให้ชิมแล้วค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 1 ก็จะจัดเป็นพื้นที่ที่รวม ร้านอาหาร, คาเฟ่, คลินิกสุขภาพต่างๆ และธนาคารไว้  ภาพรวมของงานตกแต่งที่นี่จะใช้สีครีมและน้ำตาล  สร้างบรรยากาศที่ดูอบอุ่นค่ะ

เดินมาหน่อยก็จะพบกับร้านอาหารสไตล์ญี่ปุ่นหลายร้านให้เลือกกัน ไม่ว่าจะกินแบบปิ้งย่าง

หรือจะเลือกเป็นชาบูชาบู ซูชิก็มีหมด

ร้านขนมหวานก็มีนะ ซึ่งร้าน King Kong Sweet ที่มาเปิดนั้น เป็นสาขาที่ 2 ค่ะ

ที่นี้ยังมีทั้งคลินิกทำฟัน ร้านตัดผมและธนาคาร พูดง่ายๆ ว่าแค่พักเที่ยงคุณก็มาจัดการธุรส่วนตัวได้ง่ายๆ แม้มีเวลาจำกัด

ขึ้นมาที่ชั้น 2 นั้นจะเป็นส่วนของ Co-working Space และร้านอาหารค่ะ

ร้านกาแฟ Cafe Amazon ก็มาเปิดให้บริการ เดินลงมาพักนั่งจิบกาแฟยามบ่ายกับบรรยากาศธรรมชาติ

ติดๆ กันนั้นเป็นพื้นที่ Co-working Space ค่ะ มีหลายมุมให้เลือกนั่งกันตามสบายเลย

.

และชั้นสุดท้ายที่ชั้น 3 ค่ะ ซึ่งชั้นนี้จะมีส่วนของ Cafeteria อยู่ด้วย ซึ่งเรามาในช่วงบ่ายกว่าๆ แล้ว คนก็เลยไม่เยอะเท่าไหร่

ดันฝากท้องไปกับ Tops ซะแล้ว มีร้านไปเลือกเพียบเลย แถมมีที่นั่งด้วย

และนี่เป็นส่วนของ Co-working Space ที่ชั้น 3 ซึ่งสามารถมองลงไปด้านล่างได้ด้วย การตกแต่งก็เน้นสร้างบรรยากาศผ่อนคลาย มีพื้นที่สีเขียวให้ได้พักสายตา

ในชั้น 3 ก็ยังคงมีร้านอาหารมาให้เลือกชิมอีกเหมือนเดินค่ะ ซึ่งได้ขนเอาร้านดังจากหาดใหญ่ และ ภูเก็ต มาเปิดให้บริการ ไม่ต้องเดินทางไกลเพื่อไปตามมาหาลองชิมกันอีกต่อไป

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่บางส่วนที่ยังรอการปรับแต่งร้านอยู่ อย่างร้าน Café del Mar (คาเฟ่ เดล มาร์)  Beach Club ร้านชื่อดังระดับโลกที่จะมาเปิดร้านอาหารคอนเซ็ปต์ใหม่ครั้งแรกในกรุงเทพฯ  ต่อจากที่พัทยาและภูเก็ตค่ะ  อันนี้เดี๋ยวต้องรอชมเนอะ

อีกไม่นานร้านค้าต่างๆ ก็น่าจะเปิดให้บริการครบทุกล็อคแล้วล่ะค่ะ โครงการนี้นอกจากจะรองรับคนในอาคารเองแล้ว คนอื่นๆ ที่ทำงานในย่านนี้ก็สามารถมาแวะซื้อแวะทานอาหารที่นี่ได้ทั้งมื้อเช้าและมื้อเที่ยงเลยนะคะ เพราะทำเลนี้น่าจะใกล้และสะดวกกับหลายๆ คนเลย

หากโครงการนี้มีความคืบหน้าเพิ่มเติมอย่างไร ทางทีมงาน YUSABUY จะรีบมาอัปเดทบอกต่อกันเลยนะคะ