รีวิวฉบับนี้ผมพาเพื่อนๆ มาดูโครงการทาวน์โฮมในโซนรัชดากันครับ  เราพาไปกันที่ “The Author Ratchada 32 (ดิ ออเธอร์ รัชดา 32)”  ซึ่งเป็นทาวน์โฮม 3 ชั้นครึ่งในโซนที่อยู่อาศัยย่านรัชดาภิเษก  และยังสามารถใช้ซอยย่อยต่างๆ ไปออกทางลาดพร้าว หรือพหลโยธินได้ด้วยครับ

The Author Ratchada 32 เป็นโครงการขนาดเล็กแค่ 14 ยูนิต  ซึ่งพัฒนาโดยดีเวลลอปเปอร์หน้าใหม่ที่ชื่อ ตฤณ แอสเสท (Tryn Asset)  ภายในจัดว่ามีการวางผังที่น่าสนใจทีเดียว  โดยเฉพาะกับห้องนั่งเล่นแบบ Double Space ที่สูงถึง 6.5 เมตร

ดีเทลรายละเอียดต่างๆ ในโครงการ The Author รัชดา 32 จะเป็นยังไง  เดี๋ยวตามผมไปเจาะลึกกันในรีวิวฉบับนี้ครับ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน

The Author Ratchada 32

(ดิ ออเธอร์ รัชดา 32)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ตฤณ แอสเสท จำกัด (Tryn Asset)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยรัชดาภิเษก 32 (แยก 19-4)
• ขนาดที่ดิน >>>  ประมาณ 1-0-4 ไร่
• จำนวนหลัง >>> 14 ยูนิต
• ประเภทบ้าน >>>
  • ทาวน์โฮมสูง 3.5 ชั้น
  • ขนาดที่ดิน 20.9-30.4 ตารางวา
  • พื้นที่ใช้สอย 227 ตารางเมตร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 9.9 ล้านบาท (ราคา ณ ตุลาคม 2561)
• พิกัด GPS >>>  13°48’59.1″N 100°35’05.5″E
• เว็บไซต์โครงการ >>> The Author Ratchada 32
• โทร >>> 091-395-3333

ที่ตั้งโครงการ The Author รัชดา 32 นั้นอยู่ช่วงกึ่งกลางระหว่างถนนรัชดาภิเษกกับถนนลาดพร้าว-วังหินครับ  โดยจะอยู่ภายในซอยย่อยแยก 19-4  ซึ่งจะเข้ามาจากปากซอยอีกประมาณ 200 เมตร

จุดเด่นของทำเลนี้คือการที่สามารถเข้าออกได้หลายทาง  ไม่ว่าจะเป็นจากทางฝั่งรัชดาภิเษกเอง, ฝั่งลาดพร้าว และฝั่งถนนประเสริฐมนูกิจครับ  ซึ่งบริเวณรอบๆ ในระยะที่ขับรถไปไม่ไกลนัก  จะมีรถไฟฟ้าถึง 3 สาย คือ MRT สายสีน้ำเงิน ที่สถานีลาดพร้าว, BTS สายสีเขียวที่กำลังก่อสร้างคืบหน้าไปมากแล้ว  โดยใกล้สถานีรัชโยธินมากที่สุด  และรถไฟฟ้าสายที่เพิ่งเริ่มดำเนินการไปไม่นานอย่างรถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลือง ที่สถานีลาดพร้าวครับ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้ผมเริ่มเดินทางไปดูทาวน์โฮม The Author รัชดา 32  โดยใช้เส้นรัชดาภิเษกฝั่งขาเข้าครับ  เราเริ่มจากแถวแยกรัชโยธิน  ตรงมาเรื่อยๆ ผ่านซอยเสือใหญ่ (รัชดาภิเษก 36) และพอเลยมหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษมมานิดเดียว  ก็จะถึงซอยรัชดาภิเษก 32 ตรงเข้าไปประมาณ 1 กิโลเมตร  แล้วเลี้ยวขวาที่แยก 19-4  อีกนิดเดียวก็ถึงโครงการแล้วครับ  เดินทางง่ายมาก

เริ่มกันตรงแยกรัชโยธินที่กำลังก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว (หมอชิต-คูคต) กันอยู่ครับ  เรามาลอดใต้อุโมงค์ข้ามแยกรัชโยธินที่เพิ่งเปิดใช้งานกันไปอย่างสดๆ ร้อนๆ ครับ

อุโมงค์นี้ใช้ให้เวลาใช้เส้นรัชดาภิเษกขาเข้าก็บรรเทารถติดตรงแยกรัชโยธินไปได้มากทีเดียว  ใช้งบไป 1,500 ล้านบาทนะคร้าบ !!!

สักพักจะผ่านซอยรัชดาภิเษก 36 หรือซอยเสือใหญ่นั่นเอง  ซอยนี้เป็นซอยที่สามารถใช้ทะลุไปออกลาดพร้าว-วังหิน  ซึ่งก็ไปออกโชคชัย 4 ได้ด้วยครับ

เลยมาอีกนิดนึง  ก็จะถึงปากซอยรัชดาภิเษก 32 กันแล้ว  สังเกตที่ป้ายทางลัดก็ได้เช่นกัน

เลี้ยวเข้าซอยมา  ช่วงต้นซอยจะมี Lotus Express อยู่  ด้านหน้ามีที่จอดรถพอประมาณ  สามารถแวะซื้อข้าวของเล็กๆ น้อยๆ ก่อนเข้าบ้านได้ครับ

ตรงเข้าซอยมาเรื่อยๆ  ช่วงต้นซอยก็จะเริ่มเห็นกลุ่มอพาร์ตเม้นต์และหอพักต่างๆ

เข้ามาอีกนิด  เราจะผ่านคอนโด low rise ที่กำลังสร้างอยู่อย่าง Modiz Ratchada 32

เลยมาอีกนิด ตึกทางขวามือก็เป็น The Cube Premium Ratchada 32  จะเห็นว่าโซนนี้เป็นโซนที่มีดีมานด์ของตลาดคอนโดในกลุ่ม Segment กลางๆ เช่นกัน  ตรงจุดนี้ถ้าเราเลี้ยวซ้ายจะไปเชื่อมกับซอยรัชดาภิเษก 36 ได้ด้วย  แต่ถ้าจะไป The Author ให้ตรงไปนะครับ

เข้าซอยมาถนนจะเริ่มแคบลงเหลือ 2 เลนสวนกัน  แต่สภาพถนนก็ยังดีอยู่

เราจะเลี้ยวขวาเข้าซอย 19-4 ตรงนี้ครับ  ให้สังเกตตึกสีครีมคาดฟ้าทางซ้ายมือ

เสร็จแล้วก็ตรงเข้าไปเลย

เข้ามาอีกประมาณ 200 เมตร  ก็จะเจอโครงการ The Author Ratchada 32 อยู่เกือบสุดซอยครับ

ถึงแล้วววววว….

แต่ก่อนที่จะพาเข้าไปรีวิวเจาะลึกกันที่ตัวบ้านในโครงการ The Author รัชดา 32  ผมขอเล่าให้อ่านกันเกี่ยวกับทำเลคร่าวๆ ของโซนนี้เพิ่มเติมครับ

ที่ดินโซนนี้ถือเป็นเขตชุมชนที่อยู่อาศัยที่อยู่ล้อมรอบด้วยถนนใหญ่ 3 สาย คือ ถนนรัชดาภิเษก, ถนนลาดพร้าว และถนนพหลโยธิน ลักษณะของการใช้ที่ดินแถบนี้จะแบ่งเป็นซอยย่อยๆ ซอยเล็กซอยน้อยมากมาย  เรียกว่าถ้าใครไม่รู้จัก เข้าไปครั้งแรกอาจจะมีงงๆ ได้  แต่ถ้ามีความคุ้นเคยพอสมควร  จะเห็นได้ว่าสามารถใช้ประโยชน์จากเส้นทางเหล่านี้เป็นซอยลัดเชื่อมต่อกับพื้นที่ต่างๆ ได้ดีทีเดียวครับ

และอย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่า  ในระยะขับรถไปจากโครงการสักหน่อย  จะมีแนวรถไฟฟ้ารองรับถึง 3 สาย คือ สายสีน้ำเงิน, สายสีเขียว และสายสีเหลืองครับ  เพราะฉะนั้นในแง่การเดินทางก็จัดว่าสะดวกทีเดียว  ถ้าจะเดินทางเข้าเมืองก็สามารถให้คนที่บ้านขับรถมารับมาส่งที่สถานีรถไฟฟ้าได้เลย

สำหรับภาพใหญ่ในโซนข้างเคียงก็จัดว่ามีความอุดมสมบูรณ์ในระดับที่ดีครับ  มีศูนย์การค้าใหญ่ๆ ไม่ไกลนัก  อย่างตรงแยกรัชโยธินมี Major Ratchayothin  ส่วนตรงห้าแยกลาดพร้าวก็มีทั้ง Central Ladprao, Union Mall แล้วบนถนนลาดพร้าวก็มี Big C Extra Ladprao ด้วยครับ

ทีนี้เราลองขยับเข้ามาดูพื้นที่รอบโครงการ The Author Ratchada 32 กันบ้าง  ฝั่งตรงข้ามปากซอยรัชดา 32 นั้นเป็นกลุ่มอาคารที่ทำการของศาลต่างๆ ครับ  มีทั้งศาลแพ่ง, ศาลอุธรณ์ และศาลอาญา  รวมถึงที่ทำการของสำนักคณะกรรมการข้าราชการศาลยุติธรรมด้วย   ตรงปากซอยฝั่งเดียวกับโครงการจะเป็นอาคารของสำนักคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือที่เรียกกันสั้นๆ ว่า คปภ. นั่นเองครับ  แล้วอีกด้านก็จะเป็นอาคารศูนย์แสดงสินค้าของกรมส่งเสริมการส่งออกครับ

ซอยรัชดาภิเษก 32 นี้จะสามารถไปออกทางลาดพร้าว-วังหิน ได้ด้วย  โดยปากซอยแยก 19-4 ของโครงการจะอยู่เกือบกึ่งกลางห่างจากทางฝั่งถนนรัชดาภิเษกประมาณ 1 กิโลเมตร  และห่างจากทางถนนลาดพร้าว-วังหิน ประมาณ 700 เมตรครับ  จริงๆ แล้วต้องบอกว่าแยก 19-4 ที่โครงการ The Author ตั้งอยู่นั้น ชื่อทางการจริงๆ จะถือว่าเป็นช่วงของซอยรัชดาภิเษก 36 แยก 19-4 ครับ  แต่ด้วยความที่พอรัชดาภิเษก 32 มาเชื่อมกับรัชดาภิเษก 36 แยก 19  บางทีก็เลยอนุมานเรียกถนนทั้งเส้นนี้ว่ารัชดาภิเษก 32 ไปเลยง่ายดี  และก็จะเข้าใจง่ายกว่าการมาบอกว่าเป็นซอยรัชดา 36 แยก 19 ด้วยครับ  บอกว่าเป็นรัชดาภิเษก 32 ไปเลยเข้าใจง่ายกว่าเยอะ

ด้วยความที่พื้นที่ในซอยรัชดา 32 นี้เป็นโซนที่อยู่อาศัยที่เชื่อมกับซอยย่อยๆ มากมาย  และก็เป็นซอยหลักที่คนใช้สัญจรเชื่อมกับลาดพร้าว-วังหิน ด้วย  ทำให้ในซอยก็มีร้านอาหารกระจายตัวอยู่พอสมควร  รวมถึงมีร้านกาแฟเล็กๆ กระจายอยู่หลายร้านทีเดียวครับ  แต่ถ้าอยากจะหาของกินเยอะๆ  ก็สามารถขับรถไปทะลุวังหินได้นิดเดียว  เส้นนั้นอุดมสมบูรณ์มาก  มีคอมมูนิตี้มอลล์ขนาดกลางอย่าง Jas Urban วังหิน ด้วย  ริมถนนลาดพร้าว-วังหิน ก็มีร้านอาหารที่เปิดทั้งกลางวันและกลางคืน  เอาว่าเวลาหิวดึกๆ ไม่อดแน่นอน

ก่อนจะเล่าจบเรื่องโลเคชั่นรวมๆ  เรามาซูมดูในสเกลใกล้เคียงกับโครงการกันครับ  ที่ตั้งของ The Author รัชดา 32 นั้นเข้าจากซอยมาไม่ลึก  ประมาณ 200 เมตร  ด้านข้างจะติดกับอาคารสูง 4 ชั้น ของบริษัท มาวิน ซิสเต็มส์ แอนด์ เซอร์วิส จำกัด (หมายเลข 1)  ส่วนอีกด้านจะติดกับบ้านเดี่ยวมีบริเวณ และที่ดินเปล่า (หมายเลข 2)  ส่วนสุดซอยจะเป็น พีท รัชดา คอนโดมิเนียม (หมายเลข 3) เป็นคอนโดเก่าอยู่มานานแล้ว สูงประมาณ 11 ชั้นครับ

อ่อ… แล้วก็เกือบลืมเล่าว่า ในซอยย่อยที่โครงการ The Author Ratchada 32 อยู่นั้นสามารถใช้เป็นซอยลัดไปออกซอยลาดพร้าว 41 ได้ด้วยนะครับ

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

ผมพาไปดูพื้นที่รอบๆ โครงการ The Author Ratchada 32 เพิ่มเติมกันครับ

ด้านข้างโครงการด้านทิศเหนือจะเป็นบ้านเดี่ยวมีบริเวณ  ข้างหน้าเปิดเป็นร้านขายขนมเล็กๆ ครับ

บรรยากาศภายในซอยที่สามารถใช้ทะลุไปทางลาดพร้าว 41 ได้

ในซอยรัชดา 32 ก็จะมีร้านอาหาร ร้านกาแฟเก๋ๆ แทรกตัวอยู่ด้วย  อย่างร้าน White Balance นี่ก็อยู่ไม่ไกล  สามารถปั่นจักรยานมาได้แป๊บเดียวครับ

บรรยากาศด้านในก็น่ารักทีเดียว

หรือจะเป็นร้านกาแฟเล็กๆ ก็มีนะครับ  ร้านนี้อยู่ซอยถัดจากโครงการไปซอยเดียว

ถ้าอยากกินมื้อหนัก  ในซอยช่วงก่อนที่จะข้ามสะพานข้ามคลองลาดพร้าวไปยังวังหิน  จะมีร้านบุฟเฟ่ต์โคขุนโพนยางคำอยู่ด้วย  ร้านนี้เปิดเย็นๆ ถึงดึกๆ ครับ

ในซอยที่เป็นแหล่งชุมชนแบบนี้  ก็ขาด 7-Eleven ใกล้บ้านไม่ได้  อยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆ กับหน้าปากซอย 19-4 เลย  ด้านหน้าก็มีที่จอดรถให้ด้วยครับ

มีร้านล้างรถกระจายตัวอยู่ในซอยหลายจุด

Tesco Lotus Express ตรงหน้าปากซอยรัชดา 32 ครับ เปิด 24 ชั่วโมงนะ

อาคาร คปภ. ที่อยู่ตรงก่อนถึงปากซอยรัชดา 32 (รูปนี้ถ่ายจากฝั่งหน้าศาลนะครับ)

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

ผมพาไปดูรอบๆ ทำความเข้าใจพื้นฐานกับทำเลไปแล้ว  คราวนี้เรามาเจาะลึกตัวโปรดักส์ของ Author Ratchada 32 กันต่อดีกว่าครับ

ในโครงการจะเป็นโครงการขนาดเล็ก  มีแค่ 14 ยูนิต  โดยแบ่งเป็น 2 ฝั่ง ฝั่งละ 7 ยูนิตครับ

ลักษณะของหน้าตาทาวน์โฮมในโครงการจะเหมือนกันทั้งหมด  โดยทั้ง 7 ยูนิตในแต่ละฝั่งจะดีไซน์เล่นแพทเทิร์นด้านหน้าแบบกลมกลืนต่อเนื่องกันทั้งหมด  ไม่ได้ดูรู้สึกว่าแยกเป็นยูนิตเดียวๆ  ซึ่งลูกเล่นที่ใส่เข้าไปก็เก๋ไก๋ทีเดียวครับ  มีการบิดองศาของหน้าต่างเพื่อเปลี่ยนมุมมองและสร้างความหน้าสนใจของตัวบ้านด้วย

พื้นที่ส่วนกลาง

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของ The Author รัชดา 32 นั้นไม่มีนะครับ  เนื่องจากเป็นลักษณะของโครงการไซส์เล็ก  ทำเป็นรูปแบบ Cluster อยู่ร่วมกัน  ซึ่งเป็นลักษณะรูปแบบของโครงการที่ทำกันมากในที่ดินแปลงเล็กๆ ที่กระจายตัวอยู่ตามตรอกซอกซอยต่างๆ ในเขตเมืองที่อยู่กันอย่างหนาแน่นครับ

แต่ถึงไม่มีส่วนกลาง  โครงการก็ยังวางระบบ Security ต่างๆ เอาไว้รองรับอยู่โดยระบบ Smart Gate กับประตูทางเข้าออกใหญ่  ซึ่งจะทำงานร่วมกับระบบ RFID Card เวลาขับรถเข้ามาในรัศมีที่ตั้งไว้  ประตูก็จะเปิดเข้าออกให้อัตโนมัติ  เป็นระบบคล้ายๆ กับพวกบัตร Easy Pass ทางด่วนนั่นแหละครับ  แล้วก็มี VDO Door Phone ที่หน้าประตูใหญ่เข้าโครงการ  เวลาใครมาเยี่ยมก็สามารถติดต่อคนในบ้านให้เปิดประตูได้เลย  โดยที่ไม่ต้องเดินออกมารับเอง  แล้วก็ถนนส่วนกลางมี CCTV รวมทั้งหมด 3 จุดครับ

เปิดแปลนบ้าน

โครงการ The Author Ratchada 32

แบบบ้านมาตรฐาน พื้นที่ 227 ตารางเมตร

เรามาเจาะลึกกับตัวแปลนบ้านของ The Author รัชดา 32 กันบ้างครับ  การวางแปลนของที่นี่ค่อนข้างน่าสนใจ  และมีการลำดับฟังก์ชันใช้สอยต่างๆ ในบ้านได้ค่อนข้างยืดหยุ่นครับ  โดยจะสามารถจอดรถได้ 2 คัน  ซึ่งความเก๋ของแปลนที่นี่คือการออกแบบให้มี Foyer เล็กๆ หลังจากเข้ามาในตัวบ้านแล้ว  ทำให้เวลาเดินเข้ามาได้ความรู้สึกที่ต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปมากทีเดียวแหละ  แต่ข้อจำกัดอย่างหนึ่งก็คือ  การที่บ้านมีสเต็ปบันไดเยอะก็จะไม่เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุอยู่ด้วยนั่นเอง

ชั้นล่างด้านหลังบ้านถูกวางให้เป็นสเปซส่วนของห้องรับประทานอาหาร ที่มีสเปซสำหรับ Pantry ครัวขนาดใหญ่  ซึ่งฝ้าเพดานส่วนนี้สูงถึง 3.2 เมตร  เลยดูโปร่งดี โดยจะมีส่วนของห้องน้ำ และห้องที่ใช้วางเครื่องซักผ้าเตรียมไว้ให้เป็นสัดส่วน  แล้วก็เผื่อพื้นที่หลังบ้านไว้ให้ต่อเติมครัวไทยได้ด้วย  โดยจะลงเสาเข็มไว้ให้เลยครับ

จากลักษณะการวางแปลน  เราจะเห็นได้ว่าตำแหน่งของบันไดนั้นถูกวางไว้ตรงกลาง  ทำให้ชั้น 2 และ 3 จะสามารถแบ่งห้องได้ในตำแหน่งด้านหน้าด้านหลัง โดยไฮไลท์ของโครงการนี้ก็อยู่ที่ห้องนั่งเล่นพักผ่อน (Living Room) ด้านหน้าบ้าน ที่อยู่ที่ชั้น 2 นี่แหละครับ  เพราะว่าทำเป็น Double Space ฝ้าเพดานสูงถึง 6.5 เมตร  ส่วนด้านหลังก็จะเป็นห้องนอนไป

เช่นเดียวกับเมื่อขึ้นมาบนชั้น 3 ที่เป็นชั้นลอย  จะมีห้องนอนด้านหลังอีกห้องหนึ่ง  ส่วนด้านหน้าจะโล่ง  สามารถมองลงไปเห็นห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2 ได้ครับ

พอขึ้นมาที่ชั้น 3 จะเป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งหมด  มีห้องนอนอยู่ด้านหน้าบ้าน  ขนาดสามารถวางเตียง King size แล้วยังหลวมๆ  มีเหลือพื้นที่อยู่มากพอสมควร  ส่วนด้านหลังเป็นส่วนของ Walk-in Closet และห้องน้ำ  ซึ่งมีขนาดใหญ่มาก  ลักษณะของการวางแปลนที่ให้ความสำคัญกับพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำมากแบบนี้   จะเป็นไอเดียของการออกแบบพวกบ้านหรู ราคาแพงครับ  ถ้าเป็นทาวน์โฮมทั่วไป เราก็จะเห็นห้องน้ำไซส์เล็กๆ ขนาดพอดีใช้งาน  แต่ที่นี่มีพื้นที่สามารถทำ Closet ได้ยาวมาก  เรียกว่าเก็บเสื้อผ้าอาภรณ์ของสาวๆ ได้แน่นอน  (ส่วนผู้ชายก็แบ่งใช้ช่องเล็กๆ ไปเหมือนเดิมหล่ะนะ :P)  พื้นที่ห้องนี้จะมีอ่างล้างหน้า 2 ชุด แบบ His & Her ตามแบบโรงแรม 5 ดาวนะครับ  แล้วก็แยกส่วนของห้องที่วางโถสุขภัณฑ์ กับส่วนอาบน้ำแยกจากกันด้วย  ก็ทำให้สามารถใช้ห้องน้ำพร้อมกันในเวลาเดียวได้ทั้งคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงครับ

มาดูหน้าตาบ้านกันอีกสักรอบนะครับ

ส่วนของชั้น 2 ที่หน้าต่างเรียบๆ เป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่นนั่นเอง  แล้วก็ชั้นบนสุดจะเป็นส่วนของ Master Bedroom ด้านหน้าครับ

แบบบ้านทุกหลังจะถูกดีไซน์หน้าตาให้เป็นแพทเทิร์นเดียวกัน  ต่อเนื่องกลมกลืนกันไปทั้งหมด

ตำแหน่งการบิดมุมของหน้าต่าง และแนวผนังหน้าบ้าน  ก็ช่วยสร้างความน่าสนใจและลูกเล่นให้กับตัวบ้านได้เลยแหละ (เบื่อบ้านเรียบๆ กันแล้วใช่มะ :P)

ปิดท้ายกันที่ส่วนของ Foyer หน้าบ้านครับ  บ้านจริงที่ได้ก็จะใช้วัสดุทดแทนไม้ติดกรุให้ทั้งผนังและเพดานแบบนี้เลย  ดูเรียบๆ แต่เท่ดี  เราจะเห็นว่าตรงก่อนถึงทางขึ้นบ้าน  จะมีเฉลียงด้านหน้ายื่นออกมาหน่อย  ตรงนี้ช่วยป้องกันการถอยรถเข้ามาลึกมากเกินไปได้ด้วยครับ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

โครงการ The Author Ratchada 32 มีบ้านตัวอย่างให้ดูแบบตกแต่งสวยงามครับ  แล้วก็มีบ้านเปล่าให้ด้วย  เดี๋ยวยังไงผมพาไปชมบ้านที่ตกแต่งกันครับ  ตามมาเลย

บ้านตัวอย่าง

ดิ ออเธอร์ รัชดา 32

เข้ามาในตัวบ้านกันแล้ว  ห้องแรกด้านล่างที่จะเป็นพื้นที่ที่เตรียมไว้ให้เป็น 2 option ครับ  จะทำเป็นห้องรับประทานอาหารก็ได้  เพราะมีพื้นที่สำหรับเคาน์เตอร์ด้านข้างยาวมากทีเดียว  หรือจะทำเป็นห้องนั่งเล่นก็ได้นะ  จริงๆ ตรงนี้ค่อนข้างยืดหยุ่นครับ เนื่องจากด้านหลังก็ติดกับกระจกบานใหญ่ที่เชื่อมออกไปยังด้านหลังบ้านได้

บ้านตัวอย่างจะเป็นห้องมุมเลยได้หน้าต่างด้านข้างด้วยนะครับ  ถ้าเป็นบ้านยูนิตอื่นที่ไม่ใช่หัวมุมด้านนี้จะเป็นผนังทึบ  ทางซ้ายจะเป็นส่วนของ Foyer ที่เข้ามาจากหน้าบ้านนั่นเอง

ตรง Foyer ส่วนนี้จะมีสเต็ปบันไดพอสมควรครับ  คงไม่เหมาะกับผู้สูงอายุเท่าไหร่  แต่พื้นที่ตรงนี้ถ้าตกแต่งดีๆ  ก็สามารถช่วยสร้างบรรยากาศเวลากลับมาถึงบ้านได้ดีเลย  ไม่เหมือนแปลนทาวน์โฮมทั่วไป

แวะมาดูห้องน้ำที่อยู่ใต้บันไดกันหน่อย  การวางตำแหน่งห้องน้ำตรงนี้ก็เป็นสาเหตุหนึ่งให้ต้องยกสเต็ปของ Foyer ทางเข้าบ้านขึ้นไป  เพื่อระยะความสูงของห้องน้ำจะได้ยังสามารถใช้งานได้สบายๆ ไม่อึดอัดครับ  ด้านข้างจะมีหน้าต่างเล็กๆ ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาจากโรงรถได้ด้วย  ก็ช่วยเรื่องระบายความอับชื้นได้  แม้ว่าตำแหน่งของห้องน้ำจะอยู่ตรงกลางแปลนบ้านก็ตามครับ

ทีนี้ผมพาขึ้นมาที่ชั้น 2 กันต่อครับ  อย่างที่อธิบายไปคร่าวๆ ว่าบันไดจะถูกวางไว้กลางบ้าน  ทำให้แบ่งพื้นที่ใช้สอยออกเป็นด้านหน้าและด้านหลัง  ตรงกลางก็จะมีห้องน้ำที่ไว้ใช้ร่วมกันครับ

มาดูที่ห้องนั่งเล่นด้านหน้า  ไฮไลท์อยู่ที่ความสูงถึง 6.5 เมตรนั่นเอง  ภายในผมได้ลองนั่งที่โซฟาดูแล้ว  โปร่ง โล่งมากทีเดียว

ผนังด้านข้างก็สามารถใช้ใช้ประโยชน์ได้ไม่ว่าจะทำชั้นวางของ ตกแต่งในสไตล์ต่างๆ ครับ

ลองแหงนหน้าขึ้นดูด้านบนสักหน่อย  สเปซแบบนี้ก็อย่าลืมหาโคมไฟสวยๆ มาแขวนกันนะครับ ช่วยเพิ่มบรรยากาศในการอยู่อาศัยได้อีกเยอะเลยทีเดียว  ยกเว้นถ้าขี้เกียจจ้างคนมาเปลี่ยนหลอดไฟก็อีกเรื่องหนึ่ง :p

มุมนี้มองจากห้องนอนด้านหลังไปยังห้องนั่งเล่นด้านหน้าครับ

ห้องน้ำตรงโถงบันไดครับ

ห้องด้านหลังที่ชั้น 2 ขนาดของห้องใหญ่พอสมควร  สามารถทำเป็นห้องนอนวางเตียง 5 ฟุต ได้  หรือจะทำเป็นห้องทำงาน ห้องอเนกประสงค์ก็ได้  อย่างในบ้านตัวอย่างก็เซตสตูดิโอสำหรับถ่ายรูปขายของออนไลน์กันให้ดูเลย

ระยะความสูงของฝ้าเพดานห้องปกติจะอยู่ที่ 2.7 เมตรครับ ซึ่งพอรวมกับการได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างด้านข้างเข้ามา  ก็ช่วยให้ห้องดูไม่ทึบ และก็โปร่งดีทีเดียว

เราขยับขึ้นมาดูบนชั้นลอยครับ  มองออกไปทางหน้าบ้านจะเป็นสเปซในส่วนห้องนั่งเล่นที่ชั้น 2

ด้านหลังชั้นลอยทำเป็นห้องนอนได้อีกห้อง  ขนาดพื้นที่เท่ากับที่ชั้น 2 เลย

ที่ชั้นลอยก็จะมีห้องน้ำให้เช่นกันครับ  จะได้เข้าห้องน้ำสะดวกไม่ต้องเดินลงไปชั้นล่าง

พอขึ้นมาที่ชั้น 3 ซึ่งเป็นส่วนของ Master Bedroom ทั้งหมด  จะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นให้ครับ

มองย้อนกลับลงไปหน่อย  ตรงบันไดจะฝังไฟมาให้แบบนี้เลย  บ้านก็จะดูหรูขึ้นครับ  แบบนี้ถ้ามาทำเองตอนหลังจะยุ่งยากมาก  การที่โครงการทำมาให้เลยก็ทำให้การเดินไฟต่างๆ เก็บงานระบบเรียบร้อย ดูสะอาดตา

ทางเดินไปส่วนของห้องนอนด้านหน้า

มุมนี้มองไปยังส่วน Walk-in Closet และห้องน้ำด้านหลังบ้านครับ

เข้ามาดูในห้องน้ำกันก่อน  สเปซกว้างใหญ่มากทีเดียว เรียกว่าใหญ่กว่าห้องนอนเล็กนะ  ตรงนี้พื้นที่ทำมายืดหยุ่นครับ  สามารถจัดฟังก์ชันได้หลากหลายตามความต้องการ  คือ ถ้าใครไม่ได้ต้องการห้องน้ำใหญ่ขนาดนี้ก็ปรับเปลี่ยนกั้นห้องเพิ่มก็ยังได้

อ่างล้างหน้าแบบ His & Her  ช่วงเช้าๆ เวลาเร่งด่วน ใช้งานพร้อมกันได้เลย

ส่วนของโถสุขภัณฑ์จะกั้นแยกมาให้  แต่แนะนำว่าเวลาใช้งานจริงก็อาจจะลองหาฟิล์มกระจกแบบขุ่นมาติดเพื่อพรางสายตาเพื่อจะได้รู้สึกเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วยก็ได้ครับ

มองกลับไปยังมุมที่ทำ Closet ซึ่งได้พื้นที่ยาว 5 เมตร  ยังไงก็เก็บเสื้อผ้าพอแน่นอน

ผนังด้านข้างก็สามารถทำเป็นชั้นเก็บของต่างๆ ได้ด้วย

ทีนี้มาดูในส่วนของห้องนอนใหญ่ด้านหน้าบ้านครับ  สเปซที่ได้มาจะเชื่อมต่อกับโถงบันไดเลย  แต่ถ้าใครคิดว่าเปลืองแอร์ก็สามารถทำประตูกระจกกั้นออกจากส่วนของโถงระเบียงก็ได้  ภายในห้องนอนก็สามารถวางเตียง King size 6 ฟุต ได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่รอบเตียงเดินได้สะดวก

ปลายเตียงจะตั้งโซฟาเล็กๆ ก็ได้อยู่  เอาไว้นั่งดูทีวีได้ ถ้าไม่อยากนอนดูจากบนเตียง

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำที่ชั้น 2 ขนาดสเปซกว้างขวางดีทีเดียว  ใช้กระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ลายหินอ่อนครับ แต่กระจกจะได้แบบทรงอื่นเรียบๆ  และไม่ได้ฉากกั้นอาบน้ำนะครับ ต้องมาติดเพิ่มเอง

ห้องน้ำที่ชั้นลอย (ชั้น 2 ครึ่ง) ขนาดเท่ากัน  แต่ลายกระเบื้องจะเรียบๆ  แต่เป็นแกรนิตโต้แผ่นใหญ่เหมือนกัน

ส่วนของห้องส้วมที่กั้นแยกในห้องน้ำชั้น 3 จะมีกระจกกั้นให้เลยนะครับ  แต่คิดว่าใสไปหน่อยนะ  เป็นผมจะติดฟิล์มฝ้าเพิ่มเติมครับ

ส่วนพื้นที่อาบน้ำในชั้น 3 นี้ก็ให้ฉากกั้นอาบน้ำมาเช่นกัน

ฝักบัว Rain Shower ที่ห้องน้ำชั้น 3 ครับ

จะมีส่วนที่สามารถนั่งอาบน้ำได้ด้วย

ฝักบัวขนาดก็พอดีมือ

ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า His & Her ครับ  ตัวท็อปเคาน์เตอร์กับอ่างได้แบบนี้  แต่กระจกจะเป็นแบบเรียบๆ ไม่ใช่ทรงนี้นะ

ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิต  ลายสวยทีเดียว

ปลั๊กไฟก็มีกล่องกันน้ำให้เรียบร้อย

โถสุขภัณฑ์ได้เป็นของ Kolher ดีไซน์เรียบๆ

ในห้องน้ำชั้น 2 และ 3 จะก่อผนังส่วนที่สามารถวางอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำได้เพิ่มเข้ามาครับ  ปูด้วยหิน

อ่างล้างหน้าแบบแขวนผนัง มีตู้ด้านใต้ให้ด้วย

ชอบความน่ารักในชั้นเก็บของกระจุกกระจิกที่แถมมาให้

ตรงรอยต่อพื้นห้องน้ำลดสเต็ปลงนิดนึง  ปิดขอบด้วยสแตนเลสครับ

กระเบื้องที่นี่ใช้แผ่นใหญ่ทั้งหมด  โดยจะมีผิวหยาบช่วยกันลื่นครับ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ทางเข้าบ้านด้านหน้าครับ

ปูพื้นเฉลียงให้ด้วยกระเบื้องลายหินอ่อนดูดีทีเดียว  ผนังด้านข้างใช้วัสดุทดแทนไม้

ที่นี่ปูพื้นโรงรถให้เลยทุกยูนิตครับ  ไม่ได้ทิ้งไว้เป็นพื้นคอนกรีตเฉยๆ

ผนังที่กั้นระหว่างบ้านติดกันสูงบังระดับสายตาได้  ปูกระเบื้องลายหินอ่อนให้เช่นกัน  โดยจะทำโครงสร้างแยกออกจากตัวบ้านเลยเพื่อป้องกันการทรุดตัวที่จะทำให้แตกร้าวในอนาคต

บานประตูด้านหน้าปิดผิวด้วยลามิเนตสีน้ำตาลเข้ม

ส่วนประตูภายในบ้านจะเป็นผิวลามิเนตสีโทนอ่อน

ประตูหน้าบ้านเป็น Digital Door Lock ครับ  แต่หน้าตาจะไม่เหมือนกับรูปแบบทั่วไปที่เราคุ้นเคยกันนะ  เพราะเจ้าตัวนี้สามารถเชื่อมต่อและควบคุมด้วยระบบ Home Automation ภายในบ้านได้ด้วยครับ

ประตูภายในใช้มือจับแบบเขาควายของ Colt ผิวสัมผัสดีทีเดียว

ที่ชั้นล่าง พื้นก็จะเป็นกระเบื้องลายหินอ่อนแบบนี้นะครับ

ปลั๊กไฟหน้าตามาตรฐานทั่วไป

ตรงขั้นบันไดจะมีการฝังไฟเอาไว้เป็นช่วงๆ

เวลาเปิดไฟก็จะออกมาดูดีทีเดียว  ถ้ากลางคืนดึกๆ จะเดินลงบันไดแต่ไม่อยากเปิดไฟดาวน์ไลท์ให้แสงแยงตามาก  ก็สามารถใช้ไฟที่ขั้นบันไดเพื่อให้พอมองเห็นและเดินขึ้นลงได้ครับ

ภาพรวมก็จะออกมาลักษณะนี้  ส่วนตัวราวจับบันไดเป็นไม้แต่งผิวนะครับ  ดูดีใช้ได้

บริเวณชั้นบนสุดที่เป็นห้อง Master Bedroom จะทำบานเลื่อนไว้ให้ เพื่อกั้นห้องให้เป็นสัดส่วน  แต่ว่าจะอยู่ใกล้บันไดขั้นแรกไปนิดนะครับ   เวลาย้ายเข้ามาอยู่ใหม่ๆ อาจจะต้องปรับตัวกับระยะก้าวขึ้นลงอยู่บ้าง

ประตูที่กั้นไว้ให้ครับ  เป็นบานกรอบอะลูมิเนียมอบสี สีดำ

เข้ามาดูในส่วนของห้องนอน  จะเห็นว่าหน้าต่างมีการบิดมุมมองต่างๆ กัน  ก็เก๋ไปอีกแบบ  อันนี้แล้วแต่ความชอบหล่ะครับ

ลักษณะการติดตั้งบานกระจกครับ  ดีไซน์แบบนี้ถ้าลองไปยืนดู  จะเห็นว่ามุมมองที่มีการบิดออกไป  ก็จะกลายเป็นมองเฉียงๆ ไม่ได้รู้สึกปะทะกันตรงๆ กับบ้านฝั่งตรงข้ามมากนัก

ด้านนอกตกแต่งด้วยไม้เทียมครับ

ระเบียงด้านหลังบ้านของห้องนอนชั้น 2 และชั้นลอย  จะยาวเต็มความกว้างหน้าบ้าน  แต่ขนาดแคบๆ

บานกรอบหน้าต่างจะเป็นอะลูมิเนียมอบสีทั้งหมดครับ

ราวระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีดำ

ไฟดาวน์ไลท์เป็น LED ฝังฝ้าทั้งหลังครับ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาของ The Author Ratchada 32 บ้านแปลงมาตรฐานบนที่ดิน 20.9 ตารางวา  ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท (ยูนิตโปรโมชั่น) ครับ

โดยโครงการนี้เก็บค่าส่วนกลางครั้งเดียว 30,000 บาท เหมือนเป็นกองทุนเอาไว้ใช้ร่วมกัน เช่น ค่าขยะ, ค่าดูแลระบบ RFID เข้าออกส่วนกลางครับ  เนื่องจากไม่ได้มีส่วนกลางที่ต้องบริหารมากเลยใช้เงินจากกองทุนตรงนี้แทนการจ่ายรายเดือน

ราคา ณ วันที่  16 ตุลาคม 2561 

ตัวอย่างราคา :

ทาวน์โฮม แปลงมาตรฐาน พื้นที่ใช้สอย 227 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้น 9.9 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

เงินจอง และทำสัญญา n/A บาท

• ผ่อนดาวน์

ไม่มี จะสร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2561 ทั้งหมด

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลางแรกเข้าครั้งเดียว 30,000 บาท

ค่าธรรมเนียมโอน (ผู้ซื้อ 1%, ผู้ขาย 1%)

ค่าประกันมิเตอร์ไฟฟ้า, ประปา

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  80% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

แบบมาตรฐาน  ที่ดิน 20.9 ตร.วา ราคา 9.9 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 49,790  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  80% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

แบบมาตรฐาน  ที่ดิน 20.9 ตร.วา ราคา 9.9 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 53,188  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  80% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

แบบมาตรฐาน  ที่ดิน 20.9 ตร.วา ราคา 9.9 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 58,731  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  80% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

แบบมาตรฐาน  ที่ดิน 20.9 ตร.วา ราคา 9.9 ผ่อนประมาณ 68,620  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  80% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

แบบมาตรฐาน  ที่ดิน 57 ตร.วา ราคา 26.9 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 89,445  บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

การเติบโตของพื้นที่บริเวณนี้ส่วนใหญ่จะเกิดบริเวณรอบนอกที่ถัดออกไป  เช่น แนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวบนเส้นพหลโยธิน และรถไฟฟ้าสายสีเหลืองบนถนนลาดพร้าว  ทำให้ภาพรวมของทำเลมีศักยภาพมากขึ้นในภาพรวมครับ  แต่ด้วยความที่พื้นที่ในโซนนี้ไม่ได้มีที่ดินแปลงใหญ่ๆ มากนัก  เป็นแปลงเล็กแปลงน้อยกระจายตัวอยู่ ทำให้ลักษณะการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยจึงมักจะทำเป็น 3 รูปแบบ คือ คอนโดในกลุ่มราคา Segment กลางๆ, ทาวน์โฮม 3-4 ชั้น หรือบ้านคับที่ราคาสูง  แล้วก็เป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ตามตรอกซอยซอยต่างๆ ครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ทาวน์โฮม The Author Ratchada 32 เป็นโครงการขนาดเล็กไม่ได้จดจัดสรรครับ  ในโครงการมีเพียง 14 ยูนิต  ฝั่งละ 7 หันหน้าเข้าหากัน  ในภาพรวมของงานดีไซน์ตัวบ้านทำออกมาได้น่าสนใจ  ด้วยการออกแบบแพทเทิร์นเส้นตั้งเป็นหลัก มีความต่อสัมพันธ์และเป็นไปในแนวทางเดียวกันทั้งโครงการครับ  ตัวบ้านใช้สีขาว และกระจกบานใหญ่ ตัดกับไม้เทียมสีน้ำตาลช่วยทำให้ตัวบ้านดูอบอุ่นและซอฟลง แม้ว่าเส้นสายที่ออกแบบจะเป็นสี่เหลียมแบบงานโมเดิร์นจ๋าก็ตาม  โดยส่วนตัวแล้วชอบลักษณะของการบิดมุมกระจกที่ทำให้เกิดลูกเล่นและมุมมองต่างๆ  มาช่วยลดความรู้สึกของการที่ต้องประจันหน้ากับบ้านข้างๆ ไปได้ประมาณหนึ่งทีเดียว

การวางแปลนของโครงการมีรูปแบบที่ต่างจากทาวน์โฮมทั่วไปในตลาดพอสมควรครับ  มีจุดเด่นคือสเปซในส่วนของห้องนั่งเล่นพักผ่อนที่เป็น Double Space ฝ้าเพดานสูง 6.5 เมตร  ทำออกมาได้ดูโปร่งและโล่งมาก  การจัดสเปซใช้สอยภายในบ้านนั้นจัดค่อนข้างลงตัวดี  ขนาดพื้นที่แต่ละห้องเหมาะสมไม่ได้แคบเกินไป  ในส่วนของ Master Bedroom ที่ชั้นบนนั้นให้ความสำคัญกับพื้นที่ห้องแต่งตัว, ห้องน้ำ และ Walk-in Closet มาก ขนาดสเปซใหญ่  ซึ่งพวกนี้มักเป็นฟังก์ชันที่ใส่ไว้ในบ้านราคาแพงครับ  แต่ข้อควรคำนึงอย่างหนึ่งของโครงการนี้คือชั้นล่างมีสเต็ปบันไดและการเล่นระดับค่อนข้างเยอะ  เลยอาจจะไม่เหมาะกับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุมากนัก  แต่ถ้าเป็นคนหนุ่มสาววัยทำงานก็ไม่มีปัญหาอะไรกับการใช้พื้นที่ต่างๆ ในตัวบ้านครับ

สำหรับวัสดุของ The Author Ratchada 32 เมื่อเทียบกับราคาก็ถือว่าดีทีเดียว  เลือกใช้วัสดุภายนอกได้น่าสนใจโดยเฉพาะการติดไม้เทียมตรงโถงทางเข้าแทนการทำผนังฉาบปูนเรียบทาสีธรรมดา  ภายในบ้านเป็นบ้านเปล่า  พื้นชั้นล่างเป็นแกรนิตโต้ลายหินอ่อน  พื้นชั้นบนเป็นลามิเนต 12 มม. สุขภัณฑ์เป็น Kolher ทั้งหลัง  ไฟได้ดาวน์ไลท์แบบ LED  และกระจกบานใหญ่ที่เอาแสงเข้ามาในพื้นที่ต่างๆ ได้เยอะครับ

จุดหนึ่งที่น่าพูดถึงก็เป็นเรื่องของ Home Automation ครับ ซึ่งใช้ควบคุมระบบต่างๆ ผ่าน Application บนมือถือที่ทางโครงการพัฒนาต่อยอดเอง  โดยความต่างของระบบที่นี่กับโครงการอื่นๆ คือ ไม่ใช่แค่สั่งเปิดปิดไฟหรือแอร์เท่านั้น  แต่สามารถควบคุมได้ครบหมดไม่ว่าจะเป็น Digital Door Lock หรือระบบรักษาความปลอดภัยในบ้านที่มีทั้ง Motion sensor และ Magnetic Sensor ที่ทำงานร่วมกัน เพื่อจับความเคลื่อนไหวของผู้บุกรุก  แล้วก็สามารถเซต scene แบบตามใจเจ้าของบ้านได้  เช่น เวลา 6 โมงเย็น  ต้องการให้เปิดไฟหน้าบ้าน, เปิดแอร์ห้องรับประทานอาหาร, ปิดแอร์ห้อง, เปิดทีวีห้องนั่งเล่น  ทำพร้อมกันได้โดยไม่ต้องมานั่งกดเองทุกวัน  ถึงเวลาระบบก็ทำให้หมดครับ อ่อ… แล้วก็รองรับการสั่งงานพื้นฐานด้วยเสียงแบบ Voice command เป็นภาษาอังกฤษได้ด้วยครับ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางต้องบอกว่าไม่มีนะครับ  เนื่องจากเป็นโครงการขนาดเล็กมาก  และก็ไม่ได้จดเข้าจัดสรร  โดยพื้นที่ที่ต้องแชร์กันของแต่ละบ้านก็คือถนนตรงหน้าบ้านที่กว้างรวม 6 เมตร โดยจะทำพื้นคอนกรีตพิมพ์ลายให้หมด  ทางเข้าจะเป็นระบบ RFID (แบบเดียวกับ Easy Pass ของทางด่วน) ที่ให้ลูกบ้านสามารถผ่านเข้าออกได้เลย  และมี VDO Door Phone จากหน้ารั้วโครงการที่ให้คนที่มาหา สามารถโทรติดต่อโดยตรงเข้าไปที่บ้านได้  แล้วคนในบ้านก็สามารถกดสั่งเปิดปิดประตูให้เข้ามาได้เลยโดยไม่ต้องเดินออกไปเปิดประตูเองครับ  ภาพรวมก็ถือว่าใช้เทคโนโลยีมาอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยได้ในระดับดี  แต่ถ้าใครต้องการบ้านโครงการที่มีพื้นส่วนกลางเยอะๆ แบบอลังการ  โครงการนี้อาจจะไม่ตอบโจทย์นัก

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ