หลังจากที่ประเทศไทยได้ไม่ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายมายาวนานกว่า 7 ปี และใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำมาตลอด  ล่าสุดเมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2561 ที่ผ่านมา  คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)  ของธนาคารแห่งประเทศไทยก็ได้มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย (Policy Rate) 0.25%  จากเดิมอยู่ที่ 1.50% ปรับเป็น 1.75% ต่อปี  ซึ่งเป็นไปตามแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้นในตลาดโลกในปัจจุบัน

โดยสาเหตุที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทยตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย เนื่องจากมองว่าที่ผ่านมาเศรษฐกิจของประเทศสามารถเติบโตได้ตามเป้าหมาย  จึงมีความจำเป็นน้อยลงที่ต้องใช้อัตราดอกเบี้ยต่ำพิเศษเหมือนที่ผ่านมา   ทำให้ตัดสินใจปรับดอกเบี้ยนโยบายขึ้นสู่อัตราที่เหมาะสมและสมดุลมากขึ้น

สำหรับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในครั้งนี้  อาจจะส่งผลหลายด้านในวงกว้าง  สำหรับส่วนที่เกี่ยวข้องกับคนทั่วไปและธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ เช่น

1. ผู้ที่กู้ยืมเงินจากสถาบันการเงินมาซื้อที่อยู่อาศัย, บ้าน, คอนโดมิเนียม จะมีภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนดอกเบี้ยที่แพงขึ้นสำหรับผู้ที่กู้ยืมด้วยอัตราดอกเบี้ยแบบลอยตัว (Floating Rate)
2. ภาคธุรกิจจะมีต้นทุนทางการเงินที่สูงขึ้นจากการกู้ยืมเพื่อพัฒนาโครงการ
3. ผู้ที่ฝากเงินกับสถาบันการเงิน สำหรับคนกลุ่มนี้ถือเป็นข่าวดีเพราะโดยส่วนใหญ่การปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย  มักจะทำให้ภาคธนาคารปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพิ่มขึ้นด้วย

ที่มา >> Facebook ธนาคารแห่งประเทศไทย

ทั้งนี้คาดว่าในปีหน้าอาจจะมีการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ยนโยบายเพิ่มเติมอีก  หากทิศทางเศรษฐกิจมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น ซึ่งก็มีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อระบบเศรษฐกิจในวงกว้าง  จึงเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ยังต้องจับตาดูอย่างใกล้ชิดกันต่อไป