Land and Houses  แถลงแผนงานในปี 2562 โดยไม่เปิดคอนโดมิเนียมเพิ่มเติม  เนื่องจากคาดว่าตลาดในปัจจุบันยังมีความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัย  เช่น มาตรการ LTV ของธนาคารแห่งประเทศไทย  รวมถึงภาพรวมของภาวะเศรษฐกิจ  โดยหันไปเน้นเปิดโครงการแนวราบรวม 16 โครงการแทน  นอกจากนี้ยังคงลงทุนทั้งในส่วนของการพัฒนาที่อยู่อาศัย และอสังหาฯ เพื่อการให้เช่าต่อไป

สำหรับสถานะทางการเงินในปัจจุบัน Land and Houses  มีหนี้เงินกู้สุทธิอยู่ที่ 43,000 ล้านบาท มีสัดส่วนหนี้สินต่อทุนประมาณ 86% และมีต้นทุนทางการเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 2.46%  ซึ่งมีแผนจะออกหุ้นกู้อีกประมาณ 12,000 ล้านบาท

รายจ่ายด้านการลงทุน

ในปี 2561 แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ มีรายจ่ายด้านการลงทุนประมาณ 10,000 ล้านบาท เป็นรายจ่ายในการซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัย 6,000 ล้านบาท และรายจ่ายในการลงทุนในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์เพื่อให้เช่าอีก 4,000 ล้านบาท  ส่วนในปี 2562 ทาง Land and Houses เตรียมงบลงทุนไว้เท่าเดิมที่ 10,000 ล้านบาท แต่เพิ่มสัดส่วนของงบซื้อที่ดินเพื่อการพัฒนาที่อยู่อาศัยเป็น 7,000 ล้านบาท และลดงบลงทุนด้านอสังหาริมทรัพย์เพี่อให้เช่าเหลือ 3,000 ล้านบาท

สถานการณ์ตลาดที่อยู่อาศัย ปี2561

สำหรับตลาดที่อยู่อาศัยในปี 2561 (เดือน ม.ค.-พ.ย.) มียอดจดทะเบียน  90,694  หน่วย เพิ่มขึ้นประมาณ 3.2%  เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2560 (87,913 หน่วย)  และคาดว่าเมื่อสิ้นปี 2561 จะมีจำนวนเพิ่มขึ้นถึง 3.9% ประมาณการที่ 97,800 หน่วย เทียบกับทั้งปี 2560 ที่ 94,159 หน่วย

เมื่อแยกที่อยู่อาศัยที่จดทะเบียนเพิ่มในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2561  พบว่า  บ้านเดี่ยว, ทาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์มีจำนวนเพิ่มขึ้น 19.7% และ 23.2% ตามลำดับ  ในขณะที่ส่วนของบ้านแฝดและคอนโดมิเนียมลดลง 29.9% และ 3.9% ตามลำดับเช่นกัน

• บ้านเดี่ยว มีจำนวนรวม 13,396 หน่วย เพิ่มขึ้น 19.7% จากปี 2560 (11,190 หน่วย) ซึ่งคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2561 จะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 14,820 หน่วย เพิ่มขึ้น 18.8% จากปี 2560 (12,471 หน่วย)
• บ้านแฝด มีจำนวนรวม 1,423 หน่วย ลดลง 29.9% จากปี 2560 (2,029 หน่วย) ซึ่งคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2561 จะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 1,580 หน่วย ลดลง 32.8 % จากปี 2560 (2,352 หน่วย)
• ทาวน์เฮ้าส์และอาคารพาณิชย์ มีจำนวนรวม 18,658 หน่วย เพิ่มขึ้น  23.2% จากปี 2560 (จำนวน 15,139 หน่วย) ซึ่งคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2561 จะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 19,900 หน่วย เพิ่มขึ้น 24.2% จากปี 2560 (16,017 หน่วย)
• คอนโดมิเนียม มีจำนวนรวม 57,217 หน่วย ลดลง 3.9% จากปี 2560 (จำนวน 59,555 หน่วย) ซึ่งคาดการณ์ว่าสิ้นปี 2561 จะมียอดจดทะเบียนอยู่ที่ 61,500 หน่วย ลดลง 2.9% จากปี 2560 (63,319 หน่วย)

ผลการดำเนินงานในปี 2561

ในช่วงต้นปี 2561 Land and Houses มีจำนวนโครงการที่เปิดดำเนินการ 68  โครงการ อยู่ในกทม. และปริมณฑล 40 โครงการ  ต่างจังหวัด 28 โครงการ ทั้งนี้ภายในปี 2561 ที่ผ่านมาแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ได้เปิดโครงการใหม่ไปเพิ่มอีก 12 โครงการ ทำให้มีโครงการที่เปิดดำเนินการในปี 2561 ทั้งหมด 80 โครงการ สำหรับโครงการที่เปิดใหม่  12  โครงการ มีมูลค่ารวม 23,110 ล้านบาท แบ่งได้ดังนี้

• โครงการบ้านเดี่ยว 6 โครงการ   (บ้านแฝดนับเป็นบ้านเดี่ยว)
• โครงการทาวน์โฮม 5 โครงการ
• โครงการคอนโดมิเนียม 4 โครงการ

(ในโครงการที่ Mix สินค้า จะแยกออกตามประเภทสินค้า นับซ้ำโครงการ)

ด้านส่วนแบ่งการตลาด (Market Share) Land and Houses มีส่วนแบ่งตลาดในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตามประเภทสินค้าต่างๆ ดังนี้

• ตลาดบ้านเดี่ยว มีส่วนแบ่งตลาด 6 %
• ตลาดบ้านแฝด มีส่วนแบ่งตลาด 7 %
• ตลาดทาวน์เฮ้าส์ มีส่วนแบ่งตลาด 5%
• ตลาดคอนโดมิเนียม มีส่วนแบ่งตลาด 2%

การดำเนินงานของบริษัท Land and Houses USA. ในปีที่ผ่านมาได้ขายอพาร์ทเมนท์ชื่อ The Domain Residence ในรัฐแคลิฟอเนีย ไปในราคา 140 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 4,480 ล้านบาท) โดยมีกำไรก่อนภาษีประมาณ 41.17 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ (ประมาณ 1,317 ล้านบาท)  ซึ่งปัจจุบันบริษัท Land and Houses USA. มีจำนวนโครงการทั้งหมด 4 โครงการ  และมีแผนจะขายอีก 1 โรงแรมเข้ากอง REIT ในปีนี้

บริษัท LHMH  ในปี 61 ที่ผ่านมามีการเปิดโครงการ Terminal 21 พัทยา ซึ่งเป็นโครงการ Mixed Use ประกอบด้วยโรงแรม และ Shopping Mall มีพื้นที่โครงการ 32.84 ไร่  มูลค่าโครงการ 5,587 ล้านบาท มีห้องพัก 396 ห้องและมีพื้นที่ Retail 42,000 ตร.ม.

แผนการดำเนินงานในปี 2562

Land and Houses มองว่าตลาดของคอนโดมิเนียมยังไม่แน่นอน  และมีปัจจัยภายนอกจากหลายด้าน  เช่น มาตรการ LTV รวมถึงภาวะเศรษฐกิจในภาพรวม  ทำให้ในปี 2562 ยังไม่มีแผนที่จะเปิดคอนโดโครงการใหม่เพิ่มเติม  ซึ่งในปัจจุบันทาง Land and Houses มีโครงการที่ดำเนินการอยู่ทั้งหมด 70 โครงการ  (กรุงเทพฯ และปริมณฑล 42 โครงการ, ต่างจังหวัด 28 โครงการ)

โดยปีนี้ได้วางแผนเปิดทั้งโครงการใหม่เพิ่ม 16 โครงการ มูลค่ารวม  29,960 ล้านบาท  โดยโฟกัสในพื้นที่กทม. และปริมณฑล 14  โครงการ และเปิดในต่างจังหวัดเพิ่มเพียง 2 โครงการ ทำให้คาดว่าปีนี้ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จะมีโครงการที่เปิดดำเนินการทั้งสิ้นรวม 86 โครงการ

โดยถ้าดูจากระดับราคาขาย  ในปี 2562 ทาง Land and Houses มีสัดส่วนของโปรดักส์ที่ราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปถึง 47% ของทั้งหมด  และมีสัดส่วนของบ้านเดี่ยว, บ้านแฝดเยอะที่สุด ถึง 72%  ของมูลค่าโปรดักส์ทั้งหมดเช่นกัน

โครงการที่เปิดใหม่ในปี 2562 แบ่งเป็น

• โครงการบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด 11 โครงการ
• โครงการทาวน์เฮ้าส์ 6 โครงการ
• คอนโดมิเนียมไม่มีการเปิดตัวใหม่ในปีนี้

(ในโครงการที่ Mix  นับแยกออกตามประเภทสินค้า  นับซ้ำโครงการ)

ในส่วนของเป้าหมายยอดขายปี 2562 Land and Houses ตั้งเป้ายอดขายที่ 33,000 ล้านบาทและยอดโอนกรรมสิทธิ์ 32,000 ล้านบาท โดยโครงการทั้งหมดที่เปิดดำเนินการอยู่ของบริษัทมีราคาเฉลี่ยต่อยูนิตในปี 2562 อยู่ที่ 7.3  ล้านบาท

ส่วนงบลงทุนในการซื้อที่ดินในปีนี้ตั้งไว้ที่ 7,000 ล้านบาท โดยจะมุ่งหาทำเลที่นำมาพัฒนาได้ทันทีเป็นหลัก

Land and Houses มียอด Backlog ในปีนี้อยู่ที่ 10,000 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 25% และแนวราบ 75% โดยจะสามารถรับรู้รายได้ในปีนี้ 6,000 ล้านบาท และจะรับรู้รายได้ครบทั้งหมดภายในปี 2563

สำหรับ 16 โครงการใหม่ที่ทาง Land and Houses จะเปิดตัวในปีนี้ได้แก่

• ชัยพฤกษ์ รามอินทรา ทางด่วน จตุโชติ
• นันทวัน รามอินทรา พหลโยธิน 50
• มัณฑนา  Westgate
• Indy  ปิ่นเกล้า  สิรินธร
• มัณฑนา บางนา กม. 7 (2)
• Indy  อยุธยา
• Vive เอกมัย รามอินทรา
• Vive รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์
• Villaggio  ประชาอุทิศ 90  
• Indy  รังสิต คลอง 2
• Vive บางนา
• Villaggio  บางนา เทพารักษ์
• มัณฑนา Serene Lake  เชียงใหม่
• Indy 3 บางใหญ่
• Indy  บางนา สวนหลวง
• Villaggio  ศรีนครินทร์ บางนา