ในตลาดโครงการบ้านแนวราบไม่ว่าจะเป็นบ้านเดี่ยวหรือทาวน์โฮม ชื่อ AP (THAILAND) เป็นชื่อดีเวลลอปเปอร์แรกๆ ที่คนหาบ้านมักจะมีลิสขึ้นมาอยู่ในหัว เป็น Top of Mind อยู่เสมอ จากรูปแบบของโครงการที่หลากหลายและการเลือกสรรทำเลที่ตั้งให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนในแต่ละพื้นที่ได้อย่างเหมาะสม ซึ่งข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งที่สะท้อนว่าผู้บริโภคให้ความไว้เนื้อเชื่อใจก็คือมียอดขาย (Market share) ด้วยจำนวนยูนิตมากที่สุดในตลาดนับตั้งแต่ปี 2558 จนถึงกลางปี 2564 ที่ผ่านมา แม้ว่าคนจำนวนมากจะได้รับผลกระทบจากโควิด-19 แต่ยอดขายบ้านของ AP นั้นแทบไม่ได้ลดลงเลยครับ
อย่างไรก็ดี เป็นธรรมดาในโลกยุคปัจจุบันที่ทุกธุรกิจจะต้องปรับตัวอย่างรวดเร็วอยู่เสมอเพื่อแย่งชิงกำลังซื้อจากผู้บริโภคที่มีทางเลือกอย่างมากมาย เป็นยุคที่ปลาใหญ่ล้วนว่ายน้ำเร็ว ในปี 2565 นี้ ทาง AP เป็นดีเวลลอปเปอร์ที่เลือกจะปรับกลยุทธ์การพัฒนาโครงการบ้านและทาวน์โฮมของตัวเองใหม่หมด เพื่อที่จะได้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีมากยิ่งขึ้นครับ
.
.
บทความนี้เราจะมาเล่าถึงกลยุทธ์สำคัญที่ AP วางแผนเอาไว้ในปี 2565 เพื่อที่จะทำให้ตัวเองยังสามารถรักษาตำแหน่งเจ้าตลาดบ้านและทาวน์โฮมเอาไว้รวมถึงเพื่อที่จะสร้าง Market share เพิ่มมากขึ้นด้วยครับ
.
พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ความต้องการใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น
ช่วงระยะเวลาเกือบ 2 ปีที่ผ่านมา ซึ่ง Covid-19 ระบาดอย่างหนัก ส่งผลให้รูปแบบการใช้ชีวิตของคนเมืองเปลี่ยนแปลงไปมาก เมื่อคนเริ่มต้องใช้ชีวิตอยู่ที่บ้านมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบ Work From Home หรือการใช้เวลาภายในบ้านตัวเองยาวนานกว่าที่เคยเป็นมาในอดีต ทำให้คนจำนวนมากมายค้นพบความต้องการที่ตัวเองอาจจะไม่เคยรู้ว่าสิ่งนี้จำเป็นต่อการใช้ชีวิตในบ้านมาก่อน จึงคาดหมายได้ว่าโจทย์ความต้องการที่อยู่อาศัยต่อจากนี้จะเปลี่ยนไปอย่างแน่นอน ซึ่งนั่นหมายถึงความต้องการ “พื้นที่” และ “รูปแบบ” การใช้งานส่วนต่างๆ ของบ้าน ที่แตกต่างออกไป
ทำให้ปีนี้ AP พัฒนาแบบทาวน์โฮมใหม่ถึง 20 แบบ ตามคอนเซ็ปต์ “Unlock ชีวิตคนเมืองกับทาวน์โฮมเอพี พื้นที่ชีวิตแนวตั้งที่เลือกได้” ไม่ว่าจะเป็น “บ้านกลางเมือง คลาสเซ่, บ้านกลางเมือง, บ้านกลางเมือง The Edition, แกรนด์ พลีโน่ และพลีโน่ รวมถึงแบบบ้านในแบรนด์ใหม่ที่จะเกิดขึ้นด้วยครับ
แบบบ้านใหม่ทั้ง 20 แบบนั้นได้รับการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงทั้งหน้าตาสถาปัตยกรรมภายนอก ตลอดจนสเปซและฟังก์ชันภายใน เพื่อสร้างประสบการณ์การอยู่อาศัยในทาวน์โฮมรูปแบบใหม่ เป็นตัวเลือกที่ตอบโจทย์ความต้องการพื้นที่ใช้สอยของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปได้เป็นอย่างดีครับ
พัฒนาบ้านในราคาจับต้องง่าย แตกแบรนด์ใหม่ รองรับลูกค้าที่อยู่ชานเมือง
ปัจจุบันดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่มักจะเลือกพัฒนาโครงการบ้านและทาวน์โฮมในเขตเมืองและพื้นที่รอยต่อรอบนอกเมือง ส่วนพื้นที่ชานเมืองนั้นมักจะเป็นของผู้ประกอบการรายกลางและรายเล็กเป็นส่วนใหญ่ อาจจะมีรายใหญ่เข้าไปพัฒนาบ้างแต่ก็ไม่มากนัก ทำให้คนที่อยู่อาศัยในบริเวณชานเมืองและเขตปริมณฑลรอบนอกไม่ค่อยมีตัวเลือกของโครงการบ้านจัดสรรเจ้าใหญ่ที่มี Branding มากนัก
AP ก็มองเห็นช่องว่างทางการตลาดตรงนี้ วางแผนแตกแบรนด์บ้านเดี่ยวและทาวน์โฮมใหม่มารองรับความต้องการของคนหาบ้านในโซนชานเมือง ที่อยากได้บ้านของผู้ประกอบการรายใหญ่ที่มีความน่าเชื่อถือรวมถึงบริการหลังการขายที่ดี โดยแบรนด์ทาวน์โฮมใหม่ที่จะเปิดตัวคือ PLENO TOWN ในราคาเริ่มต้นจับต้องเป็นเจ้าของได้ง่ายเพียง 1.89 ล้านบาท แล้วก็ยังแตกแบรนด์บ้านเดี่ยวราคาประหยัดแบรนด์ใหม่ ดีไซน์ใหม่ รองรับคน GEN M และ GEN Z ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 3-5 ล้านบาท เป็นทางเลือกให้คนในโซนปริมณฑลทั้งในจังหวัดสมุทรสาคร, สมุทรปราการ, นนทบุรี, ปทุมธานี อย่างเช่น โซนบางพลี พุทธสาคร ซอยพันท้ายนรสิงห์ เทพารักษ์ และบางบ่อ เป็นต้น
บ้านแฝดหน้ากว้าง ช่องว่างการตลาดที่รอการเติมเต็ม
หลายปีที่ผ่านมาโครงการบ้านแนวราบส่วนใหญ่ในท้องตลาดมักจะมีเฉพาะบ้านเดี่ยวและทาวน์โฮม บ้านแฝดเป็นอีกหนึ่งโปรดักส์ที่ไม่ค่อยมีผู้พัฒนาให้ความสนใจมากนัก เป็นช่องว่างทางการตลาดที่ยังไม่ค่อยมีดีเวลลอปเปอร์เจ้าไหนตอบโจทย์ได้ตรงใจลูกค้า ปีนี้ทาง AP เลยเล็งที่จะเพิ่ม Market share ของบ้านแฝด เป็นตัวเลือกให้กับผู้บริโภคที่ไม่ต้องการอยู่ทาวน์โฮม แต่ก็อาจจะไม่อยากซื้อบ้านเดี่ยวที่มีที่ดินเยอะต้องดูแลรักษามาก โดยแบรนด์บ้านแฝดที่เป็นตัวชูโรงปีนี้ก็คือ บ้านกลางเมือง The Edition และ แกรนด์ พลีโน (Grande Pleno) ด้วยจุดเด่นบ้านหน้ากว้างสูงสุด 11 เมตรครับ
ขยายโครงการในหัวเมืองสำคัญ
หลังจากที่ AP เปิดโครงการบ้านแบรนด์อภิทาวน์ไปในหัวเมืองจังหวัดใหญ่ๆ เช่น ขอนแก่น, ระยอง, เชียงราย, นครศรีธรรมราช และอยุธยา ปีนี้จะพัฒนาโครงการอภิทาวน์เพิ่มอีก 3 จังหวัด ได้แก่ อุดรธานี, อุบลราชธานี และฉะเชิงเทรา ซึ่งพอนับรวมโครงการพร้อมขายทั้งหมดจะทำให้ AP มีโครงการในมือทั้งบ้านเดี่ยว, บ้านแฝด, ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ถึง 182 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 149,000 ล้านบาท เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเมืองไทยอย่างแท้จริง
ด้วยกลยุทธ์ต่างๆ ที่ AP วางไว้ในปีนี้ จะทำให้ AP มีโครงการต่างๆ รองรับความต้องการของผู้บริโภคครบทุก Segment และทุกระดับราคา ทาวน์โฮมมีตั้งแต่ราคาประหยัดเริ่ม 1.89 ล้าน กับแบรนด์ใหม่ PLENO TOWN ไปจนถึง Luxury Townhome ราคา 20 ล้านบาท อย่าง บ้านกลางเมือง คลาสเซ่
ส่วนบ้านเดี่ยวก็มีตั้งแต่ระดับราคาเริ่ม 3-50 ล้านบาทขึ้นไป โดยมีตัวชูโรงอย่าง THE PALAZZO คฤหาสน์หรูในระดับ Super Luxury , THE CITY บ้านดี่ยวไฮเอนด์ดีไซน์ใหม่ หรือ CENTRO บ้านเดี่ยวดีไซน์โมเดิร์นสำหรับกลุ่มคนเริ่มสร้างครอบครัวครับ
สำหรับตลาดคอนโดมิเนียม ก็ต้องยอมรับว่าปัจจุบันอาจจะไม่ใช่ช่วงที่ดีที่สุดของตลาดคอนโด แต่ก็น่าจะฝืนตัวกลับมาได้ในไม่ช้า เพราะไม่ว่ายังไงดีมานด์ของคนเมืองก็ยังมีอยู่เสมอ ขึ้นอยู่กับว่าดีเวลลอปเปอร์ต่างๆ จะสามารถค้นหาตลาดใหม่ๆ และพัฒนาโปรดักส์ให้ตรงใจได้อย่างไรครับ
ในปี 2565 นี้ ทาง AP เองเลยปรับกลยุทธใช้แบรนด์ Aspire มาเป็น Fighting Brand ถึง 4 โครงการ คือ Aspire ปิ่นเกล้า-อรุณอมรินทร์, Aspire รัชโยธิน, Aspire สุขุมวิท-พระราม 4, Aspire อ่อนนุช สเตชั่น รวมถึงแบรนด์ LIFE อีก 1 โครงการ คือ LIFE พหลโยธิน-ลาดพร้าว รวมแล้วมูลค่ากว่า 13,000 ล้านบาท