GRAND UNITY เปิดตัวคอนโดมิเนียมแบรนด์น้องใหม่ “blue” 3 โครงการ 3 ทำเล บลู พหลโยธิน 35, บลู สุขุมวิท 89 และ บลู สุขุมวิท 105 รวม 2,500 ล้านบาท
· 1 min readแกรนด์ ยูนิตี้ เปิดประเดิมต้นปี 65 โดยส่ง “บลู พหลโยธิน 35” คอนโดมิเนียมยุคใหม่
ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ GEN ใหม่ ยุค Now Normal ในราคาเริ่มต้น 1.89 ล้านบาท*
คุณทัดดาว จิระสวัสดิ์ รักษาการกรรมการผู้จัดการ บริษัท แกรนด์ ยูนิตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด หรือ GRAND UNITY – “Makes Sense.” เปิดเผยว่า สำหรับปีที่ผ่านมา บริษัทฯ ยังคงเดินหน้าพัฒนาทุกมิติให้แข็งแกร่งด้วยการใส่ใจ สรรสร้าง ผลิตภัณฑ์ บริการ และบุคลากร เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปในยุค Now Normal และให้สอดคล้องกับพันธกิจขององค์กร เพื่อให้คุณได้ “ใช้ชีวิต…บนเหตุผลของคุณ – Makes Sense.” ผ่านกลยุทธ์สำคัญในการขับเคลื่อนธุรกิจ ได้แก่ Product Excellence, Service Excellence, People Excellence ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ สามารถพิสูจน์ความมั่นคงและศักยภาพในการบริหารและการจัดการความเสี่ยงของบริษัทฯ ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังสร้างความแข็งแกร่งของธุรกิจเพื่อการขับเคลื่อนสู่ความสำเร็จได้อย่างดีเยี่ยม
“ปี 2564 ที่ผ่านมา เราได้ดำเนินตามแผนธุรกิจอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มองหาคอนโดมิเนียมภายใต้สถานการณ์ที่ต้องใช้ความรอบคอบในการตัดสินใจมากขึ้น ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าลูกค้าได้เล็งเห็นถึงคุณภาพหรือ Product Excellence ที่เรามอบให้ในทุกๆ ขั้นตอน ทั้งการเลือกใช้วัสดุในการก่อสร้างและ Zero Defect ทำให้สามารถปิดการขายโครงการ เซียล่า ศรีปทุม (CIELA Sripatum) ได้เป็นที่เรียบร้อย
นอกจากนี้ ยังได้พัฒนาโครงการต่างๆ ให้มีคุณภาพเป็นที่ยอมรับในระดับสากล อย่างการพัฒนาโครงการ อนิล สาทร 12 (ANIL Sathorn 12) ซึ่งถือเป็นโครงการที่พักอาศัยแห่งแรกของไทยที่ได้รับรองตามมาตรฐานความเป็นอยู่ระดับโลก WELL Multifamily PrecertifiedTM ระดับ Gold ตามมาตรฐาน WELL Building StandardTM จาก International WELL Building InstituteTM (IWBITM) ประเทศสหรัฐอเมริกา ไปจนถึงด้านการบริการ บริษัทฯ เสริมความแข็งแกร่งด้วยการร่วมมือกับบริษัท เซนเซส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SENSES) ที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการบริหารพื้นที่อาคารที่พักอาศัย เข้ามาช่วยบริหารจัดการงานนิติบุคคลอาคารชุดแบบครบวงจร รวมถึงการพัฒนาทรัพยากรบุคคลของเราอย่างต่อเนื่อง
จากการพัฒนาคุณภาพอย่างต่อเนื่องนี้ จึงเป็นที่น่ายินดีอย่างยิ่งที่ แกรนด์ ยูนิตี้ สามารถคว้ารางวัล “BCI Asia Top 10 Developers Award 2020” ซึ่งเป็นรางวัลที่ยิ่งใหญ่ระดับภูมิภาคเอเชีย โดยเป็นผลงานจากการพัฒนาโครงการภายใต้ BLUE Series 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ อนิล สาทร 12 (ANIL Sathorn 12), โครงการ แมสซารีน รัชโยธิน (MAZARINE Ratchayothin) และโครงการ เซียล่า จรัญฯ 13 สเตชั่น (CIELA Charan 13 Station) โดยสะท้อนคุณภาพและความโดดเด่นในด้านการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการสู่ความเป็นเลิศในทุกมิติอย่างแท้จริง
สำหรับปี 2565 ถือเป็นอีกหนึ่งโอกาสสำคัญในการพลิกเกมการดำเนินธุรกิจของแกรนด์ ยูนิตี้ ต่อเนื่องจากปี 2564 ซึ่งถือเป็นปีแห่งการปรับเปลี่ยนและทบทวนกลยุทธ์องค์กร หรือ The Year of Optimization โดยในปีนี้ บริษัท ชูวิสัยทัศน์ Excellence in Values เพื่อยกระดับ 3 กลยุทธ์สำคัญไปสู่การส่งต่อคุณค่าที่เป็นเลิศให้กับลูกค้าได้แก่
1. Product Excellence การพัฒนาผลิตภัณฑ์สู่ความเป็นเลิศที่มีเครื่องมือชิ้นสำคัญคือการศึกษาความต้องการและปรับตัวตามโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค เพื่อมาตรฐานสูงสุดของคุณภาพชีวิตของผู้อยู่อาศัยในทุกๆ วัน และเพื่อให้การพัฒนาก่อสร้างโครงการได้คุณภาพตามมาตรฐานสากล ผนวกกับการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาประยุกต์ใช้
2. Service Excellence การดูแลลูกค้าได้อย่างครบวงจรทั้งกิจกรรมสิทธิพิเศษจาก Grand Unity Family การสนับสนุนการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในโครงการต่างๆ บริการโฮมแคร์ หรือ Home-Friendly ที่สามารถแจ้งรับบริการได้อย่างสะดวกสบายผ่าน Grand Unity Application ไปจนถึง บริษัท เซนเซส พร็อพเพอร์ตี้ แมเนจเม้นท์ จำกัด (SENSES) ที่สามารถดูแลและบริหารจัดการอาคารที่พักอาศัยได้อย่างมืออาชีพ
3. People Excellence การเสริมความรู้และทักษะให้กับพนักงานภายใต้แนวคิด Customer-Centric Mindset ซึ่งถือเป็นทรัพยากรสำคัญที่จะสร้างคุณค่าที่ไม่มีสิ้นสุดทั้งสำหรับตัวพนักงานและลูกค้าของ แกรนด์ ยูนิตี้ โดยกลยุทธ์นี้ยังถือเป็นหนึ่งในแผนงานพัฒนาความยั่งยืนของกลุ่มบริษัทในเครือยูนิเวนเจอร์อีกด้วย”
นอกจากนี้ แกรนด์ ยูนิตี้ ยังได้เสาะแสวงหาทำเลศักยภาพซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์ต่างๆ ในพื้นที่กรุงเทพที่มีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูง เพียบพร้อมด้วยสาธารณูปโภคและระบบคมนาคมที่สะดวกสบาย เพื่อให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในยุค Now Normal และที่สำคัญต้องเกิดความคุ้มค่ากับผู้บริโภคมากที่สุด รวมถึงครอบคลุมความต้องการของกลุ่มเป้าหมายในทุกเซ็กเมนต์ พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตได้อย่างแท้จริงทั้งในด้าน Sustainability และ Living Standard Excellence
“ในปีนี้ แกรนด์ ยูนิตี้ เดินหน้าลุยตลาดอสังหาริมทรัพย์อย่างเต็มรูปแบบ โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัวอีกหนึ่งแบรนด์คอนโดมิเนียมน้องใหม่ล่าสุดภายใต้ ‘BLUE Series’ อย่างแบรนด์ “blue” ที่มาพร้อมกับ คอนเซ็ปต์ “Explore Your Area ค้นพบความสุขที่ไม่ต้องไปไหนไกล” โดยถือเป็นแบรนด์ที่พัฒนามาเพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ GEN ใหม่ และมีราคาที่จับต้องได้ เพราะที่ผ่านมาบริษัทฯ ได้พัฒนาโครงการในกลุ่ม Middle to High มาโดยตลอด
คำว่า “blue” นั้นหมายถึง สีที่แสดงถึงตัวตน ให้ความอิสระ รวมถึงการผสมผสาน เพื่อสื่อถึงตัวแทนของวัยเริ่มต้นที่มีความอิสระ ร่าเริง และมีความสร้างสรรค์ โดยโครงการภายใต้แบรนด์ “blue” ประกอบไปด้วย 3 โครงการ บน 3 ทำเลศักยภาพของกรุงเทพฯ รวมมูลค่าทั้งหมดกว่า 2,500 ล้านบาท ได้แก่
- บลู พหลโยธิน 35 (blue Phahonyothin 35)
- บลู สุขุมวิท 89 (blue Sukhumvit 89)
- บลู สุขุมวิท 105 (blue Sukhumvit 105)
พร้อมกันกับการพัฒนาโครงการใหม่ บริษัทฯ ยังมุ่งผลักดันยอดขายโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่ มูลค่ารวมกว่า 2,700 ล้านบาท และยอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) เพื่อรองรับการโอนในปี 2565 – 2566 กว่า 3,500 ล้านบาท อีกทั้งเมื่อสถานการณ์ปรับตัวดีขึ้น ยังมีโครงการที่รอการพัฒนาในหลายทำเลศักยภาพใกล้รถไฟฟ้า ประมาณการมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท โดยเชื่อว่าในปีนี้ ลูกค้าจะสัมผัสได้ถึงความมุ่งมั่นในการส่งต่อคุณภาพในทุกมิติของ แกรนด์ ยูนิตี้ ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้นอย่างแน่นอน”
blue พหลโยธิน 35
blue พหลโยธิน 35 เป็นคอนโดมิเนียม low-rise สูง 8 ชั้น จำนวน 2 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่ 2.1.97 ไร่ มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท โดยมีห้องชุดพักอาศัยจำนวน 322 ยูนิต รวม 6 รูปแบบ ขนาดตั้งแต่ 24 – 37.50 ตารางเมตร แต่งครบ fully-furnished ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท* ภายใต้แนวคิด “Find New Moments in Familiar Places ชีวิตคือการค้นหาสิ่งใหม่..ในที่ที่คุ้นเคย”
โครงการตั้งอยู่บริเวณใกล้แยกรัชโยธิน ซึ่งเป็นที่ยอมรับในเรื่องศักยภาพของทำเล รวมถึงเป็น CBD ทางตอนเหนือของกรุงเทพมหานคร และมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ทั้งระบบคมนาคม แหล่งงาน และสำนักงานต่างๆ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพของทำเลให้เติบโตยิ่งขึ้น เชื่อมต่อการเดินทางสู่ใจกลางเมืองได้อย่างสะดวกสบาย ล้อมรอบด้วยถนนสายหลักอย่าง ถนนพหลโยธิน ถนนวิภาวดีรังสิต และถนนรัชดาภิเษก ทั้งยังใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีรัชโยธิน เพียง 1.5 กิโลเมตร และรถไฟฟ้า BTS สถานีพหลโยธิน 24 เพียง 1.7 กิโลเมตรเท่านั้น รวมถึงรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่กำลังจะแล้วเสร็จในอนาคตอันใกล้ อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยแหล่งรวมไลฟ์สไตล์และสถานที่สำคัญมากมายอีกด้วย
ในส่วนของการออกแบบโครงการฯ ได้พัฒนาและปรับเปลี่ยนให้ตอบโจทย์ตามพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของลูกค้า เพื่อรองรับการอยู่อาศัยของกลุ่มเป้าหมายในยุค Now Normal โดยเน้นการออกแบบผลิตภัณฑ์ที่ให้ความสำคัญกับ Function ของ Space ที่มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ Adaptive Design ซึ่งถูกออกแบบมาเฉพาะโครงการ blue เท่านั้น เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ GEN ใหม่ และสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานได้อย่างหลากหลาย ซึ่งจะช่วยประหยัดพื้นที่และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้มากยิ่งขึ้น
พร้อมกันนั้น ยังได้สร้างสรรค์พื้นที่ส่วนต่างๆ ไว้อย่างครบครัน และครอบคลุมพื้นที่ถึง 3 ชั้น โดยสามารถเชื่อมต่อกันตั้งแต่ชั้นล่างขึ้นไปถึงชั้นบน พร้อมออกแบบ Space ทางเชื่อมแบบ Sky Bridge ที่เชื่อมส่วนกลางทั้ง 2 อาคาร ให้มีฟังก์ชันใช้งานที่หลากหลายและไม่จำเจ ไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space, Game Room, Fitness, Yoga Room, และ Central Pool รวมไปถึง Greenery Space สวนภายใน Court ที่จะช่วยสร้างบรรยากาศในการพักผ่อนได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีพื้นที่จอดรถทั้งโครงการรวม 40% ดูแลด้วยระบบรักษาความปลอดภัยที่ทันสมัย ควบคุมการเข้า-ออกโครงการด้วยระบบ Key Card Access และ Touchless Access สำหรับพื้นที่ส่วนกลาง พร้อมระบบ CCTV ตลอด 24 ชั่วโมง