—————————
แบบบ้าน Lago Como พื้นที่ใช้สอย 656 ตารางเมตร
5 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องน้ำแขก, 2 ห้องพักผ่อน,Tearoom,
ลิฟต์ส่วนตัว, Rooftop, Private Pool พร้อม Jacuzzi, 2 ห้องแม่บ้าน และที่จอดรถ 4-8 คัน
—————————
แนวคิดการออกแบบบ้านของโครงการ Lake Legend บางนา – สุวรรณภูมิ มีดีไซน์แปลกใหม่ เป็นคฤหาสน์หรูเล่นระดับ 3 ชั้น ที่ออกแบบให้เกือบทุกจุดภายในบ้านได้รับวิวทะเลสาบมากที่สุด เพื่อรองรับการอยู่อาศัยสำหรับครอบครัวที่กำลังขยายเพิ่มขึ้น หรือครอบครัวขนาดใหญ่ เนื่องด้วยมีขนาดพื้นที่ใช้สอยเยอะมาก และสามารถออกแบบฟังก์ชันการใช้งานได้คุ้มค่าครบครัน
ภายในบ้านสร้างความเป็นเอกลักษณ์ได้ทุกจุด ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบให้เพดานสูงโปร่งถึง 6.5 เมตร พร้อม Full Height Window รวมถึงการเชื่อมต่อพื้นที่ทั้งสามส่วน โซนนั่งเล่น โซนรับประทานอาหาร และโซนแพนทรี่ โดยต่อเนื่องกับ Lake Terrace ที่มาพร้อมกับสระว่ายน้ำและ Jacuzzi ส่วนตัว และวิวทะเลสาบ 100 ไร่ ขณะที่ห้องนอนทุกห้องมีขนาดใหญ่และมีห้องน้ำภายในตัว และมี Rooftop ที่อยู่ชั้นบนสุดที่สามารถจัดปาร์ตี้ได้สุด Exclusive สุดท้ายทางโครงการได้ติดตั้งลิฟต์ไว้ให้เรียบร้อย
ตัวบ้านดีไซน์ในสไตล์ Modern Italian Lakeside Villa เน้นรูปทรงเรขาคณิต มีเส้นสายที่เรียบง่ายแต่ดูเท่ สำหรับ Façade ก็ถูกออกแบบมาให้สง่างามในทุกมุมมองทั้งด้านหน้าบ้านและหลังบ้าน พร้อมช่องแสงอีกหลายจุด โดยเลือกใช้สีเทาเป็นหลักตัดกับไม้สีน้ำตาล
ภาพนี้คือบริเวณบ้านด้านที่ติดกับวิวทะเลสาบครับ ซึ่งทางโครงการให้ความสำคัญกับช่องแสงเป็นอย่างมาก เพื่อให้ในบ้านได้มองเห็นวิวทะเลสาบ
พื้นที่โรงจอดรถกว้างขวางสามารถจอดรถได้ 4-8 คัน อีกทั้งบริเวณนี้ยังติดตั้ง EV Charger ไว้ให้ด้วยครับ
ทางเข้าบ้านด้านหน้าจะมีอยู่ 2 จุด ทางเข้าหลักเป็นประตูบานไม้ขนาดใหญ่ ส่วนอีกจุดคือตรงโรงจอดรถ ซึ่งสร้างในรูปแบบ Entrance Ramp หรือทางเดินสำหรับใช้รถเข็น รองรับ Elder Care Design
ภายในบ้านก็ยังคงการตกแต่งในสไตล์ Modern Italian เมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับ Grand Foyer ชั้น Ground Floor ที่นอกจากได้ความสูงแบบ Double Volume ถึง 7 เมตรแล้ว ยังเพิ่มความพิเศษด้วยการได้รับวิวแบบเปิดโล่ง ทำให้มองเห็นวิวทะเลสาบตั้งแต่ก้าวแรกที่เดินเข้ามาครับ
ทางเข้าที่ 2 มาจากฝั่งโรงจอดรถครับ
จาก Grand Foyer เชื่อมต่อกับห้อง Tea Room ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องรับแขกหรือห้องแสดงของสะสม ดีไซน์ให้มีช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งจากตรงประตูระเบียงมองเห็นวิวสวนหน้าบ้าน และหน้าต่างด้านข้างบ้านครับ
และยังมี Private Lift และบันไดเพื่อขึ้นไปยังชั้นถัดไปของบ้าน
โดยห้องนอนที่ 5 จะอยู่ฝั่งนี้เช่นเดียวกันครับ สามารถทำเป็นห้องนอนรับรอง หรือห้องนอนสำหรับผู้สูงอายุ เพราะดีไซน์พื้นให้เสมอกัน พร้อมหน้าต่างบานใหญ่เปิดรับวิวทะเลสาบ
มาพร้อมพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำในตัวให้พร้อมใช้งาน
ชั้นถัดไปเป็นชั้นเล่นระดับลงไป เรียกว่า Lake Floor กันครับ ซึ่งอย่างที่เอ่ยไปข้างต้นว่าทางโครงการอยากให้มีการเล่นระดับ เพื่อให้ได้เทควิวในมุมมองที่ดีที่สุด และความรู้สึกแรกที่สัมผัสได้คือความโอ่โถง รวมถึงรู้สึกได้ถึงความปลอดโปร่งโล่งสบาย นั่นก็เพราะการออกแบบ Double Volume Living Room ที่สูงถึง 6.5 เมตร พร้อม Full Height Window มองเห็นวิวทะเลสาบได้แบบพาโนรามาเลยครับ
สำหรับพื้นที่ใช้สอยเป็นพื้นที่ส่วนตัวสำหรับทำกิจกรรมส่วนตัวของครอบครัว เชื่อมต่อทั้ง 3 โซนของบ้านเข้าไว้ด้วยกัน ทั้งโซน Living มุมนั่งเล่นนั่งดูทีวี
ถัดไปเป็นโซน Dining จัดเต็มกับขนาดโต๊ะกินข้าว ตั้งแต่ 8-10 ที่นั่ง
และโซนแพนทรี่ไว้สำหรับจัดเตรียมอาหารง่ายๆ เปรียบเหมือนกับครัวแบบเปิด
แต่ที่พิเศษของบ้าน คือ พื้นที่ของ Living Room และ Dining Room เชื่อมต่อกับ Lake Balcony และ Private Lakeside Pool สระว่ายน้ำระบบเกลือ
มี Jacuzzi ให้แช่น้ำเล่นผ่อนคลายแบบติดทะเลสาบ
หรือถ้าอยากนั่งเล่นรับลมชมวิวก็ยังมีสเปซอยู่อีกฝั่งหนึ่ง ให้จัดเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนได้ครับ
อีกฝั่งเป็นโซนไว้นั่งสังสรรค์ปาร์ตี้ โดยจะมีบันไดจากทางหน้าบ้านเชื่อมต่อลงมาบริเวณนี้ได้เลย เพื่อความเป็นส่วนตัวของเจ้าของบ้านในกรณีต้องการรับแขกบริเวณนี้ โดยไม่ผ่านด้านในบ้าน
กลับเข้ามาข้างในเพื่อขึ้นไปดูยังส่วนของที่พักอาศัยบนชั้น 2 กันบ้างดีกว่าครับ เริ่มที่ห้อง Master Bedroom
ซึ่งมีขนาดห้องที่ใหญ่มากพร้อมวิวทะเลสาบ โดยจะพบกับส่วนนั่งเล่นไว้สำหรับนั่งอ่านหนังสือก่อนเข้านอน หรือจะปรับเปลี่ยนมุมนี้เป็นโต๊ะทำงานแทนก็ได้เช่นเดียวกัน
นอกจากนี้พื้นที่ในห้องสามารถวางเตียง 6 ฟุต และสตูลตรงปลายเตียง พร้อมกับบิวท์อินชั้นวางทีวี ยังเหลือสเปซกว้างพอให้เดินได้สะดวสบาย
แต่ที่ไฮไลท์คือการได้ช่องแสงจากทางระเบียง ที่สามารถชมวิวทะเลสาบได้อย่างผ่อนคลายสบายอารมณ์
อีกมุมหนึ่งของห้องจะเป็นโซนแต่งตัวหรือ Walk-in Closet มีขนาดใหญ่เท่ากับห้องๆ หนึ่งเลยก็ว่าได้ครับ
ติดกันเป็นห้องน้ำที่ตกแต่งอย่างหรูหรา สุขภัณฑ์ได้อ่างล้างหน้าแบบ His & Her กระจกบานใหญ่เต็มผนัง นอกจากนี้ยังแยกห้องอาบน้ำ และห้องทำธุระอย่างเป็นสัดส่วน ที่สำคัญคือได้ Bathtub ที่เน้นวิวทะเลสาบ
ถัดมาเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนเป็นห้องพระหรือห้องอื่นๆ ตามไลฟ์สไตล์ได้เลย
มุมนี้เป็นมุม Family Living Room เพิ่มความเป็นส่วนตัวสำหรับสมาชิกในครอบครัวโดยเฉพาะ และแน่นอนว่าต้องได้วิวทะเลสาบเหมือนเดิม
ติดกันกับห้องนั่งเล่นเป็นห้องนอนที่ 2 หรือ Junior Master Bedroom ซึ่งไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงชื่อนี้ เพราะมีขนาดพอๆ กับ Master Bedroom เลยครับ
Walk-in Closet มีขนาดกว้างขวาง สามารถบิวท์ตู้เสื้อผ้าได้เยอะทีเดียว
ส่วนห้องน้ำได้ทุกอย่างคล้ายกับห้องน้ำใน Master Bedroom ต่างกันแค่การจัดวางครับ
สำหรับห้องนอนอีกห้องก็สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างลงตัว พร้อมช่องแสงขนาดใหญ่ ทำให้ผู้อยู่อาศัยไม่รู้สึกอึดอัด
พร้อมห้องน้ำในตัวเพื่อความสะดวกในการใช้งาน
ห้องนอนสุดท้ายของชั้น 2 ที่ออกแบบมาให้พอดีกับการใช้งาน
พร้อมพื้นที่ Walk-in Closet และห้องน้ำ
มาถึงชั้นบนสุดของบ้าน Lago Como ด้วยฟังก์ชันพิเศษ Private Rooftop Terrace ให้เพลิดเพลินชมวิวทะเลสาบในมุมมองที่แตกต่าง โดยโครงการจัดสรรพื้นที่ และวางระบบไว้ให้เรียบร้อย เพื่อการสังสรรค์ได้อย่างเต็มที่