ใครที่กำลังมองหาโครงการบ้านเดี่ยวในย่านรามอินทรา-คู้บอน โครงการ เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน (Mayfield Ramindra-Khubon) จาก Major Development ถือว่าน่าสนใจไม่น้อย เพราะมาพร้อมทำเลติดถนนใหญ่ เชื่อมต่อไปไหนมาไหนได้สะดวก แถมยังใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ อีกด้วยครับ

Mayfield รามอินทรา-คู้บอน ออกแบบโดยใช้สไตล์ European Farmhouse ผสานความอบอุ่นของบ้านแนวยุโรปเข้ากับสังคมเมืองและความทันสมัย  เป็นบ้านโมเดิร์นที่ดูอบอุ่น  ต้องการให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้ชีวิตแบบคนเมืองได้ท่ามกลางธรรมชาติภายในโครงการ

จุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่ทำเลติดถนนเลียบคลองสอง ซึ่งเป็นถนนใหญ่ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน สามารถเชื่อมต่อไปทางด่วน และรถไฟฟ้าสายสีชมพูได้อีกด้วย นอกจากนี้ ภายในโครงการมาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 2 ไร่ ที่รองรับทุกกิจกรรมในครอบครัว และใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น

เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน พัฒนาบนที่ดินขนาดประมาณ 40 ไร่ มีบ้านทั้งหมด 167 ยูนิต บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 53.3 – 95.8 ตร.ว. มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 แบบ เป็นบ้านเดี่ยวพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 231 – 308 ตร.ม. มาดูกันว่าโครงการนี้จะเป็นอย่างไรกันบ้าง

ข้อมูลโครงการ

เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน

(Mayfield Ramindra-Khubon)

LOCATION : ทำเลโครงการ Mayfield รามอินทรา – คู้บอน

สำหรับภาพรวมของทำเล Mayfield รามอินทรา-คู้บอน  ตั้งอยู่ในจุดใกล้กับแนวถนนวงแหวนฯ กาญจนาภิเษกฝั่งตะวันออก  บนถนนเลียบคลอง 2 ซึ่งเป็นถนนขนาดใหญ๋ 6 เลน  ช่วงใกล้กับศูนย์การค้าใหญ่ในย่านนี้อย่าง Fashion Island และ The Promenade  พื้นที่โซนนี้เป็นจุดที่สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ในเมืองกับพื้นที่รอบนอกได้ง่าย   เพราะมีแนวทางด่วนฉลองรัชมาบรรจบกับแนวถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกพอดี   ทำให้ตัวโครงการเองสามารถรองรับความต้องการของคนที่มองหาบ้านได้หลากหลาย  ทั้งกลุ่มที่อยู่ในเมือง  เช่น  โซนลาดพร้าว  เลียบทางด่วนรามอินทราฯ  เกษตร-นวมินทร์   แล้วขยับออกมาเพราะต้องการบ้านหลังใหญ่ขึ้น  เช่นเดียวกันกับคนที่อยู่พื้นที่โซนรอบนอกไกลออกไป  เช่น  หทัยราษฎร์  นิมิตรใหม่  แล้วต้องการบ้านที่อยู่ใกล้เมืองมากขึ้น

จากโครงการสามารถใช้ถนนเลียบคลองสอง เชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง เส้นทางแรกคือไปทางถนนคู้บอน ซึ่งออกไปทางถนนรามอินทราได้ อีกเส้นทางคือถนนหทัยราษฎร์ ที่เชื่อมต่อไปยังโซนหทัยราษฎร์ นิมิตใหม่ จนถึงมีนบุรี รวมถึงสามารถออกไปทางวงแหวนกาญจนาภิเษกได้โดยตรง และใช้ถนนเส้นนี้ขึ้นทางด่วนฉลองรัชเข้าเมืองที่ด่านจตุโชติได้ครับ

นอกจากนี้ ยังสามารถไปทางถนนพระยาสุเรนทร์ ออกไปทางถนนปัญญาอินทราที่มุ่งหน้าไปวงแหวนกาญจนาภิเษก หรือออกไปทางถนนรามอินทราที่มุ่งหน้าไปยังมีนบุรีได้เลย จะเห็นได้ว่าจากโครงการนี้ สามารถเชื่อมต่อไปยังสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ผ่านถนนสายสำคัญได้หลายเส้นทาง

เมื่อเจาะลึกเข้ามา เราจะเห็นว่าโครงการล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ได้แก่ ห้างใหญ่อย่าง Fashion Island และ Promenade, Community Mall อย่าง JAS Green Village และมี Lotus’s และ Makro เลียบคลองสอง ที่อยู่ฝั่งตรงข้ามโครงการ  รวมถึงใกล้สถานศึกษาอย่าง รร.สาธิตพัฒนา, RIS Early Years Campus และ รร.โชคชัย หทัยราษฎร์ อีกด้วย

สิ่งที่เป็นจุดเด่นของโครงการนี้คือ นอกจากจะได้ความสะดวกสบายพื้นฐานที่ครบครันแล้ว ยังอยู่ใกล้สถานที่สำหรับครอบครัวอย่าง Safari World และเดินทางไปสวนสยามได้ ทำให้เราสามารถพาน้อง ๆ หนู ๆ มารับความสนุกสนานเพลิดเพลินได้บ่อย ๆ

เชื่อว่าผู้ที่ต้องการซื้อโครงการนี้จะเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวเป็นหลัก แต่การเดินทางไปรถไฟฟ้าเพื่อเข้าเมืองสามารถทำได้สะดวก สถานีรถไฟฟ้าที่ใกล้ที่สุดคือ รถไฟสายสีชมพู สถานีคู้บอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที โดยรถไฟฟ้าสายนี้สามารถเชื่อมต่อไปยังรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียวผ่านสถานีวัดพระศรีมหาธาตุ เพื่อเข้า-ออกเมืองได้เลยครับ

ความพิเศษอีกอย่างของถนนเลียบคลองสอง คือ มีร้านอาหารต่าง ๆ กระจายตัวอยู่เยอะมาก  ถือว่าเป็นถนนที่มีความอุดมสมบูรณ์และสะดวกในการใช้ชีวิต   บริเวณฝั่งตรงข้ามกับที่ตั้งโครงการจะเป็นโลตัส เลียบคลองสอง  ซึ่งเป็นโลตัสที่มีลักษณะของ Community Mall รวมอยู่ด้วย  ภายในมีร้านอาหารต่าง ๆ พอสมควร

ใกล้กับโลตัสก็เป็นแม็คโคร  สามารถแวะซื้อของสดต่าง ๆ ไปทำอาหารก่อนกลับบ้านสะดวกดี

ปั๊มน้ำมัน ปตท. ที่อยู่เยื้องกับโครงการ โดยเป็นปั๊มที่ค่อนข้างใหญ่ มีร้านอาหารให้เลือกหลากหลาย เช่น Subway, Texas Chicken, Amazon, วราภรณ์ ซาลาเปา ฯลฯ

ส่วนศูนย์การค้าใหญ่ที่สุดในโซนนี้ก็ต้องยกให้ Fashion Island และ The Promenade ในระยะทางที่ขับรถไปแป๊บเดียว

โรงเรียนสาธิตพัฒนา  เป็นโรงเรียนชื่อดังที่อยู่ใกล้โครงการ  จะเห็นว่าพื้นที่โดยรอบมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันเลย

นอกจากนี้ สำหรับหัวหน้าครอบครัวที่ต้องการพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ หรือเพื่อใช้เจรจาธุรกิจ โครงการนี้ยังใกล้กับสนามกอล์ฟถึง 2 แห่ง ได้แก่ Legacy Golf Club และสนามกอล์ฟปัญญาอินทรา อีกด้วยครับ

The Project

โครงการ เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน พัฒนาโครงการโดย Major Development ด้วยแนวคิดที่ว่า A Retreat For The Soul เป็นบ้านที่เชื่อมธรรมชาติให้เข้ากับวิถีชีวิตของคนเมือง และออกแบบโครงการในสไตล์ European Farmhouse ที่ผสานความอบอุ่นของบ้านแนวยุโรปเข้ากับความร่วมสมัยแบบสังคมเมือง

เรามาเริ่มกันที่หน้าโครงการกันเลยครับ จะเห็นได้ว่าการออกแบบทางเข้าโครงการด้วยหลังคาทรงจั่ว ผสานหลังคาทรงปั้นหยาและ Arch ทรงโค้ง ทำให้โครงการมีเอกลักษณ์แตกต่างจากที่อื่น

ระบบความปลอดภัยของโครงการถือว่าครบครัน โดยสามารถเข้าออกได้ด้วยประตู Double Gate ที่มีทั้งไม้กระดกและประตูเลื่อน มีการแยกระหว่าง Visitor และ Resident ไว้ด้วย พร้อมระบบจดจำป้ายทะเบียนรถ นอกจากนี้ยังมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง และกล้อง CCTV ภายในโครงการอีกด้วย

บริเวณซุ้มทางเข้า ยังเป็นที่ทำการของนิติบุคคลโครงการอีกด้วยครับ

เมื่อผ่านไม้กระดกที่มีเจ้าหน้าที่รปภ. มาแล้ว จะพบกับประตูเลื่อนเหล็กขนาดใหญ่ และกล้องของระบบตรวจสอบป้ายทะเบียนรถเข้า-ออก ให้ความมั่นใจในความปลอดภัยไม่น้อยเลยทีเดียว

นอกจากทางรถแล้ว ทางเดินคนก็เป็นรั้วเหล็กที่แน่นหนาอีกด้วยครับ

เมื่อผ่านประตูทั้งสองเข้ามาแล้วจะพบกับพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ของโครงการครับ

Facilities : พื้นที่ส่วนกลาง

โครงการ Mayfield รามอินทรา-คู้บอน มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ ตั้งอยู่กลางพื้นที่ของโครงการ ซึ่งประกอบด้วย Central Park สวนขนาดใหญ่ และ Club House ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ไม่ว่าจะเป็น Mayfield Lounge ห้องรับรองและ Co-Working Space, Fitness และ Yoga Room รวมถึงสระว่ายน้ำ

Central Park มีลักษณะเป็นสวนสีเขียวขนาดใหญ่พร้อมพื้นที่พักผ่อนและพื้นที่กิจกรรมอยู่หลายจุดเลยครับ เมื่อเดินเข้ามาจากหน้าโครงการ เราจะพบกับ Treehouse Pavillion ทำหน้าที่เป็นที่นั่งกันแดดกันฝน พร้อมกับให้ความสวยงามไปในตัว ข้าง ๆ กันนั้นจะเป็นสนามเด็กเล่น ซึ่งปูพื้นกันลื่นกันกระแทกไว้เรียบร้อยครับ

บริเวณเดียวกันนี้ยังมีที่นั่งสำหรับผู้ปกครองที่มาดูแลบุตรหลาน หรือเป็นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจอย่างเดียวก็ได้ครับ

ภายในสวนยังมีโซนพักผ่อนหย่อนใจมากมาย เราสามารถชมธรรมชาติจากต้นไม้ ไปจนถึงเสียงน้ำไหลจากลำธารที่โครงการได้ออกแบบไว้

ส่วน Club House ของโครงการ มาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครันต่อความต้องการ โดยจะมีทั้งหมด 2 อาคาร และสระว่ายน้ำ ซึ่งอาคารแรกจะมีฟังก์ชันเป็น Fitness Room, Yoga Room และห้องน้ำสำหรับผู้ที่มาใช้ส่วนกลางของโครงการ

สำหรับ Fitness Room เนื่องจากโครงการยังไม่แล้วเสร็จ จึงยังไม่มีเครื่องออกกำลังกายในตอนนี้ แต่เราจะเห็นได้ว่า การออกแบบสเปซของห้องนี้ทำได้น่าสนใจทีเดียว

ด้วยการออกแบบทรงจั่วแบบร่วมสมัย ทำให้เกิดช่องแสงขนาดใหญ่ ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง ไม่อึดอัด

ภายใน Fitness Room จะมีส่วนที่เป็น Glasshouse สามารถเทควิวสวนได้รอบด้าน หากได้ออกกำลังกายตรงนี้คงจะดีไม่น้อยเลยทีเดียว

ข้าง ๆ กันจะเป็นห้อง Yoga Room ซึ่งแน่นอนว่ามีความโปร่ง โล่งสบายไม่แพ้กัน โดยมีกระจกเพื่อจัดท่าทางมาให้เรียบร้อย

ข้างอาคาร Fitness จะเป็นห้องน้ำและสระว่ายน้ำ โดยทางเดินจะมีระแนงให้ร่มเงา ทำให้วันที่มีแดดจัดไม่ร้อนจนเกินไป

สระว่ายน้ำของโครงการมีขนาดใหญ่ โดยสระว่ายน้ำหลักมีขนาด 23 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร สระตื้นลึก 5 ซม. พร้อม Bubble Jets และมีสระ Jacuzzi ขนาด 3.5 x 2.7 เมตร ลึก 90 ซม. สำหรับแช่น้ำพักผ่อนอีกด้วยครับ

ส่วนของสระตื้นจะมี Bubble Jets เป็นน้ำพุขนาดเล็กครับ

ส่วนสุดท้ายเป็นอาคาร Mayfield Lounge ที่ประกอบด้วยห้องรับรองด้านล่าง และ Co-Working Space ด้านบน

บริเวณชั้นล่างของ Mayfield Lounge จะเป็นห้องรับรองที่มีพื้นที่กว้างขวาง สามารถแบ่งได้หลายโซนด้วยกัน

พื้นที่นี้ยังออกแบบให้เป็น Double Space Volume ให้มีความโปร่ง โล่ง สามารถมองขึ้นไปเห็นโคมไฟ และ Co-Working Space ด้านบนได้เลย

ชั้น 2 สามารถขึ้นได้โดยใช้บันได โดยจะมีฟังก์ชันเป็น Co- Working Space และ Meeting Room

เราจะเห็นได้ว่า Co-Working Space เป็นโต๊ะขนาดใหญ่ มีที่นั่งและแสงไฟให้พร้อม โดยมีทีวีสำหรับการจัดประชุมเล็ก ๆ ได้ครับ

สำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัวมากขึ้น ทางโครงการก็มี Meeting Room สำหรับการประชุมที่ต้องการสมาธิมากขึ้น

สเปซระหว่าง 2 ห้องบนยังได้รับแสงธรรมชาติอย่างเพียงพอ และมองเห็นกิจกรรมด้านล่างได้อีกด้วยครับ

HOME TYPE  : แบบบ้าน Mayfield รามอินทรา-คู้บอน

ดีไซน์การออกแบบบ้านในโครงการเป็นบ้านสไตล์ European Farmhouse  ซึ่งบ้านทรง Farmhouse จะเน้นทรงหลังคาจั่วสูง   และโครงการนำการเอาองค์ประกอบตกแต่งเช่น การย่อมุมตามจุดต่าง ๆ ตามแบบบ้านสไตล์ยุโรปมาผสมผสาน  ช่วยให้ดีไซน์ของบ้านมีคาเร็คเตอร์ชัดเจนขึ้น  โดยแบบบ้านในโครงการจะเลือกใช้โทนสีเทาดุละมุนตา  และอยู่ได้นาน  ไม่เบื่อง่ายครับ

แบบบ้านในโครงการจะมีทั้งหมด 3 แบบ

• แบบ ASTERS บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
  • 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน
  • พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม.
• แบบ BLUEBELL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
  • 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน
  • พื้นที่ใช้สอย 264 ตร.ม.
• แบบ CLOVER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
  • 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน
  • พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม.

แบบบ้าน CLOVER

 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์

1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน

พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 59.9 ตร.ว.

หลังแรกที่จะพาไปรีวิวเป็นบ้านเดี่ยวหลังใหญ่สุดของโครงการ เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน ในชื่อว่า CLOVER  โดยเป็นบ้านที่มีจำนวนยูนิตมากที่สุดในโครงการ  รองรับครอบครัวขยายที่อยู่กันหลาย Generation  ภาพรวมของบ้านมีความโฮมมี่และน่าอยู่มาก

ตัวบ้านจัดการฟังก์ชันมาได้อย่างน่าสนใจ  โดยแยกพื้นที่โซนส่วนตัวอย่างห้องนอนชั้นล่างออกจากโซนที่เป็น Common area ของบ้าน  กั้นพื้นที่โดยโถง Foyer

พื้นที่ในส่วน Common area มีขนาดใหญ่  สามารถจัดเฟอร์นิเจอร์และฟังก์ชันใช้สอยต่าง ๆ ได้แบบหลวม ๆ ยืดหยุ่น  โดยพื้นที่ด้านหลังบ้านจะมีห้องครัวและห้องพักแม่บ้านที่อยู่ประจำได้  ไม่รบกวนพื้นที่ของส่วนเจ้าของบ้านครับ

สำหรับชั้น 2 เมื่อขึ้นมาจะพบกับ Family Area ห้องนั่งเล่นอีกห้องสำหรับครอบครัว และแยกออกไปเป็นห้องนอน โดย Master Bedroom จะมีพื้นที่กว้างขวางมาก มีพื้นที่มากพอสำหรับทำส่วนนั่งเล่น, Walk-in closet และมาพร้อมห้องน้ำในตัวที่มีอ่างอาบน้ำแบบลอยตัวมาให้ด้วย  มีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her ทำให้สามารถใช้งานได้พร้อมกัน 2 คน

ส่วนห้องนอนอีก 2 ห้อง ก็จะมีห้องน้ำในตัวทั้งคู่  ทำให้สามารถใช้งานได้สะดวกสบาย  มีพื้นที่ส่วนตัว  โดยห้องนอนด้านหน้าสามารถเชื่อมต่อกับพื้นที่ Family area ผ่านทางระเบียงหน้าบ้านขนาดใหญ่   ถ้าครอบครัวไหนไม่ได้ใช้ห้องนี้เป็นห้องนอน  ก็เหมาะที่จะดัดแปลงใช้เป็นฟังก์ชันภายในบ้านอื่น ๆ เพราะมีพื้นที่ใช้สอยทั้ง Indoor และ Outdoor ครับ

ก่อนที่เราจะเข้าไปในบ้าน เราจะพามาดูภายนอกของบ้านกันก่อนครับ บ้านที่เราพาชมจะกลับข้างซ้าย-ขวาจากแปลน จะเห็นได้ว่าหน้าตาของบ้านในภาพรวมจะรู้สึกสบายตา หลังคาทรงจั่วทำให้บ้านดูเรียบง่าย ไม่น่าเบื่อ บ้านมีหน้าต่างขนาดใหญ่ มีช่องให้แสงเข้ามามาก เราจะเห็นระเบียงขนาดใหญ่ที่ชั้น 2 และหน้าต่างขนาดใหญ่ของ Master Bedroom ได้จากหน้าบ้านเลยครับ

แบบบ้านนี้สามารถจอดรถได้ทั้งหมด 3 คัน โดยโรงจอดรถจะปูพื้นเป็น Stamp Concrete แบบนี้มาให้เลยครับ

สำหรับบ้านแปลงด้านในสุดของโครงการจะได้ขนาดที่ดินเพิ่มขึ้นอย่างบ้านตัวอย่างหลังนี้ ทำให้พื้นที่สวนของบ้านเพิ่มขึ้น โดยทางโครงการให้ไอเดียตกแต่งสวนมาประมาณนี้ครับ

เมื่อเข้ามาข้างในบ้าน เริ่มจากบันไดที่จะมีการกั้นห้องใต้บันไดมาให้ ในบ้านที่ส่งมอบจะเป็นผนังทึบ  แต่บ้านตัวอย่างหลังนี้เสนอไอเดียเราว่าสามารถเป็นห้องเก็บไวน์ได้ และสามารถปรับเปลี่ยนประโยชน์ใช้สอยอื่น ๆ ได้ตามต้องการ เพราะโครงสร้างเป็นอิฐมวลเบา  จึงมีความยืดหยุ่นในการต่อเติมหรือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงสเปซการใช้สอยครับ

บ้านทุกหลังมาพร้อม Digital Door Lock มาให้แล้ว

เมื่อเข้ามาทางห้องขนาดใหญ่ เราจะพบกับห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว โดยเป็นพื้นที่ที่ยืดหยุ่น ทำกิจกรรมภายในครอบครัวได้หลากหลาย

บริเวณครัวสามารถจัดให้มีส่วน Pantry สำหรับจัดเตรียมอาหารได้

ส่วนห้องครัวจริง ๆ จะอยู่ด้านใน สามารถประกอบอาหารได้อย่างเต็มที่เลยครับ

และห้องครัวสามารถเชื่อมต่อไปยังห้องซักล้างและห้องแม่บ้านได้อีกด้วยครับ

จากแปลนจะเห็นว่าชั้น 1 จะมีห้องนอนมาให้ โดยเมื่อเข้าบ้านก็ตรงเข้าห้องนอนได้เลย ห้องนอนด้านล่างยังเหมาะกับผู้สูงอายุ ที่ไม่ต้องการขึ้น-ลงบันไดบ่อย ๆ หรือทำเป้นห้องนอนแขกได้อีกด้วยครับ

ห้องนอนทุกห้องในบ้านจะมีห้องน้ำในตัว ให้ความเป็นส่วนตัวมาก ๆ เลยครับ

โดยห้องน้ำทุกห้องมาพร้อมสุขภัณฑ์ และที่กั้นอาบน้ำมาให้เรียบร้อย ซึ่งสุขภัณฑ์ของบ้านโครงการนี้มาจาก Hafele ครับ

เมื่อขึ้นมาชั้น 2 เราจะเห็น Family Area เป็นอย่างแรก โดยเป็นพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจที่ให้ความเป็นส่วนตัว แถมมีระเบียงที่ออกไปสูดอากาศได้อีกด้วยครับ

จะเห็นได้ว่า ระเบียงของ Family Area สามารถเชื่อมต่อไปยังห้องนอนอีกห้องได้ครับ

สำหรับห้องนี้ เป็นห้องนอนที่มีระเบียงเชื่อมกับ Family Area เป็นห้องนอนที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่ที่สุด แต่สามารถวางเตียง 6 ฟุตได้สบาย และเหลือพื้นที่มากมายสำหรับโต๊ะเครื่องแป้งและทีวี รวมถึงมีห้องน้ำในตัวมาให้ด้วย

สำหรับ Master Bedroom ถือเป็นไฮไลท์ของบ้านหลังนี้เลยก็ว่าได้ เพราะมีขนาดใหญ่ และสามารถจัดพื้นที่ได้หลากหลาย

ส่วนของฝ้าเพดาน จะมีการตีฝ้าแบบปกติเป็นมาตรฐาน แต่ถ้าอยากตกแต่งเพิ่มเติมแบบในบ้านตัวอย่างก็ทำได้   เพราะแบบ Clover วางโครงสร้างหลังคาขึ้นไปเป็นทรงจั่วแบบนี้  สามารถตีฝ้าเป็นแนวเฉียงขึ้นไปตามแนวจันทันได้เลย

จาก Master Bedroom จะมีช่องแสงขนาดใหญ่ ยิ่งรวมกับฝ้าเพดานสูง ให้ความรู้สึกโปร่ง โล่ง เหมาะกับการอยู่อาศัย

หากไม่ได้นอนแล้ว ยังสามารถนั่งชมวิวจากหน้าต่างนี้ได้อีกครับ

เนื่องจาก Master Bedroom มีพื้นที่กว้างมาก จึงสามารถทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้

แน่นอนว่า ห้องนี้มีห้องน้ำในตัว โดยเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่ที่มีอ่างอาบน้ำมาให้ พร้อมอ่างล้างมือ 2 อ่างแยกกันอีกด้วยครับ

โดยทางโครงการก็ให้สุขภัณฑ์จาก Hafele และที่กั้นอาบน้ำมาให้แล้วครับ

ส่วนห้องนอนสุดท้าย มาพร้อมพื้นที่กว้างขวาง เพียงพอต่อการวางเตียง 5-6 ฟุต ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้ง รวมถึงมีห้องน้ำในตัวเช่นกัน เรียกได้ว่า อยู่ห้องไหนก็ได้ความเป็นส่วนตัวเหมือนกันเลยครับ

แบบบ้าน ASTERS

4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน

พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 53.3 ตร.ว.

หลังจากพาชมแบบบ้านหลังใหญ่สุดไปแล้ว ต่อมาจะเป็นบ้านเดี่ยวขนาดเริ่มต้นของโครงการในชื่อว่า ASTERS   แม้จะเป็นบ้านขนาดเริ่มต้น  แต่ด้วยพื้นที่ใช้สอยรวม 231 ตร.ม.  เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวในโครงการทั่วไป  ก็ต้องถือว่าใหญ่มากและใช้สอยได้อย่างพอเพียงครับ 

แบบบ้านนี้จะถูกออกแบบเป็นบ้านหน้ากว้าง  และแบ่งพื้นที่โซนส่วนตัวอย่างห้องนอนชั้นล่างออกจากโซน Common area เช่นกัน  แนวคิดการแบ่งโซนของฟังก์ชันการใช้สอยในบ้านไม่แตกต่างจากแบบบ้านหลังใหญ่ที่พาไปชมกันมาแล้ว  เพียงแต่แบบนี้จะไม่มีห้องแม่บ้าน  และห้องนอนชั้นล่างไม่มีห้องน้ำในตัว  แต่ก็ยังวางตำแหน่งไว้ใกล้กับห้องนอน  เพื่อให้สามารถใช้งานได้สะดวกเวลากลางคืน

ห้องนอนชั้น 2 ทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัวทั้งหมดเลย  สมาชิกแต่ละคนในบ้านก็จะมีพื้นที่ส่วนตัวของตัวเอง  พื้นที่ส่วน Master Bedroom  นั้นกว้างมาก  มีระเบียงส่วนตัวด้านหน้าบ้าน  รวมไปถึงพื้นที่ Walk-in closet ขนาดใหญ่  ที่สามารถแบ่งสเปซทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนส่วนตัวในห้องนอนก็ได้ครับ  ภายในห้องน้ำจะแยกพื้นที่สำหรับโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำออกจากกัน  มีอ่างล้างหน้าแบบ His & Her  เช่นกัน

มาดูกันที่หน้าบ้านกันก่อนครับ

จะเห็นได้ว่า แบบบ้านเล็กสุดยังมีที่จอดรถให้ถึง 3 คัน และปูพื้นโรงจอดรถด้วย Stamp Concrete มาให้เลยครับ

เราสามารถออกมายังสวนนอกบ้านได้ทางประตูเลื่อนจากห้องนั่งเล่นได้ครับ

เมื่อเข้ามาในบ้าน เราจะเห็นบันไดตรงกลาง และด้านซ้าย-ขวาจะเป็นพื้นที่ใช้สอยของชั้นล่าง โดยด้านหนึ่งจะเป็นห้องนอน และอีกด้านจะเป็นโถงขนาดใหญ่ คล้ายแบบบ้านหลังใหญ่สุดนั่นเอง

โถงขนาดใหญ่จะประกอบด้วยห้องนั่งเล่น ห้องรับประทานอาหาร และห้องครัว

ห้องนั่งเล่นมีประตูเลื่อนขนาดใหญ่ แสงลอดผ่านได้เยอะ และสามารถเปิดเข้าไปยังสวนได้ครับ

ห้องรับประทานอาหารมีพื้นที่มากพอสำหรับส่วนของ Pantry ได้เล็กน้อยครับ

แน่นอนบ้านหลังนี้ก็มีห้องนอนชั้นล่างเช่นเดียวกัน แต่ห้องตรงนี้ก็มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน เพราะสามารถทำเป็นห้องทำงานได้อย่างในบ้านตัวอย่างนี้

จุดน่าสังเกตคือห้องนี้จะไม่มีห้องน้ำในตัว แต่ห้องน้ำจะอยู่ใกล้กันเลยครับ

เมื่อขึ้นไปยังชั้นบนจะเป็นโถงบันไดที่แจกจ่ายไปยังห้องนอนต่าง ๆ

สำหรับห้องนอนแรกจะเป็น Master Bedroom มีขนาดกว้างขวางแบบพอดี ๆ สามารถจัดสรรพื้นที่เป็น Walk-In Closet มีที่นั่งสำหรับดูทีวีบริเวณปลายเตียงได้

แน่นอนว่าในห้องมาพร้อมห้องน้ำในตัว แม้ไม่มีอ่างอาบน้ำ แต่มีอ่างล้างหน้าคู่ และแยกฝั่งเปียกฝั่งแห้งได้ชัดเจน

ห้องนอนถัดมาจะเป็นห้องที่ติดกับหน้าบ้าน สามารถรับแสงธรรมชาติจากหน้าบ้านได้เต็มที่ ในบ้านตัวอย่างจะเป็นระแนงบานเฟี้ยมที่เปิดรับแสงได้ตามต้องการ หรือจะติดเป็นผ้าม่านแทนก็ได้ครับ ตัวห้องมีขนาดใหญ่มากพอสำหรับเตียง 5-6 ฟุตได้สบาย

ที่ปลายเตียงก็มีพื้นที่มากพอสำหรับทีวีหรือชั้นวางของเล็ก ๆ ได้อีกครับ

ในห้องนี้ก็มีห้องน้ำในตัวด้วยเช่นกัน มาพร้อมที่กั้นอาบน้ำ และสุขภัณฑ์มาให้เรียบร้อยครับ

ห้องนอนสุดท้ายในบ้านหลังนี้แน่นอนว่ามีพื้นที่กว้างขวางและมีห้องน้ำในตัว แต่หากเป็นครอบครัวเล็กที่มีสมาชิกประมาณ 2-3 คน ก็สามารถปรับเปลี่ยนให้เป็นห้องทำงานหรือห้องนั่งเล่นได้

แบบบ้าน BLUEBELL

4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์

1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน

พื้นที่ใช้สอย 264 ตร.ม. ที่ดินเริ่มต้น 53.3 ตร.ว

สำหรับบ้านหลังสุดท้ายของโครงการ เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน จะเป็นบ้านขนาดกลางที่ชื่อว่า BLUEBELL

เมื่อเข้ามาภายในบ้านจะพบกันโถง Foyer ขนาดใหญ่  พื้นที่ในส่วนห้องนอนชั้นล่างจะถูกจัดไว้บริเวณด้านหลังบ้าน  แต่ก็ยังเป็นสัดส่วน  มีห้องแม่บ้านที่เชื่อมต่อกับส่วนห้องครัวและส่วนซักล้างครับ

พื้นที่ในส่วนชั้น 2 จะมี Family area และห้องนอน 3 ห้อง ที่มีห้องน้ำในตัวทั้งหมดเลย  โดยตำแหน่งของห้อง Master Bedroom จะอยู่ติดกับส่วน Family area  ทำให้ถ้าหากใครอยากจะ combined ห้องรวมกันเป็นห้องใหญ่ไปเลยก็สามารถทำได้  เพราะผนังก่อในบ้านเป็นอิฐมวลเบานั่นเองครับ

ภายนอกของบ้านโดยรวมแล้วมีดีไซน์คล้ายกับบ้านหลังก่อน แต่จะมีจุดสังเกตตรงชั้น 2 คือ ระเบียงที่มีระแนงสีเทา พื้นที่ตรงนี้สามารถกรองแสงได้ระดับหนึ่ง และให้ความร่มรื่นเมื่อออกมาสูดอากาศข้างนอกอีกด้วยครับ

เมื่อเดินเข้ามาในบ้าน เราจะเห็นว่าทางซ้ายจะเป็นบันได ตรงกลางจะเป็นห้องครัว และด้านขวาจะเป็นห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นครับ

ซ้ายมือของเราจะเป็นโถงบันไดพร้อมกั้นห้องใต้บันไดมาให้แล้ว สามารถทำเป็นห้องเก็บของหรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ได้ตามสะดวก โดยในบ้านตัวอย่างจะทำเป็นห้องน้ำมาให้ดูครับ

ถัดมาจะเป็นห้องครัวของบ้าน พื้นที่นี้มีความกว้างขวาง สามารถประกอบอาหารได้หลากหลาย

และห้องนี้สามารถเปิดประตูไปยังห้องซักล้าง และห้องแม่บ้านได้ เหมือนกับบ้านแบบแรก

โถงขนาดใหญ่ของบ้านสามารถทำเป็นห้องนั่งเล่น และห้องรับประทานอาหารได้ โดยมีช่องแสงขนาดใหญ่ ให้ความโปร่ง โล่งสบาย เหมาะกับการเป็นพื้นที่สำหรับครอบครัว

ที่ชั้น 1 ของบ้านก็มีห้องนอนเช่นกัน มาพร้อมห้องน้ำในตัว แต่ในบ้านตัวอย่างให้ไอเดียว่า สามารถทำเป็นห้องทำงานส่วนตัวได้ด้วยครับ

ห้องน้ำในบ้านหลังนี้ ทางโครงการก็ให้สุขภัณฑ์ และที่กั้นอาบน้ำมาให้ครบครันเลยครับ

เมื่อขึ้นมาที่ชั้น 2 เราจะเห็น Family Area ห้องนั่งเล่นอีกที่ของบ้าน ตรงนี้จะมีหน้าต่างที่ให้ช่องแสงขนาดใหญ่ สามารถเปิดออกไปเดินที่ระเบียงได้ โดยระเบียงจะเชื่อมกับ Master Bedroom อีกด้วยครับ

เมื่อเปิดไปยังระเบียงของห้องนี้ จะเห็นว่าเราสามารถเชื่อมต่อกับ Master Bedroom ได้ โดยระเบียงจะมีราวกั้นและระแนงเหนือหัวที่มีดีไซน์เดียวกัน ดูเรียบง่าย แถมยังช่วยกรองแสงแดดได้ด้วยครับ

ประตูระเบียงของ Family Room จะเป็นประตูเปิดออกในลักษณะนี้ครับ

ก่อนที่จะไปยัง Master Bedroom จะต้องผ่านโถงทางเดินในลักษณะนี้ครับ

มาที่ Master Bedroom กันครับ จะเห็นว่าพื้นที่ห้องนอนหลักของบ้านจะไม่ใช่แนวยาวแบบบ้านหลังก่อน แต่ก็สามารถจัดสรรพื้นที่ได้ดี โดยในบ้านตัวอย่างจะมี Walk-In Closet มาให้ดูเลยครับ

ตัวห้องนอนหลักมีพื้นที่กว้างขวาง และมีช่องแสงเยอะ ทำให้ห้องนี้ดูไม่อึดอัดครับ

แน่นอนว่า Master Bedroom ของบ้านหลังนี้ต้องมีห้องน้ำในตัว ในบ้านตัวอย่างจะกั้นห้องน้ำบางส่วนด้วยกระจก แต่ในบ้านจริงจะเป็นผนังอิฐมวลเบาครับ โดยห้องน้ำก็มีพื้นที่ใหญ่พอสำหรับอ่างอาบน้ำด้วยครับ

โดยห้องน้ำในบ้านทั้งหมด ทางโครงการก็ให้สุขภัณฑ์มาให้เรียบร้อยครับ

หากเปลี่ยนผนังทึบให้เป็นกระจกแบบในบ้านตัวอย่าง จะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นไม่น้อยเลยครับ

จากมุมนี้ของห้องนอน จะเห็นว่ามีประตูที่เชื่อมต่อไปยังระเบียงและ Family Area ได้ครับ

ห้องนอนถัดมามีพื้นที่กว้างขวาง เพียงพอต่อการวางเตียงขนาด 5-6 ฟุต พร้อมวางโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้า และทีวีได้สบาย

แน่นอนว่าห้องนอนนี้ก็มีห้องน้ำในตัว โดยมาพร้อมสุขภัณฑ์และที่กั้นมาให้เลยครับ

ส่วนห้องนอนสุดท้ายในบ้านนี้ก็มีขนาดเพียงพอสำหรับวางเตียง 5-6 ฟุตเช่นกัน แถมยังมีห้องน้ำในตัว เรียกได้ว่าแบบบ้านนี้ นอนห้องไหนก็สะดวกสบายเหมือนกัน

ราคา เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน (Mayfield Ramindra-Khubon)

โครงการ เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน ส่งมอบเป็นบ้านเปล่า ก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา ในราคาเริ่มต้น 13 – 20 ล้านบาท*

โดยบ้านที่เราพาไปดูครั้งนี้คือ 

• แบบ ASTER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ ที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ใช้สอย 231 ตร.ม.
• แบบ BLUEBELL บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ใช้สอย 264 ตร.ม.
• แบบ CLOVER บ้านเดี่ยว 2 ชั้น 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องแม่บ้าน ที่จอดรถ 3 คัน พื้นที่ใช้สอย 308 ตร.ม.

* หมายเหตุ  รายละเอียดราคา เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานเก็บรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความเท่านั้น  โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้  รายละเอียดและโปรโมชั่นต่างๆ  กรุณาสอบถามโดยตรงจากทางโครงการอีกครั้ง

Summary

.

ภาพรวมโครงการ

• Mayfield รามอินทรา-คู้บอน อยู่บนพื้นที่โซนรามอินทรา-คู้บอน  สามารถเข้าออกได้หลายเส้นทาง ทั้งจากฝั่งถนนคู้บอน และถนนหทัยราษฎร์
• โครงการออกแบบด้วยแนวคิด European Farmhouse ผสานความอบอุ่นของบ้านแนวยุโรปเข้ากับสังคมเมือง  ด้วยรูปแบบบ้านที่มีคาเร็คเตอร์ชัดเจน  เป็นเอกลักษณ์
• ทั้งโครงการมีจำนวน 167 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ 40 ไร่ 
• โครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เป็นบ้านหลังคาทรงจั่ว บนขนาดที่ดินตั้งแต่ 53.3-95.8 ตร.ว. 
• มีแบบบ้านทั้งหมด 3 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเริ่มที่ 231-308 ตร.ม. 
• พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่กว่า 2 ไร่ ประกอบด้วย Central Park สวนสีเขียวขนาดใหญ่ที่มีโซนนั่งพักผ่อนที่หลากหลาย, Club House ที่มี Fitness Room วิวสวน และ Yoga Room, Mayfield Lounge ห้องรับรองที่มี Co-Working Space ด้านบน รวมถึงสระว่ายน้ำขนาดมาตรฐาน พร้อมสระตื้นและโซน Jacuzzi 
• ฟังก์ชันของบ้านจัดสรรเป็นสัดส่วน ห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำของตัวเอง
• บ้านก่อสร้างด้วยอิฐมวลเบา มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนฟังก์ชันของบ้าน

ทำเล / การเดินทาง

• โครงการ เมย์ฟิลด์ รามอินทรา-คู้บอน ตั้งอยู่ที่ถนนเลียบคลองสอง แขวงบางชัน เขตคลองสามวา กรุงเทพฯ 
• โครงการนี้มีทำเลในการเข้า-ออกได้หลายทาง ทั้งจากฝั่งถนนคู้บอน ถนนวงแหวนกาญจนาภิเษก และถนนหทัยราษฎร์ 
• อยู่ติดถนนใหญ่ขนาด 6 เลน ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย และเชื่อมต่อไปยังถนนสายสำคัญอย่าง ถนนรามอินทรา ถนนหทัยราษฎร์ รวมถึงวงแหวนกาญจนาภิเษกและทางด่วนฉลองรัชอีกด้วย
• ห่างจากรถไฟฟ้าสายสีชมพูสถานีคู้บอน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 10 นาที
• ล้อมรอบไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่หลากหลาย เช่น Fashion Island, Promenade, Lotus’s เลียบคลองสอง, Makro เลียบคลองสอง, JAS Green Village รวมถึง Safari World และไปยัง สวนสยาม ได้อีกด้วย
• ใกล้สถานศึกษาอย่าง รร.สาธิตพัฒนา, รร.โชคชัย หทัยราษฎร์, RIS Early Years Campus 

เหมาะกับใคร?

• เหมาะกับคนที่คุ้นชินกับพื้นที่โซนรามอินทรา วัชรพล ถนนคู้บอน  และโซนใกล้กับ Fashion Island เดินทางด้วยถนนวงแหวนกาญจนาภิเษกบ่อย ๆ
• คนที่ชอบบ้านมีพื้นที่กว้าง  หลังใหญ่  สามารถเลือกจัดสรรพื้นที่และฟังก์ชันต่าง ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น
• คนที่ชอบดีไซน์บ้านหรูที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่ซ้ำใคร
• คนที่ทำงานในเมือง เช่น ลาดพร้าว เกษตร-นวมินทร์ เลียบทางด่วนรามอินทรา แต่ต้องการบ้านหลังใหญ่  และเดินทางเข้า-ออกเมืองได้สะดวก
• เหมาะกับคู่รัก ไปจนถึงครอบครัว ที่ต้องการบ้านที่ให้คุณภาพชีวิตและพื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้น
• สำหรับคนที่มีงบประมาณในการซื้อบ้านเริ่มตั้งแต่ 13 ล้านบาท ขึ้นไป