สวัสดีค่ะ  รีวิวนี้พามาชมคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68 เป็นคอนโด Low-rise 8 ชั้น ตั้งอยู่ในซอยเพชรเกษม 68 โดยที่บนถนนเพชรเกษมนั้นก็กำลังจะมีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินวิ่งผ่านในอีกไม่นานนี้  ซึ่งตอนนี้ก็เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้วค่ะ โครงการ เดอะ วีว่า คอนโด เพชรเกษม 68 นั้น เป็นโครงการที่สร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ได้เลย ราคาเริ่มต้นตอนนี้อยู่ที่ 1.59 ล้านบาทค่ะ วันนี้อยู่สบายแวะเข้าไปเก็บรีวิวมาให้ชมกันอย่างละเอียดเพื่อประกอบการตัดสินใจอีกเช่นเคยค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันค่ะ

The VIVA Condo Petchkasem 68

(เดอะ วีว่า คอนโด เพชรเกษม 68)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท ทรัพย์ในดินสินในน้ำนำโชค จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยเพชรเกษม 68
• ขนาดที่ดิน >>>  1-2-91.8 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร
• ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน  /  2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 27.5 – 34.7 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 47.2 – 47.4 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  222  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 47% รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.59 ล้านบาท (แบบ 1 ห้องนอน ณ วันที่ 15/7/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ  57,000-58,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.712072, 100.416630
• เว็บไซต์โครงการ  http://www.thevivacondo.com/
• โทร  02 454-2588-9

ซอยเพชรเกษม 68 อยู่บนถนนเพชรเกษม อยู่ระหว่างถนนพุทธมนฑลสาย1 กับถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตกค่ะ ซึ่งตัวที่ตั้งโครงการจะมีทางเข้าออกทั้งด้านที่ติดกับถนนเพชรเกษม แต่เป็นทางคนเดิน ส่วนทางเข้าออกด้วยรถยนต์ต้องเข้าไปภายในซอยเพชรเกษม 68 ประมาณ 50 เมตรค่ะ จุดสังเกตง่ายๆคืออยู่ใกล้กับโลตัส บางแค เลยค่ะ

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราใช้เส้นทางจากถนนราชพฤกษ์ค่ะ  เลี้ยวเข้าถนนเพชรเกษมตรงช่วงสถานี BTS บางหว้าค่ะ ตัวโครงการจะอยู่ทางขวามือในซอยเพชรเกษม 68 ใกล้ๆกับโลตัส บางแคเลย  เจอโลตัสแล้วตรงไปไม่ไกลจะมีที่กลับรถอยู่ค่ะ  พอกลับรถมาแล้วก็ชิดซ้ายเลย แล้วเลี้ยวเข้าซอยเพชรเกษม 68 โครงการจะอยู่เข้าไปในซอยเพียงแค่ประมาณ 50 เมตรเท่านั้น

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ดูแผนที่ในภาพรวมกันก่อนค่ะ ตั้งอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 68 ซึ่งทางเข้าโครงการด้วยรถยนต์นั้นจะห่างจากหน้าปากซอยเพียงแค่ 50 เมตร แและมีทางเดินเข้าออกที่ออกไปถนนเพชรเกษมได้เลยโดยที่ไม่ต้องเข้าซอย ซอยเพชรเกษม 68 จะอยู่ระหว่างถนนพุทธมณฑลสาย1 กับถนนกาญจนาภิเษกฝั่งตะวันตกค่ะ จะไปราชพฤกษ์ก็ไม่ไกล หรือถัดไปอีกนิดก็สามารถข้ามสะพานตากสิน ออกไปสาทรได้ค่ะ จุดเด่นของถนนเพชรเกษมก็จะหนีไม่พ้นการก่อสร้าง รถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วง หัวลำโพง – บางแค ด้วยค่ะ ซึ่งตอนนีก็เป็นรูปเป็นร่างแล้ว แน่นอนว่าตอนนี้รถก็จะติดกันหน่อย แต่พอรถไฟฟ้าเสร็จแล้วก็น่าจะสบายขึ้นมากค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวกและสถานที่สำคัญโดยรอบมี โลตัส บางแค ที่อยู่ใกล้โครงการมากๆ เดินไปได้ค่ะ เลยจากโลตัสมาหน่อย ก็เป็นตลาดบางแค ติดกับตลาดเลยเป็นสถานีรถไฟฟ้า MRT บางแค ซึ่งก็เป็นสถานีที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ห่างจากโครงการประมาณ 500 เมตร ตอนนี้กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างและเห็นเป็นตัวสถานีขึ้นมาแล้วค่ะ  ตามข้อมูลนั้นรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงิน (หัวลำโพง – บางแค) จะแล้วเสร็จประมาณปี 61 นอกจากนี้ก็มีโรงพยาบาลเพชรเกษม 2 ถัดไปหน่อยเป็นห้างซีคอน บางแค ซึ่งตรงซีคอนนั้นจะติดกับตัวสถานี MRTภาษีเจริญค่ะ กลับมาฝั่งที่จะไปถนนกาญจนาภิเษกและถนนบางแค  ตรงบริเวณแยกตัดกับเส้นกาญจนาภิเษก ก็มีเดอะมอลล์ บางแค อยู่ติดกับรถไฟฟ้า MRT สถานีหลักสองเลยค่ะ

ดูภาพกว้างๆแล้วก็มาดูพื้นที่รอบๆโครงการกัน บริเวณรอบๆโครงการติดกับตึกแถว (หมายเลข1) เกือบทั้งหมดเลยค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นร้านค้าต่างๆ ยกเว้นด้านทางทิศเหนือที่จะเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 3 ชั้น (หมายเลข 3) ออกไปหน้าปากซอยตึกแถวหัวมุมจะมี Family Mart ติดกันเป็น 7-11 (หมายเลข 2) ส่วนอีกฝั่งของซอยเพชรเกษม 68 จะเป็น ธนาคารไทยพาณิชย์ (หมายเลข 4) ด้านหลังธนาคารจะเป็นที่จอดรถ ถัดจากธนาคารไปจะเป็นเต็นท์ร้านอาหารและเต็นท์ขายรถมือสอง (หมายเลข 5)

มาฝั่งตรงข้ามกับซอยเพชรเกษม 68 จะมีทั้งโรงงานนันยาง(หมายเลข8), สถานีดับเพลิง บางแค (หมายเลข 7) และ ศูนย์บริการลูกค้าทีโอที (หมายเลข8) เลยมาหน่อยก็ยังมีเต็นท์ร้านอาหาร (หมายเลข 9) มีให้เลือกทานค่อนข้างหลากหลายค่ะ

กลับมาที่ฝั่งเดียวกับโครงการด้านที่จะไปพุทธมณฑลสาย 1 ติดกับที่ตั้งโครงการจะมีป้ายรถเมล์ (หมายเลข10)  แต่รถเมล์และรถสองแถวเวลาจอดจริงๆ ก็มักจะจอดกันก่อนถึงป้ายนิดหน่อย เพราะมีเซเว่นอยู่  คนยื่นกันเยอะ  ซึ่งก็เป็นตรงจุดที่ใกล้กับทางเข้าออกโครงการพอดี  ตัวป้ายรถเมล์อยู่ปากซอยโรงเรียนภาษานุสรณ์ ซึ่งภายในซอยนี้จะมีโรงเรียนภาษานุสรณ์บางแค และ โรงเรียนพณิชยการภาษาณุสรณ์บางแค (หมายเลข 11) เลยซอยโรงเรียนไปจะเจอมีสะพานข้ามคลองยายเทียม เดินมาไม่ไกลเป็น โลตัส บางแค (หมายเลข 12) อยู่ห่างจากทางเข้าออกโครงการที่เป็นทางเดินคน ประมาณ 180 เมตรค่ะ สามารถเดินไปได้สบายๆ แต่ถ้าจะไปซื้อของใช้เข้าบ้านเยอะๆ ใช้รถน่าจะสะดวกกว่าค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าคอนโดค่ะ

ตึกแถวที่ติดกับโครงการจากด้านหน้าทางเข้าค่ะ ริมสุดจะเป็นร้านขายของชำด้วย

ตึกแถวนี้พอมองจากด้านในโครงการจะเห็นสีส้มสดมาก  แต่ก็ไปทำอะไรเค้าไม่ได้

ด้านข้างโครงการฝั่งที่อยู่ในซอยจะมีพื้นที่โล่ง และอพาร์ทเม้นท์สูง 3 ชั้น

โรงเรียนภาษาอนุสรณ์บางแค และ โรงเรียนพาณิชย์ภาษานุสรณ์บางแค

ตึกแถวด้านข้างโครงการฝั่งที่ติดกับถนนเพชรเกษม

อีกด้านก็ติดกับตึกแถวเช่นกันค่ะ

ออกมาหน้าโครงการในซอยเพชรเกษม 68 จะไม่มีฟุตบาทค่ะ ถ้าจะเดินเข้าซอยต้องเดินเลียบถนนหรือไม่ก็ขึ้นมาเดินด้านหน้าตึกแถวแทน

ภายในซอยเพชรเกษม 68 ค่ะ ซอยค่อนข้างลึก สามารถทะลุออกไปพุทธมณฑลสาย 1 ได้  แต่โครงการอยู่ช่วงต้นซอยเลย

ส่วนตึกแถวอีกด้านจะเป็นที่ตั้งของสำนักงานขายค่ะ อยู่หน้าโครงการเลย

ฝั่งตรงข้ามภายในซอยเพชรเกษม 68 จะรถเข็นขายอาหารวางตั้งอยู่

ส่วนหลังรั้วที่ติดกับรถเข็นจะเป็นลานจอดรถของธนาคาร

ร้านค้าและบ้านพักอาศัยภายในซอยเพชรเกษม 68  อยู่กันมานานแล้ว สภาพดีบ้าง แย่บ้างปนๆกันไป

ภายในซอยส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย แต่จะมีอพาร์ทเม้นท์ขึ้นอยู่บ้าง

ถนนภายในซอยเพชรเกษม 68 ค่ะ ไม่มีฟุตบาท ดูเป็นทางรถวิ่งผ่านอย่างเดียวมากกว่า

เนื่องจากซอยเพชรเกษม 68 ค่อนข้างที่จะลึก ทำให้วินมอไซต์หน้าปากซอยเลยมีเยอะตามไปด้วยค่ะ

ธนาคารไทยพาณิชย์ปากซอยเพชรเกษม 68

ติดกับเป็นเต็นท์ร้านอาหารรถเข็น  มีเจียง ลูกชิ้นปลาอยู่ด้วย

เต็นท์ถัดไปเป็นเต็นท์รถมือสอง

สถานีดับเพลิง บางแค

บรรยากาศติดถนนเพชรเกษมบริเวณหน้าปากซอยเพชรเกษม 68 ฝั่งธนาคารไทยพาณิชย์ค่ะ

Family Mart หน้าปากซอยเช่นกัน

ส่วนเซเว่นนั้นจะอยู่ติดกับประตูเข้าออกโครงการเป็นที่ทางคนเดินค่ะ อยู่ไม่ไกลจากแฟมิลี่ เลือกเข้าได้ตามสบายเลย

ฟุตบาทหน้าปากซอยติดถนนเพชรเกษมบริเวณตึกแถวที่ติดกับโครงการ จะมีร้านค้าที่ขายของข้างทางอยู่ตลอดแนว

ร้านค้าที่อยู่ติดกับโครงการเช่นกัน ซึ่งทางโครงการจะมีทางออกสำหรับคนเดินเข้าออกด้านข้างโดยใช้ระบบคีย์การ์ด ที่ออกมาแล้วเจอถนนเพชรเกษมค่ะ สะพานลอยอยู่ติดกับทางออกนั้นเลยค่ะ

ร้านค้าฝั่งที่จะเดินไปโลตัสค่ะ

ป้ายรถประจำทางก็อยู่ไม่ไกลค่ะ

นอกจากรถประจำทาง ยังมีรถสองแถววิ่งผ่านตลอดด้วยค่ะ

ซอย โรงเรียนภาษานุสรณ์

โลตัส บางแคค่ะ อยู่ไม่ไกล เดินไปได้สบาย แต่ถ้าจะซื้อของเข้าห้องเยอะๆ ขับรถไปอาจจะดีกว่านะคะ

ตลาดบางแคก็อยู่ไม่ไกลค่ะ

โรงพยาบาลเพชรเกษม 2

ห้างซีคอน บางแค เป็นอีกศูนย์การค้าบนถนนเพชรเกษมช่วงนี้

เดอะมอลล์บางแค  ศูนย์การค้าเก่าแก่ของย่านนี้

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้ามาที่สำนักงานขายและตัวคอนโดเลยค่ะ

เริ่มจากสำนักงานขายที่เป็นตึกแถวติดกับตัวที่ดินของโครงการเลยค่ะ

มองออกไปจะเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และถนนเพชรเกษม ส่วนทางเข้าด้านข้างตึกแถวนั้นเป็นทางเข้าออกด้วยรถยนต์ภายในโครงการค่ะ

เข้ามาดูที่ตัวโครงการจริงกันเลยดีกว่า ตอนนี้โครงการสร้างเสร็จเรียบร้อย พร้อมเข้าอยู่ได้เลยค่ะ

เข้าออกด้วยระบบคีย์การ์ดค่ะ ส่วนป้อมยามจะซ่อนอยู่ใต้อาคาร

ตัวอาคารสูง 8 ชั้น โทนสีของอาคารเทา-น้ำตาล-ขาว แปลนอาคารเป็นรูปตัวยู

ส่วนตรงกลางที่โอบล้อมอยู่นั้นเป็นสระว่ายน้ำค่ะ

พื้นที่จอดรถใต้อาคาร

ทางเข้าออกอาคาร ด้านบนมีงานระบบพวกท่อต่างๆดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่

แต่พอเข้ามาภายในตัวอาคาร ตรงนี้ต้องชมว่าหรูมาก เมื่อเทียบกับล็อบบี้คอนโดในระดับราคาเดียวกัน  ถ้าจะขึ้นชั้นบนต้องมีคีย์การ์ดถึงจะเข้าด้านในได้ค่ะ (มีประตูซ้อนอีกชั้น)

โถงลิฟต์ชั้น 1 ตกแต่งหรูหราหินอ่อน ดูเป็นโรงแรมมากกว่าคอนโดที่ระดับราคาประมาณนี้ค่ะ

ทางเข้าออกจะเชื่อมต่อกับอีกด้านนึงของอาคาร

ถ้าจอดรถอีกด้านก็สามารถเข้าอาคารได้จากประตูนี้ค่ะ เป็นประตูที่เชื่อมระหว่างที่จอดรถทั้งสองฝั่ง

แต่ก่อนจะไปดูรายละเอียดอื่นกันต่อ  ลองไปแวะดูทางเข้าออกของคอนโด ที่เดินเข้าจากทางที่ติดกับถนนเพชรเกษมก่อนค่ะ

ใช้ระบบคีย์การ์ดเช่นเดียวกับทางเข้าออกรถ

เปิดประตูเข้ามาด้านในจากฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่ค่ะ

อีกมุมจากด้านในของทางเดินเข้าออกโครงการไปถนนใหญ่ สะดวกกว่าออกไปตรงซอยเพชรเกษม 68 เยอะเลยค่ะ  พอออกไปปุ๊ปก็มีสะพานลอยข้ามไปฝั่งเพชรเกษมขาออกเลย  ถ้าจะไปเดอะมอลล์ ก็ต้องข้ามสะพานลอยไปขึ้นรถอีกฝั่ง

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการนั้นอยู่ภายในซอยเพชรเกษม 68 แต่ก็มีบางส่วนของที่ดินที่จะติดกับฝั่งถนนเพชรเกษม ซึ่งจะใช้เป็นทางเดินเข้าออกโครงการ ส่วนด้านที่ติดกับซอยเพชรเกษม 68 นั้นจะใช้เป็นทางรถเข้าออกค่ะ บริเวณรอบๆโครงการจะล้อมรอบไปด้วยตึกแถวสูง 4 ชั้น เกือบทุกด้านค่ะ เช่นเดียวกับสำนักงานขายก็จะอยู่ภายในตึกแถวด้านหน้าติดกับทางเข้าออกโครงการเลยค่ะ และก็จะมีแค่ฝั่งทางทิศเหนือที่อยู่เข้าไปในซอยเพชรเกม 68 ทีจะติดกับพื้นที่โล่ง และอพาร์ทเม้นท์สูง 3 ชั้น นอกนั้นบริเวณรอบๆก็จะเป็นที่อยู่อาศัย และอาคารที่สูงไม่เกิน 5 ชั้นเท่านั้น

ส่วนบริเวณรอบๆที่เป็นตึกแถวติดกับถนนใหญ่จะมีร้านค้า และร้านสะดวกซื้ออยู่ นอกจากนี้แล้วทางเดินเข้าออกที่อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม ออกมาก็จะเจอกับสะพานลอย และพอเดินออกไปฝั่งที่จะไปถนนราชพฤกษ์ก็จะมีป้ายรถประจำทางอยู่ไม่ไกลค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดนั้นเป็นรูปตัว U โอบล้อมสระว่ายน้ำส่วนกลางชั้นล่างไว้ ห้องนั้นจะแบ่งออกเป็นห้องที่หันเข้าด้านในและห้องหันออกด้านนอกโครงการ ส่วนใหญ่แล้วจะหันออกไปทางทิศเหนือ ใต้ และทิศตะวันออกเป็นหลัก จะมีเพียงบางห้องที่หันไปทางทิศตะวันตก วิวส่วนใหญ่ถ้าเป็นด้านที่หันออกไปทางด้านนอกโครงการจะเจอกับตึกแถวสูงประมาณ 4 ชั้น ซึ่งจะโดนบีบเรื่องวิวเป็นธรรมดา  แต่ก็จะไม่ร้อนเพราะมีตึกช่วยบังแดดไว้ได้บ้าง  ส่วนด้านนอกตั้งแต่ชั้น 5 ขึ้นไป วิวจะได้โล่งๆกว่า และแดดก็จะเข้ามามากกว่าค่ะ  ส่วนฝั่งทางทิศเหนือที่วิวจะได้โล่งๆมากกว่าด้านอื่นๆ  ในขณะที่ทิศใต้ร้อนหน่อยแต่ได้วิวตามแนวรถไฟฟ้า

เอาวิวจากชั้น 8 มาฝากกันค่ะ ด้านนี้จะเป็นฝั่งทิศตะวันออก เจอโลตัสเต็มๆเลยค่ะ

ฝั่งทิศใต้จะหันออกไปถนนเพชรเกษมและแนวรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน มองไปจะเห็นโรงงานนันยาง, ศูนย์บริการลูกค้าทีโอที และ สถานีดับเพลิง บางแค เรียงกันเลยค่ะ

ด้านทิศตะวันตกค่ะ มองไปจะเห็นเดอะมอลล์ บางแคอยู่ไกลๆ

ส่องโมเดล

มาดูตัวโมเดลภาพรวมของอาคารกันเพื่อจะได้เห็นภาพชัดมากขึ้น เนื่องจากโครงการจริงรอบๆข้างจะมีตึกแถวสูงประมาณ 4 ชั้นบังอยู่ค่ะ

ด้านทิศใต้และทิศตะวันออกที่จะมีพื้นที่ดินบางส่วนติดกับถนนเพชรเกษม

จากฝั่งซอยเพชรเกษม 68 ค่ะ อาคารเป็นรูปตัว U ชั้นล่างมีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง

ด้านทิศเหนือ ด้านนี้วิวจะโล่งกว่ามุมอื่น คือเป็นพื้นที่บ้านพักอาศัยภายในซอยเพชรเกษม 68 ค่ะ

ด้านทิศตะวันออกค่ะ ฝั่งที่มองไปแล้วเห็นโรงเรียนเป็นอาคารสูง 5 ชั้น

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางที่ได้มามีสระว่ายน้ำระบบเกลือที่ชั้น 1 แล้วก็มีฟิตเนส ที่ชั้น 2 และสวนที่ชั้น 1 และชั้น 8 ค่ะ ส่วนที่จอดรถจะอยู่บริเวณชั้น 1 รอบๆอาคารค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 2 ตัวกับ 222 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 111 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าออกมาโอเคอยู่  ที่จอดรถ 47% นับรวมจอดซ้อนคันแล้ว ถ้าเทียบกับระดับราคาขายแล้วก็อยู่ในระดับที่โอเคค่ะ จากรูปหน้าตา Facilities ที่ออกมาก็ดูเรียบๆเน้นที่การใช้งาน  ยกเว้นทางเดินเข้าคอนโดที่ชั้นล่าง(เดินไปสระว่ายน้ำ) ที่ดูหรูดีค่ะ

เริ่มจากที่ชั้น 1 บริเวณทางเดินไปสระว่ายน้ำทางด้านซ้ายมือ

ฝั่งตรงข้ามกับสระว่ายน้ำจะเป็นตู้จดหมายค่ะ

ส่วนอีกด้านเปิดประตูออกไปก็เจอสระว่ายน้ำ

ห้องที่หันเข้าด้านในโครงการจะแอบได้วิวสระว่ายน้ำเล็กๆ

สระว่ายน้ำอีกมุมค่ะ ทางโครงการปลูกต้นไม้บังตัวพื้นที่สระว่ายน้ำไว้ค่อนข้างสูง

พื้นที่นั่งเล่นริมสระ

พื้นที่ล้างตัวค่ะ

ด้านข้างจะเป็นทางเดินเชื่อมต่อระหว่างที่จอดรถสองฝั่งค่ะ ด้านนี้อาจจะปลูกต้นไม้เตี้ยลงกว่าด้านที่มองมาจากด้านอก

มุมสระว่ายน้ำจากด้านนอก ปลูกต้นไม้บังสายตาได้ดีทีเดียวค่ะ

กลับมาดูภายในอาคารกันค่ะ โถงลิฟต์ตกแต่งด้วนหินอ่อน ดูหรูหราคล้ายอยู่โรงแรมเลยค่ะ

ตัวลิฟต์ใช้ของ Schindler

ขึ้นมาที่ชั้น 2 หน้าลิฟต์เลยค่ะ เป็นห้องฟิตเนส

บรรยากาศภายในห้องฟิตเนส ตกแต่งด้วยลายไม้ ดูอบอุ่น ซึ่งค่อนข้างจะแตกต่างกับการตกแต่งพื้นที่ชั้นล่างที่ดูหรูหรา

ภายในฟิตเนสมีห้องน้ำด้วยค่ะ

ฟิตเนสอีกรูป ค่อนข้างกว้างขวางดี

อีกมุมจะหันออกไปเจอวิวสะว่ายน้ำค่ะ (ไม่น่ามีตึกสีส้มนั่นเลยจริงๆ – -“)

ชั้นมาที่ชั้น 8 เป็นสวนหย่อม ปูหญ้าเทียม ไว้ยืนชมวิวฝั่งที่ติดกับถนนเพชรเกษม

วิวของสวนชั้น 8 ด้านทิศใต้ค่ะ

ส่วนด้านในจะมีสวนอีกที่นึง สามารถมานั่งเล่นได้  ปูหญ้าเทียมเหมือนกันค่ะ

โดยที่สวนตรงนี้ด้านล่างจะเป็นช่องแสงโล่งๆ ไม่ได้เป็นพื้นที่ห้องพักค่ะ

สระว่ายน้ำจากมุมสูงค่ะ

นอกจากนี้ยังมีพื้นที่นั่งเล่นอีกที่หนึ่งอยู่ระหว่างตึกแถว เช่นเดียวกันทางเดินเข้าออกโครงการ แต่ฝั่งนี้จะเข้าออกไม่ได้นะคะ ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนเฉยๆ  ถ้าโครงการไปเจรจาขอทาสีผนังด้านข้างของตึกแถวก็น่าจะช่วยให้พื้นที่นี้น่านั่งมากยิ่งขึ้น  รวมทั้งแอบอยากให้รั้วต้นไม้ที่ทึบกว่านี้หน่อย เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้นค่ะ เพราะด้านนี้จะติดกับถนนใหญ่ คนค่อนข้างพลุกพล่าน

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68 ชั้น 1

เริ่มที่ชั้น 1 กัน  ทางเข้าโครงการจะมีด้วยกัน 2 ทางค่ะ เป็นทางที่รถเข้าซึ่งจะเข้าจากซอยเพชรเกษม 68  ส่วนอีกทางจะเป็นทางเดินเข้าออก อยู่ติดกับถนนเพชรเกษม พื้นที่โดยรอบของชั้น 1 จะเป็นที่จอดรถ ส่วนตรงกลางจะเป็นทางเข้าอาคาร และสระว่ายน้ำ ซึ่งจะอยู่กึ่งกลางของที่ดินเลยค่ะ ทางเข้าออกอาคารจะมีอยู่ทางทิศเหนือและใต้เลยค่ะ จอดรถฝั่งไหนก็เข้าฝั่งนั้น ไม่ต้องเดินอ้อมไกลๆ

Floor Plan คอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68 ชั้น 2

แปลนของอาคารนั้นเป็นรูปตัว U ลิฟต์จะอยู่เกือบๆของกึ่งกลาง ส่วนชั้น 2 นั้นห้องตรงหน้าลิฟต์จะเป็นห้องฟิตเนส หันออกไปด้านนอกได้วิวสระว่ายน้ำชั้นล่าง ส่วนห้องหลักๆในชั้นนี้จะเป็นห้องแบบ  1 ห้องนอน ขนาด 27.5 – 28.6 ตารางเมตรเกือบทั้งหมด จะมีเพียงห้องมุมด้านนอกทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่เป็นแบบ  1 ห้องนอน  ขนาด 34.7 ตารางเมตร และห้องมุมสุดทางด้านทิศตะวันตกด้านในที่จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ

Typical Floor Plan คอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68 ชั้น 3-7

พอมาที่ชั้น 3-7 ตรงห้องฟิตเนสจะเปลี่ยนเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน 27.5-28.6 ตารางเมตรแทนค่ะ ส่วนห้องอื่นๆก็เหมือนเดิม แต่จะมีส่วนที่เป็นช่องแสงเพิ่มมาตรงมุมที่ติดกับห้องที่เปลี่ยนจากห้องฟิตเนสไป ทำให้พื้นที่ตรงทางเดินนั้นได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาช่วยได้ค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้ยังช่วยให้มีลมเข้ามาบริเวณทางเดินด้วยค่ะ ลิฟต์ที่อยู่เกือบๆกลางของแปลนรูปตัว U ถ้าเป็นห้องปลายสุดในแต่ละมุมจะเดินค่อนข้างไกลที่เดียว ส่วนจำนวนห้องต่อชั้นจะอยู่ที่ 32 ห้องค่ะ

Floor Plan คอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68 ชั้น 8

ส่วนชั้น 8 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ห้องจะเหมือนเดิมกับชั้น 3-7 เลยค่ะ เพียงแต่จะเพิ่มพืนที่สวนขึ้น 2 ที่ด้วยกัน ที่แรกจะเป็นตรงที่ของเดิมเป็นช่องเปิด สามารถที่จะนั่งเล่นพักผ่อน และอีกที่นึงจะอยู่มุมด้านนอกฝั่งที่ติดกับถนนใหญ่ ด้านนี้สวนจะค่อนข้างมีขนาดเล็ก เหมาะกับยืนชมวิวมากกว่าค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68 มีหลักๆอยู่ 3 แบบค่ะ  เป็นแบบ 1 ห้องนอน ขนาด  27.5-28.6 ตารางเมตร  และ 34.7 ตารางเมตร  ส่วนแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 47.2-47.4 ตารางเมตร ค่ะ

แปลนห้องคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.5-28.6 ตารางเมตร

เริ่มจากแปลนที่มีมากที่สุดในโครงการกันก่อน เป็นแบบ 1 ห้องนอน ภาพรวมพื้นที่ห้องจัดเป็นสัดเป็นส่วนดี พื้นที่ห้องนั่งเล่นให้มาใหญ่กว่าห้องนอน  ในขณะที่สเปซในห้องนอนนั้นมาแบบพอดีสุดๆ ต้องตั้งเตียงชิดผนัง  เข้ามาภายในห้องก็จะเจอกับสเปซนั่งเล่นพักผ่อน ซึ่งติดกับหน้าห้องจะมีพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ด้วยค่ะ เวลายกอาหารจากครัวมาทานที่โต๊ะรับประทานอาหารก็ต้องผ่านพื้นที่นั่งเล่นไปก่อน  ส่วนอีกด้านที่ติดกับหน้าห้องเช่นกันจะเป็นห้องน้ำ  ส่วนด้านในจะถูกแบ่งออกเป็น 2 ห้องด้วยกัน คือ ห้องนอนที่มีพื้นที่สามารถวางตู้เสื้อผ้าได้ ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องครัว กั้นพื้นที่แยกออกมา อยู่ติดกับระเบียงค่ะ จะเหมาะสำหรับคนที่ชอบทำอาหาร เพราะครัวไม่ได้อยู่รวมกับห้องนั่งเล่น กลิ่นก็จะไม่ได้รบกวนบริเวณห้องด้านใน

แปลนห้องคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.7 ตารางเมตร

แปลน 1 ห้องนอน ขนาด 34.7 ตารางเมตรนั้น โดยรวมฟังก์ชั่นการจัดวางแทบจะเหมือนห้อง 1 ห้องนอนแบบแรกเลยค่ะ เพียงแต่ห้องแบบนี้จะมีความพิเศษตรงที่ได้พื้นที่ทางเข้าเพิ่มขึ้นมาหน่อย เนื่องจากเป็นตำแหน่งห้องหัวมุม แต่พื้นที่บริเวณนี้ก็ไม่ได้กว้างขวางมากแบบที่วางโต๊ะทำงานได้ค่ะ ใช้เป็นพื้นที่เก็บของน่าจะดีกว่า

แปลนห้องคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 69

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 47.2-47.4 ตารางเมตร

แบบสุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอนนั้น มีเพียง 2 ห้องต่อชั้นเท่านั้น ขนาดของห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กนั้นเกือบจะเท่าๆกัน เข้ามาก็เจอกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนและพื้นที่รับประทานอาหาร เช่นเดียวกับแบบ 1 ห้องนอน  ติดกันจะเป็นห้องครัวซึ่งก็กั้นห้องไว้ให้อีกเช่นกัน มีทางออกไประเบียงได้จากตรงครัว  พื้นที่ตรงครัวและระเบียงจะแคบยาวตามขนาดของห้องนั่งเล่นเลยค่ะ  จากห้องนั่งเล่นเข้าไปจะเจอห้องน้ำ ส่วนฝั่งตรงข้ามกับห้องน้ำจะเป็นห้องนอนใหญ่ ที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องด้านในสุดจะเป็นห้องนอนเล็กขนาดกะทัดรัด พื้นที่ระหว่างเตียงกับตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งค่อนข้างชิดกัน ทำให้ตู้เสื้อผ้าตรงนี้ใช้เป็นแบบบานเลื่อนแทนค่ะ  จริงๆห้องนี้วางเตียงเดียวน่าจะมีพื้นที่เหลือใช้งานได้มากขึ้น

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร  ส่วนห้องเปล่าที่ให้ดูเป็นแบบ 1 ห้องนอน 34.7 ตารางเมตร กับ 2 ห้องนอน 47 ตารางเมตร   ความสูงของสเปซระยะฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.40 เมตรค่ะ  ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully furnished

ห้องตัวอย่างคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68

แบบ 1 ห้องนอน 28 ตารางเมตร

เข้ามาดูภายในห้องตัวอย่าง เข้ามาเจอพื้นที่นั่งเล่น ด้านในจะแบ่งเป็นห้องครัวกับห้องนอนค่ะ

พื้นที่ห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดกับห้องครัว

พื้นที่ในห้องนั่งเล่น จะมีส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่รับประทานอาหารค่ะ

ระยะดูทีวีค่ะ ขนาดกำลังดี ไม่ได้ใกล้จนเดินไป

จากห้องครัวมองกลับไป ด้านข้างที่ติดกับประตูทางเข้านั้นเป็นห้องน้ำค่ะ

ภายในห้องครัวค่ะ กั้นด้วยประตูกระจกบานเลื่อน ติดกับครัวจะเป็นระเบียง

ส่วนอีกห้องหนึ่งจะเป็นห้องนอน

ระยะระหว่างเตียงถึงผนังกระจกค่ะ วางเตียงชิดกับบานกระจกเลย

ส่วนอีกด้านจะเป็นมุมโต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าค่ะ ระยะค่อนข้างแคบ แต่ตู้เสื้อผ้าเป็นบานเลื่อนก็ทำให้ประหยัดพื้นที่ลงไปได้บ้าง

ห้องเปล่าคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68

แบบ 1 ห้องนอน 34.7 ตารางเมตร

ห้องเปล่าแบบ 34.7 ตารางเมตรนั้น ด้านในแทบจะเหมือนกับ 1 ห้องนอน 27.5-28.6 ตารางเมตรเลยค่ะ ถ้าไม่นับรวมทางเดินด้านหน้าห้อง เข้ามาก็จะเจอกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น ส่วนด้านในจะเป็นห้องนอนกับห้องครัว ประตูบานเลื่อนตรงครัวได้มาเต็มบานช่วยให้แสงผ่านเข้ามาในห้องนั่งเล่นได้มากขึ้น

ภายในห้องนอนค่ะ หลักๆก็จะวางเตียงอยู่ด้านนึง ห้องชั้นล่างๆมองออกไปด้านนอกจะเห็นเพื่อนบ้านข้างเคียง แต่ถ้าเป็นชั้น 5 ขึ้นไปวิวก็จะโล่งกว่าค่ะ

เตียงจะวางติดกับผนังห้องเลย

ส่วนปลายเตียงจะมีชั้นวางทีวี กับ โต๊ะเครื่องแป้งเล็กๆ Built-in ติดผนังมาให้ค่ะ  ถ้าสาวๆที่เครื่องสำอางค์เยอะอาจจะต้องแบ่งไปเก็บไว้ในตู้เสื้อผ้าบางส่วนนะคะ

ห้องเปล่าคอนโด The VIVA Condo เพชรเกษม 68

แบบ 2 ห้องนอน 47 ตารางเมตร

ภายในห้องนอนของแบบ 2 ห้องนอนค่ะ เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างจะเหมือนกับแบบ 1 ห้องนอนเลย ขนาดหน้าต่างห้องนอนได้มาไม่ได้เล็กจนเกินไป อยู่ในระดับโอเคเมื่อเทียบกับคอนโดราคาประมาณนี้ค่ะ

ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งที่ Built-in มาให้ วางเรียงไปกับเตียงเลย

ห้องนอนเล็กค่ะ

ตู้เสื้อผ้าจะอยู่ติดกับเตียงเลย ตรงนี้พื้นที่ค่อนข้างแคบ ถ้าวางเตียงเดียวก็จะมีพื้นที่โล่งมากขึ้นค่ะ

ห้องน้ำด้านนอก ให้มากว้างดีค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มากลางๆตามระดับราคาค่ะ แบบ 1 ห้องนอนกับ 2 ห้องนอน เฟอร์นิเจอร์ที่ได้จะเหมือนกันเลย อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

เคาน์เตอร์ครัวที่ได้ค่ะ

พื้นที่เก็บของด้านใน จุได้เยอะมากทีเดียว

อ่างล้างจาน

Top เคาท์เตอร์ครัวเป็นลามิเนต ลายหินอ่อนสีดำ

ตัวปิดขอบเคาน์เตอร์ครัว

บานพับตรงชั้นเก็บของ เป็น soft close โช๊คอัพดีเมื่อเทียบกับราคาห้อง

เคาน์เตอร์ครัวด้านล่าง เปิดมาติดกับประตูบานเลื่อนออกไประเบียงเลยค่ะ  เวลาใช้งานต้องระวังหน้าบานไปกระแทกขอบประตูจนเป็นรอยด้วย

บานเลื่อนประตูบานกรอบอลูมิเนียม

พื้นระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น

วัสดุห้องน้ำ

พื้นที่ตรงอ่างล้างหน้าค่ะ

ฝักบัวของ Cotto  หน้าตาทั่วไป

อ่างล้างหน้าของ Cotto

โถสุขภัณฑ์ก็ของ Cotto เช่นกัน

พื้นระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้งใช้วิธีลดระดับลงไปนิดนึง

ที่วางสบู่ของ Cotto ค่ะ

ที่แขวนผ้าของ Cotto

พื้นระหว่างห้องน้ำกับห้องครัวระดับเท่ากันค่ะ ยกธรณีประตูกั้นให้

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ตรงห้องทุกห้องจะมีสัญญาณบอกของ smoke detector ที่เชื่อมมาจากในห้องค่ะ ส่วนข้างๆเป็นกล้องวงจรปิดบริเวณทางเดิน

พืื้นระหว่างด้านนอกกับภายในห้องมีตัวปิดรอยต่อ

ประตูทางเข้าห้องเป็นไม้อัดทาสีเทา

ส่วนด้านในเป็นบานสีขาวค่ะ

ลูกบิดประตูหน้าห้องเป็นแบบก้านโยก  ดูดีทีเดียว

ส่วนลูกบิดภายในห้องเป็นแบบธรรมดาทั่วไป

Door Stopper

สวิทช์ bticino

ไฟโคมซาลาเปา

พื้นไม้ลามิเนต บัวสีเดียวกับพื้น ส่วนผนังเป็นฉาบเรียบทาสีขาว

พื้นลามิเนตระหว่างห้องมีตัวปิดรอยต่อ

ทำตู้ใส่แผงควบคุมไฟไว้ให้เผื่อความเรียบร้อยสวยงามด้วยค่ะ

ชั้นวางรองเท้าใส่ได้ชั้นละ 2 คู่

ตู้เก็บของเป็นแบบ Soft close

โต๊ะเครื่องแป้ง

ตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in บานกรอบอลูมิเนียม

ด้านข้างของเตียงสามารถใส่ของได้

ระเบียงห้อง มีพื้นที่ซักล้างด้านนอก

ราวระเบียงสแตนเลส ซึ่งจะดีกว่าระเบียงเหล็กทั่วไป เพราะจะเกิดปัญหาเรื่องสนิมเมื่อใช้งานนานๆ ได้ยากกว่าค่ะ  ตรงนี้ถือว่าเป็นวัสดุที่ให้มาเกรดค่อนข้างดี

คอมเพรสเซอร์แอร์แขวนไว้ มีแผงบังคอมเพรสเซอร์แอร์เป็นอลูมิเนียม

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (15 กรกฎาคม 2558) แบบ 1 ห้องนอนนั้นเริ่มที่ 1.61 ล้านบาท  ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้นจะเริ่มต้นที่ 2.83 ล้านบาทค่ะ วิวด้านที่หันเข้าภายในโครงการราคาจะสูงกว่าด้านที่หันออกด้านนอกโครงการ  ซึ่งก็คงมาจากการที่มองวิวไปแล้วไปติดกับตึกแถวด้านนอก  ส่วนราคาในแต่ละชั้นจะเพิ่มขึ้นประมาณ 2-3 หมื่นบาทต่อชั้นค่ะ

ราคา ณ วันที่ 15 กรกฎาคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom  พื้นที่ 27.54-28.67 ตร.ม. ราคา 1,616,598-1,810,692 บาท เฉลี่ย 58,700-63,310 บาท/ตร.ม.

1 bedroom  พื้นที่ 34.77 ตร.ม. ราคา 2,023,614-2,120,970 บาท เฉลี่ย 58,200-61,000 บาท/ตร.ม.

2 bedroom  พื้นที่ 47.22-47.46 ตร.ม. ราคา 2,833,362-3,108,456 บาท เฉลี่ย 60,003-63,600 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง + ทำสัญญา

1 Bedroom  30,000 บาท

2 Bedroom  60,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

เป็นโครงการสร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   35  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนค่ะ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  98% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 br  พื้นที่ 27.54-28.67 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  1,616,598  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 11,024  บาท/เดือน

1 br  พื้นที่ 34.77 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,023,614  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 13,853  บาท/เดือน

2 br  พื้นที่ 47.22-47.46 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,833,362  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 19,271 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  98% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 br  พื้นที่ 27.54-28.67 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  1,616,598  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 11,652  บาท/เดือน

1 br  พื้นที่ 34.77 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,023,614  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 14,641  บาท/เดือน

2 br  พื้นที่ 47.22-47.46 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,833,362  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 20,367 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  98% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 br  พื้นที่ 27.54-28.67 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  1,616,598  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 12,702  บาท/เดือน

1 br  พื้นที่ 34.77 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,023,614  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 15,960 บาท/เดือน

2 br  พื้นที่ 47.22-47.46 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,833,362  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 22,203 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  98% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 br  พื้นที่ 27.54-28.67 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  1,616,598  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 14,616  บาท/เดือน

1 br  พื้นที่ 34.77 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,023,614  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 18,366 บาท/เดือน

2 br  พื้นที่ 47.22-47.46 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,833,362  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 25,549 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  98% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 br  พื้นที่ 27.54-28.67 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  1,616,598  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 18,716  บาท/เดือน

1 br  พื้นที่ 34.77 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,023,614  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 23,517 บาท/เดือน

2 br  พื้นที่ 47.22-47.46 ตร.ม.  ราคาขายเริ่มต้น  2,833,362  ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 32,716 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางในโซนนี้ถือว่าค่อนข้างสะดวกค่ะ เพราะโครงการถือว่าติดถนนใหญ่ เพราะมีทางคนเดินเข้าออกอยู่ติดถนนเพชรเกษม ส่วนทางรถยนต์ต้องเข้าไปในซอย แต่ก็ไม่ได้ไกล  และอย่างที่ทราบกันว่ารถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีน้ำเงินช่วง หัวลำโพง – บางแค กำลังอยู่ในระหว่างการก่อสร้างค่ะ  พอมีรถไฟฟ้าแล้วการเดินทางก็คงสะดวกสบายมากขึ้น เพราะตอนนี้ถนนเส้นนี้ก็แอบรถติดอยู่พอสมควรค่ะ  แต่จากโครงการไปถึงรถไฟฟ้าก็ประมาณ 500 เมตร เดินไปอาจจะเหนื่อยนิดหน่อย  ถ้าจะเดินทางด้วย Taxi รถประจำทางและรถสองแถว ก็มีวิ่งตลอดเพราะเป็นเขตชุมชนค่ะ หรือจะเป็นวินมอไซต์ก็มีอยู่หน้าปากซอยโครงการเลย ในระหว่างที่รถไฟฟ้ายังไม่เสร็จก็คงต้องไปขึ้นที่บีทีเอสบางหว้าก่อน

ส่วนถ้าจะใช้รถยนต์นั้น ถนนเพชรเกษม ถ้าจะเข้าเมืองก็สามารถวิ่งเล่นราชพฤกษ์เข้าสาทร หรือจะออกบางแคเข้ากัลปพฤกษ์ ไปยังสาทรได้ไม่ลำบาก (แต่อาจจะรถติดในช่วงเวลาเช้าเย็น)  นอกจากนี้ก็มีถนนพุทธมณฑลสาย 1 ไปไกลหน่อยจะทะลุออกบรมราชชนนีซึ่งไปโซนปิ่นเกล้า  แต่ที่ดูจะขาดไปก็คือระบบทางด่วน ทางด่วนที่ใกล้ที่สุดจะเป็นด่านพระราม 2 เลยค่ะ ใช้เส้นกาญจนาภิเษกเอา  ถือว่าค่อนข้างไกลพอสมควรเลยค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

พื้นที่ในย่านนี้นั้นเป็นโซนที่อยู่อาศัยที่ค่อนข้างหนาแน่นพอสมควรและก็อยู่กันมานานแล้วค่ะ เรื่องโครงสร้างพื้นฐานแน่นอนถ้าจะพูดถึงโซนฝั่งธนฯ ย่านเพชรเกษมนั้น ก็ต้องเป็นรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายหัวลำโพง – บางแค โดยสถานีท่าพระก็จะเป็นสถานี Interchange กันภายในสายสีน้ำเงิน ระว่างช่วงบางซื่อ-ท่าพระ และ ช่วงหัวลำโพง-บางแค  เมื่อรถไฟฟ้าเสร็จเราสามารถเข้าเมืองไปยังสีลมได้เลยโดยที่ไม่ต้องเปลี่ยนสายของรถไฟฟ้าค่ะ ส่วนถ้าจะไปบีทีเอสก็สามารถไปเปลี่ยนได้ที่สถานีบางหว้า หรือจะไปช่วงบางซื่อก็ไปเปลี่ยนที่สถานีท่าพระ  โดยโครงการสายนี้คาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณปี 2561 ค่ะ ตอนนี้ก็เห็นเป็นรูปเป็นร่างแล้ว  ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อรถไฟฟ้าเสร็จก็น่าจะมีดีเวลลอปเปอร์มาขยายตลาดคอนโดในพื้นที่โซนนี้เพิ่มขึ้น ขนาดรถไฟฟ้ายังไม่เสร็จก็ยังมีอยู่หลายเจ้าเลยค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

รูปทรงดีไซน์ของตัวคอนโดนั้นจะออกมาเรียบๆ ทั่วๆไปค่ะ ไม่ได้มีดีไซน์หวือหวาในรูปทรงของอาคารมาก แปลนเป็นตัว U ตัวตึกใช้สีขาว เทา น้ำตาล สลับกันไป เพื่อเพิ่มลูกเล่นจากการใช้สี  จุดที่น่าสนใจคือตำแหน่งของช่องโล่งชั้น 2-7 ดีไซน์ตรงนี้ช่วยให้แสงเข้ามายังทางเดินตรงกลางได้ดี  และทำให้ระบายอากาศรวมถึงลมไหลเวียนดีขึ้นด้วย  เมื่อเทียบกับคอนโดตัว U ทั่วไปที่ทางเดินทึบตลอด

ยูนิตส่วนใหญ่ในคอนโดจะหันไปทางทิศเหนือ ทิศใต้ และทิศตะวันออก จะมีห้องที่เป็นทิศตะวันตกอยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เยอะ (ซึ่งห้องตำแหน่งนี้ ก็แลกมาด้วยการวิวภายในโครงการแทนและมองไปทางสระว่ายน้ำได้) ส่วนด้านที่หันออกด้านนอกโครงการ วิวตั้งแต่ชั้น 2-4 จะติดกับตึกแถวเพื่อนบ้านข้างเคียง วิวจะโดนบัง ส่วนชั้น 5 ขึ้นไปวิวจะได้โล่งๆมากกว่าค่ะ เพราะรวมๆแล้วบริเวณนี้ยังไม่มีอาคารสูงมาบัง  เรื่องวิวนี้ก็เป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้ราคาขายของแต่ละห้องแตกต่างกันไปด้วย

ด้านการวางแปลนนั้นพูดถึงแบบห้องที่มีมากที่สุดในโครงการและเป็นห้องตัวอย่าง คือ 1 ห้องนอน 27.5-28.6 ตารางเมตร ภาพรวมก็ทำออกมาได้เป็นสัดเป็นส่วนดีค่ะ พื้นที่ใช้งานรวมๆไม่ได้แออัดอะไร  ให้สัดส่วนของพื้นที่พักผ่อนมามากกว่าห้องนอน  ห้องนอนเลยไว้ใช้นอนอย่างเดียว  จะทำงานหรือใช้พื้นที่ก็มาใช้ตรงพื้นที่นั่งเล่นดีกว่า  ข้อดีอีกอย่าง คือ ครัวที่แยกออกมาต่างหาก ทำให้เวลาทำครัว กลิ่นก็จะไม่มารบกวนภายในห้องนั่งเล่นค่ะ  ส่วนแปลนแบบ 2 ห้องนอนจัดโซนของฟังก์ชั่นมาได้โอเคดี  ใช้งานได้ในพื้นที่ไม่มากนัก  ทำให้ราคาขายไม่สูงมาก

ด้านวัสดุนั้นให้มาค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับคอนโดระดับราคาประมาณ 5 หมื่นปลายๆ ต่อตารางเมตร  เฟอร์นิเจอร์ที่ได้ก็ได้มาเกือบครบอาจจะต้องซื้อมาเพิ่มบ้างนิดหน่อยถ้าเก็บของไม่พอ  ตู้ลอยตัวได้บานเปิดเป็น Soft close โชคอัพดีมาก  ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มากลางๆ ไม่ได้เยอะมากเทียบเท่ากับคอนโดที่มียูนิตเยอะๆ แต่ก็ครบตามที่ควรจะมี หลักๆก็มีสระว่ายน้ำ ฟิตเนส และพื้นที่นั่งพักผ่อนเป็นสวนเล็กๆตามจุดต่างๆ  สัดส่วนการใช้ลิฟต์ที่ 111 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นดี  ที่จอดรถ 47% ก็อยู่ในระดับที่ดีเมื่อเทียบกับราคาขายค่ะ

ด้านตัวเลือกอื่นๆ

ตัวเลือกอื่นๆ ถ้าเป็น Low rise 8 ชั้น ส่วนใหญ่ก็จะอยู่เข้าไปภายในซอย หรือถนนสายรองที่ไม่ใช่ถนนเพชรเกษมอย่างตัวโครงการ The Niche ID บางแค โครงการจะอยู่ตรงถนนเทอดไทค่ะ … นอกนั้นก็จะเป็น High rise ที่ราคาจะค่อนข้างสูงกว่าพอสมควร อย่างที่เพิ่งเปิดตัวไปก็มี The Prodigy ตรงเพชรเกษม 62 มีจำนวนยูนิตค่อนข้างเยอะ นอกจากนี้ก็มี The Parkland เพชรเกษม ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม เดอะมอลล์บางแคค่ะ ใกล้จะสร้างเสร็จแล้ว นอกจากนี้ยังเห็นมีสำนักงานขายอยู่บนถนนเพชรเกษม ก็มี  Fuse Sense’ บางแค แต่ตัวโครงการจะอยู่ติดถนนพุทธมณฑลสาย 2 ค่ะ และ  ส่วนโครงการอื่นๆก็จะเป็นโซนเข้าไปในเมืองหน่อยตรงรถไฟฟ้าบีทีเอสบางหว้า วุฒากาศ ราคาก็จะแพงขึ้นมาอีกค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ