สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะพาไปดูรีวิวคอนโด The Politan Breeze  ที่พัฒนาโดยเอเวอร์แลนด์  ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดินผืนใหญ่ผืนงามติดแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณใกล้กับ MRT สถานีพระนั่งเกล้า  คอนโด เดอะ โพลิแทน บรีซ  นับเป็นคอนโดโครงการที่สองของทางเอเวอร์แลนด์ที่เปิดตัวในปีนี้  ต่อจากโครงการแรก คือ The Politan Rive ที่เป็นคอนโด High Rise ในทำเลเดียวกัน

ตัวโครงการ The Politan Breeze  นั้นเป็นคอนโดสูง low-rise สูง 8 ชั้น  แยกอาคารออกเป็น 5 อาคาร  มีอาคารพักอาศัย 4 ตึก และอาคารจอดรถ 1 ตึก  รายละเอียดจะเป็นยังไงนั้น  ค่อยๆ ตามอ่านไปในรีวิวที่เราจัดมาให้ชมกันอย่างละเอียดค่ะ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

The Politan Breeze ( เดอะ โพลิแทน บรีซ )

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท เอเวอร์แลนด์ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซ.นนทบุรี 15 ถนนสนามบินน้ำ ใกล้รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีพระนั่งเกล้า
• ขนาดที่ดิน >>> 7-2-85 ไร่
• จำนวนอาคาร >>> 4 อาคารพักอาศัย 1 อาคารจอดรถ
• จำนวนชั้น >>> อาคารชุดพักอาศัยสูง 8 ชั้น + อาคารจอดรถสูง 7 ชั้น
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 29.00 ตารางเมตร
  • 2 ห้องนอน 43.00 – 60.00 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>> 587 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 343 คัน (58%) รวมซ้อนคัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 1.65 ล้านบาท (ราคา ณ วันที่ 22/06/2559)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> เริ่มต้นประมาณ 57,000 บาท / ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.874224, 100.479404
• กำหนดแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3 ปี 2561
• EIA Approved

• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• เบอร์ติดต่อ 02-002-2222

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

The Politan Breeze ตั้งอยู่ในซอยนนทบุรี 15 บนถนนสนามบินน้ำ ใกล้สถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้าค่ะ  การเดินทางไปได้หลากหลายเส้นทาง  เราสรุปมาให้ดูกัน 3 เส้นทางหลัก คือ จากทางบางใหญ่, จากทางแจ้งวัฒนะ และจากทางแคราย ค่ะ

ถ้าเดินทางมาจากบางใหญ่เวลาขับมาทางสะพานพระนั่งเกล้าจะมีสะพานข้ามแม่น้ำ 2 สะพาน คือสะพานพระนั่งเกล้าเก่ากับสะพานพระนั่งเกล้าใหม่  ให้ชิดซ้ายเพื่อขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่า  ข้ามมาแล้วพอลงสะพานก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำได้เลยค่ะ  เลี้ยวมานิดเดียวก็จะถึงคอนโด The Politan Breeze แล้ว (อย่าขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่นะคะ  เพราะไม่งั้นต้องเลยไปกลับรถไกลถึงหน้าเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ เลย)

หากมาจากแจ้งวัฒนะ  จะใช้ถนนติวานนท์จะวิ่งตรงมาเรื่อยๆ  แล้วสามารถเลี้ยวขวาเข้าที่สามแยกสนามบินน้ำ  ผ่านตลาดสนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค, กระทรวงพาณิชย์ ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นทางเข้าโครงการ The Politan Breeze จะอยู่ทางขวามือก่อนที่จะออกถนนรัตนาธิเบศร์ค่ะ

ทางสุดท้ายถ้ามาจากทางพิเศษศรีรัช ทางด่วนขั้นที่ 2 ให้ลงทางด่วนเลี้ยวซ้ายเข้าถนนงามศ์วาน ขับตรงมาเรื่อยๆ ขึ้นสะพานข้ามแยกแคราย ผ่าน Esplanade Cineplex งามวงศ์วาน – แคราย และ Big C รัตนาธิเบศร์ 2 พอเห็นเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ ทางขวามือ ก็ให้ขับชิดซ้ายเข้าทางคู่ขนานเลยค่ะ จากนั้นวนไปกลับรถใต้สะพาน  เพื่อเลี้ยวเข้าถนนสนามบินน้ำนิดเดียวก็จะถึงทางเข้าคอนโด The Politan Breeze เช่นเดียวกันค่ะ

.

ส่วนการเดินทางวันนี้ เราจะเดินทางไปจากบางใหญ่ มุ่งหน้าข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ขับตรงมาเรื่อยๆ พอถึงสถานีไทรม้าให้เริ่มชิดซ้ายเพื่อขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่า พอลงสะพานแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสนามบินน้ำ ขับไปประมาณ 250 เมตร ก็จะถึงทางเข้าโครงการ The Politan Breeze ค่ะ

เริ่มต้นบนถนนรัตนาธิเบศร์ฝั่งขาเข้า ที่สถานีบางพลู

ขับตรงมาเรื่อยๆ พอถึงสถานีไทรม้าแล้วให้เริ่มเบี่ยงซ้าย เพื่อที่จะไปขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่าค่ะ

ให้เราอยู่เลนที่ไฮไลท์สีแดง เพื่อขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าเก่า ถ้าไปอยู่เลนทางขวามือที่ไฮไลท์สีชมพู จะขึ้นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ ทำให้เวลาลงสะพานจะเลี้ยวเข้าถนนสนามบินน้ำไม่ได้  ต้องอยู่เลนให้ถูกนะคะ จะได้ไม่ต้องไปวนกลับรถมา

ตรงมาไม่นานจะมีป้ายไปสนานบินน้ำ ก็ให้อยู่เลนกลางตามป้ายไปเรื่อยๆ เลยค่ะ

เราจะก็จะข้ามสะพานพระนั่งเกล้าเก่า ซึ่งวิ่งอยู่ต่ำกว่าระดับของสะพานพระนั่งเกล้าใหม่

ซ้ายมือจะเป็นสะพานพระนั่งเกล้าใหม่ค่ะ  ส่วนทางขวามือจะเห็นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วงวิ่งคู่ขนานกันไป

มาลงสะพานหน้าสถานี MRT สะพานพระนั่งเกล้าพอดีเลย ตามทางไปค่ะ

แล้วก็จะเจอป้าย สนามบินน้ำเลี้ยวซ้าย  ตรงไปแคราย เราก็ชิดซ้ายตามป้ายเลย

เลี้ยวซ้ายมาแล้วจะเข้าสู่ถนนสนามบินน้ำค่ะ

สังเกตทางซ้ายมือจะมีป้าย The Politan Breeze เลี้ยวซ้ายเข้าไปได้เลย เป็นทางเดียวกับที่เข้าโครงการ The Politan Rive ค่ะ

เข้ามาจากปากซอยนนทบุรี 15 โครงการ The Politan Rive อยู่ด้านหน้าเลยค่ะ กำลังก่อสร้างกันอยู่  มีป้ายนำทางไป Sale Gallery ของ The Politan Breeze ติดอยู่

ทางขวามือจะเป็นที่ดินของ The Politan Breeze ค่ะ อยู่ติดกันเลย

ด้านหน้ายังไม่ได้กั้นรั้วอะไร ค่ะ เลยเห็นเป็นที่โล่งๆ แบบนี้

เลี้ยวซ้ายเข้ามาที่สำนักงานขายที่อยู่ติดริมแม่น้ำได้เลย

มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ปากซอยนนทบุรี 15  ที่คอนโด The Politan Breeze ตั้งอยู่ห่างจากแนวถนนรัตนาธิเบศร์ประมาณ 280 เมตร โดยบริเวณจุดตัดของถนนรัตนาธิเบศร์และถนนสนามบินน้ำ จะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วง สถานีสะพานพระนั่งเกล้าอยู่ ซึ่งสามารถเดินไปได้จากโครงการ จะเดินไปขึ้นรถไฟฟ้าโดยเดินออกทางถนนสนามบินน้ำก็ได้  หรือถ้าจะใกล้กว่านั้นก็เดินลัดผ่านวัดน้อยนอกไปออกถนนรัตนาธิเบศร์เลยก็ได้เหมือนกัน  ซึ่งในอนาคตจะมีโครงการทำ sky walk เป็นทางเชื่อมจากตัวรถไฟฟ้าข้ามจากตัวสถานีมาลงฝั่งถนนสนามบินน้ำเลย  ซึ่งถ้าทำเสร็จก็จะขึ้นรถไฟฟ้าสายสีม่วงได้ง่ายมาก

จุดขายของ The Politan Breeze จะอยู่ที่ได้ทำเลติดริมแม่น้ำเจ้าพระยาและสามารถเข้าถึงตัวสถานีรถไฟฟ้าได้ในระยะไม่ไกลค่ะ  ถนนสนามบินน้ำเป็นที่ตั้งสำคัญของสถานที่ราชการใหญ่อย่างกระทรวงพาณิชย์  ทำให้มีการสัญจรเข้าออกในพื้นที่นี้เยอะพอสมควร  ความอุดมสมบูรณ์ในย่านนี้จะอยู่ไม่ไกลจากโครงการ  แถวๆ เซ็นทรัลรัตนาธิเบศร์ ซึ่งนั่งรถไฟฟ้าไปเพียง 1 สถานี  และถ้านั่งไป 2 สถานีก็จะถึงสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี ซึ่งในอนาคตตรงนี้จะเป็นจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย – มีนบุรี ) ด้วยค่ะ

นอกจากนั้นถ้าขับรถไปทางตัวเมืองนนทบุรีจะมีโรงพยาบาลศูนย์การแพทย์รัตนาธิเบศร์  และโรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี ซึ่งเป็นโรงพยาบาลใหญ่ในย่านนี้  มีมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลสุวรรณภูมิ

ตรงปากทางเข้า The Politan Breeze ฝั่งนึงจะเป็นอพาร์ทเม้นท์สูง 8 ชั้น ชื่อ ชัยลัดดา อพาร์ทเม้นท์ (หมายเลข 1) อีกข้างนึงเป็นตึกแถวสูงประมาณ 4 ชั้นและคอนโดมิเนียมเก่าชื่อ ธาราริน เจ้าพระยา (หมายเลข 2)  บริเวณเยื้องกับปากซอยนนทบุรี 15 เป็นคอนโด Supalai City Resort พระนั่งเกล้า-เจ้าพระยา (หมายเลข 3) สูง 33 ชั้น ซึ่งตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง  ใกล้กับโครงการม่ีวัดน้อยนอก (หมายเลข 4) ที่สามารถเดินทะลุไปขึ้นรถไฟฟ้าได้ค่ะ

อยู่ริมแม่น้ำแบบนี้จะมีร้านอาหารริมน้ำแน่นอน เลยโครงการไปหน่อยมีร้าน เรือนน้ำ The River House 1953 (หมายเลข 5)  เป็นร้านอาหารริมน้ำ  อาคารเป็นเรือนไทยสวยเชียวค่ะ  ถ้าเข้าไปในถนนสนามบินน้ำก่อนถึงกระทรวงพาณิชย์ (หมายเลข 7) มีคอนโด Manor สนามบินน้ำ (หมายเลข 6) ของเมเจอร์ ดีเวลลอปเม้นท์

ตอนนี้กำลังมีการศึกษาโครงการทำสะพานข้ามแม่น้ำจากถนนราชพฤกษ์มาตรงหลังกระทรวงพาณิชย์ เพื่อช่วยบรรเทาปัญหารถติดและเป็นโครงสร้างพื้นฐานเชื่อมทางฝั่งกรุงเทพตะวันตกเข้ามาในเมืองอีกทางหนึ่ง  โดยโครงการนั้นสร้างเริ่มจากถนนกาญจนภิเษกฝั่งตะวันตกไปจนสุดเส้นทางที่ถนนวิภาวดีรังสิตเลยค่ะ

พอเลี้ยวโค้งมาตามถนนสนามบินน้ำแล้ว จะมีหมู่บ้านจัดสรรขึ้นอยู่อย่าง โครงการบุราสิริ สนามบินน้ำ และหมู่บ้านพลัส ซิตี์ พาร์ค สนามบินน้ำ (หมายเลข 8) และคอมมูนิตี้มอลล์สนามบินน้ำ มาร์เก็ต พาร์ค (หมายเลข 9) และถ้าขับตรงไปตามถนนสนามบินน้ำไปจะไปออกถนนติวานนท์ได้ หรือจะเลี้ยวขวาเข้าเส้นเลี่ยงเมืองนนทบุรีก็จะวนไปออกถนนรัตนาธิเบศร์  ซึ่งตรงหัวมุมนั้นจะเป็นที่ตั้งของเซ็นทรัล รัตนาธิเบศร์ (หมายเลข 10) 

จากสี่แยกตรง MRT สถานีพระนั่งเกล้า ขับรถลงไปทางทิศใต้เรื่อยๆ ผ่านโรงพยาบาลพระนั่งเกล้านนทบุรี (หมายเลข 12)  และก็จะไปท่าน้ำนนท์ได้ค่ะ  แต่ในอนาคตถ้าจะไปใช้บริการเรือด่วนเจ้าพระยา  ก็ไม่จำเป็นต้องไปขึ้นที่ท่าน้ำนนท์เหมือนในปัจจุบันนะคะ  เพราะว่ากรมเจ้าท่าจะมีการสร้างท่าพระนั่งเกล้า (หมายเลข 11)  เป็นท่าเรือเพิ่มขึ้นอีกจุดตรงใกล้กับโครงการ เดินจากหน้าโครงการไปประมาณ 550 เมตร  ซึ่งพอท่าเรือสร้างเสร็จก็จะขยายเส้นทางการเดินเรือจากเดิมที่สิ้นสุดตรงท่าน้ำนนท์มาสิ้นสุดตรงท่าพระนั่งเกล้านี่เลย  จัดว่าสะดวกดี

ก่อนเข้าไปที่โครงการ เราไปสำรวจสภาพแวดล้อมรอบโครงการกันก่อนดีกว่าค่ะ 

ถนนทางเข้าโครงการกว้างมาก  เดิมทีซอยนนทบุรี 15 นี่เล็กนิดเดียว  ทางเอเวอร์แลนด์ขยายที่ให้เต็มเลย

ชัยลัดดา อพาร์ทเม้นท์ ที่อยู่ปากซอย

หน้าปากซอยนนทบุรี 15 เป็นอาคาพาณิชย์สูง 3 ชั้น

ปัจจุบันเป็นธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาสะพานพระนั่งเกล้า

ที่ MRT สถานีสะพานพระนั่งเกล้า  เห็นถนนกว้างแบบนี้ก็ไม่ต้องห่วงว่าจะข้ามยากนะคะ  เพราะว่ามีโครงการทำ sky walk ข้ามมาลงอีกฝั่งถนนเรียบร้อย

ตรงจุดกลับรถใต้สะพานพระนั่งเกล้า จะเป็นที่ทำการของสำนักงานทางหลวงที่ 13 กรมทางหลวง แขวงทางหลวงนนทบุรี

ทางเข้าวัดน้อยนอก สามารถใช้ลัดเข้าโครงการ The Politan Breeze ได้เหมือนกันค่ะ

บรรยากาศบนถนนสนามบินน้ำ  ถนนสายนี้สวยนะคะ เพราะจะมีเกาะกลางยาวไปตลอดทาง มีต้นไม้ด้านข้างร่มรื่นดี

ทางเข้าร้านอาหารบ้านระเบียงน้ำ ในซอยนนทบุรี 23  เป็นร้านเรือนไทยติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ด้านหน้ากระทรวงพาณิชย์

เลยกระทรวงพาณิชย์ไป สุดทางจะบังคับเลี้ยวขวาไปออกถนนติวานนท์  ตรงหัวมุมมีวัดตำหนักใต้

เลี้ยวโค้งเลยจากกระทรวงพาณิชย์มา แล้วเป็นชุมชนอยู่กันคึกคักค่ะ มีอาคารพาณิชย์ ร้านค้า ร้านอาหารตามตึกแถวเพียบ

มีตลาดสดจิตรวรรณไว้จับจ่าย

โซนนั้นจะมีที่ดินบางส่วนเป็นของกองทัพบก  เป็นที่ตั้งกองน้ำมันเชื้อเพลิงกรมพลาธิการทหารบก, กองยกบัตร, กองร้อยพลาธิการส่งกำลังน้ำมัน

พอถึงแยกที่ตัดกับถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรี จะมี สนามบินน้ำ มาร์เก็ตพาร์ค ให้มาจับจ่ายใช้สอยกันค่ะ เช่น Tesco Lotus Express, ธนาคาร ธกส., CP Fresh Mart แล้วก็ร้านอาหารต่างๆ เช่น ชาบูนางใน, Pizza Hut, เนื้อตุ๋นจักรเพ็ชร (อันนี้เด็ดจริง ขอให้ลอง)

ใกล้กับสถานี MRT แยกนนทบุรี 1 จะมี Grand Home Mart สาขารัตนาธิเบศร์  เป็นศูนย์รวมวัสดุอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ไม่ว่าจะเป็นกระเบื้อง ชุดครัว สุขภัณฑ์  ตลอดจนเครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆ

Central รัตนาธิเบศร์

ด้านข้างเซ็นทรัลเป็นส่วนของ Robinson Department Store  ด้านในมี B2S, Supersport, Powerbuy ด้วยค่ะ

มี Index Living Mall อยู่ติดกับ Robinson และอยู่ด้านหลังของที่อาคารจอดรถของ MRT สถานีแยกนนทบุรี 1

เลยมาหน่อยที่ MRT สถานีบางกระสอ จะมี Big C รัตนาธิเบศร์ 2

ถ้าจะเดินจากโครงการไปยังรถไฟฟ้าสถานีพระนั่งเกล้า  จะมีทางลัดไปออกตรงวัดน้อยนอกอย่างที่เล่าไปแล้ว  เราไปวนดูทางกันค่ะ

ตั้งต้นที่ด้านหน้าโครงการกันอีกรอบ

มองกลับออกไปที่ปากซอย  ขวามือจะมีซอยเล็กๆ ให้เราเลี้ยวเข้าซอยทางขวามือไปเลย

ตรงมาเรื่อยๆ จะเห็นอาคารเรียนสีขาว ของโรงเรียนธัมมสิริศึกษานนทบุรี อยู่สุดทาง ให้ตรงเข้าไปเลยค่ะ

เลี้ยวขวาผ่านหน้าโรงเรียนมาแล้วจะมาเข้าเขตวัดน้อยนอก

ออกไปทางหน้าวัดได้เลยค่ะ

ออกมาที่ถนนรัตนาธิเบศร์แล้วค่ะ ซอยนี้ชื่อทางการคือซอยรัตนาธิเบศร์ 42 มองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นสถานีรถไฟฟ้าสะพานพระนั่งเกล้าพอดีเลย อีกหน่อยก็จะมี sky walk จากตัวสถานีรถไฟฟ้าข้ามมาลงฝั่งนี้

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

มองเข้าไปยังที่ตั้งโครงการ The Politan Breeze ค่ะ กำลังเตรียมที่ดินกันอยู่เลย ทางซ้ายมือที่เห็นเป็นรั้วขาวๆ คือเขตของโครงการ The Politan Rive นะคะ อยู่ติดกันเลย

คลองบางสร้อยทองที่จะเป็นตัวบอกขอบเขตของโครงการ เดอะ โพลิแทน บรีซ ค่ะ ฝั่งทิศเหนือของ The Politan Breeze จะติดกับคลองบางสร้อยทองนี้ ทิศใต้ติดกับ เดอะ โพลิแทน รีฟ

คลองบางสร้อยทองจะผ่านชุมชนนี้ต่อไปจนถึงถนนสนามบินน้ำ

เดินเข้ามาดูพื้นที่ช่วงกลางๆ กันบ้าง รูปนี้จะยืนหันหลังให้แม่น้ำเจ้าพระยา หันหน้าเข้าถนนสนามบินน้ำ (ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ) มองไปไกลๆ จะเห็นว่าพื้นที่โดยรอบมองไปทางกระทรวงพาณิชย์ไม่มีอาคารสูงมาบังวิวเลย  ที่เห็นตึก 2 ตึก ก็เป็นคอนโดซึ่งอยู่ไกลออกไปจากตำแหน่งของ The Politan Breeze มากทีเดียว

ฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยาจะติดกับสวนของ The Politan Rive ค่ะ มองเห็นสะพานพระนั่งเกล้า  ช่วงเย็นๆ แดดไม่ร้อน และมีลมพัดก็ชิลล์ดีค่ะ

ฝั่งตรงข้ามของแม่น้ำเจ้าพระยา  ความเจริญยังไม่ดูดีเท่าฝั่งนี้นะคะ  ลองขับรถเข้าไปสำรวจดูยังมีพื้นที่ทำสวนอยู่เยอะเลย    

เริ่มร้อนแล้ว  เราเข้าไปตากแอร์ดูห้องตัวอย่างในสำนักงานขายกันต่อเลยค่ะ

ใช้ตัวสำนักงานขายริมน้ำเดิมที่เดิมกับ The Politan Rive นะคะ

บรรยากาศภายในสำนักงานขายหรูหราค่ะ สีดำ-สีทอง

มีโมเดลของคอนโด เดอะ โพลิแทน บรีซ ตั้งอยู่ด้านหน้า

ด้านในทำเป็น Double Space สเปซสวยงาม  มองออกไปเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ชิลล์ …

ห้องตัวอย่างของ The Politan Breeze จะอยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ (ชั้นล่างจะเป็นห้องตัวอย่างของ The Politan Rive)

ขึ้นไปดูวิวที่ชั้น 3 กันดีกว่า มุมมองระดับนี้เรียกว่าเป็นการจำลองว่าเราอยู่บนคอนโด The Politan Breeze ที่ชั้น 3-4 ได้เลย ถ้ามองไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้จะเห็นสะพานพระนั่งเกล้า มีฉากหน้าเป็นสวนริมแม่น้ำ 

หันหน้าเข้าหาแม่น้ำจะเป็นทิศตะวันตก

และด้านทิศเหนือเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา  และจะติดกับคอนโดโครงการต่อไปของ Everland ค่ะ  เป็นกลุ่มคอนโด Low Rise เหมือนกัน  โครงการบอกว่ารั้วกันระหว่างโครงการจะทำเป็นรั้วโปร่งเพื่อจะได้ดูไม่ทึบค่ะ

จากชั้น 3 มองลงไปที่ที่ตั้งโครงการ

มองกลับไปที่ทางเข้าโครงการ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวที่ดินของโครงการ เดอะ โพลิแทน บรีซ จะเป็นทรงผอมยาวไปจนถึงแม่น้ำเจ้าพระยา ฝั่งทิศเหนือติดกับที่ดินเปล่ารอการพัฒนาในอนาคต ซึ่งจะเป็นโครงการของทางเอเวอร์แลนด์เอง เพราะฉะนั้นก็จะคุมเรื่องดีไซน์และมุมมองต่างๆ ได้ส่วนหนึ่ง  ไม่ต้องกลัวว่าอนาคตจะเป็นใครก็ไม่รู้มาสร้าง  ส่วนทิศใต้จะติดกับโครงการ The Politan Rive ที่เป็นคอนโดสูง พื้นที่ด้านทิศใต้ของตึก A มองมาก็จะเห็นสวนริมน้ำด้านหน้าและ Jogging Track ของ The Politan Rive  เป็นวิวโล่งๆ พร้อมโค้งแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

ระหว่างทั้งสองโครงการนี้จะมีซึ่งมีรั้วกั้นแยกจากกันสิ้นเชิงนะคะ  ส่วนที่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาเป็นทิศตะวันตก

ตัวตึกนั้นวางอยู่ใกล้แม่น้ำเจ้าพระยามากกว่า The Politan Rive เพราะฉะนั้นตึกด้านหน้าอย่างตึก A และตึก B ก็จะไม่โดนบังวิวค่ะ  ยังสามารถมองทะลุเห็นโค้งแม้น้ำเจ้าพระยาได้อยู่

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ส่วนทิศทางของแดดนั้น  ห้องส่วนใหญ่จะอยู่ทางทิศเหนือและทิศใต้  ฝั่งริมแม่น้ำเจ้าพระยาจะเป็นทิศตะวันตก  ปกติแล้วคอนโดทั่วไปห้องทิศตะวันตกอาจจะขายยาก  แต่ถ้ามีวิวแม่น้ำอยู่ แม้จะเป็นทิศตะวันตกก็หายห่วงค่ะ  คอนโดริมแม่น้ำแบบนี้  เรื่องวิวสำคัญกว่าทิศมากมายนัก  ส่วนตัวแล้วค่อนข้างชอบตึก A ทางทิศใต้  เพราะแม้จะร้อนแดดบ้าง  แต่นอกจากได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาแล้วยังเห็นวิวส่วนกลางของ The Politan Rive เป็นของแถมด้วย

ส่องโมเดล

ดูทำเลและผังของโครงการกันไปคร่าวๆ แล้ว ไปดูโมเดลกันต่อเลยค่ะ

มุมมองจากทางเข้าหน้าโครงการค่ะ

ภาพรวมจากมุมสูง

อาคารจอดรถอยู่ด้านหน้าโครงการ จริงๆ จะสูง 7 ชั้นนะคะ แต่เค้าทำทำโมเดลให้ดูชั้นเดียว เพื่อให้เห็นการวนรถด้านใน ซึ่งข้อดีที่เอาที่จอดรถส่วนใหญ่ไว้ตรงทางเข้า  ก็ทำให้พื้นที่พักอาศัยด้านในไม่มีรถวิ่งเข้าไปเยอะ  ลดทั้งเสียงและมลพิษค่ะ

ถัดจากที่จอดรถเข้ามา จะเป็นอาคาร C, D ซึ่งเค้าจะทำแค่อาคาร C มาให้ดู ส่วนอาคาร D จะให้ดูเป็นแปลนอาคาร สองอาคารนี้ช่วงที่ติดกับอาคารจอดรถจะค่อนข้างใกล้กันนะคะ ระยะห่างที่ใกล้กันที่สุดอยู่ที่ 6 เมตร แล้วก็จะค่อยๆ กว้างขึ้นเรื่อยๆ พื้นที่ตรงกลางจัดเป็นสวน มีที่นั่งพักผ่อนใต้ต้นไม้เป็นซุ้มเล็กๆ หลายจุด

ถัดเข้ามาอีกเป็นอาคาร A และ B  ในส่วนของอาคาร A จะเห็นเป็นผังให้ดู ส่วนอาคาร B จะมีโมเดลให้ ตรงกลางเป็นพื้นที่สระว่ายน้ำ

มุมนี้มองย้อนกลับเข้าไปจากแม่น้ำเจ้าพระยา  สระว่ายน้ำที่เป็น infinity edge pool ตรงกลาง  เวลาว่ายแล้วมองวิวเจ้าพระยาไปด้วยนี่น่าจะชิลล์นะคะ

พื้นที่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา จะทำเป็นทางเดินเล่นริมน้ำและสวนพักผ่อนค่ะ

เดินมาด้านหลังอาคาร B, C กันบ้าง ด้านนี้เป็นทิศเหนือที่ติดกับคลองบางสร้อยทองที่ไหลเข้ามาจากแม่น้ำเจ้าพระยาค่ะ

รูปด้านของอาคารจะมีผลมาจากการวางผังห้อง ให้มีระเบียงยื่นออกมา ผนังห้องยื่นและยุบออกมาไม่เท่ากัน ระหว่างห้องจะมีฟินสีขาวยื่นออกมา แล้วยังทาสีสลับกันด้วย ทั้งสีขาว – สีเทาอ่อน และสีเทาเข้ม ทำให้ดูมีลูกเล่นบนผนังอาคาร  ไม่ได้ทำมาเรียบๆ

ยอดอาคารเป็น Parapet (การก่อขอบผนังขึ้นมาบังหลังคา) ซึ่งเวลาแหงนหน้ามองก็จะเห็นเป็นเรียบๆ ดูโมเดิร์น  การทำหลังคาแบบนี้ช่วยป้องกันน้ำรั่วในระยะยาวได้ดีกว่าการทำหลังคาคอนกรีตเรียบทั่วไปนะคะ

ภาพรวมของตัวคอนโดค่ะ  มุมนี้จะเห็นสระว่ายน้ำ  ขนาดใหญ่เต็มคอร์ทเลยทีเดียว ทั้งสระผู้ใหญ่ สระเด็ก Shallow Pool และ Bubble Pool

บริเวณช่วงกลางเป็นบ่อน้ำตกแต่ง (River Breeze Pond with sunken seat)

ด้านนี้จะเป็นสวนระหว่างอาคาร  มีซุ้มที่นั่งพักผ่อนหลายจุด

มุมจากเจ้าพระยาค่ะ

มุมนี้จากทิศตะวันออกเฉียงใต้

มุมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

The Politan Breeze จะมีพื้นที่ส่วนกลางระหว่างอาคารเป็นสระว่ายน้ำ ระบบเกลือ ขนาด 30 x 8 เมตร  ลึก 1.4 เมตร  และก็ยังแบ่งพื้นที่ทำเป็นเป็น Shallow Pool กับ Bubble Pool ให้มานั่งเล่นแช่ตัวกันได้สบายๆ  นอกจากนี้ก็มีสระเด็กแยกให้เป็นรูปสีเหลี่ยมขนมเปียกปูน ความยาว 15 เมตร  ส่วนที่กว้างที่สุดกว้าง 5 เมตร  ปกติเดี๋ยวนี้คอนโดทำสระกันมาลึกแค่ 1.2 เมตร ซะเป็นส่วนใหญ่  น้อยที่ที่จะทำให้ลึก 1.4 เมตรนะคะ ตรงนี้ก็ถือว่าให้มาเต็มที่พอสมควร  นอกจากนั้นก็มีสวนส่วนกลางและทางเดินริมแม่น้ำเจ้าพระยา พื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ จะอยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร B ซึ่งมีห้องออกกำลังกาย และห้องสมุด

ทุกอาคารจะมีโถงลิฟต์เป็นของตัวเอง และมีลิฟต์โดยสารอาคารละ 2 ตัว  ใช้รวมกับลิฟต์เซอร์วิสไปด้วยเลย  ความหนาแน่นของการใช้ลิฟต์นั้นอาคาร C กับ D จะมากกว่า A และ B  ก็ด้วยจำนวนยูนิตที่เยอะกว่านั่นเองค่ะ  ระบบรักษาความปลอดภัยมี CCTV ลูกบ้านจะได้ Key Card Access ติดรถ ที่จอดรถได้จอดได้ 343 คัน รวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 58%  เทียบกับราคาก็จัดว่าให้เยอะพอสมควร

ห้องออกกำลังกายใต้อาคาร B ตกแต่งในสไตล์หรูหราค่ะ  ใช้วัสุดที่มีความเงาและสะท้อนได้ดี  คุมโทนละบรรยากาศได้ดีค่ะ

ห้องสมุดใต้อาคาร B เป็น Double Space มีบันไดวนขึ้นไป

Main Lobby มีให้ทุกอาคาร ตกแต่งหรูหราเชียว เหมือนกับคอนโดสูงในเมืองเลย

สวนส่วนกลางที่อยู่ระหว่างอาคาร C, D จะมีมุมให้นั่งเล่นพักผ่อนกระจายกันอยู่

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

ทีนี้เรามาต่อกันที่ผังของอาคารแต่ละชั้นกันบ้าง

The Politan Breeze
อาคาร A

อาคาร A จะอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ทิศเหนือหันหน้าเข้าหาอาคาร B เป็นอาคารที่มีแต่ห้องแบบ 2 ห้องนอน … ที่ชั้น 1 จะมีห้องพักอาศัยอยู่ 6 ห้องติดสระว่ายน้ำ มีที่จอดรถได้ 24 คัน (ไม่รวมจอดซ้อน) ห้องส่วนใหญ่จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน 50 ตารางเมตร ยกเว้นที่หัวมุมริมแม่น้ำจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร

ชั้นสองจะมีห้องพักอาศัยเกือบเต็มชั้น ยกเว้นไว้ตรงที่เป็น Double Volume จากโถงชั้น 1 ค่ะ ชั้นนี้จะมีทั้งหมดอยู่ 17 ห้อง มีห้องแบบ 50 ตารางเมตรเยอะที่สุด รองลงมาคือ 43 ตารางเมตร มีอยู่ 4 ห้อง ห้องแบบ 60 ตารางเมตร มีอยู่ 2 ห้องและได้อยู่ฝั่งติดแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนห้องที่มีน้อยสุดคือแบบ 48 ตารางเมตร มีอยู่แค่ 1 ห้องในแต่ละชั้นค่ะ

ชั้น Typical Floor ชั้น 3 – 8  ความหนาแน่นห้องทั้งหมดอยู่ 18 ห้องต่อชั้นค่ะ

The Politan Breeze
อาคาร ฺB

อาคาร B ก็เป็นอีกอาคารที่อยู่ติดฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยา และมีแต่ห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ  ตัวอาคารวางขนานกับอาคาร A   ใต้อาคารมีที่จอดรถได้ 19 คัน (ไม่รวมจอดซ้อน)  ซึ่งน้อยกว่าอาคาร A เล็กน้อย แต่มีห้องสมุดและห้องออกกำลังกายอยู่ใต้อาคาร มาใช้งานได้สะดวกสุด ไม่ต้องเดินไกล

อาคารนี้จะไม่เป็นเส้นตรงเหมือนกับอาคารอื่นๆ ค่ะ แปลนมีหักมุมเล็กน้อย ซึ่งเป็นผลมาจากเส้นรอบรูปของที่ดิน ชั้น 2 จะมีจำนวนห้องทั้งหมดอยู่ 17 ห้อง ส่วนใหญ่เป็น 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตร รองลงมาคือ 43 ห้องนอน มี 5 ห้อง และห้องแบบ 60 ตารางเมตร มีเฉพาะหัวมุมฝั่งทิศตะวันตกแค่ 2 ห้อง จุดที่ต่างกับอาคาร A คือ ตรงที่อาคาร B ไม่มีห้องแบบ 48 ตารางเมตร ค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 3 – 8 จะมีแปลนเหมือนกับชั้น 2 เลย เพียงแต่มีห้องขนาด 43 ตารางเมตร เพิ่มเข้ามาอีกห้อง ทำให้ชั้นมีห้องทั้งหมด 18 ห้องในแต่ละชั้นค่ะ

The Politan Breeze
อาคาร ฺC

มาที่อาคาร C กันแล้ว อาคารนี้จะมีเฉพาะห้องแบบ 1 ห้องนอนนะคะ  มีห้องอยู่เพียงขนาดเดียวคือ 29 ตารางเมตร เหมือนกับอาคาร D เลย

อาคาร C จะอยู่ฝั่งเดียวกับอาคาร B หันทิศใต้เข้าหาส่วนกลาง ชั้นล่างต่างกับอาคารอื่นๆ ตรงที่ไม่มีห้องพักอาศัยเลย มีแต่โถงล็อบบี้เท่านั้น  แต่ก็เท่ากับว่าอาคารนี้จะมีที่จอดรถมากกว่าอาคารอื่นคะ จอดรถในช่องจอดได้ 42 คัน

ชั้นสองจะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 21 ห้อง ทุกห้องเป็น 29 ตารางเมตร ทั้งหมด

ชั้น 3 – 8 จะมีเพิ่มเข้ามาอีก 2 ห้องค่ะ มีแปลนตรงกับชั้นล่างเลย รวมแล้วมีห้องทั้งหมด 23 ห้องในแต่ละชั้น

The Politan Breeze
อาคาร ฺD

อาคาร D เป็นอาคารสำหรับอยู่อาศัยหลังสุดท้ายแล้ว  อาคารนี้จะมีห้องอยู่ที่ชั้น 1 หันทิศเหนือเข้าหาสวนส่วนกลางและอาคาร C ค่ะ

ชั้น 2 มีห้องแบบ 1 ห้องนอน 29 ตารางเมตรอยู่ 21 ห้องค่ะ เท่ากับอาคาร C เลย

และที่ชั้น 3 – 8 จะมีห้องทั้งหมด 23 ห้องค่ะ

The Politan Breeze
Car Park ฺBuilding

อาคารจอดรถสูง 7 ชั้นอยู่ติดทางเข้าโครงการ มีที่จอดรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ เป็นที่จอดรถแบบ Split Type ค่ะ ชั้นล่างจะมีร้านค้าอยู่ 3 ร้าน ติดถนนเลย

ชั้นบนๆ ก็เป็นที่วนจอดรถแบบวิ่งสวนทางกัน มีลิฟต์ให้ 1 ตัว

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The Politan Breeze จะมีอยู่ 2 แบบหลักๆ คือ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอน โดยอาคาร A, B ที่อยู่ติดแม่น้ำจะมีแต่ห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 43 – 60 ตารางเมตร มีห้องแบบ 50 ตารางเมตรมากที่สุด ส่วนอาคาร C, D จะมีแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร ค่ะ

• 1 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 29 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 43 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ 48 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 50 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 60 ตารางเมตร

แปลนห้องคอนโด The Politan Breeze

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร

แปลนห้องแบบ 1 ห้องนอน ของ The Politan Breeze  จัดออกมาได้โอเคดีค่ะ  ใช้พื้นที่ได้มีประสิทธิภาพดี  อย่างตรงบริเวณที่ไว้ตู้เย็นในครัวกับโต๊ะแป้งและตู้เสื้อผ้าในห้องนอน  ทำผนังเอาไว้ให้พอดีช่อง  ทำให้ไม่เสียพื้นที่ไปโดยเปล่าประโยชน์

พอเปิดประตูเข้ามาในห้อง  พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อนค่ะ  มีระยะดูทีวีกว้างดี ไม่ติดจนเกินไป  ห้องครัวจะได้เป็นครัวปิดติดกับระเบียง ขนาดระเบียงไม่ค่อยใหญ่มากค่ะ แต่ก็พอจะตากผ้าได้  ในส่วนของที่รับประทานอาหารถ้าไม่นั่งทานที่โซฟาก็อาจจะต้องใช้โต๊ะแบบพับเก็บได้  เพื่อประหยัดพื้นที่ค่ะ

ถัดมาเป็นห้องนอนจะมีระเบียงเล็กๆ ให้อีกจุด ระเบียงนี้กว้าง 60 เมตร ยาวประมาณ 1.5 เมตร คงพอจะวางกระถางต้นไม้เล็กๆ ออกไปยืนรับลม หรือเปิดออกไปเพื่อระบายอากาศให้ลมโกรกเข้ามาบ้าง  แต่ขนาดไม่พอจะวางโต๊ะหรือเก้าอี้ไว้ตรงระเบียง  ตัวห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกและแห้งชัดเจนค่ะ  ขนาดห้องน้ำจัดว่าให้มากว้างขวางดี

แปลนห้องคอนโด The Politan Breeze

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43 ตารางเมตร

ห้องคอนโด The Politan Breeze ขนาด 43 ตร.ม. นี้เป็นห้องมีหน้ากว้าง จัดให้มีห้องนอนอยู่ขนาบห้องนั่งเล่น มีห้องนั่งเล่นและ pantry ครัวอยู่ตรงกลาง ได้ระเบียงยาว สามารถออกไปที่ระเบียงจากห้องนั่งเล่นหรือห้องนอนใหญ่ก็ได้  ระเบียงเชื่อมต่อกันหมดโดยที่พื้นที่ระเบียงตรงด้านนอกห้องนั่งเล่นสามารถวางโต๊ะและเก้าอี้เล็กๆ เอาไว้นั่งริมระเบียงได้ด้วย

การวางฟังก์ชั่นโดยรวมนั้นลงตัวดีนะคะ  ห้องนอนเล็กวางเตียงชิดผนัง 3 ด้านจะลำบากเวลาเปลี่ยนผ้าปูที่นอนหน่อย  สำหรับครัวห้องนี้เป็น pantry ครัวแบบเปิด  ได้เคาน์เตอร์ครัวรูปตัว L เข้ามุม  มีชุดโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ติดกับเคาน์เตอร์ นั่งได้ 2 คน

แปลนห้องคอนโด The Politan Breeze

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 48 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 ห้องนอน 48 ตร.ม. มีการจัดวางห้องเหมือนกับแบบ 43 ตร.ม. เลยค่ะ ที่จัดให้ห้องนอนอยู่ชิดฝั่งซ้ายและขวาของห้อง และมีพื้นที่ pantry ครัวและห้องนั่งเล่นอยู่ตรงกลาง ลำดับการเข้าห้องต่างๆ เหมือนกันเลย เพียงแต่ว่าจะความกว้างของห้องจะได้มากกว่าแบบ 43 ตร.ม. ซึ่งจะทำให้รายละเอียดการใช้งานเล็กๆ น้อยๆ ต่างกันไป  อย่างเช่นห้องนอนเล็กนั้นจัดวางเตียงได้หลวมกว่าค่ะ  ห้องแบบนี้จะมีอยู่ที่อาคาร A เท่านั้น  และเป็นห้องที่มีจำนวนน้อยที่สุดในโครงการด้วย มีอยู่แค่ 7 ยูนิต

แปลนห้องคอนโด The Politan Breeze

แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 50 ตารางเมตร

ห้องแบบ 50 ตารางเมตร เป็นแบบที่มีเยอะสุดในอาคาร A และ D ค่ะ  แบบนี้จะมี 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ แต่พื้นที่ระเบียงจะสั้นกว่าแบบ 43 และ 48 ตร.ม. และจะมีระเบียงเฉพาะตรงส่วนนั่งเล่นเท่านั้น  ห้องนอนทั้ง master bedroom และห้องนอนเล็กสามารถวางเตียง Queen Size ได้ทั้งคู่ (จริงๆ ถ้าจะวางเตียง king size ในห้องนอนใหญ่ก็พอไหว)  สเปซในห้องจัดมาหลวมๆ ค่ะ  ได้พื้นที่ pantry ครัวค่อนข้างใหญ่ ใครที่ชอบทำอาหารคงถูกใจ  ผนังกั้นระหว่างห้องนอนใหญ่และห้องนั่งเล่นนั้นเวลาต่อเติม จะไปเจาะ ไปทุบผนังไม่ได้นะคะ เพราะว่าเป็นผนังโครงสร้างรับน้ำหนักของอาคาร  ไม่ได้แค่เป็นผนังก่อกั้นห้องเฉยๆ

แปลนห้องคอนโด The Politan Breeze

แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60 ตารางเมตร

สุดท้ายเป็นแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาดใหญ่สุดในโครงการคือ 60 ตารางเมตรค่ะ แน่นอนว่าเป็นห้องราคาแพงสุดด้วย มีการจัดวางห้องคล้ายกับแบบ 50 ตารางเมตรเลย แต่ที่ได้เพิ่มมาคือความยาวของระเบียง ที่จะเชื่อมห้องห้องใหญ่ ห้องนอนเล็ก และห้องนั่งเล่นเข้าด้วยกัน  ที่ห้องนอนทั้ง 2 ห้องได้กระจกเข้ามุมเพื่อช่วยเปิดมุมมองให้กว้างขึ้น  เพราะว่าห้องนี้เป็นห้องที่อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยามากที่สุด (หัวมุมอาคาร A และ B)  จากห้องนี้ก็จะมองเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาสวยแน่นอน

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร และแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 43 ตารางเมตร  ความสูงฝ้าของห้องโดยทั่วไปนั้นอยู่ที่ 2.55 เมตร ได้ห้องแบบ Fully Fitted ได้ชุดครัวของ Modernform/Starmark หรือเทียบเท่า, ฉากกั้นอาบน้ำ, เครื่องปรับอากาศ Toshiba หรือเทียบเท่า, สุขภัณฑ์และวอลเปเปอร์ แต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน ชุด pantry ครัวจะไม่มีเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควันให้นะคะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Politan Breeze

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 29 ตารางเมตร

เข้ามาในห้องแบบ 1 ห้องนอนแล้ว ส่วนแรกที่เห็นจะเป็นห้องนั่งเล่นเลยค่ะ ประตูทางเข้าอยู่ตรงกับประตูห้องนอนพอดีเลย ส่วนประตูทางซ้ายมือจะเป็นประตูบานเลื่อนเข้าห้องครัว

พื้นที่ห้องนั่งเล่นไม่อยู่ติดหน้าต่าง  ครัวที่อยู่ติดด้านนอกจะระบายอากาศได้ดี

มุมนั่งพักผ่อนดูทีวี

ได้ความกว้างของห้องมาดี ทำให้ระยะดูทีวีไม่ใกล้จนเกินไป ติดทีวีใหญ่ได้สบายค่ะ

ด้านข้างโซฟาจะติดกับห้องครัว ทำประตูบานเลื่อนอะลูมิเนียมกั้นไว้ให้  เปิดได้ทางเดียว  ความกว้างประตูประมาณ 80 ซม.

เข้ามาในครัวมองกลับไปที่ห้องนั่งเล่น ความกว้างของห้องครัวก็ยืนทำครัวได้สบายๆ  มีตู้เย็นอยู่ทางซ้ายมือ  พื้นที่ท็อปเคาท์เตอร์ไม่เยอะเท่าไหร่

ถัดจากห้องครัวออกมาจะเป็นพื้นที่ระเบียงค่ะ ไว้วางเครื่องซักผ้ากับตากผ้าได้  มีพื้นที่ตากผ้าเหลือประมาณ 90 ซม.

เข้ามาในห้องนอนกันบ้าง

หัวเตียงตรงกับทางเข้าห้องน้ำ มีความกว้างของทางเดินประมาณ 1 เมตร

ในห้องน้ำให้กระเบื้องทั้งพื้นและผนังแบบแผ่นใหญ่ ทำให้ห้องน้ำดูดีกว่าห้องน้ำคอนโดทั่วไปในระดับราคาเดียวกัน

มองกลับออกมาที่ห้องนอน ปลายเตียงมีพื้นที่พอวางโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้าได้สบายๆ

อีกข้างนึงของเตียงค่ะ มีความกว้างเหลือไม่เยอะ แต่ก็พอเดินได้  เปลี่ยนผ้าปูเตียงได้

ห้องนอนจะเปิดมาที่ระเบียงได้ ความกว้างประมาณ 60 ซม. ยาว 1.5 เมตร  พอออกไปยืนสูดอากาศได้  หรือวางของตกแต่งเล็กน้อย  เช่น กระถางต้นไม้ หรือพร็อพต่างๆ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Politan Breeze

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้ามาปุ๊บ เห็นพื้นที่นั่งเล่นก่อนเลยค่ะ

pantry ครัว เป็นรูปตัว L เก็บของได้เยอะ ในห้องตัวอย่างทำผิว hi-gloss แต่วัสดุของจริง ตัวหน้าบานจะเป็นผิวลามิเนตนะคะ

ห้องน้ำอยู่ใกล้ประตูทางเข้า แบ่งส่วนเปียกแห้งชัดเจน  ที่พื้นอาบน้ำกว้างขวางดี

จากห้องนั่งเล่นเปิดออกไปตรงระเบียงด้านนอกได้

ออกมายื่นที่ระเบียงแล้วมองกลับเข้าไป

ออกมาที่ระเบียงแล้วมองไปทางฝั่งห้องนอนใหญ่ค่ะ ระเบียงจะยาวเชื่อมถึงกัน ความกว้างระเบียงช่วงนี้จะกว้างประมาณ 100 ซม.

เข้ามาในห้องนอนใหญ่ต่อค่ะ

มีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งวางอยู่ข้างเตียง

พื้นที่ข้างเตียง

พื้นที่เหลืออีกด้าน

ออกมาที่ระเบียงข้างห้องนอนใหญ่ แล้วมองกลับไปที่หน้าห้องนั่งเล่นค่ะ ความกว้างระเบียงบริเวณนี้จะกว้าง 60 ซม.

มาที่ห้องนอนเล็กกันบ้าง ห้องนี้วางเป็นเตียง 3.5 ฟุต เอาไว้ให้ดูค่ะ มีโต๊ะเครื่องแป้งและตู้เสื้อผ้า 

แต่ความกว้างของห้องนี้ไม่เยอะเท่าไหร่  พอดีความความยาวของเตียงเลย

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมก็ให้มาค่อนข้างดีค่ะ ดูคุ้มค่าและดูดีกว่าที่อื่นๆ ที่มีระดับราคาใกล้เคียงกัน พื้นลามิเนตหนา 8 มม.นำเข้าจากเยอรมัน, ได้เคาน์เตอร์ครัวจากแบรนด์ Starmark หรือ Modernform หรือเทียบเท่า เตาและเครื่องดูดควัน ยี่ห้อ Teka หรือ Franke หรือเทียบเท่าค่ะ แต่ห้องแบบ 1 ห้องนอนจะไม่ได้เตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน

ถ้าเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ทั้งขนาด 43, 48 และ 50 ตร.ม. จะได้เตาไฟฟ้า 2 หัว  ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 และ 60 ตร.ม. จะได้เตาไฟฟ้าแบบ 4 หัวและได้เครื่องอบ Combi Built-in มาด้วยเลย  สำหรับห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์ยี่ห้อ Cristina  ฝักบัวแบบ Rain Shower เหมือนกันทุกห้อง  กระเบื้องในห้องน้ำเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซ.ม.

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material) ค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

เคาน์เตอร์ครัวของห้องแบบ 2 ห้องนอน 43, 48 ตารางเมตร วัสดุไม้ปิดผิวด้วยลามิเนตลายหนังสีน้ำตาล Top เป็นหินสังเคราะห์สีขาว

เปิดให้ดูแบบนี้ว่ามันเก็บของได้เยอะดี  ทำช่องสำหรับเก็บตู้เย็นเรียบร้อย

ลิ้นชักเป็นแบบ Soft Close มีช่องแบ่งของให้ด้วย

เตาไฟฟ้าได้ของยี่ห้อ Teka หรือ Franke หรือเทียบเท่า ถ้าเป็นแบบห้องแบบ 50 และ 60 ตร.ม. จะได้เครื่องอบ Combi Built-in ด้วยนะคะ

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 43, 48 และ 50 ตร.ม. จะได้เตาไฟฟ้า 2 หัวแบบนี้ค่ะ

เครื่องดูดควัน ยี่ห้อ Teka หรือ Franke หรือเทียบเท่า

อ่างล้างจานหลุมเดียว แบบฝังใต้เคาน์เตอร์ ยี่ห้อ Teka หรือ Franke หรือเทียบเท่า

ห้องแบบ 2 ห้องนอนจะสามารถวางเครื่องซักผ้าไว้ใต้เคาน์เตอร์ครัวได้

ด้านบนมีตู้แขวนสำหรับเก็บของ  (แต่หน้าบานเป็นลามิเนตนะ ไม่ใช่ hi-gloss แบบนี้)

เก็บของได้พอสมควรค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

กระจกห้องน้ำได้บานใหญ่เต็มบาน

ก๊อกน้ำก้านโยกทรงสี่เหลี่ยมดูโมเดิร์น ยี่ห้อ Cristina ด้านหลังมีชั้นวางของหินอ่อนแท้

ชุดอ่างล้างมือ ทรงสี่เหลี่ยมทำจากเรซิน เป็นวัสดุกันน้ำ ยี่ห้อ Cristina สีขาว มีที่เก็บของใต้อ่าง  บน Top เคาน์เตอร์ทำจากหินสังเคราะห์สีขาว

พื้นที่อาบน้ำ ลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม. มีกระจกกั้นอาบน้ำให้เรียบร้อย ปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีเทาขนาด 60×60 ซ.ม.

กระจก tempered กั้นส่วนอาบน้ำเป็นบานเปลือย

โถสุขภัณฑ์ชิ้นเดียวสีขาว ยี่ห้อ Cristina  ดูดีทีเดียวค่ะ

ฝักบัวได้ Rain Shower พร้อมที่วางสบู่ทำจากหินอ่อน  ผนังด้านหลังติดโมเสคหินอ่อน

หน้าตาฝักบัว ทรงกระบอก

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

บัวเชิงผนัง PVC ลายไม้

ผนังติดวอลเปเปอร์ให้

ตัวปิดวงกบประตูทำจาก uPVC สีเทาน้ำตาล  เพื่อเก็บความเรียบร้อย แต่บานประตูไม่มีให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ

สวิตซ์ไฟ สีขาว ยี่ห้อ Siemens

พื้นห้องนั่งเล่นและห้องนอนปูพื้นไม้ลามิเนต หนา 8 มม. ดูดีค่ะ ผิวสัมผัสดี ส่วนด้านขวาเป็นพื้นกระเบื้องแกรนิดโต้บริเวณห้องครัว ( เฉพาะแบบ 2 ห้องนอน ) ปูพื้นกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60 x 60 ซม. ระหว่างสองวัสดุก็มีคิ้วไม้ปิดรอยต่อผิวพื้นให้เรียบร้อย

พื้นครัวของห้องนอนแบบ 1 ห้องนอน ปูกระเบื้อง ขนาด 30×30 ซม. สีเทา ด้านนอกระเบียงเป็นสีเทาเข้มเลอะยากกว่า

ขอบประตูบานเลื่อนจากภายในห้องออกไปที่ระเบียง ยกสูงขึ้นมาประมาณ 10 ซม.

พื้นระเบียงปูกระเบื้องเซรามิคสีเทา ขนาด 30×30 ซ.ม.

ราวกันตกสีดำ สไตล์โมเดิร์นเหมือนที่ทำกันทั่วไป ทำจากแผ่นเหล็กทาสีดำ  ตรงราวจับเป็นเหล็กกล่องค่ะ

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นวันที่แวะเข้าไปทำรีวิว ( 22 มิถุนายน 2559 ) แบบ 1 ห้องนอนเริ่มต้นที่ 1.65 ล้านบาท  หรือ 57,000 บาท/ตารางเมตร ราคาห้องอื่นๆ โครงการยังไม่มีราคาออกมาชัดเจน  บอกเป็นช่วงราคาคร่าวๆ แค่นั้น  ซึ่งภาพรวมของราคาทางเราจะเอามาอัพเดตกันอีกทีนะคะ

ราคา ณ วันที่ 22 มิถุนายน 2559

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน พื้นที่ 29 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1,650,000 บาท

2 ห้องนอน N/A

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 40,000 บาท

2 ห้องนอน 43 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 60,000 บาท

2 ห้องนอน 48 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 60,000 บาท

2 ห้องนอน 50 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 80,000 บาท

2 ห้องนอน 60 ตารางเมตร จอง + ทำสัญญา 100,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร งวดที่ 1-22 งวดละ 5,999 บาท งวดพิเศษ 2 งวด 50,000 บาท

2 ห้องนอน 43 ตารางเมตร งวดที่ 1-22 งวดละ 12,000 บาท งวดพิเศษ 2 งวด 60,000 บาท

2 ห้องนอน 48 ตารางเมตร งวดที่ 1-22 งวดละ 15,000 บาท งวดพิเศษ 2 งวด 60,000 บาท

2 ห้องนอน 50 ตารางเมตร งวดที่ 1-22 งวดละ 15,000 บาท งวดพิเศษ 2 งวด 60,000 บาท

2 ห้องนอน 60  ตารางเมตร งวดที่ 1-22 งวดละ 30,000 บาท งวดพิเศษ 2 งวด 60,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าธรรมเนียมการโอน – ชำระฝ่ายละครึ่ง ( รวม 2% ของราคาประเมิน )
ค่าส่วนกลาง 60 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 2 ปี ในวันโอนกรรมสิทธิ์ )
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 520 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์ )

เงื่อนไขอื่นๆ :

หากเปลี่ยนชื่อก่อนทำสัญญา
– 1 ห้องนอนเสีย 30,000 บาท
– 2 ห้องนอนเสียค่าธรรมเนียม 60,000 บาท

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

N/A

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

การเดินทางด้วยรถยนต์จากคอนโด The Politan Breeze สามารถใช้ถนนสนามบินน้ำไปทางกระทรวงพาณิชย์ เพื่อไปออกถนนติวานนท์ได้  ถ้าจะออกรัตนาธิเบศร์ก็อยู่ใกล้ในระยะเดินถึง  ความเจริญของถนนเส้นนี้มีพอประมาณ  การมีกระทรวงพาณิชย์ สนามบินน้ำ อยู่เลยจากโครงการไปไม่ไกล  ทำให้ทำเลนี้ไม่เงียบเหงา

ถ้าออกไปทางถนนรัตนาธิเบศร์ วิ่งข้ามแยกไปจะไปท่าน้ำนนท์เข้าไปในตัวเมืองนนทบุรีได้  ถ้าเลี้ยวซ้ายเข้าถนนรัตนาธิเบศร์ก็จะผ่านแยกแคราย  ถ้าจะข้ามสะพานพระนั่งเกล้าไปทางบางใหญ่ก็จะต้องไปวนกลับรถมา

หากไม่ได้ใช้รถยนต์ส่วนตัวก็มีรถสาธารณะและรถมอเตอร์ไซต์วิ่งอยู่เสมอ เนื่องจากอยู่ใกล้กระทรวงพาณิชย์ แต่ถ้าจะให้สะดวกกว่านั้นต้องใช้รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วงสถานีสะพานพระนั่งเกล้า สามารถเดินไปยังสถานีได้  ถ้าใช้ทางลัดเดินผ่านวัดน้อยนอกออกมาระยะทางก็จะแค่ 350 เมตร

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

นอกจากรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่กำลังจะเปิดใช้ในปีนี้ ( สิงหาคม 2559 ) ในอนาคตจะมีท่าเรือตรงสะพานพระนั่งเกล้าเพื่อใช้เดินทางได้อีกทางนึง ทำให้ทำเลนี้มีทางเลือกในทางเดินทางหลายทางมากขึ้น มีทั้งรถ เรือ รถไฟฟ้า และในอนาคตจากตัวสถานีรถไฟฟ้าก็จะมี Sky Walk ข้ามถนนรัตนาธิเบศร์มาลงฝั่งโครงการให้ได้ใช้กันด้วย การที่มีโครงการด้านการเดินทางครบถ้วนขนาดนี้ การเติบโตของเมืองก็จะตามมาเรื่อยๆ เองค่ะ จะเห็นได้จากราคาคอนโดหลายโครงการบนถนนรัตนาธิเบศร์ที่ขึ้นไปรอกันนานแล้ว

อ่านรีวิวเพิ่มเติม คอนโดริมแม่น้ำเจ้าพระยา กับ 3 สถานีรถไฟฟ้าข้ามแม่น้ำ บทวิเคราะห์ทำเล ศักยภาพ และการเติบโตในอนาคต >>> คลิกที่นี่

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

การวางอาคารของโครงการ  เดอะ โพลิแทน บรีซ จัดให้อาคารจอดรถสูง 7 ชั้น อยู่ด้านหน้าใกล้ทางเข้า แล้วเอาอาคารพักอาศัย 4 อาคารสูง 8 ชั้น ไว้ด้านใน มีคอร์ทเป็นสวนส่วนกลางและสระว่ายน้ำที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา การแบ่งโซนพื้นที่จอดรถส่วนใหญ่แยกอาคารเอาไว้ก็ทำให้ลดเสียงและควันรถไปได้มาก แต่ถ้าเป็นคนแก่หรือคนป่วยที่เดินไม่คล่องก็ยังมีพื้นที่จอดรถกระจายตามใต้อาคารชั้น 1 อยู่ในทุกอาคาร

อาคารพักอาศัยทั้ง 4 อาคารวางตัวในแนวตะวันออกและตะวันตก  ทำให้มีแต่ห้องพักอาศัยที่หันหน้าไปทางทิศเหนือและทิศใต้เป็นหลัก  วิวของตึก A และ B ด้านในจะเห็นคอร์ทตรงกลางและสระว่ายน้ำ  ด้านนอกจะเห็นโค้งแม่น้ำเจ้าพระยา  ส่วนด้านข้างที่เป็นที่ดินว่างเปล่าอยู่ถ้าตามแผนปัจจุบันก็จะมีคอนโด low-rise อีกโครงการ เป็นของเอเวอร์แลนด์เหมือนกัน  สภาพแวดล้อมเลยคงไม่ได้มีอะไรอย่างอื่นไม่ดีมาปะปน

โครงการ The Politan Breeze จะจัดให้อาคาร A, B มีแต่ห้องแบบ 2 ห้องนอน ส่วนอาคาร C, D มีเฉพาะแบบ 1 ห้องนอน แบ่งกันชัดๆ ไปเลย โดยอาคาร A, B อยู่ติดริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนอาคาร C, D จะอยู่ช่วงกลางๆ ของที่ดิน ด้านการวางแปลนนั้นจัดมาได้โอเคสำหรับ 1 ห้องนอน 29 ตารางเมตร   มีการแยกระเบียงออกเป็น 2 จุด  เวลาตากผ้าก็เอาไว้ตากตรงระเบียงที่ติดกับครัว  แยกส่วนกันระเบียงในห้องนอนชัดเจน  ดูเป็นสัดส่วนดี

ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 43, 48 ตารางเมตร ภาพรวมก็จัดออกมาได้ลงตัวดี  จุดเด่นคือได้ระเบียงที่ยาวเชื่อมห้องนั่งเล่นกับห้องนอนใหญ่ แบบ 2 ห้องนอนขนาด 50 ตารางเมตร  ฟังก์ชั่นก็จะเหมือนกับแบบ 60 ตารางเมตร  ต่างกันแค่ความยาวของระเบียงและขนาดห้องนอน  ซึ่งแบบ 60 ตารางเมตร นี้จะมีอยู่ที่อาคาร A, B ชั้นละ 2 ห้อง เท่านั้น  เป็นห้องท็อปสุดในโครงการเห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยา

ด้านวัสดุของคอนโด เดอะ โพลิแทน บรีซ นั้นเป็นห้องเปล่าไม่มีเฟอร์นิเจอร์  แต่ให้วอลเปเปอร์, เคาน์เตอร์ pantry ครัว, ชุดสุขภัณฑ์ และแอร์ ซึ่งแบบ 1 ห้องนอนและ 2 ห้องนอนต่างกันแค่ 1 ห้องนอนไม่ได้เตาและเครื่องดูดควัน ชุดครัวที่ได้ก็เป็นของ Starmark หรือ Modernform หรือเทียบเท่า ส่วนห้องน้ำให้มาดูดีมากทีเดียวเพราะปูกระเบื้องแผ่นใหญ่ และให้เป็น Rain Shower มีตกแต่งด้วยโมเสคหินอ่อน รวมแล้ววัสดุถือว่าดูดีนะคะ

ตัวคอนโด The Politan Breeze มีล็อบบี้ให้ทุกอาคารแยกกัน สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 8 x 30 เมตร ลึก 1.4 เมตร, สระเด็ก, Shallow Pool, Bubble Pool, พื้นที่นั่งเล่นริมน้ำ, บ่อน้ำ River Breeze Pond with sunken seat, jogging track และสวนพักผ่อนให้เดินเล่นริมแม่น้ำเจ้าพระยา ส่วนอาคาร B จะสบายหน่อยเพราะมีห้องฟิตเนส ห้องสมุดอยู่ที่ชั้น 1 เลยค่ะ

ลิฟต์มีให้อาคารละ 2 ตัว ตัวนึงเป็นทั้ง Service Lift และ Passenger Lift ซึ่งเป็นปกติของคอนโด low-rise  ยูนิตในอาคาร A, B มีจำนวนห้องน้อยกว่า  ความหนาแน่นของการใช้ลิฟต์จึงน้อยกว่า  ที่จอดรถได้ 343 คันรวมจอดซ้อนคัน หรือประมาณ 58% ถือว่าโอเคเลยเมื่อเทียบกับราคาและเป็นคอนโดที่อยู่ไม่ได้ไกลจากรถไฟฟ้ามากนัก

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆค่ะ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ