รีวิวในกรุงเทพและเขตปริมณฑลรอบๆมาติดๆกันหลายโครงการแล้ว เปลี่ยนบรรยากาศไปดูโครงการคอนโดตากอากาศชายทะเลกันบ้างครับ รีวิวนี้จะพาไปดูโครงการ Celeste Huahin (เซเลสเต้ หัวหิน) เป็นคอนโด low-rise 4 ชั้น และ 7 ชั้น ของดีเวลลอปเปอร์ชื่อ “เขาเต่า เบย์วิว” แต่ถึงแม้ว่าชื่อของโครงการจะห้อยท้ายด้วยคำว่า “หัวหิน” แต่จริงๆแล้วตัวโครงการอยู่ “เขาเต่า” นะครับ ที่ตั้งก็อยู่ใกล้ๆกับหลายๆโครงการของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ๆอย่าง วันเวลา (Wan Vayla) ของแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์, Las Tortugas, เชโลน่า (Chelona) และ บ้านนับคลื่น ของทางแสนสิริ นอกจากนั้นก็มี Malibu ของทาง M Talay
Celeste Huahin เซเลสเต้ หัวหิน เขาเต่า
· 22 min readว่าแล้วก็ไปดูกันดีกว่าว่า Celeste จะทำออกมาเป็นยังไงครับ
Celeste Huahin (เซเลสเต้ หัวหิน)
- เจ้าของโครงการ >>> เขาเต่าเบย์วิว รีสอร์ท
- ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยหัวหิน 101 (เขาเต่า)
- ขนาดที่ดิน >>> 9-3-98.6 ไร่
- จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 4 ชั้น 3 อาคาร / 7 ชั้น 3 อาคาร
- ประเภทห้อง >>> 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน / 3 ห้องนอน / Penthouse
- ขนาดห้อง >>>
- 1 ห้องนอน 39.4-48.0 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 69.0-87.0 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน 122 ตารางเมตร
- Penthouse 156 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> 321 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 60% ร
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.9 ล้านบาท (ห้อง 39.4 ตารางเมตร ณ วันที่ 13/6/2014)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>>
- ราคาเฉลี่ยประมาณ 73,xxx – 106,xxx บาท/ตารางเมตร
- ราคาเฉลี่ยประมาณ 155,xxx บาท/ตารางเมตร สำหรับ Penthouse
- พิกัด GPS >>> 12.465720, 99.973989
จากหัวหินก็ใช้ถนนเพชรเกษม ขับตรงมาเรื่อยๆครับ
สักพักนึงพอเลยสวนสนประดิพัทธ์มา ก็จะเจอกลุ่มทาวน์โฮมและอาคารพาณิชย์ทางขวามือ นั่นแปลว่าใกล้จะถึงทางเข้าเขาเต่าแล้ว
เลี้ยวเข้าเขาเต่าที่ตรงนี้เลย
เข้าซอยหัวหิน 101 มานิดนึงจะเจอทางรถไฟ ก็ให้ขับรถตรงข้ามทางรถไฟมาเลย
ข้ามทางรถไฟมาก็จะเจอสำนักงานขายอยู่ตรงหน้าเลยครับ ถึงแล้ว!!!
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
หลังจากเข้าซอยหัวหิน 101 มาแล้ว จะมีถนนเล็กๆแยกซ้าย-ขวา ตัวสำนักงานขายจะอยู่หัวมุมทางแยกเลย แต่ตัวที่ดินที่เป็นที่ตั้งของคอนโด Celeste หัวหิน จะต้องเลี้ยวไปทางขวานะครับ ถ้าเลี้ยวขวาแล้วเลยตัวโครงการไปหน่อยก็จะเป็นคอนโดบ้านนับคลื่น (หมายเลข 1) ของทางแสนสิริ ซึ่งสร้างเสร็จไป 5 ปีแล้ว รั้วของคอนโดบ้านนับคลื่นจะขนานไปกับแนวเขตที่ดินของคอนโดเซเลสเต้เลย โดยจะมีถนนสาธาณะเล็กๆกันอยู่
ถ้าเลี้ยวซ้ายตรงหัวมุมทางแยกหน้าสำนักงานขายจะมีที่ดินว่างๆแปลงนึงซึ่งติดกับที่ดินของเซเลสเต้ (หมายเลข 2) ตรงนี้เป็นที่ดินของเจ้าของเดียวกันซึ่งจะแบ่งเอาไว้พัฒนาต่อในอนาคตครับ ถัดไปอีกหน่อยก็เป็นคอนโด Las Tortugus (หมายเลข 3) และ Chelona (หมายเลข 4) ของทางแสนสิริเช่นกันทั้งคู่ เลยไปอีกหน่อย (หมายเลข 5) ก็เป็น Malibu เขาเต่า ของทาง M talay ซึ่งเป็นของตระกูลมาลีนนท์ นอกจากนั้นเลยไปอีกนิดก็จะเป็น คอนโดวันเวลา (Wan Vayla) ของทางแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ (หมายเลข 6)
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
ขับรถวนดูคอนโดอื่นๆรอบๆกันครับ
อันนี้ Las Tortugus ของ Sansiri
บ้านนับคลื่น ของแสนสิริเช่นกัน
Chelona เขาเต่า
Malibu เขาเต่า
วันเวลา เขาเต่า โครงการนี้อยู่สบายเคยรีวิวไว้แล้วด้วยเช่นกัน
คนมาพักผ่อนที่เขาเต่าต้องอย่าลืมซื้อหาของกินของใช้มาจากในตัวเมืองหัวหินนะครับ มาตรงนี้มีแค่เซเว่นที่เดียว
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
สำนักงานขายดูๆไปแล้วเหมือนเรือใบแหะ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ตัวที่ดินของโครงการในแง่กรรมสิทธิ์นั้นไม่ได้ติดทะเลโดยตรงเพราะจะถูกกั้นด้วยทางสาธารณะเล็กๆครับ แต่พื้นที่ถัดจากแนวทางสาธารณะนี้ก็เป็นพื้นที่ที่จดภาระจำยอมให้กับลูกบ้านโครงการเซเลสเต้ หัวหิน ใช้ผ่านเป็นทางลงหาดได้ไม่มีปัญหา ส่วนพื้นที่ข้างเคียงก็เป็นที่ดินเจ้าของเดียวกันครับ ตรงจุดที่มีถนนสาธารณะผ่านกลางตามผังนั้นจะมีป้อม รปภ. กั้นเอาไว้ให้ด้วย ซึ่งทางตรงนี้ถึงแม้จะเป็นทางสาธารณะแต่ก็ไม่น่าจะมีคนใช้งานสัญจรผ่านมากเนื่องจากถูกล้อมด้วยพื้นที่ของโครงการนั้นเอง
นอกจากนั้นส่วนอื่นๆทางทิศเหนือก็เป็นที่ดินเปล่าเจ้าของเดียวกันอย่างที่เล่าไปแล้ว ส่วนทางทิศใต้ก็ติดกับคอนโดบ้านนับคลื่นของแสนสิริ โดยมีถนนสาธารณะกั้นกลาง ระยะห่างคร่าวๆ(โดยประมาณ)ระหว่างตัวตึกทั้งสองโครงการก็ 20 เมตรครับ (อันนี้โครงการบอกมานะ)
นอกจากประเด็นเรื่องแนวขอบเขตที่ดินแล้ว จุดที่น่าสนใจของผังโครงการนี้คือตัวคอนโดนั้นจะเสมือนลอยอยู่กลางน้ำครับ ยูนิตชั้นล่างนั้นเป็น Pool Access ทั้งหมด ใครชอบเล่นน้ำน่าจะถูกใจ
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ตัวคอนโดนั้นจะมีทั้งหมด 6 ตึก ตั้งชื่อเรียกเป็น A1, A2, A3 เป็น 3 ตึกด้านหน้าฝั่งใกล้ทะเลซึ่งเป็นตึก 4 ชั้น และ B1, B2, B3 เป็น 3 ตึกด้านหลังฝั่งใกล้ทางเข้าโครงการ ซึ่งเป็นตึก 7 ชั้นครับ ลักษณะการวางตัวอาคารนั้นไม่ได้เอาห้องมาวางเรียงเข้าแถวกันตามปกติ แต่จะบิดแปลนเอียงเพื่อให้เปิดมุมมองเห็นทะเลได้เยอะขึ้น
ทีนี้สำหรับเรีื่องทิศทางแดดและความร้อนถ้าดูจากทิศของแดดแล้ว แน่นอนว่าห้องทางใต้ของทุกตึกจะโดนแดดค่อนข้างเยอะ เพียงแต่การที่คอนโดทำระเบียงห้องออกมาค่อนข้างกว้างก็น่าจะช่วยทำหน้าที่เป็นแผงบังแดดได้ส่วนนึงช่วยไม่ให้แดดโดนตรงๆมากนัก และสำหรับห้องที่หันหน้าเข้าหาคอร์ทตรงกลาง ตึก A1 และ B1 จะได้ทั้งร่มและสระว่ายน้ำ ส่วนถ้าเป็น A2 และ B2 จะได้เฉพาะสระ ส่วนแดดก็จะร้อนหน่อยครับ ส่วนตึกหลังสุด(B3) ด้านตะวันตกที่โดนแดดโครงการทำเป็น Single Corridor ตรงนี้เลยไม่มีผลอะไรกับเรื่องความร้อนจากแดดบ่ายทิศตะวันตกครับ
ส่องโมเดล
มาดูตัวโมเดลกันครับ มุมนี้ถ่ายจากด้านหลังโครงการที่เป็นทางเข้า (ตึก B3) ชั้นล่างตรงทางเข้านั้นจะทำเป็น Double Volume Space สำหรับเข้ามาในโครงการ ส่วนด้านหลังก็เป็น Single Corridor อย่างที่เล่าไปแล้ว แต่ดูจากโมเดลยังไม่รู้ว่าเป็นวัสดุอะไรเพราะติดมาในโมเดลเป็นผนังทึบสีน้ำตาลเลย จริงๆตรงนี้ถ้าดีไซน์ให้มีแนวช่องเปิดระบายอากาศอีกหน่อยก็น่าจะดูโปร่งขึ้นครับ มุมด้านหลังนี้เลยดูทึบๆไปหน่อย
ดูรวมๆจากอีกฝั่งนึง
มุมนี้มองจากฝั่ง Las Tortugus ครับ
ซูมเข้าไปดูโมเดลใกล้ๆ โทนสีหลักๆจะเป็นสีขาวโพลนทั้งตึก ส่วนกระจกถ้าดูในรูปทัศนียภาพ (perspective) ที่โครงการให้มาจะใช้กระจกสีฟ้าหมดเลย คงกะให้ออกมาเป็นโทนขาว-ฟ้าอย่างเดียว
3 ตึกด้านหลังจะเป็นตึก 7 ชั้น ส่วนด้านหน้าจะแค่ 4 ชั้นครับ
ชั้นล่างทุกยูนิตเป็น Pool Access คอร์ทตรงกลางสระว่ายน้ำมีทางเดินมาเชื่อมกัน น้ำในแต่ละส่วนทั้ง 4 ส่วนนี้ถ้าดูรวมๆจะเป็นผืนเดียวกัน แต่ไม่ได้ทำการเชื่อมต่อกันนะครับ การดีไซน์โดยมีจุดพักตรงกลางสำหรับเชื่อมต่อทางเดินแต่ละส่วนแบบนี้ช่วยเบรกไม่ให้รู้สึกว่าทางเดินย๊าว..ยาววว…จนเกินไป ส่วนการที่แบ่งซอยสระออกเป็น 4 ส่วนนั้นก็แน่นอนว่านอกจากเรื่องการออกแบบแล้ว การบำรุงรักษาในอนาคตนั้นง่ายกว่าการรวมเป็นสระใหญ่ทีเดียวแน่ๆ เพราะสามารถปิดซ่อมเป็นส่วนๆได้
ระเบียงนั้นบิดมุมเข้าหาทะเลครับ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางนอกจากสระว่ายน้ำแล้วก็มีห้องสมุดกับฟิตเนสครับ โครงการยังไม่มีรูปมาให้ดูว่าในส่วนของห้องสมุดกับฟิตเนสดีไซน์ออกมาเป็นยังไง ตรงนี้เลยขอข้ามๆไปไม่ได้เล่าเจาะลึกเยอะครับ
ลิฟต์โดยสารของตึก A1, A2, A3 ให้มาตึกละ 1 ตัว ส่วนตึก B1, B2, B3 ให้มาตึกละ 2 ตัวครับ ก็ถือว่าให้มาตามสัดส่วนมาตราฐานทั่วๆไป เนื่องจากปกติแล้วคอนโดตากอากาศจะไม่มีปัจจัยเรื่องชั่วโมงเร่งด่วน (Peak Hour) มาเกี่ยวข้องเท่าไหร่อยู่แล้ว เลยจะไม่ได้หารอัตราส่วนการใช้งานให้แบบรีวิวคอนโดในเมืองตามปกติครับ นอกจากนั้นสัดส่วนที่จอดรถก็มีประมาณ 60% แบบไม่รวมจอดซ้อน ก็ถือว่าเหลือๆสำหรับคอนโดตากอากาศซึ่งมักไม่ได้มาใช้งานพร้อมๆกันอยู่แล้ว
ต้นไม้ส่วนใหญ่ที่ปลูกในโครงการ(โดยเฉพาะตรงทางเดินหลักระหว่างอาคาร)ก็จะเป็นตระกูลปาล์มครับ ได้อารมณ์ของการอยู่ชายทะเลมากทีเดียว แต่ก็มีข้อเสียอยู่บ้างตรงที่พวกปาล์มเนี้ยให้ร่มเงาได้น้อยมากเลย
ถ้าดูจากรูปนี้จะเห็นได้ว่าโครงการพยายามคุมโทนสีของวัสดุให้ออกมาเป็นขาว-น้ำเงิน(ฟ้า) ทั้งโครงการเลยทีเดียว มีการใช้สีน้ำตาลมาตัดกันบ้างเพื่อไม่ให้ดูเลี่ยนจนเกินไป
แปลนห้องดีไหม?
แปลนของคอนโดเซเลสเต้ จะมีอยู่หลายแบบทีเดียว แบบที่พื้นที่น้อยสุดเริ่มต้นที่ 39 ตารางเมตร แต่แปลนที่เอามารีวิวใหดูกันจะเป็นแปลนแบบที่ใกล้เคียงห้องตัวอย่าง จะได้ดูในส่วน “เปิดห้อง มองสเปซ” ได้ชัดเจนขึ้นครับ
แปลนห้องคอนโด Celeste หัวหิน (Type 1B-F)
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 43.40 ตารางเมตร
ลักษณะการวางแปลนนั้นต้องการให้สเปซเปิดโล่งถึงกันได้หมด โดยวางตำแหน่งของโซฟาที่นั่งพักผ่อนดูทีวีอยู่ในแนวเดียวกับเตียงนอน ซึ่งจะมีประตูบานเลื่อนใหญ่สูงจรดฝ้าเลื่อนเปิดไปซ่อนในผนังได้เมื่อต้องการใช้สเปซรวมกัน หรือเวลาถ้าจะนอนแบบต้องการความสงบในขณะที่สมาชิกคนอื่นๆยังตื่นอยู่ก็สามารถเลื่อนปิดเป็นสเปซส่วนตัวได้ เพราะบานเลื่อนที่ให้มานั้นเป็นบานทึบครับ นอกน้ั้นตำแหน่งฟังก์ชั่นรวมๆก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรมาก สัดส่วนของตู้เสื้อผ้าดูเล็กไปหน่อย แต่ก็อนุโลมให้เพราะเป็นคอนโดตากอากาศไม่ได้เป็นคอนโดในเมืองที่อยู่กันประจำครับ ด้านนอกนั้นให้ระเบียงมาเต็มแนวตลอดหน้ากว้างห้อง ซึ่งก็เป็นปกติของคอนโดตากอากาศริมทะเล (ระเบียงในแปลนจะทำออกมาต่างจากห้องตัวอย่างนิดหน่อย คือ ถ้าเป็นห้องตัวอย่างระเบียงจะตรงขนานไปกับตัวห้อง แต่แปลนนี้ระเบียงบิดมุมออกมา)
แปลนห้องคอนโด Celeste หัวหิน (Type 1B-AL)
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 46.10 ตารางเมตร (Pool Access)
แบบนี้เป็นห้อง Pool Access ครับ ในแง่ของการจัดฟังก์ชั่นแล้วไม่ได้ต่างอะไรกับแบบด้านบนที่เล่าไปแล้ว เพียงแต่ตรงระเบียงของห้องที่เป็น Pool Access ก็จะมีสเต็ปลงไปให้ที่สระด้วย และระเบียงก็ไม่ได้มีราวกันตกเหมือนแบบอื่นๆ ตรงนี้ถ้าใครพาน้องๆเด็กๆเล็กๆไปพักผ่อนด้วยอาจจะต้องระวังพลัดตกน้ำกันนิดนึงครับ
แปลนห้องคอนโด Celeste หัวหิน
แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 79 ตารางเมตร
ห้อง Type นี้จะอยู่เฉพาะตรงหัวมุมครับ เป็นแบบที่เอามาทำห้องตัวอย่างด้วย เมื่อเปิดเข้าห้องมาด้านนึงจะเป็นส่วนพักผ่อนและรับประทานอาหาร ซึ่งสเปซตรงนี้จะเชื่อมต่อกับห้องนอนเล็กได้ โดยห้อนอนเล็กนั้นมีประตูเป็นบานเลื่อนและบานเฟี้ยมมาชนกัน (ต้องปิด 2 จุด) ซึ่งบานประตูก็จะเป็นบานทึบเหมือนกับห้องอื่นๆ ส่วนอีกด้านนึงก็จะเป็นห้องนอนซึ่งก็มีห้องน้ำในตัวครับ แปลนรวมๆจัดออกมาไม่ได้มีปัญหาอะไร จุดเด่นของแบบนี้คือได้พื้นที่ระเบียงที่ใหญ่มาก ตอนเย็นๆค่ำๆออกมานั่งเล่นได้สบาย ส่วนกลางวันเที่ยงๆก็แนะนำให้นั่งตากแอร์อยู่ในห้องดีกว่านะ 😛
ห้องตัวอย่างคอนโด Celeste Huahin แบบ 1 ห้องนอน 43.40 ตารางเมตร
เข้ามาในห้องกันครับ
ถ้าเปิดบานเลื่อนออกก็จะได้สเปซต่อเนื่องกันแบบนี้
มองจากส่วนพักผ่อนเข้าไปส่วนนอน
มุมนี้มองย้อนกลับไทางหน้าห้อง เคาท์เตอร์ pantry แบบนี้จะเป็นรูปตัว L
รูปนี้จะเห็นดีเทลการเลื่อนเก็บประตูเอาไว้ในช่องผนังด้านข้างด้วยครับ
เข้าไปดูในห้องน้ำ ของจริงก็จะแนวของกระจกในห้องน้ำจะสุดแค่ตรงแนวของขอบเคาท์เตอร์อ่างล้างหน้า ไม่ได้ยาวไปจนจบแนวผนังนะครับ
ออกไปดูตรงระเบียงกัน ถ้าวางคอมเพรสเซอร์แอร์หันเข้าหาระเบียงแบบนี้ ลมร้อนจะพ่นออกมา ดูแล้วหันออกข้างนอกน่าจะดีกว่าครับ จะได้ใช้งานพื้นที่ระเบียงได้อย่างเต็มที่ ไหนๆก็ทำระเบียงมาให้ยาวเต็มตลอดหน้าห้องอยู่แล้ว
ห้องตัวอย่างคอนโด เซเลสเต้ หัวหิน แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 79.00 ตารางเมตร
ถ่ายให้ดูสเปซในส่วนพักผ่อนครับ มุมที่ดูทีวีนั้นลำบากหน่อยเพราะตำแหน่งทีวีนั้นวางอยู่เฉียงๆกับโซฟา ไม่ได้วางอยู่แนวตรงกัน
ในส่วนห้องนอนเล็กและส่วนพักผ่อนมีผนังเลื่อนกั้นเปิด-ปิดได้
มองไปยังส่วนรับประทานอาหารและเคาท์เตอร์ครัว
ถ่ายให้ดูทางเข้าห้องนอนใหญ่ครับ ส่วนพื้นที่ห้องนอนเล็กทางขวานั้นถ้าจะเปิดโล่งดัดแปลงเป็นฟังก์ชั่นอย่างอื่นก็ได้
ให้ดูแนวการเลื่อนของบานประตูกั้นห้อง ทางด้านขวานั้นเป็นเป็นบานเลื่อนแบบสไลด์เข้ามา ส่วนทางซ้ายเป็นบานเฟี้ยมที่ดึงมาชนกันตรงกลางพอดี
มองย้อนจากทางเดินเข้าห้องนอนใหญ่ไปบ้าง
Master Bedroom ครับ
มองจากเตียงนอนออกมา กระจกทางขวาสุดของรูปมองทะลุไปส่วนอาบน้ำน้ำ ทำเป็น sexy bathroom ถ้าใครไม่อยาก Sexy ก็รูดม่านปิดเอานะ 😛
ห้องนี้อยู่ตรงมุมพอดี ห้องน้ำเล็กเลยได้หน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาเต็มๆ
ปิดท้ายกันด้วยพื้นที่ระเบียงซึ่งยาวตลอดแนว เป็นรูปตัว L รอบทั้ง 2 ด้านของห้อง
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
ถ้าไม่นับยูนิต Penthouse และมองภาพรวมของวัสดุสำหรับเกรดราคาเฉลี่ยที่ตารางเมตรละ 7 หมื่นกว่าถึงแสนต้นๆ ก็ถือว่าให้มาในเกรดดีครับ ผิวสัมผัสของวัสดุให้มาค่อนข้างดี คุมโทนสีออกมาได้ดีอยู่ วัสดุที่ให้มาในห้องก็เป็น Fully-fitted มีเคาน์เตอร์ pantry, ตู้เสื้อผ้า(built-in), เครื่องทำน้ำอุ่น และก็วัสดุปิดผิว
จะขอแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง(Finishing Material) เพื่อดูกันง่ายๆเป็นส่วนๆไปครับ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
หน้าตาเคาน์เตอร์ครัวแบบ 2 ห้องนอนครับ
เปิดด้านในให้ดู เป็นพาทิเคิลบอร์ดสีขาว
ครัวแบบเข้ามุมตัว L (ห้อง 43 ตารางเมตร)
ครัวแบบห้อง 46 ตารางเมตร (พื้นที่กลับน้อยกว่าแบบ 43 ตารางเมตรนะครับ)
อ่างล้างจานของ Hafele ครับ
เตาเซรามิค 2 หัวของ Hafele เช่นกัน
ฮูดดูดควันครับ
ตรงผนังติดบานกระจกขุ่นมาให้สำหรับกันเลอะ จบตัววัสดุด้วยคิ้วสแตนเลส ดูดีทีเดียวแหละ
ถ่ายให้ดูผิวลามิเนตครับ ผิวสัมผัสดีทีเดียว
วัสดุห้องน้ำ
สุขภัณฑ์ American Standard หน้าตาแบบนี้
ส่วนอาบน้ำกั้นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ ติดตั้งกระจกนิรภายเทมเปอร์เป็นฉากกั้น
ฉากกั้นกระจกนิรภัย tempered glass
หัวก๊อกหรูดี
อ่างล้างหน้าแบบฝั่งครึงเคาน์เตอร์ ตัวเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตครับ ส่วนกระเบื้องโมเสคบนผนังนั้นของจริงๆไม่มีมาให้ มีเฉพาะห้องตัวอย่างเท่านั้น
กระจกที่ได้เป็นแบบติดผนัง มีขอบสแตนเลสรอบ เพียงแต่ขนาดไม่ยาวไปถึงผนังแบบในรูป จะมีความยาวแค่เท่าระยะของเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าครับ
พื้นห้องน้ำลดสเต็ปลงจากพื้นห้อง 10 ซม.
บานประตูห้องน้ำด้านบนปิดแผ่นลามิเนตตกแต่งเพิ่มขึ้นไปให้สูงชนฝ้าเพดานเลย
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
มือจับประตูแบบเขาควาย บานประตูปิดผิวลามิเนตให้สัมผัสที่ดีทีเดียว
Door Stopper ที่พื้น
สวิตซ์และปลั๊กสัญญาณใช้ Panasonic
บานกรอบอลูมิเนียมสีขาว
พื้นกระเบื้องด้านนอกระเบียงใช้สีเทาดำตัดกับในตัวบ้านซึ่งเป็นโทนสีอ่อน
โคมไฟระเบียง
ราวจับระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีขาว กับกระจกนิรภัยลามิเนต
ไปส่องดูใกล้ๆ เป็น Laminated-glass เวลาแตกก็จะยังยึดติดกับบนฟิล์ม ไม่ร่วงออกมา
บานประตูเต็มๆนี่สูงจรงเพดานกันไปเลย
แผงบังแอร์เป็นเหล็กกล่องทาสีขาว ตรงนี้ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่เนื่องจากระยะระหว่างตัวคอมฯแอร์กับแผงเหล็กกล่องนั้นติดกันเหลือเกินครับ ลมร้อนก็จะตีกลับเข้าไปได้ส่วนนึง จริงๆทำแผงให้ยื่นห่างออกมามากกว่านี้อีกก็ได้เพราะยังไงก็มีพ้ื้นที่เหลือๆ
เปิดกระเป๋า ดูสตางค์
ราคาเริ่มต้นวันที่ไปทำรีวิว (13/6/2557) นั้นอยู่ที่ 2.9 ล้าน สำหรับแบบ 1 ห้องนอน 39.40 ตารางเมตรครับ ราคาก็แตกต่างกันออกไปตามชั้นและตึก แต่โดยภาพรวมของราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรก็ยังเกาะกลุ่มไม่หนีกันมาก ซึ่งแน่นอนว่าความใกล้ทะเลและรูปแบบของห้องก็มีผล (เช่น Pool Access) แต่ส่วนของ Penthouse นั้นราคาจะโดดฉีกออกไปมากทีเดียวซึ่งก็มาจากตำแหน่งและทำเลที่ตั้งรวมถึงความ premium เป็นหลักครับ
ราคา ณ วันที่ 13 มิถุนายน 2557
ราคาเริ่มต้น :
1 bedroom ยูนิต B1-308 พื้นที่ 39.40 ตร.ม. ชั้น 3 ราคา 2,900,000 บาท เฉลี่ย 73,604 บาท/ตร.ม.
1 bedroom ยูนิต B1-105 พื้นที่ 46.10 ตร.ม. ชั้น 1 ราคา 3,761,760 บาท เฉลี่ย 81,600 บาท/ตร.ม.
2 bedroom ยูนิต B2-607 พื้นที่ 79.00 ตร.ม. ชั้น 6 ราคา 7,252,200 บาท เฉลี่ย 91,800 บาท/ตร.ม.
3 bedroom ยูนิต A3-403 พื้นที่ 122.0 ตร.ม. ชั้น 4 ราคา 12,941,760 บาท เฉลี่ย 106,080 บาท/ตร.ม.
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
1 Bedroom จอง 20,000 บาท ทำสัญญาจนครบ 5% ของราคาขาย
2 Bedroom จอง 40,000 บาท ทำสัญญาจนครบ 5% ของราคาขาย
3 Bedroom จอง 60,000 บาท ทำสัญญาจนครบ 5% ของราคาขาย
- ผ่อนผ่อนดาวน์
24 งวด จนครบ 20% ของราคาขาย ขึ้นอยู่กับแต่ละยูนิต
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 550 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 83% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
1 bedroom พื้นที่ 39.40 ตร.ม. ราคาขาย 2,900,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,121 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 46.10 ตร.ม. ราคาขาย 3,761,760 บาท ผ่อนประมาณ 20,911 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 79.00 ตร.ม. ราคาขาย 7,252,200 บาท ผ่อนประมาณ 40,314 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 83% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
1 bedroom พื้นที่ 46.10 ตร.ม. ราคาขาย 3,761.760 บาท ผ่อนประมาณ 17,038 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 39.40 ตร.ม. ราคาขาย 2,900,000 บาท ผ่อนประมาณ 22,101 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 79.00 ตร.ม. ราคาขาย 7,252,200 บาท ผ่อนประมาณ 42,608 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 83% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
1 bedroom พื้นที่ 46.10 ตร.ม. ราคาขาย 3,761.760 บาท ผ่อนประมาณ 18,573 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 39.40 ตร.ม. ราคาขาย 2,900,000 บาท ผ่อนประมาณ 24,093 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 79.00 ตร.ม. ราคาขาย 7,252,200 บาท ผ่อนประมาณ 46,448 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 83% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
1 bedroom พื้นที่ 46.10 ตร.ม. ราคาขาย 3,761.760 บาท ผ่อนประมาณ 21,373 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 39.40 ตร.ม. ราคาขาย 2,900,000 บาท ผ่อนประมาณ 27,724 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 79.00 ตร.ม. ราคาขาย 7,252,200 บาท ผ่อนประมาณ 53,448 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 83% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
1 bedroom พื้นที่ 46.10 ตร.ม. ราคาขาย 3,761.760 บาท ผ่อนประมาณ 27,367 บาท/เดือน
1 bedroom พื้นที่ 39.40 ตร.ม. ราคาขาย 2,900,000 บาท ผ่อนประมาณ 35,500 บาท/เดือน
2 bedroom พื้นที่ 79.00 ตร.ม. ราคาขาย 7,252,200 บาท ผ่อนประมาณ 68,440 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
การมาเขาเต่านั้นก็ขับรถจากตัวเมืองหัวหิน (แถวตลาด) มาประมาณ 12 กิโลเมตรครับ ส่วนใหญ่ก็จะชิลล์ๆกันไป ถนนเพชรเกษมช่วงนี้เป็นถนนสวนกัน 2 เลน เพราะฉะนั้นก็คงต้องระมัดระวังในการแซงหน่อยนึง ซึ่งโครงการคอนโดตากอากาศแบบนี้ที่ตั้งก็จะถือเป็น Destination เพราะฉะนั้นก็ไม่ใช่ประเด็นที่จะมาคอมเม้นท์อะไรมากครับ อยู่แค่ว่าชอบหรือไม่ชอบเท่านั้นเอง
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
เนื่องจากในเขาเต่าก็มีคอนโดเรียงกันอยู่หลายโครงการทีเดียว คนที่ซื้อก็แน่นอนว่าไม่ใช่คนท้องถิ่น แต่ก็มักเป็นคนจากกรุงเทพฯนี่แหละที่ไปซื้อเอาไว้พักผ่อนหรือลงทุนในอนาคต ซึ่งผมมองว่าตลาดคอนโดตรงนี้มันก็ยังจะไม่น่ามีการเติบโตของความเป็นชุมชนเมืองมากขึ้นแบบแถบๆหัวหิน จะเป็นแนวสำหรับคนที่ปลีกตัวมาพักผ่อนสงบๆเงียบๆแบบทุกวันนี้ซึ่งดีอยู่แล้ว การเปลี่ยนแปลงไม่ได้มีอย่างชัดเจนแน่นอน
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
ผังโครงการนั้นแยกตัวตึกกระจายออกจากกันเป็น 6 อาคาร แต่ละอาคารถ้าดูจะผังจะมีน้ำล้อมรอบหมดเลย(ยกเว้นตึก B3 ด้านหลังตรงทางเข้าโครงการ) ภาพรวมของโครงการนั้นออกแบบโดยเลือกใช้ mood and tone ให้ออกมาเป็น ขาว-น้ำเงิน(ฟ้า) ตัวอาคารจะไม่ใช้สีหรือลูกเล่นอื่นๆเยอะ แปลนของห้องบิดระเบียงออกมาเพื่อเปิดมุมมองสู่ทะเลทำให้เกิด effect กันตัวอาคารเมื่อมองเข้าไปจะเห็นระเบียงเป็นฟันปลา และด้วยความที่มีการบิดแปลนห้องเล็กน้อยทำให้แปลนที่วางออกมาในห้องต่างๆจะมีบางส่วนบางมุมที่ไม่ได้ตั้งฉาก 90 องศา แบบห้องสี่เหลี่ยมทั่วๆไป ในแง่นึงก็ดูไม่น่าเบื่อดีและทำให้ห้องไม่ดูแข็งจนเกินไป เพียงแต่อาจจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์ยากไปบ้างในบางจุด
วัสดุที่ให้มาในคอนโดโดยภาพรวมก็ออกมาโอเคครับ เลือกวัสดุที่ให้ผิวสัมผัสค่อนข้างดีและดูมีราคา ได้ระเบียงห้องมาเต็มตลอดแนวตามสูตรของคอนโดตากอากาศตากปกติ พื้นที่ส่วนกลางนั้นสระว่ายน้ำจัดให้มาเต็มมากเพราะอยู่ล้อมรอบทั้งโครงการ มีความลึกตั้งแต่ 1.1-1.3 เมตร จริงๆผมว่าถ้าไม่ทำสระว่ายน้ำเต็มรอบโครงการ แต่ทำมีความลึกกระจายหลายๆช่วงให้มีช่วงลึกสัก 1.6 เมตรบ้าง น่าจะทำให้ว่ายน้ำสนุกขึ้นครับ ส่วนงานภูมิสถาปัตยกรรมในโครงการนั้นเน้นไปที่ต้นไม้ตระกูลปาล์มเป็นหลักซึ่งทำให้ได้บรรยากาศชายทะเลดี แต่ว่ามันจะไม่ค่อยบังแดดให้ร่มเงาเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นเที่ยงๆบ่ายๆก็อาจจะร้อนหน่อยครับ
ด้านตัวเลือกอื่นๆ
อย่างที่ถ่ายรูปให้ดูกันไปรอบๆโครงการว่าแถวนี้ก็มีคอนโดหลายที่ให้จับจองทีเดียว โครงการอื่นๆที่สร้างเสร็จไปแล้วในเขาเต่าก็มี Las Totugas (ลาส ตอตูกัส) ที่อยู่ติดๆกัน , Chalona (เชโลน่า) , บ้านนับคลื่น และ Malibu (มาลิบู) รวมถึง วันเวลา (Wan Vayla) ที่เคยทำรีวิวไปแล้วด้วยครับ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ