วันนี้อยู่สบายจะพาไปชมคอนโดแบรนด์ Than Living จากสิราลัยค่ะ เราพาไปรีวิวดูโครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ อยู่ใกล้กับแยกเหม่งจ๋าย เป็นกลุ่มคอนโด 6 อาคารที่มีทั้งแบบ Low Rise และ High Rise โครงการนี้ดีไซน์และดีเทลค่อนข้างซับซ้อนมาก  ตัวรีวิวเลยจะยาวเป็นพิเศษนะคะ  ค่อยๆทะยอยอ่านกันไป  มาดูรายละเอียดโครงการจาก Fact Sheet กันเลยค่ะ

UPDATE 30 กันยายน 2559
โครงการ Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ เป็น 1 ใน 5 คอนโดมิเนียม ที่ถูกทาง ปปง. อายัดทรัพย์สินเอาไว้ จากคดีที่นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือ “เสี่ยเปี๋ยง” พัวพันในคดีระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)  ซึ่งบทความรีวิววิเคราะห์โครงการนี้ทางเว็บไซต์เราได้เขียนขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 มิถุนายน 2557  จึงขอแจ้งข้อมูลเพิ่มเติมให้ผู้อ่านเว็บไซต์รับทราบสถานการณ์ปัจจุบันของโครงการนี้เพื่อเป็นข้อมูลเพิ่มเติมด้วย

Than Living Ratchada-Prachautit

(คอนโดแดน ลิฟวิ่ง รัชดา-ประชาอุทิศ)

• เจ้าของโครงการ >>> Siralai (บริษัท สิราลัย จำกัด)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  หัวมุมถนนประชาอุทิศ และซอยจำเนียรเสริม
• ขนาดที่ดิน >>>  8 – 1 – 82 ไร่
• จำนวนชั้น >>> Low Rise 8 ชั้น / High Rise 19 – 21 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  6 อาคาร (Low Rise 3 อาคาร และ High Rise 3 อาคาร)
• ประเภทห้อง >>>  สตูดิโอ / 1 ห้องนอน / 2 ห้องนอน / 3 ห้องนอน / Duplex 1 ห้องนอน / Duplex 2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>>
  1. สตูดิโอ 28 ตารางเมตร
  2. 1 ห้องนอน 32.2 ตารางเมตร
  3. 2 ห้องนอน 56.31 ตารางเมตร
  4. 3 ห้องนอน 148.63 ตารางเมตร
  5. Duplex 1 ห้องนอน 54.47 ตารางเมตร
  6. Duplex 2 ห้องนอน 67.44 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  ห้องพักอาศัย 823 ยูนิต ร้านค้า 6 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 60% ไม่รวมจอดรถซ้อนคัน (494 คัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  2.44ล้านบาท (ราคาห้องขนาด 28.41 ตารางเมตร ณ วันที่ 5/6/2014)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 86,000 – 95,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.767660, 100.598642

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

ตำแหน่งที่ตั้งของคอนโด Than Living รัชดา-ประชาอุทิศจะติดถนน 2 ด้าน คือถนนประชาอุทิศจะเป็นทางเข้าด้านหน้าคอนโด และด้านข้างจะติดกับซอยจำเนียรเสริม ซึ่งเป็นซอยลัดไปออกถนนประดิษฐ์มนูญธรรม และถนนพระราม 9 ซอย 17 ได้ค่ะ

เส้นทางที่ใช้เดินทางมายังโครงการวันนี้เราเริ่มต้นจากถนนพัฒนาการค่ะ  ลงทางด่วนแล้วกลับรถใต้สะพานข้ามแยกคลองตัน จากนั้นก็ขับตรงตามถนนพัฒนาการจนเจอกับสามแยก ก็ให้เลี้ยวซ้ายเพื่อไปถนนพระราม 9 ค่ะ พอเลี้ยวมาแล้วก็จะต้องลงอุโมงค์ลอดใต้ถนนพระราม 9 จากนั้นก็จะเข้าสู่ย่านรามคำแหงค่ะ

ตรงมาจนเจอกับสามแยกให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายรามคำแหง จากนั้นจะเป็นสามแยกใหญ่ให้อยู่เลนซ้ายสุดนะคะเพราะจะต้องเลี้ยวขวาไปบางกะปิ พอเลี้ยวมาแล้วจะเจอกับ Major Hollywood ให้เตรียมเลี้ยวซ้ายที่สี่แยกวัดเทพลีลา เข้าซอยเทพลีลา 1 (รามคำแหง 39) แล้วก็ตรงยาวอย่างเดียวจนไปออกถนนประดิษฐ์มนูญธรรมเลยค่ะ ตรงนี้เราไม่สามารถตรงไปยังถนนประชาอุทิศได้ ต้องกลับรถใต้สะพานซึ่งที่กลับรถอยู่ห่างออกไปประมาณ 850 เมตร เมื่อกลับรถแล้วให้ขับตรงมาตามทางแล้วจะมีป้ายบอกชื่อสี่แยกประชาอุทิศ-ประดิษฐ์มนูญธรรม ก็ให้เลี้ยวซ้ายจากนั้นชิดซ้ายจะเห็นสำนักงานขาย Than Living ทางซ้ายมือ แต่ถ้าเป็นตำแหน่งที่ตั้งของโครงการต้องขับเลยมาอีกเล็กน้อย ติดกับซอยจำเนียรเสริม มีป้ายยอกทางลัดไว้ชัดเจนค่ะ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

เริ่มจากตำแหน่งของสำนักงานขาย (หมายเลข 1) ก่อนค่ะ จะอยู่ห่างจากโครงการเล็กน้อย ระหว่างสำนักงานขายกับตัวคอนโดเป็นปั๊มน้ำมัน (หมายเลข 2) เป็นปั๊ม Caltex ด้านหน้า ส่วนด้านหลังเป็น LPG มีร้านกาแฟชาวดอย ร้านขายไอศกรีม ร้านทำผมด้วยค่ะ

เข้ามาภายในซอยจำเนียรเสริมจะมีทางลัดไปออกถนนประดิษฐ์มนูญธรรมได้ ตรงหน้าปากซอยนี้จะมี Golden Place (หมายเลข 3) เป็นโครงการพระราชดำริเหมือน Avenue ในยุคแรกๆ ตั้งแต่ปี 2544 ที่มีทั้งผลิตภัณฑ์ต่างๆ จากโครงการพระราชดำริ สินค้าจากโครงการสวนจิตรลดา สินค้าเกษตรปลอดสารพิษ ไม่ว่าจะเป็นอาหารสด อาหารแห้ง ผักและผลไม้ต่างๆ นอกจากนี้ภายในซอยจำเนียรเสริมอีกด้านที่จะไปออกถนนพระราม 9 ซอย 17 จะมีคลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา (หมายเลข 4) และกำลังก่อสร้างอาคารปฏิบัติการหน่วยทันตกรรมพระราชทานอยู่ด้วยค่ะ

มาดูทางฝั่งถนนประชาอุทิศกันบ้าง จะมีโรงเรียนนานาชาติเยอะ อย่างโรงเรียนนานาชาติคิซ (KIS) (หมายเลข 5) โรงเรียนนานาชาติสิงคโปร์ (SISB) (หมายเลข 6) และโรงเรียนฝรั่งเศสนานาชาติกรุงเทพฯ (Lycee Francais International de Bangkok) (หมายเลข 7) ส่วน Community Mall ในย่านนี้ถ้าใกล้ที่สุดจะอยู่ทางฝั่งทาวน์อินทาวน์ ได้แก่ The Scene (หมายเลข 8) มีร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า Max Value และยังมี Starbucks ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง และ @Park Town in Town (หมายเลข 9) มีร้านอาหาร ธนาคาร และ Tesco Lotus Express เปิด 24 ชั่วโมงเช่นกัน  ตรงนี้จะต้องลำบากไปกลับรถหน่อยค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆ ก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ

ปั๊ม LPG จะอยู่ในบริเวณเดียวกับปั๊ม Caltex  อยู่ระหว่างสำนักงานขายกับตัวโครงการ

ปั๊ม Caltex เข้าจากทางถนนประชาอุทิศสะดวกกว่า

สำนักงานประปาลาดพร้าว การประปานครหลวง อยู่หลังปั๊ม LPG

คลินิกศูนย์แพทย์พัฒนา อยู่ในซอยจำเนียรเสริมด้านใน

บรรยากาศภายในซอยจำเนียรเสริมที่เป็นทางลัดไปออกถนนพระราม 9 ซอย 17 ได้

Golden Place อยู่บริเวณหัวมุมถนนประดิษฐ์มนูญธรรมกับซอยจำเนียรเสริม

ฝั่งตรงข้าม Golden Place จะเป็นโครงการ Pharmax ขายเวชภัณฑ์อาหารเสริมต่างๆ มี Starbucks ด้วย

บรรยากาศภายในซอยประชาอุทิศ

สถานทูตกัมพูชา

โรงเรียนนานาชาติคิซ (KIS International School) อยู่ภายในซอยเกศินีย์วิลล์

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

แวะเข้าไปดูด้านในสำนักงานขายโครงการกันค่ะ

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

คอนโด Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ ประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารทั้งหมด 6 อาคาร แบ่งเป็นอาคาร Low Rise ความสูง 8 ชั้น จำนวน 3 อาคาร และอาคาร High Rise ความสูง 19 – 21 ชั้น จำนวน 3 อาคาร โดยการวางตัวของแต่ละอาคารจะขนานไปกับที่ดิน ลึกเข้าไปด้านในโดยที่อาคาร High Rise จะอยู่ด้านเดียวกันทางฝั่งซ้ายมือ (เมื่อหันหน้าเข้าโครงการ) ความสูงของอาคารก็จะเรียงกันไป คือ

High Rise 1 สูง 19 ชั้น

High Rise 2 สูง 20 ชั้น

High Rise 3 สูง 21 ชั้น

ต่อไปในรีวิวนี้จะขอเรียก High Rise ว่า HR นะคะ   ส่วนอาคาร Low Rise จะอยู่ทางฝั่งขวามือ  เป็นอาคาร 8 ชั้น ทั้งหมด  ส่วนอาคาร Low Rise ก็จะขอเรียกว่า LR  เพื่อความง่าย

ที่ดินด้านข้างฝั่งหนึ่ง (ทิศตะวันออก) ปัจจุบันเป็นพื้นที่ว่างของบุคคลอื่น ล้อมรั้วไว้เฉยๆ ยังไม่มีโครงการใดๆ ค่ะ ส่วนทางด้านหลังของโครงการ (ทิศใต้) จะติดกับลีลาอพาร์ทเม้นต์ มีความสูง 8 ชั้น และถัดไปจะเป็นโรงงานผลิดหม้อน้ำรถยนต์ของ TCR ค่ะ

Facilities หลักอย่างสระว่ายน้ำจะอยู่ที่อาคาร Low Rise ทั้งหมด รวมไปถึงร้านค้าประเภท Retail Shop ทั้งหลายก็จะอยู่ที่อาคารเหล่านี้ด้วยค่ะ ทางเข้า – ออกหลัก (Main Entrance) เข้าจากทางถนนประชาอุทิศด้านเดียว เส้นทางจะขับวนรอบอาคาร จะมีที่จอดรถรอบๆ โครงการแบบ outdoor ส่วนที่จอดรถในอาคารจะเป็นชั้นใต้ดิน 2 ชั้น อยู่ที่อาคาร Low Rise ทั้งหมดค่ะ ลูกบ้านที่อยู่ High Rise ก็สามารถมาจอดได้เหมือนกันแต่ถ้าฝนตกก็จะเดินกลับไปยังอาคารที่พักลำบาก เพราะทางเดินระหว่างอาคารไม่มีหลังคาค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

เนื่องจากลักษณะการวางตัวของอาคารทั้ง 6 อาคารจะขนานไปตามความลึกของที่ดิน ในแนวเหนือ – ใต้ ดังนั้นถ้าเป็นอาคาร High Rise ห้องที่หันหน้าออกจะโดนแดดในช่วงเช้าค่ะ จากนั้นทิศทางแดดจะอ้อมไปทางใต้พอถึงช่วงบ่ายเป็นต้นไปห้องที่โดนแดดก็จะเป็นห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันตก ถ้าเป็นอาคาร Low Rise ก็จะเป็นห้องที่หันออกไปทางซอยจำเนียรเสริม และถ้าเป็นอาคาร High Rise ก็จะเป็นชั้นที่ 8 เป็นต้นไป (ระดับชั้นโดยประมาณนะคะ คลาดเคลื่อนเล็กน้อยขึ้นอยู่กับองศาของแดด)

ส่วนเรื่องของวิวจากระเบียงห้องแต่ละห้องไม่มีปัญหาจากอาคารรอบข้างบดบังค่ะ แม้จะมีอพาร์ทเม้นต์ 8 ชั้นทางด้านหลังแต่ก็ตรงกับด้านข้างของอาคาร Low Rise 3 ซึ่งด้านนั้นจะไม่มีระเบียงห้องเลย สำหรับห้องที่หันไปทางทิศตะวันออกจะเป็นวิวทางฝั่งทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ (ถนนประดิษฐ์มนูญธรรม) และห้องที่หันไปทางทิศตะวันตกจะเป็นวิวทางฝั่งถนนรัชดาค่ะ ฝั่งนี้จะมองเห็นตึกสูงของคอนโดมิเนียมและสำนักงานออฟฟิศเยอะกว่า

ส่องโมเดล

มุมด้านหน้าโครงการจากถนนประชาอุทิศ ตกแต่ง Landscape ตรงกลางเป็นสวนหย่อมและทางเดิน

ทางเข้าโครงการจากทางถนนประชาอุทิศแบบใกล้ๆ เส้นทางเดินรถจะวิ่งสวนทางกันได้ค่ะ

ด้านหลังของอาคาร Low Rise A วิวจากซอยจำเนียรเสริม

ระเบียงด้านนอกของห้องแบบ Duplex 2 ห้องนอน มีเพียง 2 เท่านั้น อยู่ที่ชั้น 2 ของอาคาร Low Rise A และ B

ด้านหลังของกลุ่มอาคาร High Rise ทั้ง 3 อาคาร วิวจากทางถนนประชาอุทิศ จะมองเห็นการทาสีแบบไล่ระดับสีน้ำตาลเข้ม สีเทาอ่อน และสีขาว

ทางเข้าที่จอดรถใต้ดินของอาคาร Low Rise C วิวจากทางด้านหลังของโครงการที่ติดกับอพาร์ทเม้นต์ 8 ชั้น

ด้านข้างของอาคาร Low Rise C  และ High Rise 3

รูปนี้ถ่ายให้เห็นสระว่ายน้ำและสวนขนาดใหญ่ที่อาคาร Low Rise ทั้ง 3 อาคาร และทางเดินตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่ง

มองเห็นสีภายนอกที่ต่างกันอย่างชัดเจน

ความคืบหน้าการก่อสร้างและสภาพโดยรอบบริเวณโครงการ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางได้อธิบายไปคร่าวๆ แล้วนะคะ ทีนี้ลองมาเจาะลึกถึงรายละเอียดจากแปลนแต่ละอาคารกันค่ะ ว่าที่อาคารไหนมีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง

เริ่มที่กลุ่มอาคาร High Rise ก่อนนะคะ แปลนชั้นล่างสุดจะเหมือนกันทั้ง 3 ตึก  ซึ่งจะมี Lobby และ Mail Room ทุกอาคาร ส่วนตำแหน่งที่เป็น Coffee Shop (จากแปลนด้านล่าง) ก็จะต่างกันไปในแต่ละอาคาร  สำหรับตึกที่ 2 ก็เป็นห้องออกกำลังกาย (Gym) และตึกที่ 3 เป็นห้องสมุด (Library) ค่ะ

มาต่อกันที่กลุ่มอาคาร Low Rise กันบ้าง มี Facilities จะมี 2 ชั้น โดยที่ชั้น 1 จะมี Lobby และ Retail Shop เหมือนกันค่ะ แต่คราวนี้จะมีอยู่ทุกตึก แยกประเภทกันไป ซึ่งตึกแรกก็จะเป็นร้านให้เช่าสำหรับเปิดร้านทำผม ตึกที่ 2 จะเป็นร้านซักรีด และตึกที่ 3 จะเป็นร้านทำเล็บ ประเภทของร้านเหล่านี้เป็นเพียงแค่แปลนที่ทางโครงการวางไว้ ต้องรอดูว่าเมื่อโครงการสร้างเสร็จแล้ว ร้านที่มาเช่าในแต่ละอาคารจะตรงกับที่คาดหวังไว้หรือเปล่านะคะ

ที่ชั้น 2 ของอาคาร Low Rise จะเป็นสระว่ายน้ำค่ะ ไม่ได้มีทุกตึก โดยตึกแรกจะเป็นสวนหย่อมขนาดใหญ่ ถ้าใครเลือกห้องชั้นนี้ก็จะมีสวนหย่อมนอกห้อง ให้อารมณ์เหมือนอยู่บ้านนั่งมองสวนจากห้องนั่งเล่นได้เลยค่ะ  และถ้าใครชอบเลี้ยงสุนัขก็สามารถพามาวิ่งเล่นที่สวนแห่งนี้ก็ได้เหมือนกัน ส่วนอาคารที่ 2 จะเป็นสระว่ายน้ำที่มีความยาว 17 เมตร ลึก 1.20 เมตร เป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ  และไม่ว่าจะพักอยู่ที่อาคารไหนก็สามารถมาว่ายน้ำเล่นได้นะคะ มีบันไดให้เดินขึ้นจากชั้น 1 มายังสระว่ายน้ำได้ค่ะ และอาคารที่ 3 จะเป็นสระว่ายน้ำของเด็กค่ะ มีความยาว 3.70 เมตร ลึก 1.20 เมตร มีบันได้ให้เดินขึ้นได้จากชั้น 1 เช่นกัน

สำหรับพื้นที่จอดรถมีทั้งหมด 494 คัน จาก 823 ยูนิต โดยจะแบ่งเป็นที่จอดรถใต้ดินซึ่งจะอยู่ที่อาคาร Low Rise ทั้งหมด มี 2 ชั้น (ไม่รวมจอดใต้อาคารชั้น 1) และที่จอดรถรอบอาคาร คาดว่าจำนวนที่จอดรถไม่น่าจะเพียงพอกับความต้องการ เนื่องจากทำเลที่ไม่ใกล้กับรถไฟฟ้า  แต่อยู่ใกล้กับถนนสายเมนที่อย่างเลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา  ทำให้การเดินทางที่ง่ายและเหมาะที่สุดคือรถยนต์ส่วนตัว  และด้วยระดับราคาต่อตารางเมตรของโครงการด้วยแล้ว เชื่อว่าลูกบ้านส่วนใหญ่น่าจะมีรถยนต์ส่วนตัวกันเกือบหมด แต่ถ้าจอดซ้อนคันก็น่าจะพอช่วยได้ค่ะ

ลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 12 ตัว แบ่งเป็นอาคารละ 2 ตัว ไม่มีลิฟต์เซอร์วิส  ซึ่งตรงนี้ทำให้การใช้งานอาจจะลำบากอยู่เหมือนกันในบางช่วงเวลา  เพราะแม่บ้านก็ต้องขนของขนขยะลงลิฟต์เดียวกับผู้อยู่อาศัย  และจากสัดส่วนของยูนิตต่อจำนวนลิฟต์ที่มีอยู่ในแต่ละอาคารถือว่าค่อนข้างดีทีเดียว ด้วยจำนวนห้องต่อชั้นประมาณ 10 – 15 ห้องเท่านั้น กับลิฟต์โดยสาร 2 ตัว ส่วนบันไดหนีไฟก็จะมีให้ 2 ที่ในทุกอาคาร

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

ก่อนจะเข้าสู่แปลนแต่ละชั้นของแต่ละอาคาร ขออธิบายลักษณะของการออกแบบหน้าตาอาคารก่อนนะคะ ซึ่งก็เป็นผลมาจากการจัดวางตำแหน่งห้องนั่นเอง ด้านหน้าของอาคาร High Rise ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ตึกนั้น ถ้าสังเกตจากรูปโมเดลด้านบนจะพบว่ามีการทาสีภายนอกอาคารเป็นโทนสีเทา-น้ำตาล โดยจะทาไล่เฉดสีเข้มไปอ่อน สีเข้มจะอยู่ด้านล่างของทุกอาคารไล่ขึ้นไปจะเป็นสีเทาอ่อน และด้านบนจะเป็นสีขาวค่ะ

โทนสีที่ต่างกันเหล่านี้บ่งบอกถึง Type  ของห้องค่ะ จากรูปกราฟฟิคด้านล่างนะคะ แยกให้ดูว่าระดับของสีแต่ละโทนของแต่ละตึกก็จะไม่เท่ากัน โดยสีเข้มสุดที่อยู่ด้านล่างเป็นห้องแบบ Double Space ขนาด 31 – 31.57 ตารางเมตร จะมีจำนวนห้องเยอะที่สุดที่อาคาร HR 3 ค่ะ ถัดขึ้นไปช่วงกลางอาคารจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ขนาด 28.17 – 33.73 ตารางเมตร จะมีจำนวนห้องเยอะที่สุดที่อาคาร HR1 และด้านบนสุดของทุกอาคารจะเป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน แต่ละอาคารจะมีเพียงชั้นเดียวเท่านั้นค่ะ

หลังจากที่รู้ตำแหน่งของห้องแต่ละแบบคร่าวๆ กันไปแล้ว ก็มาดูรายละเอียด Floor  Plan แต่ละอาคารกันค่ะ เริ่มกันที่ตึกสูง High Rise กันก่อนเลย ห้องเกือบทั้งหมดจะหันหน้าไปทางตะวันตก คือหันหน้าเข้าด้านในโครงการค่ะ ยกเว้นห้องแบบ 1 ห้องนอน (1B) ขนาด 32.42 ตารางเมตร และห้องแบบ 2 ห้องนอน (2B) ขนาด 48.27 ตารางเมตร เท่านั้นค่ะที่จะหันหน้าไปทางทิศตะวันออก ทางฝั่งถนนประดิษฐ์มนูญธรรม ส่วนห้องที่อยู่ริมสุดทั้งสองฝั่งของทุกอาคารจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.07 – 56.57 ตารางเมตร มีตำแหน่งของลิฟต์จะอยู่ด้านหลังของอาคารพร้อมกับบันไดหนีไฟ 2 ที่

สำหรับอาคาร Low Rise ค่อนข้างต่างจาก High Rise  พอสมควร อย่างแรกคือหน้าห้องจะมีทั้งหันเข้าด้านในโครงการ และหันออกด้านนอกซึ่งจะหันไปทางทิศตะวันตกค่ะ ระเบียงห้องก็จะรูปสี่เหลี่ยมคางหมู แต่ละชั้นจะสลับด้านกันไปเรื่อยๆ และที่ชั้น G จะแบ่งเป็นพื้นที่จอดรถและห้องพักอาศัยโดยจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมด มาดูรายละเอียดแยกตามแต่ละอาคารกันค่ะ จะได้เข้าใจง่ายขึ้น

เริ่มที่ Low Rise 1 เป็นอาคารที่อยู่ใกล้กับทางเข้าหลักของโครงการ ตำแหน่งห้องหัวมุมทั้ง 4 มุมของอาคารจะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน ตึกนี้จะมีห้องพิเศษอยู่หนึ่งห้อง คือห้องแบบ Duplex 2 ห้องนอน มีเพียงห้องเดียวอยู่ที่ชั้น 2 ค่ะ หน้าห้องหันไปทางทิศตะวันตก ส่วน Low Rise  2 ก็จะเหมือนกับ Low Rise 1  เลยค่ะ มีห้องแบบ Duplex 2 ห้องนอนอยู่ที่ตำแหน่งเดียวกัน  เพียงแต่ว่าที่อาคาร  Low Rise 2 นี้จะมีสระว่ายน้ำอยู่ที่ชั้น 2 ด้วยค่ะ

อาคาร Low Rise 3 จะมีลักษณะของ  Floor Plan ต่างจาก 2 อาคารแรก แต่ถึงจะมีแปลนอาคารต่างกันแต่ตำแหน่งห้องอยู่ในตำแหน่งที่เหมือนกันค่ะ โดยมุมอาคารทั้ง 4  ยังคงเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนเหมือนกัน และที่เหลือเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน แต่จะไม่มีห้องแบบ Duplex อยู่ที่อาคารนี้เลย

Floor Plan คอนโด Than Living รัชดา –  ประชาอุทิศ (High Rise Buildings) 

ลักษณะของแปลนแต่ละชั้นของอาคาร High Rise ทั้ง 3 อาคารจะคล้ายกันค่ะ ตำแหน่งห้องเหมือนกันหมด แตกต่างกันเพียงแค่จำนวนของห้องแบบ Double Space, ห้องแบบ 1 ห้องนอน และห้องแบบ 2 ห้องนอน เท่านั้นเองค่ะ

Floor Plan คอนโด Than Living รัชดา –  ประชาอุทิศ (Low Rise Buildings) 

มาดูรายละเอียดของแปลนแต่ละชั้นของอาคาร Low Rise ทั้ง 3 อาคารกันบ้างค่ะ จะมี 2 อาคารที่มีแปลนเหมือนกัน ส่วนอีกอาคารจะต่างกัน แต่ตำแหน่งห้องนั้นเหมือนกันค่ะ ยกเว้นห้องพิเศษอย่าง Duplex 2 ห้องนอนก็จะมีเฉพาะ Low Rise 1 และ Low Rise 2 เท่านั้น

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องของคอนโด Than Living  รัชดา-ประชาอุทิศมีหลายแบบมากค่ะ ได้แก่ 1 ห้องนอน, 2  ห้องนอน, 3 ห้องนอน, Double Space 1 ห้องนอน, Duplex 1 ห้องนอน และ Duplex 2 ห้องนอน  ห้องแต่ละแบบจะมีอยู่ในทุกอาคารยกเว้น Double Space 1 ห้องนอนที่จะมีแค่ตึกสูง (High Rise) เท่านั้นค่ะ โดยมีขนาด 31 – 31.57 ตารางเมตร จะเลือกแปลนห้องที่มีจำนวนห้องเยอะมาให้ดูกันค่ะ

แปลนห้องคอนโด Than Living (คอนโดแดน ลิฟวิ่ง รัชดา-ประชาอุทิศ)

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 32.23 ตารางเมตร

เป็นแปลนที่นำมาทำเป็นห้องตัวอย่างค่ะ ตำแหน่งห้องจะหันหน้าเข้าด้านในโครงการและแปลนแบบนี้จะอยู่ที่อาคาร High Rise ค่ะ รูปแบบของสเปซภายในห้องจะแบ่งการใช้งานเป็นครึ่งๆ(ระยะความกว้างของสเปซส่วนห้องนอนและส่วนพักผ่อนพอๆกัน)  คือเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับส่วนของครัวก่อนเลย ถัดไปเป็นโต๊ะทานข้าวและวางชุดโซฟาไว้ติดระเบียงด้านนอกค่ะ อีกครึ่งหนึ่งเป็นส่วนของห้องนอนและห้องน้ำ มีพื้นที่บางบริเวณริมหน้าต่างห้องนอนสามารถทำเป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะแต่งหน้าได้  ฟังก์ชั่นที่หายไปของห้องนี้จะไม่มีพื้นที่สำหรับวางตู้รองเท้าค่ะ ต้อง built-in เพิ่มเติมเบียดๆเอาหน่อยข้างๆ ตู้เย็น

แปลนห้องคอนโด Than Living (คอนโดแดน ลิฟวิ่ง รัชดา-ประชาอุทิศ)

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 54.84 ตารางเมตร

แปลนห้องนี้ไม่ได้นำมาทำเป็นห้องตัวอย่างค่ะ เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนที่อยู่ที่อาคาร Low Rise 1 และ 2 ลักษณะห้องจะเป็นแบบลึกเข้าไปด้านใน มีทั้งห้องที่หันหน้าออกไปนอกโครงการและหันหน้าเข้าด้านในของโครงการค่ะ ดูจากแปลนจะเป็นการแบ่งครึ่งพื้นที่ใช้สอยอีกเช่นกัน ส่วนที่เป็นพื้นที่ใช้งานร่วมกันอย่างห้องน้ำ โต๊ะทานอาหาร และโซฟานั่งเล่นจะอยู่ฝั่งขวามือ และอีกฝั่งจะเป็นห้องนอน ห้องน้ำ และห้องครัวที่มีประตูบานเลื่อนกั้นให้ด้วย ระเบียงห้องมี  2 ที่คือข้างโซฟา และในห้องนอนใหญ่

ข้อเสียของห้องนี้เท่าที่ดูจากแปลนนะคะ เนื่องจากว่าไม่ได้เห็นสเปซภายในจากห้องตัวอย่าง คือการที่เป็นห้องแบบลึกเข้าไปจะให้ความรู้สึกของห้องที่แคบกว่าห้องหน้ากว้างค่ะ และยังมีตำแหน่งของห้องน้ำที่มาอยู่ตรงกลางด้วยแล้ว  ยิ่งบังแสงแดดที่ส่องมาจากระเบียงด้านนอก ทำให้ห้องดูทึบได้ค่ะ ห้องน้ำที่อยู่ระหว่างห้องนอนทั้ง 2  ห้องนั้น คงจะดีไม่น้อยถ้าสามารถใช้งานร่วมกันได้โดยที่ห้องนอนเล็กไม่ต้องเดินออกไปใช้ห้องน้ำด้านนอก

แปลนห้องคอนโด Than Living (คอนโดแดน ลิฟวิ่ง รัชดา-ประชาอุทิศ)

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 31 ตารางเมตร

ห้องนี้คือห้องที่เรียกว่า Double Space  ค่ะ มีเป็นห้องตัวอย่างให้ดูโดยจะมี  2 ชั้นแต่ไม่ได้เรียกว่า Duplex เพราะด้านบนไม่ได้เป็นห้องนอนแต่เป็นพื้นที่อเนกประสงค์ จะทำเป็นพื้นที่ทำงาน , เก็บหนังสือ  หรือพักผ่อนนั่งเล่นก็ได้ค่ะ แล้วแต่ความชอบของแต่ละคนเลย  แปลนห้องแบบนี้จะมีแค่ที่อาคาร High Rise เท่านั้นนะคะ แต่ละอาคารก็จะมีจำนวนห้องมากน้อยต่างกันไป

แปลนห้องเมื่อเปิดประตูเข้ามาจะเจอกับโต๊ะทานข้าวก่อน  ด้านขวามือเป็นครัวที่มีพื้นที่ด้านข้างทำเป็นตู้เก็บรองเท้าได้ มีห้องนอนอยู่ที่ชั้นล่างนี้และห้องน้ำต้องเดินมาเข้าจากด้านนอก  ไม่สามารถเข้าจากในห้องนอนได้  ห้องนี้พื้นที่สำหรับนั่งพักผ่อนดูที่วีจะต้องไปเบียดกับบันไดหน่อย  เนื่องจากบริเวณริมหน้าต่างจะเป็นบันไดทางขึ้นไปชั้นลอยด้านบน เลยไม่มีพื้นที่สำหรับโต๊ะวางทีวี เพราะฉะนั้นต้องใช้วิธีติดตั้งทีวีแบบแขวนผนังค่ะ  เดี๋ยวจะมีรูปจากห้องตัวอย่างให้ดูด้วย น่าจะเห็นภาพมากขึ้น  สเปซในห้องนี้น่าสนใจนะคะ  แต่จะดีกว่านี้ถ้าชั้นบนมีประตูกระจกช่วยกันแอร์ไหลออกด้วย  จะได้เปิดแอร์แยกเป็นส่วนๆในแต่ละห้องได้  กรณีจะใช้สเปซในส่วนชั้นลอยจะได้ไม่จำเป็นต้องเปิดแอร์ทั้งห้อง

แปลนห้องคอนโด Than Living (คอนโดแดน ลิฟวิ่ง รัชดา-ประชาอุทิศ)

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 56.67 ตารางเมตร

แปลนห้องนี้ก็มีเป็นห้องตัวอย่างให้ดูค่ะ  ตอนแรกเลยที่ดูจากแปลนด้านล่างอย่างเดียวก็จะรู้สึกว่าเป็นสเปซที่ไม่ค่อยลงตัวเท่าไหร่ ห้องมันแคบๆยาวๆ  แต่พอได้ไปดูห้องตัวอย่างจริงๆ แล้วกลับรู้สึกว่าการจัดวางพื้นที่เป็นสัดเป็นส่วนดีกว่าที่คิดไว้  โต๊ะทานข้าวที่อยู่กลางห้องก็ไม่ได้ขวางทางเดิน มีพื้นที่กว้างพอสำหรับวางตู้เก็บของเพิ่มเติมได้ค่ะ ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอนเล็กต้องออกมาใช้ห้องน้ำด้านนอก  แปลนนี้เป็นแปลนที่ดูในกระดาษไม่ค่อยชอบ  แต่ของจริงจัดออกมาน่าอยู่ทีเดียว

แปลนห้องคอนโด Than Living (คอนโดแดน ลิฟวิ่ง รัชดา-ประชาอุทิศ)

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 33.44 ตารางเมตร

แปลนห้องนี้ทำเป็นห้องตัวอย่างเช่นกันค่ะ เป็นห้องแบบ 1  ห้องนอนที่อยู่ที่อาคาร Low Rise หันหน้าออกไปด้านนอกโครงการ (ฝั่งรัชดา) แปลนห้องจะต่างจากห้องแบบ 1 ห้องนอนที่อาคาร High Rise ค่ะ โดยเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วจะเจอกับโซฟานั่งเล่นก่อนเลย ไม่มีตู้เก็บรองเท้าค่ะ มีห้องครัวติดกับระเบียงห้องด้านนอกซึ่งมีประตูบานเลื่อนกั้นห้องไว้ให้ด้วย โต๊ะทานข้าวจะวางไว้ในห้องครัวเลยค่ะ ส่วนห้องนอนจะอยู่อีกด้านหนึ่งของห้องครัวโดยมีห้องน้ำอยู่ภายในห้อง

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

หลังจากดูรูปแปลนห้องแต่ละแบบกันไปแล้ว อาจจะยังไม่เห็นภาพหรือนึกการใช้งานไม่ออก ลองมาดูรูปจริงจากห้องตัวอย่างที่ทางโครงการตกแต่งไว้ให้กันดูค่ะ ซึ่งภายในห้องทุกห้องจะมี built-in ชุดครัวมาให้เหมือนกับห้องตัวอย่าง และถ้าห้องไหนมี pantry ก็จะ built-in ให้ด้วยค่ะ ภายในห้องนอนใหญ่จะ built-in ตู้เสื้อผ้ามาให้เหมือนกับในห้องตัวอย่างซึ่งเป็นบานเลื่อนหน้าบานกระจกเงา ห้องน้ำได้ตามห้องตัวอย่าง ส่วนเครื่องปรับอากาศติดตั้งให้ครบทุกห้อง

ความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานของอาคาร High Rise  อยู่ที่ 2.70 เมตร และของอาคาร Low Rise อยู่ที่ 2.60 เมตร ผนังภายในห้องจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวทั้งห้อง มาดูภายในห้องตัวอย่างกันเลยค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ 

แบบ 1 ห้องนอน 32.23 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาจะเจอกับส่วนของครัวก่อนคะ ตู้เย็นวางตรงข้ามกับเคาท์เตอร์ครัว ตู้ไม้ built-in มีเฉพาะในห้องตัวอย่าง ห้องจริงจะโล่งค่ะ ห้องนี้ไม่มีตู้เก็บรองเท้า ถ้าจะซื้อแบบลอยตัวก็ต้องวัดระยะผนังให้ดี เผื่อพื้นที่สำหรับวางตู้เย็นด้วยนะคะ

จากนั้นจะเป็นตำแหน่งวางโต๊ะทานข้าวกับโซฟานั่งเล่นค่ะ ชั้นวางของใสๆ ด้านขวามือเป็นส่วนตกแต่งในห้องตัวอย่าง ห้องจริงจะเป็นผนังปูนธรรมดา

มองจากโซฟามาทางประตูเข้าห้อง ถ้าหากไม่มีชั้นวางของ built-in ก็จะสามารถวางเก้าอี้ทานข้าวให้อยู่ตรงข้ามกันได้ค่ะ และถ้าใช้โต๊ะทานข้าวแบบกระจกใส  ก็จะช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากขึ้น เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่ไม่มาก

จากห้องนอนมองออกมายังด้านนอก

ภายในห้องนอนค่ะ ตู้เสื้อผ้าทางโครงการจะ built-in มาให้ แต่ว่าโต๊ะทำงานติดหน้าต่างไม่มีให้นะคะ

ทางซ้ายมือคือทางเข้าห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนค่ะ

ปิดท้ายด้วยรูปของห้องน้ำ จะได้ตามห้องตัวอย่างแบบนี้เลย กระจกเงาบานใหญ่และกระจกกั้นอาบน้ำก็มีให้ด้วยค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ 

แบบ 1 ห้องนอน Double Space 31 ตารางเมตร

ภาพแรกที่เห็นเมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาค่ะ

เคาท์เตอร์ครัวจะอยู่ทางขวามือ ตู้เก็บรองเท้าในห้องตัวอย่างจะเป็นตู้ built-in ชุดเดียวกับเคาท์เตอร์ครัวค่ะ ตำแหน่งก็จะอยู่หน้าห้องน้ำ (ตู้บานเปิดซ้ายมือข้างๆ เครื่องซักผ้า) หรือใครอยากจะวางตู้รองเท้าแบบลอยตัวที่ใต้บันไดก็ได้ค่ะ

ภายในห้องน้ำค่ะ ได้ตามห้องตัวอย่างเช่นกัน

มองจากในห้องน้ำออกมาด้านนอก เคาท์เตอร์ครัวด้านซ้ายมือ ขวามือเป็นห้องนอน (ผนังกระจกสีดำเป็นผนังตกแต่งในห้องตัวอย่างเท่านั้นค่ะ ห้องจริงเป็นผนังติด wallpaper)

ภายในห้องนอนค่ะ เป็นไซส์มินิ  ต้องเบี่ยงตัวหลบถ่ายรูปเอาหน่อย

พื้นที่ข้างเตียงเกือบจะชิดกับผนังห้องเลยค่ะ

มาดูชั้นลอยกันบ้าง จะใช้บันไดเหล็กแบบโปร่งคือไม่มีลูกตั้งบันได ความสูงจากพื้นชั้นล่างถึงเพดานชั้นลอยอยู่ที่ 5.40 เมตรค่ะ ติดแอร์ที่ชั้นลอยให้ด้วย จะวางโต๊ะทานงาน หรือชั้นวางหนังสือ ก็ได้ค่ะ  สเปซตรงนี้สวยดี  แต่เปลืองแอร์แน่นอน

จากชั้นลอยมองลงมาด้านล่าง สังเกตเห็นตำแหน่งติดทีวีกันหรือเปล่าค่ะ เป็นข้อจำกัดที่เลี่ยงไม่ได้ของห้อง type นี้ค่ะ เพราะตำแหน่งวางโซฟาอยู่ตรงกับทางขึ้นบันได ทีวีเลยต้องใช้วิธีติดแขวนกับผนังตรงชานพักบันไดค่ะ  เลยเหมือนการเอาสเปซของบันไดกับส่วนพักผ่อนมาวางซ้อนกัน

ห้องตัวอย่างคอนโด Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ 

แบบ 2 ห้องนอน 56 ตารางเมตร

ห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้จะอยู่ปลายสุดของอาคาร High Rise ทุกชั้นค่ะ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วจะเป็นทางเดินแยกซ้ายขวา ด้านหน้าเป็นเคาท์เตอร์ครัวพร้อม pantry ห้องนี้มีที่สำหรับวางตู้รองเท้าอยู่ด้านข้างหลังจากเปิดประตูเข้าห้องเลยค่ะ

จากเคาท์เตอร์ครัวมองไปทางโซฟา โต๊ะทานอาหารจะวางชิดกับ pantry

เนื่องจากเป็นห้องที่อยู่ด้านข้างของตึก เลยได้กระจกเข้ามุมแบบนี้ช่วยให้มองเห็นวิวได้กว้างขึ้น แสงธรรมชาติส่องเข้ามามากขึ้นแต่ไม่มีพื้นที่สำหรับตู้เก็บของเหนือทีวี ในกรณีที่ของเยอะนะคะพื้นที่เหนือทีวีสามารถติดตั้งตู้เก็บของหรือชั้นวางหนังสือได้ แต่สำหรับห้องนี้จะเหลือพื้นที่ครึ่งหนึ่ง

มองย้อนกลับมาทางโต๊ะทานข้าวและ pantry ห้องนี้จะได้ตู้ built-in เหนือตู้เย็นเหมือนกับห้องตัวอย่างเลยค่ะ pantry ก็รวมอยู่ในชุด built-in ครัวด้วยเช่นกัน

ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) โต๊ะสูงติดหน้าต่างและโคมไฟติดผนังตรงหัวเตียงมีเฉพาะในห้องตัวอย่างเท่านั้นค่ะ

มองออกมาทางประตูห้องน้ำ จะเห็นประตูห้องน้ำอยู่ทางซ้ายมือและมีตู้เสื้อผ้า built-in อยู่ข้างๆ เตียงนอน

จากเคาท์เตอร์ครัวมองไปทางประตูเข้าห้องมีตู้รองเท้าอยู่ข้างๆ แต่ว่าห้องจริงจะไม่มีให้นะคะ

ห้องนอนเล็กค่ะ มีหน้าต่างบานใหญ่  1 บาน ห้องนี้ต้องวางเตียงชิดผนังห้องด้านใดด้านหนึ่ง ส่วนไม้บังรางผ้าม่านทางโครงการไม่ได้เตรียมไว้ให้นะคะ

ผนังหัวเตียงนอนค่ะ พอวางเตียงชิดผนังห้องแล้วก็จะมีพื้นที่เหลือสำหรับวางโต๊ะทำการบ้านได้

ห้องตัวอย่างคอนโด Than Living รัชดา-ประชาอุทิศ 

แบบ 1 ห้องนอน 33 ตารางเมตร

ห้องนี้จะเป็นห้องที่อยู่ในอาคาร Low Rise ค่ะ เมื่อเปิดประตูเข้าห้องมาก็จะเจอกับโซฟา ห้องครัวจะอยู่ติดกับระเบียงห้องด้านนอกซึ่งจะมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเป็นห้องให้ โต๊ะทานข้าวจะวางไว้ในบริเวณเดียวกับห้องครัว

ภายในห้องครัวมีพื้นที่ทางเดินระหว่างเคาท์เตอร์ครัวกับโต๊ะทานข้าวประมาณ 80 – 90 ซม. เลยค่ะ ปูพื้นห้องครัวด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่สีดำก็ช่วยให้ห้องดูหรูหราขึ้นมาได้เหมือนกัน และยังใช้กระเบื้องแบบเดียวกันกรุผนังด้านหลังเคาท์เตอร์ครัวให้ด้วย แต่ตู้เย็นสีชมพูไม่มีให้นะคะ เป็นสีที่ตัดกับกระเบื้องดำได้สวยจริงๆ ^^

จากห้องครัวมองย้อนออกมาทางประตูเข้าห้อง ไม่มีที่สำหรับวางตู้รองเท้าอีกแล้วค่ะห้องนี้ และไม่แนะนำให้วางโต๊ะกลางหน้าโซฟาด้วยค่ะเพราะเวลาเปิดประตูห้องมาจะทำให้เดินเข้าห้องได้ลำบากขึ้น

ตกแต่งผนังหลังโซฟาน่ารักดีค่ะ เผื่อเป็นไอเดียสำหรับห้องที่มีพื้นที่ไม่มาก เป็นผนัง built-in ออกแบบชั้นวางของ โต๊ะข้างโซฟา และโต๊ะทำงานโดยใช้บานพับสำหรับเปิดลง (เรียกว่าบานพับข้อศอก) มาติดตั้งเหมือนในห้องตัวอย่างนี้ก็ได้ค่ะ

ภายในห้องนอนค่ะ พื้นที่ปลายเตียงกว้างพอสำหรับเดินผ่านได้แต่จะแคบไปถ้าจะวางโต๊ะที่ปลายเตียง เพราะฉะนั้นทีวีในห้องนี้ต้องใช้วิธีแขวนผนังค่ะ ห้องจริงจะ drop ฝ้าลงมาแล้วซ่อนไฟให้ด้วย

อีกด้านหนึ่งของห้องนอนจะเป็นห้องน้ำค่ะ ตู้เสื้อผ้าเป็นแบบ built-in ค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

ภาพรวมของวัสดุค่อยข้างดีจนบางอย่างก็ surprise เล็กๆ เพราะเลือกใช้วัสดุที่นอกจากดีไซน์จะสวยแล้วยังให้ความสำคัญกับฟังก์ชั่นการใช้งานอีกด้วยค่ะ สำหรับพื้นลามิเนตถ้าสังเกตดูจากรูปภายในห้องตัวอย่างจะเห็นว่ามีอยู่ 2 สีด้วยกัน คือพื้นลามิเนตลายไม้สีอ่อนกับสีเข้ม ซึ่งสีเข้มนี้จะปูภายในห้องแบบ 2 ห้องนอนเท่านั้นค่ะ

อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  ลองมาดูรูปประกอบวัสดุประเภทต่างๆ กันดูค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาของชุดครัวในห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ กล่องครอบตู้เย็นมีตู้เก็บของบานเปิดด้านบนก็มีให้ด้วย

หน้าตาของชุดครัวในห้องแบบอื่นๆ จะเหมือนกันทั้งหมดค่ะ  มีช่องสำหรับวางไมโครเวฟด้านล่าง เตาไฟฟ้าอยู่ด้านบน ติดตั้งเครื่องดูดควันให้ด้วย แต่เครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างไมโครเวฟและตู้เย็นไม่มีให้

sink 1 หลุม ซึ่งเป็นวัสดุเป็นหินสังเคราะห์ชิ้นเดียวกันกับ Top เคาท์เตอร์

เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX ผนังด้านหลังกรุกระเบื้องสีดำ เช็ดล้างทำความสะอาดง่าย

เครื่องดูดควันของ MEX เช่นกัน

ภายในลิ้นชักมีถาดวางช้อนส้อมมาให้

ซูมให้ดู sink กับ  Top เคาท์เตอร์แบบใกล้ๆ โทนสีดำไร้รอยต่อ

ตู้ด้านบนเครื่องดูดควันจะซ่อนตู้  Consumer Unit ไว้ค่ะ ในห้องตัวอย่างไม่ได้ต่อท่อจากเครื่องดูดควันไว้ คิดว่าในห้องจริงเมื่อสร้างเสร็จแล้วจะต่อให้นะคะ เดินท่อบนฝ้าแล้วปล่อยออกที่ระเบียงห้องด้านนอก

เตาไฟฟ้าแบบ 4 หัว  มีเฉพาะในห้องแบบ 2 ห้องนอนเท่านั้นค่ะ ของ MEX

Pantry ในห้องแบบ 2 ห้องนอนที่ทางโครงการจะ  built-in ไว้ให้ มี sink ล้างจาน 1 หลุม และเครื่องซักผ้าวางใต้เคาท์เตอร์ค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

โทนสีของกระเบื้องห้องน้ำเป็นสีครีม ติดตั้งกระจกกั้นอาบน้ำเป็น tempered glass

ฝักบัวแบบปรับระดับความสูงได้ ของ Sierra ติดชั้นวางกระจกด้านข้างให้ด้วยค่ะ แต่ดูจากระยะแล้วต้องมีข้อศอกกระแทกกันบ้างแน่ๆ  เวลาใช้งานต้องระวังหน่อยนะคะ

ข้อควรระวังเวลาเปิดประตูกระจกที่อาบน้ำค่ะ ควรหาโฟมหรือพลาสติกใสมาติดที่ผนังด้านหลังบริเวณที่มือจับประตูกระจกมาชนนะคะ ถ้าเผลอเปิดกระแทกผนังบ่อยๆ กระเบื้องร้าวแล้วจะเรื่องใหญ่ทีเดียว

กระจกเงาบานใหญ่เต็มผนังพร้อมชั้นวางของด้านล่าง ใหญ่สะใจมากเลยค่ะ ชอบๆ

ชั้นวางของใต้กระจกเป็นไม้อัดทำสีธรรมชาติ ห้องจริงๆ จะมีพื้นที่ว่างระหว่างก๊อกน้ำกับแผ่นไม้เยอะกว่านี้นะคะ  ถ้าทำมาแบบห้องตัวอย่างนี่เปิดก็อกนี้ไม่ได้แน่ๆ  ส่วนเรื่องแผ่นไม้ ในระยะยาวต้องระวังเรื่องความชื้นพอสมควรค่ะ

เคาท์เตอร์อ่างล้างหน้าใช้วัสดุเป็นหินเทียมไม่มีรอยต่อ ตัวเคาท์เตอร์ลอยจากพื้นโดยมีตู้เก็บของ built-in ใต้อ่างล้างหน้ามาให้ด้วย ด้านข้างติดที่ใส่กระดาษทิชชู่และสามารถวางของชิ้นเล็ๆ ได้ด้วย

ความหนาของหินเทียมอยู่ที่ 2.5 ซม.

ชักโครกของ Sierra

ตะขอแขวนผ้าเช็ดมือ

ราวแขวนผ้าในห้องน้ำ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นลามิเเนตสีอ่อน หนา 8 มม. ไม่มีรอยต่อระหว่างห้องน้ำกับห้องนั่งเล่น

พื้นลามิเเนตสีเข้ม (เฉพาะห้องแบบ 2 ห้องนอน) หนา 8 มม. ไม่มีรอยต่อระหว่างห้องน้ำกับห้องนั่งเล่น

บัวพืื้นใช้ไม้อัดทาสีขาว หนา 10 ซม.

รอยต่อระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้งในห้องน้ำ ระดับเท่ากันมีเส้นสแตนเลสคาด

สวิตช์และปลั๊กไฟภายในห้องทั้งหมดของ Sierra

โคมไฟภายในห้องจะเป็นไฟ downlight สี่เหลี่ยมแบบฝังฝ้า

drop ฝ้าเพื่อซ่อนไฟไว้ให้จะอยู่ภายในห้องนอน

ลักษณะภายในตู้รองเท้า built-in ภายในห้องแบบ Double Space 1 ห้องนอน เป็นตู้บานเปิดเซาะร่องมือจับ ชั้นวางด้านในเป็นสีขาว  ส่วนแบบ 1 ห้องนอนทั่วๆไปไม่มีนะคะ

บันไดขึ้นชั้นลอยในห้องแบบ Double Space เป็นบันไดปูนทาสีขาวแล้วปิดทับขึ้นบันได้ด้วยแผ่นไม้อัดหนาประมาณ 3 ซม. แต่ชั้นแรกนี้ค่อนข้างสั้นไปหน่อย ประมาณ 15 ซม. เองค่ะ  เวลาเดินขั้นแรกจะไม่เต็มเท้าเท่าไหร่  ตรงนี้ขึ้นลงไม่ค่อยสบายเท้านัก

ระดับของรางอลูมิเนียมบานเลื่อนกระจกของห้องครัวจะต่ำกว่าระดับพื้นห้องเล็กน้อย เดินแล้วไม่สะดุดค่ะ

ด้านข้างของรางอลูมิเนียมบานเลื่อนกระจกจะเห็นระดับพื้นชัดกว่าค่ะ ใช้อลูมิเนียมค่อนข้างหนาเลยทำให้มีขนาดของวงกบอลูมิเนียมกว้างกว่าทั่วๆ ไป

ถ้าเป็นประตูบานเลื่อนที่กั้นบริเวณห้องครัวกับระเบียงด้านนอกจะไม่ฝังลงพื้นค่ะ จะติดตั้งที่ระดับพื้นห้องปกติและนอกจากจะมีตัวล๊อคประตูที่มือจับแล้ว ยังมีตัวล็อกที่ใช้กุญแจไขที่ด้านล่างของบานเลื่อนที่ 2 ด้วยค่ะ (ปุ่มกลมๆ สีดำ)

ลักษณะของประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ราง  บานกรอบอลูมิเนียมสีเทามีตัวล็อคที่มือจับ ความหนา 1.5 มม. เมื่อปิดประตูแล้วจะกันเสียงรบกวนจากภายนอกได้ดีในระดับหนึ่งเลยค่ะ

ข้อดีของการใช้บานเลื่อนแบบ 3 บาน เห็นได้ชัดจากรูปนี้เลยค่ะ เปิดประตูระเบียงได้กว้างขึ้นและเมื่อเปิดจนสุดจะอยู่ในระยะเดียวกับความกว้างของโซฟาพอดี ช่วงไหนที่อากาศดีๆ เย็นสบายๆ ก็เปิดรับลมได้เต็มที่เลยค่ะ แต่ข้อเสียคือ รางนี้ไม่ได้เตรียมไว้สำหรับติดมุ้งลวดค่ะ

ถ้าเป็นประตูบานเลื่อนบริเวณห้องครัวกับระเบียงนอกห้อง เมื่อเปิดจนสุดจะได้พื้นที่กว้างแบบนี้เลยค่ะ ใครที่ชอบทำอาหารสามารถเปิดประตูระเบียงเพื่อช่วยระบายกลิ่นและให้อากาศถ่ายเทได้เลย  แต่ถ้าจะจัดหนักขนาดทำผัดพริกแกงแบบนั้นก็ระวังเพื่อนบ้านห้องข้างๆบ่นเอานะคะ

ถ้าเป็นระเบียงของห้องแบบ 1 ห้องนอนที่ตึก Low Rise จะมีลักษณะแบบนี้ค่ะ

ส่วนใหญ่แล้วห้องแบบ 1 ห้องนอนจะวางเครื่องซักผ้าไว้บริเวณระเบียงด้านนอก มีประตูเปิด-ปิด วัสดุของประตูด้านนอกคืออลูมิเนียมสีเทา

พื้นระเบียงด้านนอกปูกระเบื้องขนาด 60×60 ซม. สีเทา ความกว้างระเบียงอยู่ที่ 90 ซม.

ติดฟิล์มกันแดดแบบฉาบปรอทที่กระจกของประตูบานเลื่อนบริเวณระเบียง เวลามองจากด้านนอก (ตอนกลางวัน) จะสะท้อนเหมือนกระจกเงาเลยค่ะ  (ตรงนี้เห็นในห้องตัวอย่าง  ลืมถามมาว่าของจริงจะได้แบบนี้ด้วยหรือเปล่า)

ถ้ามองจากด้านในห้องจะเหมือนฟิล์มรถยนต์ที่มีีความเข้มประมาณ 60%

ราวกันตกบริเวณระเบียงด้านนอก เป็นอลูมิเนียมแนวตั้งสีเทา เว้นช่องว่างประมาณ 10 ซม. ช่วยให้ดูโปร่งไม่ทึบเกินไป ลมพัดผ่านได้ดี

กลอนล็อคประตูระแนงด้านนอก

หน้าต่างบานกระทุ้งในห้องนอน สังเกตดูความหนาของวงกบอลูมิเนียมจะหนากว่าทั่วไปเยอะเลย

บันไดเหล็กภายในห้องแบบ Double Space

ราวบันไดภายในห้องแบบ Double Space เป็นเหล็กแผ่นบางๆ

เครื่องปรับอากาศของ Samsung ติดให้ทุกห้องค่ะ

ประตูระแนงของห้องแบบ 2 ห้องนอน จะวางคอมเพรสเซอร์ 3 เครืื่อง (เครื่องซักผ้าอยู่บริเวณ Pantry)

ไฟกิ่งติดผนังด้านนอกระเบียง เป็นเหล็กกล่องสีดำ

ประตูระแนงของห้องแบบ 2 ห้องนอน จะวางคอมเพรสเซอร์ 3 เครืื่อง (เครื่องซักผ้าอยู่บริเวณ Pantry)

หน้าตาของตู้เสื้อผ้า built-in ที่โครงการจะทำให้ค่ะ หน้าบานเปิดฝั่งหนึ่งเป็นกระจกเงา อีกฝั่งปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเปิดขายเริ่มต้นตารางเมตรละ 86,000 – 95,000 บาท ระดับราคาจะต่างกันไปขึ้นอยู่กับตำแหน่งและขนาดพื้นที่ภายในห้อง และยิ่งชั้นสูงขึ้นราคาก็จะเพิ่มขึ้นด้วยค่ะ ทั้งอาคาร Low Rise และ High Rise จะเหมือนกัน

ราคา ณ วันที่ 5 มิถุนายน 2557 

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน อาคาร  LR-C  ชั้น 5  ยูนิต 506  พื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ราคา 2,443,260 บาท เฉลี่ย 86,000 บาท/ตร.ม.

Double Space อาคาร  HR-2  ชั้น 6  ยูนิต 604  พื้นที่ 31.06 ตารางเมตร ราคา 2,702,220 บาท เฉลี่ย 87,000 บาท/ตร.ม.

1 ห้องนอน อาคาร  HR-2  ชั้น 7  ยูนิต 704  พื้นที่ 32.20 ตารางเมตร ราคา 2,833,600 บาท เฉลี่ย 88,000 บาท/ตร.ม.

2 ห้องนอน อาคาร  HR-2  ชั้น 9  ยูนิต 902  พื้นที่ 56.45 ตารางเมตร ราคา 5,362,750 บาท เฉลี่ย 95,000 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 50,000 บาท

ผ่อนจองและทำสัญญา 60,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

ผ่อน 16,667 บาทต่องวด (1 – 18 งวด)

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   40  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)

ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  400 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ค่าธรรมเนียมการโอน 2% (ผู้ซื้อ 1% , ผู้ขาย 1%)

ค่าประกันและค่าธรรมเนียมต่างๆ เกี่ยวกับมิเตอร์ไฟฟ้าและประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 ห้องนอน  อาคาร  LR-C  พื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ราคา 2,443,260 บาท  ผ่อนประมาณ  14,770  บาท/เดือน

Double Space  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 31.06 ตารางเมตร ราคา 2,702,220 บาท  ผ่อนประมาณ  16,335  บาท/เดือน

1 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 32.20 ตารางเมตร ราคา 2,833,600 บาท  ผ่อนประมาณ  17,130  บาท/เดือน

2 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 56.45 ตารางเมตร ราคา 5,362,750 บาท  ผ่อนประมาณ  32,419  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 ห้องนอน  อาคาร  LR-C  พื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ราคา 2,443,260 บาท  ผ่อนประมาณ  15,610  บาท/เดือน

Double Space  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 31.06 ตารางเมตร ราคา 2,702,220 บาท  ผ่อนประมาณ  17,265  บาท/เดือน

1 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 32.20 ตารางเมตร ราคา 2,833,600 บาท  ผ่อนประมาณ  18,104  บาท/เดือน

2 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 56.45 ตารางเมตร ราคา 5,362,750 บาท  ผ่อนประมาณ  34,264  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 ห้องนอน  อาคาร  LR-C  พื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ราคา 2,443,260 บาท  ผ่อนประมาณ  17,017  บาท/เดือน

Double Space  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 31.06 ตารางเมตร ราคา 2,702,220 บาท  ผ่อนประมาณ  18,821  บาท/เดือน

1 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 32.20 ตารางเมตร ราคา 2,833,600 บาท  ผ่อนประมาณ  19,736  บาท/เดือน

2 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 56.45 ตารางเมตร ราคา 5,362,750 บาท  ผ่อนประมาณ  37,352  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 ห้องนอน  อาคาร  LR-C  พื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ราคา 2,443,260 บาท  ผ่อนประมาณ  19,582  บาท/เดือน

Double Space  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 31.06 ตารางเมตร ราคา 2,702,220 บาท  ผ่อนประมาณ  21,658  บาท/เดือน

1 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 32.20 ตารางเมตร ราคา 2,833,600 บาท  ผ่อนประมาณ  22,711  บาท/เดือน

2 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 56.45 ตารางเมตร ราคา 5,362,750 บาท  ผ่อนประมาณ  42,981  บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  87% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 ห้องนอน  อาคาร  LR-C  พื้นที่ 28.41 ตารางเมตร ราคา 2,443,260 บาท  ผ่อนประมาณ 25,074   บาท/เดือน

Double Space  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 31.06 ตารางเมตร ราคา 2,702,220 บาท  ผ่อนประมาณ  27,732  บาท/เดือน

1 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 32.20 ตารางเมตร ราคา 2,833,600 บาท  ผ่อนประมาณ  29,080  บาท/เดือน

2 ห้องนอน  อาคาร  HR-2  พื้นที่ 56.45 ตารางเมตร ราคา 5,362,750 บาท  ผ่อนประมาณ  55,037  บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ตัวถนนประชาอุทิศนี้เป็นเส้นที่เชื่อมต่อรามคำแหงเข้ากับรัชดาภิเษกและสุทธิสารวินิจฉัย  โดยมีเส้นเลียบทางด่วนเอกมันรามอินทราตัดผ่าน  ด้วยความที่เป็นถนนเชื่อมต่อจากถนนสายหลักสำคัญๆเลยหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีการจราจรค่อนข้างหนาแน่นในหลายๆจุด

ตำแหน่งของคอนโดแดน ลิฟวิ่ง ประชาอุทิศนั้นจะอยู่ช่วงใกล้ๆแนวเลียบทางด่วนเอกมัยรามอินทรา  ทำให้สามารถเชื่อมต่อออกไปยังจุดต่างๆอย่างลาดพร้าวหรือเอกมัยได้ด้วย  จากที่ทำเลเชื่อมต่อไปได้หลายทางแต่ห่างไกลรถไฟฟ้ามาก  เพราะฉะนั้นการขับรถจึงน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดค่ะ  ช่วงเช้าและเย็นรถค่อนข้างติดแต่ถ้ารู้จักซอยลัดต่างๆ ในย่านนี้จะช่วยย่นระยะเวลาในการเดินทางไปได้มากทีเดียว

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้าเป็นเรื่องของโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ในย่านนี้มีครบหมดแล้ว ขาดก็แต่รถไฟฟ้า  สำหรับแผนพัฒนาที่น่าจะส่งผลต่อพื้นที่ในย่านนี้จะเป็นโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ตลิ่งชัน -สุวินทวงศ์) ระยะทางรวม 39.5 กิโลเมตร โดยสถานีที่อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุดคือสถานีประดิษฐ์มนูญธรรม  แต่ก็ยังค่อนข้างไกลจากตัวโครงการอยู่ค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ลักษณะของแปลนที่ดินที่ลึกเข้าไปด้านในทำให้ตำแหน่งการวางตัวของอาคารแต่ละอาคารจะอยู่ในแนวเหนือ-ใต้  หันหน้าเข้าหากันมีสเปซระหว่างกลาง  ความโดดเด่นของอาคารที่เห็นได้ชัดนอกจากเรื่องของโทนสีที่ไล่เฉดจากเทาเข้มไปขาวนั้น ยังมีลักษณะของระเบียงห้องนอนที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมคางหมู (อาคาร Low Rise) ซึ่งแต่ละชั้นจะสลับด้านของระเบียงไปเรื่อยๆ ทำให้เป็นที่สะดุดตาเมื่อมองจากภายนอก ห้องแบบ Double Space ก็มีส่วนสำคัญในการสร้าง Pattern ให้กับอาคาร High Rise ด้วยกรอบภายนอกของห้องที่เป็นรูปตัวแอล (L-Shape) ทาสีเทาเข้ม โดยอาคาร High Rise แต่ละอาคารจะมีจำนวนห้องแบบนี้ไม่เท่ากัน เกิดเป็น Pattern ที่เหมือนก้อนอิฐเรียงสลับกันไปเรื่อยๆ มีมิติและน่าสนใจดีค่ะ

ในเรื่องของแปลนห้องที่หลักๆ จะมีทั้งหมด 4 แบบ ตามที่ได้พูดถึงในส่วนของรีิวิวด้านบนไปแล้ว พบว่าห้องแต่ละแบบจะมีความน่าสนใจแตกต่างกัน มีข้อดีและข้อเสียต่างกัน  สำหรับวัสดุที่ทางโครงการให้มานั้นในภาพรวมถือว่าดีจนน่าประหลาดใจทีเดียวเมื่อเทียบกับราคาต่อตารางเมตร จากความหนาของวงกบอลูมิเนียมและการเลือกใช้ประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 บาน แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อการเลือกใช้วัสดุให้เหมาะกับฟังก์ชั่นการใช้งานจริง การเลือกใช้ประตูบานเลื่อนแบบ 3 บานนี้นอกจากจะช่วยให้มองเห็นวิวด้านนอกได้กว้างขึ้นแล้ว ยังช่วยระบายอากาศภายในห้องได้มากขึ้น เมื่อห้องสว่างขึ้น (จากแสงธรรมชาติภายนอก) แม้จะเป็นห้องที่มีพื้นที่ไม่มากก็จะช่วยให้รู้สึกโปร่งโล่งได้ รู้สึกว่าห้องกว้างขึ้นและไม่อึดอัด (แต่บานประตูแอบหนักไปหน่อยนะคะ  เลื่อนซะเหนื่อยเลย)

พื้นที่ส่วนกลางจะกระจายไปแต่ละอาคารทั้งอาคาร Low Rise และ High Rise ข้อดีคือได้พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ขึ้น อย่างเช่นสระว่ายน้ำก็จะมีถึง 2 สระแยกกันไปคนละอาคาร มีสวนหย่อมกว้างขวาง ห้องออกกำลังกาย ห้องสมุด บริเวณพื้นที่ตรงกลางระหว่างอาคารทั้ง 2 ฝั่งยังออกเป็นแบบสวน Landscape ช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับโครงการได้ แต่ก็มีข้อเสียเหมือนกัน เมื่อมีการกระจายพื้นที่ส่วนกลางไปตามอาคารต่างๆ คงจะไม่สะดวกในการไปใช้บริการเท่าไหร่ การเข้าถึงบริการต่างๆ จะยากขึ้น คนที่อยู่อาคาร High Rise อยากว่ายน้ำก็ต้องเดินผ่านสวนตรงกลางก่อนจะเดินขึ้นบันไดด้านหน้าไปยังชั้นสระว่ายน้ำ หากเกิดฝนตกก็ไม่สามารถเดินกลับไปยังอาคารของตัวเองได้  ส่วนตัวมองว่าพื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดนี้ความน่าสนใจที่ผสมกับความยากในการใช้งาน

ส่วนเรื่องของจำนวนที่จอดรถซึ่งจอดได้ทั้งหมด 494 คัน (ไม่รวมจอดซ้อนคัน) จากจำนวนยูนิตทั้งหมด 823 ยูนิต เกือบครึ่งต่อครึ่งทีเดียวและเป็นทำเลที่ไม่มีรถไฟฟ้าผ่านด้วย จำนวนที่จอดรถอาจจะไม่เพียงพอ แต่สำหรับลิฟต์นั้นจะมี 2 ตัวทุกอาคาร จำนวนห้องในแต่ละชั้นมีไม่เยอะเฉลี่ยแล้วประมาณ 12 ห้องต่อชั้น (ทั้ง High Rise และ Low Rise) ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรค่ะ  จะมีที่ติดใจอยู่หน่อยก็ตรงที่ตึก High Rise ไม่ได้ทำลิฟต์เซอร์วิสมาให้นี่แหละค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ