สวัสดีค่ะ วันนี้อยู่สบายจะพาไปชมคอนโดที่อยู่ใจกลางย่านสาทรที่มีชื่อว่า Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ จาก SC ASSET ค่ะ โดยโครงการนี้มีลูกค้าเริ่มเข้าอยู่แล้วประมาณ 60% ส่วนความคืบหน้าโดยรวมของโครงการก็เกือบเสร็จสมบูรณ์ 100% แล้ว ใครที่กำลังจะย้ายงานมาแถวสาทร สีลม หรือมองหาคอนโดใกล้โรงเรียนในย่านนี้ ลองดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จาก Fact Sheet ด้านล่างนะคะ
Centric Sathorn-St.Louis (เซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์) รีวิวคอนโดซอยสาทร 11
· 39 min readCentric Sathorn – St.Louis (เซ็นทริค สาทร – เซนต์หลุยส์)
- เจ้าของโครงการ >>> SC ASSET (เอสซี แอสเสท)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสาทร 11
- ขนาดที่ดิน >>> 2 – 1 – 78 ไร่
- จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 7 ชั้น และ 28 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 2 อาคาร (อาคารที่พักอาศัย และอาคารจอดรถรวมกัน)
- ประเภทและขนาดห้อง >>>
- 1 ห้องนอน 33 – 41 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 55 – 71 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน 135 – 140 ตารางเมตร
- Duplex 1 ห้องนอน 55 – 56.57 ตารางเมตร
- Duplex 2 ห้องนอน 82.60 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 364 ยูนิต และร้านค้า 3 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>> 50% ไม่รวมจอดรถซ้อนคัน (204 คัน) *มีพื้นที่จอดประจำสำหรับห้องชุดขนาด 64 ตารางเมตรขึ้นไป
- ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 8.97 ล้านบาท (ราคาห้องขนาด 2 ห้องนอน 71.90 ตารางเมตร ณ วันที่ 28/9/2014)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ 100,000 บาท/ตารางเมตร
- พิกัด GPS >>> 13.718499, 100.526832
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
เลือกเส้นทางถนนสาทรในการเดินทางมารีวิวคอนโดค่ะ โดยเริ่มต้นจากสี่แยกสาทร-สุรศักดิ์ ตรงผ่านสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์ เพื่อมากลับรถบริเวณด้านหน้าซอยสาทร 10 ค่ะ เมื่อกลับรถมาแล้วก็จะผ่านตึกหุ่นยนต์ เตรียมชิดซ้ายเพื่อเลี้ยวเข้าซอยสาทร 11 จากปากซอยถึงบริเวณด้านหน้าคอนโด Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ ประมาณ 230 เมตร ค่ะ
เริ่มต้นจากถนนสาทรขาเข้าบริเวณแยกสาทร-สุรศักดิ์
ตรงข้ามสี่แยกผ่านสถานีรถไฟฟ้าสุรศักดิ์
จะมีป้ายบอกทางไปถนนปั้นซ้ายมือ ตรงนี้ให้เริ่มชิดขวาเพื่อเตรียมกลับรถค่ะ
จุดกลับรถต้องรอสัญญาณไฟนะคะ
เมื่อกลับรถมาแล้วจะมองเห็นตึกหุ่นยนต์ (ธนาคารยูโอบี) ด้านซ้ายมือ
อยู่เลนซ้ายไว้เลยค่ะ เดี๋ยวเราจะเลี้ยวเข้าซอยสาทร 11 ตามป้ายเส้นทางลัดถนนจันทน์
พอเลี้ยวเข้ามาในซอยจะเจอรถสองแถวจอดรอผู้โดยสารหน้าปากซอย ขับผ่านลำบากเล็กน้อย
ตรงมาเรื่อยๆ ก็จะเห็นป้ายโครงการ Centric Sathorn-St.Louis ด้านซ้ายมือค่ะ เลี้ยวเข้าไปได้เลย
มาดูตำแหน่งรอบๆ ตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
หลังจากรูปตำแหน่งที่ตั้งของคอนโด Centric สาทร-เซนต์หลุยส์แล้ว มาดูบริเวณรอบๆ ว่ามีอะไรสำคัญๆ บ้าง เริ่มจากพื้นที่ที่อยู่ติดกับคอนโดทางด้านหน้า จะเป็นสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจ ไทย-จีน (หมายเลข 1) และฝั่งตรงข้ามกับคอนโด (หมายเลข 5) จะเป็น Service Apartment ชื่อว่า Marvin Suites ค่ะ ถัดเข้าไปด้านในซอยสาทร 11 จะมีโรงเรียนอัสสัมชัญ แผนกประถม (หมายเลข 6) นอกจากนี้ซอยสาทร 11 ยังเป็นทางลัดไปออกถนนจันทน์ตามที่อธิบายไปด้านบน และยังเชื่อมกับซอยนราธิวาสราชนครินทร์ 6 ซึ่งปากซอยจะมี Community Mall ชื่อว่า The City Viva (หมายเลข 13) มีทั้งร้านค้า ร้านอาหาร ร้านซักรีด ไปรษณีย์ Villa Market ฯลฯ เป็นแหล่งชอปปิ้งที่อยู่ใกล้กับคอนโดที่สุดค่ะ
ถัดจากคอนโดไปทางปากซอยสาทร 11 จะมีคอนโด Saint Louis Grand Terrace (หมายเลข 2) มีความสูง 28 ชั้น เป็นคอนโดเก่าตั้งแต่ปี 2549 ค่ะ พื้นที่หัวมุมที่อยู่ติดกันกำลังก่อสร้าง AIA สำนักงานใหญ่ (หมายเลข 3) ฝั่งตรงข้ามเป็นตึก @Sathorn (หมายเลข 4) ความสูง 22 ชั้น ให้เช่าเป็นสำนักงานออฟฟิศ ซึ่งตอนนี้มีบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต เช่าอยู่ค่ะ และด้านล่างของตึกจะมีธนาคารกสิกรไทย สาขาสาทร (เซนต์หลุยส์ 3) อยู่ด้วยค่ะ
ใกล้กับคอนโดมีโรงพยาบาลเซนต์หลุยส์ และวิทยาลัยเซนต์หลุยส์ (หมายเลข 7) อยู่ริมถนนสาทร ข้างๆ ก็จะเป็นโรงเรียนเซนต์หลุยส์ศึกษา (หมายเลข 8) เปิดสอนตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ค่ะ ข้ามมาอีกฝั่งของถนนสาทรก็ยังมีโรงเรียนกรุงเทพคริสเตียน วิทยาลัย (หมายเลข 9) เปิดสอนตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6
ใกล้กับแยกสาทร-นราธิวาสจะมีโรงแรม W Hotel Bangkok (หมายเลข 10) ซึ่งเป็นโรงแรมหรูระดับ 5 ดาว และหัวมุมสี่แยกคืออาคาร Sathorn Square (หมายเลข 11) เป็นอาคารสำนักงานให้เช่าระดับเกรด A มีความสูง 40 ชั้น โดยชั้นล่างจะเป็นร้านค้า ร้านอาหารต่างๆ ส่วนฝั่งตรงข้ามเป็นที่ตั้งของอาคาร Empire Tower (หมายเลข 12) สุดท้ายย้อนกลับมาแถวๆ ซอยสาทร 11 จะมีตึกหุ่นยนต์ (หมายเลข 14) ซึ่งเป็นที่ตั้งของธนาคารยูโอบีค่ะ
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
ติดกับโครงการด้านซ้าย (เมื่อหันหน้าเข้าโครงการ) จะเป็นร้านอาหารชื่อว่า บ้านไอซ์หอม และสปาความสวยความงาม Gaya Healthy&Beauty
ติดกับโครงการอีกด้านก็จะเป็นสมาคมส่งเสริมเศรษฐกิจไทย-จีน
ตรงข้ามกับคอนโด Saint Louis Grand Terrace เป็นธนาคารธอส. สาขาเซนต์หลุยส์ 3
บริเวณปากซอยสาทร 11 กำลังก่อสร้างอาคาร AIA สำนักงานใหญ่อยู่ค่ะ
วินรถสองแถวใกล้กับปากซอย วิ่งระหว่างสะพานเฉลิมพันธ์-วัดช่องลม (พระราม 3)
สะพานลอยข้ามไปอีกฝั่งของถนนสาทร
ปากซอยตรงข้ามกับสำนักงานใหญ่ AIA จะเป็นตึก @Sathorn ความสูง 22 ชั้น ให้เช่าเป็นสำนักงานออฟฟิศ ซึ่งตอนนี้มีบริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต เช่าอยู่ค่ะ
คอนโด Saint Louis Grand Terrace ที่เป็นรูปทรงเรือใบ สูง 28 ชั้น อยู่ข้างๆ กับสปาค่ะ
อีกมุมหนึ่งของสำนักงานใหญ่ AIA บริเวณด้านหน้าถนนสาทรค่ะ
ตึกนี้เป็น Service Apartment ชื่อว่า Marvin Suites จะอยู่ตรงข้ามกับอาคาร B ของโครงการ Centric สาทร-เซนต์หลุยส์เลยค่ะ
ทางเดินเท้าฝั่งตรงข้ามกับโครงการจะมีขนาดกว้างกว่านะคะ ร่มรื่นและเดินง่ายกว่า
รูปนี้เป็นทางเดินเท้าด้านหน้างโครงการค่ะ จะมีขนาดแคบกว่าอย่างเห็นได้ชัด
สภาพภายในซอยสาทร 11 มีสองเลนวิ่งสวนกัน แต่มักจะมีรถจอดยาวตลอดแนวด้านใดด้านหนึ่ง ถ้าขับรถใหญ่ก็จะสวนกันลำบากหน่อยค่ะ
จะจอดริมถนนกันแบบนี้ค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
มาดูบรรยากาศภายในโครงการจากสถานที่จริงกันค่ะ
ป้ายชื่อโครงการบริเวณด้านหน้าค่ะ
มีน้ำตกบริเวณด้านหน้าโครงการด้วยค่ะ เวลาเดินแล้วได้ยินเสียงน้ำไหลรู้สึกร่มรื่นเป็นธรรมชาติดี
ทางเข้าร่มรื่นแต่ป้อมยามดูร้อนนะคะ ^^” ไม่มีหลังคายื่นออกมาเลย ดีไซน์ธรรมดาๆ มีกล้องวงจรปิด 1 ตัวส่องไปที่ทะเบียนรถ
พอเลยป้อมยามเข้ามาด้านในซ้ายมือก็จะมีบ่อน้ำใสๆ แบบนี้อยู่ด้านข้างของอาคาร B ค่ะ ใสวิ้งน่าว่ายน้ำมากเลย แต่เป็นสระตกแต่งเพื่อความสวยงามเฉยๆ นะคะ ^^”
ตรงนี้เป็นบริเวณ Drop-off ด้านหน้าอาคาร A ค่ะ มีหลังคายื่นออกมาสวยเชียว ถ้าป้อมยามมาหลังคาแบบนี้ยื่นออกมาก็คงจะดูกลมกลืนกันบ้าง
บริเวณนี้เป็นบ่อน้ำและน้ำพุ (เล็กๆ) ด้านนอกห้องสมุดของอาคาร A ค่ะ
ทางเดินรถด้านข้างอาคาร A ซึ่งรอบๆ โครงการจะปลูกต้นไม้แบบนี้ตลอดแนวค่ะ
]
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
คอนโด Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ จะมี 2 อาคาร โดยอาคารด้านหน้าที่ติดกับซอยสาทร 11 คือ อาคาร B ส่วนอาคารทางด้านหลังวางตัวขนานกับซอยคือ อาคาร A ค่ะ ที่จอดรถจะอยู่ชั้น 1-7 ของอาคาร A
บริเวณรอบๆ คอนโดตามภาพกราฟฟิคด้านล่าง จะเห็นว่ามีเพียง Service Apartment ฝั่งตรงข้ามที่มีความสูง 6 ชั้น (อยู่ใกล้คอนโดที่สุด) นอกนั้นเป็นบ้านพักอาศัยสลับกับอาคารพาณิชย์ ความสูงจะอยู่ระหว่าง 2-4 ชั้นค่ะ อาคารสูงส่วนใหญ่จะอยู่ริมถนนสาทร ถ้าถัดเข้าไปในซอยสาทร 11 เรื่อยๆ จะเป็นเส้นทางลัดไปออกถนนจันทน์ (ซอยจันทน์ 18/7) ก็จะมีแต่บ้านพักอาศัยค่ะ
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
ด้านหน้าโครงการที่อยู่ติดกับซอยสาทร 11 คือทิศตะวันตก จะมีอาคาร B อยู่ทางด้านหน้า แต่ Lobby จะอยู่ทางด้านหลังเยื้องกับทางเข้า Lobby อาคาร A ค่ะ ระเบียงห้องของอาคาร B จะหันไปทางทิศเหนือและทิศใต้ โดยห้องที่อยู่ทางทิศใต้จะโดนแดดในช่วงบ่ายเป็นต้นไป ส่วนระเบียงห้องของอาคาร A นั้น จะหันไปทางทิศตะวันออกและทิศตะวันตกค่ะ แน่นอนว่าห้องฝั่งทางทิศตะวันออกจะโดนแดดในช่วงเช้า ห้องอีกฝั่งก็จะโดนแดดตั้งแต่ช่วงบ่าย ซึ่งวิวของทั้งสองฝั่งจะต่างกัน
สำหรับห้องทางทิศตะวันออกจะหันเข้าเมือง ทางถนนนราธิวาสราชนครินทร์ และห้องทางทิศตะวันตกจะหันไปทางแม่น้ำเจ้าพระยา แต่มองไม่เห็นแม่น้ำนะคะ ระยะทางค่อนข้างไกล แต่ก็ยังเป็นวิวที่ดีเพราะฝั่งนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่อยู่อาศัย ไม่ค่อยมีตึกสูงเหมือนวิวอีกฝั่งค่ะ
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่อาคาร A เป็นหลัก โดยจะมีห้องสมุดที่สามารถนำโน๊ตบุ๊คมานั่งทำงานได้ที่ชั้น 1 มีสระว่ายน้ำ (แบบ outdoor) มีสระเด็กแยกต่างหากอยู่ที่ชั้น 27 และ Sky Fitness Lounge ห้องออกกำลังกายที่มองเห็นวิวกรุงเทพฯ ได้ 180 องศา ที่ชั้น 28 ค่ะ และสำหรับพื้นที่ส่วนกลางที่อาคาร B จะมีเพียง Roof Garden ที่ดาดฟ้าชั้น 8 อย่างเดียวค่ะ ลูกค้าที่พักอยู่ที่อาคาร B สามารถมาใช้บริการพื้นที่ส่วนกลางที่อาคาร A ได้ เพราะลิฟต์จะไม่ได้ล็อคชั้นที่เป็นพื้นที่ส่วนกลาง ได้แก่ ชั้น 1 และชั้น 27 ค่ะ (Fitness ชั้น 28 จะต้องเดินบันไดจากชั้น 27 ขึ้นไปค่ะ เป็นการวอร์มร่างกายไปในตัว ^^)
ลิฟต์โดยสารมีทั้งหมด 5 ตัว แบ่งเป็นอาคาร B จำนวน 2 ตัว และอาคาร A จำนวน 3 ตัว โดยมีลิฟต์เซอร์วิสอีก 1 ตัว สำหรับอาคาร A จะมีบันไดหนีไฟ 2 ที่อยู่บริเวณตรงข้ามกับลิฟต์โดยสารเป็นบันไดหนีไฟหลัก และปลายทางเดินอีกด้านหนึ่งเช่นเดียวกันกับอาคาร B ค่ะ
สำหรับสัดส่วนจำนวนลิฟต์โดยสารต่อห้องพักอาศัยนั้น อาคาร B มีสัดส่วน 1:10 อยู่ในเกณฑ์ที่ดีเลยค่ะ ไม่แออัดจนเกินไป แต่สำหรับอาคาร A มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 344 ยูนิต ต่อจำนวนลิฟต์โดยสาร 3 ตัว คิดเป็น 1:115 สำหรับคอนโดที่มีราคาต่อตารางเมตรตั้งแต่ 100,000 บาทขึ้นไปอย่างคอนโด Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ สัดส่วนที่เหมาะสมควรจะอยู่ที่ 1:100 แบบนี้มีจำนวนความต้องการที่มากกว่าเกณฑ์เล็กน้อย แต่ถ้านับรวมลิฟต์เซอร์วิสเป็นลิฟต์ที่สามารถใช้เป็นลิฟต์โดยสารได้ก็จะมีความเพียงพอต่อการใช้งานพอดีค่ะ
จำนวนที่จอดรถประมาณ 204 คัน ยังไม่รวมซ้อนคันและในจำนวนนี้รวมพื้นที่จอดประจำสำหรับห้องชุดขนาด 64 ตารางเมตรขึ้นไปแล้ว ก็ถือว่าไม่น่าจะเพียงพอกับจำนวนห้องพักอาศัย ถึงแม้จะอยู่ใกล้กับรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์เพียง 600 เมตร แต่ราคาห้องต่อตารางเมตรระดับนี้ คาดว่าลูกห้องที่เลือกอยู่คอนโดนี้ส่วนใหญ่น่าจะมีรถยนต์ส่วนตัวกันค่ะ
บรรยากาศภายในห้องสมุดชั้น 1 อาคาร A ค่ะ มีปลั๊กไฟให้บนโต๊ะทุกโต๊ะ มานั่งทำงานเงียบๆ เปลี่ยนบรรยากาศที่นี่ก็ได้ค่ะ (แต่แอร์เย็นมาก! ^^)
อีกมุมหนึ่งภายในห้องสมุดค่ะ จริงๆ เรียกว่าเป็นเหมือนห้องทำงานดีกว่า เพราะสมุดหนังสือที่มีเหมือนเป็นพร๊อพตกแต่ง
ตู้จดหมายของทุกห้องจะรวมกันอยู่บริเวณข้างลิฟต์ที่ชั้น 1 ไม่แน่ใจว่าของอาคาร B จะมารวมอยู่ที่เดียวกันตรงนี้ด้วยหรือเปล่านะคะ
การตกแต่งพื้นที่หน้าลิฟต์ชั้น 1 อาคาร A
ภายในลิฟต์ค่ะ เป็นระบบล็อคชั้นด้วย Key Card ยกเว้นชั้น Facility หลักอย่างชั้น 27 และ Lobby กดได้เลยไม่ต้องใช้ Key Card ค่ะ
สระว่ายน้ำที่ชั้น 27 ค่ะ ขนาด 5×20 เมตร เป็นสระระบบเกลือแบบ outdoor สังเกตดีๆ จะมีกั้นพื้นที่สำหรับสระเด็กไว้ให้ด้วย
อีกมุมหนึ่งของสระว่ายน้ำค่ะ ปูหญ้าเทียมไว้ด้านล่างรอบสระสำหรับเดินเล่นได้
มีที่นั่งด้านข้างสระแบบนี้ น่าจะมีฟูกกันน้ำวางไว้สักหน่อย เย็นๆ จะได้มานอนเล่นริมสระว่ายน้ำอ่านหนังสือ ชั้นนี้ลมโกรกเย็นสบายค่ะ
ที่อาบน้ำก่อนลงสระ จะหลบมุมอยู่ข้างสระว่ายน้ำค่ะ
นี่เป็นประตูขึ้นไปห้อง Fitness ที่ชั้น 28 ค่ะ -.-” เดินหาทางขึ้นอยู่นานมาก น่าจะติดป้ายบอกทางไว้สักหน่อยก็ยังดี สาเหตุที่หน้าตาเหมือนประตูหนีไฟก็เพราะตรงนี้เป็นบันไดหนีไฟด้วยค่ะ
อีกด้านหนึ่งของประตูก็จะเป็นแบบนี้ค่ะ
สำหรับบันไดตรงช่วงที่ใช้สำหรับเดินขึ้นมา Fitness จะปูด้วยกระเบื้องยางลายไม้ เปลี่ยนลักษณะของราวบันไดเป็นสไตล์ Loft แบบนี้ ดูดีสวยงามทีเดียว แต่ยังติดใจเรื่องประตูอยู่ ติดป้ายทางไป Fitness ไว้บนผนังข้างประตูก็ยังดี
Fitness เป็นกระจก 3 ด้าน มองเห็นวิวกรุงเทพฯ แบบนี้ค่ะ อุปกรณ์เครื่องเล่นต่างๆ เยอะดี ส่วนใหญ่จะมีอย่างละ 3 ตัวค่ะ
อีกมุมหนึ่งภายในห้อง Fitness ค่ะ ปูด้วยพื้นไม้สวยงาม แต่เสียดายที่ไม่ยอมปูผ้ายางรองอุปกรณ์ต่างๆ เพราะนอกจากจะป้องกันพื้นห้องไม่ให้เสียหายง่ายแล้ว ยังช่วยเรื่องของการกระจายน้ำหนักเมื่อมีการใช้งานเครื่องเล่นอีกด้วย
วิวของสระว่ายน้ำเมื่อมองลงไปจากห้อง Fitness ค่ะ
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Floor Plan คอนโด Centric สาทร-เซนต์หลุยส์
มาเริ่มกันที่หน้าตาด้านนอกของอาคารกันก่อน สำหรับอาคาร A นั้น ค่อนข้างแปลกตาทีเดียวกับการดีไซน์ให้มีผนังด้านระเบียงห้องที่เฉียงประมาณ 30 องศา และยังสลับด้านกันไปเรื่อยๆ จนถึงชั้น 23 ส่วนชั้น 24-25 เป็นผนังระเบียงปกติค่ะ ส่วนอาคาร B แม้ดีไซน์ด้านนอกอาคารจะไม่หวือหวาเท่าแต่ก็ยังมีลูกเล่นเฉียงสลับด้านของพื้นระเบียงยื่นออกมาให้ดูคล้ายคลึงกันค่ะ โทนสีจะเน้นสีเทาเข้มสลับกับเทาอ่อน มีสีขาวตัดเล็กน้อยจากสีของขอบหน้าต่าง และสีของขอบปูนแต่ละชั้น
อาคาร A มีชั้นจอดรถตั้งแต่ชั้น 1-7 และห้องพักอาศัยเริ่มตั้งแต่ชั้น 8-25 ห้องแต่ละขนาดจะอยู่ตำแหน่งตรงกันทุกชั้นค่ะ พื้นที่ส่วนกลางอย่างสระว่ายน้ำและห้องออกกำลังกายจะอยู่ที่ชั้น 27-28 ส่วนห้องสมุดอยู่ชั้น 1 ข้างๆ Lobby ค่ะ ภายในอาคาร A มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 3 ตัว (ลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว) ห้องพักอาศัยที่อยู่ล้อมรอบลิฟต์โดยสารจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน (37.33 – 41.29 ตารางเมตร) และ 2 ห้องนอน (59.96 ตารางเมตร) บริเวณที่เป็นผนังระเบียงเฉียงก็จะมีห้องทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน โดยแบ่งตามช่วงของแต่ละชั้น คือ ชั้น 8-17 เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน (33.78 – 36.84 ตารางเมตร) ชั้น 18-23 เป็นห้องแบบ 2 ห้องนอน (70.56 – 71.78 ตารางเมตร) และชั้น 24-25 เป็นห้องแบบ 3 ห้องนอน (140.23 – 141.56 ตารางเมตร)
* เนื่องจากชั้น 24-25 ที่เป็นห้องแบบ 3 ห้องนอนทั้งหมด จะมีความสูงภายในห้องมากกว่าชั้นอื่นๆ คือ 2.80 เมตร ทำให้ชั้น 26 ที่ไม่ได้กล่าวถึงนั้น เป็นส่วนหนึ่งของชั้น 24-25 นี้ค่ะ
สำหรับอาคาร B มีความสูงเพียง 7 ชั้น อยู่ทางด้านหน้าโครงการติดกับซอยสาทร 11 มีจำนวนห้องพักทั้งหมด 20 ยูนิต มีลิฟต์โดยสารทั้งหมด 2 ตัวค่ะ ที่ชั้น 1-2 จะเป็นห้องแบบ Duplex 1-2 ห้องนอน (55.01 – 82 ตารางเมตร) และตั้งแต่ชั้น 3-7 ก็จะเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนทั้งหมดค่ะ (57.44 – 58.71 ตารางเมตร) โดยจะมีเพียง 3 ยูนิตต่อชั้น ส่วนดาดฟ้าก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางของอาคาร B เป็นสวนดาดฟ้า (Roof Garden) ค่ะ ซึ่งตอนนี้อาคาร B ไม่มีห้องพักว่างแล้วนะคะขายหมดไปเรียบร้อย ส่วนอาคาร A ยังพอมีห้องว่างขนาด 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนอยู่ค่ะ
แปลนห้องดีไหม?
ห้องพักอาศัยของคอนโด Centric สาทร-เซนต์หลุยส์มีทั้งหมด 4 แบบด้วยกัน คือ Duplex, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน แต่เนื่องจากห้องแบบ Duplex และ 1 ห้องนอน ขายหมดไปเรียบร้อยแล้ว ก็เลยจะมาอธิบายแปลนห้องของพักอีก 2 แบบที่เหลือนะคะ อยู่ที่อาคาร A ทั้งหมด โดยห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 55 – 71 ตารางเมตร เริ่มตั้งแต่ชั้น 18-23 และห้องแบบ 3 ห้องนอน ขนาด 135 – 140 ตารางเมตร จะมีเฉพาะชั้น 24-25 และมีเพียง 8 ห้องเท่านั้นเองค่ะ
แปลนห้อง Centric Sathorn-St.Louis (คอนโดเซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์)
แบบ 2 ห้องนอน 71.54 ตารางเมตร
แปลนห้องแบบ 2 ห้องนอนนี้จะอยู่ที่ชั้น 18-23 การวาง Layout ภายในห้องเหมือนกันหมด แตกต่างเพียงพื้นที่ภายในห้องเล็กน้อยเท่านั้นเอง โดยบางห้องก็อาจจะตรงกับตำแหน่งเสาของโครงการทำให้พื้นที่ภายในห้องเล็กลงค่ะ ตำแหน่งของห้องแบบนี้จะอยู่บริเวณทางเดินยาวของอาคาร ระเบียงห้องจะหันไป 2 ฝั่งคือ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก
ภายในห้องจะแยกพื้นที่การใช้งานเป็น 3 ส่วน โดยที่ห้องครัว โต๊ะทานอาหาร และโซฟาจะอยู่ตรงกลางคั่นระหว่างห้องนอนทั้ง 2 ห้องค่ะ ห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะมีห้องน้ำอยู่ในตัวและมีทั้งอ่างอาบน้ำและฝักบัว มีพื้นที่ข้างเตียงค่อนข้างกว้างขวางทีเดียว จากแปลนจะเห็นว่าสามารถวางโซฟาตัวเล็กๆ นั่งดูทีวีภายในห้องก็ได้ ส่วนห้องนอนเล็กจะใช้ห้องน้ำร่วมกับพื้นที่ส่วนกลางแต่จะมีประตูเข้าห้องน้ำจากภายในห้องนอนเหมือนกัน สะดวกสบายและเป็นส่วนตัวดีค่ะ
ห้องครัวอยู่ด้านหน้าห้องติดกับประตูเข้าห้องโดยจะเป็นครัวปิดที่ทางโครงการทำประตูกระจกบานเลื่อนเตรียมไว้ให้แล้ว แต่เนื่องจากพื้นที่ภายในครัวไม่ได้กว้างมาก จริงๆ เรียกว่าเป็นเพียง Pantry น่าจะเหมาะกว่า (แต่มีเตาไฟฟ้าและตู้เย็น) ทำให้เมื่อปิดประตูบานเลื่อนแล้วจะรู้สึกอึดอัดขึ้นมาทันที อากาศภายในห้องจะน้อยเนื่องจากไม่มีพัดลมและแอร์ก็เข้ามาไม่ได้ แม้จะติดตั้งพัดลมระบายอากาศไว้บนฝ้าเพดานแต่ไม่ช่วยอะไรมากค่ะ การทำอาหารหนักๆ ในคอนโดแม้จะเป็นครัวแบบปิดก็จะหลีกเลี่ยงเรื่องกลิ่นไม่พ้นอยู่ดีนะคะ เพียงแค่ประตูกั้นห้องครัวจะช่วยให้กลิ่นไม่แรงเมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาเท่านั้นเองค่ะ
แปลนห้อง Centric Sathorn-St.Louis (คอนโดเซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์)
แบบ 3 ห้องนอน 140.23 ตารางเมตร
ห้องแบบ 3 ห้องนอนก็จะเหมือนกับแบบ 2 ห้องนอนที่ได้อธิบายไปในเรื่องของการจัดวางฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในห้องแต่ละขนาดไม่ต่างกัน เพียงแค่บางห้องตรงกับเสาของอาคารทำให้พื้นที่ใช้สอยภายในห้องลดลงเท่านั้นเองค่ะ โดยห้องแบบ 3 ห้องนอนนี้จะอยู่ที่ชั้น 24-25 เท่านั้น และนอกจากจะมีขนาดห้องที่ใหญ่ขึ้นแล้ว ความสูงและวัสดุภายในห้องก็ยังพิเศษกว่าห้องแบบอื่นๆ ด้วยค่ะ โดยมีความสูงอยู่ที่ 2.80 เมตร (ความสูงห้องอื่นๆ อยู่ที่ 2.60 เมตร) ส่วนวัสดุที่ดูดีขึ้นนั้นจะอธิบายพร้อมรูปถ่ายเมื่อถึงตอนรีวิววัสดุภายในห้องน้ำนะคะ
ตำแหน่งของห้องแบบนี้จะหันไป 2 ฝั่งคือ ทิศตะวันออกและทิศตะวันตก (เหมือนกับห้องแบบ 2 ห้องนอน) ภายในห้องจะมีพื้นที่สำหรับโซฟารับแขกที่กว้างขวางมากขึ้น โต๊ะทานข้าววางเก้าอี้ได้ทั้งหมด 6 ตัว และสามารถต่อเติม Pantry ด้านนอกห้องครัวได้ด้วย
ห้องนอนทั้ง 3 ห้องจะมีขนาดที่แตกต่างกันและฟังก์ชั่นภายในของแต่ละห้องก็ต่างกันอย่างชัดเจน เริ่มที่ห้องนอนเล็กสุดก่อนนะคะ จะอยู่ตรงข้ามกับห้องครัวซึ่งห้องนี้จะต้องใช้ห้องน้ำบริเวณทางเดิน เป็นห้องน้ำส่วนกลางของห้องค่ะ ถัดมาเป็นห้องนอนที่ 2 ที่มีขนาดห้องกว้างขึ้น โดยพื้นที่ที่เพิ่มเข้ามาก็จะเป็นส่วนของห้องน้ำและ walk-in closet เล็กๆ หน้าห้องน้ำค่ะ
สำหรับห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะมี walk-in closet แบบ L-Shape พร้อมกับโต๊ะแต่งหน้าอยู่ทางหน้าห้องเลยค่ะ ถัดเข้ามาก็จะเป็นห้องน้ำที่มีทั้งอ่างอาบน้ำและฝักบัวอาบน้ำ (แยกส่วนกัน) บริเวณเตียงนอนก็มีพื้นที่ข้างเตียงกว้างขวางขึ้น และยังมีระเบียงห้องถึง 2 ที่ด้วยกัน
ลองมาดูบรรยากาศจากห้องตัวอย่างกันดูค่ะ สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน จะตกแต่งแบบ fully furnished คือมีเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว ได้แก่ โครงเตียง, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะทานข้าวพร้อมเก้าอี้, ตู้รองเท้า, ตู้เสื้อผ้า, โต๊ะเครื่องแป้งในห้องนอนใหญ่, โต๊ะข้างเตียงในห้องนอนเล็ก, ผนังตกแต่งหลังทีวีในห้องนอนใหญ่ เป็นต้น ชุดครัวและสุขภัณฑ์จะตกแต่งเหมือนกับห้องตัวอย่าง แต่สำหรับห้องแบบ 3 ห้องนอนจะตกแต่งแบบ fully fitted เท่านั้นค่ะ คือมีเฉพาะชุดครัวกับสุขภัณฑ์ และห้องทั้ง 2 แบบนี้ จะเป็นห้องทาสีขาวไม่ได้ติด Wallpaper และผ้าม่านให้นะคะ
ความสูงภายในห้องอย่างที่ได้บอกไปนะคะว่าถ้าเป็นห้องแบบ 2 ห้องนอนจะสูง 2.60 เมตร ส่วนห้องแบบ 3 ห้องนอนจะสูง 2.80 เมตร แต่ความสูงภายในห้องน้ำจะเท่ากันคือ 2.40 เมตรค่ะ ติดตั้งเครื่องปรับอากาศให้เรียบร้อยทุกห้อง ยกเว้นเพียงเครื่องใช้ไฟฟ้าเท่านั้นที่ทางโครงการไม่ได้มีไว้ให้ พื้นภายในห้องปูด้วยลามิเนตลายไม้ หนา 12 มม.
ห้องตัวอย่าง Centric Sathorn-St.Louis (คอนโดเซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์)
แบบ 2 ห้องนอน 71.54 ตารางเมตร
เมื่อเปิดประตูห้องเข้าไปจะเจอกับห้องครัวอยู่ทางด้านหน้า มีโต๊ะทานข้าววางชิดผนัง และถัดไปเป็นโซฟาค่ะ
จากด้านหน้าโซฟามองย้อนกลับไปทางประตูเข้าห้องก็จะมีสภาพแบบนี้ค่ะ ห้องนี้จะตกแต่งแบบ Fully Furnished เพราะฉะนัั้นเฟอร์นิเจอร์ Built-in (ยกเว้นผนังตกแต่ง) จะได้ตามห้องตัวอย่างค่ะ ไม่ว่าจะเป็นตู้รองเท้าและตู้เก็บของหน้าห้อง ชุดครัวพร้อมตู้เก็บของ
ห้องนอนเล็กกับพื้นที่กว้างๆ วางเตียง Queen size ได้สบายๆ เลย
มองกลับมาทางประตูเข้าห้อง ตำแหน่งติดแอร์จะอยู่เหนือประตูทุกหองเลยค่ะ ส่วนตู้เสื้อผ้าทางโครงการก็จะ built-in มาให้ด้วย ความสูงของตู้เต็มที่ไปเลยค่ะ 2.60 เมตร พร้อมกับโต๊ะแต่งตัวที่มีกระจกเงาบานใหญ่มาให้ด้วย
บรรยากาศภายในห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ค่ะ มีพื้นที่กว้างขวางทั้งด้านข้างและปลายเตียง
อีกด้านหนึ่งของห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องน้ำค่ะ แอร์ติดอยู่เหนือประตูห้องน้ำเช่นเดียวกับห้องนอนเล็ก เฟอร์นิเจอร์ built-in จะได้เหมือนกับห้องนอนเล็กค่ะ ตู้เสื้อผ้าหน้าบานเป็นบานเลื่อนกระจกเงา
รูปนี้ถ่ายมาให้ดูว่าพื้นที่ข้างเตียงสามารถวางโซฟาตัวเล็กหรือวางเก้าอี้แบบปรับเอนนอนได้ค่ะ เพราะมุมนี้มีไว้สำหรับมานั่งดูทีวี (ตำแหน่งทีวีจะไม่ได้อยู่ที่ปลายเตียง)
ห้องเปล่า Centric Sathorn-St.Louis (คอนโดเซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์)
แบบ 2 ห้องนอน 71.54 ตารางเมตร
มาดูห้องที่จะได้จริงๆ ของห้องแบบ 2 ห้องนอนกันบ้างค่ะ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาก็จะพบกับห้องโล่งๆ มีเพียงเฟอร์นิเจอร์ลอยตัววางไว้ให้ ผนังห้องทาสีขาวไม่ติด Wallpaper ส่วนฝ้าเพดานก็จะเป็นแบบฉาบเรียบไม่มีการดร็อปฝ้าสำหรับซ่อนรางผ้าม่านเหมือนในห้องตัวอย่าง
ภายในห้องนอนเล็กค่ะ เตียงนอนจะมีเฉพาะโครงเตียงมาให้เป็นแบบมีลิ้นชักข้างเตียง
ห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ค่ะ เมื่อไม่มีการตกแต่งผนังแล้วดูแตกต่างแปลกตาจากห้องตัวอย่างเยอะทีเดียว สำหรับห้องนี้จะมีโครงเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะแต่งตัว และผนังตกแต่งหลังทีวีมาให้ค่ะ
ห้องตัวอย่าง Centric Sathorn-St.Louis (คอนโดเซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์)
แบบ 3 ห้องนอน 140.23 ตารางเมตร
มาดูห้องตัวอย่างของ 3 ห้องนอนกันบ้างค่ะ เมื่อเปิดประตูห้องเข้ามาแล้วก็จะเจอกับโต๊ะทานข้าวก่อนเลย และห้องรับแขกกว้างขวางที่สามารถวางโต๊ะทำงานไว้หลังโซฟาก็ได้
มาดูความกว้างของห้องรับแขกอีกมุมหนึ่ง ภายในห้องแบบ 3 ห้องนอนจะมีระเบียงห้อง 2 ที่ค่ะ คือบริเวณห้องรับแขก และห้องนอนใหญ่
Pantry และห้องครัวจะอยู่อีกด้านหนึ่งของห้องโดยประตูห้องจะอยู่ทางด้านขวามือ (จากรูป) สำหรับพื้นที่ด้านหลังโต๊ะทำงาน ถ้าไม่มีตู้และชั้นวางหนังสือ built-in ก็จะมีพื้นที่กว้างขึ้นอีกประมาณ 25 – 30 ซม.
โต๊ะทานข้าวจะวางไว้ที่มุมห้องแบบนี้ค่ะ วางโต๊ะใหญ่ขนาด 6 คนได้สบายเลย ส่วนผนังตกแต่งหลังทีวีนั้นทางโครงการจะไม่ได้ทำให้นะคะ
มุมนี้จากบริเวณ Pantry มองไปยังทีวีค่ะ ไม่ว่าจะอยู่มุมไหนก็สามารถดูทีวีได้เหมือนกัน
มุมกว้างๆ ของโซนหน้าห้อง และทางเดินไปยังห้องนอนและห้องน้ำค่ะ
Pantry ภายในห้องเป็นส่วนตกแต่งที่มีเฉพาะห้องตัวอย่าง เพราะห้องจริงๆ จะมีแค่ชุดครัวเท่านั้นที่ทางโครงการตกแต่งไว้ให้ค่ะ
มาดูห้องนอนเล็กกันค่ะ ถ้าเดินมาตามทางเดินก็จะเจอห้องนอนนี้เป็นห้องแรก อยู่ตรงข้ามกับห้องครัวเลยค่ะ ลักษณะของห้องนี้จะเป็นห้องหน้ากว้างที่ทางโครงการติดหน้าต่างให้กว้างเท่ากับผนังห้อง แสงสว่างจากภายนอกช่วงให้บรรยากาศในห้องนี้ดูโปร่งและน่าอยู่มากค่ะ ตกแต่งเป็นห้องนอนเด็กที่ใช้วิธีการยกพื้นเป็นขั้นบันได้แล้วเจาะช่องสำหรับวางที่นอนขนาด 3.5 ฟุต มีโต๊ะทำการบ้านอยู่ข้างเตียง
อีกด้านหนึ่งของห้องทำเป็นตู้เสื้อผ้าบานเลื่อนประหยัดพื้นที่ค่ะ มีชั้นวางของสำหรับให้เด็กๆ เก็บหนังสือและของเล่นให้เป็นที่เป็นทาง เป็นห้องที่น่าอยู่ห้องหนึ่งเลยทีเดียว (ชอบเพราะความสว่างจากหน้าต่างกว้างๆ นี่แหละค่ะ ^^)
ถัดเข้ามาก็จะเป็นห้องนอนที่ 2 ห้องนี้ความกว้างพอๆ กับห้องแรกเพียงแต่ว่ามีห้องน้ำส่วนตัวภายในห้อง เลยทำให้เหลือความกว้างของช่องหน้าต่างเป้นขนาดปกติค่ะ
บริเวณผนังหัวเตียงก็กว้างขวางดี เมื่อวางเตียงนอนขนาด 5 ฟุต แล้วยังเหลือพื้นที่ข้างเตียงสำหรับวางโต๊ะหัวเตียงและโต๊ะทำงานได้อีก
ปลายสุดทางเดินเป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ค่ะแปลนของห้องนี้จะเป็นรูปตัวแอล (L-Shape) โดยมี Walk-in Closet อยู่ด้านขวามือของห้องค่ะ
นี่คือมุม Walk-in Closet ค่ะ มีโต๊ะแต่งหน้าอยู่ในห้องนี้ด้วย หรือใครจะทำเป็นตู้เสื้อผ้าทั้งห้องแล้วย้ายโต๊ะแต่งหน้าไปข้างเตียงนอนก็ได้เหมือนกันค่ะ ชุดตู้เสื้อผ้าแบบนี้เป็นตัวอย่างที่ทางโครงการทำไว้เป็นไอเดีย ห้องจริงๆ จะโล่งค่ะ ใส่ไอเดีย Walk-in Closet ที่อยากได้เต็มที่ได้เลย
มาถึงส่วนห้องเตียงนอนในห้องนอนใหญ่ค่ะ พื้นที่ปลายเตียงกว้างมากๆ และห้องนี้ยังมีระเบียงห้องด้วยค่ะ สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์และออกไปชมวิวด้านนอกก็ได้ ทำเป็นประตูบานเลื่อนกระจกพร้อมกับหน้าต่างบานกระทุ้งค่ะ
อีกด้านหนึ่งของห้องนอนก็จะเป็นห้องน้ำ ผนังด้านนอกห้องน้ำก็กว้างพอที่จะวางโต๊ะแต่งหน้าบริเวณนี้ได้นะคะ ส่วนแอร์ของห้องแบบ 3 ห้องนอนก็จะเป็น Built-in Type ทั้งหมดเลยค่ะ สวยงามเหมาะกับระดับราคาห้อง แต่การดูแลรักษายากจริงๆ
จากหน้าห้องน้ำมองไปยังประตูเข้าห้องค่ะ ส่วนของ Walk-in Closet ติดตั้งเป็นประตูบานเลื่อน (ห้องจริงๆ ไม่มีประตูกั้นห้องให้)
จากหน้าห้องนอนใหญ่มองไปยังโซนรับแขกหน้าห้องค่ะ ประตูด้านซ้ายมือเป็นห้องน้ำแบบ Share Bathroom ห้องนอนเล็กจะใช้ห้องน้ำนี้ด้วยค่ะ เพราะในพื้นที่สำหรับอาบน้ำเป็นแบบฝักบัวเตรียมไว้
ปิดท้ายด้วยมุมโซฟารับแขกอีกสักรูปหนึ่ง ถ่ายจากโต๊ะทำงานด้านหลังโซฟาค่ะ
ห้องเปล่า Centric Sathorn-St.Louis (คอนโดเซ็นทริค สาทร-เซนต์หลุยส์)
แบบ 3 ห้องนอน 140.23 ตารางเมตร
มาดูห้องจริงๆ ของห้องแบบ 3 ห้องนอนกันบ้างค่ะ พอเข้ามาแล้วบรรยากาศภายในห้องต่างกันมากทีเดียว ผนังห้องทาสีขาวไม่ติด Wallpaper เป็นห้องแบบ Fully Fitted ที่จะมีเฉพาะห้องครัวและห้องน้ำเท่านั้นที่ตกแต่งเหมือนกับห้องตัวอย่างค่ะ
มุมนี้เป็นพื้นที่สำหรับวางโซฟาและโต๊ะทำงาน ต่างจากห้องตัวอย่างจนนึกภาพไม่ออกเลยใช่ไหมคะ ระบบแอร์ที่เป็น Built-in Type ทางโครงการติดตั้งให้เรียบร้อยค่ะ
ห้องนี้เป็นห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) ค่ะ มีประตูกระจกบานเลื่อนออกไประเบียงด้านนอก และหน้าต่างบานกระทุ้งอยู่ข้างๆ สำหรับห้องแบบ 3 ห้องนอนนี้จะมีการดร็อปฝ้าสำหรับซ่อนรางม่านให้ค่ะ (แต่ห้อง type อื่นๆ จะเป็นฝ้าเรียบๆ)
อีกมุมหนึ่งบริเวณหน้าห้องนะคะ พอไม่มี Pantry แล้วจะโล่งๆ แบบนี้ค่ะ (ถ้านึกภาพ Pantry ไม่ออกให้ย้อนขึ้นไปดูบรรยากาศในห้องตัวอย่างแบบ 3 ห้องนอนนะคะ ^^)
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
จะแบ่งการรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วนครัว, ส่วนห้องน้ำ และวัสดุทั่วไปกับวัสดุปิดผิว (Finishing) บริเวณที่เป็นห้องนอนจะปูด้วยพื้นไม้ลามิเนต ส่วนบริเวณห้องครัว และห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้ค่ะ ซึ่งวัสดุส่วนใหญ่ถ้าเทียบกับราคาต่อตารางเมตร (เริ่มต้นประมาณ 100,000 บาท/ตารางเมตร) ถือว่าโอเคค่ะ ทั้งห้องแบบ 2 ห้องนอนและแบบ 3 ห้องนอนเลย
ในการอธิบายวัสดุต่างๆ จะเริ่มตั้งแต่แบบ 2 ห้องนอนก่อน แล้วค่อยเป็น 3 ห้องนอน เพราะวัสดุของห้องทั้งสองแบบนี้จะแตกต่างกันพอสมควรค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
หน้าตาของห้องครัวภายในห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ กั้นห้องด้วยผนังกระจก 2 ด้าน มีประตูบานเลื่อนเปิด-ปิด ด้านหนึ่ง
ภายในห้องครัวค่ะ เป็นชุดครัวเข้ามุมตัวแอล (L-Shape) ด้านหนึ่งวางตู้เย็น อีกด้านหนึ่งวางเครื่องซักผ้าอยู่ใต้เคาท์เตอร์ มีพื้นที่เตรียมอาหารบนเคาท์เตอร์กว้างดีค่ะ ไม่อึดอัด
Sink เป็นแบบ 1 หลุม ไม่มีที่พักจาน ของ MEX วัสดุ Top ครัวเป็นหินแกรนิตสีขาว มีติดขอบกันเลอะบริเวณผนังให้ด้วยค่ะ
ก๊อกน้ำก็เป็นของ MEX เป็นแบบก้านโยก เปิด-ปิด สะดวกค่ะ
เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX เช่นเดียวกัน
เครื่องดูดควันรุ่นนี้ใช้กันเยอะค่ะ เห็นอยู่หลายโครงการเลย ของ MEX
ตู้ลอยด้านบนค่ะ ลักษณะการเปิดตามรูปเลย เมื่อเปิดไฟใต้ตู้ลอยก็จะได้บรรยากาศแสงส้มนวลๆ สวิตช์ไฟคือปุ่มกลมดำๆ นะคะ เราสามารถเปิด-ปิดได้โดยไม่ต้องเปิดหน้าบานตู้ค่ะ
ซูมให้ดูวัสดุหน้าบานตู้ กรอบบานสแตนเลนกรุหน้าบานด้วยกระจก Glass Coated สีขาว ลบมุมกระจกไม่ให้แหลม ติดมือจับแบบเป็นร่องไว้จะได้เกี่ยวเปิดได้สะดวกค่ะ หน้าบานตู้แบบนี้เช็ดล้างง่ายค่ะ เวลาทำอาหารแล้วไอน้ำมันมาเกาะก็สามารถใช้น้ำยาเช็ดกระจกช่วยเช็ดจะทำให้กระจกเป็นเงาใสเหมือนเดิม
ตู้เก็บของด้านล่างตรงเคาท์เตอร์ วัสดุเป็นไม้ MDF ปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้ออกสีน้ำตาลปนเทา
ฐานเคาท์เตอร์ยกสูง 10 ซม. ค่ะ
ผนังชุดครัวกรุกระเบื้องขนาด 60×60 ซม. เก็บขอบด้วยเส้นสแตนเลส ตำแหน่งปลั๊กในรูปนี้อยู่ตรงผนังด้านเตาไฟฟ้าค่ะ ไม่แน่ใจว่าโครงการตั้งใจจะให้ใช้สำหรับปลั๊กตู้เย็นหรือเปล่านะคะ แม้ตู้เย็นจะอยู่ข้างๆ แต่ตำแหน่งปลั๊กอยู่ใกล้เตาขนาดนี้ไม่เหมาะเท่าไหร่ค่ะ แถมใช้งานอย่างอื่นสำหรับกาต้มน้ำ หรือไมโครเวฟก็ไม่สะดวกด้วย
นี่เป็นหน้าตาของครัวภายในห้องแบบ 3 ห้องนอนค่ะ ตำแหน่งการวางเครื่องซักผ้าจะแตกต่างกันโดยในห้องนี้จะวางไว้กลางเคาท์เตอร์ระหว่างเตาไฟฟ้ากับ sink ล้างจาน
ตำแหน่งปลั๊กไฟในห้องแบบ 3 ห้องนอนจะอยู่ข้างตู้เย็นเหมือนกัน เพียงแต่ในห้องนี้เตาไฟฟ้าแยกไปอยู่อีกด้านหนึ่ง ทำให้ห้องนี้มีพื้นที่สำหรับวางกาต้มน้ำ หรือหม้อหุงข้าวมากกว่า การใช้งานก็จะสะดวกปละมีประสิทธิภาพมากกว่าห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ
ตู้ลอยเหนือตู้เย็นจะมีตู้โหลดเซ็นเตอร์ เรียกง่ายๆ ก็คือตู้ไฟค่ะ ส่วนใหญ่เราจะเห็นเป็นตู้เล็กๆ นั่นเรียกว่า Consumer Unit แต่สำหรับห้องแบบ 3 ห้องนอนนี้ ใช้ไฟเยอะเป็นระบบ 3 เฟส ก็เลยต้องใช้ตู้ Load Center ให้เหมาะสมกัน ตู้ก็เลยใหญ่แบบในรูปนี้เลย ปิดความไม่เรียบร้อยของระบบไฟฟ้าด้วยตู้เก็บของซะเลย
ภาพกว้างๆ ขอชุดครัวในห้องแบบ 3 ห้องนอน สังเกตตู้เก็บของหน้าบานสีขาวเหนือตู้เย็นนะคะ ในตู้จะซ่อนตู้ Load Center ไว้ค่ะ ปลั๊กที่อยู่ข้างตู้เย็นก็จะมีพื้นที่สำหรับวางอุปกรณ์ไฟฟ้าอื่นๆ ที่กว้างกว่าห้องแบบ 2 ห้องนอน
อีกมุมหนึ่งของห้องครัวเมื่อมองจากด้านนอกค่ะ ประตูห้องครัวเป็นระบบรางเลื่อนเหมือนกัน ทางโครงการเลือกใช้แบบมีแค่รางบน ช่วงให้พื้นด้านล่างไม่มีระบบรางหรือวงกบให้เดินแล้วเกะกะค่ะ
วัสดุห้องน้ำ
ภาพรวมของห้องน้ำในห้องแบบ 2 ห้องนอนค่ะ ห้องนี้อยู่ในห้องนอนเล็ก (Share Bathroom)
ฝักบัวของ Cotto สามารถปรับระดับความสูงได้
มุม Shower ค่ะ เจาะช่องตรงผนังข้างฝักบัวสำหรับวางขวดสบู่ ขวดแชมพู ช่องค่อนข้างสูงแต่ไม่มีชั้นวางกระจกนะคะ เสียดายพื้นที่เหมือนกันแต่ก็สามารถซื้อมาติดตั้งเองได้ค่ะ (ก่อนเจาะผนังควรสอบถามตำแหน่งท่อในผนังกับทางโครงการให้ดีนะคะ ถ้าเจาะโดนท่อน้ำแล้วจะเรื่องใหญ่ทีเดยว)
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่นอกจากมีฝักบัวอาบน้ำแล้ว ยังมีอ่างอาบน้ำมาให้ด้วยค่ะ (2 ห้องนอน และ 3 ห้องนอน จะได้อ่างอาบน้ำในห้องนอนใหญ่เหมือนกัน)
อ่างอาบน้ำก็จะมีฝักบัวให้ด้วย ของ Cotto เป็นก๊อกผสมค่ะ
โถสุขภัณฑ์รุ่นประหยัดน้ำของ Cotto รูปทรงธรรมดา ขนาดกำลังพอดีกับความกว้างของห้องน้ำค่ะ
อ่างล้างหน้าเป็นอ่างสำเร็จรูป วัสดุเป็นไฟเบอร์ ของ Charmer
ก๊อกอ่างล้างหน้าของ Cotto เป็นก๊อกเดี่ยวหน้าตาเป็น 3 ก้านแบบนี้ เปิดถนัดกว่าแม้มือจะเลอะสบู่
ห้องน้ำในห้องนอนเล็ก (2 ห้องนอน) จะติดตั้งปลั๊กกันน้ำไว้ที่ผนังข้างอ่างล้างหน้า สูงประมาณ 45-50 ซม.
ถ้าเป็นห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะติดปลั๊กกันน้ำไว้เหนืออ่างล้างหน้าแบบนี้เลยค่ะ
อ่างอาบน้ำของ Cotto ขนาดเล็กนะคะ สำหรับคนตัวสูงๆ จะนอนแช่น้ำไม่ถนัดเท่าไหร่
รูปนี้เป็นลักษณะของโถสุขภัณฑ์ในห้องแบบ 3 ห้องนอนค่ะ ของ Cotto เหมือนกันแต่ขนาดใหญ่และดูหรูหรากว่า
อ่างล้างหน้าของห้องแบบ 3 ห้องนอนก็จะเปลี่ยนยี่ห้อและวัสดุค่ะ เป็นอ่างของ Cotto ชนิดฝังครึี่งเคาท์เตอร์ วัสดุเป็นเซรามิกไม่ใช่ไฟเบอร์แล้ว ส่วน Top เคาท์เตอร์จะเป็นหินสังเคราะห์สีขาวล้วน
ก๊อกอ่างล้างหน้าของห้องแบบ 3 ห้องนอนจะเปลี่ยนเป็นก๊อกเดี่ยวแบบก้านโยกของ Cotto เช่นกันค่ะ
รูปนี้เป็นห้องน้ำในห้องนอนเล็กของห้องแบบ 3 ห้องนอนค่ะ อ่างล้างหน้าตรงกับประตูห้องน้ำมีมุมอาบน้ำแบ Shower อยู่ข้างๆ มีกระจกกั้นอาบน้ำแบบเข้ามุม 135 องศา กระจกนิรภัยบานเปลือยค่ะ
ส่วนที่เซ็กซี่ที่สุดของห้องแบบ 3 ห้องนอนค่ะ! หน้าต่างบริเวณที่อาบน้ำแบบนี้เลย ข้อดีคือช่วยให้ห้องน้ำสว่างในตอนกลางวันไม่ต้องเปิดไฟ และยังเปิดให้แสงแดดช่วยระบายความชื่นและฆ่าเชื้อโรคในห้องน้ำ แต่ถ้าเป็นตอนกลางคืนเปิดไฟเมื่อไหร่ ภายนอกจากมองเข้ามาเห็นทันทีเลยค่ะ แนะนำให้ติดเป็นฟิล์มขุ่น หรือจะดำไปเลยก็ได้ แล้วติดมู่ลี่ Foam Wood แบบกันน้ำเพิ่มค่ะ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
ป้ายหน้าห้องค่ะ คอนโด Centric สาทร-เซนต์หลุยส์ บ้านเลขที่ 5 นะคะ
พื้นห้องเป็นลามิเนตลายไม้ หนา 12 มม. ติดบัวพื้นสีขาวสูง 5 ซม. (วัสดุพื้นเหมือนกันทั้งห้องแบบ 2 และ 3 ห้องนอน)
พื้นห้องครัวปูกระเบื้องขนาด 60×60 ซม. สีครีมค่ะ
ระบบรางเลื่อนด้านบนประตูห้องครัวค่ะ เป็นอลูมิเนียมทั้งวงกบและบานประตูที่มีความหนามาตรฐานทั่วไป 1.2 มม.
ระดับพื้นห้องนอนกับห้องน้ำเท่ากันค่ะ กั้นด้วยขอบธรณีประตูสูง 5 ซม. กว้างประมาณ 12 ซม. (บางโครงการความกว้างน้อยกว่านี้เวลาเหยียบแล้วจะเจ็บฝ่าเท้าค่ะ หรือถ้าสูงกว่านี้ก็อาจจะเดินสะดุดได้)
ระดับพื้นในห้องน้ำระหว่างส่วนเปียกกับส่วนแห้งจะเท่ากันแล้วกั้นด้วยขอบปูนแบบนี้ ปูด้วยกระเบื้องสีเทาเข้ม
ระดับพื้นภายในห้องกับระเบียงด้านนอกก็เท่ากันค่ะ กั้นด้วยขอบปูนสูง 10 ซม. แล้วติดตั้งประตูบานเลื่อนกระจกด้านบน ทำให้มีความสูงทั้งหมดประมาณ 15 ซม. มีรางมุ้งลวดเผื่อไว้ให้แล้วค่ะ
ระหว่างพื้นห้องนอนต่างๆ จะไม่มีรอยต่อของตัวจบลามิเนตค่ะ เดินเรียบไม่มีสะดุด
ผนังห้องทาสีขาว ติดตั้งซับวงกบตกแต่งประตูด้วย PVC สีขาว
เครื่องปรับอากาศของ Daikin จะติดตั้งเหนือบานประตูทุกห้องค่ะ
สวิตช์และปลั๊กใช้ของ Seimens สีขาว
มือจับประตูบานเลื่อนหน้าตาทั่วๆ ไปค่ะ
ประตูหน้าห้องจะใช้มือจับแบบก้านโยกเป็นสแตนเลสด้านของ Hafele
ประตูห้องอื่นๆ (ห้องนอนและห้องน้ำ) เป็นลูกบิดของ Hafele เช่นกันค่ะ
ระเบียงด้านนอกปูกระเบื้องขนาด 25×25 ซม. สีครีมผิวด้าน จะไม่ลื่นเมื่อโดนน้ำค่ะ
ราวกันตกสำหรับห้องพักส่วนใหญ่ (ยกเว้น 3 ห้องนอน) จะเป็นเหล็กทาสีน้ำตาลแดง มือจับด้านบนเป็นเหล็กกลม
ความกว้างของระเบียงประมาณ 75-80 ซม.ค่ะ
อีกด้านหนึ่งของระเบียงจะใช้สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์ หันเข้าหาระเบียงค่ะ วันไหนครึ้มฟ้าครึ้มฝนเปิดแอร์แล้วตากผ้าตรงระเบียง รับรองว่าผ้าแห้งแน่นอน ^^
ประตูห้องใช้ประตูสำเร็จรูปทาสีขาว
หน้าตาของตู้เสื้อผ้า built-in ในห้องนอนเล็กค่ะ หน้าบานเปิด Hi-Gloss สีขาว ติดมือจับแบบยาวเป็นสแตนเลสด้าน
เปิดให้ดูด้านในของตู้เสื้อผ้าค่ะ
สำหรับตู้เสื้อผ้าในห้องนอนใหญ่ (Master Bedroom) จะเป็นหน้าบานเลื่อนกระจกเงากับปิดผิวลามิเนตลายไม้ ติดมือจับแบบยาวเท่ากับความสูงของหน้าบาน วัสดุเป็นสแตนเลสด้าน
ภายในตู้ทาสีขาว จะมีลิ้นชัก 2 ชุดค่ะ
มาดูวัสดุของห้องแบบ 3 ห้องนอนที่เปลี่ยนไปกันบ้างค่ะ เริ่มที่ประตูห้องจะใช้เป็นประตูสำเร็จเหมือนกันแต่หน้าบานจะเรียบและปิดผิวด้วยเมลามีน
ประตูหน้าห้องแบบ 3 ห้องนอนจะใช้เป็นระบบ Digital Door Lock แทนระบบ Key Card เหมือนห้องแบบอื่นๆ
Digital Door Lock ของ Kaba ด้านในห้องจะมีลักษณะเป็นแบบนี้ค่ะ
ลักษณะการวางคอมเพรสเซอร์แอร์ของห้องแบบ 3 ห้องนอนจะหันออกไปด้านนอกระเบียงค่ะ แต่ประตูเปิด-ปิดจะเหมือนกัน วัสดุเป็นอลูมิเนียมทาสีน้ำตาลแดง ติดตัวล็อคแบบง่ายๆ ไว้
ราวกันตกตรงระเบียงก็จะต่างกันค่ะ แบบ 3 ห้องนอนจะใช้กระจกนิรภัยแบบใสไม่มีกรอบ ติดตั้งราวจับสแตนเลสกลมไว้ด้านในอีกที
ให้ดูความหนาของกระจกตรงระเบียงค่ะ เป็นกระจกเทมเปอร์ลามิเนต (Laminate Tempered Glass) คือการนำกระจก 2 แผ่นมาประกอบติดกันโดยมีฟิล์ม เวลาแตกเศษกระจกจะไม่หลุดออกมาเพราะมีแผ่นฟิล์มยึดไว้ค่ะ
แอร์แบบ Built-in Type ที่จะมีเฉพาะห้องแบบ 3 ห้องนอนเท่านั้นค่ะ แอร์ระบบนี้มีไว้เพื่อความสวยงามสำหรับซ่อนหรือฝังใต้ฝ้าเพดานห้อง มักจะเห็นตามโรงแรมนะคะ แต่แอร์ระบบนี้เวลามีปัญหาจะดูแลรักษายาก หากติดตั้งไม่ดีจะทำให้ฝ้าบริเวณนั้นบวมได้ค่ะ
ราคา ณ วันที่ 28 กันยายน 2557
ราคาเริ่มต้น :
2 ห้องนอน ชั้น 20 ห้อง A202 B05 พื้นที่ 71.90 ตารางเมตร ราคา 8,978,000 บาท เฉลี่ย 124,868 บาท/ตร.ม.
3 ห้องนอน ชั้น 25 ห้อง A253 B02 พื้นที่ 140.57 ตารางเมตร ราคา 17,615,325 บาท เฉลี่ย 125,314 บาท/ตร.ม.
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
2 ห้องนอน 150,000 บาท และ 3 ห้องนอน 200,000 บาท
ทำสัญญา 1 ห้องนอน 150,000 บาท และ 2 ห้องนอน 300,000 บาท
- ผ่อนดาวน์
10% ของราคาห้อง (2 ห้องนอน 897,800 บาท และ 3 ห้องนอน 3,523,065 บาท)
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 550 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ค่าธรรมเนียมการโอน 2% (ผู้ซื้อ 1% , ผู้ขาย 1%)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 80% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
2 ห้องนอน พื้นที่ 71.90 ตารางเมตร ราคา 8,978,000 บาท ผ่อนประมาณ 49,958 บาท/เดือน
3 ห้องนอน พื้นที่ 140.57 ตารางเมตร ราคา 17,615,325 บาท ผ่อนประมาณ 84,811 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 80% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
2 ห้องนอน พื้นที่ 71.90 ตารางเมตร ราคา 8,978,000 บาท ผ่อนประมาณ 52,800 บาท/เดือน
3 ห้องนอน พื้นที่ 140.57 ตารางเมตร ราคา 17,615,325 บาท ผ่อนประมาณ 103,493 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 80% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
2 ห้องนอน พื้นที่ 71.90 ตารางเมตร ราคา 8,978,000 บาท ผ่อนประมาณ 57,559 บาท/เดือน
3 ห้องนอน พื้นที่ 140.57 ตารางเมตร ราคา 17,615,325 บาท ผ่อนประมาณ 112,821 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 80% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
2 ห้องนอน พื้นที่ 71.90 ตารางเมตร ราคา 8,978,000 บาท ผ่อนประมาณ 66,234 บาท/เดือน
3 ห้องนอน พื้นที่ 140.57 ตารางเมตร ราคา 17,615,325 บาท ผ่อนประมาณ 129,825 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 80% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
2 ห้องนอน พื้นที่ 71.90 ตารางเมตร ราคา 8,978,000 บาท ผ่อนประมาณ 84,811 บาท/เดือน
3 ห้องนอน พื้นที่ 140.57 ตารางเมตร ราคา 17,615,325 บาท ผ่อนประมาณ 166,238 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการอยู่ในย่าน CBD สาทร ที่แวดล้อมไปด้วยอาคารสำนักงานชั้นนำมากมาย รวมถึงโรงแรม โรงเรียน และโรงพยาบาล อยู่ภายในซอยสาทร 11 ซึ่งเป็นซอยลัดไปยังถนนจันทน์และถนนนราธิวาสราชนครินทร์ได้ค่ะ สำหรับด่านเก็บค่าผ่านทางทางด่วนจะมี 2 ที่ด้วยกัน สำหรับเส้นทางพระราม 9 – แจ้งวัฒนะ (ขาออก) จะมีด่านฯ สุรวงศ์ อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1.9 กิโลเมตร ต้องใช้ทางลัดโดยเข้าถนนประมวลมาออกถนนสีลม จากนั้นเลี้ยวเข้าถนนมเหสักข์มาออกถนนสุรวงศ์ก็จะเจอกับป้ายบอกทางไปทางด่วนค่ะ สำหรับเส้นทางบางนา – ดาวคะนอง (ขาเข้า) จะมีด่านฯ สาทร อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 1 กิโลเมตร ตำแหน่งของด่านฯ อยู่บนถนนเจริญราษฎร์ค่ะ
นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งมวลชนสาธารณะอย่างรถไฟฟ้า BTS สถานีสุรศักดิ์ ห่างจากโครงการประมาณ 650 เมตร อยู่ในระยะที่เดินได้นะคะ โดยเดินบนทางเท้าริมถนนสาทรมาเรื่อยๆ จากนั้นก็เดินเข้าซอยสาทร 11 บริเวณปากซอยจะมีรถสองแถวจอดรออยู่ค่ะ ถ้าไม่อยากเดินเข้าซอยอีกก็สามารถใช้บริการรถสองแถวได้ (รถสองแถววิ่งระหว่างสะพานเฉลิมพันธ์ – วัดช่องลม) หรือจะเลือกใช้บริการรถโดยสารด่วนพิเศษ (BRT) บริเวณด้านหน้าตึก Empire Tower ก็ได้ค่ะ ห่างจากโครงการเท่ากับรถไฟฟ้า BTS เลย ซึ่งสถานีสาทรนี้ก็เป็นสถานีต้นสาย ปลายทางอยู่ที่สถานีราชพฤกษ์ เปิดให้บริการตั้งแต่ 6 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนค่ะ
เป็นคอนโดที่อยู่ในทำเลที่เข้าถึงได้ทั้งรถยนต์ส่วนตัวและระบบขนส่งสาธารณะเลยค่ะ สะดวกสบายแต่ปัญหาเรื่องรถติดบนถนนสาทรก็ขึ้นชื่อว่าหนักหนาอยู่เหมือนกัน โดยเฉพาะช่วงเย็นเมื่อโรงเรียนเลิกและใกล้กับเวลาเลิกงาน แต่ถ้าเป็นช่วงวันหยุดถนนสาทรและรอบๆ จะค่อนข้างโล่ง เนื่องจากเป็นย่านการค้าธุรกิจ ก็จะมีคนพลุกพล่านในช่วงวันธรรมดามากกว่าวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ค่ะ
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
จากศักยภาพของทำเลที่ตั้งย่านถนนนราธิวาส พระราม 3 และถนนเจริญราษฎร์ ที่อยู่ใกล้เขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ย่านสาทร สีลม มีบริการรถ BRT วิ่งให้บริการตามแนวถนนนราธิวาส – พระราม 3 และต้นทุนที่ดินที่ยังมีระดับต่ำ ประกอบกับราคาคอนโดในเขตกรุงเทพชั้นในโดยเฉพาะคอนโดในย่านสาทรที่มีระดับราคาสูงกว่า 200,000 บาทต่อตารางเมตร จะเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลให้การพัฒนาและการซื้อคอนโดพักอาศัยในพื้นที่นี้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างมาก เห็นได้จากหลายๆ โครงการตึกสูงที่เริ่มเข้ามาจับจองที่ดินไม่ว่าจะเป็น โครงการก่อสร้างตึกสูงมหานคร โครงการก่อสร้าง AIA สำนักงานใหญ่ ฯลฯ ส่วนระบบโครงสร้างพื้นฐานอื่นๆ ในย่านนี้มีเพียงพอต่อความต้องการแล้วค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
การวางตัวของอาคารหลัก (ในที่นี้หมายถึงอาคาร A ทางด้านหลัง) จะขนานไปกับซอยสาทร 11 มีรูปทรงอาคารที่สะดุดตาจากการดีไซน์ระเบียงห้องแบบเฉียงทำมุม 30 องศา และยังสลับด้านกันไปเรื่อยๆ เป็นลูกเล่นที่แปลกตาไม่น้อย ส่งผลให้ผู้อยู่อาศัยในแต่ละห้องก็จะมองเห็นวิวในทิศทางที่แตกต่างกัน (ตามองศาของระเบียงห้องนั้นๆ) มีการติดตั้ง Vertical Garden บริเวณด้านนอกของชั้นจอดรถ ตั้งแต่ชั้น 2 – 7 การได้มองเห็นแผงต้นไม้เขียวๆ แบบนี้ช่วยให้รู้สึกชุ่มชื่น และช่วยให้ตัวอาคารไม่ดูแข็งกระด้างจนเกินไปค่ะ นอกจากนี้ยังมีบ่อน้ำบริเวณด้านข้างอาคารทั้ง 2 อาคาร ซึ่งจะช่วยเรื่องของสุนทรียภาพต่อผู้อยู่อาศัย สัมผัสได้ถึงธรรมชาติรอบๆ บริเวณโครงการ
เรื่องของทิศทางแดดนั้น ถ้าเป็นอาคาร A จะแยกฝั่งที่โดนแดดในช่วงเช้าและช่วงบ่ายอย่างชัดเจนค่ะ เนื่องจากอาคาร A วางตัวในแนวเหนือ – ใต้ ส่วนอาคาร B นั้นจะวางตัวในแนวตะวันออก – ตะวันตก ก็จะมีห้องฝั่งที่ระเบียงหันไปทางทิศใต้จะโดนแดดในช่วงบ่ายค่ะ ส่วนเรื่องของวิวจากระเบียงห้องนั้น คิดว่าไม่ว่าจะเป็นทิศไหนวิวส่วนใหญ่ไม่ต่างกันมากนัก เพราะเป็น City View ทั้งคู่ อยู่ที่ว่าอยากจะมองไปทางลุมพินีหรือทางแม่น้ำเจ้าพระยา (แต่ไม่เห็นแม่น้ำเจ้าพระยา ^^”)
สำหรับห้องที่อยู่รอบๆ โถงลิฟต์ที่อาคาร A ไม่ต้องกังวลเรื่องความไม่เป็นส่วนตัวนะคะ เพราะจากวันที่ไปรีวิวนั้น เมื่ออกจากลิฟต์มาแทบจะมองไม่เห็นประตูของห้องพักอาศัยรอบๆ โถงลิฟต์เลยค่ะ เพราะใช้การออกแบบผังให้ตำแหน่งประตูห้องหลบมุมเข้าไปทางด้านหลังของผนังลิฟต์อีกที มีความเป็นส่วนตัวแน่นอนค่ะ แต่ห้องที่อยู่บริเวณทางเดิน (Corridor) ตำแหน่งประตูห้องจะตรงกันโดยมีระยะห่างระหว่างประตูห้องทั้งสองฝั่งประมาณ 1.60 เมตรเองค่ะ
ภายในห้องแบบ 2 ห้องนอน ขนาด 71.54 ตารางเมตร การจัดวางฟังก์ชั่นภายในห้องค่อนข้างลงตัวโดยเฉพาะเรื่องของห้องน้ำที่มองว่าหากห้องน้ำเล็กจะไม่มีห้องน้ำส่วนตัวก็ควรจะอยู่ใกล้กับห้องน้ำ ไม่ควรเดินตัดผ่านห้องนั่งเล่นหรือห้องครัวเหมือนโครงการอื่นๆ แต่สำหรับ Centric สาทร-เซนต์หลุยส์นั้น วางตำแหน่งของห้องน้ำติดกับห้องนอนและยังเพิ่มประตูเข้าห้องน้ำได้จากภายในห้องนอนอีกด้วย เป็นรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่คำนึงถึงผู้อยู่อาศัยได้ดีค่ะ แต่ติดใจเรื่องปัญหาภายในห้องครัวเมื่อปิดประตูบานเลื่อนกระจก กลายเป็นห้องปิดที่หายใจลำบากทีเดียว ยังไม่ต้องคิดถึงเรื่องทำอาหารหน้าเตาร้อนๆ นะคะ คงต้องติดตั้งพัดลมเพดานเพิ่มเติม แต่ถ้าใครที่ไม่คิดจะทำอาหารจริงจัง ใช้งานเป็นเพียง Pantry เฉยๆ ก็ไม่ต้องปิดประตูก็ได้ค่ะ เปิดโล่งๆ พร้อมกับประตูระเบียงก็ช่วยเรื่องของการระบายอากาศภายในห้องครัวได้
ห้องแบบ 3 ห้องนอนมีลักษณะเป็นห้องหน้ากว้าง มีการปรับเปลี่ยนวัสดุภายในห้องให้เป็นอีกระดับราคาซึ่งก็เหมาะสมดีค่ะ รวมถึงการเปลี่ยนจากแอร์ wall type เป็น Built-in type ให้อารมณ์เหมือนอยู่โรงแรม แต่แอร์ที่ติดฝ้าเพดานมักจะมีปัญหาเรื่องการบำรุงรักษา อีกทั้งหากมีการติดตั้งที่ไม่ดีมักจะมีปัญหาเรื่องน้ำรั่วจากช่องแอร์ได้ ตรงนี้ต้องตรวจสภาพแอร์ภายในห้องบ่อยหน่อยนะคะ สำหรับห้องครัวภายในห้องนี้ไม่มีปัญหาเรื่องความอึดอัดเมื่อปิดประตูบานเลื่อนค่ะ เพราะมีพื้นที่กว้างขวางกว่า นอกจากนี้ยังพบว่าห้องน้ำที่อยู่ภายในห้องนอนเล็กมีการติดตั้งช่องแสงไว้บริเวณที่อาบน้ำพอดีค่ะ แสงธรรมชาติจากภายนอกช่วยให้ห้องน้ำเล็กๆ ดูโปร่งและกว้างขวางขึ้น และช่วยฆ่าเชื้อโรคได้ด้วย แต่ตอนอาบน้ำจะเซ็กซี่มากๆ เลยค่ะ การแก้ปัญหาในเบื้องต้นที่แนะนำคือติดฟิล์มค่ะ จะแบบมืดๆ หรือแบบขุ่นก็ขึ้นอยู่กับความชอบแต่ควรติดมู่ลี่เพิ่มเติมด้วย เลือกใช้มู่ลี่แบบโฟมวู๊ด (Foam Wood) จะเป็นแบบกันน้ำได้ดีกว่าแบบอลูมิเนียม และไม่ขึ้นสนิมด้วยค่ะ
Facilities จะมีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และห้องสมุด ซึ่งความยาวของสระว่ายน้ำกำลังดีค่ะแต่เป็นสระแบบ outdoor ห้องออกกำลังกายจะอยู่ชั้น 28 ต้องขึ้นบันไดเท่านั้น ชอบตรงที่ติดกระจก 3 ด้าน ทำให้มองเห็นวิวกรุงเทพฯ ได้ 180 องศา ออกกำลังกายกันอย่างเพลิดเพลินเลยทีเดียว ^^ ในส่วนของจำนวนที่จอดรถจะน้อยไปหน่อย ประมาณ 204 คัน ยังไม่รวมซ้อนคันและในจำนวนนี้รวมพื้นที่จอดประจำสำหรับห้องชุดขนาด 64 ตารางเมตรขึ้นไปแล้ว ก็ถือว่าไม่น่าจะเพียงพอกับจำนวนห้องพักอาศัย เพราะราคาห้องต่อตารางเมตรระดับนี้ คาดว่าลูกห้องที่เลือกอยู่คอนโดนี้ส่วนใหญ่น่าจะมีรถยนต์ส่วนตัวกันค่ะ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy
ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่ เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ (^_____^)
ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ