สวัสดีเพื่อนๆทุกคนครับ  วันนี้ผมพามาดูคอนโดอีกตัวนึงในแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงซึ่งเพิ่งสร้างเสร็จไป  และยังเหลือขายอยู่นิดหน่อย  ที่เราจะไปดูวันนี้คือคอนโด Centric Tiwanon Station (เซนทริค ติวานนท์ สเตชั่น) ของทาง SC Asset  อยู่ห่างจากสถานีรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย  สถานีแยกติวานนท์ประมาณ 200 เมตร  ใกล้ๆกับกระทรวงสาธารณสุขครับ  ตอนนี้ตึกเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว  เราไปดูกันดีกว่าว่าโครงการจะออกมาเป็นยังไงกันบ้าง

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

Centric Tiwanon Station (เซ็นทริค ติวานนท์ สเตชั่น)

• เจ้าของโครงการ >>> SC Asset (เอสซี แอทเสท)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนกรุงเทพฯ – นนทบุรี
• ขนาดที่ดิน >>>  4-2-59 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 41 ชั้น (อาคาร A) และ 37 ชั้น (อาคาร B) (จอดภายในคอนโด)
• จำนวนอาคาร >>>  1 อาคาร 2 ทาวเวอร์ (A และ B)
• ประเภทห้อง >>>  1 ห้องนอน และ 2 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>> 31.8 – 67.4 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  1,063  ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> n/A
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 2.54 ล้านบาท (ห้อง 31.91 ตารางเมตร ณ วันที่ 1/3/2015)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยเริ่มต้นประมาณ  71,5xx – 79,5xx บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.841106, 100.512917

แหนงหน้าชมกันหน่อยก่อนจะเข้าไปดูกันจริงๆครับ

มองจากด้านบนเราก็จะเห็นแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงตีโค้งไปทางแคราย

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

ในส่วนของการเดินทางของรีวิวนี้จะไม่ได้เน้นมากนะครับ  เพราะคอนโดสร้างเสร็จแล้วรูปเพียบเลย  ไปเน้นดูกันที่ตัวตึกจริงๆดีกว่า  อธิบายคร่าวๆว่าที่ตั้งของคอนโดอยู่ตรงสี่แยกติวานนท์ที่ตรงแนวหัวโค้งของรถไฟฟ้าสายสีม่วง  จากจุดนี้จะสามารถใช้ถนนติวานนท์ไปทางแคราย, ใช้ถนนนครอินทร์ ข้ามสะพานพระราม 5 ออกถนนพระราม 5 และวงเวียนราชพฤกษ์  หรือจะตรงไปทางถนนประชาราษฎร์ไปยังท่าน้ำนนท์ได้ครับ

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ในพื้นที่แถวนี้ต้องถือว่าเป็นโซนที่เป็นรอยต่อเชื่อมไปยังโซนนอกเมือง  ลักษณะเป็นเขตที่อยู่อาศัยซะเป็นส่วนใหญ่  และก็มีสถานที่ราชการใหญ่อย่างกระทรวงสาธารณสุขอยู่ (หมายเลข 6)  เยื้องๆกับกระทรวงสาธารณสุขเป็นบิ๊กซี ติวานนท์ (หมายเลข 5) ซึ่งใหญ่พอควร อยู่ในระยะที่เดินจากโครงการมาได้  แต่ต้องระวังเวลาข้ามถนนตรงแยกติวานนท์หน่อยครับ

ในตัวโครงการนั้นด้านหน้าที่ติดถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรีจะเป็นส่วนของพื้นที่ร้านค้า (หมายเลข 1) ด้านทิศใต้ของโครงการเป็นคอนโดเพื่อนบ้านอย่าง คอนโดศุภาลัย วิสต้า แยกติวานนท์ (หมายเลข 2) ที่กำลังก่อสร้างอยู่  หัวมุมฝั่งตรงข้ามที่ตอนนี้เป็นที่ดินว่างๆอยู่เมื่อปีก่อนเปิดคอนโดชื่อ Vio แคราย ไปแต่ตอนนี้ก็ยกเลิกการขายออกไปชั่วคราวแล้ว (หมายเลข 9)  และเลยไปอีกนิดก็เป็นศุภาลัย ปาร์ค แยกติวานนท์ (หมายเลข 8) ซึ่งสร้างเสร็จปิดโครงการไปหลายปีแล้ว  ซึ่งโครงการนี้จัดเป็นคอนโดยุคบุกเบิกของโซนนี้ก่อนที่ปัจจุบันจะขึ้นมากันเพียบด้วยอานิสงค์จากรถไฟฟ้าสายสีม่วงนั่นเอง

นอกจากนั้นฝั่งเยื้องๆกับโครงการก็มีสาขาของธนาคาร CIMB Thai (หมายเลข 3) และถ้าดูพื้นที่โซนฝั่งตรงข้ามโครงการทางทิศเหนือระหว่างตัวโครงการกับพื้นที่ของกระทรวงสาธารณสุขก็จะเห็นว่าเป็นโซนที่อยู่อาศัยพวกบ้าน 2-3 ชั้น เกือบทั้งหมด (หมายเลข 4)

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

ถนนกรุงเทพฯ-นนทบุรี ช่วงหน้าคอนโด ฝั่งมองไปทางแยกติวานนท์

ถ้ามองไปทางตัวสถานีแยกติวานนท์ก็จะอยู่ไม่ไกล  ประมาณ 200 เมตร  เดินได้ครับ

ฝั่งตรงข้ามก็เป็นตึกแถว  ซึ่งแทบตลอดแนวของถนนเส้นกรุงเทพฯ-นนทบุรี ก็จะเป็นตึกแถวแบบนี้สลับกับคอนโดที่เกาะตามแนวของรถไฟฟ้าสายสีม่วง

เพื่อนบ้าน Supalai Vista แยกติวานนท์ ที่กำลังสร้างอยู่

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เข้าไปดูในโครงการกันเลยครับ  วันนี้ถ่ายรูปมาให้กันแบบจัดเต็มไป

เข้ามาด้านหน้าโครงการ  มีซุ้มประตูทางเข้า  หลังคาป้องกันฝนตกเรียบร้อย  มีไม้กระดกกัน

เข้ามาเสร็จจะเห็น Lobby อยู่ด้านล่าง  ส่วนรถไอติมวอลล์ที่เห็นในรูปนั้นเขามาส่งไอติมให้ Family Mart ที่อยู่ใต้ตึกด้านขวามือในรูปครับ

มองกลับออกไปด้านหน้าของโครงการได้ยินเสียงรถวิ่งอยู่บ้าง

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

อย่างที่บอกว่าช่วงด้านหน้าของตัวคอนโดจะมีแนวตึกแถวริมถนนอยู่  ตัวคอนโดก็จะอยู่ถัดเข้ามาด้านในหน่อย  แต่ลักษณะของแนวการวางตัวของคอนโดนั้นไม่ได้ขนานกับแนวถนน  ด้านหน้าในส่วนที่เป็นร้านค้าจะมีทางเข้าแยกกัน  ผมเข้าใจจว่าน่าจะให้คนนอกเข้ามาซื้อของได้  แต่เรื่องของ Security ที่เป็นบริเวณที่คนนอกจะเข้ามาได้ถึงแค่ไหนนั้นคงต้องดูตอนที่ร้านเหล่านี้เปิดกันครบก่อน  เพราะตอนนี้ส่วนใหญ่ยังไม่ได้เปิดกัน

ถ้าเข้ามาตรงล็อบบี้จะเป็นลักษณะ Open-air Lobby มีพื้นที่ของโถงลิฟต์แยกกัน 2 จุด เพื่อขึ้นอาคาร A และ B  มีห้องสมุดอยู่ด้านล่างนี้ด้วย

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโดนั้นเป็นรูปตัว C คอร์ทด้านหน้าเปิดออกไปทางทิศตะวันออก  ซึ่งก็จะค่อนข้างร่ม  ส่วนด้านหลังฝั่งที่เห็นวิวแม่น้ำเจ้าพระยาจะอยู่ทิศตะวันตกซึ่ง ทางนี้จะได้วิวแม่น้ำในชั้นสูงๆแต่ก็จะร้อนกว่าครับ ต้อง traded-off กันไป

ดูผังชั้นล่างกันไปแล้ว  มาแหงนดูหน้าตากันอีกที  คอนโดก็มาสไตล์โมเดิร์นตามสมัยนิยมครับ  รวมๆนั้นถือว่าออกมาสวยทีเดียวแหละ  ใช้โทนสีเทา-ขาว ดูขรึมๆหน่อย มีใช้สี Turquoise ในบางจุด  ถ้าดูในรูปจะเห็นช่องว่างในตัวคอนโดที่แบ่งทุก 6 ชัั้น  ผมว่าการเลือกเจาะช่องให้ทะลุตรงนี้ทำให้ตัวตึกลดความหนักลงไปได้เยอะเลยครับ  ลองนึกดูว่าถ้าดีไซน์ออกมาเป็นตันๆหมดมันก็น่าจะดูเป็นกำแพงที่หนักว่านี้  ทำดีไซน์ออกมาแบบนี้ก็ทำให้ตึกดูโปร่งขึ้นพอควรครับ

ตรงยอดตึกครับ  ทั้ง Tower A และ B ดีไซน์ก็จะคล้ายๆกัน  รูปนี้จะเห็นในส่วนที่เป็นช่องเปิดเจาะทะลุทุก 6 ชั้น ที่ผมบอกว่าช่วยทำให้ตัวคอนโดดูไม่ตันมากด้วย

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

ในภาพรวมนัั้นพื้นที่ส่วนกลางทำมาได้ดีทีเดียวครับ  ที่ได้มามีห้องสมุดที่ชั้นล่าง , สวนที่ชั้น 6 (เหนือโพเดียมจอดรถ) และชั้นบนสุดของแต่ละทาวน์เวอร์ก็จะมีสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส และ Sky Lounge แยกให้ทั้ง 2 ตึก  ซึ่งแต่ละตึกก็สามารถสลับไปใช้ด้วยกันได้ครับ  แต่ห้อง Sauna จะมีเฉพาะของผู้ชาย  และห้อง Stream จะมีเฉพาะของผู้หญิง

ในส่วนของความหนาแน่นลิฟต์นั้น จัดมาให้ 6 ตัว (Tower ละ  3 ตัว) มีลิฟต์เซอร์วิส 1 ตัว เฉลี่ยรวมๆก็ได้ 177 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ตัวเลขความหนาแน่นที่ได้ก็ออกมากลางๆเมื่อเทียบกับระดับราคาครับ

เอาหล่ะ  ไปดูรูป facilities กันดีกว่า

เริ่มที่ห้องสมุดชั้นล่าง ติดกับล็อบบี้ครับ มีโซฟาให้นั่งทำงาน

บางส่วนก็เป็นโต๊ะเล็กๆ

Family Mart ที่ด้านล่าง อยู่ถัดจากล็อบบี้ไปหน่อย

โซนที่เป็นร้านค้า ตอนนี้ยังเก็บงานอยู่นิดหน่อย  ยังไม่ได้เปิดให้บริการ  มอเตอร์ไซต์ที่เห็นนั่นเป็นของคนงานเฉยๆ  ตรงช่องโล่งที่ชั้นล่างนั้นเป็นส่วนทางเข้าอีกทางนึงนอกเหนือจากทางเข้าหลักที่คนในคอนโดเข้าได้อย่างเดียว

ร้านค้าที่เหลือยังไม่ได้เปิดในส่วนที่ติดกับ Family Mart

ล็อบบี้ในส่วนของ Tower B

บริเวณตู้จดหมาย

จากชั้นล่าง  เรากดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 41 ของ Tower A กันครับ  มีสระว่ายน้ำมีมุมจากุชชี่ให้  ตรงนี้จะเห็นวิวโล่งๆไปทางฝั่งจังหวัดนนทบุรี  ด้านขวาสุดที่เป็นชั้นลอยคือ Sky Lounge

มีศาลานั่งเล่นพักผ่อนเล็กๆ

มุมนอนเล่น

มองย้อนกลับไป  เห็นวิวเจ้าพระยาลิบๆอยู่เล็กน้อย

เข้ามาห้องน้ำชายจะมี Sauna Room ให้

ส่วนฝั่งห้องน้ำหญิงก็จะมี Stream Room (แต่แบบนี้ผู้ชายก็ใช้ Stream ไม่ได้  ส่วนผู้หญิงก็ใช้ Sauna ไม่ได้หน่ะซิ  ได้ใช้กันคนละห้อง)

ขึ้นมาดู Sky Lounge ที่ชั้นลอย  กระจกโล่งทั้ง 2 ด้าน  เห็นวิวโปร่งๆตลอดครับ  ไม่มีตึกสูงมาแข่งเท่าไหร่

Pattern ของบานกรอบนั้นเหมือนพวกฝาปะกนในบ้านเรือนไทย  ไม่รู้คอนเซ็ปมาจากแบบนี้หรือเปล่า

Fitness Room จะอยู่ติดกับสระว่ายน้ำ  ด้านล่างของ Sky Lounge ใช้วัสดุพวกลามิเนตลายไม้ปิดผิวก็ทำให้ดูอบอุ่นดี

มองออกไปจากฟิตเนสเห็นสระว่ายน้ำ

เดินไปดูสวนทางด้านหลังบ้าง  มุมด้านนี้จะเห็นแม่น้ำเจ้าพระยาครับ

ทางเดินกลับขึ้นไปสระว่ายน้ำ

ดูพื้นที่ส่วนกลางที่ชั้น 41 ของ Tower A ไปแล้ว  เราก็กดลิฟต์กลับลงมาที่ชั้น 6 เพื่อดูสวนเหนือโพเดียมส่วนที่จอดรถครับ  จากมุมนั่งเล่นตรงนี้จะเห็นว่าสวนอยู่แนวเดียวกับแนวรางรถไฟฟ้าพอดี

มีบ่อทรายเล็กๆไว้ให้เด็กๆเล่น

ขอบกันตกดีไซน์โดยใช้กระจกใส  และยื่นออกไปจากแนวทางเดิน  ทำให้ดูโล่งทีเดียว (แต่งานนี้ลำบากแม่บ้านดูแลเช็ดกระจกกันหน่อย)

ทำเป็นทางเดินมุมเล็กมุมน้อย  มีที่นั่งเล่นให้  วันที่ไปรีวิวยังไม่ได้เติมน้ำเข้าไปเลยจะดูแห้งๆหน่อย

มุมนั่งเล่นอีกมุมนึง  มองจากฝั่ง Tower B

จากนั้นที่ชั้น 6  ก็จะสามารถเดินเชื่อม Tower A และ B ได้  เราก็เลยพาเข้าในส่วนของ Tower B และกดลิฟต์ขึ้นมาดูที่ชั้น 37 กัน  ซึ่งก็จะมีพื้นที่ส่วนกลางเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ , ฟิตเนส และ Sky Lounge เช่นเดียวกันกับ Tower A เลย  (มองไปจากตรงนี้ก็จะเห็นส่วนกลางของ Tower A อยู่ด้านหลังด้วย)

มีมุมนั่งเล่นเหมือนๆกัน

มองไปทางฝั่งรัตนาธิเบศร์  ดีไซน์เป็น Infinity Edged Pool แบบนี้สวยทีเดียว

มุมสระเด็กครับ

มองมาตรงริมสระ  ตรงนี้เหมือนจะลืมคิดเรื่องการซ่อนงานระบบไปนะครับ  ท่อยุบยับดูไม่ค่อยเรียบร้อยเท่าไหร่  ใช้ทาสีเทาพรางตาไว้ให้เหมือนผนังตึก

ที่ชั้นลอยก็มี Sky Lounge ดีไซน์แบบเดียวกับของ Tower A

ฟิตเนสก็เหมือนกันครับ  แต่ของ Tower B นี้ดูจะเล็กกว่าหน่อย  แต่มุมมองสวยกว่าตรงที่ด้านหลังได้วิวแม่น้ำเจ้าพระยาด้วย

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Typical Floor Plan คอนโด Centric Tiwanon Station ชั้น 7, 10, 16, 19, 22, 25

ตัวคอนโดก็จะแบ่งออกเป็น 2 ทาวน์เวอร์  ตรงหัวมุมก็จะเป็นแบบ 2 ห้องนอน  นอกนั้นก็เป็นแบบ 1 ห้องนอน  โดยวางห้องไซส์เล็กกว่าไว้รอบนอกคอนโด (ทิศเหนือ, ใต้ และตะวันตก) ส่วนด้านหน้าที่เป็นคอร์ทตรงกลางจะเป็นแบบ 1 ห้องนอนที่ขนาดใหญ่ขึ้นมาครับ  ตรงปลายสุดของระเบียงมีช่องหน้าต่างพอให้แสงเข้ามาได้นิดหน่อย

Typical Floor Plan คอนโด Centric Tiwanon Station ชั้น 37-38 

ที่ Tower B ชั้น 37 และชั้นลอย เป็นในส่วนพื้นที่ส่วนกลางอย่างที่เล่าไปแล้วครับ  ซึ่งสำหรับ Tower A นั้นแปลนก็จะคล้ายๆกันกับแบบนี้  เลยเอามาให้ดูกันแค่ตึกเดียวพอ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องนั้นมีหลักๆอยู่ 4 แบบ  วันนี้เรารีวิวให้ดูกัน 3 แบบ  ซึ่งในภาพรวมก็ทำออกมาได้ในระดับโอเคดีซึ่งก็มีทั้งจุดดีและจุดติอยู่บ้างตามปกติครับ

แปลนห้องคอนโด Centric ติวานนท์ สเตชั่น

แบบ 1 ห้องนอน (A1) ขนาด 31.8 ตารางเมตร

แปลนของ 1 ห้องนอนแบบนี้จะเป็นแบบหลักของโครงการซึ่งมีเยอะที่สุด  เลือกวางฟังก์ชั่นโดยเอาห้องนอนและส่วนครัวไปไว้ด้านนอก  และให้ด้านในเป็นส่วนพักผ่อน  โดยรวมๆการให้สัดส่วนของสเปซแต่ละจุดก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับ  ระยะในการนั่งดูทีวีในห้องนั่งเล่นนั้นมีพอสมควรไม่แคบไป  แต่จะได้แสงธรรมชาติเข้ามาน้อยหน่อยเนื่องจากมีครัวและส่วนรับประทานอาหารอยู่ติดด้านนอก

ดีไซน์ที่ SC ทำประจำกับแบรนด์ Centric ก็คือในส่วนของที่วางคอมเพรสเซอร์แอร์และส่วนของราวตากผ้าซึ่งจะทำเป็นประตูเปิดออกไปจากส่วนครัว ตรงนี้ประหยัดพื้นที่ได้ดีแต่ก็ต้องเอื้อมเอาหน่อย  ถ้าวันไหนต้องซักเสื้อผ้าเยอะๆปริมาณผ้าที่ตากก็ดูจะไม่น่าพอกับราวตากผ้าครับ  ทั้งนี้พอมองตรงคอมเพรสเซอร์แอร์และราวตากผ้าจากด้านนอกห้องเข้าไปจะเห็นว่าดีไซน์ออกมาบังสายตาและความไม่เรียบร้อยต่างๆได้ดีทีเดียว

แปลนห้องคอนโด Centric ติวานนท์ สเตชั่น

แบบ 1 ห้องนอน (ฺB1) ขนาด 34.9 ตารางเมตร

แบบ B1 นี้จะมีพื้นที่เยอะกว่าแบบ A1 อยู่หน่อย  ถ้าไม่นับเรื่องขนาดพื้นที่ที่ต่างกันแล้วในแง่ของฟังก์ชั่นไม่ได้แตกต่างอะไรกันอย่างมีนัยยะสำคัญ  ที่ต่างกันคือตรงส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์และส่วนราวตากผ้าด้านนอกจะแยกกันออกเป็น 2 ฝั่งไม่ได้มารวมกัน  ซึ่งตรงนี้จะใช้งานสะดวกกว่าในแง่ที่เวลาตากผ้าแล้วน้ำเปียกๆจากเสื้อผ้าที่ยังไม่แห้งก็จะไม่หยดลงไปบนหลังคอมเพรสเซอร์แอร์  และก็สามารถตากผ้าจำพวกชุดเดรสที่มีความยาวได้เพราะไม่ติดกับคอมฯแอร์  แต่ทั้งนี้การที่แยกส่วนของคอมเพรสเซอร์แอร์มาไว้อีกฝั่งก็ทำให้ขนาดของหน้าต่างห้องนอนนั้นเล็กลงไปเมื่อเทียบกับแบบ A1 ครับ (แบบ A1 ได้หน้าต่างห้องนอนใหญ่มากกว่า) เรียกว่าได้อย่างเสียอย่างต้องลองเทียบกันดู

แปลนห้องคอนโด Centric ติวานนท์ สเตชั่น

แบบ 2 ห้องนอน (D2) ขนาด 67.4 ตารางเมตร

แปลนของแบบ 2 ห้องนอน โดยรวมก็ถือว่าจัดออกมาได้ดีครับ  แบ่งสัดส่วนการใช้งานได้ดี  ได้รับแสงธรรมชาติทั้ง 2 ด้าน เพราะอยู่ตรงหัวมุมอาคารเท่านั้น  การจัดฟังก์ชั่นนั้นแยกส่วนห้องนอนไว้ด้านนึง  อีกด้านเป็นครัวและตรงกลางเป็นส่วนพักผ่อนตามสูตรทั่วไป ส่วนห้องพักผ่อนนั้นค่อนข้างกว้าง  สามารถใช้ทีวีจอใหญ่ๆได้สบายๆ  ในห้องนอนใหญ่จะมีห้องน้ำในตัวซึ่งมีที่นั่งอาบน้ำสำหรับผู้สูงอายุให้ด้วย มี Walk-in closet ที่กั้นเป็นสัดส่วนดี  ได้กระจกเข้ามุม

ห้องน้ำด้านนอกนั้นแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ส่วน แยกส่วนอ่างล้างหน้า , ส่วนอาบน้ำ และส่วนสุขภัณฑ์ออกจากกันทำให้ใช้สเปซได้พร้อมๆกันมากกว่า 1 คน  และในส่วนห้องส้วมก็มีหน้าต่างระบายอากาศออกไปด้านนอกได้ด้วย  แต่ส่วนที่อาจจะทำให้ใช้งานลำบากหน่อยก็ตรงที่มีธรณีประตูทั้ง 3 ส่วน  เวลาเดินเข้าออกจะสะดุดได้ง่าย

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

เนื่องจากคอนโด Centric Tiwanon Station สร้างเสร็จแล้วและกำลังทยอยโอน  ห้องตัวอย่างที่ให้ดูเลยเป็นห้องโล่งๆที่รอโอน  ไม่ได้มีห้องตกแต่งสวยๆแบบอลังการให้ดูนะ  แต่ยังไงก็ถ่ายรูปสเปซมาให้ดูกันครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด เซนทริค ติวานนท์ สเตชั่น

แบบ 1 ห้องนอน (B1) 34.9 ตารางเมตร

เปิดประตูกันเข้ามาดูในห้องเลยครับ โทนสีมาตราฐานของห้องที่ได้มาจะต่างกับคอนโดทั่วไปที่ใช้ผนังทาสีขาว  เพราะของ Centric ติวานนท์ สเตชั่น จะทาสีโทนอมเทานิดๆมาให้  ซึ่งวัสดุอย่างประตูก็ใช้โทนสีเดียวกันครับ

มองจากห้องน้ำครับมุมนี้

ในส่วนครัวและส่วนรับประทานอาหาร  สเปซค่อนข้างกว้างใช้งานไม่ลำบาก

สเเปซในส่วนห้องนอน  ผมว่าแบบ B1 นี้สัดส่วนของบานหน้าต่างห้องนอนจะเล็กไปหน่อยครับ  เนื่องจากไปใช้พื้นที่ส่วนนึงวางคอมเพรสเซอร์แอร์ด้านนอกครับ  ถ้าเป็นแบบ A1 จะได้สัดส่วนของหน้าต่างมากกว่าพอควรทีเดียว

ทำชุดตู้ Built-in และโต๊ะแป้งมาให้เรียบร้อย ตำแหน่งโต๊ะแป้งนั้นอาจจะทำให้หยิบเสื้อผ้าในตู้ด้านที่ติดกับกำแพงยากหน่อยครับ

ในห้องน้ำ  ได้กระจกบานใหญ่มาเลย

ห้องตัวอย่างคอนโด Centric ติวานนนท์ สเตชั่น

แบบ 2 ห้องนอน (D2) 64.7 ตารางเมตร

มาดูแบบ D2 ซึ่งเป็น 2 ห้องนอนตรงหัวมุมคอนโดกันบ้าง  มุมนี้เปิดห้องเข้ามาแล้วมองจากส่วนรับประทานอาหารเข้าไป

มองกลับมาอีกด้านนึง

ห้องน้ำแยกเป็น 3 ส่วน อย่างที่เล่าไปแล้วครับ  รูปนี้เป็นส่วนอาบน้ำ  จริงๆกระเบื้องจะไม่ได้เหลืองขนาดนี้นะเป็นที่แสงไฟในห้องที่ติดมาให้ครับ

มุมนี้ในส่วนห้องสุขภัณฑ์  มีหน้าต่างบานกระทุ้งระบายอากาศออกให้

ในห้องนอนใหญ่  ถ้าได้หน้าต่างใหญ่เต็มๆกว่านี้ก็จะดีเนอะ  เพราะหน้าต่างนั้นได้เท่าขนาดของห้องนอนเล็กเลย

ส่วนของ Wail-in Closet

ในห้องนอนเล็ก

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุโดยรวมก็ให้มาตามมาตราฐานกลางๆครับ  มีเตาท์เตอร์ครัวมาให้  พร้อมเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักๆอย่างโต๊ะรับประทานอาหาร, โซฟา, ตู้เสื้อผ้า, เตียงนอน ไม่มีวอลล์เปเปอร์  เอามาตกแต่งเพิ่มเติมอีกนิดหน่อยก็อยู่ได้เลย

วัสดุห้องน้ำ

รวมๆในห้องน้ำครับ

อ่างล้างหน้าเป็น Fiber หล่อ ติดลอยตัวจากผนัง ของยี่ห้อ Charmer

ก็อกน้ำของ Cotto

ปลั๊กไฟข้างๆอ่างล้างหน้า  ถึงตำแหน่งจะอยู่สูงแต่ยังไงถ้ามีฝาปิดให้ก็น่าจะดีกว่าครับ

มีฉากกั้นอาบน้ำมาให้ครับ

ฝักบัวตามมาตราฐาน

สุขภัณฑ์ Cotto รุ่น Eco

ราวแขวนผ้าสแตนเลส

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

หน้าตาเคาท์เตอร์ครัวที่ได้มา

มีพื้นที่เก็บของประมาณนี้  ไม่ได้เยอะมากครับ

อ่างล้างหน้าแบบฝั่งใต้เคาท์เตอร์  ตัว Top เคาท์เตอร์เป็นหินสังเคาะห์สีขาว  ผิวสัมผัสโอเค

เตาเซรามิค 2 หัวของ Teka

ฮูดก็ของ Teka เช่นกันครับ

เปิดให้ดูด้านใต้ของอ่างล้างล้างจาก  พอใช้เก็บอุปกรณ์ต่างๆได้

ติดกระเบื้องกรุผนังสีขาวกันเลอะมาให้ที่กำแพง

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ให้ดูโทนสีของพื้นลามิเนตและพื้นกระเบื้องในส่วนครัวครับ  ตรงรอยต่อปิดด้วยขอบลามิเนต

ลามิเนตผิวสัมผัสทั่วไปตามมาตราฐาน  ติด Door Stopper ให้

บานเลื่อนกั้นครัวเป็นบานกรอบอลูมิเนียมสีเงิน

บานเลื่อนนั้นไม่สูงเท่าไหร่  เลยทำให้แสงเข้ามาได้น้อยไปนิด

ซ่อนตู้ไฟให้เรียบร้อยทีเดียว

หน้าตาสวิตซ์ไฟตามมาตราฐาน  ใช้ของ Seimens

บานประตูปิดตัวคอมฯแอร์ (รูปนี้ถ่ายจากแบบ 2 ห้องนอน  เลยอยู่ตรงระเบียงครับ)

เปิดมาดูก็จะเป็นแบบนี้  เรียบร้อยดีทีเดียว

ธรณีประตูกั้นด้านนอก

ราวกันตกเป็นเหล็กกล่องทาสีเทาดำ  ให้เป็นโทนเดียวกับตัวคอนโด

ลักษณะราวแขวนผ้าที่เปิดออกไปเจอ

บานประตูสีเทา  โทนเดียวกับสีผนังในห้องครับ

มีตู้เก็บรองเท้าให้ด้านล่างตู้ไฟ  ทำออกมาเรียบร้อยดี  นับดูเก็บได้ประมาณ 8 คู่

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

วันที่แวะไปรีวิวนั้นเหลือห้องอยู่ไม่เยอะครับ  ราคาที่ได้มาเลยค่อนข้างกระจัดกระจาย  อาจจะไม่ได้เห็นภาพรวมของกรอบราคานั้น  ณวันที่ไปรีวิว (1/3/58) ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 2.54 ล้านบาท สำหรับ 1 ห้องนอน  และ 4.84 ล้านบาท สำหรับ 2 ห้องนอน ครับ

ราคา ณ วันที่ 1 มีนาคม 2558

ราคาเริ่มต้น :

1 bedroom  ชั้น 37 พื้นที่ 31.91 ตร.ม. ราคา 2,540,000 บาท  เฉลี่ย 79,598  บาท/ตร.ม.

2 bedroom  ชั้น 7   พื้นที่ 67.70 ตร.ม. ราคา 4,844,000 บาท  เฉลี่ย 71,550  บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 ห้องนอน จอง 10,000 บาท  ทำสัญญา 20,000 บาท

2 ห้องนอน จอง 20,000 บาท  ทำสัญญา 30,000 บาท

• ผ่อนผ่อนดาวน์

ไม่มี  เป็นห้องพร้อมโอน

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   35  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ค่าธรรมเนียมโอน 2% (ผู้ซื้อ 1% , ผู้ขาย 1%)

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 31.91 ตร.ม.  ราคาขาย  2.450 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 16,173 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 67.70 ตร.ม.  ราคาขาย  4.844 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 31,976 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 31.91 ตร.ม.  ราคาขาย  2.450 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 17,093 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 67.70 ตร.ม.  ราคาขาย  4.844 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 33,795 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 31.91 ตร.ม.  ราคาขาย  2.450 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 18,633 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 67.70 ตร.ม.  ราคาขาย  4.844 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 36,841 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 31.91 ตร.ม.  ราคาขาย  2.450 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 21,442 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 67.70 ตร.ม.  ราคาขาย  4.844 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 42,394 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

1 bedroom   พื้นที่ 31.91 ตร.ม.  ราคาขาย  2.450 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 27,456 บาท/เดือน

2 bedroom   พื้นที่ 67.70 ตร.ม.  ราคาขาย  4.844 ล้านบาท  ผ่อนประมาณ 54,284 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

แยกติวานนท์นั้นเป็นจุดที่สามารถเชื่อต่อที่ไปได้หลายเส้นทางทั้งออกไปทางกรุงเทพตะวันตกผ่านทางถนนนครอินทร์เข้าพระราม 5 หรือจะขึ้นไปเชื่อมกับเส้นรัตนาธิเบศร์และงามวงศ์วานก็ได้  อีกหน่อยพอรถไฟฟ้าสายสีม่วงเสร็จด้านการเดินทางเข้าเมืองก็จะสะดวกขึ้นอีกเพราะอยู่ห่างจากตัวสถานีประมาณ 200 เมตร เดินไปได้สบาย  จุดด้อยนิดนึงของโซนนี้คือห่างเครือข่ายทางด่วนไปหน่อยครับ  จุดขึ้นลงทางด่วนใกล้ที่สุดก็ต้องไปตรงงามวงศ์วานซึ่งกว่าจะฝ่ารถติดตรงแยกแครายไปได้ก็เหนื่อยเหมือนกันในช่วงเช้าๆ

ล่าสุดที่โครงสร้างพื้นฐานรอบโครงการที่เพิ่งสร้างเสร็จเปิดใช้ไปอย่างเป็นทางการก็คือสะพานนนทบุรี 1  ซึ่งจากโครงการก็ใช้ถนนประชาราษฏร์เข้าถนนเลี่ยงเมืองนนทบุรีแล้วข้ามสะพานนนทบุรีไปอีกฝั่งนึงได้  ซึ่งเป็นอีกจุดนึงที่ไปออกถนนนราชพฤกษ์ได้นอกจากทางสะพานพระราม 5

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

แน่นอนว่าเป็นรถไฟฟ้าสายสีม่วงส่วนต่อขยาย  ซึ่งไปต่อกับสายสีน้ำเงินที่สถานีใหญ่ตรงเตาปูน อินเตอร์เชนจ์  ซึ่งก็จะทำให้การเข้าเมืองสะดวกขึ้นมากทีเดียว  และแน่นอนว่าก็มาพร้อมกับจำนวนคอนโดตามแนวรถไฟฟ้าสายสีม่วงนี้ที่ขึ้นกันมามากมายเรื่อยๆ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ตัวคอนโดนั้นวางทำมุมเฉียงกับถนนใหญ่ด้านหน้าประมาณ 45 องศา  ทำให้มุมมองจากถนนนั้นจะเห็นตัวคอนโดทั้งสองด้าน  ลักษณะการดีไซน์นั้นเป็นแบบโมเดริ์นตามสมัยนิยม  โดยใช้โทนสีออกมาเป็นเทาดำและสีขาว ทำให้ดูผ่านๆลุคดูค่อนข้างจะขรึมๆหน่อย แต่มีแอบใช้สีเขียวอมฟ้า (turquoise) ในบางจุดเพื่อให้ดูวัยรุ่นขึ้น  การที่ดีไซน์แยกตัวทาวเวอร์ออกเป็น 2 ทาวเวอร์  ก็ช่วยทำให้ตัวคอนโดดูไม่เป็นกำแพงแน่นมาก  ภาพรวมในสัดส่วนของอาคารดูโอเคดีครับ

ตัวล็อบบี้ด้านล่างนั้นดีไซน์แบบเปิดโล่ง  ซึ่งสเปซด้านข้างมีการเจาะช่องทั้ง 2 ฝั่ง ทำให้ในบางช่วงมีลมพัดสบายดี และจุดนึงที่ชอบคือการมีบ่อน้ำพุเล็กๆตลอดแนวล็อบบี้ได้ล่าง  เพราะเมื่อเปิดน้ำแล้วเสียงน้ำนี้จะช่วยสกรีนเสียงรถยนต์จากภายนอกไปได้เยอะมาก  เมื่อเทียบกับการเป็น Open air lobby  ซึ่งตรงนี้ต้องไปดูของจริงจะเห็นเยอะกว่า  ดูในแปลนไม่เห็นจริงๆ  ไม่รู้ว่าเป็นความบังเอิญหรือตั้งใจแต่ว่าทำได้ดีครับ

ในแง่ของแปลนห้องนั้นก็ทำมาตามมาตราฐาน  สำหรับแบบ 1 ห้องนอนที่เป็นแปลนหลักของโครงการนั้น ดีไซน์โดยเอาส่วนครัวไปไว้ด้านนอก  และเอาส่วนพักผ่อนไว้ด้านใน  สำหรับคนที่ชอบทำอาหารคงถูกใจเพราะพื้นที่ครัวค่อนข้างเยอะ  แต่คนที่ไม่ค่อยได้ใช้ครัวอาจจะรู้สึกเสียดายเมื่อต้องแลกกับพื้นที่รับแสงธรรมชาติที่เข้ามาในส่วนพักผ่อนไป  ดีไซน์นึงที่เป็นเอกลักษณ์ของทาง SC Asset ก็ตรงการวางตำแหน่งของคอมเพรสเซอร์แอร์และราวตากผ้าเอาไว้ด้านนอก  ซึ่งก็เล่าข้อดีข้อเสียไปแล้วด้านบนครับ  ส่วนแบบ 2 ห้องนอนนั้นก็จัดมาหลวมๆ  ฟังก์ชั่นโดยรวมโอเคดี  ด้วยขนาดพื้นที่ที่ค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับขนาดของแบบ 2 ห้องนอนในตลาดคอนโดปัจจุบัน  จะมีติหน่อยก็ตรงที่รู้สึกว่าให้สัดส่วนของหน้าต่างในห้องนอนมาค่อนข้างน้อยไปนิด  ด้านวัสดุก็ให้มาตามมาตราฐานที่ควรจะได้ครับ  ผิวสัมผัสต่างๆก็โอเคตามมาตราฐาน  มีเฟอร์นิเจอร์มาให้ในชิ้นหลักๆครบ

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางนั้นผมมองว่าทำออกมาได้ดีมากทีเดียว  สวยงามน่าใช้งานครับ  การแยกพื้นที่ส่วนกลางด้านบนของตึกที่มีสระว่ายน้ำ, ฟิตเนส และ Sky Lounge ออกเป็น 2 ตึก ก็ช่วยกระจายความหนาแน่นได้ดี  วิวจากด้านบนก็โล่งๆไม่น่าจะมีอะไรมาบังในระยะใกล้ๆ  นอกนั้นก็มีสวนที่ชั้น 6 , ห้องสมุดที่ชั้น 1  โดยรวมๆแล้วทำส่วนกลางออกมาได้ดีครับ  ในส่วนความหนาแน่นนั้นให้ลิฟต์โดยสารมา 6 ตัว แยกเป็นทาวเวอร์ละ 3 ตัว โดยเป็นลิฟต์ล็อกชั้น  เปิดได้เฉพาะชั้นส่วนกลางกับชั้นตัวเอง  ความหนาแน่นอยู่ประมาณ 177 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่ากลางๆครับ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยครับ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ