รีวิวฉบับนี้พาไปดูโครงการ Centric Sea Pattaya เป็นคอนโดกึ่งตากอากาศจาก SC Asset เป็นที่สนใจแก่ชาวต่างชาติ ทั้งยุโรปและชาวจีน แม้ตัวคอนโดเซ็นทริค ซี พัทยา จะตั้งอยู่บนถนนพัทยาสาย 2 ไม่ได้อยู่ติดชายหาด แต่ก็สามารถเดินจากหน้าโครงการไปถึงชายหาดได้ไม่ไกล และเนื่องจากตัวโครงการเป็นคอนโดสูง จึงสามารถมองเห็นวิวพัทยาได้ทั่ว บรรยากาศดีทีเดียวค่ะ ไปดูรีวิวละเอียดๆ กันเลย
Centric Sea Pattaya (เซ็นทริค ซี พัทยา) คอนโดตากอากาศพัทยา บนถนนพัทยาสาย 2 จาก SC Asset [รีวิว]
· 38 min readเริ่มจากข้อมูลเบื้องต้นของโครงการกันก่อน
Centric Sea Pattaya (เซ็นทริค ซี พัทยา)
- เจ้าของโครงการ บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)
- ที่ตั้งโครงการ >>> ถนนพัทยาสาย2 หน้าโครงการห่างจากชายหาด 380 เมตร
- ขนาดที่ดิน >>> 6-0-77.9 ไร่
- จำนวนชั้น >>> อาคาร A : 44 ชั้น / อาคาร B : 32 ชั้น / อาคาร C : 7 ชั้น
- จำนวนอาคาร >>> 3 อาคาร
- ประเภทห้อง >>>
- 1 ห้องนอน 28.00-41.00 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 57.00-79.00 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน 109 ตารางเมตร
- จำนวนยูนิต >>> ห้องพักอาศัย 999 ยูนิต / ร้านค้า 2 ยูนิต
- ที่จอดรถ >>>308 คัน 30%
- ราคาขายเริ่มต้น >>> 2.19 ล้านบาท (Fully Furnished)
- ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 86,000 (ราคา ณ วันที่ 1/4/2559)
- พิกัด GPS >>> 12.939715,100.887333
- เว็ปไซต์โครงการ >>> www.scasset.com
- โทร >>> 1749
ที่ตั้งโครงการ Centric Sea Pattaya นั้นตั้งอยู่ในบนถนนพัทยาสาย 2 ซึ่งเป็นถนนคู่ขนานกับถนนเลียบชายหาด ตัวโครงการไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่อยู่ถัดเข้ามาด้านในตัวเมืองหน่อย ถ้าอยากไปชายหาดก็สามารถข้ามถนนด้านหน้าโครงการแล้วเดินไปออกชายหาดได้ในระยะทาง 380 เมตร นับว่าไม่ไกลเลยค่ะ
ซึ่งคอนโดสูงก็ไม่น่าอยู่ติดทะเลนัก เพราะทำให้บรรยากาศริมทะเลไม่เป็นทะเลค่ะ
เริ่มเดินทาง ดูทำเล
วันนี้เราเดินทางด้วยการใช้มอเตอร์เวย์ชลบุรี-พัทยาจากกรุงเทพฯ วิ่งลงใต้เข้าสู่เมืองพัทยา เมื่อถึงสุดทางมอเตอร์เวย์เข้าเขตเมืองพัทยาแล้ว จะมีป้ายไปทางพัทยากลาง, พัทยาเหนือ ตรงนี้จะเลี้ยวซ้ายไปพัทยากลางหรือเลี้ยวขวาไปพัทยาเหนือก็ได้เหมือนกัน วันนี้เราจะไปทางพัทยาเหนือกัน
ให้เราเลี้ยวขวาตามป้ายถนนพัทยาเหนือ เลี้ยวมาไม่นานจะถึงสี่แยกก็ให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัทยาเหนือ เส้นนี้จะมุ่งหน้าเข้าหาชายหาดพัทยาและวงเวียนโลมา พอถึงถึงสี่แยกแรกก็เลี้ยวซ้ายเพื่อเข้าถนนพัทยาสาย 3 วิ่งไปจนออกถนนพัทยากลางแล้วเลี้ยวขวา และเมื่อถึงสี่แยกให้เลี้ยวขวาอีกทีเพื่อเข้าถนนพัทยาสาย 2 เป็นทางบังคับทางเดียว เลี้ยวเข้ามาแล้วขับชิดขวาเอาไว้ ลึกเข้าไป 350 เมตรจะเห็นโรงแรม Hard Rock Pattaya อยู่ทางซ้ายมือ ส่วนขวามือจะเป็นคอนโด Centric Sea Pattaya สามารถมองเห็นโครงการได้ชัดเจนค่ะ

ถึงสี่แยกแล้วก็เลี้ยวซ้ายเข้าถนนพัทยาเหนือได้เลยค่ะ เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด

ถึงสี่แยกด้านหน้า ให้เลี้ยวซ้ายตามป้ายสภ.เมืองพัทยา เข้าถนนพัทยาสาย 3 ค่ะ

เลี้ยวขวามาแล้วจะเข้าสู่ถนนพัทยากลางมุ่งหน้าเข้าชายหาด เส้นนี้จะเป็นถนนคู่ขนานกับถนนพัทยาเหนือ รถวิ่งสวนกันปกติ
มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง
เมืองพัทยาจะเป็นเมืองท่องเที่ยว และที่รู้กันคือมีผู้คนพลุกพล่าน เหมือนเป็นกรุงเทพฯ เล็กๆ ที่มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ทั้ง Big C, Tesco Lotus, Central Festival Pattaya และ Home Pro สาขาพัทยา แต่มีโรงแรม, ร้านอาหาร, ผับ บาร์, ร้านขายชุดว่ายน้ำ, ของที่ระลึกและร้านนวดชุกชุมมากกว่า เพื่อบริการนักท่องเที่ยวนั่นเอง
ถนนหลักในเมืองพัทยามี ถนนพัทยาเหนือ, ถนนพัทยากลางและถนนพัทยาใต้ วิ่งตั้งฉากเข้าหาชายหาด และจะมีถนนพัทยาสาย 1, ถนนพัทยาสาย 2 และถนนพัทยาสาย 3 วิ่งขนานกับสุขุมวิทและตัดกันตรงหัวถนนและท้ายถนน เชื่อมถนนพัทยาเหนือ กลาง ใต้ สามเส้นเข้าด้วยกันอีกที แต่ถนนพัทยาสาย 1 และสาย 2 จะบังคับเดินรถทางเดียว โดยสาย 1 จะบังคับวิ่งจากพัทยาเหนือเข้าหาถนนพัทยากลาง ส่วนถนนพัทยาสาย 2 ที่ผ่านหน้าโครงการ Centric Sea Pattaya จะวิ่งจากพัทยากลางเข้าหาถนนพัทยาเหนือและวงเวียนโลมาค่ะ การเดินทางจะต้องวน Loop กันซักหน่อย แต่ก็สามารถเลี้ยวตัดเข้าซอย 6/1 หรือซอย 4 ไปออกถนนพัทยาสาย 1 ได้เป็นระยะๆ ค่ะ (เส้นสีชมพู)
ทีนี้มาดูรอบโครงการกันบ้าง เริ่มจากฝั่งตรงข้ามโครงการเป็นที่ดินเปล่ารอการพัฒนา (หมายเลข 1) ซึ่งมีขนาดใหญ่พอที่จะเป็นอาคารสูงได้ และถ้าเป็นจริงก็จะบังวิวจากคอนโด Centric Sea Pattaya ไปบางส่วน ถัดจากที่ดินเปล่าเป็นโรงแรม Twins Palms Resort (หมายเลข 2) ส่วนด้านข้างโครงการจะติดกับที่ดินเปล่าของบริษัทในเครือ SC ASSET (หมายเลข 3) มี 7-eleven อยู่ด้านหน้าติดถนน ส่วนอีกฝั่งนึงเป็นโรงแรม Grand Sole สูงประมาณ 11 ชั้น ซึ่งก็จะบังวิวของอาคาร A ฝั่งด้านทิศตะวันตกไปถึงชั้น 18 ค่ะ (หมายเลข 4) ถัดมาจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 1-2 ชั้น (หมายเลข 5) ฝั่งตรงข้ามเป็นลานว่างให้เช่าจัดกิจกรรมต่างๆ เช่น Pattaya Music Festival (หมายเลข 6) เดินไปอีกจะเป็นที่ดินของเบียร์สิงห์ เป็นกลุ่มอาคารสูง 1 ชั้น ทิ้งร้างไว้ไม่ได้ใช้งาน (หมายเลข 7) และถัดไปเป็นอาคารพาณิช์ มี 7-eleven และธนาคารกรุงเทพฯ อยู่ปากซอยพัทยาสาย 2 ซอย 4 ตรงข้ามกับโรงแรม Hotel Tropicana Pattaya แต่บริเวณติดถนนจะเป็นร้านค้าริมทาง (หมายเลข 8) ดูคึกคักค่ะ
ฝั่งตรงข้ามโครงการนอกจากโรงแรม Twins Palms Resort (หมายเลข 2) แล้วยังมีอีกหลายโรงแรมค่ะ เช่น Hard Rock Pattaya ซึ่งเราสามารถเดินทะลุโรงแรมไปออกขายหาดได้ค่ะ (หมายเลข 9) และติดๆ กันเป็นโรงแรม Basaya Beach Hotel & Resort (หมายเลข 10)
สภาพแวดล้อมรอบคอนโด
พาไปเดินเล่นรอบๆก่อนเข้าสำนักงานขายค่ะ
เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ
เข้ามาที่สำนักงานขายกันเลยค่ะ
มองเข้าหาโครงการ อาคารสีขาวเป็นโรงแรม Grand Sole hotel ส่วนอาคารสีเทาสูงขึ้นไป เป็นอาคาร A ของคอนโดเซ็นทริค ซี พัทยาค่ะ
ด้านหน้าสำนักงานขายมีหมีบริคสีขาวตัวใหญ่คอยต้อนรับ และป้าย WE LOVE PATTAYA สีสันสดใส
ทางเท้าด้านหน้าโครงการกว้างขวางและอยู่ในสภาพดีค่ะ แต่เลยจากโครงการไปแล้วความกว้างของทางเท้าจะแคบลง
ถนนทางเข้าด้านหน้าโครงการ มีรถกอล์ฟคอยบริการลูกบ้านเข้าไปด้านในค่ะ
ส่วนตัวสำนักงานขายสามารถขับรถเข้าไปจอดด้านในได้
เข้ามาในสำนักงานขายจะมีโมเดลตัวอย่างให้ดู
มีรูปของวิวในชั้นต่างๆ สามารถมาเลือกห้อง จองห้องกันได้ และมีห้องตัวอย่างให้ดูกันสองแบบ คือห้องแบบ A และแบบ C ค่ะ
ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง
ที่ดินของโครงการจะอยู่ด้านหลังโรงแรม Grand Sole โดยทางเข้าจะอยู่ด้านข้างและไปบานออกเป็นที่ดินผืนใหญ่ด้านใน ประกอบไปด้วย 3 อาคาร เป็นอาคาร A สูง 44 ชั้น เป็นอาคารที่สูงที่สุด แต่มีพื้นที่ต่อชั้นไม่เยอะ ทำให้มีจำนวนห้องต่อชั้นน้อยไปด้วย หันด้านแคบเข้าหาชายหาด ส่วนอาคาร B จะอยู่ถัดเข้าไปด้านใน สูง 32 ชั้น หันด้านยาวเข้าหาชายหาด มีจำนวนห้องที่หันไปหาทะเลมากกว่า ส่วนอาคาร C จะอยู่ในสุดของที่ดิน ไม่เน้นวิว เพราะเป็นอาคาร Low Rise สูง 7 ชั้น
เนื่องจากเป็นคอนโดใกล้ทะเล ห้องพักที่ได้วิวทะเลก็จะมีราคาแพงกว่าเป็นธรรมดา อาคาร A จะเสียดายชั้นล่างด้านหน้า เพราะมีโรงแรมแกรนด์ โซเล่ บังวิวอยู่ ถ้าอยากได้วิวก็ต้องซื้อชั้น 19 ขึ้นไป หรือด้านทิศใต้ก็น่าสนใจเพราะเห็นทั้งหาดทั้งตัวเมือง ส่วนด้านอื่นๆ นั้นยังไม่มีอาคารสูงมาบังวิว เพราะยังเป็นที่ดินเปล่าจะมีที่ดินฝั่งตรงข้ามถนน, ที่ดินด้านข้างฝั่งทิศใต้ ส่วนที่ดินเปล่าฝั่งทิศเหนือ และด้านทิศตะวันออกหรือด้านหลังนั้น เป็นที่ดินเปล่าแต่อยู่ในซอย ไม่น่าจะสร้างเป็นอาคารสูงได้ค่ะ
สำหรับอาคาร B ห้องที่อยู่ทางทิศตะวันตกและทิศเหนือจะได้วิวทะเล ส่วนอาคาร C นั้นเป็นอาคารเตี้ย ไม่เน้นวิวมากมายนัก มีทิศตะวันออกบางส่วนที่จะเจอโรงแรม March Hotel Pattaya ที่มีความสูงพอๆกันบังวิวอยู่ ส่วนด้านอื่นๆ มองไปก็ติดอาคาร A, B กันเอง เหมาะกับคนที่ชอบสงบๆ ค่ะ เพราะถ้าจะไปชมวิว พักผ่อนชั้นบนของตึก A, B ก็สามารถไปได้ ถือเป็นข้อดีของโครงการนี้ ที่มีส่วนกลางในทุกอาคาร แถมยังไปใช้ของอาคารอื่นได้ด้วย
.
เริ่มจากวิวฝั่งด้านทิศตะวันตก แม้จะร้อนแต่ก็มองเห็นวิวทะเลได้เต็มที่ค่ะ เวลามีกิจกรรมที่ลานกว้างก็สามารถมองเห็นได้จากคอนโด
วิวทิศตะวันตกเห็นทะเลชัดเจนค่ะ ไม่มีอาคารสูงมาบังวิวเลย เพราะโครงการนี้สูงที่สุดในถนนพัทยาสาย 2 ในตอนนี้
โรงแรม Hard Rock Pattaya ติดกับโรงแรม Imperial Pattaya, Basaya Beach Hotel & Resort ค่ะ
และนี่ค่ะ โรงแรม Grand Sole ด้านหน้าโครงการ
ที่ดินเปล่าทางด้านทิศใต้ เป็นที่ดินของบริษัทในเครือ SC ASSET
จากตัวอาคาร A มองลงไปด้านทิศตะวันออก หรือด้านหลังโครงการ จะเห็นซอยพัทยากลาง 16 และโรงแรม March Hotel Pattaya อยู่ทางขวามือ อาคารสีเหลืองๆ ค่ะ จะเป็นอาคารที่บังวิวอาคาร C บางห้อง
วิวทิศตะวันออกจากอาคาร B มองไปทางด้านหลังโครงการค่ะ
ด้านทิศเหนือค่ะ มองไปทางวงเวียนโลมา และถนนพัทยาเหนือ เห็นอาคารและโรงแรมมากมาย มองเห็นทะเลได้บ้างทางซ้ายมือ
ทิศทางแดด ฝั่งไหนร้อน? ฝั่งไหนร่ม?
สำหรับโครงการ Centric Sea Pattaya ความร้อนมาพร้อมกับวิวสวยค่ะ ทิศตะวันตกที่ร้อนนั้น จะมองเห็นวิวทะเลได้สวย ส่วนทิศเหนือและทิศตะวันออกจะได้วิวมองเข้าตัวเมืองพัทยาค่ะ ถ้าใช้เป็นคอนโดสำหรับพักตากอากาศ ที่นานทีมาพักผ่อนไม่กี่วัน ก็ไม่ใช่เรื่องสำคัญค่ะ แต่ถ้าใครต้องการซื้ออยู่อาศัยลงหลักปักฐานที่นี่ ก็คงต้องชั่งน้ำหนักเรื่องวิวและความร้อนจากแดดเอานะคะ
ส่องโมเดลและอาคารจริง
แวะมาดูคอนโดกันก่อนเข้าไปดูอาคารจริง ตัวสถาปัตยกรรมจะเส้นสีเทาอ่อนกับเทาเข้มสลับสีกัน ชั้นสระว่ายน้ำและห้อง Lounge ของอาคาร A และ B จะจัดไว้อยู่ชั้นบนสุด
อาคาร B ทางซ้าย และอาคาร A อยู่ทางขวา สูงกว่าค่ะ หน้าตาของอาคารเหมือนกัน นอกจากจะใช้สีสลับกันแล้ว ยังมีฟินเป็นกรอบออกมา เพื่อให้ด้านยาวของอาคาร B ไม่ดูเป็นแผงค่ะ
แต่อาคาร C จะทาสีน้ำตาลอ่อน แต่ยังคงเล่นสีสลับเหมือนกัน
ซุ้มทางเข้าด้านหน้าโครงการ เป็นทรงสี่เหลี่ยม ลูกเล่นไม่เยอะ สไตล์โมเดิร์น เข้ากับตัวอาคารค่ะ
ที่จอดรถของอาคาร A และ B อยู่ที่ชั้น 1 และ 2 ค่ะ ผนังชั้นจอดรถเล่นสีเทาอ่อน เทาเข้มเหมือนตัวอาคาร
อาคาร C จะจอดรถได้ 3 ชั้น ชั้นพักอาศัยจะเริ่มจากชั้น 4 ขึ้นไป
ตัวอาคาร C จะเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวๆ ชั้น 1-3 ที่เป็นชั้นจอดรถจะจอดได้ยาวตลอดตัวอาคาร มีทางขึ้นอาคาร 2 จุด พอขึ้นมาชั้น 4 ที่เป็นชั้น Lobby และห้องพักชั้นแรก จะแยกออกเป็น 2 Tower มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง
รอบๆ โครงการปลูกต้นไม้ไว้ริมรั้วค่ะ
และหลังสุดโครงการด้านหลังอาคาร C จะเป็นสวนพักผ่อนยาวไปตลอดแนวอาคารค่ะ
มาดูภาพอาคารจริงกันบ้างค่ะ งานก่อสร้างทำออกมาได้ดีค่ะ สะอาดเรียบร้อย และน่าใช้ ผนัง Precast เซาะร่อง ทาสี ระเบียงของห้องทาสีดำ
อาคาร A, B ใช้ทาสีสลับบริเวณมุมอาคาร เพื่อให้อาคารดูมีลูกเล่น โทนสีน้ำเงินกรมท่าสีเข้ม สีอ่อน สีเทาและสีขาว
ยอดอาคาร A ส่วนด้านหลังอาคารค่ะ
ยอดอาคาร B ใช้โครงการสร้างตกแต่ง เพิ่มเส้นลายให้กับยอดอาคาร ทำให้พื้นที่ดูมีงานดีไซน์
อาคาร A ชั้นพักอาศัยค่ะ กรอบหน้าต่างสีขาวตัดกับสีของอาคาร งานเรียบร้อยดี วิวนี้มองจากอาคาร B ไปทางทิศใต้ค่ะ จะเจออาคาร A บังวิวไปครึ่งนึง
ชั้นพักอาศัยของอาคาร B หน้าตาเหมือนกับอาคาร A ค่ะ ทุกหน้าต่างจะมีบัวกันน้ำไหลย้อนไว้ให้
ส่วนอาคาร C จะทาสีแตกต่างจากเพื่อนค่ะ คุมโทนสีน้ำตาล แต่ชุดหน้าต่างและระเบียงเหมือนกัน เล่นลูกเล่นกับการยื่นห้องพักบางห้องออกมาจากตัวอาคาร ให้รูปด้านสวยขึ้น
พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร
อาคาร A
อาคาร A สูง 44 ชั้น มี Lobby และร้านค้าอยู่ชั้นที่ 1 จอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-2 ที่ชั้น 3 และชั้น 42 จะพิเศษตรงที่มีสวนหย่อมด้วย และชั้นบนสุดชั้น 44 มีสระว่ายน้ำ, ที่นั่งเล่นชมวิว เดินบันไดต่อขึ้นไปชั้นบน มีห้องฟิตเนสและ Sky Lounge ค่ะ
ลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้น มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ต่อ 451 ยูนิต สัดส่วนเฉลี่ยออกมาได้ 150 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง มีที่จอดรถ 54 คัน ต่อ 451 ยูนิต นับเป็น 12% ของยูนิตในอาคาร A เอง การจอดรถคงไม่พอ ต้องไปจอดที่อาคาร C ค่ะ
เริ่มกันตั้งแต่ทางเข้าโครงการเลย ซุ้มด้านหน้าไม่มีรั้วเป็นแต่เป็นไม้กระดก มียามตลอด 24 ชั่วโมง ลูกบ้านจะได้ Key Card เข้าออกโครงการ มีทางเดินเท้าอยู่ริมรั้วทางขวามือค่ะ
ผ่านป้อมยามเข้ามาเป็นทางหลักเข้าโครงการ เป็นถนนสองเลนขับสวนกัน มีสวนโล่งๆ อยู่ทางขวามือยาวตลอดทางเดินเท้าค่ะ
มุมมองจากด้านใน แยกทางเข้าออกรถ
เดินเข้ามาไม่นานจะถึงด้านหน้าอาคาร A เลี้ยวซ้ายเข้าที่จอดรถ ตรงเข้าไปจะไปเข้าอาคาร C, อาคาร B
ทางโครงการเตรียมที่จอดรถมอเตอร์ไซค์ และมีหลังคาไว้ให้เรียบร้อย อยู่บริเวณด้านหน้าอาคาร C
กลับมาที่อาคาร A ต่อค่ะ มี Drop Off จอดรับส่งคนด้านหน้า ตัวอาคารยกระดับขึ้นไป มีทั้งบันไดและทางลาดค่ะ
ประตูเข้าตัวอาคาร ดูหรูหราดีทีเดียว หน้าตาของประตู Main ก็จะมีหน้าตาแบบนี้ทั้งโครงการค่ะ
บรรยากาศโถงด้านใน ไม่ได้ดูแกรนด์มากนัก เพราะไม่ได้ทำ Double Volumn แต่ก็ตกแต่งออกมาได้ดูดีค่ะ ไม่ได้เน้นแนวหรูหราอลังการแต่มาในแนวอบอุ่น ดูสบายๆ มากกว่า มีชุดโซฟาให้อยู่ 3 ชุด
และมีตู้รับจดหมายอยู่ข้างเคาน์เตอร์ค่ะ
ก่อนเข้าไปที่โถงลิฟต์ต้องใช้ Key Card เพื่อเปิดประตูเข้าไป
เข้ามาในโถงลิฟต์ค่ะ อาคาร A มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว และลิฟต์บริการ 1 ตัว ซึ่งลิฟต์บริการจะเข้าอีกทางนึงใกล้ห้องจดหมายค่ะ
ภายในลิฟต์กว้างขวางดีค่ะ
ตอนจะกดลิฟต์ต้องสแกน Key Card ก่อนกดชั้นที่ต้องการ ปุ่มกดมีอักษรเบลให้ด้วยค่ะ
ชั้น 3 จะมีพื้นที่สวน อยู่เหนือชั้นจอดรถนั่นเอง สวนเป็นรูปตัว L ขนาดกว้างขวางดีค่ะ มีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีทั้งส่วนกลางแจ้งและในร่มให้นั่งพักผ่อนกัน แต่ห้องทางทิศเหนือและทิศตะวันออกในชั้นนี้จะขาดความเป็นส่วนตัวหน่อยค่ะ เพราะห้องจะติดกับสวนพอดี มีแค่แนวพุ่มไม้กั้นระหว่างระเบียงกับสวนเท่านั้น
ลึกเข้ามาในสวนเป็นสนามหญ้า มีศาลาหลบร้อนให้นั่งพัก และเงาของอาคารช่วยบังแดดได้บ้างค่ะ
นอกจากนี้ยังมีที่นั่งเป็นหลุมลงไป ให้ลงไปนั่งเล่นได้
และในที่สุดก็ขึ้นมาถึงชั้น 44 ที่เป็น Highlight ของที่นี่ ชั้นนี้มีสระว่ายน้ำ Sky Infinity Edge Swimming Pool มองเห็นทะเลสวยงามค่ะ แต่สระว่ายน้ำก็ไม่ได้ใหญ่มาก ถ้าจะว่ายจริงจังก็คงต้องหาเวลาที่คนน้อยๆ มาว่าย
เป็นสระว่าน้ำระบบเกลือ ขนาด 9 x 15 ม.
ตัวสระเป็นรูปตัว L มี Jacuzzi เป็นหลุมลงไปให้ลงไปนั่งได้ด้วยค่ะ
ตอนไปรีวิว ทีมงานเราก็อดทนอยู่กันจนเย็น เพื่อจะได้เห็นบรรยากาศตอนพระอาทิตย์ตกด้วย เห็นแล้วก็เป็นวิวที่คุ้มค่ากับการรอคอยทีเดียวค่ะ ช่วงตอนเย็นก็น่าชวนแฟนขึ้นมาดูพระอาทิตย์ตกทะเลด้วยกัน ถ้าเป็นฤดูท่องเที่ยวที่คนมาพักกันเยอะ ก็คงจะต้องใช้ความไวแย่งเก้าอี้กันหน่อยค่ะ เพราะวิวนั้นสวยเหมาะกับการชิลล์มากๆ
อ๊าาา…บรรยากาศดีจริงๆ ค่ะ ลมโกรกดีด้วย
และถ้าใครไม่อยากเล่นน้ำแต่อยากชมวิว ก็มี Sunken seat เป็นวงกลมอยู่ในสระน้ำให้นั่งเล่น ระเบียงจะทำจากกระจกทั้งหมด ไม่บดบังวิวทิวทัศน์
ตรงนี้เป็นที่นั่ง Sunken ลงไป มีสระน้ำเล็กๆ ล้อมรอบ บรรยากาศดีไม่แพ้ตรงสระว่ายน้ำ
ลงบันไดมาที่ด้านหลังอาคารเพื่อลงไปเข้าห้องน้ำ ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าค่ะ
ส่วนวิวด้านฝั่งทิศเหนือก็ได้บรรยากาศดีเช่นกัน ก็เพราะตึกมันสูงอะนะ เลยได้วิวดีกว่าเพื่อน
ก่อนเข้าห้องน้ำ และซาวน่า จะมีบ่อน้ำและผนังน้ำตกด้วย ทำให้ดูชุมชื่น
อีกฝั่งนึงเป็นเก้าอี้นั่ง ท่ามกลางพุ่มไม้
จากชั้นสระว่ายน้ำจะต้องเดินบันไดเพื่อขึ้นมาชั้นฟิตเนส และห้อง Sky Lounge ค่ะ ไม่มีลิฟต์ขึ้นมาถึงแล้ว แวะมาดูห้อง Sky Lounge กันก่อน บรรยากาศเหมือนห้องสมุดผสมกับห้องนั่งเล่นที่บ้าน ล้อบรอบไปด้วยกระจก มองเห็นวิวทะเล
บรรยากาศเหมาะแก่การยกโน็ตบุ๊คมานั่งทำงาน
และอีกห้องนึงเป็นห้องฟิตเนส หันหน้าไปทางทิศใต้ค่ะ ขนาดห้องปานกลาง มีเครื่องเล่นเยอะพอตัวเลย
อาคาร B
มาที่อาคาร B กันบ้าง โถงต้อนรับและห้องจดหมายจะอยู่ที่ชั้น 1 จอดรถได้ตั้งแต่ชั้น 1-2 มีสวนพักผ่อนที่ชั้น 3 และชั้น 28 สระว่ายน้ำจะอยู่ชั้น 32 ส่วนห้องฟิตเนสและ Sky Lounge จะต้องเดินบันไดขึ้นไปอีก 3 ชั้นค่ะ ซึ่งไม่สะดวกเท่าไหร่
ลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้น มีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว ต่อ 463 ยูนิต (มียูนิตมากกว่าอาคาร A) สัดส่วนเฉลี่ยออกมาได้ 154 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าอยู่ในระดับปานกลาง มีที่จอดรถ 84 คัน ต่อ 463 ยูนิต นับเป็น 18% ของยูนิตในอาคาร B เอง การจอดรถคงไม่พอเหมือนกับอาคาร A ต้องไปจอดที่อาคาร C ค่ะ
เวลาขับรถเข้าโครงการมาที่อาคาร B จะต้องขับมาจนสุดทางแล้วเลี้ยวซ้ายค่ะ อาคาร B จะอยู่ลึกเข้าไป
บรรยากาศที่โถงของอาคาร B ชั้น 1 ค่ะ มีพื้นที่ไม่เยอะมาก ด้านหลังเคาน์เตอร์เป็นห้องจดหมาย
มองกลับออกมาที่ประตูทางเข้า บรรยากาศในล็อบบี้ก็คล้ายๆ กับตึก A ที่เราพาไปดูกันมาเมื่อกี้ ตกแต่งมาบรรยากาศสบายๆ แนวอบอุ่น ไม่ใช่เป็นแนวหรูหราอลังการดาวล้านดวง
ชั้น 3 จะเป็นชั้นเหนือโพเดียมจอดรถ จึงจัดพื้นที่เป็นสวนและสระน้ำ มีทั้งสนามหญ้า ที่นั่งในสวน สระน้ำ และที่นั่งใต้ศาลาค่ะ
รูปนี้เป็นที่นั่งในสวน
จากสวนนี้มองไปเห็นสระว่ายน้ำชั้น 4 ของอาคาร C ด้วย
บ่อน้ำเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับพื้นที่
และสำหรับห้องที่อยู่ติดสวนก็จะเสียความเป็นส่วนตัวไปบ้างค่ะ เพราะไม่มีอะไรบังสายตาเลย มีแค่พุ่มไม้กั้นไม่ให้คนเดินไปถึงห้องเท่านั้น แต่ถ้าใครอยากได้ห้องติดสวน ใกล้ชิดธรรมชาติก็น่าจะต้องผ้าม่านแบบที่มีทั้งโปร่งและทึบ ส่วนม่านทึบนั้นก็เอาไว้ปิดเวลาต้องการความเป็นส่วนตัวค่ะ
จะมาที่สระว่ายน้ำจะต้องเดินบันไดขึ้นมาค่ะ จากในภาพพื้นที่ตรงกลางด้านในเป็นสวนที่เราไปดูมาเมื่อกี้ ขวามือเป็นทางออกจากโถงลิฟต์ ส่วนซ้ายมือจะเป็นห้องน้ำ, ห้องอาบน้ำและห้องซาวน่าค่ะ ฝ้าบริเวณนี้ยกสูง เป็นช่องลมทำให้ลมพัดได้ดี และดูโล่งโปร่ง
ภายในห้องน้ำและห้องซาวน่าแยกชายหญิงค่ะ มีตู้ล็อคเกอร์ไว้เก็บของให้ด้วย
ทางขึ้นมาชั้นสระว่ายน้ำ ชั้นบนที่เห็นเป็นกระจกนั้นเป็นห้อง Sky Lounge และห้องฟิตเนสค่ะ
สระว่ายน้ำชั้น 32 มีทางเดินตรงกลาง แล้วแบ่งสระออกเป็น 2 ฝั่งค่ะ ด้านหลังจะเป็นสระตื้นๆ มีหลุมลงไปนั่งเล่นได้ตรงกลาง
ส่วนด้านหน้าอาคาร ที่หันหน้าเข้าหาทะเลจะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ ขนาด 5 x 20 เมตร เหมาะกับการว่ายสโตรกกว่ากว่าสะว่ายน้ำของอาคาร A ถ้ามองจากสระไปทางทิศใต้จะเจออาคาร A บังวิวกันเองไปบางส่วน
ภาพสระว่ายน้ำจากมุมสูงค่ะ บรรยากาศดีค่ะ เพราะมีโครงสร้างตกแต่งยอดอาคารอยู่เหนือสระว่ายน้ำ ทำให้สเปซดูมีลูกเล่น
บริเวณสระว่ายน้ำจะเน้นวิวไปทางทะเล ด้านทิศตะวันตกและทิศตะวันออกเป็นหลักค่ะ เพราะทางทิศเหนือจัดเป็นสวนและปลูกต้นไม้ไว้
รวมๆ แล้วพื้นที่บริเวณสระของอาคาร B ใหญ่กว่าอาคาร A ค่ะ เน้นวิวทางด้านทะเลและวิวในเมืองทิศตะวันออก ส่วนอาคาร A จะมองเห็นวิวได้รอบมากกว่า
ต่อจากชั้นสระว่ายน้ำจะขึ้นมาที่ Sky Lounge ต้องเดินขึ้นบันไดหนีไฟขึ้นมาถึง 3 ชั้น ไม่ค่อยสะดวกสบายเท่าไหร่ค่ะ แต่พอขึ้นมาแล้วก็หายเหนื่อย เป็นห้องนั่งเล่นพักผ่อนล้อบรอบด้วยกระจก ได้วิวทะเล และกว้างขวางกว่าอาคาร A
ส่วนด้านหลังอีกฝั่งจะเป็นห้องฟิตเนส ได้วิวในตัวเมืองไป แต่ในชั้นนี้ไม่มีห้องน้ำค่ะ ต้องลงบันไดหนีไฟไปอีก 1 ชั้น
อาคาร C
มาถึงอาคารสุดท้ายกันแล้ว ที่อาคาร C จะมีจอดรถได้ 3 ชั้น จอดได้ 163 คัน จอดได้มากกว่าอาคาร A, B ที่จอดได้ 2 ชั้น แต่อาคาร C ไม่มี Lobby ที่ชั้นล่างค่ะ ห้อง Lobby จะอยู่ที่ชั้น 4 ตรงกลางอาคาร ใกล้กับสระว่ายน้ำ และเนื่องจากตัวอาคาร C เป็นแนวยาวและมี 2 Tower จึงมีโถงลิฟต์อยู่หัวท้ายของอาคารเพื่อขึ้นมาที่ชั้น 4 ก่อน แล้วถึงจะขึ้นลิฟต์ต่อไปชั้นของตัวเองได้
สวนพักผ่อนของอาคาร C จะมีที่ชั้น 1 ซึ่งมีขนาดใหญ่สุดในโครงการ สระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส และสวนหย่อมจะอยู่ที่ชั้น 4 ทั้งหมดค่ะ
ลิฟต์เป็นแบบล็อคชั้น มีลิฟต์โดยสาร 4 ตัว ต่อ 85 ยูนิต (รวม 2 Tower) และสัดส่วนเฉลี่ยออกมาได้ 21 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ถือว่าดีและเป็นส่วนตัวมากค่ะ ที่จอดรถ 163 คัน ต่อ 85 ยูนิต นับเป็น 192% ไม่รวมซ้อนคัน เพราะต้องการให้รถจากอาคาร A, B มาจอดด้วยนั่นเองค่ะ
ด้านหน้าอาคาร C มีที่จอดมอเตอร์ไซค์เป็นที่เป็นทาง ถ้าขับรถตรงเข้ามาจากทางเข้าจะเข้าอาคาร C เลยไม่ได้ค่ะ ต้องวนซ้ายไปก่อนเพราะตรงนี้เป็นทางออกของอาคาร C
บรรยากาศภายในลานจอดรถของอาคาร C
เดินทะลุที่จอดรถออกมาที่ด้านหลังสุดโครงการ จะจัดเป็นพื้นที่สวนเอาไว้
มีชานพักเป็นแบบกลางแจ้งไว้ด้วย แต่ไม่มีศาลาที่มีหลังคาให้ค่ะ อาจจะมาใช้ได้เฉพาะตอนเช้ากับตอนเย็น
ขึ้นลิฟต์มาที่ชั้น 4 แล้วจะเจอ Lobby ริมสระว่ายน้ำ
มีทั่งนั่งเป็นชุดโซฟาไว้ให้ เปิดวิวไปทางด้านหลังโครงการ ไปทางซอยพัทยากลาง 16
เดินออกมาที่สระว่ายน้ำ จะมีทางเดินตรงกลาง พร้อมที่นั่งพัก
ด้านหน้าที่หันไปทางอาคาร A, B จะเป็นสระว่ายน้ำ มีขนาดพอประมาณ
ส่วนด้านหลังจะทำเป็นสระน้ำตื้นๆ และผนังน้ำตก ทำผนังสูงมองไม่เห็นวิวค่ะ แต่ก็ดีแล้วเพราะอาคารก็ไม่สูงและไม่มีวิวอะไรให้มอง
จากสระว่ายน้ำจะเห็นอาคาร A, สวนชั้น 3 ของอาคาร B ค่ะ มองไม่เห็นทะเลแน่นอนอยู่แล้ว
หลังคาทำเป็นโครงสร้างคลุมไว้บางส่วน เหมือนเชื่อม 2 Tower ให้เป็นอาคารเดียวกัน บรรยากาศสงบดี มีน้ำตกมาให้บรรยากาศเพิ่มด้วย
เดินผ่านสระว่ายน้ำมาอีก Tower นึง ก็จะเป็นห้องฟิตเนส และห้องน้ำค่ะ
ที่ชั้น 4 จะมีประตูกั้นให้สแกนบัตรก่อนเข้าห้องพักอีกที ตู้จดหมายก็จะอยู่ที่ด้านหน้าโถงเลยค่ะ
เดินมาออกด้านหลังเป็นสวนพักผ่อน มีศาลาให้นั่งเล่นเหมือนกับอาคาร A, B
มีหลุมเป็นที่นั่งทรงสี่เหลี่ยมให้อีกเหมือนกับสวนส่วนอื่นๆ ส่วนห้องพักชั้นนี้ ระเบียงและหน้าต่างห้องติดกับสวนอีกเหมือนกัน แม้จะมีพุ่มไม้กั้นไว้ให้แล้ว แต่สำหรับตึกนี้ก็ไม่ห่วงเรื่องความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ค่ะ เพราะยูนิตไม่เยอะ
ไม่ว่าจะมองไปทางไหน วิวจากอาคาร C ก็จะเจอกับอาคาร A, B ตลอดค่ะ
เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan
Floor Plan คอนโด Centric Sea Pattaya
อาคาร A
ที่ชั้น 1 ของอาคาร A ด้านหน้าอาคารเป็น Drop-Off จอดส่งคนแล้ว สามารถขับตรงไปแล้ววนซ้ายรอบตัวอาคาร A เพื่อออกนอกโครงการได้ หรือจะเลี้ยวซ้ายเพื่อขึ้นไปจอดรถชั้น 2 เลยก็ได้ ส่วนถ้าจะจอดรถชั้น 1 ก็ต้องขับรถวนรอบอาคารเอาค่ะ เพราะที่จอดรถจะอยู่รอบอาคาร บริเวณ Drop-Off จะมีร้านค้าอยู่ 1 ยูนิตด้วย แต่ยังไม่ลงตัวว่าเป็นร้านอะไร เปิดประตูเข้าโถงต้อนรับไปแล้ว ถ้าตรงไปจะเป็นห้องจดหมาย, ห้องน้ำ มีประตูสำหรับเจ้าหน้าที่ไปยังลิฟต์บริการ และนิติบุคคล สามารถทะลุไปออกที่จอดรถได้ด้วย ส่วนโถงลิฟต์ขึ้นชั้นพักอาศัยจะอยู่ทางขวามือค่ะ
ชั้น 2 จะเป็นชั้นจอดรถอย่างเดียว ชั้น 3 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยชั้นแรก พร้อมกับมีสวนพักผ่อน มี 12 ยูนิตใน 1 ชั้น ส่วนใหญ่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน (Type A) ส่วน 2 ห้องนอน (Type B) จะมีแค่ 2 ห้องใน 1 ชั้นเท่านั้นค่ะ ทางเดินเป็นรูปตัว L มีหน้าต่างระบายอากาศที่ปลายทางเดิน
และตั้งแต่ชั้น 4 ถึงชั้น 7 หน้าตาและตำแหน่งห้องเหมือนกันค่ะ

แต่ขนาดของห้อง Type A บางห้องอาจจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ให้มีพื้นที่ยื่นออกมาจากอาคาร เพื่อเล่นกับรูปด้านของอาคารค่ะ จากปกติที่มีแค่ Type A2 ก็มีจะ Type A6 ขึ้นมาแทรกบ้าง

สำหรับชั้น 8 และชั้น 9 จะเป็นชั้นที่มีห้อง Service อยู่ด้วย ทำให้มีจำนวนห้องอยู่แค่ 10 ห้องใน 1 ชั้น

พอชั้น 10 – 18 ก็จะมีจำนวนยูนิตเหลือ 12 ยูนิตใน 1 ชั้นเหมือนเดิมค่ะ จะเริ่มมีห้อง Type C ตั้งแต่ชั้น 19 – 39 อาจว่าเป็นเพราะว่าเป็นชั้นที่อยู่สูงกว่าโรงแรม Grand Sole แล้ว จึงได้เพิ่มห้องขนาดใหญ่เข้ามา ทำให้เหลือ 11 ยูนิตใน 1 ชั้นค่ะ ส่วนห้อง Type B, Type A ก็ยังคงอยู่ในตำแหน่งเดิม
ที่ชั้น 40 จะมีสวนเพิ่มเข้ามาที่ด้านหลังของอาคาร เป็นสวนที่ออกแบบให้เป็นขึ้นบันได ตั้งแต่ชั้นนี้ขึ้นไปจะมีห้องแบบ 3 ห้องนอน Type C2 เพิ่มเข้ามาอีก 1 ห้อง ลดจำนวนห้อง Type A ไป 2 ห้อง จึงจะมีแต่ห้องแบบ 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอนเท่านั้นที่จะเห็นวิวทะเลค่ะ

ชั้น 41-43 ก็มีหน้าตาแปลนเหมือนกับชั้น 40 แต่ไม่มีสวนที่ด้านหลังค่ะ

บรรยากาศโถงลิฟต์ชั้นพักอาศัยของอาคาร A ทำความกว้างของทางเดินออกมาได้ดีค่ะ ไม่แคบจนเกินไป เดินแล้วรู้สึกสบาย
ถ้าหากเน้นวิวทะเลก็คงต้องเลือกห้องทางทิศตะวันตกหรือทิศใต้ ชั้น 15 ขึ้นไป ถ้าไม่สนวิวทะเลแต่สนใจเรื่องทำเลใจกลางเมืองพัทยา ใกล้ย่านโรงแรม และใกล้สิ่งอำนวยความสะดวกแล้ว ห้องทิศอื่นๆ ก็น่าสนใจค่ะ เพราะมีราคาถูกกว่า
Floor Plan คอนโด Centric Sea Pattaya
อาคาร B
อาคาร B ตัว tower จะเป็นรูปตัว L มีพื้นที่ต่อชั้นมากกว่าอาคาร A จึงมีจำนวนห้องมากกว่าค่ะ และจัดด้านขาตัว L ด้านยาวหันหน้าเข้าหาทะเล ทำให้มีจำนวนห้องที่ได้วิวทะเลมากกว่าของอาคาร A ค่ะ มีความสูงทั้งหมด 32 ชั้น ห้องพักเริ่มตั้งแต่ชั้น 3 ขึ้นไป
ดูจากกราฟิกด้านล่าง ด้านที่เห็นวิวทะเลจะเป็นทิศตะวันตกเฉียงใต้ (ด้านล่างของภาพ) ส่วนอาคาร C จะอยู่ด้านบน อาคาร A อยู่ทางขวามือ
ชั้น 1 จะมี Drop Off บริเวณด้านหน้าอาคาร B (อยู่ระหว่างอาคาร A, B) การขับรถวนรอบอาคาร B จะต้องขับวนขวามือ ส่วนอาคาร A จะขับวนซ้าย ที่จอดรถชั้น 1 สามารถจอดรอบอาคารได้บางส่วน แต่หลักๆ จะมี 2 ที่ ที่แรกจะใกล้กับ Drop Off สามารถวนเข้าไปแล้ววนออกได้ เพราะถนนเป็นตัว U แต่ที่จอดรถอีกส่วนเป็นปลายตัน ถ้าเข้าไปแล้วไม่มีที่จอดจะกลับรถออกมาได้ยากหน่อยค่ะ ส่วนทางขึ้นที่จอดรถของอาคาร B อยู่ทางทิศตะวันออก ระหว่างอาคาร B กับอาคาร C ดังนั้นตั้งแต่ขับรถเข้าโครงการมา ต้องวนรถเป็นเลข 8 เลยค่ะ
ชั้น 3 จะเป็นชั้นแรกที่มีห้องพักอาศัย และมีสวนพักผ่อน มีอยู่ 16 ยูนิตใน 1 ชั้น มีห้องครบทุกแบบ ตั้งแต่ 1 ห้องนอน (Type A), 2 ห้องนอน (Type B) และ 2 ห้องนอนใหญ่ (Type C1) ค่ะ ซึ่งห้องส่วนใหญ่เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอน ส่วนแบบ 2 ห้องนอนและแบบ 2 ห้องนอนใหญ่มีแค่แบบละ 1 ห้องในแต่ละชั้นเท่านั้น
Typical Floor Plan ตั้งแต่ชั้น 3 -14 หน้าตาแปลนและประเภทห้องอยู่ตำแหน่งเดิม มีทั้งหมด 17 ยูนิตในแต่ละชั้น จะมีแต่ห้องแบบ Type A ฝั่งทิศตะวันตก ที่มีการเพิ่มลดขนาดจากไซส์มาตราฐานบ้างนิดหน่อย เพื่อเล่นกับรูปด้านของอาคารค่ะ (เหมือนกับอาคาร A ด้านทิศใต้)
พอถึงชั้น 15-27 จะมีห้องแบบ 2 ห้องนอนใหญ่ Type C1 เพิ่มขึ้นมาอีก 1 ห้อง จึงมี 16 ยูนิตใน 1 ชั้น เพราะสูงพ้นโรงแรม Grand Sole มาแล้ว โดยห้องแบบ 2 ห้องนอนจะไม่ได้วิวทะเลเพราะหันไปทางทิศเหนือเข้าหาสวนแทน มีแต่แบบ 1 ห้องนอนทางทิศตะวันตก กับห้องแบบ 2 ห้องนอนใหญ่เท่านั้นที่ได้วิวทะเล
ชั้น 28 จะเริ่มลดจำนวนห้องพักลงเหลือ 13 ยูนิตใน 1 ชั้น ตัดห้องแบบ 2 ห้องนอนออกไป เหลือแค่ห้องแบบ 1 ห้องนอน Type A กับ 2 ห้องนอนใหญ่ Type C1
แต่พอขึ้นมาชั้น 29 – 31 จะมีครบทั้ง 3 แบบเหมือนเดิมค่ะ ซึ่งห้องแบบ 2 ห้องนอนยังคงมีแค่ 1 ห้องใน 1 ชั้น และยังไม่ได้วิวทะเลเช่นกัน มี 13 ยูนิตใน 1 ชั้น
Floor Plan คอนโด Centric Sea Pattaya
อาคาร C
อาคาร C อยู่ด้านหลังของอาคาร B ค่ะ ด้านล่างของภาพกราฟิกจะเป็นฝั่งทะเล ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนด้านบนของภาพเป็นด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือเป็นฝั่งทางถนนสุขุมวิทนะคะ
อาคาร C เป็นอาคาร Low Rise สูง 7 ชั้น ทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบยาว ชั้น 1 – 3 เป็นชั้นจอดรถ สามารถจอดรถได้มากกว่าอาคาร A, B ค่ะ มีทางขึ้นลิฟต์มาชั้น 4 ได้จาก 2 ตำแหน่งคนละฝั่งของอาคาร เนื่องจากชั้นบนจะมี 2 Tower แยกกันค่ะ
ชั้น 4 เป็นชั้นแรกที่เริ่มมีห้องพักอาศัย และมีส่วนกลางอยู่ตรงกลางระหว่าง 2 Tower มีห้องแบบ 1 ห้องนอน (Type A) และแบบ 2 ห้องนอน (Type B) ทั้ง 2 ฝั่ง โดย Tower ทางซ้ายมือจะมีขนาดพื้นที่รวมเล็กกว่าทางขวา จึงมีจำนวนยูนิตห้องน้อยกว่า ทางซ้ายชั้นนี้มีอยู่ 9 ยูนิตต่อชั้น ส่วน Tower ทางขวาจะมี 10 ยูนิตค่ะ
ขึ้นมาชั้น 5-7 จะมีห้องแบบ 2 ห้องนอน เพิ่มขึ้นมาฝั่งละ 1 ห้อง ทำให้ tower ทางด้านซ้ายจะมี 10 ยูนิต ส่วนฝั่งขวาจะมียูนิตมากกว่าอยู่ที่ 12 ยูนิตใน 1 ชั้นค่ะ ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน ทางทิศตะวันตกที่หันเข้าหาอาคาร A, B ในบางชั้นจะปรับขนาดห้องเล็กน้อยให้มีพื้นที่ยื่นออกมาจากตัวอาคาร เพื่อเล่นกับดีไซน์รูปด้านของอาคารเมื่อมองจากภายนอก เหมือนอาคาร A, B ค่ะ แต่โดยภาพรวมแล้วจำนวนห้องและยูนิตจะเหมือนกันทุกชั้น
หลังจากดูมาทั้ง 3 อาคาร จะเห็นว่าห้องในแต่ละอาคารก็มีลักษณะที่แตกต่างกันไปนะคะ อาคาร A และ B จะได้มุมมองและ exposure ที่ดีกว่า โดดเด่นกว่า เข้าถึงง่ายกว่า แต่จะมีที่จอดรถจำกัดทำให้บางครั้งอาจจะต้องมาจอดอาคาร C แล้วเดินไป ส่วนอาคาร C อยู่ลึกเข้ามาก็จะได้เรื่องของความสงบและเป็นส่วนตัวไปแทน
แปลนห้องดีไหม?
แปลนของคอนโด Centric Sea Pattaya นั้นมีอยู่ 3 แบบด้วยกัน ซึ่งส่วนมากจะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ และความแพงก็จะแปรผันไปตามวิวทะเล ยิ่งวิวสวยก็ยิ่งแพง, ยิ่งชั้นสูงๆ ก็จะยิ่งแพงค่ะ ก็ตามธรรมดาของคอนโดตากอากาศหล่ะค่ะ ส่วนอาคาร C ที่ไม่ค่อยเห็นวิวเลยนั้นก็จะมีราคาถูกกว่าเพื่อนเป็นเรื่องธรรมดา ใครงบน้อยก็ซื้ออาคาร C แล้วขึ้นไปชมวิวบนอาคาร A และ B ก็ไม่ได้ผิดอะไร
- 1 ห้องนอน (Type A) ขนาด 28.00 – 41.00 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน (Type B) ขนาด 57.00 – 79.00 ตารางเมตร
- 3 ห้องนอน (Type C) ขนาด 109 ตารางเมตร
แปลนห้องคอนโด Centric Sea Pattaya
แบบ 1 ห้องนอน Type A2 ขนาด 31.20 – 32.10 ตารางเมตร
แปลนห้อง 1 ห้องนอน Type A2 จะเกือบเป็นสี่เหลี่ยมจตุรัสค่ะ พื้นที่ pantry ครัวและห้องนั่งเล่นจะอยู่ในพื้นที่เดียวกัน ทั้งตู้เย็นและเครื่องซักผ้าอยู่ตั้งแต่ทางเข้าหน้าห้องเลย ต่อจากเคาน์เตอร์จะเป็นโต๊ะรับประทานอาหารที่สามารถพับเก็บได้ นั่งกินกันได้ 2 คน ถ้าเป็นคอนโดที่ซื้อได้เพื่อมาพักผ่อน ส่วนครัวและโต๊ะรับประทานอาหารก็ไม่สำคัญเท่าไหร่ แต่ถ้าอยู่อาศัยประจำจริงๆ ใช้ครัวเยอะขึ้นก็เอาสามารถใช้โต๊ะนี้เหมือนเป็นเคาน์เตอร์ครัวไปด้วยเลยก็ได้เพราะตำแหน่งวางอยู่ต่อเนื่องกัน
พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ติดระเบียง และให้ระเบียงมายาวดี ซึ่งก็สมควรค่ะเพราะโครงการได้วิวทะเลแบบนี้ต้องเน้นวิว ห้องนอนสามารถเปิดประตูบานเลื่อนได้กว้าง 3 ตอนค่ะ ทำให้ห้องโล่งขึ้นมาก ส่วนห้องน้ำจะต้องเข้าจากห้องนอน ซึ่งก็ให้ขนาดมากว้างขวางค่ะ ใช้งานได้สบายๆ เลย แต่ส่วนอาบน้ำจะเป็นประตูบานเลื่อนเข้ามุม ฝรั่งที่ตัวใหญ่ๆ อาจจะเข้าไปอาบน้ำลำบากหน่อย
แปลนห้องคอนโด Centric Sea Pattaya
แบบ 2 ห้องนอน Type ฺB2-01 57.50 ตารางเมตร ขนาด 57.50 ตารางเมตร
Type B จะได้ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ พื้นที่ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่นั่งเล่น, โต๊ะรับประทานอาหาร และพื้นที่ครัว อยู่รวมกันในห้องใหญ่ ครัวจะได้เป็นครัวเปิดเช่นเดียวกับ 1 ห้องนอน พื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง มีทางเดินเข้าไปยังห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก แต่ละห้องจะติดหน้าต่างมองเห็นวิวได้หมด โดยเฉพาะห้องใหญ่จะได้กระจกเข้ามุม เพราะห้อง Type B จะจัดเอาไว้ตามมุมอาคารค่ะ ห้องน้ำจะเข้าได้จากทางเดิน แต่ห้องนอนใหญ่ไม่มีห้องน้ำในตัว ต้องออกมาใช้ข้างนอก ที่น่าสนใจคือมีห้องน้ำที่มีโถสุขภัณฑ์แยก 2 ฝั่ง แบ่งออกเป็น 2 ห้องชัดเจน สามารถใช้งานได้พร้อมกันทั้ง 2 คนเลยสะดวกดี แบบนี้มีข้อติหน่อยก็ต้องมุมมองการดูทีวีในห้องนอนเล็กค่ะ ห้องนอนเล็กจัดเฟอร์นิเจอร์ออกมาแล้วดูแปลกๆ อยู่บ้าง
แปลนห้องคอนโด Centric Sea Pattaya
แบบ 2 ห้องนอน Type C1-01 ขนาด 63.70 ตารางเมตร
ห้องแบบ 2 ห้องนอนใหญ่ Type C นั้น จะมีอยู่แค่ในอาคาร A, B เท่านั้น ไม่มีในอาคาร C ค่ะ และแต่ละห้องนั้นจะถูกจัดให้อยู่ในตำแหน่งที่เห็นวิวทะเลได้อยู่แล้ว จัดเป็นห้องใหญ่ที่เป็นตัวชูโรงสำหรับโครงการ ตัวห้องจะต่างจาก Type B ตรงที่ครัวจะได้เป็นแบบปิด มีผนังกระจกเข้ามุมให้ด้วย และจะได้อ่างอาบน้ำวางไว้ติดกับริมห้องมองเห็นวิวด้านนอกได้ค่ะ ลำดับเข้าถึงก็ไม่ต่างกันมาก ส่วนแรกเป็นห้องนั่งเล่นอยู่รวมกับพื้นที่รับประทานอาหาร นั่งเล่นติดระเบียง มีทางเดินเข้าไปยังห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็ก ระยะดูทีวีของห้องนั่งเล่นนั้นกว้างมาก ดูแล้วสบายๆ ไม่อึดอัด ส่วนห้องนอนใหญ่ได้กระจกเข้ามุม มีห้องน้ำในตัว แอบเสียดายที่ตำแหน่งห้องนอนใหญ่นี้ติดกับโครงสร้างผนังรับน้ำหนักของอาคาร ทำให้มีห้องหน้าต่างได้ไม่มากนัก ส่วนห้องนอนเล็กก็ติดกระจกเหมือนกันแต่เป็นอีกทิศนึง ห้องนอนเล็กของแบบนี้สามารถวางเตียง Queen size ได้สบายๆ และยังเหลือที่อีกด้วยค่ะ
ห้องตัวอย่างมีให้ดูแบบ 1 ห้องนอน Type A3 ขนาด 34.70 ตารางเมตร และห้องแบบ 2 ห้องนอน Type C2 ขนาด 66.10 ตารางเมตร ห้องในแต่ละอาคารจะมีความแตกต่างกันไม่มากนักค่ะ เดือนมีนาคม 2559 ที่ได้ไปรีวิวนั้น ห้องได้ถูกจองไปประมาณ 70% แล้ว ความสูงของฝ้าเพดานในห้องทั่วๆไปสูง 2.60 เมตร ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Fully Furnished ได้เฟอร์นิเจอร์ครบถ้วนค่ะ
ห้องตัวอย่างคอนโด Centric Sea Pattaya
แบบ 1 ห้องนอน Type A3 ขนาด 34.70 ตารางเมตร
เริ่มกันที่ 1 ห้องนอน ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการกันค่ะ เปิดประตูเข้าห้องมาแล้ว พื้นที่ส่วนแรกจะเป็นครัว ลึกเข้าไปเป็นพื้นที่นั่งเล่น ติดระเบียง ห้องฝั่งทิศตะวันตกและทิศใต้ที่มองเห็นทะเล อาจจะต้องติดม่านกันสักหน่อยค่ะ เพราะแดดมันจ้ามาก
หลังโซฟาเป็นประตูบานเลื่อนเปิดได้ 3 ตอน สามารถเปิดโล่ง เชื่อมพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนได้ ห้องดูกว้างขึ้นมากค่ะ แต่ประตูบานเลื่อนไม่ได้สูงชนฝ้านะคะ สูงเท่าประตูทั่วไป
ประตูจะเปิดไปพับกันไว้ที่ด้านหลังของโซฟาพอดี พื้นที่ในห้องนอน ใหญ่พอสมควรเลยค่ะ
มองกลับไปที่ทางเข้า ความกว้างของห้องไม่แคบจนเกินไป
ห้องนี้ให้ชุดโต๊ะและเก้าอี้มาแค่ 2 ที่นั่งค่ะ เพราะพื้นที่ห้องไม่มาก ติดกระจกแบบห้องตัวอย่างจะช่วยให้ห้องดูโล่งขึ้นค่ะ
พื้นที่ระเบียงข้างโซฟานั่งเล่น มีความกว้างประมาณ 80 เซนติเมตร ยาว ประมาณ 2เมตร พอเอาชุดเก้าอี้เล็กๆไป นั่งชมวิวได้ค่ะ แต่โครงการนี้ไม่อนุญาตให้ตากผ้าเยอะที่ระเบียงนะคะ เพื่อความสวยงามของอาคารค่ะ
เข้ามาดูในห้องนอนกันบ้าง สามารถวางเตียงใหญ่ได้เลยค่ะ มีชุดเก้าอี้นั่งติดหน้าต่างให้ด้วย ทั้งเตียงและชุดโซฟาริมหน้าต่างสามารถเก็บของข้างใต้ได้นะคะ ช่วยประหยัดพื้นที่เก็บของได้มากเลย
พื้นที่รอบเตียงไม่แคบจนเกินไป สามารถเดินได้รอบค่ะ ส่วนห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนใกล้กับตู้เสื้อผ้าค่ะ
ห้องน้ำนั้นให้ขนาดห้องมากว้างขวางค่ะ กระเบื้องสีขาว ตกแต่งโมเสกสีขาวดำ ทำออกมาได้ดี
แบ่งส่วนแห้งส่วนเปียกชัดเจน
ห้องตัวอย่างคอนโด Centric Sea Pattaya
แบบ 2 ห้องนอน Type C2 ขนาด 66.10 ตารางเมตร
สำหรับห้องแบบ 2 ห้องนอน จะไม่ได้เฟอร์นิเจอร์เหมือนในห้องตัวอย่างนะคะ ของจริงจะได้เป็นผนังฉาบเรียบ ทาสี ส่วนเฟอร์นิเจอร์ที่จะได้จริงๆ ให้ไปดูในหมวดวัสดุหัวข้อถัดไปค่ะ ในห้องตัวอย่างจะตกแต่งเพื่อเป็นไอเดียเท่านั้น โดยห้องที่ขายจริงจะเป็นแบบผนังฉาบเรียบ ทาสี และเฟอร์นิเจอร์เป็นแบบมาตราฐานตามแบบของโครงการค่ะ
พื้นที่ส่วนแรกของห้องจะเป็นพื้นที่รับประทานอาหาร และพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียงค่ะ ได้ห้องครัวแบบปิด
พื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง
ระเบียงกว้างประมาณ 1.1 เมตร สามารถเข้าชุดโต๊ะเก้าอี้ขนาดเล็กไปวางได้ค่ะ แต่คงนั่งได้แต่ตอนเช้าหรือตอนเย็น
ห้องครัวจะอยู่ทางขวามือ ทำกระจกเข้ามุมให้ด้วย แล้วก็จะมีทางเดินเข้าไปยังห้องนอนทั้งสองห้อง
ภายในห้องครัวค่ะ ได้เคาน์เตอร์ครัวแบบที่เห็น และเนื่องจากโครงการนี้เน้นให้ระเบียงโล่งๆ เพื่อความสวยงาม เลยเอาเครื่องซักผ้าไว้ในห้องครัว พื้นในห้องครัวปูกระเบื้องค่ะ ทำครัวได้สบายๆ
ประตูเข้าห้องครัวเป็นบานเลื่อนติดกับกระจกเข้ามุม
ห้องน้ำจะอยู่ฝั่งตรงข้ามกับห้องครัวค่ะ แบ่งพื้นที่แห้งเปียกชัดเจน
ห้องน้ำตกแต่งโทนสีขาว-ดำ สุขภัณฑ์หน้าตาเหมือนกันทุกห้องค่ะ
สุดทางจะเป็นห้องนอนใหญ่ ได้หน้าต่างเข้ามุมค่ะ แต่เสียดายน่าจะได้กระจกบานใหญ่ชนฝ้า
พื้นที่ให้ห้องนอนใหญ่กว้างขวางค่ะ จะเอาเตียงใหญ่กว่านี้มาก็ยังได้ มีพื้นทีรอบเตียงเดินได้สบายๆ
ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่อยู่ใกล้ประตูทางเข้าห้องนอนค่ะ ห้องน้ำห้องนี้แบ่งส่วนแห้งเปียกและใช้สุขภัณฑ์เหมือนห้องก่อนหน้า แต่มีอ่างอาบน้ำติดกระจกเข้ามุมอีกด้วย เพราะเป็นส่วนที่ยื่นออกไปนอกตัวอาคารค่ะ จะได้วิวดีพอสมควรเลย
ส่วนห้องนอนเล็ก ให้เตียงที่สามารถเลื่อนเตียงเสริมออกมาได้ เป็นห้องนอนติดหน้าต่างเหมือนกัน
พื้นที่ของห้องมีเหลือพอที่จะวางโต๊ะทำงานเข้าไปได้อีกค่ะ
จากห้องนอนเล็กมองกลับไปที่ห้องนั่งเล่น
เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”
โครงการเซ็นทริค ซี พัทยา จะให้ห้องพร้อม Fully Furnished ค่ะ ได้เคาน์เตอร์ครัว แถมตู้เย็น, ชั้นวางทีวี, โซฟา, เตียง, ชุดเก้าอี้เก็บของได้ข้างเตียง, ตู้เสื้อผ้า และสุขภัณฑ์ห้องน้ำค่ะ คุณภาพของเฟอร์นิเจอร์นิเจอร์แต่ละห้องเหมือนกัน สไตล์ธรรมดาไม่ได้หรูหรา เฟอร์นิเจอร์หลายชิ้นมีช่องเก็บของเพื่อประหยัดพื้นที่ คุณภาพโอเคค่ะ จากแบรนด์ Sb Furniture
อยู่สบายแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน คือ วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material) เพื่อให้ส่องกันง่ายๆเช่นเคยค่ะ
วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)
วัสดุห้องน้ำ
วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)
ราคา ณ วันที่ 1 เมษายน 2559
ราคาเริ่มต้น :
1 ห้องนอน อาคาร A (Sea View) ชั้น 36 พื้นที่ 35.45 ตร.ม. ราคา 4,097,000 บาท
เฉลี่ย 115,571 บาท/ตร.ม
2 ห้องนอน อาคาร A (City View) ชั้น 6 พื้นที่ 59.82 ตร.ม. ราคา 5,053,000 บาท
เฉลี่ย 84,470 บาท/ตร.ม.
1 ห้องนอน อาคาร B (City View) ชั้น 22 พื้นที่ 37.92 ตร.ม. ราคา 3,213,000 บาท
เฉลี่ย 84,731 บาท/ตร.ม
1 ห้องนอน อาคาร C ชั้น 5 พื้นที่ 35.29 ตร.ม. ราคา 3,064,000 บาท
เฉลี่ย 86,823 บาท/ตร.ม.
เงื่อนไขการจอง :
- เงินจอง
คนไทย 1 ห้องนอน จอง 10,000 บาท ทำสัญญา 50,000 บาท
คนไทย 2 ห้องนอน จอง 20,000 บาท ทำสัญญา 70,000 บาท
คนไทย 3 ห้องนอน จอง 100,000 บาท ทำสัญญา 200,000 บาท
ชาวต่างชาติ 1 ห้องนอน จอง 100,000 บาท ทำสัญญา 30%
ชาวต่างชาติ 2 ห้องนอน จอง 200,000 บาท ทำสัญญา 30%
- ผ่อนดาวน์
ไม่มีเพราะเป็นโครงการสร้างเสร็จแล้ว
ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :
ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม. (ชำระล่วงหน้า 1 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 550 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)
ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน)
(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคน ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น เช่น ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี
1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 36 พื้นที่ 35.45 ตร.ม. ราคา 4,097,000 บาท ผ่อนประมาณ 27,046 บาท/เดือน
2 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 6 พื้นที่ 59.82 ตร.ม. ราคา 5,053,000 บาท ผ่อนประมาณ 33,356 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 22 พื้นที่ 37.92 ตร.ม. ราคา 3,213,000 บาท ผ่อนประมาณ 21,210 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร C ชั้น 5 พื้นที่ 35.29 ตร.ม. ราคา 3,064,000 บาท ผ่อนประมาณ 20,227 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี
1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 36 พื้นที่ 35.45 ตร.ม. ราคา 4,097,000 บาท ผ่อนประมาณ 28,584 บาท/เดือน
2 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 6 พื้นที่ 59.82 ตร.ม. ราคา 5,053,000 บาท ผ่อนประมาณ 35,254 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 22 พื้นที่ 37.92 ตร.ม. ราคา 3,213,000 บาท ผ่อนประมาณ 22,417 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร C ชั้น 5 พื้นที่ 35.29 ตร.ม. ราคา 3,064,000 บาท ผ่อนประมาณ 21,377 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี
1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 36 พื้นที่ 35.45 ตร.ม. ราคา 4,097,000 บาท ผ่อนประมาณ 31,160 บาท/เดือน
2 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 6 พื้นที่ 59.82 ตร.ม. ราคา 5,053,000 บาท ผ่อนประมาณ 38,431 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 22 พื้นที่ 37.92 ตร.ม. ราคา 3,213,000 บาท ผ่อนประมาณ 24,437 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร C ชั้น 5 พื้นที่ 35.29 ตร.ม. ราคา 3,064,000 บาท ผ่อนประมาณ 23,304 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี
1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 36 พื้นที่ 35.45 ตร.ม. ราคา 4,097,000 บาท ผ่อนประมาณ 35,857 บาท/เดือน
2 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 6 พื้นที่ 59.82 ตร.ม. ราคา 5,053,000 บาท ผ่อนประมาณ 44,224 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 22 พื้นที่ 37.92 ตร.ม. ราคา 3,213,000 บาท ผ่อนประมาณ 28,120 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร C ชั้น 5 พื้นที่ 35.29 ตร.ม. ราคา 3,064,000 บาท ผ่อนประมาณ 26,816 บาท/เดือน
บนสมมติฐาน กู้ 95% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี
1 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 36 พื้นที่ 35.45 ตร.ม. ราคา 4,097,000 บาท ผ่อนประมาณ 45,914 บาท/เดือน
2 ห้องนอน อาคาร A ชั้น 6 พื้นที่ 59.82 ตร.ม. ราคา 5,053,000 บาท ผ่อนประมาณ 56,627 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร B ชั้น 22 พื้นที่ 37.92 ตร.ม. ราคา 3,213,000 บาท ผ่อนประมาณ 36,007 บาท/เดือน
1 ห้องนอน อาคาร C ชั้น 5 พื้นที่ 35.29 ตร.ม. ราคา 3,064,000 บาท ผ่อนประมาณ 34,337 บาท/เดือน
Overview Summary
ด้านการเดินทาง
ถนนใจกลางเมืองในพัทยานั้นต้องยอมรับในเรื่องรถติดมากทีเดียวค่ะ แต่โดยทำเลของ Centric Sea Pattaya นั้นก็ต้องจัดกว่าอยู่กลางเมืองทีเดียว การขับรถแล้วเจอรถติดนั้นเลี่ยงไม่ได้แน่นอน ถนนพัทยาสาย 2 หน้าโครงการนั้นเป็นวันเวย์จากพัทยากลางไปพัทยาเหนือ ในขณะที่พัทยาสาย 1 และสาย 3 นั้นเป็นทางรถวิ่งจากฝั่งพัทยาเหนือมาพัทยากลาง จริงๆ ที่ตั้งโครงการอยู่ใกล้ Central Festival Pattaya มา แต่จากทิศทางการเดินรถ เดินไปก็น่าจะสะดวกกว่าค่ะ อยู่ในระยะที่เดินได้
ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต
เมืองพัทยายังเป็นที่ชื่นชอบของนักท่องเที่ยวอยู่เสมอตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน เดิมทีก่อนหน้านี้สัก 2 ปี เราจะเห็นเศรษฐีรัสเซียที่นี่เยอะมาก ช่วงหลังเศษฐกิจของรัสเซียไม่ดีนัก นักท่องเที่ยวจากรัสเซียหายไปพอควร แต่ก็มีเศรษฐีจากจีนเข้ามาแทน ซึ่งก็เป็นกลุ่มลูกค้าที่กำลังจ่ายหนัก กระเป๋าหนักเช่นกัน เพราะฉะนั้นนอกจากการซื้ออยู่เองหรือใช้เป็นคอนโดตากอากาศแล้ว Centric Sea Pattaya ก็ยังใช้ในแง่ของการลงทุนได้เช่นกัน เพราะก็มีชาวต่างชาติให้ความสนใจกันพอสมควรเลยค่ะ
ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ
โครงการเซ็นทริค ซี พัทยาวางอาคารสูง 2 อาคารไว้ที่ด้านหน้าโครงการ เพื่อเน้นจุดขายเห็นวิวทะเลทางทิศตะวันตก ส่วนอาคาร C ที่เป็น Low Rise สูง 7 ชั้นจะอยู่ด้านหลังโครงการ ไม่เน้นวิว แต่จะได้ในเรื่องเป็นส่วนตัวกว่า อาคาร A จะได้เปรียบเรื่องวิวทะเลที่ได้จากทิศตะวันตกเฉียงใต้
คอนโดมิเนียม Centric Sea Pattaya ออกแบบเป็นสไตล์โมเดิร์น มีการยื่นห้องบางห้องออกมาจากตัวอาคาร เพื่อเล่นกับรูปด้าน ขอบอาคารทาสีสลับให้ไม่น่าเบื่อ ส่วนการออกแบบตกแต่งส่วนกลางด้านในจะเป็นเรียบๆ ไม่เน้นโถงต้อนรับให้ดูแกรนด์แต่เป็นลักษณะให้ดูเป็นมิตรมากกว่า อาคาร A,B ออกโทนสีน้ำเงินกรมท่าและสีเทา ส่วนอาคาร C โทนสีน้ำตาล
ด้านพื้นที่ส่วนกลางนั้นให้มาครบทั้ง 3 อาคารค่ะ มีล็อบบี้, สระว่ายน้ำ, ห้องซาวน่า, ฟิตเนส, สวนหย่อมบนอาคาร ส่วนกลางทำออกมาได้ร่มรื่น น่าใช้งาน อาคาร A, B เป็นอาคารสูงจึงมี Sky Lounge มาด้วย ซึ่งไม่ว่าจะซื้อห้องของอาคารไหนก็ยังสามารถไปใช้ส่วนกลางของอาคารอื่นได้ค่ะ อาคาร A มีจุดเด่นอยู่ที่ชั้น 44 ที่เป็นสระว่ายน้ำมองเห็นวิวทะเล แต่เนื่องจาก หากเป็นช่วง High Season ปริมาณคนใช้งานพื้นที่ส่วนกลางก็คงมากตามไปด้วย ส่วนอาคาร B เสียดายที่ชั้น Sky Lounge และ Fitness ต้องเดินขึ้นบันไดไปถึง 3 ชั้น ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ค่ะ แต่วิวนับว่าสวยนะคะ ได้พื้นที่ส่วนกลางมากกว่าอาคาร A ด้วย
ด้านการวางแปลนอาคารนั้น รวมๆ แล้วการใช้งานอาคาร A จะสะดวกกว่า เพราะใกล้ทางเข้าโครงการมากที่สุด ไม่ต้องเดินลึก ส่วนอาคาร B และ C ต้องเดินเข้าไปลึกกว่า อาคาร B มีพื้นที่ส่วนกลางมากกว่า ส่วนแปลนห้องจัดออกมาได้ดีค่ะ มีห้องอยู่ 3 แบบคือ 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอนและ 3 ห้องนอน โดยแบบ 1 ห้องนอนมีจำนวนมากที่สุดในโครงการ ไม่เน้นการทำครัว มีประตูบานเลื่อนที่สามารถเปิดได้กว้างทำให้ห้องดูกว้างขวางดีค่ะ ส่วนห้องแบบ 2 ห้องนอนขึ้นไปมีพื้นที่ค่อนข้างมากจัดแปลนออกมาได้ดี ทุกแบบจะเน้นระเบียงกว้างเพื่อรับวิว และไม่เอาเครื่องซักผ้าไปวางที่ระเบียงแต่จะเอาไว้บริเวณห้องครัวแทน เพื่อให้อาคารน่ามองและระเบียงโล่งเพื่อรับวิว ห้องน้ำให้มาขนาดมาใหญ่ดี ห้องใหญ่จะให้หน้าต่างเข้ามุมแต่หน้าไม่ได้ให้มาสูงชนฝ้า ซึ่งแอบน่าเสียดายเล็กน้อยค่ะเพราะวิวสวย แต่ถึงวิวทะเลที่เห็นจะสวยยังไง ก็จะต้องแลกมากับความร้อนระหว่างวัน เพราะห้องที่เห็นวิวสวยเป็นด้านทิศตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งร้อนแน่นอน อาจจะต้องติดม่านบังแดดจ้ากันหน่อย
สำหรับวัสดุคอนโด Centric Sea Pattaya นั้น เฟอร์นิเจอร์ที่ให้มาแบบ Fully furnished จาก SB Furniture คุณภาพของเฟอร์โอเค ครบถ้วน ทั้งตู้วางทีวี โซฟา เตียง ตู้เสื้อผ้า เคาน์เตอร์ครัว เครื่องใช้ไฟฟ้ายกเว้นทีวีและสุขภัณฑ์ห้องน้ำ หลายชิ้นสามารถเก็บของได้ด้วยทำให้ประหยัดพื้นที่ ห้องแต่ละ Type หน้าตาของเฟอร์นิเจอร์ต่างกันในบางส่วน แต่คุณภาพเหมือนกัน ส่วนพื้น ฝ้า ผนัง ได้มาตราฐานค่ะ
สัดส่วนการใช้ลิฟต์อาคาร A, B อยู่ที่ 150-154 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนั้นก็โอเคค่ะ ยิ่งเป็นคอนโดตากอากาศการใช้งานจริงไม่หนาแน่นเท่าในเมืองอยู่แล้ว ช่วง Peak time ที่เป็นชั่วโมงเร่งด่วนคนใช้งานลิฟต์เยอะสำหรับคอนโดตากอากาศนั้นไม่มีอยู่แล้วค่ะ โดยรวมก็สบายๆ ส่วนอาคาร C มีสัดส่วน 85 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัวนับว่าดีมากและเป็นส่วนตัวกว่าด้วยค่ะ ที่จอดรถใต้อาคาร A, B สามารถจอดได้ที่ชั้น 1 – 2 แต่ไม่น่าจะพอต่อคนในอาคารของตัวเอง ส่วนนึงต้องแบ่งไปจอดที่อาคาร C แล้วเดินมาค่ะ เพราะอาคาร C มีพื้นที่จอดรถมากกว่า รวมทั้ง 3 อาคารแล้วมีที่จอดรถประมาณ 30% ไม่รวมซ้อนคัน ที่จอดดูเหมือนน้อยไปแต่คิดว่าสำหรับคอนโดตากอากาศจะมีส่วนนึงเป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งก็ไม่ได้มาพร้อมกัน จำนวนที่จอดรถจึงอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ค่ะ
Score Summary
สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)
และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่ https://www.facebook.com/Yusabuy