สวัสดีเพื่อนๆ ทุกคนค่ะ  วันนี้เราจะพาไปรีวิว คอนโด The Parkland Charan – Pinklao  อยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ช่วงซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 ค่ะ ช่วงหลังนี้ย่านนี้นับว่ามาแรงมาก เพราะรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินเริ่มเป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา และมีกำหนดเปิดใช้ในปี 2563  ถ้านับเฉพาะในทำเลรอบ MRT บางยี่ขัน ใกล้กับ The Parkland จรัญฯ-ปิ่นเกล้า  ก็มีคอนโดขึ้นใหม่ของ Developer เจ้าใหญ่ขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว 2 โครงการ  โครงการ The Parkland จรัญ-ปิ่นเกล้า นี้จริงๆ แล้ว Soft Launch มาตั้งแต่ปลายปี 59  แล้วก็เลื่อนเปิดมาเพื่อความเหมาะสมกับสถานการณ์

คอนโด The Parkland จรัญ – ปิ่นเกล้า เป็นคอนโด High Rise สูง 22 ชั้น จากบริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ ที่นานๆ จะเปิดคอนโดใหม่ซักที่ค่ะ ปกตินโยบายของเจ้านี้ไม่ได้เน้นว่าแต่ละปีจะต้องเปิดคอนโดเป็นจำนวนเยอะๆ  แต่จะค่อนข้างเลือกทำเลแต่ละแปลงแบบละเอียด  โครงการนี้ได้ที่ดินใหญ่มาก เลยทำพื้นที่สวนกว่า 3 ไร่ ซึ่งถือว่าแตกต่างจากโครงการคอนโดอื่นๆ ของนารายณ์ที่ผ่านมาก่อนหน้านี้  ทำเลที่ตั้งของโครงการนี้ค่อนข้างน่าสนใจ เพราะอยู่ติดสถานีบางยี่ขัน ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย บางซื่อ – ท่าพระ และไม่ไกลจากทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ ที่เพิ่งเปิดให้ใช้งานกันไปอีกด้วยค่ะ  เราเลยจัดรีวิวฉบับเต็มมาอย่างละเอียด เพื่อเป็นข้อมูลกับเพื่อนๆ ประกอบการตัดสินใจค่ะ

เริ่มจากข้อมูลเบื้องต้น

The Parkland Charan – Pinklao
( เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า )

• เจ้าของโครงการ : บริษัท นารายา จรัญ จำกัด
• บริหารโครงการ : บริษัท นารายณ์ พร็อพเพอตี้ จำกัด
• ที่ตั้งโครงการ : ถนนจรัญสนิทวงศ์  ซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 (ติดถนนใหญ่)
• ขนาดที่ดิน : 11-2-75 ไร่
• จำนวนชั้น : 22 ชั้น
• จำนวนยูนิต : 1,784 ยูนิต + 7-Eleven Premium + 3 ห้องชุดเพื่อการพาณิชย์
• จำนวนอาคาร : 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์  (มีโพเดียมเชื่อมกัน)
• ประเภทห้องและขนาดห้อง : 4 Type (ได้ห้องแบบ Partial Fitted)
  • Studio ขนาด 24 ตร.ม.
  • 1 Bedroom ขนาด 30.0 – 45.0 ตร.ม.
  • 2 Bedrooms 1 Bathroom ขนาด 45.0 – 49.5 ตร.ม
  • 2 Bedrooms 2 Bathrooms ขนาด 60.0 – 75.0 ตร.ม.
• ที่จอดรถ : 925 คัน หรือคิดเป็น 51% รวมที่จอดซ้อนคันและที่จอดรถ Visitors
  (Fix ที่จอดรถ 1 คัน สำหรับยูนิต 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว : 1.91 ล้านบาท (Tower B)
• เว็บไซต์โครงการ :  www.naraiproperty.com
• ติดต่อโครงการ : 02-424-1999
• GPS : 13.778052, 100.486286

.

The Parkland Charan-Pinklao ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ ติดกับซอยจรัญฯ 42 ติดสถานีรถไฟฟ้าบางยี่ขัน ของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายบางซื่อ – ท่าพระ

ส่องทำเล

การเดินทางไปยังคอนโด The Parkland Charan-Pinklao วันนี้ เรามาจากสะพานพระราม 7 บนถนนจรัญสนิทวงศ์ค่ะ เริ่มกันที่ Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ ตรงมาเรื่อยๆ ตามถนนจรัญสนิทวงศ์มุ่งหน้าไปที่แยกบรมราชชนนี (แยก 35 โบวล์) ลงอุโมงค์ลอดใต้สี่แยกบางพลัด ตามป้ายไปบรมราชชนนี พอลอดใต้สี่แยกบางพลัดมาแล้ว ก็ขับตรงไปเรื่อยๆ จะผ่านศูนย์รถยนต์ Toyota ซึ่งเป็นจุดสังเกต โครงกาารจะอยู่ทางซ้ายมือระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 และ 42 ค่ะ

จากถนนจรัญสนิทวงศ์ ด้านหน้า Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์

ขับตรงมาเรื่อยๆ ตามป้ายไปบรมราชชนนี

อยู่ชิดเลนขวาเพื่อลงอุโมงค์ลอดใต้สี่แยกบางพลัด

ลอดใต้อุโมงค์แล้วก็ขับตรงมาเรื่อยๆ  ช่วงนี้อย่าขับเร็วนะคะ เพราะว่าตลอดทางมีการก่อสร้างรถไฟฟ้าอยู่ บางทีก็มีการวางของเกะกะผิวการจราจรบ้าง

ขับมาไม่ไกลก็จะเห็น Toyota ทางซ้ายมือ

พอเห็นป้ายโรงเรียนวัดบวรมงคล หรือซอยจรัญฯ 46 ก็ชิดซ้ายได้เลย

ถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 แล้วค่ะ ด้านหน้าจะเห็นตัวสถานีบางยี่ขันที่ก่อสร้างไปได้เยอะแล้ว

The Parkland จรัญ – ปิ่นเกล้าจะอยู่ทางซ้ายมือติดถนนใหญ่ระหว่างซอยจรัญสนิทวงศ์ 44 และ 42 เลยค่ะ

คอนโด The Parkland Charan – Pinklao ตั้งอยู่บนถนนจรัญสนิทวงศ์ช่วงระหว่างแยกบรมราชชนนี และสี่แยกบางพลัด แต่จะอยู่ใกล้กับแยกบรมราชชนนีมากกว่า โดยห่างประมาณ 700 เมตร เป็นทำเลฝั่งธนฯ ห่างจากแม่น้ำเจ้าพระยาประมาณ 1.4 กิโลเมตร เวลาออกจากโครงการจะเข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งขาออก มุ่งหน้าไปที่แยกบรมราชชนนี ถ้าตรงไปจะไป แยกบางขุนนนท์, แยกไฟฉาย ถ้าเลี้ยวขวาที่แยกจะไปทางพุทธมณฑลและทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ ด่านบรมราชชนนี ที่เพิ่งเปิดให้บริการเมื่อสิงหาคมที่ผ่านมา ส่วนถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปที่แยกอรุณอมรินทร์ ตรงไปสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าฯ ได้ หรือจะไปขึ้นสะพานพระราม 8 ก็ได้ค่ะ

หากจะไปทางสี่แยกบางพลัดหรือถนนสิรินธร จะต้องกลับรถก่อนถึงแยกบรมราชชนนีบริเวณแยกบางพลัด  ซึ่งจากตรงแยกสิรินธร ถ้าตรงไปจะไปสะพานพระราม 7 ถ้าเลี้ยวขวาจะไปสะพานธนบุรี (ซังฮี้) ได้ เลี้ยวซ้ายไปสถานีรถไฟบางบำหรุ และด่านเก็บเงินทางด่วนตรงบางบำหรุค่ะ  นอกจากนี้ก็ยังมีซอยจรัญสนิทวงศ์ 40 ที่สามารถใช้ทะลุออกถนนอรุณอมรินทร์ไปขึ้นสะพานพระราม 8 ได้อีกด้วยค่ะ

ฝั่งตรงข้ามกับ The Parkland จรัญฯ – ปิ่นเกล้า จะเป็นปั๊มน้ำมัน Susco (หมายเลข 1)  คอนโดมิเนียมเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันจะมี Thana Astroria จากธนาแลนด์, Life Pinklao (หมายเลข 3) และคอนโด Commonwealth Pinklao (หมายเลข 4)  ซึ่งถ้าเทียบระยะจากทางขึ้นรถไฟฟ้าสถานีบางยี่ขัน  โครงการ The Parkland จรัญฯ- ปิ่นเกล้า จะอยู่ใกล้ที่สุดค่ะ  มีระยะทางแค่ 20 เมตร จากบันไดรถไฟฟ้า 

ส่วนคอนโดเพื่อนบ้านอื่นๆ นั้นจะอยู่บนถนนบรมราชชนนีกันเป็นส่วนใหญ่ เช่น Lumpini Place ปิ่นเกล้า (หมายเลข 5) , Lumpini Suite Pinklao (หมายเลข 6), Plum Condo Pinklao Station (หมายเลข 7)  ส่วน Lumpini Park ปิ่นเกล้า และ Lumpini Place ปิ่นเกล้า 2 จะเริ่มไกลจากแนวรถไฟฟ้า ไปอยู่ใกล้ Central ปิ่นเกล้าแทนค่ะ  ซึ่งคอนโด Lumpini ส่วนใหญ่ในย่านนี้ก็เป็นซัพพลายที่ขายหมดไปนานแล้วค่ะ

ย่านปิ่นเกล้านับว่าอุดมสมบูรณ์และอยู่กันเป็นชุมชนมานานมากตั้งแต่อดีตค่ะ ปัจจุบันความเจริญก็เปลี่ยนไปตามกาลเวลา  ถนนจรัญสนิทวงศ์จะมี Tesco Lotus จรัญสนิทวงศ์ และร้านรวงข้างทาง หาของกินได้ง่าย ไม่ลำบาก  ส่วนถนนบรมราชชนนีจะมีศูนย์การค้าเป็นส่วนใหญ่ เช่น Central ปิ่นเกล้า, Major ปิ่นเกล้า, Tesco Lotus ปิ่นเกล้า, The Sense Pinklao และ พาต้า ปิ่นเกล้า  หรือถ้าขยันขับรถหน่อย จะไปถึงถนนราชพฤกษ์เลยก็ได้ ก็มีพวก Community Mall ทั้ง The Circle, Crystal AB และ The Walk ราชพฤกษ์ ค่ะ  ส่วนโรงพยาบาลรอบๆ ที่ใกล้ๆ จะเป็นโรงพยาบาลเจ้าพระยา, โรงพยาบาล ตา หู คอ จมูก และโรงพยาบาลศิริราช ค่ะ ถ้าข้ามไปฝั่งเกาะรัตนโกสินทร์ก็จะมีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ และมหาวิทยาลัยศิลปากรอยู่

ทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ

ก่อนไปซูมดูแผนที่ใกล้ๆ ขออธิบายเรื่องทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ เพิ่มกันเสียหน่อยค่ะ เพราะว่าเปิดเพิ่งให้ใช้กันไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมานี้เอง ทางพิเศษนี้จะวิ่งขนานกับรถไฟชานเมืองสายสีแดง บางซื่อ – ตลิ่งชัน  มีความกว้างถนน 6 เลน  เริ่มต้นจากถนนกาญจนาภิเษก(ฝั่งตะวันตก) มาเชื่อมกับถนนราชพฤกษ์ และมาเชื่อมกับถนนบรมราชชนนีช่วงนึง แล้วตรงไปบางบำหรุ ผ่านหน้าการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย แล้วก็จะข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา ไปถนนประชาราษฎร์สาย 1 จนไปจบกับทางด่วนขั้นที่ 2 บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 ค่ะ

มีทั้งหมด 10 ด่านด้วยกัน ได้แก่

1. ด่านฉิมพลี, ด่านกาญจนาภิเษก
2. ด่านตลิ่งชัน
3. ด่านบรมราชชนนี
4. ด่านบางบำหรุ
5. ด่านบางกรวย
6. ด่านบางพลัด
7. ด่านสะพานพระราม 7
8. ด่านกำแพงเพชร 2
9. ด่านบางซื่อ 1
10. ด่านบางซื่อ 2

โดยด่านที่อยู่ใกล้กับ The Parkland จรัญฯ – ปิ่นเกล้า มากที่สุดจะเป็น ด่านบรมราชชนนีและด่านบางบำหรุค่ะ  จากในภาพลูกศรีสีเหลืองแสดงทางขึ้นทางพิเศษฯ ส่วนลูกศรีสีเขียวจะแสดงทางลงจากทางพิเศษฯ ค่ะ จะเห็นว่าวิ่งคู่ขนานมากับรางรถไฟฟ้าสายสีแดงเลย ส่วนถนนจรัญสนิทวงศ์จะเป็นแนวของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน  จากโครงการถ้าไปขึ้นที่ด่านสิรินธร ระยะทางทั้งหมด รวมกลับรถแล้วอยู่ที่ 4.2 กิโลเมตร ส่วนถ้าไปขึ้นที่ด่านบรมราชชชนนีจะอยู่ประมาณ 5.7 กิโลเมตร ซึ่งรวมระยะทางกลับรถแล้วเช่นกันค่ะ

ซูมมาดูบริเวณด่านบรมราชชนนีค่ะ จะมีทางเชื่อมขึ้นทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพฯ จากทางยกระดับบรมราชชนนีฝั่งขาเข้า  แต่ถ้ามาจากในเมืองก็สามารถมาลงที่ด่านนี้เพื่อเข้าถนนบรมราชชนนีฝั่งขาเข้าได้  (คลิกที่ภาพเพื่อดูภาพขยายได้เลยนะคะ)

ส่วนด่านบางบำหรุ จะมีทางทั้งทางขึ้นและทางลงเชื่อมกับถนนสิรินธร อยู่ใกล้ๆ กับตั้ง ฮั่ว เส็ง ธนบุรี และโรงพยาบาลตา หู คอ จมูก

หากอยากดูด่านอื่นๆ ก็สามารถดูได้ที่นี่ >> http://www.sirat-orr.com/T02-3.html  นะคะ

บรรยากาศบริเวณทางขึ้นด่านบางบำหรุ บนถนนสิรินธรฝั่งขาเข้าค่ะ

ด่านสะพานพระราม 7

ด่านบางพลัด เข้าถนนจรัญสนิทวงศ์ได้

.

รถไฟฟ้า

นอกจากโครงการคอนโด เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า ที่ติดสถานีรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินแล้ว ในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดงอ่อนตลิ่งชัน-ศาลายา และสายสีส้มตลิ่งชัน-ศูนย์วัฒนธรรม มาเชื่อมกันที่สถานีบางขุนนท์อีกด้วยค่ะ จุดตัดรถไฟฟ้าสามสายนี้จะอยู่ห่างออกไปจากสถานีบางยี่ขันอีก 1 สถานี แต่เรื่องนี้ต้องรอกันอีกนานเลยค่ะ แม้ปัจจุบันสายสีแดงอ่อนช่วงบางซื่อ-ตลิ่งชันสร้างเสร็จไปแล้วแต่จะเปิดใช้ได้ประมาณปี 2562 ส่วนสายสีส้มช่วงศูนย์วัฒนธรรม – มีนบุรีนั้นได้รับการอนุมัติจากครม.แล้วอยู่ระหว่างดำเนินการค่ะ

ท่าเรือ

ส่วนใครถนัดเดินทางด้วยเรือ ก็จะมีท่าเรือท่าเรือสะพานพระปิ่นเกล้า (หมายเลข 1) อยู่ห่างจากโครงการประมาณ 2.1 กิโลเมตร กับท่าเรือสะพานกรุงธน (หมายเลข 2) ห่างจากโครงการ 3.2 กิโลเมตร  เป็นตัวเลือกในการเดินทางยามรถติดได้ค่ะ

วิว

ดูสถานที่อำนวยความสะดวกรอบๆ โครงการไปแล้ว  ก็อย่าลืมดูบรรยากาศรอบโครงการด้วยค่ะ  จากที่เราดูในภาพรวม ส่วนใหญ่โครงการจะล้อมรอบไปด้วยอาคารพาณิชย์ที่สูงเพียง 3 – 4 ชั้น แต่ตัวคอนโด The Parkland Charan-Pinklao จะสูง 22 ชั้น ทำให้เห็นวิวได้โดยรอบ  โดยเฉพาะวิวทางทิศตะวันออกเพราะหันเข้าแม่น้ำเจ้าพระยา  กับทิศตะวันออกเฉียงใต้ที่จะได้วิวสะพานพระราม 8 และเกาะรัตนโกสินทร์ค่ะ  จะมีก็ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ที่มองเห็นคอนโด Life Pinklao ที่อยู่ห่างออกไปประมาณ 200 เมตร ซึ่งไม่ได้ใกล้มากจนอึดอัด

มาซูมดูแผนในระยะใกล้กันบ้าง ตัวโครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า กันค่ะ ด้านหน้าจะติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์ฝั่งขาออก ห่างจากทางขึ้นของสถานีบางยี่ขันของรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน 20 เมตร  เรียกว่าถ้าลงจากบันไดมาก็เจอหน้าโครงการพอดีค่ะ  ตอนนี้เริ่มก็สร้างกันไปได้ระดับนึงแล้ว จะเปิดใช้บริการได้ในปี 2563 ค่ะ  ส่วนด้านข้างโครงการนั้นด้านนึงจะอยู่ติดกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 อีกด้านนึงจะติดกับบ้านและตึกแถวในซอยจรัญฯ 44

บริเวณโดยรอบนั้นส่วนใหญ่แล้วตามแนวถนนจรัญสนิทวงศ์ทั้ง 2 ข้างทางจะเป็นตึกแถวและอาคารพาณิชย์เป็นส่วนใหญ่ค่ะ (กราฟิกสีเขียว) เป็นบ้านพักอาศัย คนอยู่กันเยอะ ไม่เหงาแน่นอน ทั้งนี้รวมไปถึงในซอยก็ยังเป็นตึกแถวเช่นเดียวกัน ความสูงตึกจะอยู่ประมาณ 3 – 4 ชั้นค่ะ ส่วนอาคารใหญ่ๆ ที่จะอยู่ใกล้ๆ จะมี คอนโด Thana Astoria ที่อยู่ช่วงซอยจรัญฯ 46 สูง 23 ชั้น ห้องบางห้องทางตะวันออกเฉียงเหนืออาจจะมองเห็นตึกนี้  ส่วนฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้จะมี Life ปิ่นเกล้า ใกล้ซอยจรัญฯ 40/1 สูง 23 ชั้น, Commonwealth Pinklao สูง 22 ชั้น, ธนา อาร์เคเดีย สูง 23 ชั้นและ ธนาทาวเวอร์สูง 22 ชั้นค่ะ  ดังนั้นทิศตะวันตกเฉียงใต้นี้ จะถูกบล็อกวิวไปบ้าง แต่ไม่ถึงกับอึดอัดเพราะมีระยะห่างกันพอสมควร

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

เราดูแผนที่กันไปเยอะแล้ว มาลงสนามดูบรรยากาศจริงกันต่อค่ะ  เริ่มจากด้านหน้าโครงการเลย  วันที่เราไปทำพรีวิว ทางโครงการ The Parkland Charan – Pinklao กำลังก่อสร้างสำนักงานขายกันอยู่ เลยยังปิดป้ายเอาไว้แบบนี้ค่ะ  ฝั่งนี้เรามองไปทางจรัญสนิทวงศ์ซอย 44 ติดกับอาคารพาณิชย์ก่อนถึงตัวซอย

ส่วนอีกฝั่งนึงจะติดกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 42 เลย สภาพทางเท้าหน้าโครงการอยู่ในเกณฑ์พอใช้ได้ กว้างดีค่ะ

มองออกจากด้านหน้าโครงการไปทางซ้าย จะเห็นตัวสถานีบางยี่ขันที่เป็นรูปเป็นร่างแล้ว

ฝั่งตรงข้ามโครงการจะเป็นปั๊มน้ำมัน Susco เกาะกลางยังไม่ค่อยเรียบร้อยดีค่ะ  ขับรถช่วงนี้ก็ระมัดระวังกันหน่อย

ถ้ามองไปทางขวาจากหน้าโครงการจะได้วิวนี้ ถนนจรัญสนิทวงศ์เป็นถนน 4 เลนไปกลับ

บรรยากาศใน Site ก่อสร้างตอนนี้โล่งแล้ว  มองตรงไปจะเห็นสะพานพระราม 8 เด่นมาก

เราเริ่มดูกันตรงพื้นที่ด้านข้างของโครงการกันก่อนค่ะ

จากหน้าโครงการเราจะเดินไปสำรวจฝั่งขวามือก่อน ไปทางจรัญสนิทวงศ์ 44 ค่ะ

โครงการ The Parkland Charan – Pinklao จะติดกับอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ทางเท้ากว้าง มีต้นไม้อยู่เป็นระยะๆ

ร้านขายยา และมีร้านขายผลไม้มาวางขาย

ปากซอยจรัญฯ 44

บรรยากาศในซอยจรัญฯ 44 มีพี่วินมอเตอร์ไซค์อยู่ปากซอย ภายในซอยส่วนใหญ่เป็นที่อยู่อาศัย

เดินต่อมาเรื่อยๆ มีร้านแว่นท้อปเจริญ และร้านผลไม้มาวางขายริมทางเท้า

เดินมาอีกก็ยังคงเป็นตึกแถว อาคารพาณิชย์ ด้านล่างจะมีร้านค้า อย่างตรงนี้ก็เป็นร้านนาฬิกา, กระเป๋า, พัดลม พร้อมกับมีร้านเล็กๆ มาตั้งขายอยู่ตรงข้ามกัน

และแน่นอน ย่านชุมชนแบบนี้ต้องมี 7-Eleven

ฝั่งตรงข้าม 7-Eleven ก็เป็นในลักษณะของอาคารพาณิชย์เก่าสูง 4 ชั้นค่ะ มีสะพานลอยข้ามถนนใกล้ๆ ด้วย

เลย 7-Eleven มาหน่อย ฝั่งตรงข้ามจะตรงกับซอยจรัญฯ 57 เป็นทางเข้าวัดรวกบางบำหรุค่ะ

ขึ้นมาบนสะพานลอยดูบรรยากาศของถนนจรัญสนิทวงศ์ ฝั่งนี้เรามองไปทางสี่แยกบางพลัดค่ะ รถเยอะทีเดียว

ส่วนด้านนี้เป็นฝั่งที่มองไปทางแยกบรมราชชนนี

เดินต่อมาเรื่อยๆ เป็นร้านขายของชำ

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาจรัญสนิทวงศ์ ซอย 48

เดินเรื่อยๆ มาถึงซอยจรัญสนิทวงศ์ 48 ค่ะ มีสเต็กลุงหนวดอยู่ด้วย น่าจะเป็นช่วงเย็นๆ

บรรยากาศในซอย เป็นซอยเล็กๆ เป็นตึกแถวทั้งซอย

ฝั่งตรงข้ามค่ะ

ทีนี้กลับไปที่หน้าโครงการค่ะ แล้วเดินทางสำรวจทางซ้ายมือกันบ้าง มุ่งหน้าไปที่แยกบรมราชชนนี

จากด้านหน้าโครงการเดินไปทางซ้ายมือค่ะ

ตัวโครงการจะติดกับซอยจรัญสนิทวงศ์ 42

ฝั่งที่ติดกับซอยจรัญฯ 42 ซึ่งเป็นซอยเล็กค่ะ ปากซอยมีวินมอเตอร์ไซต์ ส่วนภายในซอยมีโรงเรียนบางยี่ขันวิทยาคม, ศูนย์การเรียนบางยี่ขัน, อู่ซ่อมรถยนต์

ถ้ามองจากปากซอยจรัญฯ 42 จะเห็นโครงการอยู่ติดหัวมุมถนนแบบนี้ค่ะ

เดินต่อมาเรื่อยๆ ทางเท้าฝั่งนี้จะไม่มีต้นไม้เท่าไหร่ ความกว้างยังเท่าเดิมค่ะ แต่สภาพคงต้องปรับปรุง เจอร้านอาหาร 2 – 3 ร้าน

แถวนี้ก็จะมีร้านอาหารทั้งที่อยู่ในตึกแถว และร้านรถเข็นข้างทาง

ขยับมาหน่อยจะเป็นธนาคารกรุงไทย สาขาบางยี่ขัน หน้าปากซอยจรัญฯ 40/1

ภายในซอยจรัญ 40/1 จะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 ชั้น ยาวเข้าไปด้านใน

เดินต่อมาเรื่อยๆ สภาพทางเท้าเป็นพื้นคอนกรีตจะแตกดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่  คุ้นๆ ว่าแต่ก่อนเรียบร้อยกว่านี้เยอะ  ไม่รู้เป็นผลจากการก่อสร้างรถไฟฟ้าด้วยหรือเปล่า

สุดตัวชานชาลาของสถานีบางยี่ขัน อีกฝั่งนึงแล้วค่ะ

ช่วงใกล้ทางลงอุโมงค์จะเป็นร้านขายวัสดุก่อสร้าง

ก่อนจะถึงแยกบรมราชชนนีจะมีอุโมงค์ลอดใต้แยกด้วยตรงไปทางแยกบางขุนนนท์ได้ แต่ถ้าจะไปถนนบรมราชชนนี ให้อยู่ชิดเลนซ้ายไว้ก่อนค่ะ

ถัดจากทางลงอุโมงค์จะมีกลุ่มตึกแถวอยู่ริมถนน มีธนาคารกสิกร สาขาบางยี่ขัน

บรรยากาศบริเวณแยกบรมราชชนนี ถ้าเลี้ยวซ้ายจะไปทางพาต้า ปิ่นเกล้า, แยกอรุณอมรินทร์, สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าค่ะ แต่ถ้าเลี้ยวขวาจะไปทาง Central ปิ่นเกล้า  รถไฟฟ้าช่วงนี้จะยกสูงจากพื้นมาก เพราะต้องข้ามทางยกระดับบรมราชชนนีไปด้วย

ก่อนไปถนนบรมราชชนนี จะพาไปดูบรรยากาศของถนนจรัญฯ ฝั่งขาเข้า ที่อยู่ตรงข้ามกับโครงการ และเก็บตกสถานที่สำคัญกันอีกเล็กน้อยค่ะ

ถ้าเรามาจาก Central ปิ่นเกล้า วิ่งมาเลี้ยวซ้ายที่แยกบรมราชชนนี ถนนช่วงต้นๆ นี้จะเป็นถนน 3 เลนค่ะ

บรรยากาศริมถนนจะเป็นอาคารพาณิชย์สูง 3 – 4 ชั้น

มองไปทางขวาจะเห็นธนาคารกสิกร สาขาบางยี่ขัน ที่เราผ่านมาแล้วเมื่อกี้ แต่รูปนี้จะเห้นห้างทองทวีชัย 5 ด้วย ^^

พอถึงช่วงสถานีบางยี่ขันที่กำลังก่อสร้าง จะเหลือถนนวิ่ง 4 เลนไปกลับ

ถัดจากคอนโดคอมมอนเวลธ์ ปิ่นเกล้า จะเป็นที่ดินเปล่าค่ะ มีพื้นที่ใหญ่พอสมควรเลย มีสิทธิ์เป็นโครงการคอนโดได้อีก

ฝั่งจรัญฯ เลขคี่ก็มีร้านค้า ร้านอาหาร ไม่ต่างกับฝั่งเลขคู่ แต่สวนใหญ่ไม่ใช่ร้านหรูหราอะไรค่ะ

บรรยากาศภายปากซอยจรัญ 53 อยู่เยื้องกับโครงการ

ต่อด้วยร้านอาหารต่าง และร้านซ่อมรถยนต์

เก็บตกโรงพยาบาลยันฮี ช่วงซอยจรัญสนิทวงศ์ 90 และ 92 ค่ะ

โชว์รูม BMW ปากซอยจรัญฯ 86/1

ออกมาดูสภาพแวดล้อมบริเวณถนนบรมราชชนนีกันบ้างค่ะ

พาต้า ปิ่นเกล้า ที่สามารถเข้าได้ทั้งจากถนนบรมราชชนนีและซอยจรัญฯ 40

ข้างๆ พาต้าจะมีคิวรถตู้ไปตลาดบางบัวทอง, วัดละหารได้ หรือถ้าจะไปต่างจังหวัดก็มีไป กระทุ่มแบน, มหาชัย ,สามพราน เป็นต้นค่ะ ค่าโดยสารอยู่ที่ 25 – 40 บาท

ผ่านพาต้ามาที่แยกอรุณอมรินทร์ เลี้ยวซ้ายจะเข้าถนนพระราม 8 ค่ะ (หรือจะทะลุซอยจรัญ 40 มาก็ได้)

สะพานพระราม 8  เป็นสะพานที่มองเห็นได้จากโครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ – ปิ่นเกล้า ด้วย

กลับมาที่ถนนบรมราชชนนี ไปฝั่ง Central ปิ่นเกล้ากันค่ะ มีศูนย์การค้าเยอะเลย

เริ่มจากแยกบรมราชชนนี วิ่งไปฝั่ง Central ปิ่นเกล้า ตลอดทางจะมีทางคู่ขนานลอยฟ้าบรมราชชนนีวิ่งอยู่เหนือตลอดค่ะ  เวลาจะไปทางพิเศษศรีรัช – วงแหวนรอบนอกกรุงเทพ ก็ต้องวิ่งไปทางนี้เหมือนกัน มีด่านบรมราชชนนีอยู่

โลตัส ปิ่นเกล้าค่ะ

เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า ที่เพิ่งจะรีโนเวทเสร็จไปหมาดๆ  ภายนอกดูทันสมัยมากขึ้น ส่วนบรรยากาศภายใน, ร้านค้าและร้านอาหารก็ทำใหม่เช่นกัน และมี Think Space B2S เป็น Co-Working Space สำหรับทำงานและการเรียนพร้อมบริการครบวงจรเพิ่มเข้ามาอีกด้วย

The Sense Pinklao เป็น Community Mall อยู่ใกล้กับเซ็นทรัล

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ปิ่นเกล้า ตรงข้ามกับเซ็นทรัลค่ะ

หลังจากสำรวจบรรยากาศรอบๆ แล้ว ไปชมภาพจำลองและสิ่งอำนวยความสะดวกของโครงการ The Parkland Charan-Pinklao กัน

เริ่มเปิดประตู ไปดูในโครงการ

พาเดินเล่นรอบๆ มาพอควร  เข้าไปในสำนักงานขายกันดีกว่าค่ะ

ในสำนักงานขายจะมี 2 ชั้น อยู่ห้องตัวอย่าง 3 ห้องค่ะ

ดูผังโครงการ ตำแหน่งการเข้าถึง

ตัวคอนโดแทบจะเรียกว่าติดสถานีแบบเอาบันไดทางขึ้นลงรถไฟฟ้ามาจ่อด้านหน้าเลย  สำหรับการขับรถนั้น  รถยนต์จะสามารถวนเข้ามาได้แค่บริเวณทางเข้าที่จอดรถที่อยู่ที่อาคาร B  จะไม่สามารถวนรอบโครงการได้  เนื่องจากกั้นพื้นที่ด้านข้างเอาไว้เป็นพื้นที่สีเขียวของ  ซึ่งเมื่อรถยนต์วิ่งเข้ามาไม่ได้  ก็จะช่วยลดเรื่องมลพิษ และฝุ่นควันลงไปได้เยอะ  ทำให้ใช้สเปซในส่วนของสวนได้ปลอดภัยไม่ต้องกังวลด้วย   แต่ทั้งนี้ทางด้านทิศตะวันออกเฉียงเหนือของโครงการก็ยังทำถนนเอาไว้ให้ (แต่ไม่ได้ให้รถวิ่งในเวลาปกติ) เนื่องจากต้องให้รถดับเพลิงสามารถวิ่งได้ตามกฎหมายเวลาเกิดเหตุฉุกเฉินนั่นเอง

ส่องโมเดล

อาคาร A B C จะเรียงกันในแนวยาวแบบนี้เลย

หน้าตาอาคาร B ที่เปิดขายค่ะ

ทางเข้าด้านหน้า  ป้ายโครงการวางเฉียงเพื่อให้รับกับสายตาของคนที่เข้ามาจากถนนหน้าโครงการ

มองด้านข้างฝั่งทิศใต้  จะเห็นว่าถนนรอบโครงการนั้นมีแค่ส่วนด้านหน้า  เข้าไปด้านในจะเป็นพื้นที่สีเขียว  รถยนต์เข้าไม่ได้

สวนมองจากตรงอาคาร C  เส้นยาวๆ ที่เห็นคือ Jogging Track ค่ะ

คอร์ทตรงอาคาร B เป็นสวนและบ่อน้ำ

ฟิตเนสที่อยู่ตรงกลางระหว่างอาคาร B และ C

สระว่ายน้ำยาวสะใจดีมาก

มองจากอีกมุมด้านหลังค่ะ

ช่องตรงกลางระหว่างแต่ละอาคาร  ทำเป็นสวนแทรกเข้าไป

Sky Lounge ด้านบนสุด

ด้านหลัง (ทิศเหนือ) ด้านนี้จะร่มกว่า  แต่จะไม่เห็นส่วนกลางค่ะ

ฝั่งทิศเหนือจะมีถนนยาวไปถึงด้านหลังโครงการ  สำหรับรถดับเพลิง หรือลูกบ้านที่ต้องการรถเข้าไปขนของจากตึกด้านใน  ซึ่งเวลาปกติจะกั้นประตูปิดเอาไว้  แล้วบังคับวนรถไปขึ้นส่วนอาคารจอดรถทางทิศใต้ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

เมื่อดูจากแปลนชั้นล่าง ส่วนด้านหน้าจะเป็นสำนักงาน, และร้านค้า ถัดเข้ามาเป็นส่วน Drop off เข้าโถงต้อนรับ ทาวเวอร์ A   ติดๆ กันมีห้องจดหมายและห้องนิติบุคคล  ถัดจากโถงทาวเวอร์ A จะเป็นที่จอดรถ  มีโถงลิฟต์ทาวเวอร์ B อยู่ช่วงกลางของที่จอดรถ ส่วนโถงต้อนรับทาวเวอร์ C อยู่ท้ายสุดอาคารค่ะ

ฝั่งทิศใต้ของอาคาร เป็นพื้นที่ส่วนกลาง มีสวน, สนามเด็กเล่น, Jogging Track และ Pavilion ค่ะ

แปลนชั้น 4 จะเห็นรูปร่างของทาวเวอร์ชัดขึ้นค่ะ ทาวเวอร์ A มีแปลนเป็นรูปตัว Z  อยู่ใกล้ถนนด้านหน้า ตรงกลางเป็นทาวเวอร์ B แปลนเป็นรูปตัว L ใกล้กับ Sunken Seat  ส่วนทาวเวอร์ C มีแปลนเป็นรูปตัว L  โอบล้อมสระว่ายน้ำค่ะ

โครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า จะตั้งอยู่บนที่ดินทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ายาวจากถนนจรัญฯ เข้าไปด้านในโครงการ  มี 1 อาคาร 3 ทาวเวอร์ (Tower A, B, C) ซึ่งวางอยู่บนโพเดียมเดียวกันค่ะ  มีพื้นที่สวนกว่า 3 ไร่ จากพื้นที่ดินทั้งหมด 11 ไร่กว่า ถือว่าเยอะพอสมควรเลย ซึ่งยังไม่รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ เช่น

• Activities Park ซึ่งมี Pavilion และ Playground
• Health Garden ซึ่งมี Botanic Garden และ Jogging Track ยาว 200 เมตร ทำเป็นคอนเซ็ป Night Park

ในส่วนของที่จอดรถจะอยู่บนอาคารที่ชั้น 1-3  ที่อยู่อาศัยจะเริ่มต้นที่ชั้น 4 ซึ่งจะมีพื้นที่ส่วนกลางยาวเชื่อมถึงกันหมดทั้ง 3 ทาวเวอร์  โดยพื้นที่ในแต่ละทาวเวอร์ก็จะจัดพื้นที่ส่วนกลางไว้คนละแบบ กระจายกันออกไป เพื่อไม่ให้มาหนาแน่นที่จุดใดจุดหนึ่งมากจนเกินไป

ทาวเวอร์ซ้ายมือสุดคือ Tower A จะอยู่ติดกับถนนจรัญสนิทวงศ์มากกว่าเพื่อน ตรงกลางเป็น Tower B และขวาสุดเป็น Tower C ค่ะ

• Tower A มีสวนส่วนกลาง, 7 Eleven Premium, 3 ร้านค้า
• Tower B มีสวนส่วนกลาง, Shallow Pool และมี Sunken Seat สำหรับนั่งเล่น  และมี Triple Floor Sport Facilities (ชั้น4-6) ซึ่งภายในก็จะมี Double Volume Yoga Fly, Boxing Corner, Lounge และ Exercise Equipment ต่างๆ
• Tower C มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่กว่า Haft Olympic ความยาว 50 เมตร และมีตัว Double Sky Lounge ที่ชั้น 21-22  ค่ะ  และก็มี Roof Garden ที่สามารถเห็นวิวสะพานพระราม 8 และเกาะรัตนโกสินทร์ได้ด้วย

จากด้านหน้าโครงการ จะเห็นแต่ Tower A ค่ะ  ติดทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้าบางยี่ขัน

ทางเข้าโครงการ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญฯ – ปิ่นเกล้า  ด้านหน้าทำเป็นลวดลาย Graphic Ribbon Water ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากแสงแดดที่กระทบกับน้ำที่กระเพื่อมจากการสัญจรของเรือในลำคลองในอดีตถึงปัจจุบัน โดยลาย Graphic นี้จะใช้ในจุดต่างๆ ภายในโครงการด้วย เช่น ทางเข้า หรือตรง Drop-off Tower A

เข้ามาที่ Drop Off หน้าโครงการค่ะ  มี 7-Eleven และห้องชุดพาณิชย์ 3 ห้องที่อยู่ระหว่างโถงทางเดินที่เชื่อมไปยังล็อบบี้ Tower A

Drop Off ที่ด้านหน้า Tower A ค่ะ หรูหราดี

ชั้นล่างของโครงการจะมีพื้นที่สวนกว่า 3 ไร่  ทำเป็นรูปแบบ Tropical Landscape โดยออกแบบให้เป็น Universal Design ที่ผู้สูงอายุสามารถใช้งานได้ด้วย  และก็ยังมี Playground, Pavilion, Jogging Track ยาวประมาณ 200 เมตร ซึ่งทำเป็นคอนเซ็ป “Night Park” โดยจะมีแสงสว่างให้ในตอนกลางคืนด้วย เหมาะกับคนทำงานที่เลิกงานดึกก็สามารถมาวิ่งออกกำลังกายได้ ไอเดียนี้ดีเหมือนกันนะคะ

พื้นที่ส่วนกลางบริเวณทาวเวอร์ B ค่ะ มี Shallow Pool และมี Sunken Seat สำหรับนั่งเล่น

จากที่นั่ง Sunken Seat จะมองเห็น Triple Floor Sport Facilities (ชั้น4-6) ที่ Tower B  ภายในก็จะมี Double Volume Yoga Fly, Boxing Corner, Lounge และ Exercise Equipment ต่างๆ  และถ้าเดินต่อไปทางซ้ายของภาพจะไปที่สระว่ายน้ำหน้า Tower C

ทาวเวอร์ B จะมี Triple Floor Sport Facilities เป็นห้องออกกำลังกาย 3 ชั้น ประกอบด้วย

• ชั้น 4 ห้องน้ำและห้อง Sauna แยกชายหญิง
• ชั้น 5 มี Double Volume Yoga Fly และ Lounge
• ชั้น 6 มีห้อง Exercise Equipment และ Boxing Corner

บรรยากาศใน Double Volume Yoga Fly

Lounge ชั้น 5

ถัดมาเป็นส่วนของสระว่ายน้ำชั้น 4 ที่อยู่ระหว่าง Tower B, C เป็นขนาดที่ใหญ่กว่า Haft Olympic  มีความยาว 50 เมตร รวมสระว่ายน้ำเด็ก และ Jacuzzi ด้านข้างของสระก็จะเป็น Wood Deck Terrace และมี Pavilion ที่เป็นทรงกล่องสีขาวๆ อยู่ทางขวามือให้นั่งพักผ่อนริมสระว่ายน้ำ

ทาวเวอร์ C จะโอบล้อมสระว่ายน้ำ มองเห็นวิวได้โดยรอบ

Pavilion ริมสระว่ายน้ำ ดีไซน์เรียบๆ สีขาวค่ะ

จากสระว่ายน้ำหน้าทาวเวอร์ C มองกลับไปที่ทาวเวอร์ B ค่ะ จะเห็นห้อง Triple Floor Sport Facilities สูง 3 ชั้น และมีทางเดินเชื่อมไปที่หน้าทาวเวอร์ B ด้วย ซึ่งสามารถเดินไปหากันได้ทุกทาวเวอร์ที่ชั้น 4 นี้ แต่ก็จะมี Access Control ในแต่ละตึกเพื่อความปลอดภัยด้วย

ส่วนชั้น 21 และ 22  ที่ Tower C จะมี Double Sky Lounge  โดยมีลิฟต์ขึ้นไปแยกต่างหากจากลิฟต์ผู้โดยสารค่ะ  Double Sky Lounge ประกอบไปด้วย

• ชั้น 21 มี Social Club, Mini Theater, Golf Simulator Recreation area
• ชั้น 22 มี Working & Creativity ประกอบด้วย Lounge และ Meeting Room

ชั้น 21 จะได้ความสูงฝ้า Double Volume มีกระจกมองเห็นวิวได้โดยรอบ ส่วนห้อง Meeting Room ที่ชั้น 22 จะอยู่ในกล่องเล็กๆ ลอยอยู่เหนือชั้น 21 ค่ะ

บรรยากาศภายใน Social Club ชั้น 21

อีกมุมนึงของห้อง Social Club

และชั้นดาดฟ้าทาวเวอร์ C จะเป็นสวนที่สามารถชมวิวได้ 360 องศาค่ะ ออกแบบให้ทางเดินเป็นขั้นๆ ที่สามารถนั่งพักผ่อนได้ วิวที่น่าสนใจจะเป็นเกาะรัตนโกสินทร์และสะพานพระราม 8 ค่ะ ^^

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan 

Floor Plan ของคอนโด The Parkland จรัญ-ปิ่นเกล้า อาคาร B  ห้องพักจะเริ่มต้นที่ชั้น 4 ค่ะ โดยแปลนแต่ละชั้นจะแตกต่างกันนิดหน่อย  และมีห้องให้เลือกทุกแบบ  จัด room-mixed มาหลากหลาย  เราทำกราฟิกให้ดูกันง่ายๆ โดยแบบสตูดิโอจะมีแค่ชั้นละ 1 ห้อง  เป็นชั้นที่เอาไว้ทำราคาขาย  (กราฟิกเส้นสีน้ำเงิน)  ส่วนแบบ 2 ห้องนอน  จะมี 3-5 ยูนิต ในแต่ละชั้น (กราฟิกเส้นสีแดง)  นอกนั้นที่เหลือก็เป็น 1 ห้องนอนทั้งหมด  ซึ่งมีเยอะที่สุดในโครงการค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

The Parkland Charan – Pinklao มีห้องหลักๆ อยู่ 4 แบบให้เลือก คือแบบสตูดิโอ, 1 ห้องนอน, 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ และ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  โดยแบบ 1 ห้องนอน ยังแบ่งย่อยออกเป็นครัวนอกหรือครัวให้เลือกกันอีกด้วย ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลายของแต่ละคนค่ะ

• ห้องสตูดิโอ ขนาด 24 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน ขนาด 30.0 – 45.0 ตารางเมตร ( มีแบบครัวนอกและครัวใน)
• 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 45.0 – 49.5 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60.0 – 75.0 ตารางเมตร ( ได้ที่จอดรถ Fix 1 คัน )

ห้องที่ได้จะเป็นแบบ Partial Fitted คือได้ตู้เสื้อผ้าทุกห้องนอน, ชุดครัว เตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน, เครื่องทำน้ำอุ่นทุกห้องน้ำ, เครื่องปรับอากาศ (1 ห้องนอน ได้ 2 เครื่อง, 2 ห้องนอนได้ 3 เครื่อง) และกระจกกั้นอาบน้ำ Temper ในห้องน้ำ Master Bedroom

แปลนห้องคอนโด The Parkland Charan-Pinklao
แบบสตูดิโอ ขนาด 24 ตารางเมตร

ห้องสตูดิโอแบบ 24 ตารางเมตร หน้าห้องกว้าง 3.65 เมตร จัดให้ชุดแพนทรี่อยู่ติดทางเข้าห้อง ตรงข้ามกับห้องน้ำค่ะ ถัดเข้าไปเป็นส่วนนั่งเล่นอยู่รวมกับห้องนอนติดระเบียง พื้นที่ห้องนี้ค่อนข้างจำกัดแต่จัดออกมาได้ลงตัวดีค่ะ จริงๆ แล้วจะกั้นห้องครัวเพิ่มเติมก็ยังทำได้ค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Parkland Charan-Pinklao
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 30 ตารางเมตร

ห้องนี้จะมี Layout อยู่สองแบบ คือแบบครัวนอกกับครัวใน ครัวนอกคือห้องครัวอยู่ติดระเบียงเพื่อการระบายอากาศที่ดี ได้ครัวปิดมีโต๊ะรับประทานอาหารอยู่ในห้องครัว กั้นห้องเรียบร้อยเป็นสัดเป็นส่วน เหมาะกับคนที่เน้นทำครัวค่ะ  ส่วนแบบครัวในจะได้เป็นครัวเปิดอยู่ใกล้กับทางเข้าห้อง เหมาะกับคนทีไม่เน้นทำอาหารเท่าไหร่ค่ะ ห้องแบบนี้มีข้อดีคือห้องจะโล่งกว้างมากกว่า ได้ห้องนอนใหญ่กว่า เพราะว่ารวมพื้นที่ครัวเข้ากับพื้นที่นั่งเล่นนั่นเอง แล้วก็จะได้ห้องนั่งเล่นติดระเบียง  ความกว้างของห้องอยู่ที่ 5.1 เมตรค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Parkland Charan-Pinklao
แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.5 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน 34.5 ตารางเมตรได้ห้องหน้ากว้าง 5.1 เมตรเหมือนห้อง 30 ตารางเมตร  แบ่งย่อยออกเป็น 2 แบบเช่นกัน คือครัวนอกกับครัวใน  แบบครัวนอกจะไม่ต่างกับแบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตรเท่าไหร่ เพียงแต่พื้นที่ห้องนอนและห้องนั่งเล่นเพิ่มมากขึ้น แต่สำหรับแบบครัวใน จะได้ห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมาอีกห้องนึงอยู่ติดกับพื้นที่นั่งเล่นค่ะ เป็นพื้นที่ที่ปรับเปลี่ยนเป็น Outdoor หรือ Indoor ได้ การใช้งานห้องก็จะหยืดหยุ่นหลากหลายมากขึ้น

แปลนห้องคอนโด The Parkland Charan-Pinklao
แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 47 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอนนี้ จะได้ห้องหน้ากว้าง 7.5 เมตร ห้องลึก 6.55 เมตร พื้นที่เริ่มเยอะทำให้จัดห้องออกมาได้ค่อนข้างลงตัว ได้หน้าต่างเยอะ และสบายในการใช้งาน พื้นที่ส่วนแรกเป็น Pantry และโต๊ะรับประทานอาหาร เชื่อมกับพื้นที่นั่งเล่นติดระเบียง บริเวณรับประทานอาหารกว้างว่างโต๊ะนั่ง 4 คนได้  พื้นที่นั่งเล่นจะอยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอน 2 ห้อง เป็นห้องนอนเล็กกับห้องนอนใหญ่ค่ะ

แปลนห้องคอนโด The Parkland Charan-Pinklao
แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 62 ตารางเมตร

แบบสุดท้ายคือแบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ที่เป็นห้องที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ ได้ห้องหน้ากว้าง 10.7 เมตร พื้นที่ส่วนแรกเป็นพื้นที่รับประทานอาหารและพื้นที่นั่งเล่น ได้ห้องครัวแบบปิดอยู่ติดระเบียง ห้องนอนเล็กและห้องนอนใหญ่อยู่ติดกัน ห้องนอนใหญ่จะได้หน้าต่างเข้ามุมเพราะว่าอยู่ที่หัวมุมอาคาร และได้ห้องน้ำในตัวค่ะ ระเบียงของห้องนี้ก็กว้าง 90 ซม. ซึ่งกว้างกว่าห้องแบบอื่นๆ ด้วย

เปิดห้อง มองสเปซ : Focus on “SPACE” and “DIMENSION”

The Parkland Charan – Pinklao มีห้องอยู่ 4 แบบให้เลือก  ขายห้องแบบ Partial Fitted

• ห้องสตูดิโอ ขนาด 24 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน ขนาด 30.0 – 45.0 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 45.0 – 49.5 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 60.0 – 75.0 ตารางเมตร

แบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร ห้องหน้ากว้าง 5.1 เมตร

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 34.5 ตารางเมตร หน้ากว้าง 5.1 เมตร และจะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา

ตัวอย่างจัดห้องอเนกประสงค์เป็นพื้นที่ทำงานค่ะ

แบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ ขนาด 47 ตารางเมตร หน้าห้องกว้าง 7.5 เมตร ทำให้ได้แสงธรรมชาติเยอะ

บรรยากาศในพื้นที่รับประทานอาหาร และห้องครัว

แบบ 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ขนาด 62 ตารางเมตร ห้องกว้าง 10.7 เมตร เป็นแบบห้องที่ใหญ่ที่สุดค่ะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Parkland Charan-Pinkla

แบบ 1 ห้องนอน 30 ตารางเมตร

เปิดประตูเข้าห้องมาจะเห็นมุมนี้  เป็นสเปซตรงยาวไปจนถึงระเบียงเลย

ในส่วนของห้องนอนจะกั้นประตูบานเลื่อนกระจกมาแบบ 2 ตอนมาให้  ทำให้ห้องดูไม่ทึบตัน

เข้ามาดูสเปซในห้องนอนกัน  พอจะวางเตียงคู่ Queen size ได้  แต่ถ้าเป็น King size จะแน่นไป

ระดับขอบหน้าต่างล่างยกสูงมาที่ระดับเตียงค่ะ

ภายในห้องน้ำดูดีทีเดียว  ให้วัสดุดี

มองกลับออกไปตรงทางเข้าห้อง  เคาน์เตอร์ครัวที่เห็นในรูปก็ได้ติดมากับห้องด้วยนะคะ

ห้องตัวอย่างคอนโด The Parkland Charan-Pinkla

แบบ 1 ห้องนอน 34.5 ตารางเมตร

เข้ามาต่อกันที่ห้องแบบ 34.5 ตารางเมตร ค่ะ  ห้องนี้จะกั้นส่วนห้องนอนด้วยผนังทึบ

มุมตรงๆ จะเห็นด้านในมีสเปซห้องเล็กๆ ซ้อนอยู่อีกห้องหนึ่ง  เหมือนเป็นห้องอเนกประสงค์

สามารถทำแยกเป็นห้องทำงานได้  คนหนึ่งดูทีวี  อีกคนอ่านหนังสือ  ก็จะได้ไม่รบกวนกัน

เข้ามาในส่วนของห้องนอนค่ะ

แบบนี้ด้านข้างของเตียงจะเหลือสเปซเยอะกว่า  สามารถออกไปตรงระเบียงได้

ในห้องมีตู้เสื้อผ้า Built-in ให้ด้วย  ไม่ต้องมาทำเพิ่มเอง

ด้านนอก  ดูรวมๆ แล้วขนาดของสเปซก็กำลังดี  ไม่เล็กไป

ห้องตัวอย่างคอนโด The Parkland Charan-Pinkla

แบบ 2 ห้องนอน 47 ตารางเมตร

เข้ามาให้แบบ 2 ห้องนอนกันบ้าง  ระยะของสเปซส่วนพักผ่อน กับส่วนรับประทานอาหารจะเชื่อมกันเลย  ทำให้ได้สเปซที่ใหญ่

ด้านข้าง Built-in Pantry ให้  แต่ว่าประตูบานเลื่อนในห้องตัวอย่างไม่ได้ให้นะคะ  ต้องมาทำเพิ่มเอาเอง  ซึ่งก็คิดมุมแยกเป็นสัดส่วนเพื่อเอาไว้แล้ว

ส่วนของทางเข้าห้องนอนเล็ก

อีกด้านเป็นทางเข้าห้องนอนใหญ่

เข้ามาดูกันในห้องนอนใหญ่ก่อนนะคะ

Built-in ตู้เสื้อผ้าให้  โดยแบบ 2 ห้องนอน  มีพื้นที่ด้านในเหลือ  เรียกว่าเหมือนเป็น Walk-in Closet ขนาดย่อมๆ ได้เลย

ในส่วนของห้องนอนเล็กจะต้องวางเตียงชิดผนังด้านหนึ่งไปเลย  หรือถ้าอยู่กันแค่ 2 คน  สามารถปรับห้องนี้มาใช้งานอย่างอื่นก็ได้ค่ะ

จบกันด้วยมุมรับประทานอาหารกันอีกครั้งนะคะ  พื้นที่ก็จัดไว้หลวมๆ  สามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 4-6 คนได้เลย

เปิดห้อง ส่องวัสดุ : Focus on “MATERIALS”

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (Pantry)

เคาน์เตอร์ครัวของแบบ 1 ห้องนอนที่ได้ค่ะ  ขนาดนี้ก็ใช้งานได้  นอกจาก Sink, Hob & Hood ก็ยังมีพื้นที่เตรียมอาหารเหลืออีกนิดหน่อย

เปิดให้ดุพื้นที่เก็บของ  จัดว่าจุได้เยอะดีทีเดียว

สำหรับแบบ 2 ห้องนอน  ก็จะได้เคาน์เตอร์ใหญ่ขึ้นตามระเบียบ

พื้นที่เก็บของเยอะขึ้นเช่นกัน

อ่างล้างจาน และก็อกน้ำของ MEX หรือเทียบเท่า

เตาไฟฟ้าเซรามิค ก็ใช้ของ MEX หรือเทียบเท่าเช่นกันค่ะ

Hood ดูดควันของ MEX

ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์สีขาว  หน้าบานตู้เป็นลามิเนต  ผิวสัมผัสดี

วัสดุห้องน้ำ

หัวก็อกก้านโยกของ American Standard หรือเทียบเท่า

ใต้อ่างล้างหน้ามีช่องเก็บของ และอุปกรณ์ต่างๆ ในห้องน้ำ  โดยทั้งเซตนี้ใช้ของ American Standard ค่ะ

ห้องน้ำมีฉากกั้นอาบน้ำให้เฉพาะห้องน้ำของ Master Bedroom เท่านั้น

แถมเครื่องทำน้ำอุ่นให้เรียบร้อย  ไม่ต้องมาติดตั้งเอง

กระเบื้องใช้โทนสี Earth Tone ดูหรูทีเดียว

กระเบื้องผนังลายหินอ่อน  สวย

พื้นที่อาบน้ำของแบบ 1 ห้องนอน  กั้นธรณีแยกส่วนเปียกและส่วนแห้งเอาไว้ให้

สวิตซ์ไฟจะอยู่ในห้องน้ำ  ส่วนปลั๊กก็มีฝาครอบให้เรียบร้อย  กันน้ำกระเด็นใส่

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing materials)

พื้นลามิเนต โทนสีบีช  ผิวสัมผัสโอเค

บัวเชิงผนัง PVC สีเดียวกับพื้น  แต่ไม่มี Wallpaper ให้แบบในห้องตัวอย่างนะคะ

ประตูบานเลื่อนกระจกที่กั้น 1 ห้องนอน 30 ตร.ม.  กรอบอะลูมิเนียมสีเงินธรรมชาติ

ในห้องก็จะติดแอร์ไว้ให้เลยด้วย

ตู้เสื้อผ้า Built-in ที่ทำมาให้  บานลูกฟักเป็นกระจกใส

มือจับเป็นอะลูมิเนียม ดีไซน์ยื่นออกมาเป็นครีบ

ด้านใน Built-in ลิ้นชักให้แบบครบ  เป็น Soft-closed  เท่าที่ลองเปิดปิดดู fitting ดีใช้ได้ค่ะ

ในตู้เสื้อผ้า มีช่องด้านบนทำไว้เผื่อเก็บกระเป๋าเดินทางใบใหญ่ๆ ก็ได้

ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กกล่องทาสีเทาดำค่ะ

สเปซระเบียงกว้างประมาณ 60 ซม.

ตรงคอมเพรสเซอร์แอร์ทำแฮงเกอร์แขวนไว้ให้เรียบร้อย  และมีแผงเหล็กกล่องเอาไว้บังสายตาให้ด้วย

บานเลื่อนด้านนอกเป็นอะลูมิเนียมอบสีเทาดำนะคะ  (ถ้ากั้นในห้องจะเป็นสีเงินธรรมชาติ)

เปิดกระเป๋า ดูสตางค์

ราคาเริ่มต้นของคอนโด The Parkland Charan-Pinklao ณ วันที่รีวิว (8 มกราคม 2560) เป็นราคา Pre-sale ของตึก B  โดยห้องสตูดิโอ เริ่มที่ 1.91 ล้านบาท   ราคาเฉลี่ยอยู่ในช่วง 8x,xxx – 9x,xxx บาทต่อตารางเมตร เราหยิบราคาห้องเริ่มต้นทั้งแบบสตูดิโอ และแบบ 1, 2 ห้องนอน ที่ชั้นกลางๆ ในห้องที่เหลืออยู่มาให้ดูกันค่ะ

ราคา ณ วันที่   8 มกราคม 2560

ราคาเริ่มต้น :

Studio  พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 ล้านบาท  เฉลี่ย  79,xxx บาท/ตร.ม.

1 Bedroom ยูนิต B1108 พื้นที่ 34.50 ตร.ม. ชั้น  11 อาคาร B ราคา 2,960,000 บาท เฉลี่ย 85,797 บาท/ตร.ม.

2 Bedroom ยูนิต B1226 พื้นที่ 47.00 ตร.ม. ชั้น 12 อาคาร B ราคา 4,050,000 บาท เฉลี่ย 86,170 บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

1 Bedroom จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 50,000 บาท 

2 Bedroom จอง 5,000 บาท / ทำสัญญา 80,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

30 งวด (นับจาก มกราคม 2560) ราคาขึ้นกับแบบห้อง  รวมแล้วประมาณ 10% ของราคาขาย

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ม./เดือน  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund) 450 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อและผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio  พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 10,806 บาท/เดือน

1 Bedroom ยูนิต B1108 พื้นที่ 34.50 ตร.ม. ชั้น  11 อาคาร B ราคา 2,960,000 บาท ผ่อนประมาณ 16,747 บาท/เดือน

2 Bedroom ยูนิต B1226 พื้นที่ 47.00 ตร.ม. ชั้น 12 อาคาร B ราคา 4,050,000 บาท ผ่อนประมาณ 22,914 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio  พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 11,544 บาท/เดือน

1 Bedroom ยูนิต B1108 พื้นที่ 34.50 ตร.ม. ชั้น  11 อาคาร B ราคา 2,960,000 บาท ผ่อนประมาณ 17,890 บาท/เดือน

2 Bedroom ยูนิต B1226 พื้นที่ 47.00 ตร.ม. ชั้น 12 อาคาร B ราคา 4,050,000 บาท ผ่อนประมาณ 24,478 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio  พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 12,747 บาท/เดือน

1 Bedroom ยูนิต B1108 พื้นที่ 34.50 ตร.ม. ชั้น  11 อาคาร B ราคา 2,960,000 บาท ผ่อนประมาณ 19,755 บาท/เดือน

2 Bedroom ยูนิต B1226 พื้นที่ 47.00 ตร.ม. ชั้น 12 อาคาร B ราคา 4,050,000 บาท ผ่อนประมาณ 27,029 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio  พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 14,893 บาท/เดือน

1 Bedroom ยูนิต B1108 พื้นที่ 34.50 ตร.ม. ชั้น  11 อาคาร B ราคา 2,960,000 บาท ผ่อนประมาณ 23,081 บาท/เดือน

2 Bedroom ยูนิต B1226 พื้นที่ 47.00 ตร.ม. ชั้น 12 อาคาร B ราคา 4,050,000 บาท ผ่อนประมาณ 31,580 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้ 90% / ดอกเบี้ย 6.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio  พื้นที่ 24 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 1.91 ล้านบาท ผ่อนประมาณ 19,413 บาท/เดือน

1 Bedroom ยูนิต B1108 พื้นที่ 34.50 ตร.ม. ชั้น  11 อาคาร B ราคา 2,960,000 บาท ผ่อนประมาณ 30,086 บาท/เดือน

2 Bedroom ยูนิต B1226 พื้นที่ 47.00 ตร.ม. ชั้น 12 อาคาร B ราคา 4,050,000 บาท ผ่อนประมาณ 41,165 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทางและสิ่งอำนวยความสะดวก

การเดินทางของคอนโด The Parkland จรัญ-ปิ่นเกล้า  นั้นเข้าออกได้สะดวก  เพราะอยู่ติดถนนใหญ่ที่มีรถสาธารณะผ่านตลอด  หาง่ายทั้งรถเมล์ รถสองแถว และวินมอเตอร์ไซต์  วินรถตู้ใกล้สุดอยู่ตรงพาต้า ปิ่นเกล้า  สามารถเดินทางเข้าเกาะรัตนโกสินทร์โดยใช้ถนนสมเด็จพระปิ่นเกล้า  ซึ่งมีท่าเรือพระปิ่นเกล้าอยู่ตรงใต้สะพาน  ถ้าจะเข้าเมืองก็ขึ้นสะพานพระราม 8 ได้สะดวก  หรือถ้าจะใช้ทางด่วน  ก็มีทางพิเศษศรีรัช-วงแหวนรอบนอก  ที่จะไปลงตรงจตุจักร  ช่วยให้เข้าเมืองสะดวกขึ้นอีกทาง  ไม่ต้องไปผ่านตรงรัชดาภิเษกก่อน

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

โครงสร้างพื้นฐานในอนาคตที่สำคัญที่สุดก็คือ รถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงิน ที่กำลังก่อสร้างอยู่นั่นเอง  ตัวโครงการติดกับสถานีบางยี่ขันเลย  ซึ่งรถไฟฟ้าก็จะเป็นตัวเพิ่มมูลค่าโครงการอสังหาฯ ในพื้นที่รอบๆ อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้ว

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ด้วยพื้นที่โครงการ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า ที่ใหญ่มาก  และมีจำนวนยูนิตเยอะ  การวางผังจึงแยกออกเป็น 3 อาคาร  เรียงตามความยาวของที่ดินเข้าไปเกือบ 300 เมตร โดยเชื่อมต่อกันที่โพเดียมของที่จอดรถและพื้นที่ส่วนกลางเหนือโพเดียม  ซึ่งก็แบ่งขายแยกเป็นทีละตึกตามไปด้วย  การเรียงตัวตึกแบบนี้ทำให้แต่ละตึกมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป  ตึก A ด้านหน้าสุด  จะอยู่ใกล้ถนนใหญ่  เข้าออกสะดวก  เดินใกล้สุด  แต่ก็อาจจะมีเสียงจากถนนบ้าง  ส่วนตึก B และ C ที่ถัดเข้ามา  ต้องเดินเข้าออกไกลกว่า  แต่ก็จะได้เรื่องของความสงบเข้ามาชดเชย  สังเกตว่าโครงการวางฟังก์ชั่นไฮไลท์อย่างสระว่ายน้ำ  และ Sky lounge เอาไว้ที่อาคาร C ซึ่งอยู่ด้านในสุด  ซึ่งก็ดูสมเหตุสมผลดี  เพราะทำให้แต่ละอาคารมีข้อดีและจุดขายของตัวเอง  ส่วนเรื่องของรูปทรงตัวตึกนั้นไม่ได้ดูหวือหวาเท่าไหร่  เน้นไปที่การจัด Zoning ให้ง่าย  โดยจะไปใส่ลูกเล่นงานออกแบบดีไซน์ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางเป็นหลัก  ซึ่งแต่ละจุดก็มีรูปแบบและกิมมิคแตกต่างกันออกไป

สำหรับแปลนห้องของ เดอะ พาร์คแลนด์ จรัญ-ปิ่นเกล้า นั้นจัดมาได้ดีในเกือบทุกแบบ  มีห้องขนาด 24 ตารางเมตร ที่เอาไว้ทำราคาขาย  แต่ห้องส่วนใหญ่ในโครงการจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน  ซึ่งขนาดเริ่มต้นที่ 30 ตร.ม. ก็จัดว่าไม่เล็กจนเกินไป  ทำให้ได้ฟังก์ชั่นใช้งานหลักๆ มาครบ  โดยในพื้นที่ขนาดเดียวกัน  โครงการก็มี option ให้เลือกหลากหลาย  ทั้งครัวนอก และครัวใน  ซึ่งก็ขึ้นกับคนใช้งานว่าชอบทำอาหารจริงจังแค่ไหน  และให้น้ำหนักกับฟังก์ชั่นแบบไหนมากกว่า  ซึ่งรวมๆ แล้วก็ไม่ได้มีข้อติอะไรในเรื่องของการวางแปลน

ด้านวัสดุของห้อง Parkland Charan-Pinklao ที่ได้มา  เมื่อมองเทียบกับระดับราคาที่ 8x,xxx – 9x,xxx บาท/ตร.ม. ก็จัดว่าคุ้มค่าพอสมควร  ได้ Built-in Pantry, ตู้เสื้อผ้า  โดยรวมๆ ก็ให้วัสดุที่เกรดดี  ผิวสัมผัสดี  ความสูงฝ้าห้องปกติที่ 2.5 เมตร  ส่วนฝ้าในห้องน้ำก็จะเตี้ยลงมาอีกหน่อย

พื้นที่ส่วนกลางของ Parkland Charan-Pinklao  ถือว่าเป็นหน้าตาและจุดขายที่ดี  เพราะด้วยจำนวนยูนิตเยอะ  และที่ดินแปลงใหญ่  ทำให้การพัฒนาได้ Economy of Scale และได้พื้นที่ส่วนกลางมาเต็มเม็ดเต็มหน่วย  โดยกระจายไปตามจุดต่างๆ  ซึ่งรายละเอียดก็เล่าให้อ่านกันไปแล้วในบทความ  โดยรวมก็ถือว่าน่าประทับใจค่ะ  (เลยเป็นเหตุให้จัดรีวิวเต็มขนาดนี้ด้วย 555)  สำหรับสัดส่วนที่จอดรถอยู่ที่ 51%  รวมจอดซ้อนคัน  สำหรับคอนโดราคาเฉลี่ยต่ำกว่าแสนและติดรถไฟฟ้าถือว่าดีนะคะ  เรื่องลิฟต์นั้น ของอาคาร B ที่เปิดขายแล้วมีลิฟต์โดยสาร 3 ตัว กับ 487 ยูนิต  และลิฟต์บริการแยก 1 ตัว  เฉลี่ยความหนาแน่นออกมาที่  163 ยูนิต ต่อลิฟต์ 1 ตัว ก็ถือว่าโอเคสำหรับราคานี้ค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^