สวัสดีครับเพื่อนๆ ชาวอยู่สบาย  รีวิวคอนโดบทความนี้ผมพาไปชมตึกเสร็จของโครงการ Park 24  สุขุมวิท 24 กันครับ  โครงการนี้เปิดตัวไปเมื่อช่วงปลายปี 2556  เป็นคอนโดบนพื้นที่รวมกว่า 12 ไร่  ในซอยสุขุมวิท 24  ซึ่งจัดว่าอยู่ใจกลางเมืองเลยทีเดียว  ตั้งแต่เริ่มก่อสร้างจนถึงปัจจุบันก็ประมาณ 3 ปีกว่า  ตอนนี้ พาร์ค 24 ก็เตรียมพร้อมเริ่มให้เข้าตรวจห้องทยอยโอนกัน  ผมจึงแวะเวียนเข้าไปดูตึกเสร็จ  หลังจากที่เคยเขียนรีวิวของโครงการมาให้ชมกันไปแล้วตอนเปิดโครงการใหม่  ทั้ง Park เฟส 1 และ Park 24 เฟส 2

ในช่วงที่ผ่านมา  ใครที่ซื้อห้องเอาไว้ตั้งแตช่วงเปิดพรีเซลล์  คงสบายใจได้ Capital Gain จากราคาที่ปรับขึ้นอย่างมากมายกันไปทั่วหน้า  ส่วนใครที่จะโอนเก็บไว้อยู่จริง  หรือไว้ลงทุนเพื่อเป็นทรัพย์สินในอนาคต  ก็ลองตามผมไปดูตึกจริงกันครับ   รีวิว Park 24 นี้  จะเล่าให้อ่านกันไปเรื่อยๆ  ในดีเทลจุดต่างๆ  แต่ไม่ได้ลงไปเจาะในส่วนของศักยภาพทำเลมากนัก  เพราะเคยเขียนให้อ่านกันไปแล้ว  รีวิวนี้เน้นรูปรายละเอียดตึกจริง  ถือว่ามาลองชมกันเพลินๆ ครับ

ข้อมูลเบื้องต้นของโครงการ

Park 24 (พาร์ค 24) เฟส 1

• เจ้าของโครงการ >> บริษัท ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยสุขุมวิท 24  (เข้าออกได้ทั้งสุขุมวิท 24 และสุขุมวิท 22)
• ขนาดที่ดิน >>> 5-0-80 ไร่ (เฉพาะเฟส 1)
• จำนวนชั้นและจำนวนอาคาร >>>
  • อาคารชุดพักอาศัย สูง 51 และ 29 ชั้น 2 อาคาร  พร้อมที่จอดรถชั้นใต้ดิน
  • อาคารเพื่อการพาณิชย์  สูง 2 ชั้น  1 อาคาร
• ประเภทห้องและขนาดห้อง >>>
  • 1 ห้องนอน 27-38 ตารางเมตร  จำนวน 589 ยูนิต
  • 2 ห้องนอน 52-54 ตารางเมตร  จำนวน  234 ยูนิต
  • Duplex 80-106 ตารางเมตร จำนวน 22 ยูนิต
• จำนวนยูนิต >>> ยูนิตพักอาศัย 832 ยูนิต  และยูนิตเพื่อการพาณิชย์ 4 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 50% (รวมจอดซ้อนคัน)  ประมาณ 417 คัน
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> ราคาโปรโมชั่น 5.9 ล้านบาท (1 ห้องนอน 29 ตร.ม. ณ ตุลาคม 2560)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> เฉลี่ย 260,000 บาท/ตร.ม.
• พิกัด GPS >>>  13.725034,100.567292
• เว็บไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• เบอร์ติดต่อ 02-258-3333
• เริ่มก่อสร้างปี 2557
• สร้างเสร็จพร้อมอยู่ปลายปี 2561

Park 24 นั้นสามารถเข้าออกได้ 2 ทาง  แต่สำหรับทางเข้าหลัก  จะถือเอาฝั่งซอยสุขุมวิท 24 เป็นหน้าโครงการ  เนื่องจากปากซอยมีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ รวมถึงย่านศูนย์การค้าอย่าง Em District ที่มีทั้ง Emporium และ Em Quartier อยู่ด้วย  ในขณะที่ปากซอยสุขุวิท 22  จะอยู่กึ่งกลางระหว่าง BTS พร้อมพงษ์  กับ BTS อโศก มีระยะเดินจากทางเข้าออกโครงการไปถึงปากซอยไกลกว่าจากซอย 24   ฝั่งซอยสุขุมวิท 22 เลยจะเหมากับการเข้าถึงโดยขับรถอย่างเดียวครับ  ต่างกับฝั่งสุขุมวิท 24  ที่จะใช้รถไฟฟ้า  แล้วต่อวินมอเตอร์ไซด์ปากซอย  หรือจะเดินเข้ามาก็พอไหวอยู่

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเข้าถึง Park 24 หลักๆ จะมาได้ 3 ทางครับ  จากปากซอยสุขุมวิท 24 ตรง BTS พร้อมพงษ์ที่เล่าไปแล้ว  หรือถ้าเข้ามาจากทางฝั่งพระราม 4  ระยะทางก็จะพอกัน   อีกฝั่งคือทางสุขุมวิท 22

พื้นที่รอบโครงการ Park 24  จัดว่าอยู่ในไข่แดงใจกลางเมือง  ซึ่งเป็นย่านศูนย์การค้า  และย่านพักอาศัยราคาแพงครับ  ในซอยมีอสังหาฯ หลากหลายประเภท  นอกจาก Luxury Condominium แล้วก็มีโรงแรม, Serviced Apartment ต่างๆ อยู่หลายโครงการมาก   ซึ่งพื้นที่ในซอย 24 นั้นจะมีฟุตบาทให้เดินกันอยู่ตลอดแนว  สภาพทางเท้าก็จัดว่าเรียบร้อยสวยงามและเดินสบายครับ  แม้ว่าจะระยะทางจากปากซอยถึงโครงการจะไกลไปนิดก็ตาม  (ประมาณ 600 เมตร)  ระยะนี้คนไทยอาจจะไม่ค่อยชอบเดิน  (เป็นผมก็นั่งพี่วินฯ 555) แต่ถ้าเป็นชาวต่างชาติ  โดยเฉพาะพวกคนญี่ปุ่นนี่หายห่วง  ระยะนี้คนญี่ปุ่นหรือฝรั่งเดินได้ชิลล์ๆ ครับ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เนื่องจากรีวิวนี้ตั้งใจจะพาไปดูตึกเสร็จของ Park 24  โดยเฉพาะ  ซึ่งผมถ่ายรูปมาเยอะมาก  เรื่องทำเลก็รู้ๆ กันอยู่  ขอไม่โฟกัสมาก  เรามาเจาะลึกกันในส่วนของรายละเอียดและงานดีไซน์ต่างๆ ของ Park 24 กันดีกว่าครับ

เข้ามาที่ Park 24 ด้านหน้านอกจากป้ายของ Park 24  แล้ว  เรายังเห็นป้ายของโครงการ  The Park at Em District  ที่บริหารโครงการโดย Asscott ด้วย  โครงการนี้จะอยู่ในส่วนของ Park 24 เฟส 2  ซึ่งผมเคยเขียนบทความเกี่ยวกับเจ้าตัว The Park at Em District  นี้ไว้แล้วเช่นกัน  ใครอยากรู้รายละเอียดเพิ่มเติมก็ไปอ่านกันได้ครับ  >>>  โมเดลการลงทุน The Park at Em District

สิ่งที่เพิ่มมาจากครั้งก่อนที่แวะมาชมโครงการก็คือ  ที่ดินฝั่งตรงข้ามถูกล้อมรั้วเตรียมทำโครงการ Origin 24 เอาไว้เรียบร้อยครับ   เจ้าของก็ไม่ใช่ใครที่ไหนเป็น ออริจิ้น พร๊อพเพอร์ตี้  ที่ซื้อหุ้นและควบรวมเอา Proud Real Estate ไปอยู่ด้วยกัน  ทำให้ Park 24 ถูกเปลี่ยนมือไปพัฒนาในชื่อของ Origin Property ตามที่เป็นอยู่ตอนนี้นั่นเอง

โครงการ “Origin 24”  นี้พื้นที่ประมาณ 3.5 ไร่ เป็น Leasehold mix-used project ซึ่งก็เช่าที่ดินมาจากเจ้าของ Seafood Market ที่อยู่ติดกันนั่นเองครับ  โดยในสัญญาเป็น contract แบบ 3+30

ซึ่งในโปรเจคมีทั้งส่วนที่เป็น Hotel 80 Keys, Serviced Apartment 305 Keys, Office 3,920 ตารางเมตร  และ Retail  3,400 ตารางเมตร  ซึ่งก็น่าจะเป็นการ diversify กระจายความเสี่ยงในพอร์ทการลงทุนของบริษัทเพื่อสร้าง Recurring Income นั่นเอง  โครงการ Origin 24  นี้จะเสร็จประมาณไตรมาส 2 ปี 2021 ครับ

.

เดินเข้ามาในโครงการกันครับ  จากปากทางเข้าโครงการ Park 24  ก็ต้องเดินต่อมาอีกหน่อย  ระหว่างทางสองข้ารวมถึงเกาะกลาง  ก็ปลูกต้นไม้เอาไว้ให้ตามแนว  อีกหน่อยโตขึ้นตรงนี้น่าจะเป็นซุ้มต้นไม้สีเขียว  บรรยากาศทางเข้าน่าจะโอนะครับ  ตลอดทางเดินช่วงนี้ก็จะทำพื้น stamp concrete เอาไว้ให้

เดินเข้ามาสักพัก  ก็จะมีป้อมยามอยู่  เข้าออกโดยกั้นไม้กระดก  แต่ละฝั่งมีไม้กระดก 2 อัน  ก็เป็นฝั่งลูกบ้านที่เข้าออกจากการ์ดได้เลย  ส่วนบุคคลภายนอกก็ต้องรอแลกบัตรก่อนตามปกติ  ลูกบ้านมาถึงจะได้ไม่ต้องมาต่อคิวรอรถ visitor

ผ่านป้อมยามเข้ามา  ก็จะเป็นบริเวณของสวนครับ

ทางวนตรง drop-off  จะอยู่เชื่อมทาวเวอร์ 2 กับ ทาวเวอร์ 3

มุมตรง drop-off ครับ  มี canopy ยื่นออกมาต้อนรับ

ช่วงสเปซระหว่างทาวเวอร์ 2 และ ทาวเวอร์ 3 จะมีหลังคาเชื่อมกันแดดกันฝนให้

ตรงบริเวณทางเชื่อมระหว่างทาวเวอร์ 2 และ 3 จะเป็นส่วนนั่งเล่น  เป็นพื้นที่ semi-outdoor ครับ  ที่เห็นทางขวาจะเป็นลิฟต์ที่ขึ้นมาจากที่จอดรถ

อีกมุมหนึ่ง  จะมองออกไปเห็นตรง drop-off ด้านหน้า  มีสวนเป็นพื้นที่สีเขียว และน้ำพุอยู่ด้วย

แต่ก่อนจะไปเจาะรายละเอียดแต่ละตึกของ Park 24  ก็มาดู Master Plan กันคร่าวๆ ก่อน  จะได้นึกภาพตามออกครับ

Master Plan คอนโด Park 24

พื้นที่ Park 24 ทั้ง 2 เฟส จะใช้ถนนทางเข้าออกและพื้นที่สวนที่ชั้นล่างร่วมกันครับ  แต่ facilities บนอาคารจะใช้ข้ามเฟสกันไม่ได้อย่างที่เล่าไปแล้ว   การวางผังโครงการแบบนี้  จึงต้องคิดเผื่อเอาไว้ตั้งแต่แรก  เพื่อให้แต่ละตึกบังกันน้อยที่สุด  และให้เหลือพื้นที่ open space  ที่มีสัดส่วนสวยงาม

โดยจากผังโครงการ  เราจะเห็นว่า Park 24 จะใช้พื้นที่ของ Foot print อาคารค่อนข้างน้อย  และเหลือพื้นที่ Open space เอาไว้มากทีเดียวครับ (เพราะไหนๆ ก็ใช้ชื่อว่า “PARK” แล้วหล่ะนะ)  โดยประมาณแล้วมีพื้นที่ Open Space รวมถนนและสวนประมาณ 10 ไร่ จากที่ดินทั้งหมดประมาณ 12 ไร่ (2 เฟสรวมกัน)

วิวทิศต่างๆ จากบนคอนโด Park 24

ผมพาไปดูวิวด้านต่างๆ จากบนตึกของ Park 24 กันก่อนครับ

มองมุมไปทางทิศเหนือ  จะเห็นกลุ่มอาคารของ Em District ทางขวามือครับ  มี Emporium แล้วก็ Em Quartier ที่โดนบังอยู่  ส่วนสวนสีเขียวที่เห็นอยู่ก็คือสวนเบญจสิริข้าง Emporium  ซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวอีกจุดบนสุขุมวิทที่หนาแน่นแถวนี้ครับ

มองเหลือบไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือหน่อย  ฝั่งนี้ก็จะเห็น City View เต็มๆ

มุมนี้มองเบี่ยงกลับไปทงตะวันออกเฉียงเหนือ  ทางฝั่งทองหล่อ เอกมัยครับ  ฝั่งนี้อาคารสูงก็จะเป็นพวกคอนโดซะส่วนมาก

ทางทิศตะวันออกเฉียงใต้  จะเห็นกลุ่มอาคารสูงช่วงท้ายซอยสุขุมวิท 24  เลยไปไกลๆ ก็คือโค้งน้ำบางกระเจ้าครับ

ฝั่งทิศตะวันตกเฉียงใต้ก็เห็นโค้งน้ำบางกระเจ้าเหมือนกัน

มุมนี้มองไปตามถนนพระราม 4 ครับ  ด้านนี้จะโล่งๆ หน่อย  ตึกสูงยังไม่เยอะ

ทิศตะวันตก  มองไปเห็นสวนเบญจกิตติ  และก็พื้นที่โรงงานยาสูบ  มองไกลๆ ก็จะเห็น sky line ของเมืองด้วย

ซูมเข้าไปดูกันหน่อย

มุมกว้างๆ ครับ

มองไปเห็นกลุ่มอาคารบนสาทร  เห็นตึกมหานครด้วย

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

คอนโด Park 24 นั้นมี 2 เฟส  ซึ่งจะแยกนิติบุคคลกันบริหารครับ  ทำให้ต้องแยกการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางด้วย  สำหรับคนที่อยู่เฟส 1 ก็จะข้ามไปใช้ Facilities ของเฟส 2 ไม่ได้  แต่สำหรับถนนส่วนทางเข้าโครงการจะเป็นภาระจำยอม  ทำให้สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้ง 2 เฟส

ทั้ง 2 อาคารมีล็อบบี้ด้านล่างที่เป็น Double Space ที่ความสูง 7.5 เมตร ครับ  ขนาดล็อบบี้นั้นไม่ใหญ่มาก  แต่ด้วยความสูงโปร่ง  ก็ทำให้ไม่อึดอัดอะไรครับ  มีห้องจดหมายที่ล็อบบี้แยกกั้นทั้ง 2 ตึก

พื้นที่ส่วนกลางของ Park 24 ในเฟสแรก  จะมีทั้งบนทาวเวอร์ 2 และ 3 ครับ  ไม่ว่าอยู่ที่ทาวเวอร์ไหนก็จะสามารถข้ามไปใช้งานอีกตึกได้ไม่มีข้อห้าม (แต่ห้ามไปใช้ของเฟส 2 เท่านั้นเอง)  โดย facilities บนอาคารของทาวเวอร์ 2 จะอยู่ที่ชั้น  49 และ 50 …. ที่ชั้น 49 มีฟิตเนส, ห้องยิมชกมวย, ห้องสำหรับโยคะ-บัลเล่ต์-แดนซ์, ห้องสมุดและห้องพักผ่อน  ซึ่งพื้นที่ Active Floor ของเฟส 1 มีทั้งหมดประมาณ 800 ตารางเมตร  อุปกรณ์ส่วนใหญ่ก็ถือเป็นโปรดักส์ไลน์ตัวท็อป  อยู่ที่นี่ก็ไม่ต้องไปสมัครฟิตเนสข้างนอกครับ  เล่นในคอนโดได้  ส่วนถ้าจะอยากเล่นฟิตเนสข้างนอกเพื่อไปเหล่สาว  อันนั้นอีกเรื่องนึง 😛

ส่วนที่ชั้น 50 จะเป็นสระว่ายน้ำระบบเกลือ  ขนาด 40×6 เมตร  ลึก 1.3 เมตร  โดยมีแยกส่วนที่เป็นสระเด็กและจากุชชี่เอาไว้ให้   ซึ่งโครงการ Park 24  บอกว่าสระว่ายน้ำนี้เป็นสระว่ายน้ำที่อยู่สูงที่สุดในกรุงเทพฯ ด้วยความสูงจากพื้นประมาณ 185 เมตร  จากจุดนี้เราเลยสามารถเห็นวิวได้โดยรอบเลยครับ  ทั้งจากฝั่งบนเส้นสุขุมวิท  หรือฝั่งมองออกนอกเมืองไปทางบางกระเจ้า

ตามผมมาดูรายละเอียดพื้นที่ส่วนกลา Tower 2 กันเลยครับ

ลักษณะการวางฟังก์ชั่นของชั้น Facilities  จะเอาส่วนประกอบอาคารทั้งหลาย  เช่นพวกลิฟต์, ห้องเครื่อง, ห้องน้ำ ไปไว้ทางฝั่งหนึ่ง  แล้วเปิดมุมมองเน้นหันหน้าไปทางฝั่งถนนสุขุมวิทครับ   ฟังก์ชั่นการใช้งานจริงตอนนี้มีการปรับเปลี่ยนจากที่เขียนในแปลน  ก็คือส่วนที่เป็น Yoga Studio จะถูกทำเป็นห้องยิมชกมวย (ฺBoxing Room) แทน  ส่วนพื้นที่ Outdoor Living  จะปรับเป็นสเปซภายในอาคาร  ใช้เป็นห้องสำหรับโยคะ – บัลเล่ต์ – แดนซ์ ได้ครับ

ที่ชั้น 50 จะเป็นสระว่ายน้ำยาว 40 เมตร  มี Outdoor Deck อยู่ทั้ง 2 ฝั่ง  ด้วยความสูงของตึกที่มากสุดในระแวกนี้  ทำวิวมองไปก็โล่งๆ  ไม่ติดอะไรครับ

ป้ายชื่ออาคารจะถูกแกะลงไปบนหินกรุผนังครับ  สวยงามดี  ดูแพงกว่าทำเป็นป้ายตัวอักษรลอยมาแปะเอาไว้เหมือนทั่วไป

ทางเข้าล็อบบี้ทาวเวอร์ 2 ครับ

เดินเข้ามาด้านใน  ก็จะมีโซฟานั่งเล่น เป็นมุมรับแขกสำหรับเวลามีเพื่อนมาเยี่ยม  มองไปด้านนอกก็จะเห็นต้นไม้เขียวๆ

ผนังจะติดวอลล์เปเปอร์ที่เป็นลวดลายกราฟิกเอาไว้จรดฝ้า  เช่นเดียวกับการวางแพทเทิร์นกระเบื้องพื้นครับ

มุมนั่งเล่นอีกมุมครับ  จะมีทั้งหมด 2 ชุด  อยู่กันคนละช่วงเสา

Double Space สูง 7.5 เมตรนะครับ  ตรงนี้เป็นเคาท์เตอร์ต้อนรับ

แหงนดูโคมแชนเดอเลียด้านบนสักหน่อย

ภายในห้องจดหมาย  จะใช้ไฟ up light ด้านใต้ตู้  ดูลอยๆ ดีเหมือนกัน

ถัดจากพื้นที่นั่งเล่นในล็อบบี้ทั้ง 2 จุด  เดินเข้ามาด้านในสุดก็จะเป็นโถงลิฟต์ครับ  มีแชนเดอเลียห้อยด้านบนอีกเช่นกัน  ในโถงลิฟต์นี่ทำมาเรียบๆ  ไม่ได้เน้นตกแต่งอะไรมาก

.

ว่าแล้วเราก็กดลิฟต์ขึ้นมาที่ชั้น 50 ครับ  ลิฟต์ตัวนี้จะเป็น Hi-speed Lift  โดยปกติเวลาแวะมารีวิวตึกเสร็จ  ผมจะชอบกดจับเวลาลิฟต์จากชั้นล่างสุดมาถึงชั้นบนสุด  แต่วันที่ไปรีวิวมีคนขึ้นลงระหว่างชั้นหลายรอบ  เลยไม่มีโอกาสจับเวลามาให้ดูกัน  แต่วัดจากความรู้สึกก็ถือว่าไม่นานมาก

โถงลิฟต์ชั้น Facilities จะตกแต่งโดยใช้แกรนิตสิดำปูยาวขึ้นไปเลย  ดูเรียบๆ นิ่งๆ

ออกมาก็จะเจอสระว่ายน้ำครับ  ถือเป็นจุดไฮไลท์อีกจุดของ Park 24

มุมตรง Outdoor Deck มีเตียงให้นอนเล่น  หันหน้าไปทางสุขุมวิทครับ

เวลานอนก็จะเห็นมุมเส้นขอบฟ้าประมาณนี้

ด้านหลัังก็มีที่นั่งอีก 3 ชุดครับ  บริเวณขอบอาคารจะกั้นด้วยราวกันตกกระจก  เลยสามารถมองทะลุไปด้านล่างได้  โล่งๆ

กลับมาดูที่สระว่ายน้ำกันอีกฝั่งครับ

เวลาว่ายก็จะเห็นมุมนี้นะครับ

ตรงส่วนนี้เป็นจุดที่กั้นสระว่ายน้ำ lap pool ปกติ  กับสระเด็กและจากุชชี่  ก็ดีไซน์เป็น feature แท่งสแตนเลส  ที่มีน้ำพุเล็กๆ ผุดขึ้นมา

ส่วนฝั่งที่นั่งโซนที่เป็นสระเด็กครับ

จุดนี้จะมองเห็นโค้งน้ำตรงบางกระเจ้าด้วย

เข้ามาด้านในห้องน้ำ  จะมี Sauna room ทั้งห้องน้ำหญิงและชาย  ในห้องน้ำชายจะใช้โทนสีกระเบื้องเป็นสีเทาเข้ม

ส่วนห้องน้ำหญิงก็จะหวานๆ หน่อย   เป็นสีครีมอมน้ำตาลครับ

.

กดลิฟต์ลงมาที่ชั้น 49 กันครับ  ออกจากลิฟต์ก็จะเป็นฟิตเนส

ถ่ายย้อนไปอีกด้าน

มุม free weight และก็เครื่ีองออกกำลังกายบางส่วน

มาถึงลู่วิ่ง  ลองกดดู  จะมีโปรแกรมจำลองเสมือนว่าเราไปวิ่งอยู่ในสถานที่จริงๆ  ด้วย

ความเก๋อีกแบบของโปรแกรมที่ตั้งเอาไว้คือ เจ้าลู่วิ่ง 3 ตัวนี้สามารถตั้งโปรแกรม  แล้ววิ่งแข่งกับเพื่อนได้ด้วย  เป็นลูกเล่นแก้เบื่อเวลามาออกกำลังกายหลายคนได้

ส่วนนี้เป็น Boxing room ครับ  มีเวทีให้เสร็จสรรพ

อีกด้านเป็นห้องสำหรับกิจกรรมพวกโยคะ  หรือเต้นก็ได้ครับ  มีกระจกให้เช็คเงาและท่าทางของตัวเองพร้อม  แต่ลักษณะการใช้งานจริงคงเหมาะกับการเต้นอย่างเดียว  ถ้าอยากเล่นเป็นโยคะ  แนะนำให้ไปเล่นห้องที่ทาวเวอร์ 3 จะเหมาะกว่า  เพราะสเปซส่วนห้องนี้เดินเชื่อมถึงกับห้องชกมวยซึ่งเป็น active activity  ผมว่าถ้าจะเล่นโยคะน่าจะต้องใช้สมาธิแบบไม่มีเสียงรบกวน

ด้านข้างมี Monkey bar ไว้ให้โหนเล่นออกกำลังกาย

อีกฝั่งของห้องชั้นนี้จะเป็นห้อง Library & Living Room ครับ  ภายในก็ตกแต่งเรียบๆ  บรรยากาศดูผู้ดีๆ หน่อย  ด้านหนึ่งจะเป็นโต๊ะยาว

อีกฝั่งเป็นโซฟาใหญ่สำหรับนั่งเล่น  เป็นโซฟาดูดวิญญาณของแท้

สำหรับ Facilities ทาวเวอร์ 3  จะอยู่ที่ชั้น 2 กับชั้น 28 ครับ  ที่ชั้น 2   การแบ่งฟังก์ชั่นจริงๆ จะต่างกับในแปลนพอควร  ตรงห้อง Yoga Studio จะทำเป็นห้องเด็ก (Kid room)  ส่วนห้อง Library & Living room จะทำเป็นห้องโยคะ-บัลเล่ต์-แดนซ์ แทน  ส่วนตรงห้องเก็บของและห้องเครื่อง M&E  จะทำเป็นห้องตีปิงปองครับ   โดยด้านนอกจะเป็นสวนที่อยู่บนหลังคาเชื่อมระหว่าง 2 ทาวเวอร์

ที่ชั้น 28 ก็จะเป็นสระว่ายน้ำยาว 40 เมตร โดยแยกสระเด็กและจากุชชี่เหมือนกันครับ  รวมถึงมี Outdoor Deck ด้วย  การจัดฟังก์ชั่นเป็นแบบเดียวกับชั้นสระว่ายน้ำของทาวเวอร์ 2  แต่จะหันหน้าออกไปทางทิศตะวันตก  ซึ่งเป็นวิวของสวนเบญจกิตติและโรงงานยาสูบนั่นเอง

.

.

เราไปดูรูปของ facilities ตึก 3 กันต่อเลยครับ

สเปซตรงนี้เป็น semi-outdoor ที่เชื่อมทาวเวอร์ 2 กับทาวเวอร์ 3 เข้าด้วยกัน

มีลิต์ที่ขึ้นมาจากที่จอดรถด้วย  เพราะฉะนั้นถ้ามาจากที่จอดรถ  แม้ว่าทางลงจะอยู่ตรงทาวเวอร์ 3  แต่ระยะการเดินจะไม่ต่างกันครับ  อยู่ทาวเวอร์ 2 ก็เดินระยะพอๆ กัน

ในส่วนต้อนรับของล็อบบี้ทาวเวอร์ 3 จะฝังไฟ LEED เป็นลวดลายกราฟิก  ด้านบนเป็นแชนเดอเลียเช่นกัน

มุมนั่งเล่นครับ  วอลล์เปเปอร์กราฟิกคนละลาย  แต่ได้ Mood&Tone เดียวกันทั้ง 2 ทาวเวอร์

มุมนี้มองออกไปด้านนอก  จะเห็นน้ำพุตรงสวนด้านหน้าที่วนรถ drop-off พอดี

ส่วนนั่งเล่นอีกโถงติดกันครับ

ด้านหลังของทาวเวอร์ 3 จะอยู่ใกล้กับทางออกฝั่งสุขุมวิท 22  ซึ่งจะมีที่นั่งเล่น outdoor แล้วก็มีสวนสีเขียว  เป็น buffer กั้นระหว่างตัวอาคารกับความวุ่นวายในซอยสุขุมวิท 22 ครับ

มุมนั่งเล่น outdoor อีกฝั่ง

เรากดลิฟต์ขึ้นไปดูชั้น facilities กันดีกว่าครับ  โถงลิฟต์ก็ตกแต่งเรียบๆ เช่นเคย

.

ส่วนสระว่ายน้ำของ Park 24  ทาวเวอร์ 3  จะอยู่ที่ชั้น 28 นะครับ

สเปซตรงทางเดินริมสระ

สระของทาวเวอร์ 3 มองไปจะเห็นตึกข้างเคียงอยู่บ้างนะ  เพราะว่าอยู่ชั้นไม่สูงมาก  แต่รวมๆ บรรยากาศก็ยังดีมากอยู่

สระของตึกนี้หันทางทิศตะวันตกนะครับ  ตอนที่ขึ้นไปชั้น 28  เป็นช่วงบ่ายแก่ๆ พอดี  เลยได้เห็นเอฟเฟคที่มีแสงแดดบ่ายลอดผ่านฟินแนวตั้งของตัวอาคารเข้ามา  ก็เกิดแสงเงาที่เป็นจังหวะสวยงามครับ

มุมหน้าตรงเวลาว่ายน้ำ

Feature ที่กั้นพื้นที่ส่วนสระ lap pool และสระเด็กกับจากุชชี่  จะเป็นน้ำพุขึ้นมาครับ

อีกมุมหนึ่ง  แสงสวยเชียว  (ผมไม่ชอบสีคอนโดฝั่งตรงข้ามเอาซะเลย 5555 ><” )

ช่วงเย็นๆ ชาวต่างชาติน่าจะชอบมุมนี้ครับ  ได้นอนอาบแดดด้วย  แต่คนไทยน่าจะชอบใช้สระทาวเวอร์ 2 มากกว่า  เพราะบ่ายๆ เย็นๆ ไม่ร้อน

มองกลับเข้าไปตรงส่วนนั่งเล่นพักผ่อน

สีกระเบื้องสระนี่มีส่วนสำคัญมากในการคุม mood & tone ของสระว่ายน้ำนะครับ

ส่วนนี่ห้องน้ำชาย  ใช้กระเบื้องโทนสีเทาเข้มเช่นกัน

ห้องน้ำหญิงก็เป็นโทนครีมน้ำตาล  มี sauna room ให้

ว่าแล้วก็กดลิฟต์ลงมาที่ชั้น 2 ครับ  ลิฟต์ที่นี่จะเป็นปุ่มกดแบบ touch screen

ในแต่ละทาวเวอร์ จะมีลิฟต์ตัวหนึ่งที่มีปุ่มกดสำหรับคนพิการอยู่ด้วยครับ  โดยจะติดไว้ในตำแหน่งที่ต่ำกว่าจอ  touch screen ปกติ  เพื่อให้คนที่นั่งวิลแชร์สามารถใช้งานได้ด้วยตัวเอง

ลงมาถึงชั้น 2 กันแล้ว  ห้องฟิตเนสครับ

มีส่วน machine ออกกำลังกาย

ผมว่าส่วนเครื่องเล่น machine ฟิตเนสทาวเวอร์ 2 จะเยอะกว่าทาวเวอร์ 3 หน่อย

ส่วนนี้เป็น Free Weight  พื้นที่พอๆ กัน

อีกมุมครับ

มีห้องเด็กเล่นด้วย

ฟังก์ชั่นที่มีเฉพาะตึกนี้ครับ  ห้องตีปิงปอง

ความพิเศษอยู่ที่ … ตีปิงปองคนเดียวได้จ้าาาา!!! … สำหรับคนโสดก็มาตีปิงปองกับเน็ตวนไปคนเดียวก็ได้นะครับ  555  T^T

แล้วก็มีห้องโยคะ  ที่กิจกรรมได้หลากหลาย  ทั้งบัลเล่ต์  หรือแดนซ์ประเภทต่างๆ ก็ได้ครับ  อย่างที่เล่าไปว่าถ้าจะเล่นโยคะ  ผมว่าห้องนี้ในทาวเวอร์ 3 เหมาะกว่าที่ทาวเวอร์ 2 ครับ   เพราะสเปซแยกเป็นห้องชัดเจน  เงียบกว่า  ซึ่งเหมาะกับการใช้สมาธิมากกว่าครับ

มี Monkey Bar ใช้เช่นกัน

.

.

Typical Floor Plan ทาวเวอร์ 2 ชั้น 4-40 

คอนโด พาร์ค 24 สุขุมวิท 24

รูปทรงอาคารของ Tower 2 จะเป็นสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนครับ  รูปแปลนของห้องที่อยู่ตรงกลางจะเป็นสี่เหลี่ยมตามปกติ ส่วนห้องมุมทั้ง 4 ห้อง ที่เป็นแบบ 2 ห้องนอน  จะมีแนวผนังและแนวระเบียงด้านนอกตัดเฉียงเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน  จะสังเกตว่าห้องที่นี่จะทำขนาดไม่ใหญ่มาก  แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ก็จะอยู่ประมาณ 50 ตร.ม.ต้นๆ เท่านั้น

ใน Tower 2 นั้น Typical Floor Plan จะอยู่ที่ชั้น 4-40 ครับ

ห้องขนาดเล็กสุดเป็นแบบ 1 ห้องนอน 27.77 ตร.ม.  ในแต่ละชั้นนั้นจำนวนยูนิตค่อนข้างน้อย  มีความส่วนตัวสูงเพราะมีแค่ชั้นละ 12 ยูนิตเท่านั้นครับ  ซึ่งก็เป็นไปตามสูตรของ luxury Condo ทั้งหลาย

Typical Floor Plan ทาวเวอร์ 2 ชั้น 43/45/47  และ 44/46/48 (Duplex)

คอนโด พาร์ค 24  สุขุมวิท 24

ที่ชั้น 43-48 จะมีห้อง Duplex ที่มี 2 ห้องนอนอยู่ชั้นละ 3 ห้องครับ  แต่ลักษณะของกรอบอาคารก็ยังเป็นรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูนเหมือนเดิม

Typical Floor Plan ทาวเวอร์ 3 ชั้น 3-27

คอนโด Park 24 สุขุมวิท 24

สำหรับ Tower 3 ของ Park  24 ตัวแปลนอาคารจะเป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าครับ  ความหนาแน่นก็มีแค่ 12 ยูนิตต่อชั้นเช่นกัน  ขนาดห้องเริ่มต้นของตึกนี้จะใหญ่กว่านิดนึง  อยู่ที่ 28.58 ตร.ม. แต่ก็ไม่ได้มีความต่างที่เป็นนัยยะสำคัญอะไรครับ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนห้องของ Park 24 จัดแบบ compact space ครับ  เน้นการใช้พื้นที่กลางเมืองที่แสนแพงให้เป็นประโยชน์มากที่สุด  ระยะการใช้งานและขนาดพื้นที่ใช้สอยต่างๆ จึงจัดออกมาพอดีๆ ไม่ได้เหลือสเปซเปล่าเยอะ

แปลนห้องคอนโด Park 24

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.77 ตารางเมตร

รูปแบบนี้เป็นแปลนห้องมาตรฐานของ Park 24 ครับ  ขนาดกระทัดรัด  ไม่ใหญ่มาก  เน้นประสิทธิภาพของการใช้สเปซ  ถ้าลองดูใน Floor Plan ขนาดของห้องแต่ละห้องจะต่างกันบ้างนิดหน่อย  แต่ก็ไม่เป็นนัยยะสำคัญอะไร  ห้องนั้นหน้ากว้าง 4.10 เมตร  วางแปลนโดยบีบห้องน้ำออกเป็นแนวยาวและแยกส่วนโถสุขภัณฑ์กับส่วนอาบน้ำออกจากกัน  ดูแปลกตาอยู่บ้าง  แต่ข้อดีของแปลนแบบนี้คือสามารถใช้ห้องน้ำพร้อมกัน 2 คนเลย สำหรับช่วงเวลาเร่งรีบตอนเช้าๆ

ลักษณะของการจัดฟังก์ชั่นของแบบนี้จะเป็นกึ่งๆสตูดิโอที่เอามากั้นเป็น 1 ห้องนอน  แปลนแบบนี้จะมี option ที่สามารถเลือกจะเอาประตูเลื่อนกั้นสเปซส่วนนอนหรือไม่ก็ได้  โดยประตูที่โครงการทำมาเป็นลักษณะบานทึบตรงกลาง  มีโปร่งด้านบนและด้านล่าง (เดี๋ยวดูรูปในส่วนวัสดุนะครับ)  แต่ถ้าถามผม  ส่วนตัวแล้วแนะนำว่าไม่เอาบานเลือนจะดีกว่า  แสงธรรมชาติจะได้เข้ามาถึงส่วนรับประทานอาหารได้ด้วย  ถ้าอยากกั้นสเปซจริงๆ  มาทำเป็นบานเลื่อนกระจกเองดีกว่า  ลงทุนเพิ่มหน่อยแต่จะได้สเปซที่โปร่งขึ้นครับ

แปลนห้องคอนโด Park 24

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 54.14 ตารางเมตร

แปลนห้องนี้เป็น 2 ห้องนอน ตรงหัวมุมครับ  เลยจะมีแนวผนังและระเบียงที่ถูกตัดเฉียงเป็นรูปสีเหลี่ยมคางหมูอยู่  การแบ่งสเปซก็ทำได้ค่อนข้างโอเค  มีห้องน้ำที่สามารถเข้าได้จากห้องนอนทั้ง 2 ห้อง  แม้รูปร่างห้องน้ำจะดูแปลกๆ อยู่  แต่เท่าที่ลองไปเดินดูสเปซจากห้องตัวอย่างจริง  ก็ไม่ได้ติดขัดอะไรนะครับ

แปลนห้องคอนโด Park 24

แบบ 2 ห้องนอน 51.83 ตารางเมตร

Type นี้ก็เป็นแบบ 2 ห้องนอนอีกห้องครับ  วางแปลนได้สวยและค่อนข้างเคลียร์  ผนังด้านข้างที่ถูกตัดเฉียงก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับสเปซ  เนื่องจากเป็นส่วนของตู้เสื้อผ้า  ทำ Built-in ปิดก็เรียบร้อย  โดยที่ลักษณะของห้องน้ำในแบบนี้จะคล้ายกับแบบ 1 ห้องนอน  คือแยกส่วนที่เป็นส่วนอาบน้ำ  และโถสุขภัณฑ์ออกจากกัน  ให้สามารถใช้ห้องน้ำพร้อมกันได้นั่นเอง  ห้องแบบนี้จะได้ระเบียงที่ยาวต่อเนื่องกันด้วย  และได้แสงธรรมชาติเข้ามาในทุกห้องครับ

แปลนห้องคอนโด Park 24

แบบ Duplex 99.90 ตารางเมตร

แบบ Duplex นี่เป็น 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ  แต่มีขนาดใหญ่กว่าแปลน 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำปกติในโครงการมากครับ  ในโครงการมีแบบนี้ไม่กี่ยูนิต  และแน่นอนว่าคนซื้อยูนิตเหล่านี้ก็ต้องจ่ายสูงมากตามไปด้วย

สัดส่วนการใช้สเปซของแปลนจะแบ่งออกเป็น 2 ฝั่งเท่ากัน  โดยห้องนอนทั้งชั้นบนและชั้นล่างมีขนาดเท่ากันเป๊ะ  รวมถึงขนาดห้องน้ำด้วย  จุดที่น่าสังเกตคือ ห้องนอนชั้น 2 ไมได้ทำกระจกใสมองทะลุลงมาชั้นล่างเหมือนที่นิยมทำกันครับ  ซึ่งก็ทำให้ห้องนอนชั้นบนนั้นเป็นส่วนตัวมากทีเดียว  ด้านพื้นที่นั่งเล่นก็เป็นสเปซเปิดโล่งเชื่อม 2 ชั้น  ถ้ามองดูรวมๆ แล้วก็เหมือนประมาณว่าเอาทาวน์เฮ้าส์เล็กๆ มาตั้งไว้ในคอนโดนั่นแหละครับ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่าง Park 24  ตกแต่งแล้วมีให้ดูอยู่หลายห้องทีเดียวครับ  แต่สไตล์ก็ไม่ได้แตกต่างกันเท่าไหร่  เน้นให้ดูสเปซและการใช้งานจริงมากกว่า ถ้าเป็น พาร์ค 24  เฟส 1 ตอนที่เขียนรีวิวนี้ (ตุลาคม 2560) ขายเป็นแบบ Fully Fitted  ส่วนสำหรับฝ้าเพดานนั้นก็จะสูง 2.7 เมตรนะครับ

ห้องตัวอย่างคอนโด พาร์ค 24 (Park 24)

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 27.77 ตารางเมตร

ห้อง 27 ตร.ม. นี้ผมถ่ายมา 2 ห้องครับ  ข้อแตกต่างนั้นก็คือห้องหนึ่งจะกั้นบานเลื่อนทึบให้  เพื่อให้ห้องเป็นสัดส่วน  แต่ถ้าใครไม่อยากกั้นห้อง  ก็ไม่เอาบานเลื่อนได้  ลักษณะของสเปซในห้องที่ไม่มีบานเลื่อนก็จะเหมือนห้องสตูดิโอนั่นเอง

เริ่มกันที่ห้องที่ไม่มีบานเลื่อนครับ  (เพราะผมชอบแบบนี้มากกว่า 555)

ห้องแบบนี้ฟังก์ชั่นต่างๆ จะถูกจัดวางเรียงกันไป  ตั้งแต่เตียงนอน, โซฟานั่งเล่น, โต๊ะรับประทานอาหาร  ไปจนถึงตู้เสื้อผ้าที่วางชิดผนัง  เป็นสเปซที่เปิดโล่งถึงกันหมด

ขนาดของเฟอร์นิเจอร์  จะวางได้แบบฟิตพอดีๆ  เวลาแต่งห้องต้องคำนึงเรื่องของขนาดด้วยครับ

มาถึงแบบที่กั้นสเปซกันบ้างครับ  แบบนี้ก็จะเป็นสัดเป็นส่วนดี  แต่ว่าด้านใน (ทางเข้าห้อง) ที่เป็นส่วนนั่งรับประทานอาหารกับตู้เสื้อผ้า  ก็จะได้แสงธรรมชาติน้อย  เวลาแต่งห้องผมแนะนำให้ติดโคมไฟสวยๆ บนฝ้าเพดานเพิ่มเพื่อให้แสงสว่างพอเพียงครับ

ดูกันอีกมุม

ด้านในส่วนเตียงและโซฟานั่งเล่นจะอยู่ติดกัน

ห้องตัวอย่างคอนโด พาร์ค 24 (Park 24)

แบบ 2 ห้องนอน ขนาด 54.14 ตารางเมตร

แบบ 2 ห้องนอนที่ผมเข้าไปดูมาเป็นขนาดใหญ่สุดและเป็นห้องมุมครับ  เข้ามาในห้องสเปซส่วนรับประทานอาหารและพักผ่อนก็จะอยู่ต่อเนื่องกัน  ขนาดและสัดส่วนพื้นที่ก็โอเค

มองย้อนกลับไปที่ทางเข้าห้อง  ครัวจะเป็นแบบครัวเปิดครับ  (จริงๆ ทุกห้องใน Park 24 ก็เป็น pantry ครัวเปิดทั้งหมดนั่นแหละนะ)

ในส่วนของห้องนอนใหญ่ครับ

มาถึงห้องน้ำกันบ้าง  ในห้องน้ำนั้นเข้าออกได้จากทั้งห้องนอน 2 ฝั่ง  ด้านนี้มองไปเป็นอ่างล้างมือ

อีกด้านเป็นโถสุขภัณฑ์ครับ

ห้องนอนเล็กครับ  ห้องนี้เหมาะกับวางเตียง 3.5 ฟุต  ถ้าเตียง 5 ฟุตจะแน่นไป

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

ผมชอบวัสดุในห้องน้ำและพื้นลามิเนตครับ  ลามิเนตผิวสัมผัสนั้นดี  หน้ากว้าง 20 ซม. และยาว 2.4 เมตร เห็นตาไม้และลายไม้พองาม  ดูรวมๆ แล้วเหมือนไม้จริงครับ  แต่ทั้งนี้อย่าวัดความคุ้มค่าของวัสดุภายในห้องเทียบกับราคาขายนะครับ  เพราะราคาขายมันคิดจากปัจจัยอื่นๆ เป็นหลัก  ใน price segment แบบนี้  วัสดุนี่แทบไม่มีนัยยะสำคัญเท่าไหร่เลย

ผมขอแยกรีวิววัสดุเป็น 3 ส่วนเพื่อให้ดูง่ายเช่นเคย แบ่งเป็นส่วน Pantry ครัว, ห้องน้ำ และวัสดุทั่วไปกับวัสดุปิดผิวครับ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

เคาน์เตอร์ครัวแบบกระทัดรัดครับ  ไม่ว่าจะเป็นแบบ 1 ห้องนอน หรือ 2 ห้องนอนก็ขนาดไม่ได้ต่างกันมาก  เน้นรูปแบบการทำอาหารแบบ cooking เบาๆ ไม่ได้ทำแบบจริงจังมาก

พื้นที่ภายใน  เก็บของได้นิดหน่อย

เตาเซรามิค 2 หัว ของ Teka

อ่างล้างจานเป็นแบบฝังใต้เคาน์เตอร์ที่เป็นแกรนิตสีดำครับ  ลักษณะจะแคบหน่อย  ล้างภาชนะที่กว้างมากจะต้องตะแคงนิดนึง

Hood นี่เป็นแบบ Super Slim มากๆ  ฝั่งเข้าไปในตู้ให้เลย

เวลาปิดแล้วดูเรียบร้อยดี  ดีไซน์ของขอบ Hood ปาดเฉียง  ถ้าดูด้วยระดับสายตานี่เนียนมาก

ผิวสัมผัสของวัสดุก็โอเคนะครับ  ดูแพงใช้ได้  แต่ต้องหมั่นทำความสะอาดและระวังเลอะหน่อย  เพราะเป็นโทนสีอ่อน

Top แกรนิตดำครับ

วัสดุห้องน้ำ

เซตเคาน์เตอร์ในห้องน้ำครับ  เป็นแบบนี้เหมือนกันกับห้องทุกแบบ

ฝักบัวและ Rain Shower ของ Hansgrohe

เคาน์เตอร์และตู้แขวนเป็นเป็นของ Kohler

ลิ้นชักเป็น soft-closed

ก็อก Englefield

กระจกส่องหน้า  เปิดออกมาเป็นตู้เก็บอุปกรณ์ต่างๆ ได้ด้วยครับ  ด้านในบุกระจกเงาทั้งหมด

พื้นกระเบื้องลายหินอ่อน  มีการเซาะร่องกันลื่นให้  เพราะตัวผิวกระเบื้องโดยปกติไม่ได้เป็นผิวหยาบครับ  ถ้าไม่ทำเดี๋ยวลื่นแล้วอันตราย

สุขภัณฑ์ของ Kohler ครับ  ส่วนที่เพิ่มขึ้นมาคืออ่างล้างมือเล็กๆ  ที่ผมเคยรีวิวคอมเม้นท์ไปเมื่อ 4 ปีก่อน ตอนเปิดโครงการใหม่ๆ ว่าต้องเดินกลับไปล้างมืออีกห้อง  มันลำบากในการใช้งาน  ตอนหลังโครงการมาติดให้แล้ว  ก็แก้ปัญหาเรื่องการใช้งานหมดไป

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

บานประตูทางเข้าห้องปิดผิวด้วยลามิเนตครับ

ประตูห้องน้ำเป็นบานเลื่อน  ซึ่งโครงการก็บิ้วผนังซ้อนเข้าไปอีกชั้น  เพื่อซ่อนประตูไว้ด้านหลัง  เลยดูเรียบร้อยดี

Fitting ด้านบนของประตูบานเลื่อนห้องน้ำ

พื้นลามิเนตสัผัส และ texture ดีมาก  เหมือนไม้จริงเลย

Digital Door Lock ของ Yale

กลอนประตูในห้องเป็นมือจับเขาควาย  แข็งแรงดี

บานเลื่อนของแบบ 1 ห้องนอน  ด้านบนกับด้านล่างจะเป็นช่องโล่งนะครับ  fitting ของประตูจะอยู่ด้านบน

ด้านล่างพื้นจะเรียบเลย  ไม่ฝังราง เดินไม่สะดุด

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

วันที่ไปรีวิว Park 24 ตอนตึกเสร็จ  (30 ตุลาคม 2560)  ก็ผ่านไปเกือบ 4 ปีหลังจากเปิดโครงการเมื่อปี 2556 นะครับ  จากวันนั้นจนถึงวันนี้ราคาก็กระโดดขึ้นไปมากมายแล้ว  ปัจจุบันถ้านับยูนิตที่เหลือขาย  ราคาเฉลี่ยก็จะอยู่ที่ 250,000 บาท/ตร.ม.  ซึ่งโดยปกติในระดับราคานี้  คนซื้อจะไม่ได้มองมิติความคุ้มค่าของตัวเงินอย่างเดียว  แต่จะมีเรื่องของ Emotional Benefit เข้ามาเกี่ยวด้วย

ราคาเริ่มต้นยูนิตที่ยังเหลือขายอยู่  เริ่มที่  5.9 ล้านบาท (ราคาโปรโมชั่น)  ส่วนราคาเฉลี่ยก็มีตั้งแต่สองแสนต้นๆ ไปจนถึงสามแสนกว่าต่อตารางเมตรครับ  แต่ละชั้นที่สูงขึ้น  ราคาจะขยับขึ้นประมาณชั้นละ 2,000 บาท/ตร.ม.  ส่วนตึก 2 กับตึก 3 ราคาก็ไม่ได้ต่างกันมากครับ  แล้วแต่เลือกเลย

ส่วนค่าใช้จ่ายอื่นๆ อย่างค่าส่วนกลางก็อยู่ที่ 65 บาท/ตร.ม.  เมื่อเทียบพื่นที่ส่วนกลางที่ให้มากับจำนวน 845 ยูนิต  ก็ต้องจ่ายสูงเป็นธรรมดา  เผื่อให้สามารถดูแลโครงการได้ดีในระยะยาวครับ

ราคา ณ วันที่  30 ตุลาคม 2560

ราคาเริ่มต้น :

1 ห้องนอน  ราคาโปรโมชั่น 5.9 ล้านบาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง 100,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

ไม่มีผ่อนดาวน์  เป็นห้องพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 65  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 2 ปี)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ที่ตั้งของ Park 24  อยู่ระหว่างถนนหลักสำคัญ 3 สาย คือสุขุมวิท, พระราม4 และรัชดาภิเษก  ซึ่งสามารถใช้ซอยย่อยภายในเดินทางได้  ในทำเลใจกลางเมืองแบบนี้จะไปไหนก็ได้ครับ  ปัญหาเรื่องเดียวที่หลีกเลี่ยงไม่ได้คือรถติด  ถ้าวันไหนไม่ไหวกับการจราจรจริงๆ ก็ใช้รถไฟฟ้าได้ครับ  เดินจากหน้าโครงการไปถึง BTS พร้อมพงษ์ ก็ประมาณ 600 เมตร  ขึ้นอยู่กับความแข็งแรงของคนเดินแล้วแหละ  สภาพฟุตบาทในซอยสุขุมวิท 24 จัดว่าดีงาม  ถ้าขี้เกียจเดินก็เรียกใช้บริการพี่วินไป 15-20 บาท (บางทีเรียกก็ 15 บาท บางวันก็ 20 บาท  เดาใจเค้าไม่ถูกเหมือนกัน)

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ปัจจุบันพื้นที่โซนพร้อมพงษ์เป็น Hub ของการช็อปปิ้งเกรดหรูครับ  มี Em District ที่ตอนนี้มี Emporium,  Emquartier และ Emsphere ที่มีแผนก่อสร้างนในอนาคต  มีพื้่นที่สีเขียวอย่างสวนเบญจสิริ  รวมถึงเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของชาวต่างชาติทั้งฝรั่งและญี่ปุ่น  ซึ่งในซอยสุขุมวิท 24  นั้นมีอสังหาริมทรัพย์แทบจะทุกรูปแบบ  ไม่ว่าจะเป็น Retail, Hotel, Serviced Apartment รวมถึง Luxury Condominium อีกหลายโครงการทั้งใหม่และเก่าเลย

ส่วน development ใหม่ๆ ในซอยสุขุมวิท 24  หน้าโครงการ Park 24 เลยจะมี Origin 24 ที่เป็ํนสัญญาเช่า 3+30 ปี  โดยจะพัฒนาเป็น mix- used project  ที่มีทั้ง Hotel, Serviced Apartment, Office และ Retail ครับ  ซึ่งตรงนี้เมื่อเสร็จแล้ว  ก็น่าจะเอื้อประโยชน์โดยตรงกับเจ้า Park 24 อีกมากทีเดียว  เพราะจะทำให้ที่ตั้งตรงนี้การเป็น node มากขึ้นนั่นเองครับ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ที่ดินของ Park 24 (รวมทั้ง 2 เฟส) นั้นมีขนาดใหญ่มาก ประมาณ 12 ไร่  และออกแบบอาคารโดยทำตึกให้สูงชะลูดขึ้นไป  ทำให้ใช้พื้นที่ foot print บนที่ดินน้อย  จึงเหลือส่วนที่เป็น open space เอามาทำถนนและพื้นที่สีเขียวในโครงการได้เยอะมากครับ  ก็ถือเป็นจุดขายหลักอย่างหนึ่งของโครงการตามชื่อ “Park 24” นั่นเอง

ลักษณะของรูปแบบแปลนตึกก็จะเป็นทรงเหลี่ยมผืนผ้าและสีเหลี่ยมคางหมู  วางแปลนเรียบง่าย  รูปทรงของอาคารชัดเจนตรงไปตรงมาตามแบบสถาปัตยกรรมโมเดิร์น  แต่ใช้องค์ประกอบในการตกแต่งอาคารในรูปแบบ Post-modern ที่เป็นแผงฟินอะลูมิเนียมทั้งแนวตั้งและแนวนอน  จุดนี้ทำให้อาคารดูมีเอกลักษณ์ไปอีกแบบ  ถ้าเราลองมองอาคารจากมุมต่างๆ  ตัวแผงฟินอะลูมิเนียมก็จะสร้าง effect ในการมองให้แตกต่างกันออกไปครับ  …  ที่ผมจำได้ตอนรีวิวครั้งแรกที่ยังไม่ได้ก่อสร้าง  ตัวฟินอะลูมิเนียมจะดูถี่กว่านี้  แต่ตึกจริงน่าจะถูกวางตำแหน่งให้ห่างกันมากขึ้น  เพื่อไม่ให้เวลามองออกมาจากในห้องแล้วรู้สึกว่ามีอะไรมาขวางสายตาอยู่มากเกินไปนัก

ในแต่ละชั้นของ พาร์ค 24  จะค่อนข้าง private  มีจำนวนยูนิตน้อยแค่ 12 ยูนิตครับ  แปลนห้องนั้นดูจะจัดวางฟังก์ชั่นออกมาได้แปลกตากว่าคอนโดอื่นๆทั่วๆไป   ลักษณะฟังก์ชั่นและการออกแบบสัดส่วนของสเปซเป็นในลักษณะ compact space  พื้นที่ใช้สอยพอดีกับฟังก์ชั่น  ไม่ได้เหลือสเปซโล่งๆ ที่ไม่ได้ใช้งานเยอะ  เพื่อทำให้ขนาดห้องโดยรวมไม่ใหญ่เกินไปและคุมแพคเกจราคาได้นั่นเอง  แล้วก็ที่นี้ให้เป็น pantry ครัวเปิดทั้งหมดครับ  เหมาะกับ lifestyle แบบทำอาหารแค่เล็กๆ น้อยๆ เบาๆ  ถ้าจะมื้อใหญ่สเปซจะไม่เหมาะนัก   ส่วนสำหรับจุดติที่เคยคอมเมนท์ไว้ตอนรีวิวครั้งแรกว่าเวลาเข้าห้องน้ำแล้วจะต้องเดินออกมาล้างมืออีกห้อง  ซึ่งไม่สะดวกเลย  แต่ตอนตึกเสร็จ  ห้องน้ำก็ได้ติดอ่างล้างมือเล็กๆ เอาไว้แล้ว  ปัญหานี้เลยถูกแก้เรียบร้อย  เป็นอันว่าจบไป

พื้นที่ส่วนกลางของ Park 24  ที่มีมาให้แยกแต่ละอาคารเลย  ซึ่งช่วยกระจายความหนาแน่นได้ครับ  โดยคนที่อยู่ใน พาร์ค 24 เฟสแรก  จะสามารถใช้ facilities บนอาคารได้ทั้งทาวเวอร์ 2 และทาวเวอร์ 3  ….  ซึ่งทาวเวอร์ 3 นั้นสัดส่วนความหนาแน่นของการใช้พื้นที่ส่วนเทียบจำนวนยูนิตจะหลวมกว่าทาวเวอร์ 2 พอสมควร  สระว่ายน้ำ Lap Pool ยาว 40 เมตรนี่ถูกใจคนชอบว่ายน้ำออกกำลังกายแบบจริงจังแน่นอน   สำหรับพื้นที่ส่วนกลางบางจุดจะมีเฉพาะแต่ละอาคารไม่เหมือนกัน  เช่น  ห้องเด็ก, ห้องตีปิงปอง  จะอยู่ในทาวเวอร์ 3  ส่วนห้องชกมวย, ห้องสมุดและห้องพักผ่อนจะอยู่ทาวเวอร์ 2 เท่านั้น   ส่วนฟังก์ชั่นที่มีทั้ง 2 ทาวเวอร์ก็มีฟิตเนส และห้องโยคะ-บัลเล่ต์-แดนซ์ ครับ

สำหรับวิวจาก Facilities นั้น  ถ้าเป็นทาวเวอร์ 2 จะหันไปทางสุขุมวิททั้งหมด  ส่วนทาวเวอร์ 3 ชั้นสระว่ายน้ำจะได้วิวไปทางสวนเบญจกิติครับ  ถ้าเป็นส่วนฟิตเนสทาวเวอร์ 3 จะอยู่ที่ชั้น 2  ไม่ค่อยได้วิวอะไร  ด้านสัดส่วนการใช้งานลิฟต์  เฉลี่ยโดยรวมทั้ง 2 ทาวเวอร์จะได้ 139 ยูนิต ต่อลิฟต์โดยสาร 1 ตัว  ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดี  มีลิฟต์เซอร์วิสแยกให้ทั้ง 2 อาคาร  การวางที่จอดรถไว้ที่ชั้นใต้ดิน  ก็ทำให้สามารถเปิดพื้นที่สีเขียวเป็นสวนได้เยอะดีครับ

Score Summary

เดิมทีเมื่อ 4 ปีก่อน  เราคุยกันตอน Park 24  ราคาเริ่มต้นยังต่ำกว่าหลัก 2 แสนบาทต่อตารางเมตร  ซึ่งยังวิเคราะห์ให้คะแนนในเชิงความคุ้มค่าของเงินได้อยู่  แต่ในปัจจุบันระดับราคาที่ปรับขึ้นอย่างมาก  จนทะลุไปแตะที่เฉลี่ย 250,000 บาท/ตร.ม.  เราเลยต้องจัดคอนโดนี้ไปอยู่ในกลุ่มที่มีน้ำหนักการซื้อหาด้วยปัจจัยที่จับต้องไม่ได้  อย่าง Emotional Benefit  หรือไม่ว่าจะเป็นความภาคภูมิใจส่วนตัวที่ได้ครอบครองเป็นหลัก   ซึ่งคอนโดในกลุ่มนี้ทีมงานเราจะไม่ได้เกรดให้คะแนนออกมานะครับ   ถือว่าถ้าชอบ อยากได้  ก็ซื้อเลย  จบ… 5555

ลาไปก่อนครับ สวัสดี  ^____^

Additional Info

ข้อมูลเพิ่มเติม ณ พ.ย. 60 โครงการมีแคมเปญอยุ่ฟรี 1 ปี  ลงทะเบียนสิทธิ์และส่วนลด 100,000 บาท  >> https://goo.gl/GYufd8

ข้อมูลและข่าวจากโครงการเพิ่มเติม

facebook : park24condo

youtube : park24condo

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆครับ  เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆเข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นครับ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ