ไนท์แฟรงค์ เผยสถิติตลาดคอนโดชะอำ-หัวหิน 9 เดือนแรกปี 2561
· ~ 1 min readไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย (Knight Frank) บริษัทที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์เปิดเผยข้อมูลตลาดคอนโดมิเนียมในเขต ชะอำ-หัวหิน ช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2561 ที่ผ่านมาโดยชี้ว่าตลาดคอนโดในชะอำ และหัวหินมีสัญญาณที่ดีขึ้น หลังจากที่ตลาดชะลอตัวมาหลายปี ซึ่งจากการสำรวจและวิจัยของ ไนท์แฟรงค์ประเทศไทย พบว่าช่วงมกราคม ถึงกันยายน 2561 มีคอนโดใหม่เกิดขึ้น 1,041 ยูนิต เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว 164% โดยส่วนใหญ่เป็นคอนโดที่เกิดจากดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่จากกรุงเทพมหานครที่หันมาลงทุนในตลาดชะอำ-หัวหินมากขึ้น
สำหรับพื้นที่ที่ดีเวลลอปเปอร์มักหันมาลงทุนส่วนใหญ่จะเป็นโครงการในเมือง เนื่องจากราคาที่ดินติดทะเลเริ่มหายาก และมีราคาสูงขึ้น ผู้ประกอบการจึงหันมาลงทุนในตลาดคอนโดเมืองโดยชูจุดขายด้านความสะดวกสบายรอบๆโครงการ ตลอดจนรูปแบบโครงการที่ตอบโจทย์ผู้ซื้อมากขึ้นแทน
ในด้านความต้องการซื้อคอนโดของลูกค้าในช่วง 9 เดือนแรกนั้นพบว่ามียอดขายคอนโดไปแล้วกว่า 75% ซึ่งปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากชื่อเสียงของดีเวลลอปเปอร์ผู้พัฒนาโครงการ รวมถึงจุดขายด้านทำเล และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆรอบๆโครงการ ในขณะที่ผู้ซื้อคอนโดในตลาดนี้หลักๆยังคงเป็นคนไทยที่ซื้อไว้เพื่อใช้เป็นบ้านพักตากอากาศ หรือเพื่อปล่อยเช่าเป็นส่วนใหญ่
สำหรับราคาของคอนโดเปิดใหม่ในตลาดชะอำ-หัวหินช่วง มกราคม ถึงกันยายน ที่ผ่านมาพบว่าคอนโดมีราคาเฉลี่ยอยู่ที่ 96,000 บาท/ตารางเมตร ซึ่งลดลงจากปีที่แล้วประมาณ 9% ซึ่งสาเหตุเกิดจากโครงการใหม่ที่เปิดตัวไปอยู่ใน segment และทำเลที่ด้อยกว่าโครงการที่เปิดตัวในปีก่อนหน้า
ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ยังพูดถุึงตลาดคอนโดมิเนียมช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี โดยคาดการณ์ว่าจะมีคอนโดเกิดขึ้นใหม่อีก 200-300 ยูนิต ซึ่งมองว่าเป็นผลดีในแง่ของการรักษาสมดุลตลาดหลังจากผ่านช่วงชะลอตัวมาได้ไม่นาน แต่ทั้งนี้ปัจจัยที่อาจส่งผลลบต่อตลาดคือ นโยบาย Macroprudential สำหรับสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยซึ่งเสนอโดยธนาคารแห่งประเทศไทย โดยจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2562 เป็นต้นไป ซึ่งไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย คาดการณ์ว่านโยบายดังกล่าว อาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อลูกค้าคนไทยที่ต้องการซื้อคอนโดเพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศ หรือเพื่อการลงทุนปล่อยเช่า