รีวิววันนี้จะพาไปดูโครงการบ้านเดี่ยวโซนร่มเกล้า ที่โครงการ ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง (Passorn Romklao-Ramkhamhaeng) ค่ะ  โครงการนี้มีจุดเด่นที่เป็นบ้านเดี่ยวซึ่งอยู่ใกล้กับจุดตัดของรถไฟฟ้าสายสีชมพูกับสีส้มในระยะที่ไม่ไกลมาก  ภายในโครงการก็จะเน้นพื้นที่สีเขียวเพื่อสร้างบรรยากาศน่าพักผ่อนและมีความเป็นส่วนตัว ห่างไกลจากความวุ่นวายเนื่องจากตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยร่มเกล้า 6/1 ห่างจากแนวถนนร่มเกล้าประมาณ 2 กม. ค่ะ

Passorn ร่มเกล้า-รามคำแหง มีการดีไซน์บ้านซีรี่ย์ใหม่เป็นสไตล์ Modern Heritage Luxury ที่ใช้ศิลปะความงามของตะวันตกและตะวันออกมาผสมเข้าด้วยกัน ตัวบ้านมีให้เลือก 4 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอยมีให้เลือกตั้งแต่ 133-179 ตร.ม. ซึ่งโครงการนี้มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.วา ค่ะ ฟังก์ชั่นหลักภายในบ้านเป็นบ้าน 3 ห้องนอน  แต่มีรายละเอียดในการวางแปลนแต่ละแบบต่างกันอยู่บ้างค่ะ

ใครที่หาบ้านเดี่ยวในโซนร่มเกล้าอยู่  ตามอ่านรีวิวของ ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง ที่เรานำมาฝากกันเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกนะคะ

ข้อมูลโครงการเบื้องต้น

ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง
(Passorn Romklao-Ramkhamhaeng)

• เจ้าของโครงการ >>> บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน)
• ที่ตั้งโครงการ >>> ซอยร่มเกล้า 6/1 ถนนร่มเกล้า เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร
• ขนาดที่ดิน >>> 96-0-45.5 ไร่
• ประเภท >>> บ้านเดี่ยว 2 ชั้น
• จำนวนหลัง >>> 427 หลัง
• ที่ดินเริ่มต้น >>> 50 ตร.วา
• พื้นที่ใช้สอย >>>
  • Perkins >>> 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 พื้นที่อเนกประสงค์, 2 ที่จอดรถในร่ม / 179 ตารางเมตร
  • Porter >>> 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถในร่ม / 167 ตารางเมตร
  • Elsie >>> 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถในร่ม / 142 ตารางเมตร
  • Pixie >>> 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถในร่ม / 133 ตารางเมตร
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>> 4.xx ล้านบาท (เนื้อที่ดิน 50 ตารางวา ณ วันที่ 19/08/2019)
• พิกัด GPS >>> 13.7878821,100.7271993
• เว็ปไซต์โครงการ >>> คลิกที่นี่
• ติดต่อโครงการ >>> 1739

โครงการภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง ตั้งอยู่ในซอยร่มเกล้า 6/1  เราสามารถเดินทางมาได้หลากหลายเส้นทางค่ะ ไม่ว่าจะเป็นถนนร่มเกล้า ถนนรามคำแหง หรือถนนสุวินทวงศ์  ในอนาคตจะมีแนวรถไฟฟ้าสายสีส้มผ่านใกล้ๆ โครงการ  โดยมีสถานีมีนบุรีอยู่ใกล้ที่สุด  ห่างออกไปประมาณ 2 กิโลเมตร ค่ะ  เรื่องอาหารการกินและสิ่งอำนวยความสะดวกในย่านนี้ส่วนมากจะเป็นตลาดและพวก Hypermarket อย่าง Tesco Lotus และ Big C ค่ะ

(คลิกเพื่อขยายรูปได้นะคะ)

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราใช้เส้นทางมอเตอร์เวย์ กรุงเทพ-ชลบุรี เดินทางไปยังโครงการ ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง ค่ะ  โดยจะเลี้ยวซ้ายเข้าถนนร่มเกล้าแล้วให้ขับตรงไปอีกประมาณ 7 กม.  จากนั้นเข้าซอยร่มเกล้า 6/1 ทางซ้ายมือ  และตรงไปอีกประมาณ 2 กม. ก็จะถึงโครงการค่ะ

ตัวโครงการจะอยู่สุดซอยเลยค่ะ  ด้านหน้ามีซุ้มทางเข้าใหญ่โดดเด่นมาก  เห็นชัดมาแต่ไกลเลย

มาดูตำแหน่งรอบโครงการก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ทำเลร่มเกล้าเป็นพื้นที่ที่มีการใช้ที่ดินหลายรูปแบบค่ะ มีการผสมผสานกันระหว่างพื้นที่อยู่อาศัยกับพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงที่ดินเปล่ารอการพัฒนาอีกพอสมควร ทำให้ถนนร่มเกล้าเองเป็นโซนที่มีรถบรรทุกวิ่งผ่านค่อนข้างเยอะ  แต่ด้วยความที่ตำแหน่งที่ตั้งโครงการ ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง อยู่ถัดเข้ามาในซอยร่มเกล้า 6/1 ประมาณ 2 กิโลเมตร ก็ทำให้บรรยากาศโดยรอบไม่วุ่นวาย  และค่อนข้างเงียบสงบค่ะ

ตำแหน่งที่ตั้งของโครงการ ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง  จะสามารถเดินทางออกไปทางชลบุรีและฉะเชิงเทราได้สะดวก  สามารถไปสุวรรณภูมิได้ไม่ลำบาก  โดยที่โครงการเองก็เคลมว่าตำแหน่งที่ตั้งนั้นอยู่ในระยะพ้นจากแนวเส้นเสียงของเส้นทางขึ้นลงเครื่องบินค่ะ  ส่วนถ้าหากใครจะเข้าเมืองก็สามารถเดินทางได้ 2 ทิศทางหลักๆ คือ ใช้เส้นรามคำแหง  หรือว่าวิ่งตามถนนบางนา-ตราด ก็ได้นะคะ

ในอนาคตจะมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีส้มและสายสีชมพูที่กำลังก่อสร้างไม่ห่างจากโครงการมากนัก  โดยสถานีที่ใกล้ที่สุดคือสถานีมีนบุรีซึ่งถือเป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์ของรถไฟฟ้าทั้ง 2 สาย พอดี  โดยตามกำหนดแล้วรถไฟฟ้าสายสีชมพูจะสร้างเสร็จในปี 64  ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้มคาดว่าจะแล้วเสร็จเปิดให้บริการกันในปี 66 ก็ต้องอดใจรอกันหน่อยนะคะ นอกจากรถไฟฟ้าทั้ง 2 สายแล้ว ก็ยังมีแอร์พอร์ตลิงค์สถานีลาดกระบังอยู่อีกด้วย

ถ้าเราลองดูภาพด้านบน  จะเห็นว่าความคึกคักและอุดมสมบูรณ์ในโซนนี้จะกระจุกตัวอยู่ตรงช่วงแยกมีนบุรีรวมถึงรามคำแหงช่วงปลายค่ะ  แหล่งจับจ่ายใช้สอยมีทั้ง Big C, Tesco Lotus และ Home Pro  รวมถึงมีตลาดใหญ่อย่างตลาดมีนบุรีที่บรรยากาศคึกคักคนเยอะตลอดเวลา  หรือถ้าไม่อยากไปไหนไกลตรงปากซอยร่มเกล้า 6/1 ก็จะมีตลาดทวีทรัพย์ พลาซ่า มีนบุรี เป็นตลาดสดให้จับจ่ายใช้สอยกันได้ค่ะ  นอกจากนี้ถนนร่มเกล้าเองก็มีมหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า อยู่ไม่ไกลจากโครงการนัก ส่วนถ้าเจ็บป่วยโรงพยาบาลใกล้โครงการที่สุดจะเป็นโรงพยาบาลนวมินทร์ 9 อยู่เลยตลาดมีนบุรีไปหน่อยนะคะ

ซูมเข้ามาดูใกล้ๆ โครงการกันมากขึ้น เพื่อนบ้านรอบๆ โครงการส่วนใหญ่เป็นหมู่บ้านโครงการต่างๆ และที่ดินเปล่า คนที่ผ่านไปมาในถนนเส้นนี้จึงเป็นคนที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้าน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวสูง ภายในซอยมีร้าน 7-11 อยู่ประมาณกลางซอย เราสามารถปั่นจักรยานออกมาซื้อของได้สะดวก

สภาพแวดล้อมรอบโครงการ

กางแผนที่ดูกันไปแล้ว ถึงเวลาที่เราจะไปดูบรรยากาศรอบๆ กันบ้างนะคะ ขอเริ่มกันที่ถนนร่มเกล้ากันก่อนเลย

บริเวณหน้าปากซอยร่มเกล้า 6/1 ก็มี 7-11 อีกแล้ว

ติดๆ กันเป็นตลาดทวีทรัพย์ พลาซ่า ร่มเกล้า เป็นตลาดสดสเกลระดับชุมชน มีร้านอาหาร ร้านค้าอยู่ภายใน

ม.เกษมบัณฑิต วิทยาเขตร่มเกล้า จะอยู่ติดถนนใหญ่เลยค่ะ

ใกล้ๆ กันเป็น Big C Supercenter สาขาร่มเกล้า  มาซื้อของเข้าบ้านที่นี่ก็สะดวกดีนะคะ

ถ้ามาจากมอเตอร์เวย์  ก่อนถึงแยกตัดกับถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า จะมีโรงเรียนสารสาสน์วิเทศ ร่มเกล้า เป็นโรงเรียนใหญ่ในโซนนี้ค่ะ

มาส่องบรรยากาศกันทางฝั่งถนนรามคำแหงตอนปลายกันต่อ จะเริ่มตั้งแต่ช่วงใกล้แยกร่มเกล้า-รามคำแหง

ติดกับสี่แยกเป็น ไทวัสดุ สาขามีนบุรี

ขยับมาหน่อยจะเป็นที่ตั้งของ Big C สุขาภิบาล 3

ติดๆ กันเป็น Tesco Lotus สาขาสุขาภิบาล 3

ซึ่งภายในมี Homepro ตั้งอยู่ในพื้นที่เดียวกัน

เส้นสุดท้ายที่เราจะไปชมกัน คือ ถนนสีหบุรานุกิจ เป็นเส้นที่ค่อนข้างคึกคักเลยทีเดียว บรรยากาศจะเป็นอย่างไร ตามมาชมกันต่อเลยค่ะ

ตามแนวถนนถนนสีหบุรานุกิจ จะมีสถานที่ราชการหลายแห่งนะคะ  ตรงนี้เป็นสำนักงานเขตมีนบุรี  ใกล้ๆ กันก็มีศาลจังหวัดมีนบุรีอยู่ด้วย

ตลาดมีนบุรี ซึ่งเป็นตลาดใหญ่โซนนี้ มีคนมาจับจ่ายใช้สอยกันเป็นจำนวนมาก

โรงพยาบาลนวมินทร์ 9 เป็นโรงพยาบาลที่ใกล้กับโครงการมากที่สุดค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

พาไปทัวร์รอบๆ โครงการกันมาแล้ว เดี๋ยวตามเข้าไปชมในโครงการกันต่อค่ะ

เริ่มกันจากหน้าซุ้มประตูทางเข้าของ Passorn ร่มเกล้า-รามคำแหง ส่วนนี้จะออกแบบโดยใช้แนวคิด Modern Heritage Luxury เลือกใช้สีเทาตัดกับสีทองและลวดลายเหล็กดัดที่ดูร่วมสมัย โดยดีไซน์ซุ้มประตูนี้ให้มีขนาด Over scale เพื่อสร้างความรู้สึกแกรนด์เวลาผ่านเข้ามาในโครงการค่ะ

ด้านข้างตกแต่งด้วยซุ้มโคมไฟขนาดใหญ่  เสมือนเป็นแลนด์มาร์คเวลาเข้ามาในโครงการค่ะ

ประตูเข้าออกโครงการเป็นแบบ Double Gate นะคะ มีการทำที่กั้นแยกช่องทางเข้าออกระหว่างลูกบ้านกับแขก เพื่อเพิ่มความสะดวกให้แก่ลูกบ้านไม่ต้องมาต่อคิวรอนาน โดยลูกบ้านจะใช้ระบบแบบอ่านป้ายทะเบียนและ Easy Pass ในการเข้าออกโครงการ ซึ่งเราไม่ต้องมาเสียเวลาหา Key card มาแตะ

เมื่อเข้ามาในโครงการบรรยากาศค่อนข้างร่มรื่น หันไปทางไหนก็เห็นแต่สีเขียวที่ดูสบายตา ถนนภายในโครงการช่วงแรกจะกว้าง 21 ม. ถัดเข้ามาด้านในที่เป็นถนนเมนจะลดลงมาเหลือ 15-16 ม. ส่วนถนนซอยนั้นจะกว้าง 9-12 ม.ค่ะ

เมื่อเราเลี้ยวขวาที่วงเวียนมาก็จะเจอ Sales Gallery  ของโครงการตั้งอยู่ทางขวามือ

ซึ่ง Sales Gallery จะเป็นบ้านหลังแรกทางซ้ายมือ โดยตัวบ้านเป็นแบบ Perkins ที่เป็นบ้านเดี่ยวขนาดใหญ่ที่สุดในโครงการค่ะ

ส่วนบ้านหลังอื่นๆ ที่อยู่ติดกันจะเป็นบ้านตัวอย่าง มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน เรียงจากใหญ่ไปเล็ก

ภายใน Sales Gallery ตกแต่งออกมาเน้นโทนสีขาวตัดกับเฟอร์นิเจอร์สีน้ำเงิน  มีพื้นที่รับรองสำหรับลูกค้าพอสมควร

ดูผังโครงการ การเข้าถึง

ตัวโครงการตั้งอยู่บนที่ดินขนาด 96-0-45.5 ไร่  ทำทางเข้าออกเพียงทางเดียวเพื่อง่ายต่อการรักษาความปลอดภัยค่ะ การวางพื้นที่ส่วนกลางในโครงการจะแบ่งออกเป็น 2 จุดด้วยกัน จุดที่หนึ่งจะอยู่ติดกับวงเวียนแรก ซึ่งพื้นที่ส่วนนี้มีขนาด 2-2-1.21 ไร่ แบ่งออกมาเป็นพื้นที่สวนและ Club house ส่วนพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดจะอยู่ใกล้ๆ กัน ถูกออกแบบให้เป็นพื้นที่สวนทั้งหมด มีขนาด 1-0-26.5 ไร่ค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

เริ่มกันที่ Clubhouse ของโครงการ ที่ภายในมีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 12 x 20 x 1.2 ม. แยกสระเด็กและสระผู้ใหญ่

โดยชั้น 1 ของ Club house เป็นพื้นที่ Lobby และ Co-working space  นอกจากนี้ยังมี Smart Locker บริการตู้รับฝากพัสดุติดตั้งเอาไว้ให้ด้วยนะคะ เมื่อมีพัสดุมาถึงเราก็จะมีการแจ้งเตือนผ่าน Smart phone สะดวกทั้งผู้ส่งและผู้รับ ไม่ต้องมาเสียเวลารอรับของที่บ้าน

ส่วนชั้น 2 ของอาคารจะเป็นพื้นที่ของ Fitness room มีเครื่องเล่นให้เลือกพอสมควรค่ะ

มาถึงส่วนที่เป็นบรรยากาศจริงๆ กันบ้าง  ด้านหน้าของ Club house จะเป็นพื้นที่สวนที่ค่อนข้างร่มรื่น ใครที่เบื่อๆ ไม่อยากอยู่บ้านก็สามารถมานั่งพักผ่อนหรือจะพาเด็กๆ มาเตะฟุตบอลกันก็ยังได้เลยค่ะ

บริเวณรอบๆ สวนจะมี Jogging Track ให้เราได้มาออกกำลังกายแบบ Outdoor วิ่งชมวิวกันแบบชิลล์ๆ

หากเหนื่อยก็มีจุดสำหรับนั่งพัก ซึ่งบริเวณนี้มีส่วนของเครื่องเล่นเด็กด้วย ขอเสริมอีกนิดนึงซุ้มทางเข้าโครงการ Clubhouse  และบ่อบำบัด ทางโครงการจะติดตั้งแผง Solar cell เอาไว้เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและลดภาระค่าใช้จ่ายส่วนกลางให้กับลูกบ้านอีกด้วยนะคะ

เปิดแปลนบ้าน

โครงการ Passorn ร่มเกล้า-รามคำแหง มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 4 แบบ มีขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 ตารางวา ค่ะ  โดยฟังก์ชั่นหลักในบ้านจะเป็น 3 ห้องนอน ทั้งหมด  ซึ่งแต่ละแบบจะมีรายละเอียดแตกต่างกันไปบ้าง

• Perkins >>> 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 พื้นที่อเนกประสงค์, 2 ที่จอดรถในร่ม / 179 ตารางเมตร
• Porter >>> 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถในร่ม / 167 ตารางเมตร
• Elsie >>> 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถในร่ม / 142 ตารางเมตร
• Pixie >>> 3 ห้องนอน, 2 ห้องน้ำ, 2 ที่จอดรถในร่ม / 133 ตารางเมตร

Passorn Romklao-Ramkhamhaeng
แบบบ้าน Pixie ขนาด 133 ตร.ม.

ขอเปิดกันที่บ้านขนาดเล็กสุดในโครงการกันก่อนค่ะ บ้านแบบนี้มีพื้นที่ใช้สอย 133 ตร.ม. มีฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ  ชั้นล่างเป็นส่วนของห้องนั่งเล่นอยู่ติดกับพื้นที่รับประทานอาหารต่อเนื่องเป็นสเปซเดียวกัน  ด้านหลังเป็นส่วนห้องครัวที่เป็นพื้นที่เปิดโล่ง  สำหรับคนที่ทำอาหารจริงจังบ่อยๆ ก็อาจจะกั้นต่อเติมประตูเพื่อให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ค่ะ  พื้นที่ห้องครัวสามารถเปิดออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ด้วยค่ะ  ส่วนของห้องน้ำของชั้นล่างจะหลบอยู่บริเวณใต้บันไดจึงต้องมีการลดระดับพื้นเป็นสเต็ปลงไปหน่อย  เพื่อให้ระยะความสูงของฝ้าเพดานในห้องน้ำยังเพียงพอต่อการใช้งานค่ะ

ขึ้นมาชั้น 2 จะมีฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  โดยห้องนอนใหญ่จะได้ระเบียงด้านหน้าบ้านและมีพื้นที่ Walk-in closet หน้าห้องน้ำในตัว  ซึ่งห้องน้ำนี้จะมีประตูเป็น Double Access สามารถเข้าจากตรงโถงบันไดได้ด้วยนะคะ  สำหรับห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องขนาดจะไม่ต่างกันมากนัก  โดยห้องนอนเล็กที่อยู่ในตำแหน่งหน้าบ้านจะได้ระเบียงขนาดใหญ่ด้านข้างด้วยซึ่งก็เป็นการใช้ประโยชน์จากพื้นที่ส่วนหลังคาโรงรถที่ยื่นออกมานั่นเองค่ะ

หน้าตาแบบบ้าน Pixie คุมโทนด้วยสีน้ำตาลอ่อน มีดีเทลการตกแต่งคิ้วบัวและการย่อมุมต่างๆ  ทำให้ตัวบ้านดูซอฟ  เข้ากับบรรยากาศภายในโครงการค่ะ

ลักษณะการย่อมุมของคิ้วบัวต่างๆ บนตัวบ้านทำให้เกิดเส้นสายที่สร้างมิติให้ตัวบ้านดูมีดีเทล  เน้นโทนสีอ่อนดูสบายตา

Passorn Romklao-Ramkhamhaeng
แบบบ้าน Elsie ขนาด 142 ตร.ม.

ขยับขึ้นมาดูบ้านขนาดที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยค่ะ  แบบบ้าน Elsie ที่มีพื้นที่ใช้สอย 142 ตร.ม. ภายในมีฟังก์ชั่น คือ 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถในร่ม  ซึ่งโดยลักษณะของฟังก์ชั่นชั้นล่างนี้จะคล้ายกับแบบ Pixie เลย แต่ว่าจะมีขนาดและพื้นที่ต่างๆ ใหญ่ขึ้นอีกหน่อยค่ะ  รวมถึงมีแนวผนังของครัวที่สามารถกั้นห้องเป็นครัวปิดได้ง่ายขึ้นด้วย

ชั้นบนของบ้านจะมี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำค่ะ  โดยประตูทางเข้าห้องนอนใหญ่จะอยู่ตรงกับบันได ภายในได้ทั้งระเบียง, พื้นที่ Walk-in closet และห้องน้ำในตัวตำแหน่งของห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะอยู่ในโซนหน้าบ้านและหลังบ้าน ไม่มีห้องน้ำในตัวต้องออกมาใช้ห้องน้ำบริเวณโถงบันได นอกจากนี้ห้องนอนเล็กด้านหน้าบ้านจะได้ระเบียงด้านข้างขนาดใหญ่อีกด้วย

แบบบ้าน Elsie มีหน้าตาใกล้เคียงกับแบบ Pixie  แตกต่างที่ขนาดบ้านและโทนสีที่เลือกใช้ โดยชั้นล่างของบ้านหลังนี้จะใช้เป็นสีเทาอ่อน ส่วนชั้นบนเป็นสีครีมแทนค่ะ มองจากด้านหน้าจะเห็นทั้งระเบียงห้องนอนใหญ่และระเบียงของห้องนอนเล็ก ตัววัสดุที่ใช้ทำราวระเบียงจะเป็นเหล็กสีดำและ Tempered glass

Passorn Romklao-Ramkhamhaeng
แบบบ้าน Porter ขนาด 167 ตร.ม.

แบบบ้าน Porter เป็นแบบบ้านขนาด 167 ตร.ม.  ภายในมีฟังก์ชั่น 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถในร่ม บ้านหลังนี้จะมีทางเข้าสองทางจากประตูหลักและประตูที่เข้าจากโรงจอดรถ ทำให้สะดวกในการขนของจากโรงจอดรถเข้าไปในตัวบ้าน  บ้านแบบ Porter นี้จะมีส่วนของครัวเปิดโล่งที่ใหญ่มาก  ตรงบริเวณทางเข้าครัวเราสามารถต่อเติมเป็น Pantry ไว้เตรียมอาหารหรือทำเป็นเคาน์เตอร์บาร์เล็กๆ ก็ได้เช่นกันนะคะ  ส่วนห้องน้ำและห้องเก็บของจะอยู่ตำแหน่งใต้บันไดเช่นกันค่ะ

แบบ Porter นี้แปลนชั้นบนจะต่างกับแบบบ้านอื่นๆ ในโครงการค่ะ  เพราะว่าจะวางตำแหน่งห้อง Master Bedroom เอาไว้ยาวเต็มความกว้างหน้าบ้าน ขนาดของห้องนี้ใหญ่มาก ระเบียงหน้าบ้านยาว  มีสเปซเหลือสำหรับวางโซฟาเบด หรือทำเป็นมุมนั่งทำงานต่างๆ ก็ยังเพียงพอนะคะ  ส่วนห้องนอนเล็กอีก 2 ห้องจะอยู่ด้านหลัง  ซึ่งห้องนอนเล็กของแบบนี้จะมีห้องหนึ่งที่ขนาดค่อนข้างใหญ่  สามารถวางเตียง 5 ฟุต ได้ด้วยค่ะ

แบบบ้าน Porter ใช้โทนสีเทาและสีน้ำตาลอ่อน  เราจะเห็นดีไซน์ของระเบียงห้องนอนด้านบนยาวมาก ซึ่งแนวเส้นนอนนี้ทำให้หน้าบ้านดูกว้างกว่าแบบอื่นๆ พอสมควรทีเดียวค่ะ

การดีไซน์ก็ยังคงเน้นกระจกเพื่อความสวยงามและทันสมัย เพิ่มลูกเล่นเป็นระแนงเหล็กสีดำเข้ามาเล็กน้อย ทำให้บรรยากาศของบ้านดูไม่แข็งจนเกินไป  จะเห็นว่าบ้านทุกแบบจะคุม Mood & Tone ให้ออกมาในแนวทางเดียวกันทั้งหมดค่ะ

มองจากอีกฝั่งค่ะ

Passorn Romklao-Ramkhamhaeng
แบบบ้าน Perkins ขนาด 179 ตร.ม.

มาต่อกันที่แบบบ้านสุดท้ายที่มีขนาดใหญ่ที่สุด 179 ตร.ม. เป็นแบบบ้านที่เหมาะกับคนต้องการพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น โดยฟังก์ชั่นภายในที่เพิ่มเข้ามาจากบ้านแบบอื่นๆ คือ ส่วนพื้นที่อเนกประสงค์ที่ชั้น 2 ค่ะ  ภายในโดยรวมมี 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 พื้นที่อเนกประสงค์ และ 2 ที่จอดรถในร่ม  แปลนบ้านชั้น 1 มีฟังก์ชั่นไม่แตกต่างจากแบบบ้านก่อนหน้านี้ เพียงแต่มีขนาดที่ใหญ่ขึ้น  โดยห้องนั่งเล่นและพื้นที่รับประทานอาหารยังเชื่อมอยู่ในสเปซเดียวกัน ห้องครัวสามารถต่อเติมประตูมากั้นให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นได้ค่ะ มีห้องเก็บของใต้บันได  ส่วนห้องน้ำไม่มีส่วนพื้นที่อาบน้ำและยังอยู่ในตำแหน่งใต้บันไดที่ต้องลดระดับพื้นลงมาเล่นเดิม

ชั้น 2 เมื่อขึ้นมาแล้วจะพบกับพื้นที่อเนกประสงค์ด้านหลังบ้าน  ห้องนอนใหญ่ของบ้านวางแปลนเป็นรูปตัว L ทำให้มีพื้นที่มากพอสำหรับวางโซฟาขนาดใหญ่ปลายเตียงเพื่อนั่งดูทีวีได้ หรือจะเอาโต๊ะทำงานมาตั้งเลยก็ยังได้ค่ะ  ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ไม่มีระเบียงและห้องน้ำในตัวต้องใช้ห้องน้ำบริเวณโถงบันไดชั้น 2 ซึ่งขนาดของห้องน้ำในชั้นของแบบบ้าน Perkins จะมีขนาดเล็กกว่าแบบบ้านอื่นๆ หน่อยนะคะ

แบบบ้าน Perkins มีการใช้โทนสี 3 สีด้วยกัน สีเทา, สีน้ำตาล และสีครีม โดยมีเฉดสีที่เข้มขึ้นกว่าบ้านแบบอื่นๆ  ส่วน Facade จะตกแต่งโดยเน้นส่วนของเสาขนาดใหญ่ เพิ่มความภูมิฐานและดูแกรนด์ให้กับตัวบ้านค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

แบบบ้านที่เราจะพาไปชมกันในวันนี้มีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน คือ แบบ Pixie, Elsie และ Porter ค่ะ ทั้ง 3 แบบตกแต่งบ้านให้ดูเป็นตัวอย่างเรียบร้อยแล้วจะได้เห็นสเปซในการใช้งานจริงๆ และถ้าใครไม่รู้จะตกแต่งแนวไหนดี ก็ลองนำไอเดียของทางโครงการไปใช้ดูนะคะ

Passorn Romklao-Ramkhamhaeng
บ้านตัวอย่าง Pixie ขนาด 133 ตร.ม.

เริ่มกันด้วยบ้านตัวอย่างขนาดเล็กที่สุดในโครงการ Pixie ที่เมื่อเปิดเข้ามาจะเป็นส่วนของห้องนั่งเล่น มองตรงไปจะเห็นพื้นที่รับประทานอาหารที่เชื่อมอยู่ในสเปซเดียวกัน

พื้นที่ห้องนั่งเล่นนั้นสามารถวางโซฟา เก้าอี้ และโต๊ะกลางได้แบบไม่อึดอัด

พื้นที่รับประทานอาหารจะอยู่ติดกับพื้นที่ครัว ซึ่งเราสามารถต่อเติมออกมาเป็น Pantry เตรียมอาหารได้

แม้จะเป็นบ้านขนาดเล็กสุด แต่ห้องครัวก็ค่อนข้างกว้าง ทางโครงการตกแต่งเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ให้ดูเป็นตัวอย่างค่ะ บ้านจริงจะได้เป็นครัวเปล่าที่ต่อเติมท่อเตรียมเอาไว้ให้เรียบร้อย

ห้องน้ำของชั้นล่างและห้องเก็บของจะอยู่ในตำแหน่งใต้บันได

ภายในห้องน้ำบริเวณส่วนอาบน้ำมีการลดระดับพื้นลงเพื่อไม่ให้น้ำไหลออกไปยังพื้นที่โซนแห้งค่ะ

พอหันมามองอีกมุมจะเห็นได้ว่าเพดานในห้องน้ำมีการสโลปตัวลงมาเนื่องจากอยู่ในตำแหน่งใต้บันไดค่ะ

เมื่อเดินขึ้นมาชั้น 2 แล้วหันกลับไปยังโถงบันได จะเห็นได้ว่าทางโครงการทำช่องหน้าต่าง 2 บาน ซ้ายขวามาให้ เพื่อเพิ่มแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาได้มากขึ้น และสามารถเปิดระบายอากาศได้ด้วยนะคะ

ห้องแรกชั้นบนที่เราจะพาไปชม คือ ห้องนอนใหญ่ที่อยู่ในตำแหน่งหน้าบ้าน

ส่วนของพื้นที่ Walk-in closet

มาส่องพื้นที่ Walk-in closet กันสักหน่อย ขนาดพื้นที่สามารถติดตั้งตู้เสื้อผ้าแบบ Built-in ขนาดใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้งได้สบายเลยค่ะ

ห้องถัดมาเป็นห้องนอนเล็กตำแหน่งหน้าบ้านที่อยู่ติดกับห้องนอนใหญ่สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต

ตัวห้องจะมีพื้นที่ระเบียงขนาดใหญ่ ใครที่ชื่นชอบปลูกต้นไม้ก็มาลองจัดสวนหย่อมเล็กๆ น่ารักๆ กันบริเวณนี้ดูนะคะ

ส่วนห้องนอนเล็กอีกห้องอยู่ตำแหน่งหลังบ้านจะมีขนาดเล็กลงมา แนะนำให้วางเฟอร์นิเจอร์แบบเข้ามุมเพื่อเพิ่มพื้นที่ให้มากขึ้นค่ะ

Passorn Romklao-Ramkhamhaeng
บ้านตัวอย่าง Elsie ขนาด 142 ตร.ม.

มาต่อกันที่บ้านตัวอย่าง Elsie กันค่ะ บ้านหลังนี้มีการวางฟังก์ชั่นการใช้งานเหมือนกับแบบก่อนหน้าที่เราได้ชมไป โดยพื้นที่ห้องนั่งเล่นกับพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ในสเปซเดียวกันและมีการออกแบบให้มีหน้าต่างหลายบานเพื่อรับแสงธรรมชาติให้ส่องเข้ามาในบ้านได้มากขึ้น สร้างบรรยากาศภายในบ้านให้รู้สึกโปร่ง

พื้นที่รับประทานอาหารสามารถวางโต๊ะขนาด 4 ที่นั่งได้สบาย

สเปซที่อยู่ติดกันทางโครงการออกแบบเป็นเคาน์เตอร์มุมส่วนตัวเอาไว้เก็บของและทำงานอดิเรก

ตำแหน่งของครัวจะอยู่โซนหลังบ้านมีประตูสามารถเปิดออกไปยังส่วนซักล้างได้ ภายในครัวทางโครงการติดตั้งหน้าต่างมาให้เพื่อช่วยระบายอากาศและกลิ่นอาหาร

ถัดมาจะเป็นห้องน้ำชั้นล่าง ทางโครงการออกแบบให้ลดระดับพื้นลงไปหนึ่งขั้น เนื่องจากตำแหน่งของห้องน้ำอยู่ใต้บันได

ภายในห้องน้ำไม่มีส่วนของพื้นที่อาบน้ำมาให้นะคะ  ห้องน้ำชั้นล่างจะเป็นลักษณะนี้ทุกแบบเลย

ก่อนขึ้นบันไดจะเห็นบานประตูขนาดเล็กๆ อยู่ตรงใต้บันได ซึ่งส่วนนี้จะเป็นพื้นที่ห้องเก็บของเล็กๆ

โถงบันไดของบ้านหลังนี้จะได้ช่องหน้าต่างขนาดใหญ่เข้ามาแทน ช่วยให้มีแสงเข้ามาได้เยอะขึ้นและดูโปร่งโล่ง

ห้องนอนใหญ่มีพื้นที่ค่อนข้างกว้าง กินพื้นที่โซนฝั่งขวาของบ้านทั้งหมด สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ได้

ตำแหน่งห้องน้ำจะอยู่ด้านในถัดจากพื้นที่ Walk-in closet ซึ่งภายในจะแบ่งโซนเปียก โซนแห้งเอาไว้ พร้อมทั้งติดตั้งฉากกั้นมาให้

พื้นระเบียงจะปูด้วยกระเบื้อง ขนาด 60×60 ซม. ส่วนราวระเบียงจะเป็นเหล็กสีดำ กระจก Tempered

เดินออกมาดูยังห้องนอนเล็กของบ้านกันบ้าง ห้องนอนนี้เหมาะกับการวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต เราสามารถ Built-in ตู้เสื้อผ้าและวางโต๊ะทำงานมุมเล็กๆ ข้างเตียงได้ค่ะ

ระเบียงห้องนอนมีขนาดใหญ่ สามารถเอาเก้าอี้มานั่งอ่านหนังสือยามว่างหรือเปลี่ยนพื้นที่ตรงนี้เป็นมุมนอนดูดาวตอนกลางคืนก็เก๋ไปอีกแบบ

ห้องนอนเล็กอีกห้องจะอยู่ในโซนหลังบ้าน ทางโครงการตกแต่งมาให้เป็นห้องทำงานส่วนตัว ได้หน้าต่าง 2 บาน

Passorn Romklao-Ramkhamhaeng
บ้านตัวอย่าง Porter ขนาด 167 ตร.ม.

Porter แบบบ้านหลังสุดท้ายที่เราจะพามาดูกัน เข้ามาจะพบกับพื้นที่ห้องนั่งเล่น สามารถวางโซฟา 3 ที่นั่ง และโต๊ะกลางได้ มีระยะห่างจากโซฟาถึงทีวีพอสมควร ไม่ใกล้หรือไกลจนเกินไป

มองจากอีกมุมจะเห็นพื้นที่รับประทานอาหารอยู่ด้านในติดกับ Pantry ครัว

มองจากอีกมุมจะเห็นการวางตำแหน่งฟังก์ชั่นห้องต่างๆ ในบ้าน

บริเวณนี้บ้านจริงจะได้เป็นพื้นที่โล่งนะคะ เราสามารถต่อเติมทำเป็น Pantry สำหรับเตรียมอาหารเพิ่มเติมมาเองได้

พอหันหลังกลับมาจะเจอกับประตูออกไปยังโรงจอดรถที่เป็นทางเข้าบ้านอีกจุดนึง เหมาะกับแม่บ้านสายช้อปปิ้งที่ซื้อมาเยอะแยะก็สามารถตรงเข้าไปเก็บของยังห้องครัวได้เลยค่ะ

ห้องครัวมีขนาดใหญ่ได้หน้าต่าง 2 บาน เพื่อช่วยระบายอากาศและกลิ่นออกไปด้านนอก

นอกจากนี้ห้องครัวยังมีประตูเชื่อมออกไปยังโซนซักล้างหลังบ้านได้อีกด้วย

ตำแหน่งของห้องน้ำชั้นล่างจะอยู่ใต้บันไดทำให้ต้องมีการลดระดับพื้นลงไปเพื่อให้มีความสูงในห้องน้ำที่เพียงพอ

ก่อนเดินเข้าไปในห้องน้ำจะเห็นว่ามีช่องเก็บของอยู่บริเวณใต้บันไดค่ะ เราอาจจะต้องก้มลงมาสักหน่อย

ห้องน้ำชั้นล่างติดตั้งหน้าต่างบานประทุ้งมาให้เพื่อเปิดระบายอากาศและความชื้น

ขึ้นมาชั้น 2 กันบ้าง บริเวณโถงบันไดทางโครงการจะติดตั้งระบบ Ventilation System มาให้ ตัวเครื่องจะช่วยดูดลมร้อนภายในบ้านออกไป ทำให้อากาศเกิดการหมุนเวียนได้มากขึ้นแถมยังประหยัดไฟไปในตัวอีกด้วย ระบบนี้มีมาให้ในแบบบ้านทุกหลังนะจ๊ะ

ส่วนโถงบันไดจะได้หน้าต่างบานใหญ่รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่และยังสามารถเปิดระบายอากาศได้เช่นกัน

ห้องนอนใหญ่ของบ้านหลังนี้จะกินพื้นที่โซนหน้าบ้านไปทั้งหมด ทำให้ลักษณะของห้องเป็นแบบหน้ากว้าง มีหน้าต่างและพื้นที่ใช้สอยเยอะ พร้อมทั้งยังมีระเบียงขนาดใหญ่

พื้นที่ห้องฝั่งนึงของห้องนอนจะเป็นส่วนของ Walk-in closet และห้องน้ำ

Walk-in closet เป็นทางยาวเดินเข้าไป วางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้

ภายในห้องน้ำแบ่งโซนแห้ง โซนเปียกเอาไว้ให้เรียบร้อย

พื้นและผนังจะปูด้วยกระเบื้องสีเทา ซึ่งเป็นสีที่ดูแลง่ายมากกว่าสีสว่างๆ

ห้องนอนเล็กห้องนี้อยู่ในตำแหน่งหลังบ้าน ไม่มีระเบียงและห้องน้ำในตัว

พื้นที่ห้องสามารถวางเตียงขนาดใหญ่แล้วยังมีพื้นที่เหลือสำหรับการวางโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าได้แบบสบายๆ เลยค่ะ

ส่วนห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายจะมีขนาดเล็กลงมาจากห้องก่อนหน้านี้สักหน่อยจึงเหมาะกับวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต มากกว่าค่ะ

ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้อง ต้องออกมาใช้ห้องน้ำบริเวณโถงบันได ซึ่งภายในมีการกั้นแยกส่วนเปียกด้วยฉากกั้นอาบน้ำ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง นั้นก็จัดว่าโอเคนะคะ  ในห้องน้ำได้ชุดสุขภัณฑ์ของ KOHLER  ห้องครัวมีการเดินท่อเอาไว้ให้ตามปกติ  ส่วนที่เสริมเข้ามาเป็นพวกอุปกรณ์ Smart home automation ควบคุมเครื่องใช้ภายในบ้านผ่าน Smart phone, Smart switch & USB plug, Magnetic sensor, Motion Sensor, Alarm panel และ IP Camera  นอกจากนี้ทางโครงการยังติดตั้ง Ventilation system มาให้เพื่อเพิ่มอากาศหมุนเวียนภายในบ้านให้มากขึ้นและยังช่วยระบายความร้อน ประหยัดไฟไปในตัว

อยู่สบายแบ่งเป็น 3 ส่วนให้ดูกันง่ายๆ เป็นวัสดุห้องครัว ห้องน้ำ และวัสดุปิดผิวในห้อง (Finishing Material) สำหรับส่วนครัวนั้นไม่มีรายละเอียดอะไรมากค่ะ เพราะเตรียมพื้นที่กับงานระบบไว้ให้เฉยๆ

วัสดุห้องครัว

ในรูปนี้เป็นห้องครัวแบบบ้าน Porter ซึ่งตกแต่งเอาไว้ให้ดูเป็นไอเดีย  บ้านจริงจะได้เป็นครัวเปล่า เดินท่อเอาไว้ให้เรียบร้อยแล้ว

ห้องครัวแบบบ้าน Elsie ที่ทางโครงการออกแบบมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

พื้นที่ห้องครัวแบบบ้าน Pixie

วัสดุห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องสีเทาอ่อน

ห้องน้ำในห้องนอนใหญ่จะได้อ่างล้างมือที่ด้านล่างมีตู้สำหรับเก็บของ

อ่างล้างมือในห้องน้ำห้องอื่นๆ จะมีขนาดเล็กกว่า

ก๊อกน้ำแบบก้านโยก แบรนด์ Englefield

ฝักบัวอาบน้ำ ด้ามจับมีขนาดพอดีมือ แบรนด์ Englefield

ฉากกั้นอาบน้ำ

โถสุขภัณฑ์สีขาว แบรนด์ KOHLER

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นบ้านชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม.

ฝ้าสีขาว โครงการติดตั้งหลอดไฟ LED ไว้ให้

พื้นชั้นบนปูด้วยลามิเนตลายไม้

IP Camera บริเวณที่จอดรถ สามารถดูผ่าน Smart Phone

Siren & Strobe light จะติดอยู่ที่ชายคาหน้าบ้าน

โถงบันไดชั้น 2 ของบ้านทุกหลัง จะติดพัดลมดูดอากาศเอาไว้ให้

Alarm panel บริเวณห้องครัว และยังมี Security Pad Control ที่เปิด-ปิด ระบบกันขโมย อยู่ในชั้น 1 และ ชั้น 2

Gateway เครื่องควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน จะเชื่อมเข้ากับ Smart phone ของเรา

Magnetic sensor อุปกรณ์จับการปิดเปิด ประตู หน้าต่าง

Motion sensor อุปกรณ์ตรวจจับการเคลื่อนไหวภายในบ้าน สำหรับแจ้งเตือนเมื่อมีผู้บุกรุก

สวิตซ์ไฟสีขาว

สวิตซ์ไฟแบบ Touch screen LED display สามารถสั่งผ่านระบบ Home automation ได้

ซับวงกบประตูห้องจะเป็น PVC สีขาว

ราวกันตกอลูมิเนียม

บันไดบ้านปิดลูกนอนด้วยไม้ยาง

ราวจับบริเวณทางเดินหน้าห้องน้ำ

โคมไฟบริเวณโถงบันได

ด้ามจับประตูแบบคันโยก

ระเบียงบ้านอลูมิเนียมสีดำ ติดกระจก Tempered

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาขายเริ่มต้น ณ วันที่ไปรีวิว (ก.ย. 62) ราคาเริ่มต้น 4.XX ลบ. ที่ดินเพิ่มลด 64,000 บาท/ตร.วา

ราคา ณ วันที่  ก.ย. 2562

ราคาเริ่มต้น :

แปลงพื้นที่ 50 ตร.วา ราคา 4.xx บาท

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

จอง 10,000 บาท , ทำสัญญา 10,000 บาท 

• ผ่อนดาวน์

เป็นบ้านสร้างเสร็จพร้อมอยู่

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง  30 บาท/ตารางวา/เดือน (ฟรี 3  ปี)

ค่าธรรมเนียมโอน 2%  (ผู้ซื้อชำระ 1% , ผู้ขายชำระ 1%)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

เนื่องจากทำเลที่ตั้งของ ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง อยู่ในซอยร่มเกล้า 6/1 ห่างจากถนนใหญ่ร่มเกล้า 2 กม. การเลือกใช้รถยนต์ส่วนตัวจะสะดวกในการเดินทางมากกว่าค่ะ  บริเวณตัวโครงการล้อมรอบไปด้วยถนนหลักหลายสาย  สามารถใช้มอเตอร์เวย์กรุงเทพ-ชลบุรีสายใหม่ ออกไปได้ทั้งฉะเชิงเทรา, ชลบุรี  และยังเดินทางไปสนามบินสุวรรณภูมิได้ในเวลาไม่นานมากค่ะ  หากต้องการเข้าเมืองทางกรุงเทพฯ ก็มีให้เลือกทั้งถนนศรีนครินทร์-ร่มเกล้า, บางนา-ตราด และถนนรามคำแหง นะคะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ศักยภาพของทำเลในย่านนี้คาดว่ายังมีการเจริญเติบโตเพิ่มขึ้นไปอีกเรื่อยๆ เพราะยังมีที่ดินเปล่ารอการพัฒนาอยู่อีกหลายจุด พร้อมทั้งในอนาคตยังมีโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีส้ม (ศูนย์วัฒนธรรม-มีนบุรี) วิ่งมาเชื่อมกันอยู่บริเวณถนนรามคำแหงด้วย ซึ่งมีสถานีมีนบุรีที่เป็นสถานีอินเตอร์เชนจ์อยู่ใกล้กับโครงการมากที่สุด ห่างประมาณ 2 กม. ถ้าวัดระยะจากหน้าปากซอยร่มเกล้า 6/1 นะคะ ส่วนเรื่องการเปิดให้ใช้บริการสำหรับรถไฟฟ้าสายสีชมพูคาดว่าแล้วเสร็จปี 64 ส่วนรถไฟฟ้าสายสีส้มคาดว่าแล้วเสร็จในปี 66 ค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ภาพรวมของงานดีไซน์โครงการ ภัสสร ร่มเกล้า-รามคำแหง นั้นทำออกมาสไตล์ Modern Heritage Luxury ที่ผสมศิลปะของตะวันตกและตะวันออกเข้าด้วยกันผ่านทางการเล่นลวดลายต่างๆ ทำออกมาได้สวยงาม ดูร่วมสมัย  สัดส่วนขององค์ประกอบต่างๆ ไปด้วยกันได้  โทนสีดูกลมกลืนกับบรรยากาศ ตัวบ้านจะมีออกแบบมาสไตล์โมเดิร์นเน้นเป็นสี Earth Tone ครีม น้ำตาล เทา ไม่ดูโดดจนเกินไป มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ ขนาดตั้งแต่ 133-179 ตร.ม. โดยบ้านทุกแบบจะมีฟังก์ชั่นหลักเป็นบ้าน 3 ห้องนอน  แต่จะมีฟังก์ชั่นอื่นๆ ที่แตกต่างกันไปบ้างค่ะ

โครงสร้างบ้านเป็นแบบ Precast ภายในบ้านวางแปลนได้เป็นสัดส่วน พื้นที่ครัวของทุกแบบจะเป็นครัวเปิดโล่ง  แต่ก็สามารถกั้นห้องครัวเป็นแบบปิดได้ ห้องน้ำชั้นล่างที่อยู่ใต้บันไดของบ้านทุกหลังจะมีการลดระดับพื้นลงมาเพื่อให้ความสูงในห้องน้ำเพียงพอ ห้องนอนใหญ่จะได้ระเบียงและพื้นที่ Walk-in closet ทุกหลัง นอกจากนี้ห้องนอนเล็กที่อยู่ตำแหน่งหน้าบ้านของแบบบ้าน Elsie และ Pixie จะได้ระเบียงขนาดใหญ่ สามารถทำเป็นมุมนั่งเล่นหรือทำเป็นมุมพื้นที่สีเขียวภายในบ้านก็ได้ ขึ้นอยู่กับความชอบนะคะ

วัสดุที่ทางโครงการให้มาได้ตามมาตรฐานเลยค่ะ สุขภัณฑ์ของ KOHLER, พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมอ่อนขนาด 60×60 เซนติเมตร, ชั้นบนปูด้วยไม้ลามิเนต  นอกจากนั้นยังเสริมภายในบ้านด้วย Smart Home อย่าง IP Camera ที่ลานจอดรถ, สัญญาณไซเรนเตือนภัย, Motion Sensor ที่บริเวณชั้น 1, Magnetic Sensor ที่บานประตูและหน้าต่างทุกบาน, Gateway ที่บริเวณห้องรับแขกและชั้น 2 ของบ้านทำให้สามารถควบคุมอุปกรณ์ไฟฟ้าผ่านมือถือได้, สวิตซ์ไฟแบบ Touch screen LED display และปลั๊กไฟแบบที่มีช่องเสียบ USB ทำให้สะดวกต่อการใช้งานค่ะ นอกจากนี้ตรงโถงบันไดชั้น 2 ยังติดตั้งพัดลมดูดอากาศให้ทุกหลังค่ะ

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางของโครงการ Passorn ร่มเกล้า-รามคำแหง นั้นจะจัดมาให้ 2 จุด จุดแรกอยู่บริเวณหน้าโครงการซึ่งมีพื้นที่ประมาณ 2-2-1.2 ไร่ แบ่งออกเป็นส่วนของสวนและ Clubhouse ซึ่งพื้นที่สวนนั้นจะปลูกต้นไม้ให้ความร่มรื่นมีศาลาให้นั่งพักผ่อน มีของเล่นเด็กและ Jogging track ส่วนบริเวณ Clubhouse มีสระว่ายน้ำขนาด 12 x 7 x 1.2 ม. แยกสระเด็ก สระผู้ใหญ่ ภายในอาคารชั้น 1 จะเป็นพื้นที่ Lobby และ Co-working space พร้อมทั้งมี Smart locker และ Ventilation System ติดตั้งมาให้ ส่วนชั้น 2 ของ Club house จะเป็นพื้นที่ห้องฟิตเนสค่ะ พื้นที่ส่วนกลางจุดที่ 2 จะอยู่ถัดมาเล็กน้อยมีพื้นที่ขนาด 1-0-26.5 ไร่ ทางโครงการจัดให้เป็นพื้นที่สวนทั้งหมด  ซึ่งตอนที่เราเข้าไปรีวิวตัวคลับเฮ้าส์ยังสร้างไม่เสร็จ  ก็เลยไม่ได้มีภาพบรรยากาศจริงมาฝากกันเท่าไหร่นะคะ

นอกจากนี้ระบบรักษาความปลอดภัยก็จะมีทั้งกล้อง CCTV ติดให้ภายในโครงการ, รปภ. 24 ชั่วโมง, การเข้าออกประตูเป็นแบบ Double gate พร้อมทั้งแยกช่องเข้าออกของลูกบ้านและแขก ลูกบ้านใช้การเข้าออกผ่านระบบการสแกนป้ายทะเบียนทำให้สะดวกและรวดเร็ว พื้นที่ส่วนกลางทั้งหมดนี้ทางโครงการยังติดตั้งแผง Solar cell เอาไว้เพื่อช่วยประหยัดพลังงานและลดค่าใช้จ่ายส่วนกลางให้กับลูกบ้านได้อีกด้วยนะคะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^