อนันดาฯ เปิดแผนธุรกิจปี 63 เตรียมเปิด ไอดีโอ พหล-สะพานควาย กลางเดือนพฤษภาคมนี้ พร้อมปรับตัวรับสถานการณ์ปัจจุบัน
· ~ 1 min readAnanda Development หรือ ANAN ผู้นำตลาดคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า เปิดผลประกอบการปี 2019 เปิดโครงการไปทั้งหมด 15,944 ล้านบาท สามารถสร้างยอดโอนจากโครงการ Ready to move in ได้ประมาณ 20,000 ล้านบาท พร้อมชี้ปีนี้เป็นปีที่ต้องสร้างความมั่นใจกลับคืนมา และจะปรับตัวภายใต้แนวคิด Change The Plan Never The Goal พร้อมเตรียมเปิดตัว IDEO พหล-สะพานควาย (ไอดีโอ พหล-สะพานควาย) ที่นำกลับไปพัฒนาปรับปรุงโปรดักส์มาใหม่ ด้วยราคาเริ่มต้น 139,000 บาท/ตร.ม.
คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดอสังหาฯ ปีนี้ ต้องเผชิญกับความกังวลของผู้บริโภคที่วิตกกับสถานการณ์เศรษฐกิจ โดยกลุ่มที่มีเงินก็ชะลอการซื้อ หากทำให้เห็นว่าตลาดไม่ได้แย่อย่างที่คิดกำลังซื้อก็จะฟื้นกลับมาได้ นอกจากนี้ผู้ประกอบการเองต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ให้ได้ บริหารความเสี่ยงและพัฒนารูปแบบโครงการให้เหมาะสมกับกำลังซื้อ ซึ่งที่ผ่านมาอสังหาฯ เผชิญวิกฤติมาหลายครั้งและทุกครั้งก็ผ่านมาได้ เชื่อว่าครั้งนี้ก็เช่นเดียวกัน
ในปี 2562 ที่ผ่านมา อนันดาได้รับผลกระทบอยู่บ้างจากมาตรการ LTV แต่ก็ไม่ได้มากนัก เนื่องจากมีลูกค้าโอนเงินสดถึงประมาณ 41% โดยจำนวนนี้แบ่งเป็นลูกค้าชาวไทย 19% และลูกค้าชาวต่างชาติ 22% และสำหรับปี 2563 นี้ถือเป็นอีกปีที่ท้าทาย ต้องมีการปรับตัวอยู่ตลอดเวลา โดยอนันดาฯ จะใช้แนวคิด “Change The Plan Never The Goal” ยึดมั่นในเป้าหมาย ยืดหยุ่นในวิธีการ ยังคงโฟกัสในการพัฒนาคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า
แผนการเปิดคอนโดในปีนี้มี 1 โครงการ คือ IDEO Phahol-Saphankwai (ไอดีโอ พหล-สะพานควาย) ติด BTS สถานีสะพานควาย เพียง 0 เมตร บนที่ดินกว่า 5 ไร่ มีจำนวนห้องพักอาศัยทั้งหมด 1,356 ยูนิต ราคาเริ่มต้นเพียง 139,000 บาท/ตรม. ซึ่งจะเปิดในช่วงเดือนพฤษภาคม 2563 รวมมูลค่าโครงการกว่า 8,500 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการที่นำไปปรับปรุงใหม่ เพื่อให้ตรงความต้องการลูกค้ามากขึ้น และในปี 2563 นี้ ทางอนันดาฯ จะมีคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จพร้อมให้โอนอีก 7 โครงการ คือ
- Ideo Q Victory
- Elio Del Nest
- Ashton Chula-Silom
- Ideo Q Sukhumvit 36
- Ideo Mobi Sukhumvit Eastpoint
- Ideo Ratchada-Suthisan
- Elio Sathorn-Wutthakat
นอกจากนี้ โครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ที่จับมือกับพันธมิตรระดับโลกอย่าง The Ascott Limited กำลังจะแล้วเสร็จและพร้อมดำเนินการ 2 โครงการในปีนี้ คือ SOMERSET RAMA 9 และ LYF SUKHUMVIT 8 ซึ่งจะมาช่วยสร้าง Recurring Income ให้อย่างต่อเนื่อง โดยอนันดาฯ ตั้งเป้าพัฒนาโครงการเซอร์วิส อพาร์ทเม้นท์ ปีละ 2 โครงการ และ ณ ปัจจุบันบริษัทมียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog) กว่า 31,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการโอนในระยะ 3 ปีข้างหน้า และในส่วนของกระแสเงินสดของบริษัทก็ยังคงมีความแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นสุดไตรมาสยังคงรักษาเงินสดที่มีมากกว่า 14,800 ล้านบาท
“แม้ว่าสภาวะตลาดจะมีความผันผวน แต่ก็ยังคงมีดีมานด์หรือความต้องการที่อยู่อาศัยเพียงแค่รอจังหวะเวลาที่เหมาะสมโดยขณะนี้ถือว่าเป็นโอกาสที่ดีของลูกค้าที่จะเลือกซื้อที่อยู่อาศัยในราคาที่สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ ซึ่งอนันดาฯ จะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาที่อยู่อาศัยให้ตอบโจทย์ชีวิตคนเมือง เพื่อให้ทุกคนมีที่อยู่อาศัยที่มีคุณภาพเป็นของตัวเอง” คุณชานนท์ กล่าวทิ้งท้าย