โนเบิล ยืนยันศักยภาพ บันทึกรายได้ 2,168 ล้านบาท จากยอดโอนคอนโดตามเป้า
พร้อมเป้าหมายรับรู้รายได้ทั้งปีเกิน 10,000 ล้านบาท จาก Backlog ที่มีอยู่ในมือ
Noble Delelopment Public Co., Ltd ประกาศผลประกอบการประจำไตรมาส 1 ปี 2563 สร้างรายได้รวม 2,168 ล้านบาท ลดลง 41.3 % และมีกำไรสุทธิรวม 410.9 ล้านบาท ลดลง 68.6 % เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทั้งนี้ยอดการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์กว่า 2,083 ล้านบาท เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ซึ่งมาจากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดโครงการคอนโดมิเนียมที่ก่อสร้างแล้วเสร็จ
นายธงชัย บุศราพันธ์ ประธานกรรมการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารร่วม และกรรมการผู้จัดการ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยของรายได้ที่ลดลงในไตรมาส 1 ปีนี้เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว เนื่องจากยอดรับรู้รายได้ส่วนหนึ่งของไตรมาส 1 ปีที่แล้ว เป็นรายได้จากการขายที่ดินรอการพัฒนา อย่างไรก็ตามในไตรมาส 1 ปีนี้บริษัทฯ มียอดรับรู้รายได้จากการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดและโครงการบ้านเป็นที่น่าพอใจ เพราะสามารถสร้างยอดโอนได้ตามเป้าจากโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จเป็นจำนวนกว่า 2,083 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา 5.2 % ได้แก่ โครงการโนเบิล รีโคล สุขุมวิท 19, โนเบิล บี เทอร์ตี้ทรี, โนเบิล เพลินจิต, โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา, โนเบิล รีวอลฟ์ รัชดา 2, โนเบิล อเบิฟ ไวร์เลส-ร่วมฤดี และโนเบิล เกเบิล คันโซ วัชรพล
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ มุ่งเน้นดำเนินธุรกิจอย่างมั่นคง โดยเตรียมรับมือกับสภาวะตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ COVID-19 ตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมากับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งบริษัทฯ ได้ชะลอการเปิดตัวโครงการใหม่ในไตรมาส 1 ปี 2563 โดยเปิดตัวไปเพียง 1 โครงการ คือ โครงการโนเบิล อเบิฟ ไวร์เลส-ร่วมฤดี เมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างเสร็จ พร้อมเข้าอยู่ ในทำเลใจกลางเมืองย่านวิทยุ-ร่วมฤดี ใกล้ BTS เพลินจิต ซึ่งบริษัทฯ สามารถสร้างยอดขายจากการเปิดโครงการใหม่และโครงการที่เปิดตัวไปก่อนหน้า ในไตรมาส 1 ปี 2563 รวมมูลค่ากว่า 1,035 ล้านบาท
ทั้งนี้บริษัทฯ ตั้งเป้าผลักดันยอดขายจากโครงการพร้อมอยู่ในปีนี้เพิ่มอีกมูลค่ารวมกว่า 4,000 ล้านบาท และเตรียมพร้อมเปิดตัวโครงการใหม่โดยคาดว่าจะทยอยเปิดตัวในครึ่งปีหลังเมื่อสถานการณ์ตลาดดีขึ้น โดยบริษัทฯ เชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างยอดขายพรีเซลปีนี้ได้ตามเป้าที่วางไว้รวมมูลค่ากว่า 12,000 ล้านบาท
โดยในปี 2563 บริษัทฯ มีรายได้ที่รอการรับรู้ (Backlog) ณ สิ้นไตรมาส 1 มูลค่ารวม 15,437 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการรับรู้รายได้ภายในปีนี้กว่า 8,000 ล้านบาทจาก 3 โครงการคอนโดมิเนียมที่คาดว่าจะสร้างเสร็จในไตรมาส 3 เป็นต้นไป ได้แก่
- Noble BE19 Sukhumvit
- Noble Around Sukhumvit 33
- Nue Noble Chaengwattana
ทำให้มีความมั่นใจกับเป้าหมายและรายได้ทั้งปี 10,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้บริษัทฯ มีสภาพคล่องทางการเงินที่ดีและมั่นคง นอกจากนี้เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา บริษัทฯ ได้ดำเนินการขายที่ดินกว่า 31 ไร่ ที่เมืองฟูราโน่ ประเทศญี่ปุ่น โดยลงนามในสัญญาจะซื้อจะขายที่ดิน มูลค่าประมาณ 200 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถรับรู้รายได้ภายในเดือนพฤศจิกายนนี้
ภายใต้การดำเนินธุรกิจที่มีศักยภาพ ผลประกอบการที่มั่นคง และการบริหารสภาพคล่องที่มีประสิทธิภาพ ส่งผลให้บริษัทฯ ประกาศจ่ายเงินปันผลงวดครึ่งหลังของปี 2562 ในอัตรา 2.20 บาทต่อหุ้น ตอบรับมติผู้ถือหุ้นให้มีการอนุมัติจ่ายเงินปันผลเมื่อวันที่ 29 เมษายนที่ผ่านมา และมีกำหนดจ่ายเงินปันผลภายใน 28 พฤษภาคมนี้ ตอกย้ำความเป็นหุ้นปันผล (Dividend stock) ในช่วงตลาดผันผวน