คุณชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่เริ่มคลี่คลาย และมีทิศทางที่ดีขึ้น ประกอบกับการที่รัฐบาลได้ประกาศเปิดประเทศรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาได้ส่งผลดีต่อความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจและผู้บริโภค รวมถึงตลาดอสังหาริมทรัพย์ก็เริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวเช่นกัน
และที่จะกลับมาอย่างแน่นอนก็คือวิถีชีวิตของคนเมือง เพียงแต่อาจปรับเปลี่ยนรูปแบบแตกต่างไปจากเดิมบ้าง ลูกค้าในแต่ละช่วงวัยจะมีความต้องการที่หลากหลายมากขึ้น โดยปัจจัยของช่วงอายุ และ Generation จะเป็นตัวกำหนดที่สำคัญ หน้าที่ของแบรนด์ในการพัฒนา ก็ต้องมีความเข้าใจ และมีการปรับเปลี่ยนให้เหมาะสม และตรงกับความต้องการนั้นๆ เรามั่นใจ และเชื่อมั่น ในศักยภาพคอนโดติดรถไฟฟ้าที่ยังเป็นสินค้าที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการในการใช้ชีวิตคนเมืองได้เป็นอย่างดี และอย่างไร้ขีดจำกัด
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้ทำการศึกษาถึงวิถีชีวิตของคนเมืองพบว่าในยุคหลังโควิดการใช้ชีวิตในเมืองยังคงเป็นความจำเป็น มีความสำคัญสำหรับกลุ่มคนในวัยทำงาน กลุ่มคนที่กำลังศึกษาเล่าเรียน กลุ่มครอบครัว ตลอดจนกลุ่มระดับลักชัวร์รี่ในเมือง กลุ่มคนเหล่านี้ยังต้องการที่พักอาศัยที่มีความสะดวกสบายในการเดินทาง การบริการและการดูแลที่พิเศษ ตลอดจนสิทธิพิเศษต่างๆ รวมถึงแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก มีระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ มีสถานที่ที่ทันสมัยในการพบปะสังสรรค์ ที่พร้อมตอบโจทย์การใช้ชีวิตในทุกมิติของผู้อยู่อาศัยทุกคนภายในบ้าน
เพื่อทำให้การอยู่อาศัยเป็นเรื่องง่ายขึ้น และด้วยฐานข้อมูลดังกล่าวบริษัทฯ จึงได้นำเอากลยุทธ์ ANANDA NEW BLUE มาต่อยอดพัฒนาผลิตภัณฑ์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการต่างๆ ในปี 2565 ซึ่งบริษัทฯมั่นใจว่าจะสามารถนำเสนอความแตกต่างและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่เป็นคนเมืองได้อย่างตรงจุด และและชัดเจน
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยืนยันในความพร้อมมีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน มีศักยภาพในการลงทุนขยายโครงการต่างๆ ด้วยการตุนกระแสเงินสดกว่า 5,000 ล้านบาท และเมื่อเร็วๆนี้ผู้ถือหุ้นได้ให้ความเห็นชอบในการเพิ่มทุนของบริษัทฯ เพื่อรองรับจังหวะที่สำคัญในการเติบโตของบริษัทต่อไป นอกจากนี้บริษัทมีแผนในการออกหุ้นกู้มูลค่าประมาณ 5,000 ล้านบาท ในเดือนมกราคม 2565 อีกด้วย ในส่วนของการสนับสนุนจากพันธมิตรเรายังคงได้รับการสนับสนุนที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องจากพันธมิตรชั้นนำระดับอินเตอร์เนชั่นแนล เช่น มิตซุย ฟูโดซัง, บีทีเอส กรุ๊ป, เพรซิเดนท์ ดี เวนเจอร์, ดุสิตธานี, สแครทช์ เฟิร์สท์ และดิ แอสคอทท์ เป็นอย่างดีด้วยเช่นกัน
ในส่วนของเซอร์วิสอพารท์เม้นท์คาดว่ารายได้ประจำสม่ำเสมอ (Recurring Income) จะกลับมาดีขึ้นในไตรมาส 4/64 ภายหลังจากการเริ่มเปิดประเทศและรับนักท่องเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งคาดว่าปี 2565 โครงการเซอร์วิสอพารท์เม้นท์จะสามารถเปิดดำเนินการได้ทั้ง 5 โครงการ คือ โครงการซัมเมอร์เซ็ต พระราม 9 โครงการแอสคอทท์ แอมบาสซี่ สาทร โครงการแอสคอทท์ ทองหล่อ บางกอก โครงการไลฟ์ สุขุมวิท 8 บางกอก และโครงการซัมเมอร์เซ็ต พัทยา
คุณประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า แม้ว่าช่วงที่ผ่านมาของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะอยู่ในช่วงเวลาที่ท้าทาย แต่ในส่วนของอนันดาฯ ก็ยังสามารถสร้างการเติบโตได้ทั้งในส่วนของยอดขายและยอดโอนมีสัญญาณที่ดีขึ้นที่ชัดเจน โดยในช่วง 3 เดือน (กรกฎาคม-กันยายน) เติบโต 20% มาโดยตลอด และคาดว่าสามารถเติบโตได้ถึงดับเบิลดิจิทใน 3 เดือนสุดท้ายของปี 64 โดยมียอดขาย 4,104 ล้านบาท และยอดโอนกว่า 2,557 ล้านบาท โดยเติบโตจากโครงการคอนโดมิเนียมและโครงการแนวราบ และบริษัทฯ มียอดขายรอรับรู้รายได้ (Backlog)กว่า 12,821 ล้านบาท เพื่อรองรับการโอนในระยะ 2 ปีข้างหน้า
บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่ในปี 2565 จำนวน 7 โครงการ มูลค่ากว่า 28,000 ล้านบาท โดยเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 5 โครงการ และโครงการแนวราบ 2 โครงการ ภายใต้ 7 โครงการใหม่นี้ อนันดาฯ เตรียมเปิดโครงการคอนโดมิเนียม 2 แบรนด์ใหม่ ครั้งแรก ได้แก่
- 1. แบรนด์ โคโค่ พาร์ค พัฒนาเป็นโครงการ โคโค่ พาร์ค (COCO PARC) มูลค่าโครงการ 4,622 ล้านบาท ครั้งแรกในการจับมือเพื่อสร้างสรรค์แบรนด์ใหม่ระหว่าง ANANDA X DUSIT เกิดเป็นประสบการณ์โครงการที่อยู่อาศัยพร้อมบริการสุดพิเศษจากโรงแรมดุสิตธานี ด้วยมาตรฐานระดับโรงแรมห้าดาวเฉพาะโครงการ COCO PARC Managed by DUSIT คอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จพร้อมอยู่ก่อนเปิดขาย โดยเป็นคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ที่จะเปลี่ยนรูปแบบในการอยู่อาศัยให้ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป เอกสิทธิ์เพียง 486 ครอบครัว ซึ่งเป็นครั้งแรกของวงการอสังหาริมทรัพย์ไทยสำหรับความร่วมมือครั้งนี้ ทั้งนี้เพื่อสร้างจุดแข็งในด้านมาตรฐานที่พักอาศัยเหนือระดับให้กับลูกค้าในโครงการ
- 2. แบรนด์ คัลเจอร์ ครั้งแรกกับโครงการแนวคิดใหม่ของการอยู่อาศัยในสังคมร่วมสมัย ด้วยการร่วมปลุกปั้นแบรนด์ใหม่เพื่อเปลี่ยนนิยามชีวิตเมือง ANANDA X SUSTAINABILITY CONCEPTS BY SCRATCH, FROM THE CREATOR OF WONDERFRUIT ผู้นำวิถีชีวิตเมืองที่เน้นความยั่งยืนและเป็นมิตรกับธรรมชาติอย่างสร้างสรรค์ CULTURE การรวมตัวกันทางความคิดของกลุ่มคนเมืองที่มีความเชื่อในการมองหาทางเลือกการใช้ชีวิตแนวใหม่ เน้นความใกล้ชิดกับธรรมชาติ ผสานความยั่งยืน สร้างแรงบันดาลใจและสะท้อนตัวตนที่โดดเด่นในการอยู่อาศัยสู่สุดยอด 2 ทำเลศักยภาพใจกลางเมือง ได้แก่
- 2.1 โครงการ คัลเจอร์ ทองหล่อ (Culture Thonglor) มูลค่าโครงการ 3,383 ล้านบาท ทำเลใจกลางแหล่งธุรกิจและ LIFESTYLE เพียง 230 เมตรจากสถานีทองหล่อ การเดินทางสะดวกสบาย โดดเด่นด้วยการดีไซน์ที่คำนึงถึงคุณภาพชีวิตและประสบการณ์ร่วมของผู้อยู่อาศัย ยกระดับการใช้ชีวิตในคอนโดมิเนียมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย และบริการที่ได้มาตรฐานโรงแรมชั้นนำที่สามารถเลือกสรรบริการต่างๆ ได้ ตอบโจทย์ความต้องการอยู่อาศัยและการพักผ่อนภายในโครงการอย่างเต็มที่
- 2.2 โครงการ คัลเจอร์ จุฬา (Culture Chula) มูลค่าโครงการ 6,031 ล้านบาท เพียง 350 เมตร จาก MRT สามย่าน และ 240 เมตรจาก BTS ศาลาแดง ตั้งอยู่ใจกลางสถานศึกษาชั้นนำ เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของสามย่าน วิถีชีวิตยุคใหม่ที่เชื่อมต่อเทคโนโลยีเข้ากับแนวคิดรักษ์โลกที่สร้างสรรค์อย่างลงตัวทั้งการทำงาน และการพักผ่อนด้วย CO-WORKING SPACE พร้อมรองรับการใช้งานตลอด 24 ชม.
นอกจากนี้ยังมีการเปิดตัว 2 โครงการคอนโดมิเนียม New Series ใหม่ ภายใต้แบรนด์หลัก ด้วย ไอดีโอ ได้แก่
- 1. โครงการ ไอดีโอ พหล- สะพานควาย (Ideo Phahol-Saphan Khwai) มูลค่าโครงการ 7,521 ล้านบาท ด้วยที่สุดของทำเล ติดบันไดทางขึ้นรถไฟฟ้าแบบ 0 เมตร และรายล้อมไปด้วยแหล่งไลฟ์สไตล์ต่างๆ ของคนเมือง
- 2.โครงการ ไอดีโอ รามคำแหง-ลำสาลี สเตชั่น (Ideo Ramkhamhaeng Lam Sali Station) มูลค่าโครงการ 2,085 ล้านบาท ทำเลที่เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าถึง 3 สาย ให้คุณสะดวกในทุกจุดหมาย พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ และส่วนกลางแนวคิดใหม่เพื่อทุกโหมดของการใช้ชีวิต LIVE-WORK-PLAY-LEARN
สำหรับโครงการแนวราบมีแผนเปิดตัว 2 โครงการ ได้แก่ โครงการ อาร์เทล พระราม 9 (Artale Rama9) มูลค่าโครงการ 3,538 ล้านบาท ด้วยจุดเริ่มต้นแนวคิด LIVE IMAGINATION นิยามใหม่ที่แตกต่างของโครงการบ้านเดี่ยวระดับ Hi-End ใจกลางเมือง จนมาสู่ความสำเร็จ และผลตอบรับที่ดีของ ARTALE Phatthanakan และ ARTALE Ekkamai-Ramintra ทำให้ แบรนด์ ARTALE เป็นแบรนด์โครงการบ้านเดี่ยวระดับ Hi-End ได้รับการยอมรับอย่างดี และต่อยอดสู่ ARTALE RAMA 9 โครงการบ้านระดับ Luxury ใจกลางเมืองบนทำเลใจกลางพระรามเก้าที่มีการออกแบบและพัฒนาโครงการด้วยความเข้าใจในความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ARTALE โดดเด่นด้วย Design Concept ภายใต้แนวคิด URBAN LUXURY POOL VILLA ที่จะทำให้การอยู่อาศัยเป็นการใช้ชีวิตใน POOL VILLA หรูใจกลางเมือง