ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ เป็นคอนโดมิเนียมโครงการใหม่จาก บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ ทั้งด้วยดีไซน์ ฟังก์ชันห้อง และทำเลที่ตั้งโครงการ ที่นับว่าลงตัวกับไลฟ์สไตล์คนเมืองมากทีเดียว 

เพราะหากจะหาคอนโดสักแห่งสำหรับคนรุ่นใหม่ สิ่งที่คนรุ่นใหม่ต้องการไม่ใช่เพียงห้องชุดเพียงเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ตรงกับไลฟ์สไตล์ ความสะดวกสบายรอบด้านของทำเลที่รองรับการพักผ่อน กินเที่ยว ช้อปปิ้ง หรือนั่งทำงานเบา ๆ วันหยุด และที่สำคัญการเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองซึ่งเป็นที่ตั้งของสถานที่ทำงานต้องสะดวกรวดเร็ว  และสิ่งสำคัญที่สุดก็คือ ราคาต้องสามารถเป็นเจ้าของได้…ซึ่งทั้งหมดนี้ Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ สามารถตอบโจทย์ได้เป็นอย่างดีครับ 

Supalai Loft Phasi Charoen Station

LOCATION

ที่ตั้งของโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ อยู่ติดถนนเพชรเกษม เยื้องกับห้างซีคอนบางแค ใกล้รถไฟฟ้า MRT สถานีภาษีเจริญแค่ 220 เมตรเท่านั้น ที่ตั้งโครงการนับว่าตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่วัยทำงานได้เป็นอย่างดี ซึ่งคอนโดทำเลเพชรเกษมโดยเฉพาะช่วงตั้งแต่แยกบางหว้าเป็นต้นมาจนถึงสถานีหลักสอง นับว่าเป็นทำเลคอนโดมิเนียมที่ราคายังไม่สูง ยังมีโครงการติดถนนใหญ่ที่ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตรไม่ถึงแสน ทำให้ห้องชุดที่เปิดขาย เช่น 1 ห้องนอน 30.5 ตารางเมตร จะมีราคาอยู่ที่ช่วง 1 ล้านปลายจนถึง 2 ล้านกว่า ๆ เท่านั้น ซึ่งเป็นช่วงราคาที่กลุ่มคนทำงาน พนักงานบริษัทสามารถเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า

ด้านการเดินทางจากทำเลนี้ก็ยังสะดวกสบายโดยเฉพาะการเดินทางเข้าสู่โซน CBD ของกรุงเทพ เพื่อไปยังสถานที่ทำงาน เช่น จากโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ ไปยังโซน CBD อย่างสีลม ก็นั่งรถไฟไป 11 สถานี ลงที่ MRT สีลม ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที หรือถ้าไปโซนสาทร ก็สามารถเชื่อมต่อ BTS บางหว้า แล้วนั่งต่อไป BTS ช่องนนทรีซึ่งห่างไป 11 สถานีเช่นกัน 

สถานีภาษีเจริญเป็นสถานีที่อยู่ใกล้โครงการเพียงแค่ 220 เมตร ช่วยให้สามารถเดินทางเข้าสู่ใจกลางเมืองโซน สีลม สามย่านได้สะดวก ซึ่งใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที

จาก MRT สถานีภาษีเจริญ สามารถเปลี่ยนเส้นทางไปยัง BTS สายสีลมได้ที่สถานีบางหว้า ซึ่งจะเข้าสู่ใจกลางเมืองโซนสาทรทางตากสิน แยกสาทร-นราธิวาส เพื่อไปทำงานยังอาคารสำนักงานต่าง ๆ ในโซนนั้นได้สะดวก

เรื่องกินอยู่ของทำเลนี้ก็นับว่าสมบูรณ์พร้อมเรียกว่ามีแหล่งอาหารการกินใกล้บ้าน โดยใกล้บันไดทางขึ้นลง MRT สถานีภาษีเจริญมีอาคารพาณิชย์เปิดเป็นร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ถัดไปอีกนิดเดียวก็มีตลาดเสนีย์ ฟู้ด มาร์เก็ต มีร้านอาหารต่าง ๆ ทั้งอาหารเช้า ร้านติ่มซำ ร้านกาแฟ ร้านขายยา

ติดกับตัวสถานีภาษีเจริญจะมีตลาดเสนีย์ ฟู้ด มาร์เก็ต เป็นตลาดขายอาหารตามสั่ง และอาหารพร้อมทานเป็นแหล่งฝากท้องยามหิวในช่วงเช้าได้เลย

เยื้อง ๆ กับโครงการมีซีคอน บางแค เป็นศูนย์การค้าใหญ่ สามารถเดินขึ้นสถานีภาษีเจริญแล้วใช้ทางเดินเชื่อมเข้าสู่ตัวห้างได้เลย

สำหรับศูนย์การค้า และตลาดสดที่อยู่ใกล้โครงการ นอกจากซีคอน บางแคแล้ว ก็จะมีตลาดบางแค โลตัส บางแค และเดอะมอลล์ บางแค เป็นแหล่งให้พักผ่อน จับจ่ายใช้สอยซึ่งจากโครงการก็สามารถนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปได้เช่นกัน ถือว่าสะดวกกับทั้งผู้ที่ขับรถไปเอง และผู้ที่ไม่ใช้รถยนต์ส่วนตัว

ตลาดใหม่บางแค อยู่ใกล้กับ MRT สถานีบางแค ที่ห่างจากสถานีภาษีเจริญไปแค่ 1 สถานี

หากนั่งรถไฟฟ้าไปยัง MRT หลักสองก็จะมีเดอะมอลล์ บางแค เป็นศูนย์การค้าใหญ่อีกแห่ง

Project Walkthrough

การเดินทางมายังโครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ  หากนั่ง BTS มาจากโซนสาทร ก็ให้ลงที่ BTS บางหว้า จากนั้นเปลี่ยนเส้นทางไปรถไฟฟ้า MRT แล้วนั่งต่อไปอีก 2 สถานี ลงที่ MRT ภาษีเจริญ ทางออกที่ 3 จากนั้นเดินต่อไปตามทางอีก 220 เมตรก็จะถึงที่ตั้งของโครงการ สำหรับผู้ที่ใช้ MRT มาจากในเมือง ก็สามารถนั่งมาลงสถานีภาษีเจริญแล้วเดินต่ออีก 220 เมตรเช่นกัน

จาก MRT สถานีภาษีเจริญเมื่อลงที่ทางออก 3 แล้วสามารถเดินย้อนไปอีก 220 เมตร โดยทางเท้าตรงนี้ถือว่ากว้างดีเดินได้สะดวก ตลอดเส้นทางก็มีต้นไม้ให้ร่มเงาด้วยครับ

ที่ตั้งโครงการจะอยู่ติดถนนใหญ่ถัดจากศุภาลัย เวอเรนด้า ภาษีเจริญเลยครับ

งานออกแบบสถาปัตยกรรม และพื้นที่ส่วนกลาง

โครงการ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น 1 อาคาร พัฒนาบนพื้นที่ขนาด 2-0-90 ไร่ โดยในตัวอาคารมียูนิตพักอาศัย 376 ยูนิต และร้านค้าอีก 2 ยูนิต  ตัวโครงการถูกออกแบบให้เหมือนเป็นชิ้นงานศิลปะ เน้นรูปทรง องค์ประกอบศิลป์ในสไตล์ Minimal Loft ภายใต้แนวคิด “Aesthetics of Nature” “สุนทรียภาพของธรรมชาติ”  โดยใช้เส้นสายในงานออกแบบที่ถูกถอดรูปแบบจากเส้นสายทางธรรมชาติ นำมาลดทอนรายละเอียด เพื่อให้ได้เส้นโค้ง และเส้นตรงที่มีความเรียบง่าย แต่ยังคงมีสไตล์ บ่งบอกถึงตัวตนของคนรุ่นใหม่ที่มีแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตอย่างที่ตัวเองต้องการ 

นอกจากนี้โครงการยังออกแบบพื้นที่ส่วนกลางโดยคำนึงถึงหลัก Universal Design เพื่อให้ผู้ที่ใช้งานรถเข็นสามารถเข้า-ออก ใช้พื้นที่ส่วนกลางได้โดยสะดวก ด้วยการออกแบบให้พื้นของโครงการทั้งส่วนที่เป็นถนน ทางเดินภายในโครงการ และพื้นที่ส่วนกลาง มีทางลาดแทนการยกสเต็ปพื้น ช่วยให้ผู้ใช้งานรถเข็นสามารถเข็นขึ้นลงได้ด้วยตัวเอง นอกจากนี้ยังมีลิฟท์สำหรับผู้ใช้งานรถเข็น รวมถึงบันไดหนีไฟยังมีราวจับขึ้นลงทั้งสองด้าน และที่ชั้นล่างยังมีที่จอดรถสำหรับผู้พิการอีก 6 ช่อง 

ตัวอาคารออกแบบให้แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก ๆได้แก่ ส่วนโพเดียม 5 ชั้น ที่ใช้งานเป็นพื้นที่ส่วนกลางต่าง ๆ พื้นที่จอดรถ  และส่วนอาคารพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 6 – 25 ซึ่งมีทั้งห้องพักอาศัย พื้นที่ส่วนกลาง และชั้น Rooftop เป็นพื้นที่สำหรับกิจกรรมพักผ่อนต่าง ๆ

จากมุมด้านหลังจะพื้นที่ส่วนกลางบนโพเดียมชั้น 5 วางถูกจัดไว้ด้านหลังมีตัวอาคารพักอาศัยวางโอบทางด้านทิศใต้ และทิศตะวันตก ช่วยบังแดดช่วงบ่าย-เย็น สร้างร่มเงาให้แก่พื้นที่ส่วนกลาง

ทางเข้าโครงการจะเชื่อมต่อกับถนนเพชรเกษมเลย โดยบริเวณป้ายด้านหน้าโครงการจะทำทางเดินลอดซุ้มทรงโค้งสำหรับเข้าสู่โครงการ

พื้นที่ด้านหน้าฝั่งซ้ายมือของทางเข้าโครงการจะเป็น Relaxing Garden ซึ่งเป็นสวนพักผ่อน ปลูกต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่น

เมื่อเข้าสู่ภายในอาคารชั้นล่างจะพบกับ Lobby ที่ออกแบบเชื่อมต่อกับ Inspired Living และ Inspired Creativity  และมีประตูที่เปิดสู่โถงลิฟท์ที่ออกแบบเป็นซุ้มทรงโค้ง โดยมีระบบ Face scan เพื่อสั่งเปิดระบบประตูล็อบบี้

ตัวอาคารโซนโพเดียมตั้งแต่ชั้น 2-4 จะเป็นพื้นที่จอดรถที่สามารถรองรับรถได้ประมาณ 50% และถัดมาที่ชั้น 5 จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางหลักของโครงการ ประกอบด้วย Inspired Fitness, สระว่ายน้ำแบ่งโซนสระเด็ก-ผู้ใหญ่,  Jacuzzi, พื้นที่ Inspired Recreation,  Relax Garden และ Natural Garden รวมถึงห้องน้ำส่วนกลางแยกชาย-หญิง พร้อมห้องน้ำผู้พิการ

บรรยากาศจำลองส่วนกลางชั้น 5 จะเป็นพื้นที่สวนพักผ่อน และสระว่ายน้ำ รวมถึงบริเวณริมสระว่ายน้ำจะมีพื้นที่สำหรับพักผ่อนในร่มเตรียมเอาไว้ด้วย

Inspired Fitness จะอยู่พื้นที่ส่วนมุมของอาคาร ซึ่งจะมีหน้าต่างกระจกแบบ Full Height ช่วยให้ภายในห้องดูโปร่ง และภายในห้องยังวางตำแหน่งเครื่องเล่นให้เห็นวิวของสวน และสระว่ายน้ำได้ด้วย  โดยห้องฟิตเนสนี้ก็จะใช้ระบบ Face Scan ในการเปิดประตูเพื่อลดการสัมผัสเช่นเดียวกันครับ

ชั้น 6 – 23 จะเป็น Typical Floor Plan ของโครงการ มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 20 ยูนิต ลักษณะของแปลนเป็นรูปทรงตัว L  โดยจะจัดให้ยูนิตแบบ 1 ห้องนอน และ 1 ห้องนอนพลัส อยู่บริเวณตรงกลางตัวอาคาร ส่วนยูนิตมุมทั้ง 4 ด้านจะเป็นยูนิตแบบ 2 ห้องนอน ซึ่งจะมีจุดเด่นในเรื่องความเป็นส่วนตัว รับลมรับแสงธรรมชาติได้ดี

ชั้นที่ 24 จำนวนยูนิตพักอาศัยจะลดลงเหลือ 13 ยูนิต โดยจะมียูนิตแบบ 3 ห้องนอน 88 ตารางเมตรเพิ่มเข้ามา โดยห้องนี้จะมีจุดเด่นตรงที่มีผนังติดเพื่อนบ้านแค่ฝั่งเดียว โดยผนังห้องฝั่ง Master Bedroom จะเห็นวิวสวนส่วนกลางได้ สำหรับส่วนกลางของชั้นนี้จะมี Scented Garden และ Flora Garden ซึ่งก็จะเป็นพื้นที่พักผ่อนพิเศษสำหรับลูกบ้านที่อยู่ชั้นนี้ครับ

มาถึงชั้นที่ 25 จะมีห้องพักอาศัยทั้งหมด 3 ห้องเท่านั้น โดยจะเป็นยูนิตแบบ 2 ห้องนอน 1 ยูนิต และแบบ 3 ห้องนอนอีก 2 ยูนิต โดยจะมีประตูกั้นที่โถงทางเดินเพื่อแยกการใช้สอยของเจ้าของห้องชั้นนี้ กับผู้ที่ขึ้นมาใช้งานส่วนกลางเอาไว้อย่างชัดเจนครับช่วยให้มีความเป็นส่วนตัวมากทีเดียว โดยพื้นที่ส่วนกลางในชั้นนี้จะมี Sky Lounge, Sky Yard, Sunset Bar

ภาพบรรยากาศจำลองของ Sky Lounge จัดที่นั่งพูดคุยไว้เป็นกลุ่ม ๆ โดยที่ผนังด้านติดกับ Sky Yard จะมีกระจกโค้งบานสูงแบบ Full Height เพิ่มความโปร่งโล่ง ใช้เป็นที่นั่งรับวิวสวย ๆ ช่วงเย็น ๆ ค่ำ ๆ ได้เลย

สำหรับชั้น Rooftop การเข้าใช้งานจะต้องเดินขึ้นบันไดจากด้านข้าง Sky Lounge ของชั้น 25 จะมีพื้นที่ส่วนกลางได้แก่ Sky Active และ Playground Climbing ครับ โดย Sky Active จะเป็นพื้นที่สำหรับ Surf Skate มีแรมป์สำหรับกลับตัว ซึ่งตรงนี้ถือว่าปลอดภัยหายห่วงครับเพราะมีกำแพงสูงล้อมรอบ ส่วน  Playground Climbing จะเป็นหน้าผาจำลอง โดยมีเบาะรองรับด้านล่าง

ROOM TYPE

ห้องพักอาศัยของ ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ จะมีขนาดห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 ห้องนอน  1 ห้องนอน พลัส ไปจนถึงขนาดใหญ่สุดคือ 3 ห้องนอน โดยจุดเด่นของห้องพักอาศัยของคือมีพื้นที่ใช้สอยที่กว้างขวาง สามารถจัดฟังก์ชันใช้สอยภายในห้องได้หลายรูปแบบ และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 เมตร ช่วยให้ภายในห้องดูโปร่งสามารถอยู่อาศัยได้สบาย โดยมีแบบห้องให้เลือกดังนี้

• 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 30.5 – 35 ตารางเมตร
• 1 ห้องนอน พลัส พื้นที่ใช้สอย 45.5 ตารางเมตร
• 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 53-63 ตารางเมตร
• 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 80-88 ตารางเมตร

สำหรับห้องชุดที่โครงการเปิดขายจะเป็นแบบ Fully fitted โดยในห้องมาตรฐานที่ส่งมอบจะมี ชุดครัวพร้อม Hob & Hood,  ชุดสุขภัณฑ์จาก Cotto, ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย, ฝักบัวแบบ rain shower, ประตู digital door lock, ผนังติดวอลเปเปอร์ และเครื่องปรับอากาศแบบ Inverter ให้ 2 ตัว (จำนวนเครื่องปรับอากาศที่ได้รับ ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องชุด)

ห้องตัวอย่าง ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ
แบบ 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร  (Type B2)

สำหรับห้องตัวอย่างที่โครงการเตรียมเอาไว้จะมีพื้นที่ใช้สอยที่ 35.00 ตารางเมตร ซึ่งนับว่ามีพื้นที่ขนาดใหญ่เลยทีเดียว สามารถรองรับการพักอาศัย 2 คนได้สบาย ๆ เลย โดยจุดเด่นของห้องนี้คือมีพื้นที่กว้างขวางในส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอน และกั้นส่วนด้วยประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอน ช่วยให้ห้องดูสว่างปลอดโปร่งได้รับแสงธรรมชาติจากภายนอกได้ดี ที่ห้องนั่งเล่นยังมีประตูที่เปิดไปยังห้องน้ำที่โครงการเลือกใช้เป็นห้องน้ำสำเร็จรูปซึ่งช่วยลดการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี  ถัดไปเป็นครัวปิดที่มีประตูบานเลื่อนกั้นส่วนช่วยให้สามารถใช้งานครัวเพื่อทำอาหารได้สะดวกกลิ่นควันไม่รบกวนพื้นที่อื่น ๆ ในห้อง พร้อมกับมีประตูเปิดสู่ระเบียงที่ส่วนนี้ด้วย

เริ่มจากประตูทางเข้าห้องกันก่อนครับ โครงการจะให้ประตูแบบ Digital Door Lock มาพร้อมด้วย โดยสามารถใช้งานเปิดห้องได้ด้วย Pincode, Key Card, Finger Scan

เข้ามาภายในห้องพื้นที่ส่วนแรกจะเป็นห้องนั่งเล่นมีพื้นที่กว้างขวาง โดยมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 เมตร ช่วยให้เรารู้สึกถึงความโปร่งโล่งมากทีเดียว มุมนี้เราอาจเลือกตกแต่งด้วยโซฟาสำหรับ 2 ที่นั่ง และโต๊ะกลางตัวเล็ก ๆ สำหรับวางข้าวของต่าง ๆ แบบในห้องตัวอย่างก็ได้ครับ

ถัดจากห้องนั่งเล่นจะเป็นมุมโต๊ะรับประทานอาหาร มุมนี้ในห้องมาตรฐานทางโครงการจะไม่ได้แถมเฟอร์นิเจอร์มาด้วย ดังนั้นเราก็สามารถแต่งได้ตามใจชอบ โดยอาจเลือกวางโต๊ะทานข้าวตัวยาวชbดผนัง แล้วจัดเก้าอี้นั่งหันหน้าเข้าผนังก็ลงตัวอยู่นะ

อีกฝั่งของห้องเริ่มจากด้านซ้ายมือจะเป็นตำแหน่งที่วางโทรทัศน์ ซึ่งห้องนั่งเล่นมีระยะจากโซฟาไปยังโทรทัศน์รองรับการใช้โทรทัศน์จอใหญ่ 55 – 60 นิ้วได้สบาย ๆ ครับ ถัดไปเป็นประตูห้องน้ำ และทางเดินสู่ห้องครัว

สำหรับห้องน้ำภายในห้องพักอาศัยของโครงการ Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ จะเป็นห้องน้ำสำเร็จรูปนะครับ ซึ่งก็มีจุดเด่นเรื่องมีความเรียบร้อยในการเก็บงานต่าง ๆ รวมถึงลดปัญหาการรั่วซึมได้เป็นอย่างดี โดยภายในห้องน้ำเราจะได้อ่างล้างมือพร้อมตู้ใต้อ่าง กระจกเงาติดผนัง โถสุขภัณฑ์ ฉากกั้นอาบน้ำ และชุดฝักบัวอาบน้ำแบบ rain shower เหมือนในห้องตัวอย่างครับ

โดยในห้องมาตรฐานที่ส่งมอบจะได้ก๊อกฝักอ่างล้างมือ สายฉีดชำระ และชุดฝักบัวเป็นสีดำของแบรนด์ Hafele

ภายในพื้นที่อาบน้ำจะได้ฝักบัวพร้อม Rain Shower สีดำแบบในภาพครับ

ถัดจากห้องน้ำมาจะเป็นครัวปิดมีประตูซึ่งโครงการให้ประตูบานเลื่อนใช้ป้องกันกลิ่นควันจากห้องครัวไม่ให้ลอยออกมารบกวนพื้นที่ส่วนอื่น ๆ ด้วย

มุมนี้จะอยู่ตรงกับประตูห้องครัว ในห้องมาตรฐานจะไม่ได้มีเฟอร์นิเจอร์ และเครื่องใช้ไฟฟ้าแถมมาครับ โดยในห้องตัวอย่างได้ตกแต่งโชว์การใช้สอยไว้เป็นมุมเครื่องซักผ้า และเพิ่มชั้นเก็บของเพื่อให้มีพื้นที่สำหรับวางของใช้ต่าง ๆ สำหรับซักผ้าได้เป็นระเบียบ โดยพื้นห้องครัวจะเป็นกระเบื้องขนาด 40 x 40  ซ.ม.

พื้นที่ภายในห้องครัวจะเป็นลักษณะแนวลึก แต่ก็มีความกว้างเพียงพอให้สามารถใช้งานได้สะดวก โดยมุมนี้จะเห็นว่าที่วางตู้เย็นจะอยู่ถัดจากชุดครัวไปด้านในห้องครับเพื่อไม่ให้ถูกแสงแดด และความร้อนจนตู้เย็นต้องทำงานหนัก ส่วนชุดครัวที่โครงการให้มาพร้อมกับห้องจะมีความกว้าง 1.6 เมตร มีทั้งตู้ครัวตั้งพื้น และตู้แขวนผนัง

ตู้ครัวแขวนผนังจะมี 2 ใบโดยด้านซ้ายมือแบ่งเป็นช่องเก็บของ และช่องสำหรับวางไมโครเวฟ ส่วนใบด้านขวามือเป็นตู้ปิดท่อของฮู้ดดูดควันครับ

ที่ท็อปของเคาน์เตอร์ครัวเป็นลามิเนตโพสฟอร์มสีดำลายหินอ่อน ด้านซ้ายมือเป็นซิงค์ล้างจานแบบฝังลงเคาน์เตอร์ ที่ผนังติดกระเบื้องเป็นแผ่นกันเปื้อน ส่วนฝั่งขวามือเป็นเตาไฟฟ้าแบบ 2 หัว และฮู้ดดูดควันแบบสลิมไลน์

ตู้ตั้งพื้นจะให้มา 2 บาน โดยด้านซ้ายเป็นตู้ใต้ซิงค์ ส่วนด้านขวาจะแบ่งเป็น 2 ชั้น สามารถเก็บของได้เยอะพอสมควรครับ

ถัดจากห้องครัวจะมีประตูที่เปิดสู่ระเบียงห้องครับ โดยส่วนของระเบียงจะมีราวกันตกให้ ที่ผนังเป็นตำแหน่งติดคอนเดนซิ่งยูนิตของเครื่องปรับอากาศ ด้านล่างจะมีก๊อกน้ำให้ 1 จุดครับ

พื้นที่ของระเบียงถือว่ามีความกว้างอยู่พอสมควรเลย สามารถเป็นพื้นที่ซักล้างได้สะดวกทีเดียว

กลับมาต่อที่ห้องนอนกันครับ โดยโครงการจะใช้ประตูบานเลื่อนกระจกแบบ 3 ตอนกั้นส่วนระหว่างห้องนั่งเล่น ช่วยให้ดูเป็นสัดส่วนโดยที่ห้องนั่งเล่นยังคงได้แสงธรรมชาติช่วยให้ห้องดูสว่าง

ด้วยห้องนี้เป็นขนาด 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอย 35 ตารางเมตร ทำให้ห้องนอนมีความกว้างขวางดีทีเดียวครับ ทำให้เราสามารถจัดเฟอร์นิเจอร์ใช้สอยได้หลายรูปแบบ

ฝั่งปลายเตียงมีพื้นที่เหลือค่อนข้างกว้างทีเดียว สามารถวางตู้โทรทัศน์เพื่อให้มีพื้นที่เก็บของใช้ต่าง ๆ เพิ่มขึ้นที่มุมนี้ได้โดยไม่กีดขวางทางเดินเข้าออกห้อง

ถัดจากตำแหน่งวางตู้โทรทัศน์มาจะเป็นตำแหน่งของตู้เสื้อผ้าครับ โดยตรงนี้ถ้าเลือกใช้เป็นตู้เสื้อผ้าบานสไลด์ก็ช่วยให้ใช้งานได้โดยไม่กีดขวางห้อง

ด้านข้างของเตียงนอนจะมีพื้นที่เล็ก ๆ สามารถหาโต๊ะเครื่องแป้งตัวเล็ก ๆ มาใช้ได้

ราคาคอนโด ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ

โครงการ Supalai Loft สถานีภาษีเจริญ ถือว่าเปิดตัวด้วยราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายมากทีเดียว ทำให้โครงการนี้เหมาะกับคนรุ่นใหม่ทั้งกลุ่มที่เริ่มต้นทำงานที่ซื้อเอาไว้อยู่อาศัยเอง หรือนักลงทุนที่ต้องการห้องที่มีจุดเด่นเป็นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่สำหรับปล่อยเช่าสร้างรายได้ โดยมีราคาเริ่มต้นอยู่ที่ 1.89 ล้านบาท และสามารถเข้าไปลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษได้ที่ คลิก

โดยห้องมาตรฐานที่ส่งมอบลูกค้าจะเป็นห้องแบบ Fully Fitted มีรายการของที่ได้ตามนี้ครับ

• วอลเปเปอร์
• เครื่องปรับอากาศแบบ Inverter (จำนวนเครื่องปรับอากาศที่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องชุด)
• ชุดครัวพร้อม Hob & Hood
• เครื่องทำน้ำอุ่น
• ฝักบัวแบบ rain shower
• ฉากกั้นอาบน้ำแบบกระจกนิรภัย
• ประตูแบบดิจิตอล Door Lock

สำหรับค่าใช้จ่ายอื่น ๆ มีดังนี้

• ค่าส่วนกลาง ตร.ม. ละ 45 บาท จ่ายล่วงหน้า 1 ปี
• เงินกองทุน ตร.ม. ละ 450 บาท
• ค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์ แบ่งชำระคนละครึ่งกับผู้ขาย

SUMMARY : Supalai Loft Phasi Charoen Station

ภาพรวมโครงการ และไฮไลต์สำคัญ

• ศุภาลัย ลอฟท์ สถานีภาษีเจริญ เป็นคอนโดมิเนียมสูง 25 ชั้น มีจำนวนยูนิตทั้งสิ้น 376 ยูนิต พัฒนาบนที่ดินขนาด 2-0-90 ไร่ โดยที่ตั้งโครงการถือว่าอยู่ในทำเลที่สะดวกสบายเป็นอย่างมากเพราะใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญแค่ 220 เมตร ซึ่งพื้นที่ติดสถานีมีทั้งร้านสะดวกซื้อ ตลาดเสนีย์มาร์เก็ตซึ่ง ฟู้ดส์มาร์เก็ต และศูนย์การค้าซีคอนบางแค
• โครงการมียูนิตพักอาศัยแค่ 376 ยูนิต หากเทียบกับคอนโดระดับราคาเดียวกันก็นับว่ามียูนิตไม่มาก
• สิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ออกแบบไว้หลายจุดทั้งชั้น 1 ที่มีสวนพักผ่อนด้านหน้าโครงการ ภายในอาคารมีล็อบบี้ และพื้นที่สำหรับใช้สอยร่วมกันที่กว้างขวาง โดยส่วนกลางหลักจะอยู่ที่ชั้น 5 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ ฟิตเนส สวนสำหรับพักผ่อน ที่ชั้น 24 จะมีพื้นที่สวนที่วางแยกตำแหน่งกันคนละฝั่งอาคารเพื่อกระจายความหนาแน่นในการใช้งาน ส่วนชั้นที่ 25 เป็นส่วนกลางลอยฟ้ามี Sky Lounge พร้อมผนังกระจกโค้งรับวิวโปร่งโล่งภายนอก รวมถึง Sky Yard, Sunset Bar สำหรับเป็นที่พักผ่อนชมวิว
• ที่ชั้น Roof Top มีโซน Activity ยอดนิยมได้แก่ที่ปีนหน้าผาจำลอง และลาน Surf Skate ให้ได้เล่นอย่างปลอดภัย
• การออกแบบโครงการคำนึงถึงหลัก Universal Design ด้วยการใช้ทางลาดแทนพื้นต่างระดับ รวมถึงจัดให้มีลิฟท์โดยสารสำหรับรถ Wheel Chair สามารถเข้า และใช้งานพื้นที่ส่วนกลางได้
• โครงการมีที่จอดรถทั้งหมด 50%
• มีขนาดห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 ห้องนอน – 3 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 30.5 – 88 ตารางเมตร
• ห้องพักของโครงการมีพื้นที่กว้างขวางช่วยให้จัดฟังก์ชันใช้สอยได้สะดวก และมีความสูงจากพื้นถึงฝ้าเพดานที่ 2.7 เมตร ช่วยให้ห้องดูโปร่งโล่งมากยิ่งขึ้น

ทำเล และการเดินทาง

• ที่ตั้งโครงการอยู่ห่างจาก MRT สถานีภาษีเจริญแค่ 220 เมตร ซึ่งพื้นที่บริเวณรอบสถานีมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่าง เช่น ปั๊มน้ำมัน ร้านอาหาร ร้านสะดวกซื้อ ตลาดฟู้ดส์มาร์เก็ต และศูนย์การค้าใหญ่อย่างซีคอนบางแค ถือเป็นทำเลที่มีการพัฒนาที่ดี รองรับการอยู่อาศัยของคนเมืองรุ่นใหม่ได้ลงตัว
• สามารถเดินทางตรงเข้าสู่ CBD อย่างสีลม – สาทร ได้ด้วยการนั่งรถไฟฟ้า โดยห่างจากโซนสีลมเพียง 11 สถานี และเชื่อมต่อกับ BTS บางหว้าเพื่อเดินทางเข้าโซนสาทรเพียง 11 สถานีเช่นกัน
• ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ทั้งบนถนนเพชรเกษม เช่น ซีคอนบางแคที่เยื้องกับโครงการ เดอะมอลล์บางแค ร้านอาหาร คาเฟ่โซนราชพฤกษ์ และพุทธมณฑลสาย 1

เหมาะกับใคร

• เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่เป็นพนักงานบริษัทที่เพิ่งเริ่มต้นทำงาน โดยมีสถานีที่ทำงานอยู่ในโซนถนนเพชรเกษมเอง หรือโซนใจกลางเมืองอย่างสามย่าน สีลม สาทร
• ผู้ที่มองหาคอนโดมิเนียมที่ได้ห้องขนาดใหญ่ในราคาที่ไม่สูงมากเพื่ออยู่อาศัยเอง
• นักลงทุนที่ต้องการคอนโดพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ ในราคาที่ไม่สูงเพื่อเป็นจุดเด่นด้านการตั้งราคาปล่อยเช่า
• กลุ่มครอบครัวที่มองหาคอนโดเป็นบ้านหลังที่ 2 ในทำเลที่ใกล้ใจกลางเมืองอย่างสาทร สีลม
• ผู้ที่มีงบประมาณการซื้อคอนโดไม่ถึงล้าน มีกำลังผ่อนชำระต่อเดือนอยู่ที่หมื่นต้น ๆ