รีวิวบทความนี้เราจะพาไปดูโครงการบ้านใหม่ แบรนด์ใหม่ อย่าง WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า โครงการบ้านติดถนนราชพฤกษ์ ที่มีการออกแบบแปลนได้น่าสนใจและแตกต่างจากหลายโครงการของดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่ที่มักจะมีรูปแบบแปลนคล้าย ๆ กัน  แถมให้วัสดุมาเกรดดีมากแบบที่ตอนทีมงานเข้าไปรีวิวก็ต้องแอบมีเซอร์ไพรซ์ทีเดียว

วันเดอร์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า เป็นโครงการบ้านแฝดและบ้านเดี่ยว  ที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่ตั้งแต่ 169.61 – 246.52 ตร.ม.  แต่มาในราคาเริ่มต้นที่น่าดึงดูดเริ่มที่ 7.09 ล้านบาท* (ราคา ณ พฤศจิกายน 2566) เมื่อเทียบกับทำเลติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์แล้วต้องบอกว่าน่าจะหาราคานี้ได้ยากมากในปัจจุบันนี้  โดยโครงการ WONDER Ratchapruek – Pinklao ได้ออกแบบผสมผสานเรื่องงานสถาปัตยกรรมแบบ Modern European เข้ากับการใช้ชีวิตแบบ Digital Lifestyle ได้อย่างลงตัว

ถ้าใครกำลังมองหาบ้านที่พร้อมจะสร้างชีวิตให้ WONDERFUL ได้ทุกวัน  WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า  เป็นคำตอบที่ดีครับ

ข้อมูลโครงการ

WONDER Ratchapruek – Pinklao 

วันเดอร์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า

LOCATION 

ถนนราชพฤกษ์เป็นโซนที่อยู่อาศัยที่สำคัญทางฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันตก  เนื่องจากเป็นถนนที่รองรับการขยายตัวของชุมชนเมืองเดิม  เดินทางเชื่อต่อกับพื้นที่เขตเมืองเดิมได้ในระยะทางไม่ไกลจนเกินไป  และสามารถเชื่อมโยงเข้าสู่พื้นที่ต่าง ๆ ของกรุงเทพฯ ได้สะดวก  ตั้งแต่ย่านธุรกิจอย่างสาทรมาจนถึงชุมชนเมืองเก่าอย่างจรัญสนิทวงศ์, ปิ่นเกล้า  รวมไปถึงเขตเมืองเก่าในจังหวัดนนทบุรีครับ

นั่นทำให้ทำเลบนถนนราชพฤกษ์เป็นที่หมายปองของดีเวลลอปเปอร์ผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ ต่างๆ และมีโครงการที่อยู่อาศัยและพาณิชยกรรมเกิดขึ้นมากมาย  พื้นที่ติดถนนใหญ่ราชพฤกษ์กลายเป็นทำเลของบ้านราคาแพง  และถ้ายิ่งอยู่ติดถนนใหญ่ส่วนมากก็จะเป็นบ้านในระดับราคามากกว่า 10 ล้านบาทขึ้นไปทั้งนั้น

โครงการ WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า จึงเป็นโครงการที่น่าสนใจมาก  เพราะตั้งอยู่ติดถนนราชพฤกษ์แบบไม่ต้องเข้าถนนย่อย หรือซอยย่อย  โดยราคาเปิดขายเริ่มต้นที่ 7.09 ล้านบาท* (พฤศจิกายน 66) เท่านั้นครับ

จากแผนที่กราฟิกจะเห็นว่าที่ตั้งของ วันเดอร์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า อยู่ตรงจุดตัดของถนนหลัก 2 เส้น  คือ  ถนนราชพฤกษ์ ที่เชื่อมต่อมาจากสาทร-จรัญสนิทวงศ์-ปิ่นเกล้า และถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1 เส้นตัดใหม่ที่เชื่อมต่อกับเขตเมืองเก่าของจังหวัดนนทบุรีทางตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา  ผ่านทางสะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์  หรือที่นิยมเรียกกันย่อ ๆ ว่าสะพานเจษฎาบดินทร์  โครงการนี้จึงสามารถรองรับดีมานด์ของคนที่ต้องการมองหาที่อยู่  ขยับขยายครอบครัวได้จากทั้ง 2 โซนหลัก  ได้แก่ โซนปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์ ที่เชื่อมต่อผ่านถนนบรมราชชนนี  กับคนที่ใช้เส้นทางสะพานเจษฎาบดินทร์บ่อย ๆ นั่นเอง

ด้วยความที่พื้นที่โซนถนนราชพฤกษ์เป็นโซนที่อยู่อาศัยที่มีการเติบโตของประชากรอย่างต่อเนื่อง   ทำให้เกิดการเติบโตของภาคธุรกิจการค้าต่าง ๆ มารองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น  ช่วยอำนวยความสะดวกสบายของคนในโซนนี้อย่างมากมาย   โดยบริเวณใกล้กับโครงการ วันเดอร์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า  ในรัศมีไม่กี่กิโลเมตร  ก็มีศูนย์การค้า, Community Mall, Hypermarket รวมไปถึง Specialty Store สร้างอยู่เต็มไปหมด  เช่น The Crystal ราชพฤกษ์, The Walk ราชพฤกษ์, Home Pro ราชพฤกษ์ , Food Villa ราชพฤกษ์ หรือ Lotus North ราชพฤกษ์ Lifestyle Mall โครงการใหม่ของ CP ที่เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปีก่อน

และที่ขาดไม่ได้คือการมาของ “Central Westville” ที่มีกำหนดเปิดตัวในช่วงปลายปี 2566 นี้  นั่นทำให้ในอนาคตโครงการ Wonder ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า จะอยู่ในจุดกึ่งกลางของเซ็นทรัลขนาดใหญ่ในฝั่งกรุงเทพฯ ตะวันตก 2 แห่ง  ทั้ง Central Westgate และ Central Westville เลยครับ

นอกจากการเดินทางที่สะดวกแล้ว  ยังสามารถเดินทางไปใช้รถไฟฟ้าได้ง่าย  เพราะมีรถไฟฟ้าสายสีม่วงที่อยู่บนแนวถนนรัตนาธิเบศร์โดยระยะทางไปถึง 2 สถานีที่ใกล้ที่สุดพอกัน คือ สถานีบางรักใหญ่ และบางรักน้อยท่าอิฐ  แต่ถ้าแนะนำให้ไปทางบางรักน้อยท่าอิฐก็จะสะดวกดีเพราะว่าตรงนั้นมีอาคารจอดแล้วจรให้บริการ  ถ้าใครที่ทำงานในเมืองก็สามารถขับรถไปจอดที่อาคารจอดแล้วจร  จากนั้นนั่งรถไฟฟ้าเข้าออกเมือง ก็จัดว่าสะดวกสบายไม่ต้องเสียเวลารถติดครับ

หรือถ้าจะขับรถเข้าเมืองด้วยตัวเองก็สามารถใช้ทางด่วนประจิมรัถยาที่ด่านราชพฤกษ์  ก็จะสามารถต่อตรงเข้าสู่ใจกลางเมือง  เชื่อมต่อกับทางด่วนศรีรัชตรงจตุจักรได้เลย

จะเห็นได้ว่าโซนที่ตั้งของโครงการจะอยู่บนถนนราชพฤกษ์ที่สามารถเชื่อมต่อไปโซนต่าง ๆ ทางฝั่งกรุงเทพฯ ได้หลากหลายเส้นทาง  และหลากหลายวิธีการครับ  โลเคชั่นของโครงการ Wonder Ratchapruek-Pinklao จึงน่าสนใจมากทีเดียว

สะพานมหาเจษฎาบดินทรานุสรณ์ที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ทางฝั่งขวาของแม่น้ำเจ้าพระยา  ช่วยเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อพื้นที่ 2 ฝั่ง และมาโครงการได้สะดวกมากยิ่งขึ้น  ไม่จำเป็นต้องไปอ้อมทางฝั่งรัตนาธิเบศร์หรือนครอินทร์เหมือนแต่ก่อน

จากภาพกราฟิกเราก็จะเห็นตำแหน่งที่ตั้งของโครงการชัดเจนขึ้นครับ  โดยถ้าเลยจากโครงการเข้าไปจะมีโรงเรียนชื่อดังในจังหวัดนนทบุรีอย่างโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการนนทบุรี  แล้วก็อยู่ใกล้สนามกีฬาจังหวัดนนทบุรีด้วย  ใครที่เป็นสายออกกำลังกายก็น่าจะถูกใจกัน

THE PROJECT

โครงการ WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า พัฒนาโครงการโดย Grace Asset Development ซึ่งเป็นชื่อที่คนส่วนใหญ่น่าจะไม่คุ้นชินหรือไม่เคยรู้จักมาก่อน  แต่จริง ๆ ทีมงานของ Grace Asset Development ก็พัฒนาโครงการบ้านในโซนจังหวัดนนทบุรีและในโซนราชพฤกษ์มายาวนานนับสิบปีครับ  โดยเป็นบริษัทลูกที่แยกออกมาจาก Dreamland Property ดีเวลลอปเปอร์รายย่อยที่ทำโครงการในโซนปิ่นเกล้า-ราชพฤกษ์  มาหลายสิบโครงการ  และเป็น Local Developer ที่แข็งแกร่งมากในพื้นที่  มีลูกบ้านเกินกว่า 3,000 ครอบครัวแล้ว

ดีไซน์ของโครงการเป็นสไตล์ Modern European  ใช้เส้นโค้งที่สร้างแพทเทิร์นที่น่าสนใจให้กับส่วนต่าง ๆ ของโครงการ  ตั้งแต่ซุ้มทางเข้า, คลับเฮาส์และพื้นที่ส่วนกลาง  รวมไปถึงในส่วนของบ้านในโครงการด้วยครับ

รูปนี้เป็นบริเวณทางเข้าโครงการที่ออกแบบมาได้สวยงามไม่แพ้ดีเวลลอปเปอร์เจ้าใหญ่เลยทีเดียว  โดยทางเข้าด้านหน้าโครงการจะคุบคุมการเข้าออกด้วยระบบ Key Card Access Control  พร้อม รปภ.24 ชั่วโมง  และมีกล้อง CCTV วงจรปิดด้านหน้าและบริเวณถนนภายในโครงการครับ

FACILITIES : พื้นที่ส่วนกลาง

ถัดจากโซนด้านหน้าโครงการเข้ามา   ก็จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางครับ  ส่วนของคลับเฮาส์ Wonder Club จะอยู่เป็นอาคารติดกับประตูทางเข้าออก  โดยการออกแบบตัวอาคารจะใช้เส้นโค้งที่ดูนุ่มนวล  ตัดกับแนวผนังสีเทา  ดูเป็นงานสไตล์ Modern European  ที่มีความอบอุ่นแฝงอยู่  โดยตอนที่ทีมงานเข้าไปเก็บภาพและรีวิวเป็นช่วงก่อนที่จะเปิดขาย Pre-sale  โครงการยังมีการก่อสร้างและเก็บงานในส่วนนี้อยู่  เลยลงเป็นภาพ Perspective ให้ดูกันก่อนครับ

พื้นที่สวนจะถูกแบ่งแยกเป็น 2 ฝั่ง ทางซ้ายขวา  โดยพื้นที่หลักฝั่งด้านหลังคลับเฮาส์คือ Park & Play ส่วนอีกฝั่งเป็น Pet Park ซึ่งการแบ่งพื้นที่แบบนี้ผมว่าเป็นไอเดียที่ดี  เพราะว่าครอบครัวไหนที่มีสัตว์เลี้ยงน้องหมา น้องแมว ก็จะได้มีพื้นที่ให้เพื่อนตัวน้อยได้ใช้งานแบบเป็นสัดส่วน  ส่วนคนทั่วไปก็สามารถไปใช้พื้นที่ส่วน Park & Play ได้อย่างสบายใจ  เพราะว่าคนทั่วไปก็คงมีทั้งคนที่ชอบสัตว์เลี้ยงและไม่ชอบสัตว์เลี้ยงใช่ไหมครับ

ฝั่งนี้ของคลับเฮาส์จะเป็นโถงกระจกมีสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือแบบ Overflow และ Jacuzzi ครับ  พื้นที่ฝั่งที่เป็นผนังกระจกตรงนี้วางผังได้ดีเพราะหันหน้าไปทางทิศเหนือ  ซึ่งก็จะเป็นฝั่งที่ร่มกว่าด้านหน้าโครงการและไม่ได้รับแดดบ่าย

สำหรับพื้นที่ชั้นล่างจะเป็นโถง Double Volume Lobby Co-working Space, Co-Living Space, Private Area นอกจากนั้นบริเวณชั้น 2 ยังมีฟังก์ชันอื่น ๆ อีกหลายอย่างทั้ง Fitness & Multi-Purpose room, Meeting room, Kids room และ Live Streaming Studio สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ทำงานออนไลน์  และโครงการมี Free WiFi บริเวณคลับเฮาส์ให้ด้วยครับ

บริเวณ Lobby เป็นโถง Double space มีกระจกบานใหญ่ที่ช่วยเชื่อมต่อมุมมองออกไปยังพื้นที่สวน

พื้นที่ห้อง Meeting room อยู่บริเวณชั้น 2  มีกระจกบานใหญ่รับแสงธรรมชาติได้เยอะ  มองเห็นวิวสวนส่วนกลาง

พื้นที่ห้อง Fitness & Multi Function room ที่แบ่งพื้นที่ทั้งส่วนออกกำลังกาย และส่วนกิจกรรมต่าง ๆ อย่างซ้อมมวย หรือโยคะ หรือ Workout ออกเป็นสัดส่วนครับ

มาปิดท้ายกันด้วยพื้นที่ในสวนสาธารณะ Park & Play

มีพื้นที่สวน  ทางเดินเล่นรอบสวน  Jogging track วิ่งออกกำลังกายได้  มีสนามเด็กเล่น  และมุมสำหรับซ้อมบาสทั้งเด็กและผู้ใหญ่ รวมไปถึง BBQ Area ด้วยครับ

HOME TYPE

สำหรับแบบบ้านในโครงการ WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า จะมี 3 แบบ  แบ่งเป็นบ้านแฝด 2 แบบ  และบ้านเดี่ยว 1 แบบครับ  พื้นที่ใช้สอยเยอะ  ตั้งแต่ 169.61 -249.38 ตร.ม.  ขนาดที่ดินเริ่มตั้งแต่ 36.7 – 108.3 ตร.ว.

การจัดสรรพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านของ วันเดอร์ ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า จะเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่  เมื่อเทียบกับบ้านในกลุ่ม Segment ใกล้เคียงกันครับ  แม้จะเป็นบ้านแฝด  แต่ขนาดพื้นที่ใช้สอยใกล้เคียงกับบ้านเดี่ยวในหลายโครงการเลยทีเดียว

แบบบ้านแฝด ASHER

ขนาดพื้นที่ใช้สอย 169.61 ตร.ม.

ขนาดที่ดินเริ่มต้น 36.7 – 59.9 ตร.ว.

ฟังก์ชัน 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องครัวไทย 2 ที่จอดรถ

แปลนบ้านแบบ Asher เลือกวางตำแหน่งของประตูทางเข้าไว้บริเวณด้านในโรงรถ  นอกจากเพื่อป้องกันฝนสาดแล้วยังสามารถใช้สเปซด้านหน้าบ้านเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ภายในบ้านได้อย่างเต็มที่  ไม่ต้องเผื่อระยะพื้นที่ตรงประตูเข้าออกครับ

สเปซภายในจัดเป็น Open Plan เปิดโล่ง  เชื่อมต่อพื้นที่ส่วนพักผ่อน, ส่วนรับประทานอาหาร  และส่วนเตรียมอาหารเข้าด้วยกัน  มีพื้นที่ห้องครัวไทยแยกให้เป็นสัดส่วน  ไม่จำเป็นต้องไปต่อเติมภายหลังครับ

พื้นที่ส่วนบันไดและโถงบันไดจัดเป็นจุดเด่นของบ้านในโครงการนี้เลยครับ  เพราะว่าให้ขนาดความกว้างบันไดมากกว่ามาตรฐานปกติทั่วไปของโครงการบ้านจัดสรรในระดับราคาเดียวกัน  และมีโถงบันไดที่ใหญ่และกว้างมาก

พื้นที่ชั้น 2 จะมี 3 ห้องนอน  โดย Master Bedroom ด้านหน้าบ้านมีพื้นที่ใหญ่มาก  สามารถแบ่งสัดส่วนของ Walk-in Closet ได้เต็มที่  รวมถึงมีห้องน้ำในตัวด้วย  สำหรับพื้นที่ด้านหลังบ้านมีห้องนอน 2 ห้อง ผนังบ้านจะก่อด้วยอิฐมวลเบาไม่ได้เป็นโครงสร้าง Precast Concrete ทำให้สามารถปรับเปลี่ยน Combined พื้นที่ทั้ง 2 ห้อง เชื่อมต่อเป็นห้องนอนใหญ่เพียงห้องเดียวก็ได้ครับ

ด้านหน้าบ้านดีไซน์เป็นหลังคาทรงจั่ว  ใช้โทนสีเทา-น้ำตาล ที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น  ดูสบายตา  ขนาดความกว้างของโรงจอดรถ 5.4 เมตร  เป็นระยะที่เมื่อจอดรถคู่กัน 2 คันแล้ว ยังสามารถเปิดประตูขึ้นลงได้สะดวก  ส่วนความลึกโรงจอดรถแปลงมาตรฐานอยู่ที่ 6.15 เมตร  สามารถจอดรถกระบะคันใหญ่ได้ด้วย  พร้อมเตรียม EV Junction สำหรับเชื่อมต่ออุปกรณ์รองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเอาไว้ให้เลยในบ้านทุกแบบ

นอกจากนั้นยังมีห้องเก็บของบริเวณโรงรถ  และบริเวณประตูทางเข้าบ้านมีติดตั้งบล็อกไฟเพื่อรองรับการติดตั้งมอเตอร์ประตูรั้วอัตโนมัติหากเจ้าของบบ้านต้องการทำเพิ่มด้วยครับ

ทางฝั่งซ้ายมือจะเป็นบ้านแฝดแบบ Asher ส่วนทางขวามือเป็นบ้านแฝดแบบ Alder จริง ๆ บ้านในโครงการแต่ละแบบจะไม่ได้วางคู่กันแบบนี้นะครับ  บ้านแต่ละแบบก็จะจับคู่กันเอง  ยกเว้นในโซนบ้านตัวอย่าง  เพื่อให้คนที่มาดูบ้านสามารถเลือกดูและเปรียบเทียบได้ง่ายขึ้น

ตำแหน่งของประตูทางเข้าบ้านจะอยู่ภายในโรงจอดรถ  ด้านบนจะเห็นกล้อง IP Camera ตรงนี้ไม่ได้ติดให้ดูเฉพาะบ้านตัวอย่าง  แต่ติดตั้งมาให้พร้อมบ้านจริงที่ส่งมอบเลยครับ

ประตูบ้านให้ Digital Door Lock ที่ใช้งานได้หลายรูปแบบทั้ง  Card, Pin Code, Finger Scan และกุญแจ โดยสามารถควบคุมการเปิด-ปิด ประตู ผ่าน  Application ได้  รวมถึงรองรับการใช้งานแบบ Share OTP

เมื่อเปิดประตูเข้ามาภายใน  จะเห็นพื้นที่ในส่วนด้านหน้าบ้านที่เตรียมไว้เป็นพื้นที่อเนกประสงค์สำหรับทำกิจกรรมต่าง ๆ อย่างบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงก็สามารถทำเป็นมุม Pet Zone ในบ้านได้อย่างเป็นสัดส่วนเลยครับ

ถัดเข้ามาด้านในจะเป็นพื้นที่ส่วน Living area ที่ต่อเชื่อมกับพื้นที่ส่วน Dining area สเปซกว้างขวางและอยู่สบาย  สามารถวางโซฟาขนาดใหญ่ได้เลย แบบไม่อึดอัด

จากมุมนี้จะเห็นตำแหน่งทางขึ้นบันไดชั้น 2 แบบประตูห้องน้ำหลบมุมเข้าไปเป็นสัดส่วนเรียบร้อย  สเปซด้านหลังจะต่อเชื่อมกับส่วน pantry และครัวไทย

สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้รอบบ้าน  ทั้งจากบริเวณด้านหน้าบ้าน  ด้านข้างบ้าน  ด้านหลังบ้าน  หรือแม้แต่กระทั่งโรงจอดรถครับ  ความสูงฝ้าเพดานชั้นล่างอยู่ที่ 2.8 เมตร  ช่วยให้ภายในบ้านดูโปร่ง โล่ง สบายน่าอยู่

พาไปดูในส่วนของ Pantry เตรียมอาหารกันต่อ  มีการเจาะช่องหน้าต่างระบายอากาศไว้ให้ในระดับที่เราสามารถติดตั้งเคาน์เตอร์และตู้แขวนด้านบนได้พอดี   มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นส่วนห้องครัวปิดเพื่อป้องกันกลิ่นจากการทำอาหารด้านในเข้ามารบกวนครับ

พามาดูส่วนห้องครัวปิดกันต่อ  ภายในก่อเคาน์เตอร์ครัวปูนมาให้เรียบร้อยเลย  เดี๋ยวจะมีภาพจริงของส่วนครัวให้ดูเพิ่มตอนท้ายครับ

ออกมายังพื้นที่ด้านหลังบ้าน  มีเตรียมพื้นเทปูนที่อยู่บนคานคอดินเอาไว้ให้เรียบร้อย แต่ไม่ได้ปูกระเบื้องแบบในบ้านตัวอย่างนะครับ

แต่อยากให้สังเกตตรงนี้ครับ  เป็นจุดที่ผมชอบมาก ๆ นอกจากจะแถมปั๊มน้ำแท็งค์น้ำมาให้แล้ว  ตัวแท็งค์ยังวางอยู่บนพื้นโครงสร้างที่ลงเสาเข็มรับน้ำหนักเอาไว้  ลดปัญหาเรื่องการทรุดตัว  และทำรอยต่อ Joint โครงสร้างแยกออกจากพื้นที่ลานซักล้างส่วนอื่นที่อยู่บนคานคอดิน  เป็นการลดปัญหาเรื่องการแตกร้าวและทรุดตัวของโครงสร้างได้ดี  ซึ่งจุดนี้มีโครงการใน Segment เดียวกันน้อยที่มาก ๆ ที่ทำแบบนี้ให้  อันนี้ต้องชมครับ

ก่อนที่เราจะพาขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อ  ขอเข้าไปดูในห้องน้ำชั้นล่างก่อนครับ

ภายในห้องน้ำชั้นล่างได้กระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ขนาด 60 x 60 ซม. และสุขภัณฑ์ของ Cotto  ที่สำคัญคือห้องน้ำชั้นล่างความสูงฝ้าเพดานที่ 2.6 เมตร เลยครับ

เป็นห้องน้ำชั้นล่างที่มีพื้นที่อาบน้ำให้ด้วย  ลดระดับลงไปเล็กน้อยเพื่อไม่ให้น้ำเลอะบริเวณพื้นที่ส่วนแห้งตอนอาบน้ำ  ติดตั้งฝักบัวและเตรียมจุดต่อเครื่องทำน้ำอุ่นเอาไว้ให้เรียบร้อย  ถ้าใครใช้ห้องน้ำด้านล่างบ่อย ๆ ก็ติดกระจกฉากกั้นอาบน้ำหรือ Shower box เพิ่มเติมได้เลยครับ

ความกว้างของบันไดเป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำออกมาได้ดีครับ  เค้าให้ระยะความกว้าง 1.2 – 1.3 เมตร  ซึ่งถือว่าเป็นความกว้างที่มากกว่ามาตรฐานของบ้านแฝดในระดับราคาใกล้กันส่วนใหญ่ในท้องตลาด  เวลาเดินขึ้นลงบันไดที่ใหญ่และกว้าง เราจะได้ฟีลลิ่งอีกแบบหนึ่งแตกต่างจากการเดินขึ้นลงบันไดที่ความกว้างประมาณ 0.9 – 1.0 เมตร ที่นิยมทำกันครับ

ชั้น 2 โถงบันไดก็โล่ง ๆ โปร่งสบายตา  โถงตรงนี้โล่งมาก ๆ ทำให้เวลาขึ้นมาด้านบนแล้วไม่รู้สึกอึดอัดเลย

พื้นที่ส่วนนี้สามารถวางหิ้งพระได้เลยโดยที่ไม่ต้องหันด้านหน้าหิ้งพระเข้าหาห้องน้ำ หรือหันด้านหลังไปชิดกำแพงห้องน้ำ  ซึ่งมักจะเป็นจุดด้อยที่บ้านจัดสรรทั่วไปมักจะหลีกเลี่ยงไม่ได้เนื่องจากข้อจำกัดของพื้นที่  ตรงนี้ก็โล่ง ๆ ใช้สอยสบายครับ

(ป.ล. ผมรีวิวว่าตรงนี้วางหิ้งพระได้  แต่บ้านตัวอย่างทำเป็น Alcohol Bar นะครับ ฮาาาาา ….)

ตรงโถงบันไดมีห้องน้ำขนาดใหญ่มาให้แบ่งพื้นที่ส่วนเปียก-ส่วนแห้ง ให้เรียบร้อย  และติดตั้งฉากกั้นอาบน้ำมาให้เลยด้วย  เพราะยังไงห้องน้ำห้องนี้ก็ต้องใช้อาบน้ำบ่อยกว่าห้องน้ำชั้นล่างแน่นอน

ท่อระบายน้ำเรียบเนียนไปกับพื้นเลย

พาเข้ามาดูในห้อง Master Bedroom กันต่อครับ  ตำแหน่งนี้จะอยู่ด้านหน้าบ้าน  แยกเป็นพื้นที่โซนนอนและโซนแต่งตัว  โดยที่โซนนอนจะมีช่องหน้าต่างที่รับแสงธรรมชาติเข้ามาได้จากบริเวณ 2 ฝั่งของหัวเตียง  แสงไม่แยงตาเวลาตื่นนอน  มีระยะปลายเตียงเหลือที่สามารถวางทีวีได้ด้วย

อีกด้านจะเป็นส่วนของ Walk-in Closet

ภายในก็สว่างและรับแสงธรรมชาติเข้ามาได้เยอะ  สามารถใช้ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้  เนื่องจากความสูงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.8 เมตร  ช่วยให้สเปซดูโปร่งและน่าใช้งานครับ  พื้นที่ทางขวามือจะเชื่อมต่อเข้าห้องน้ำได้สะดวก

ห้องน้ำทำมาให้แบบเรียบหรู  ของในบ้านจริงก็ได้แบบนี้เลยครับ

ตรงบริเวณด้านหลังสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมีส่วนพื้นที่วางของ  ให้กระจกยาวเต็มความกว้างของห้อง

เฉพาะช่วงเปิดตัวโครงการ ในห้องน้ำ Master Bedroom แถมฉากกั้นอาบน้ำมาด้วยนะครับ  ฉากกั้นแบบนี้ทำเองราคาก็หลายหมื่นอยู่  เพราะความกว้างมากต้องมีตัวจับยึดกระจกด้านบนเอาไว้ด้วย

Top ตรงที่วางของเป็นแกรนิตสีดำ  มีปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ  และเตรียมจุดเสียบ USB เอาไว้ให้ด้วยเพื่อรองรับการใช้งานฟังก์ชันต่าง ๆ ของ Gudget ใหม่ ๆ หรือชาร์จโทรศัพท์มือถือครับ

พาเข้ามายังห้องนอนด้านหลังบ้านกันต่อครับ  บ้านที่โครงการส่งมอบด้านหลังจะมี 2 ห้องนอน  แต่ในบ้านตัวอย่างทำเป็นห้อง Combined ห้องเดียวไปเลย  เพราะว่าผนังบ้านก่อด้วยอิฐมวลเบาอย่างที่เกริ่นไปแล้ว  ถ้าใครที่ไม่ได้อยากได้ห้องแยกย่อยเยอะ ๆ แต่อยากได้ห้องเดียวใหญ่ ๆ ขนาดพื้นที่ใช้สอยเต็มอิ่ม  แบบบ้านนี้ก็ตอบโจทย์ครับ  เพราะพอเรา Combined ห้องออกมาแล้ว  เราจะได้เป็น Double Master Bedroom 2 ห้องเลย

แนวผนังที่เป็นเป็นซุ้มโค้ง  คือแนวผนังที่กั้นระหว่างห้องนอน 2 ห้องครับ

สเปซห้องนี้ในบ้านตัวอย่างทำเป็น Walk-in Closet ได้แบบเต็มอิ่มเลย

แบบบ้านแฝด ALDER

ขนาดพื้นที่ใช้สอย 187.54 ตร.ม.

ขนาดที่ดินเริ่มต้น 44.4 – 50.9 ตร.ว.

ฟังก์ชัน 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 1 ห้องครัวไทย 2 ที่จอดรถ

สำหรับแบบบ้าน Alder เป็นแบบบ้านแฝดหลังใหญ่ของโครงการครับ  ขนาดโรงจอดรถนั้นกว้าง 5.4 เมตร ลึก 6.15 เมตร เปิดประตูรถเข้าออกได้สะดวก และสามารถจอดรถกระบะคันใหญ่ได้เช่นเดียวกับแบบบ้าน Asher  โดยพื้นโรงจอดรถของบ้านทุกแบบจะเป็น Slab on Beam มีคานช่วยรองรับ  เพื่อลดปัญหาเรื่องการทรุดตัวของพื้นในอนาคตด้วย

ดีไซน์การตกแต่งหน้าตาบ้านเป็นแบบเดียวกัน  ดูแว๊บแรกจะแยกไม่ค่อยออกครับ  แต่จุดสังเกตง่าย ๆ คือ แบบ Adler จะมีประตูทางเข้า 2 ทาง  โดยทางเข้าหลักเป็นประตูบานเลื่อนกระจกด้านหน้า  และประตูทางเข้ารองอยู่บริเวณในโรงจอดรถครับ

พื้นที่ใช้สอยภายในของตัวบ้านคิดมาแบบยืดหยุ่น  สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายแบบครับ  โดยส่วนของ Common area ในบ้านชั้นล่างจะมีส่วนที่เป็นพื้นที่ Living area ต่อเชื่อมกับส่วน Dining area และพื้นที่อเนกประสงค์ (Multi-Purpose area) ด้านในสุด  ซึ่งสเปซตรงนี้สามารถกั้นแยกเป็นห้องส่วนตัวได้อีกห้องหนึ่ง  อาจจะใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุที่ชั้นล่าง  หรือเป็นห้อง่ทำงาน Work from Home ในบ้านก็ได้ครับ

เช่นเดียวกับส่วนของห้องครัวที่มีขนาดใหญ่มาก  ใครที่เป็นสายทำอาหารต้องถูกใจแน่นอน  โดยที่พื้นที่ห้องครัวจะแบ่งเป็น 2 โซน  ถ้าใครไม่ได้ทำอาหารบ่อย  หรือไม่ได้ต้องการครัวใหญ่ขนาดนี้  ก็สามารถใช้พื้นที่ครัวไทยที่แยกโซนเตรียมไว้ให้เฉพาะได้เลย  แล้วก็ปรับพื้นที่ครัวซึ่งใหญ่มากให้กลายเป็นห้องอเนกประสงค์เพิ่มได้อีกห้องหนึ่งครับ  เพราะอย่างที่บอกว่าพอผนังบ้านเป็นอิฐมวลเบา  ทุกอย่างก็จะง่ายขึ้นในการดัดแปลงฟังก์ชันให้เข้ากับไลฟ์สไตล์และความต้องการของแต่ละครอบครัว

ส่วนแปลนชั้น 2 จะจัดฟังก์ชันการใช้งานแบบเดียวกับแบบบ้าน Asher เลยครับ

พื้นที่ตรงทางเข้าบ้านด้านหน้าจะมีเฉลียงขนาดใหญ่

ตามเข้ามาดูภายในบ้านกันดีกว่าครับ

สเปซจริงของบ้านจะแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 ตอน โดยพื้นที่ด้านในสุดเป็นส่วนของพื้นที่อเนกประสงค์  ซึ่งเราจะเห็นว่าแม้จะกั้นห้องเพิ่มแบบในบ้านตัวอย่างแล้ว  สเปซในส่วนของ Living area และส่วน Dining area ก็ยังสามารถใช้งานได้สะดวกสบาย

ห้องนอน 4 หรือพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ด้านหลังกว้างขวาง  และสามารถจัดสรรฟังก์ชันได้หลากหลายตามความต้องการครับ  มีหน้าต่างรับแสงธรรมชาติเข้ามาจากบริเวณด้านข้างบ้านและด้านหลังบ้านได้ด้วย

มุมนี้เป็นทางเข้าบ้านที่มาจากประตูโรงจอดรถ  เวลาฝนตกเปิดประตูเข้าบ้านก็ไม่ต้องกลัวฝนสาด  ส่วนทางเข้าครัวและห้องน้ำก็วางหลบมุมเป็นสัดส่วนเรียบร้อยสวยงาม  สำหรับ Digital Door Lock ของแบบบ้านนี้จะติดตั้งบริเวณประตูทางเข้ารองจากโรงรถตรงนี้ครับ

ไฮไลท์คือห้องครัวที่ใหญ่มาก ๆ จุใจสายทำอาหารแน่นอน  พื้นที่ใหญ่พอที่จะทำ Island เพิ่มก็ได้ครับ

ถัดเข้ามาเป็นส่วนของห้องครัวไทยที่แยกบริเวณออกมาอีกจุด  เผื่อถ้าใครไม่ได้ต้องการครัวขนาดใหญ่ก็สามารถใช้พื้นที่แค่บริเวณนี้แล้วใช้พื้นที่ครัวอีกจุดเป็นห้องอเนกประสงค์ฟังก์ชันอื่น ๆ ได้ตามต้องการครับ

ถัดมาเป็นส่วนของห้องน้ำที่กว้างขวาง  สะดวกสบายเช่นกัน

ทางขึ้นชั้น 2 ก็ยังได้บันไดกว้างมาก  และพื้นที่สเปซโถงบันไดขนาดใหญ่ครับ

มีช่องแสงเข้ามาจากด้านหน้าบ้าน  ช่วยให้สเปซภายในโถงบันไดสว่าง และไม่มืดทึบ

พาเข้ามาในส่วนของ Master Bedroom ครับ  ลักษณะการจัดแปลนและพื้นที่ใช้สอยภายในห้องนอนใหญ่ของแบบ Alder ก็จะเป็นแบบเดียวกับห้องนอนใหญ่ของแบบ Asher ได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาตามจุดที่เหมาะสม  วางตำแหน่งและจังหวะการใช้ช่องหน้าต่างของบ้านได้ดี  ไม่มากไปหรือไม่น้อยเกินไป ทั้งบริเวณหัวเตียง, ส่วน Walk-in Closet ขนาดใหญ่  เป็นห้องนอนที่อยู่สบาย น่าอยู่ครับ

สเปซภายในห้องน้ำก็หรู  ขนาดใหญ่ และให้วัสดุเกรดดีเช่นกัน

ถัดมาในส่วนของห้องนอนด้านหลังครับ  สำหรับแบบ Alder บ้านตัวอย่างจะแบ่งเป็นห้องนอน 2 ห้องตามแปลนจริงที่โครงการส่งมอบ  เพื่อจะได้เห็นสเปซและขนาดพื้นที่ใช้สอยที่ชัดเจนในกรณีที่เราไม่ได้ทำห้อง Combined ตามแบบ Asher  ซึ่งพื้นที่ทั้งสองห้องก็ยังจัดว่าพอเพียง  และใช้งานได้สะดวก

ห้องแรกเป็นห้องเล็กสุด  จัดให้ดูเป็นสตูดิโอสำหรับคนรุ่นใหม่ที่นิยมทำงานที่บ้าน  หรือไลฟ์ขายของ  ก็สามารถใช้พื้นที่ห้องนี้จัดการได้เป็นสัดส่วน

ห้องนี้เป็นห้องนอนอีกห้อง  ซึ่งใหญ่กว่าห้องก่อนหน้านี้  สามารถทำเป็นห้องนอนของลูก ๆ ได้สบาย พื้นที่ใช้สอยก็กว้างขวางอยู่ได้ตั้งแต่เด็กจนโตครับ

ห้องน้ำสำหรับห้องนอนด้านหลังทั้ง 2 ห้อง ที่อยู่บริเวณโถงบันได  กว้างขวางใช้งานสะดวกสบายเช่นกัน

ปิดท้ายด้วยการพาไปดูบ้านเปล่ามาตรฐานที่โครงการส่งมอบ  จะได้เห็นภาพรวมของสเปซและวัสดุจริงอื่น ๆ นอกเหนือจากที่ดูในภาพบ้านตัวอย่าง  โดยภายในบ้านที่ทีมงานไปถ่ายมาจะเป็นแบบ Alder นะครับ

บ้านการก่อสร้างด้วยผนังอิฐมวลเบา และการฉาบปูนเสริมด้วยตาข่ายเพื่อเพิ่มความแข็งแรง และลดการแตกร้าวของผนัง สเปซภายในบ้าน เป็นผนังฉาบเรียบทาสีขาว ฝ้าเพดานสูง 2.8 เมตร  พื้นห้องจะปูด้วยกระเบื้องยาง SPC ซึ่งทนน้ำและกันปลวกได้ดี  ปลั๊กไฟตามจุดสำคัญก็จะมีจุด USB Outlet เตรียมไว้ให้ด้วย

สเปซทั้ง 3 ช่วง ในส่วน Common area ชั้นล่างจะได้รับแสงธรรมชาติเข้ามาทั้งหมด

พื้นที่ส่วนห้องครัวเตรียมท่อน้ำดีและช่องหน้าต่างบานเลื่อนระบายอากาศเอาไว้ให้ด้วย

มีเคาน์เตอร์ครัวปูน  ท็อปปูหินแกรนิตสีดำ  แนวผนังด้านที่ติดกับเคาน์เตอร์ปูกระเบื้องกันเลอะให้สูงจรดฝ้าเพดานเลยครับ  ในห้องครัวเตรียมจุดติดตั้งเครื่องซักผ้าเอาไว้ให้เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำให้วัสดุเกรดดี  กระเบื้องแกรนิตโต้ลายหินอ่อนแผ่นใหญ่ 60 x 60 ซม.  อุปกรณ์และสุขภัณฑ์จาก Cotto ความสูงฝ้าเพดานในห้องน้ำที่ 2.6 เมตร  เวลาเข้าไปใช้งานรู้สึกโปร่ง  ไม่อึดอัด

มีกล้องวงจรปิด IP Camera ติดตั้งให้ในบ้านทุกหลัง

พร้อม Magnetic Sensor สำหรับตรวจจับผุ้บุกรุกและงัดแงะบ้าน  ตัวบานกรอบหน้าต่างเป็น uPVC ทำผิวพ่นทรายโทนสีเทาเข้ม (สีซาฮาร่า เกรย์) ยี่ห้อ Winsor ให้สัมผัสที่ดี  ถือเป็นวัสดุเกรดดีเลยเพราะปกติเราจะเห็นแต่ Winsor ที่ขายทั่วไปเป็นสีขาวผิวมันเท่านั้น  ส่วนกระจกให้เป็นกระจกเขียวตัดแสงที่ช่วยลดความร้อนที่เข้าสู่ตัวบ้านครับ

ดีเทลเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างราวจับบันไดก็เป็นแบบโค้งมน  จับถนัดมือ

พื้นชั้นบนก็เป็นกระเบื้องยาง SPC เช่นกันครับ

บริเวณโถงบันไดชั้น 2 มีติดตั้งระบบไฟฟ้าสำรองฉุกเฉินกรณีไฟฟ้าดับมาให้ด้วย  อันนี้ดีเลยครับ

สเปซภายใน Master Bedroom ทางด้านหน้าบ้าน  สำหรับพื้นที่ชั้น 2 ความสูงฝ้าเพดานจะอยู่ที่ 2.8 เมตร เช่นกัน  และมีติดตั้ง Motion Sensor ที่บริเวณชั้น 2 เพื่อตรวจจับความเคลื่อนไหวกรณีมีผู้บุกรุกด้วยครับ

ตัวสวิตซ์ไฟ และปลั๊กเป็นดีไซน์แบบโมเดิร์น  เรียบ สวยงาม  พร้อมเตรียมจุดติดตั้งสัญญาณ Internet Fiber Optic เอาไว้ให้ทั้งบริเวณชั้นบนและชั้นล่าง  เวลาช่างมาติดอินเตอร์เน็ตก็ไม่ต้องเดินสายระโยงระยางให้บ้านดูไม่เรียบร้อย

ภายในห้องน้ำ Master Bedroom ก็จัดเต็มมาตามที่พาดูในบ้านตัวอย่างไปแล้ว   ทั้งกระเบื้องแผ่นใหญ่,  ตู้เก็บของด้านล่างอ่างล้างมือ,  ปลั๊กพร้อม USB Outlet,  โถสุขภัณฑ์ของ Cotto เตรียมปลั๊กไว้สำหรับกรณีที่ต้องการเปลี่ยนเป็นฝารองนั่งแบบอัตโนมัติให้ด้วย

ฝั่งโซนส่วนอาบน้ำก็ให้ฉากกั้นกระจก Tempered Glass บานใหญ่

มีจุดวางอุปกรณ์อาบน้ำต่าง ๆ ให้พร้อมเลย

ปิดท้ายกันที่ห้องนอนเล็กด้านหลังครับ

PRICE

โครงการ WONDER Ratchapruek–Pinklao บ้านแฝดแต่ละแบบมีราคาเริ่มต้น ดังนี้

• ASHER เริ่มต้น 7.09 ล้านบาท
• ADLER เริ่มต้น 8.69 ล้านบาท

ค่าใช้จ่ายอื่น ๆ

• เงินจอง  20,000 บาท
• เงินทำสัญญา 30,000 บาท
• ค่าส่วนกลาง  50 บาท.  บาท/ตร.ว./เดือน

* หมายเหตุ  รายละเอียดราคา เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานเก็บรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความเท่านั้น  โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้  ทางเว็บไซต์เพียงรวบรวมข้อมูลเพื่ออำนวยความสะดวกกับผู้ต้องการซื้อบ้านและคอนโด  รายละเอียดและโปรโมชั่นต่าง ๆ  กรุณาสอบถามโดยตรงจากทางโครงการอีกครั้ง

SUMMARY

.

ภาพรวมโครงการ

• WONDER ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า  เป็นโครงการบ้านแฝด-บ้านเดี่ยว ติดถนนราชพฤกษ์  บริเวณจุดตัดกับถนนราชพฤกษ์-นนทบุรี 1
• พัฒนาโครงการโดย Grace Asset Development ซึ่งเป็นบริษัทลูกของ Dreamland Property ผู้พัฒนาโครงการบ้านในโซนปิ่นเกล้า-สวนผัก-ราชพฤษ์ มานานเกิน 20 ปี
• ตัวบ้านเน้นพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่  บ้านแฝดในโครงการมีพื้นที่เทียบเท่าบ้านเดี่ยว
• เป็นโครงการที่ไม่หนาแน่น  มีเพียง 79 ยูนิต  แต่พื้นที่ส่วนกลางครบครันเทียบเท่าโครงการในสเกลหลายร้อยยูนิต
• แบรนด์ WONDER พัฒนามาจากแนวคิด “BE YOUR WONDERFUL ชีวิตที่ดีที่สุด เกิดขึ้นได้ทุกวัน”
• ภาพรวมของบ้านให้วัสดุเกรดดีมาก  เมื่อเทียบกับมาตรฐานทั่วไปในโครงการบ้าน Segment เดียวกัน   รวมถึงมีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ แบบ Digital Life เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกและความปลอดภัยในการอยู่อาศัย
• ก่อสร้างด้วยผนังอิฐมวลเบา  สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ง่าย  โดยแปลนได้ออกแบบเตรียมการปรับเปลี่ยนสเปซการใช้งานต่าง ๆ เตรียมเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

ทำเล / การเดินทาง

• วันเดอร์ ราชพพฤกษ์-ปิ่นเกล้า  อยู่ติดถนนใหญ่  ไม่ต้องเข้าซอยย่อย  ทำให้สะดวกในการเดินทางเข้าออก
• สามารถเชื่อมต่อพื้นที่ในฝั่งกรุงเทพฯ ได้หลากหลายเส้นทาง  เดินทางง่าย  ไม่ว่าจะเป็นฝั่งเขตเมืองเก่าฝั่งกรุงเทพฯ อย่างจรัญสนิทวงศ์, ปิ่นเกล้า  หรือทางฝั่งเมืองเก่าจังหวัดนนทบุรีอย่างโซนท่าน้ำนนท์  ผ่านทางสะพานมหาเจษฏาบดินทรานุสรณ์
• มีตัวเลือกในการเดินทางทั้งทางด่วนและรถไฟฟฟ้า  โดยทางด่วนสามารถใช้ทางด่วนประจิมรัถยาบริเวณด่านราชพฤกษ์ขึ้นลงได้สะดวก  ส่วนรถไฟฟ้าสามารถไปใช้รถไฟฟ้าสายสีม่วงที่สถานีบางรักน้อยท่าอิฐได้  มีอาคารจอดแล้วจรสามารถจอดรถทิ้งไว้แล้วนั่งรถไฟฟ้าเข้าเมืองได้เลย
• โลเคชั่นบนถนนราชพฤกษ์มีศูนยการค้าต่าง ๆ มากมาย  มีสิ่งอำนวยความสะดวกพื้นฐานครบทุกอย่างโดยไม่ต้องเข้าเมือง
• Central Westville กำลังจะเปิดในช่วงปลายปี 2566  ซึ่งจะทำให้รัศมีรอบโครงการ Wonder ราชพฤกษ์-ปิ่นเกล้า  มีเซ็นทรัลขนาดใหญ่ถึง 2 แห่ง  คือ Central West Ville และ Central Westgate เดิม
• โลเคชั่นใกล้กับสนามกีฬากลางจังหวัดนนทบุรี

เหมาะกับใคร?

• ครอบครัวขยายที่กำลังมองหาที่อยู่ใหม่ที่เดินทางเข้าออกเมืองได้สะดวก  ทั้งจากทางปิ่นเกล้า-จรัญสนิทวงศ์  และทางฝั่งเมืองนนทบุรี  รวมไปถึงคนที่อยู่ในพื้นที่รัศมีรอบโครงการเดิมอยู่แล้ว
• คนที่ชอบบ้านติดถนนใหญ่  เดินทางเข้าออกสะดวก  ไม่ต้องเสียเวลาเข้าถนนย่อยหรือซอยย่อย
• คนวัยทำงานที่ต้องการบ้านที่สะดวกสบาย  ใช้ชีวิตไลฟ์สไตล์แบบคนเมืองได้  หาของกินง่าย  ใกล้ห้าง  ใกล้แหล่งช็อปปิ้ง  ใช้ชีวิตแบบ Digital Life ตามแบบฉบับคนรุ่นใหม่
• คนที่อยากได้บ้านในโซนจังหวัดนนทบุรีที่มีตัวเลือกในการเดินทางที่หลากหลาย  ทั้งทางด่วนและรถไฟฟ้า  ไม่ต้องเสียเวลาขับรถเข้าออกซอยย่อย
• บ้านแฝดในโครงการเหมาะกับคนที่ต้องการบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยเยอะหลังใหญ่  แต่ไม่ต้องการที่ดินขนาดใหญ่เพื่อให้งบประมาณจับต้องได้ง่าย
• บ้านเดี่ยวในโครงการเหมาะกับคนที่ต้องการบ้านหลังใหญ่  พื้นที่ใช้สอยเยอะ
• คนที่ชอบโครงการยูนิตไม่เยอะ  มีความเป็นส่วนตัวสูง
• คนที่กำลังมองหาบ้านโดยมีงบประมาณ 7-8 ล้านบาท ขึ้นไป