ทั้งนี้ทุกยูนิตของโครงการจะมี Smart Home สัญญาณกันขโมยชนิด Magnetic Sensor เพิ่มความปลอดภัยให้ และมี Motion Sensor ติดตั้งไว้บริเวณโถงบันได รวมถึงติดตั้ง Solar Cell ขนาด 1.8 kW ให้ด้วยครับ
สำหรับแบบบ้านมาในคอนเซ็ปต์ Urban Farmhouse ที่ได้อินสไปร์มาจากบ้านยุโรปสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์ แต่มาดัดแปลงให้มีความโมเดิร์นมากขึ้น เน้นความเรียบง่ายไม่ซับซ้อนแต่สวยงาม ให้ความเป็นโฮมมี่รู้สึกอบอุ่นผ่อนคลาย
โดยออกแบบ Facade ให้เป็นทรงจั่วคล้ายกับ Main Gate และ Clubhouse เพิ่มกิมมิกด้วยช่องแสงขนาดใหญ่ รวมถึงการทำซุ้มโค้งตรงเฉลียงบริเวณทางเข้าหน้าบ้าน และเน้นโทนสีขาวเป็นหลักตัดกับสีเทา ซึ่งพอหลอมรวมการดีไซน์ทั้งหมดเข้าด้วยกันทำให้บ้านดูมีมิติเข้ากับทุกยุคทุกสมัย
นอกจากความสวยงามแล้วโครงการยังลงดีเทลไปถึงการเลือกวัสดุ ไม่ว่าจะเป็นหลังคาที่ได้ Solar Roof ฉนวนกันความร้อน กระจกเขียวตัดแสงลดทอนความแรงของแสงแดดที่ส่องเข้ามา และยังใช้สีชนิดพิเศษ UV Shield ที่ช่วยสะท้อนความร้อนได้เป็นอย่างดี
บริเวณโรงจอดรถสามารถจอดได้ 2 คันสบายๆ ครับ
หลังจากนั้นจะพบกับ Common Area พื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่างห้องรับประทานอาหารและห้องนั่งเล่น
ซึ่งห้องนั่งเล่นจะอยู่มุมข้างบ้านทำให้ได้ช่องแสงแบบจัดเต็ม ทั้งประตูกระจกแบบบานเลื่อนและบานฟิกซ์ รวมถึงได้หน้าต่างทางข้างหลังบ้านอีกด้วย
โดยจัดสรรพื้นที่มาให้กว้างขวาง วางเฟอร์นิเจอร์ไซส์ใหญ่ขนาด 3-4 ที่นั่ง ได้ทั้งแบบตัวไอและตัวแอล พร้อมบิวท์อินชั้นวางทีวีได้เต็มผนัง ก็ยังเหลือสเปซโล่งๆ พอสมควร
ต่อเนื่องไปที่ห้องกินข้าวซึ่งทางโครงการเลือกวางโต๊ะแบบขนาด 4 ที่นั่ง และแบ่งพื้นที่ทำเป็นมุมนั่งเล่นตรงริมหน้าต่างฝั่งโรงจอดรถ แต่เราสามารถเลือกปรับเป็นโต๊ะกินข้าวขนาด 6 ที่นั่งก็ได้เหมือนกันครับ
แต่จุดที่เป็นไฮไลต์และดูน่ารักมากเหมือนอยู่บ้านยุโรปของจริง คือการที่โครงการดีไซน์ Bay Window ทำเป็นฟังก์ชันนั่งเล่นให้มองวิวสวนภายนอกได้อย่างแตกต่างไม่ซ้ำใคร
ติดกันเป็นห้องครัวที่ได้ประตูแบบกระจกบานเลื่อน ซึ่งให้พื้นที่ใช้สอยมาเยอะเลยทีเดียว อีกทั้งโครงการยังบิวท์เคาน์เตอร์ครัวมาให้ทั้งสองฝั่งเรียบร้อย รวมถึงได้ช่องแสงถึง 2 จุด ไว้ระบายอากาศได้ โดยมีประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้าง
ถัดไปเป็นห้องนอนที่ 4 จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน สามารถดัดแปลงเป็นห้องทำงานหรือบ้านไหนที่มีผู้สูงอายุก็ทำเป็นห้องนอนให้พวกท่านได้ครับ
มีห้องน้ำที่อยู่ติดกันให้ใช้งานได้สะดวก จัดสุขภัณฑ์มาให้ครบครันพร้อมใช้งาน
ขึ้นบันไดมายังชั้น 2 ของบ้าน จะพบกับพื้นที่อเนกประสงค์ ตรงโถงบันได ให้เลือกออกแบบฟังก์ชันได้ตามใจชอบ
ส่วนห้องพักผ่อน Master Bedroom จะเป็นห้องหน้ากว้างที่อยู่ฝั่งหน้าบ้าน โดดเด่นด้วยช่องแสงที่ส่องเข้ามาจากหลายทิศทาง ประกอบกับการได้พื้นที่ขนาดใหญ่ทำให้ห้องดูโปร่งโล่ง
สามารถเลือกวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลากหลาย ฝั่งพักผ่อนเลือกวางได้ทั้งเตียง 6 ฟุต ชั้นวางทีวี และโต๊ะทำงานเข้ามุม โดยจะมีประตูออกไปยังระเบียง Outdoor ที่ได้สเปซมาประมาณหนึ่งเลย
อีกฝั่งของห้องจะเป็น Walk-in Closet สามารถบิวท์ตู้เสื้อผ้าได้เต็มผนังและโต๊ะเครื่องแป้งแบบครบเซตเข้าชุด
ห้องน้ำได้พื้นที่มากว้างขวางพอสมควร ได้สุขภัณฑ์ครบทั้งอ่างล้างหน้าฝังกับเคาน์เตอร์ โถสุขภัณฑ์แบบอัตโนมัติ และฝักบัวอาบน้ำ ที่ทำธรณีกั้นแยกส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจน
ถัดมาคือห้องนอนที่อยู่ติดกับ Master Bedroom ซึ่งทางโครงการทำเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย สำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เยอะมีลูกคนเดียว หรือจะทำเป็นห้องนอนสำหรับบ้านไหนที่มีลูก 2 คนก็ได้เช่นเดียวกัน
สุดท้ายของห้องนอนจะอยู่ฝั่งหลังบ้าน ที่สามารถวางเตียง 3.5 ฟุตได้ แต่ความจริงแล้วด้วยสเปซที่กว้างขวาง จะเลือกวางเตียง 5 ฟุตก็ไม่ใช่ปัญหาเลยครับ ยังมีพื้นที่ให้วางโต๊ะเรียนและตู้เสื้อผ้าได้โดยไม่ทำให้ผู้อยู่อาศัยรู้สึกอึดอัดอย่างแน่นอน
โดยทั้งสองห้องนอนนี้จะใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงโถงบันได ซึ่งแบ่งการใช้งานทั้งโซนทำธุระส่วนตัวและโซนอาบน้ำไว้ให้เรียบร้อย