ส่วนใหญ่แล้วคนมักจะเลือกซื้อบ้านจากถิ่นเดิมที่คุ้นเคยอยู่มานาน วันนี้เราเลยจะพาทัวร์ไปยังโซนศรีนครินทร์-แพรกษากันบ้างครับ ซึ่งหากใครมีความคิดอยากจะซื้อบ้านหลังแรก หรือบางคนก็กำลังขยับขยายครอบครัว มองหาบ้านหลังใหม่บนทำเลนี้ โครงการ สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา (Saransiri Srinakarin – Phraeksa) จาก แสนสิริ จะเป็นบทสรุปที่หลายๆ คนกำลังตามหาที่อยู่อาศัย ที่จะทำให้ชีวิตคอมพลีทปิดจบแบบ Happy Ending อย่างแน่นอน

โดยกุญแจสำคัญของ สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา คือการเป็นโครงการบ้านจัดสรรที่อยู่ใกล้ BTS สถานีแพรกษา เพียง 2.3 กิโลเมตร ซึ่งระยะทางแค่นี้ถือว่าอยู่ใกล้มากๆ ครับ ประกอบกับนี่คือรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทที่ถือเป็นหัวใจหลักของการเดินทาง ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้โครงการอีกเท่าตัว 

แต่ที่เป็นเส้นเรื่องหลักของเรื่องราวในครั้งนี้ อยู่ตรงที่การรังสรรค์โครงการ Saransiri Srinakarin – Phraeksa ที่ให้ความใส่ใจตั้งแต่พื้นที่ส่วนกลาง ที่ไม่ใช่แค่ขนาดใหญ่แต่ยังมีความหลากหลายที่ตอบโจทย์ทุกเจเนอเรชันและพิเศษไปจนถึงสัตว์เลี้ยงแสนรัก 

ส่วนตัวบ้านก็พิถีพิถันไม่แพ้กันครับ โดยเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ที่คัดเลือกกันตั้งแต่สเป็กวัสดุให้มาตรฐานสูง ไปจนถึงการออกแบบสเปซและฟังก์ชันใช้งานภายในบ้าน ที่ทั้งสเปเชียลและคุ้มค่าเพื่อทุกคนโดยเฉพาะ 

ชูจุดเด่นมาขนาดนี้แล้ว น่าจะทำให้หลายคนคงอยากทำความรู้จักมากยิ่งขึ้น เลื่อนลงไปอ่านรีวิวกันแบบเจาะลึกทุกประเด็นกันต่อเลยครับ!!

ข้อมูลโครงการ

สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา 

Saransiri Srinakarin – Phraeksa

LOCATION : ทำเลโครงการ

สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา

หมุดโครงการ Saransiri ศรีนครินทร์ – แพรกษา ถูกปักเอาไว้อยู่บนถนนแพรกษา ซึ่งอยู่ใกล้กับแนวรถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว นั่นหมายความว่าถ้าเป็นเรื่องของการเดินทางย่อมสะดวกสบายแน่นอน โดยถนนเส้นนี้เชื่อมถนนสายสำคัญเอาไว้หลายสาย ไม่ว่าจะเป็น ถนนสุขุมวิท ซึ่งรู้กันดีว่านี่คือเส้นเลือดใหญ่ที่เชื่อมต่อเข้าเมืองไปยังเอกมัย ท่องหล่อ อโศกได้อย่างรวดเร็ว

ต่อเนื่องไปถึงถนนศรีนครินทร์ ถนนเทพารักษ์ และถนนตำหรุ-บางพลี รวมถึงยังใกล้กับทางพิเศษถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฯ ฝั่งใต้ ทำให้เพิ่มตัวเลือกในการเดินทางเข้า-ออกโครงการได้หลากหลายและง่ายดายมากยิ่งขึ้น

แต่อย่างที่เกริ่นไปตอนต้นว่าไฮไลต์สำคัญของโลเคชันที่โครงการตั้งอยู่คือการอยู่ใกล้ BTS สถานีแพรกษา เพียง 2.3 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที และเมื่อเทียบกับโครงการหมู่บ้านจัดสรรบนทำเลเดียวกัน ถือว่าเป็นบ้านเดี่ยวที่อยู่ใกล้กับรถไฟฟ้ามากเลยทีเดียวครับ อีกทั้งตัว BTS ยังเป็นสายหลักเส้นสุขุมวิท ทำให้จะเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะก็สะดวกสบาย 

แต่ไม่ใช่เพียงเรื่องของการเดินทางที่ทำให้ สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา เป็นที่อยู่อาศัยที่มีศักยภาพ เพราะเมื่อโครงการอยู่ใจกลางเมืองสำคัญของจังหวัดนั้นๆ ความอุดมสมบูรณ์ก็เป็นอีกหนึ่งข้อได้เปรียบเช่นเดียวกัน เพราะมีครบทุกสิ่งอำนวยความสะดวกของแท้ ซึ่งใกล้โครงการที่เป็นห้างสรรพสินค้าก็จะมี โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ  อยู่ติดกับ รถไฟฟ้า BTS สถานีแพรกษา เลยครับ

นอกจากนี้ก็จะมีทั้งคอมมูนิตี้มอลล์และไฮเปอร์มาร์เก็ต เช่น เดอะ บลู อารีน่า บิ๊กซี แม็คโคร โลตัส รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักๆ ที่กระจายตัวล้อมรอบโครงการ

ด้านสถานศึกษามีทั้งโรงเรียนรัฐบาลขึ้นชื่อ โรงเรียนเอกชน และโรงเรียนนานาชาติชั้นนำ ได้แก่ Bangkok Chicaco Christian International School, St. Paul Patana School, รร.สารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ, รร.สตรีสมุทรปราการ และ รร.นพคุณวิทยา เป็นต้น

ส่วนโรงพยาบาลก็อยู่ไม่ไกลจากโครงการเช่นเดียวกัน เช่น รพ.เปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ รพ.เมืองสมุทรปากน้ำ รพ.สมุทรปราการ และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์

THE PROJECT

มาถึงจุดที่ทำให้ตื่นตาตื่นใจที่เชื่อว่าย่านนี้ยังไม่เคยมีใครทำถึงและทำได้ดีเท่า Saransiri ศรีนครินทร์ – แพรกษา ไล่เรียงตั้งแต่พื้นที่โครงการซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ แพรกษา คอมมูนิตี้ ของแสนสิริที่จะมีทั้งหมด 4 โครงการด้วยกัน โดยโครงการนี้นับเป็นโครงการที่ 2 ครับ ต่อจากอณาสิริ ศรีนครินทร์ แพรกษา ซึ่งอาณาจักรนี้จะอยู่ห่างจากถนนใหญ่ประมาณ 700 เมตร (เข้าผ่านถนนภาระจำยอม) ทำให้ได้ทั้งความเงียบสงบและความเป็นส่วนตัว 

ซึ่งคอนเซ็ปต์ของโครงการนี้มาในสไตล์ Modern Farmhouse มีการผสมผสานระหว่างอินสไปร์จากหมู่บ้านชนบทแถบยุโรป ที่นำมาปรับให้มีความโมเดิร์นทันสมัยมากยิ่งขึ้น สอดผสานกับธรรมชาติที่นำมาโอบล้อมรอบตัวผู้อยู่อาศัย เพื่อสร้างบรรยากาศโปร่งสบายผ่อนคลายสุดอบอุ่นและสงบสุขๆ 

โดยจุดแรกที่เมื่อเข้ามาในโครงการแล้วเห็นถึงความโดดเด่นนำสายตาได้เป็นอย่างดี คือ Sculpture รูปแกะหน้าโครงการ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของสุขภาพและความร่ำรวยเงินทอง ที่รอต้อนรับลูกบ้านได้อย่างมีเอกลักษณ์และน่ารักมากครับ

ต่อเนื่องไปถึงซุ้มโครงการที่ดีไซน์อาคารส่วนหนึ่งให้เป็นหน้าจั่วทรงสูงสไตล์ฟาร์มเฮ้าส์ ซึ่งจะเชื่อมต่อกับ Main Park ที่อยู่ด้านใน รับกันดีกับบริเวณทางเข้า-ออกที่ทำเป็นทรงโค้ง ทำให้ทั้งหมดดูมีมิติและแตกต่างอย่างสร้างสรรค์ จึงนับว่าเป็นจุดเปิดได้ดีทีเดียว

ส่วนเรื่องความปลอดภัยไม่ต้องห่วง เพราะดูแลกันตั้งแต่ด้านหน้าอย่าง Main Gate การป้องกันขั้นแรกจะเป็นประตูรั้วอัตโนมัติ และแบ่งทางเข้า-ออกแยกกันชัดเจน อีกทั้งยังจัดสรรพื้นที่สำหรับทางเข้า-ออกของ Resident และ Visitor ให้เรียบร้อย ทำให้ลูกบ้านสามารถใช้ RFID Sensor ระบบอัตโนมัติเข้าบ้านได้เลย ด้าน Visitor จะเป็นระบบ VMS System บันทึกผู้มาติดต่อที่มีความรวดเร็วและแม่นยำ 

ต่อเนื่องไปถึง CCTV-Video Analytics ระบบวิเคราะห์ความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติของเหตุการณ์ต่างๆ และ Real-Time Guard Tour ตรวจสอบสถานะการเดินตรวจตามจุดของ รปภ. แบบ Real-Time ซึ่งนี่ก็คือระบบ LIV-24 ยกระดับความปลอดภัยจากแสนสิริ

FACILITIES : พื้นที่ส่วนกลาง

หนึ่งในซิกเนเจอร์ของโครงการ สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา ต้องยกให้ส่วนกลางเลยครับ ที่ยังคงอยู่ภายใต้แนวคิดฟาร์มเฮ้าส์ ซึ่งสรรสร้างพื้นที่ให้มีความหลากหลายของการใช้งาน เพื่อให้ทุกสมาชิกในครอบครัวและสัตว์เลี้ยงแสนรัก ได้ออกมาใช้ส่วนกลางนอกบ้านร่วมกันได้อย่างรู้สึกคุ้มค่า บนพื้นที่ประมาณ 3 ไร่

โดยจะมี Facilities รองรับตั้งแต่บริเวณหน้าทางเข้าเป็น Main Park สวนสีเขียวขนาดใหญ่ ที่ถูกคิดคำนวณมาแล้วอย่างดีในการจัดสรรพื้นที่แต่ละส่วนได้อย่างลงตัว

เริ่มตั้งแต่โซน Pet Park ซึ่งคนรักน้องแมวอย่างเราอยากนำเสนอให้กลุ่ม Pet Family ได้เห็น เพราะที่นี่จัดมาให้แบบครบครันสุดๆ โดยไม่ต้องพาออกไปข้างนอกให้เสียเวลา

ไม่ว่าจะเป็นสวนสีเขียวที่ให้พื้นที่มากว้างขวาง เพื่อให้สัตว์เลี้ยงแสนรักของเราได้วิ่งเล่นกัน เท่านั้นไม่พอยังมีเครื่องเล่นให้น้องหมาน้องแมวได้ Enjoy เพิ่มความสนุกสนานไปอีกระดับ 

นอกจากนี้ยังมีก๊อกน้ำไว้ให้บริการและที่เก็บอึสำหรับสัตว์เลี้ยงเพื่อความสะดวกสบาย คือแบบว่าใครเลือกอยู่ที่นี่รับรองฟินทั้งเรารวมถึงลูกรักด้วยแน่นอน

ถัดมาเป็นโซน Exercise ให้ลูกบ้านได้ออกมาเดินเล่นหรือวิ่งจ๊อกกิ้งออกกำลังกายท่ามกลางธรรมชาติ

ติดกันเป็น Playground สนามเด็กเล่นของเด็กๆ ที่จัดเตรียมเครื่องเล่นเอาไว้ให้เยอะพอสมควร เพื่อให้เหล่าเด็กๆ ได้ทำกิจกรรม Outdoor กันอย่างสนุกสนานและเสริมทักษะไปในตัว

และโซนที่ขาดไม่ได้เป็นสัญลักษณ์ของโครงการแสนสิริเลยก็ว่าได้ นั่นก็คือ Sansiri Backyard ซึ่งที่นี่ไม่ได้แค่มีพืชผักสวนครัวเท่านั้น แต่ยังมีจุดเด่นตรงแท่งหินรักโลก คือการเอาวัสดุก่อสร้างที่เหลือ เช่น คอนกรีต มาแปรรูปทำเป็นส่วนของ Hardscape เพื่อช่วยลดปริมาณขยะต่างๆ ตามแนวคิด Zero Waste ของแสนสิรินั่นเองครับ

ต่อเนื่องมาถึงไฮไลต์สำคัญอย่างโซน Lake เป็นจุดศูนย์รวมของลูกบ้าน ให้ได้ออกมานั่งเล่นพักผ่อนชมวิวของทะเลสาบ และธรรมชาติสีเขียวขจีจากต้นไม้ดอกไม้นานาพันธุ์

โดยส่วนนี้จะอยู่ติดกับ Saran Club เป็นคลับเฮ้าส์ 2 ชั้น ที่หน้าตาของอาคารจะคล้ายกับด้านหน้าโครงการเป็นหน้าจั่วทรงสูง ตามคอนเซ็ปต์ของการเป็นโมเดิร์น ฟาร์มเฮ้าส์ ที่ดูทันสมัยและสวยงาม

แต่ก่อนจะเข้าไปชมด้านในเราขอพาดูโซน Outdoor ที่สะดุดตากับสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ที่สามารถว่ายออกกำลังกายได้จริง รวมถึงยังมี Jacuzzi และแยกสระเด็กไว้ให้เรียบร้อย โดดเด่นด้วยวิวทิวทัศน์ที่อยู่ติดกับ Lake และสวนสีเขียว เพิ่มอรรถรสในการว่ายน้ำได้อย่างเต็มเปี่ยม

เมื่อเข้ามาด้านในคลับเฮ้าส์จะเจอกับความโปร่งโล่งของเพดานที่ให้ความสูงแบบ Double Volume โดยชั้นล่างคือ Co-Working Space พื้นที่นั่งอ่านหนังสือนั่งทำงานหรืออยากนั่งพักผ่อน ซึ่งจัดเตรียมรองรับเอาไว้หลายที่นั่ง

ถัดเข้าไปอีกเป็น Kid’s Room เตรียมของเล่นของ Plan Toy เสริมพัฒนาการและการเรียนรู้ของเด็ก ๆ

ชั้นบนของคลับเฮ้าส์จะพบกับ Fitness ที่แน่นอนว่าอุปกรณ์เครื่องออกกำลังกายครบครัน มาพร้อมวิวสวนจากมุมสูงทำให้มองได้สุดสายตาเลยครับ

เก็บภาพบรรยากาศยามเย็นมาฝากกันครับ สวยงามและร่มรื่นน่าอยู่อาศัยของแท้

HOME TYPE  : แบบบ้าน Saransiri Srinakarin –  Phraeksa

แบบบ้าน สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา มีให้เลือกทั้งหมด 3 แบบบ้านด้วยกัน โดยโครงการเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด ซึ่งในปัจจุบันที่นี่เป็นโครงการเดียวที่ไม่มีรูปแบบบ้านอื่นเข้ามาผสม เมื่อเทียบกับบริเวณพื้นที่ใกล้เคียงกัน

โดยขนาดพื้นที่ใช้สอยของตัวบ้านนั้นจะมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 159-200 ตารางเมตร ฟังก์ชันใช้งานตั้งแต่ 4 ห้องนอน 3-4 ห้องน้ำ และ 2 ที่จอดรถ นอกจากนี้ทุกยูนิตทางโครงการได้ติดตั้ง Solar Cell รวมถึงสัญญาณกันขโมย และที่สำคัญคือพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ได้ทำการลงเสาเข็มสั้น 6 เมตร ไว้ให้อย่างดีเพื่อลดปัญหาเรื่องการทรุดตัว

นอกจากนั้นแบบบ้านทุกหลังในโครงการยังติดตั้ง Solar Cell และสัญญาณกันขโมยระบบ Magnetic เอาไว้ให้ทุกหลังเลยครับ  และด้วยขนาดพื้นที่ใช้สอยที่หลากหลาย  ทำให้แบบบ้านในโครงการสามารถตอบสนองทุกความต้องการของแต่ละครอบครัว รองรับครอบครัวตั้งแต่ขนาดเล็กไปจนถึงขนาดใหญ่ได้อย่างลงตัว ซึ่งเราจะพาไปชมแบบบ้านตัวอย่างตามนี้ครับ

แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น IVY

4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 – 84.4 ตร.ว.

บ้าน Type นี้เป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีสมาชิกไม่เยอะ 2-4 คนกำลังอยู่กันแบบสบายๆ โดยชั้นล่างจะเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนรวม เชื่อมต่อกันของห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าว รวมถึงมีห้องนอนอยู่ชั้นล่างนี้ด้วยครับ โดยความสูง Floor to Ceiling ชั้นล่างอยู่ที่ 2.7 เมตร และพื้นจะใช้วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องยาง SPC ส่วนชั้น 2 ของบ้าน จะเป็นห้องนอนทั้งหมด 3 ห้อง ซึ่งมีขนาดใหญ่ทุกห้อง ด้านความสูงของเพดานอยู่ที่ 2.8 เมตร และชั้นบนจะได้พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มม.

สำหรับสถาปัตยกรรมของตัวบ้านของโครงการยังคงยึดคอนเซ็ปต์ในสไตล์ Modern Farmhouse เช่นเดิม คือมีความเป็นหน้าจั่วทรงสูงที่กลมกลืนไปกับ Facade ที่ทำเป็นเฟรมกรอบหน้าต่าง ส่วนประตูก็ดีไซน์ให้เป็นช่องตารางรับกันกับหน้าต่างทำให้บ้านดูโฮมมี่มากขึ้น

ขณะเดียวกันโทนสีของตัวบ้านที่นี่จะเลือกใช้ในกลุ่มสีเอิร์ธโทนเป็นสีที่เลียนแบบธรรมชาติ ได้แก่ สีเทา สีฟ้า และสีเขียว ทำให้ผสมผสานออกมาแล้วดูอบอุ่น นุ่มนวล มองแล้วสบายตาอยู่แล้วสบายใจ

โดยพื้นที่โรงจอดรถสามารถจอดได้ 2 คัน และมีประตูเข้า-ออกภายในบ้านบริเวณนี้ด้วยครับ

เข้าไปดูข้างในบ้านกันต่อครับซึ่งเมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วจะเจอกับพื้นที่เปิดโล่ง ที่คอนเน็กกันระหว่าง Living Area และ Dining Area รวมถึงมีการเชื่อมต่อของช่องแสงจากทางประตูและหน้าต่างทั้งทางด้านข้างและหลังบ้าน ทำให้บริเวณนี้ดูโปร่งโล่งสบาย

และด้วยขนาดพื้นที่กว้างขวางทำให้สามารถออกแบบจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้ตามใจชอบ อย่างห้องนั่งเล่นก็เลือกวางโซฟาขนาด 3 ที่นั่งได้ ส่วนโต๊ะกินข้าวก็วางได้ถึง 4 ที่นั่ง ซึ่งก็ยังเหลือสเปซโดยรอบ

ถัดไปเป็นห้องครัวกั้นด้วยประตูกระจก มาพร้อมช่องแสงโดยรอบทำให้ไม่รู้สึกอึดอัด และทางโครงการก่อเคาน์เตอร์ปูนมาให้เรียบร้อยในทุกยูนิต ช่วยประหยัดเงินในกระเป๋าไปได้พอสมควร  ท็อปเคาน์เตอร์เป็นหินแกรนิตสีดำ  ผนังห้องปูกระเบื้องแกรนิตโต้เพื่อกันเลอะและให้ทำความสะอาดได้ง่าย  นอกจากนี้ยังมีประตูเชื่อมออกไปยังลานซักล้างหลังบ้านได้ครับ

ส่วนห้องน้ำก็จัดเตรียมสุขภัณฑ์มาให้ครบครันของแบรนด์ Cotto ซึ่งมีทั้งโซนทำธุระส่วนตัว โดยจะได้โถสุขภัณฑ์ระบบอัตโนมัติ และพื้นที่สำหรับอาบน้ำ เพื่อให้คนที่อยู่ชั้นล่างใช้งานได้สะดวก

ติดกันเป็นห้องนอนไว้รองรับครอบครัวที่มีผู้สูงอายุ หรือจะเอาไว้เป็นห้องรับรองแขกหรือเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมเยียน ซึ่งมีความกว้างขวางประมาณหนึ่ง รับรองว่าอยู่ได้สบายๆ ครับ

ก่อนจะขึ้นไปชั้น 2 ตรงบริเวณใต้บันได ทางโครงการทำเป็นห้องเก็บของขนาดใหญ่เอาไว้ให้อีกด้วย

โดยชั้น 2 ของบ้านจะเป็นส่วนของห้องนอนพักอาศัยทั้งหมด เริ่มที่ Master Bedroom ที่อยู่ฝั่งหนึ่งของบ้านโดยออกแบบให้มีขนาดใหญ่กินพื้นที่ตั้งแต่หน้าจรดท้ายบ้าน

ซึ่งมีไฮไลต์อยู่ที่ห้องนี้มีดีไซน์ของ Bay Window เพิ่มเข้ามาเป็นลูกเล่นที่ไม่ใช่แค่สวยงามแต่ยังใช้งานได้จริง โดยออกแบบให้อยู่ทางด้านหน้าบ้าน

ส่วนพื้นที่ทางด้านหลังบ้านจะเป็น Walk-in Closet ที่สามารถบิวท์ตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่พร้อมโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบสวยงาม

เชื่อมต่อไปยังห้องน้ำ มีขนาดกว้างขวางใช้งานได้สะดวกสบาย จัดสุขภัณฑ์ได้มาตรฐานทั้งอ่างล้างหน้า กระจกเงา โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ สำหรับห้องนอนใหญ่ และฝักบัวอาบน้ำ

ถัดมาเป็นห้องนอนที่ 2 ก็ให้สเปซขนาดใหญ่มาพอสมควร วางเตียง 5 ฟุต และเฟอร์นิเจอร์ห้องนอนชิ้นอื่นๆ ได้โดยไม่ต้องกังวลว่าจะทำให้ห้องคับแคบ

สุดท้ายห้องนอนที่ 3 มีขนาดไม่ต่างจากห้องนอนก่อนหน้านี้ วางโต๊ะ ตู้ เตียง 5 ฟุต ได้แบบจัดเต็ม หรือจะปรับเป็นห้องอเนกประสงค์ก็ทำได้เช่นเดียวกัน

โดยทั้งสองห้องนอนนี้จะใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงบริเวณโถงทางเดินครับ

แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น MUGUET

4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องอเนกประสงค์ 2 ที่จอดรถ

พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 – 92.5 ตร.ว.

สำหรับรีวิวบ้านหลังนี้จะมีขนาดใหญ่สุด จัดเต็มด้วยพื้นที่ใช้สอยและฟังก์ชันใช้งานที่ครบถ้วน ทั้งพื้นที่ศูนย์รวมของครอบครัวอย่างห้องนั่งเล่นและห้องกินข้าวที่ชั้นล่าง โดยชั้นนี้จะมีห้องนอนเหมือนกับแบบบ้าน IVY แต่จะได้ Layout ที่แตกต่างกัน ส่วนชั้น 2 ก็วางแปลนห้องนอนแตกต่างจากแบบบ้านหลังแรก โดยมีทั้งหมด 3 ห้องนอน และมีห้องน้ำให้ในตัวทุกห้อง

การออกแบบของตัวบ้านเป็นไปตามคอนเซ็ปต์สไตล์ฟาร์มเฮ้าส์ ที่บ้านหน้าจั่วทรงสูง และ Facade เฟรมกรอบหน้าต่างยังคงเป็นเอกลักษณ์ แต่รูปร่างหน้าตาจะไม่เหมือนกับบ้านแบบแรกซะทีเดียวครับ

บริเวณโรงจอดรถมีห้องเก็บของขนาดใหญ่ให้อย่างดี แต่เพิ่มความพิเศษด้วยการทำเฉลียงด้านข้างที่เชื่อมไปยังประตูเข้า-ออกภายในบ้านอีกหนึ่งจุด

จากนั้นพอเข้ามาแล้วจะถูกต้อนรับด้วย Foyer โถงทางเดิน ที่มีสเปซให้ทำเป็นมุมเก็บของสำหรับเราและสัตว์เลี้ยงได้

ถัดเข้าไปข้างในบ้านจะเป็น Common Area กว้างขวางที่เชื่อมพื้นที่ต่อกันระหว่าง Living Area และ Dining Area ที่รู้สึกสบายตาปลอดโปร่งด้วยการทำช่องแสงขนาดใหญ่ทั้งด้านข้างและด้านหน้าบ้านยาวต่อเนื่องกัน

โดยโซนนั่งเล่นสามารถจัดสรรเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่าง โซฟา ชั้นวางทีวี และโต๊ะกลางได้แบบครบเซต

ส่วนพื้นที่รับประทานอาหารก็วางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ หรือจะปรับเป็น 4 ที่นั่ง ก็ยิ่งช่วยเพิ่มพื้นที่โล่งมากยิ่งขึ้น

ด้านห้องครัวก็บอกเลยว่าได้สเปซใช้สอยมาพอสมควร เพราะนอกจากพื้นที่ทำอาหาร ที่บิวท์เคาน์เตอร์ปูนมาให้เช่นเดิมแล้ว ยังมีมุม Laundry เพิ่มเข้ามาเพื่อให้สะดวกต่อการใช้งาน และมีห้องเก็บของขนาดใหญ่อยู่ในนี้ด้วยครับ

เดินย้อนกลับไปยังโซนหน้าบ้านจะพบกับห้องนอนชั้นล่าง มีสเปซกว้างขวางเลยทีเดียว และได้ช่องแสงด้านหน้าบ้านแบบเต็มผนัง เพิ่มความน่าอยู่อาศัยอีกเท่าตัว

ขึ้นมาชมชั้น 2 ของบ้านกันต่อ โดยจะเจอกับโถงทางเดินที่มีพื้นที่อเนกประสงค์ให้เราปรับเปลี่ยนได้อย่างอิสระ

Master Bedroom จะได้พื้นที่ฝั่งหน้าบ้านทั้งหมด นั่นหมายความว่าห้องจะมีขนาดใหญ่มากทีเดียว และยังได้ความสูงของเพดานถึง 3.35 เมตร โดยแบ่งออกได้หลายฟังก์ชันตั้งแต่โซนพักผ่อน วางเตียงได้ 6 ฟุต และมีสเปซสำหรับ Bay Window

ถัดไปคือโซน Walk-in Closet บิวท์ตู้เสื้อผ้าเป็นรูปตัวแอลตั้งแต่พื้นจรดเพดานแบบบ้านตัวอย่าง จะช่วยให้เก็บเสื้อผ้าได้เยอะขึ้น

ติดกันเป็นห้องน้ำขนาดกว้างขวาง แบ่งแยกพื้นที่ส่วนเปียกส่วนแห้งชัดเจนครับ

และก็มาถึงโซนพิเศษที่อยู่อีกฝั่งของห้องนั่นก็คือ Enclosed Balcony เปรียบเหมือนเป็นพื้นที่ Multi Purpose ที่จะดัดแปลงเป็นห้องทำงาน หรือทำเป็นห้องสัตว์เลี้ยงแสนรัก เพื่อจะได้อยู่กับเราตลอดเวลาก็ยังได้

ส่วนห้องนอนที่ 2 จะอยู่ฝั่งหลังบ้าน มีขนาดใหญ่ที่ต่อให้วางเตียง 5 ฟุต โต๊ะอ่านหนังสือ และตู้เสื้อผ้า ก็ยังมีสเปซโล่งๆ ให้เดินผ่านไปมาได้สะดวกสบาย มาพร้อมห้องน้ำในตัวให้เสร็จสรรพ

เช่นเดียวกับห้องนอนที่ 3 ขนาดไม่ทิ้งห่างกันเท่าไหร่ สามารถใช้สอยเป็นห้องนอนตั้งแต่เด็กยันโตเป็นผู้ใหญ่ได้เลย และมีห้องน้ำในตัวโดยไม่ต้องใช้ร่วมกับใคร เพื่อความเป็นส่วนตัว

แบบบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ASTER

4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ

พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 – 97.2 ตร.ว.

สำหรับหลังนี้เป็นบ้านขนาดกลาง Layout จะคล้ายกับแบบบ้าน MUGUET ตอบโจทย์สำหรับกลุ่มครอบครัวที่ไม่ได้ต้องการบ้านขนาดใหญ่สุด แต่อยากได้ฟังก์ชันที่ครบครันเหมือนกับแบบบ้านหลังใหญ่ โดยทางทีมงานเลยขออนุญาตเก็บแค่ภาพบรรยากาศภายนอกมาฝากครับ

ราคา สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา (Saransiri Srinakarin – Phraeksa)

โครงการ สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา ส่งมอบเป็นบ้านเปล่า แต่มีความพิเศษตรงที่ทุกยูนิตจะได้นวัตกรรมทั้ง Solar Cell รวมถึง สัญญาณกันขโมย นอกจากนี้ยังได้เคาน์เตอร์ครัวปูนที่ก่อมาให้เรียบร้อย และที่สำคัญคือพื้นที่จอดรถหน้าบ้าน ได้ทำการลงเสาเข็มสั้น 6 เมตร ไว้ให้อย่างดีเพื่อลดปัญหาเรื่องการทรุดตัว

สำหรับค่าส่วนกลางคือ 40 บาท/ตร.วา/เดือน และมีค่าส่วนกลางดูแลถนนภาระจํายอมด้านหน้า 5 บาท/ตร.ว./เดือน โดยบ้านที่เราพาไปดูครั้งนี้คือแบบ 

• IVY พื้นที่ใช้สอย 159 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 6.99 ล้านบาท*
• ASTER พื้นที่ใช้สอย 178 ตร.ม. 
• MUGUET พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. 

*หมายเหตุ  รายละเอียดราคา เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานเก็บรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความเท่านั้น  โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้  รายละเอียดและโปรโมชั่นต่างๆ  กรุณาสอบถามโดยตรงจากทางโครงการอีกครั้ง

SUMMARY

ภาพรวมโครงการ

• สราญสิริ ศรีนครินทร์ – แพรกษา อยู่บนโลเคชันโซน Downtown สะดวกสบาย ใกล้รถไฟฟ้า BTS สายสีเขียว และศูนย์การค้าโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ 
• ทั้งโครงการเป็นบ้านเดี่ยวทั้งหมด มีจำนวนเพียง 157 ยูนิต บนพื้นที่ประมาณ ไร่ ซึ่งถือว่ามีความส่วนค่อนข้างสูงทีเดียว
• พื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ตั้งแต่ Main Park ที่แบ่งโซน Facilities ไว้หลากหลาย ที่โดดเด่นสุดคือ Pet Park พื้นที่สำหรับสัตว์เลี้ยงแสนรัก นอกจากนี้ยังมีโซน Lake สำหรับนั่งพักผ่อน และมีคลับเฮ้าส์ขนาดใหญ่รองรับลูกบ้าน
• แบบบ้านมีให้เลือกถึง 3 แบบ ตั้งแต่ขนาดพื้นที่ใช้สอย 159-200 ตร.ม. และขนาดที่ดินตั้งแต่ 50-92 ตร.วา
• ทุกแบบบ้านมีห้องนอนชั้นล่างจึงสามารถใช้สอยพื้นที่ได้อย่างยืดหยุ่น  ไม่ว่าจะใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุ,  ห้องทำงานส่วนตัวสำหรับคนที่ต้องทำงานที่บ้าน  หรืออยากจะใช้เป็นห้องส่วนตัวให้น้องหมาน้องแมวก็ยังได้
• การดีไซน์ตัวบ้านมีความสวยงามในสไตล์ Modern Farmhouse สร้างเอกลักษณ์ด้วยการเป็นบ้านหน้าจั่วทรงสูง ผสมผสานกับโทนสีเอิร์ธโทนที่เป็นสีของธรรมชาติ ทำให้บ้านดูโฮมมี่น่าอยู่อาศัย
• การจัดฟังก์ชันใช้งานครบครัน และออกแบบพื้นที่ใช้สอยภายในบ้านได้น่าสนใจทีเดียว เพราะให้ความสำคัญกับทุกพื้นที่ และเพิ่มลูกเล่นด้วย Bay Window ซึ่งสร้างความแตกต่างได้อย่างดี
• เลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐาน ลงเสาเข็มสั้นตรงลานจอดรถให้เรียบร้อย และมีนวัตกรรมที่ล้ำสมัยทั้งระบบรักษาความปลอดภัย LIV-24 และสัญญาณกันขโมย รวมถึงติดตั้ง Solar Cell

ทำเล / การเดินทาง

• โครงการตั้งอยู่บนถนนแพรกษา เข้าซอยมาประมาณ 700 เมตร  เป็นถนนภาระจำยอมที่มีเฉพาะลูกบ้านแสนสิริที่ผ่านเข้าออกได้
• Saransiri ศรีนครินทร์ – แพรกษา เชื่อมต่อไปยังถนนสำคัญได้หลากหลายเส้นทาง ทั้งถนนสุขุมวิท ถนนศรีนครินทร์ ถนนเทพารักษ์ และถนนตำหรุ-บางพลี 
• ใกล้กับทางพิเศษถนนกาญจนาภิเษก วงแหวนรอบนอกฯ ฝั่งใต้
• ใกล้ BTS สถานีแพรกษา เพียง 2.3 กิโลเมตร ซึ่งใช้เวลาประมาณ 10 นาที 
• ใกล้แหล่งไลฟ์สไตล์ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ คอมมูนิตี้มอลล์และไฮเปอร์มาร์เก็ต เช่น เดอะ บลู อารีน่า บิ๊กซี แม็คโคร โลตัส รวมถึงร้านอาหารและคาเฟ่น่ารักๆ ที่กระจายตัวล้อมรอบโครงการ
• ไม่ไกลจากสถานศึกษาชื่อดัง เช่น Bangkok Chicaco Christian International School, St. Paul Patana School, รร.สารสาสน์วิเทศ สมุทรปราการ, รร.สตรีสมุทรปราการ และ รร.นพคุณวิทยา เป็นต้น
• ใกล้โรงพยาบาลชั้นนำของสมุทราปราการอย่าง รพ.เปาโลเมโมเรียลสมุทรปราการ รพ.เมืองสมุทรปากน้ำ รพ.สมุทรปราการ และสถาบันการแพทย์จักรีนฤบดินทร์

เหมาะกับใคร

• เหมาะกับคนท้องถิ่นเคยอยู่พื้นที่ละแวกนี้มาก่อน ที่กำลังมองหาบ้านหลังใหม่โซนแพรกษา สมุทรปราการ
• กลุ่มคนที่ทำงานในเมืองที่ใช้รถไฟฟ้าในการเดินทางเป็นหลักก็สะดวก หรือขับรถเองก็สบาย
• คนที่เป็นเจ้าของกิจการ SME ในพื้นที่รอบโครงการอย่างโซน แพรกษา ปากน้ำสมุทรปราการ เทพารักษ์ ศรีนครินทร์ตอนปลาย
• กลุ่มคนระดับหัวหน้าที่ทำงานในนิคมแพรกษาและนิคมบางปู
• คนที่ทำงานในวงการแพทย์ทั้งหมอ พยาบาล และบุคลากรที่เกี่ยวข้อง โซนโรงพยาบาลรอบโครงการ
• กลุ่มครอบครัวที่ชอบบ้านเดี่ยวและอยากได้ความเป็นส่วนตัว รวมถึงกลุ่มที่มีสัตว์เลี้ยงและต้องการพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่
• กลุ่มที่มีรายได้ครัวเรือนประมาณ 100,000 บาท/เดือน ขึ้นไป
• สำหรับคนที่มีงบประมาณในการซื้อบ้าน 7 ล้านบาทขึ้นไป