แบบบ้าน Citrus
4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
พื้นที่ใช้สอย 189 ตร.ม.
ขนาดที่ดินเริ่มต้น 50 ตร.ว.

หลังแรกที่จะรีวิวเป็น Type ใหญ่สุดของโครงการ สีของตัวบ้านจะใช้สีโทน Neutral Colors ดูเรียบง่าย สบายตา ไม่ทึบตัน และดูแลรักษาง่าย มีช่องเปิดบานใหญ่ทำให้บ้านดูโปร่ง โล่ง และมีแสงธรรมชาติเข้าสู่ตัวบ้านได้มาก
หนึ่งในแนวคิดการออกแบบบ้านของโครงการ จะเน้นเรื่องของการลดทอนพื้นที่ที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเปลี่ยนมาเป็นพื้นที่ใช้สอยภายใน ทำให้บ้านมีสเปซการใช้สอยภายในที่กว้างขึ้น จัดฟังก์ชันได้มากขึ้นดูจากเฉลียงหน้าบ้านที่มีขนาดกำลังดี และไม่มีระเบียงบริเวณชั้นบน ที่ถูกปรับเปลี่ยนตามแนวคิดการออกแบบ Transition Space

ส่วนชั้นบนของบ้านจะเป็นห้องนอนที่เป็นพื้นที่ส่วนตัวของแต่ละคน โดยมีห้อง Master Bedroom พร้อมห้องน้ำในตัว สังเกตว่าให้ห้องนี้จะไม่มีระเบียงมาให้ แต่เน้นขยายขนาดของพื้นที่ภายในห้องนอนให้เต็มอิ่มแทน ซึ่งเป็นไปตามแนวคิดที่ต้องการใช้พื้นที่ให้ได้คุ้มค่าที่สุดนั่นเองครับ
ส่วนอีกสองห้องนอนที่เหลือจัดสรรพื้นมาให้ใกล้เคียงกัน และที่พิเศษของบ้านหลังนี้คือการได้สเปซอเนกประสงค์ที่บริเวณโถงกลางของชั้นสองเพิ่มเข้ามา ทำให้ผู้อยู่อาศัยมีพื้นที่ส่วนตัว หรือทำกิจกรรมกับครอบครัวก่อนเข้านอน แม้กระทั่งครอบครัวไหนมีสมาชิกหลายคน ต้องการห้องเพิ่มเติมก็สามารถกั้นเป็นพื้นที่อีกห้องหนึ่งได้เลยครับ

บ้านภายนอกยังยึดหลักคอนเซ็ปต์โครงการในสไตล์ Minimal Japandi ดีไซน์ทุกอย่างให้เรียบง่าย ลดทอนวัสดุฟุ่มเฟือย อย่างรูปทรงตัวบ้านก็เป็นทรงสี่เหลี่ยมแต่ดูเก๋แบบญี่ปุ่น ส่วน Facade ก็เน้นเส้นสายที่สบายตาและให้ความสำคัญกับช่องแสงไม่ให้บ้านดูทึบตันทั้งด้านหน้าและด้านข้าง
ด้าน Mood & Tone แนว Neutral Colors เลือกใช้สีที่ดูอบอุ่นเช่น สีน้ำตาลอ สีครีม ทำให้ดูน่าอยู่อาศัยมากยิ่งขึ้น และยังเป็นโทนสีที่ดูแลรักษาได้ง่ายด้วยครับ

โดยพื้นที่จอดรถสามารถจอดได้ 2 คันแบบสบายๆ ซึ่งตรงนี้จะมีประตูเข้า-ออกเชื่อมต่อภายในบ้าน เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้อยู่อาศัย

ฝั่งหน้าบ้านจะได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนซึ่งพอเข้ามาแล้ว จะสัมผัสได้ถึงความโปร่งโล่งของพื้นที่แบบ Open Plan เป็นแนวลึกเข้าไปครับ

โซนแรกเป็น Living Area พื้นที่ขนาดใหญ่ให้สามารถจัดวางเฟอร์นิเจอร์ได้หลายรูปแบบ และยังติดตั้งทีวีไซส์ 55 นิ้ว ขึ้นไป ก็ยังนั่งดูได้แบบชิลๆ


โดดเด่นด้วยช่องแสงด้านข้างบ้านทั้งหน้าต่างบานเลื่อนและบานฟิกส์ รวมถึงได้ช่องระบายอากาศ เป็นระบบระบายอากาศแบบเปิด-ปิดได้ ที่เรียกว่า Breeze Panel ครับ


ติดกันเป็นโซน Dining Area วางโต๊ะกินข้าวได้ถึง 6 ที่นั่ง แต่ด้วยพื้นที่มีความยืดหยุ่นจึงสามารถเลือกได้ทั้งแบบโต๊ะเหลี่ยม หรือจะเป็นโต๊ะกลมก็ไม่รู้สึกคับแคบ



ต่อเนื่องไปยังโซนครัว ซึ่งบ้านจริงจะได้เป็นพื้นที่เปิด ทำให้เราเลือกออกแบบได้ตามใจชอบ คือจะเปิดโล่งหรืออยากกั้นเป็นสัดส่วนก็ได้ทั้งนั้น

สเปซกว้างขวางฝั่งหนึ่งบิวท์เคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัวแอล ส่วนฝั่งตรงข้ามเลือกวางได้ทั้งตู้เย็นและเครื่องซักผ้า โดยมีประตูเชื่อมออกไปยังพื้นที่ด้านหลังบ้านตามมาตรฐาน


ห้องน้ำจะอยู่ติดกับห้องครัว ซึ่งโครงการไม่ได้สร้างให้อยู่ใต้บันได จึงช่วยให้ใช้งานได้สะดวกสบายไม่อึดอัด

ถัดไปคือห้องนอนชั้นล่างที่ตั้งอยู่โซนด้านหลังบ้าน ทำให้ได้หน้าต่างถึงสองฝั่งทั้งด้านข้างและด้านหลังเลย


ขณะเดียวกันพื้นที่ที่ให้มาก็เหลือเฟือ ในการจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบครบเซต หรือจะปรับเป็นห้องน้องหมาน้องแมวโดยเฉพาะก็ตอบโจทย์เหมือนกัน



ก่อนขึ้นไปชั้นบนจะพาไปดูห้องใต้บันไดที่ถูกทำเป็นห้องเก็บของแทนห้องน้ำ ซึ่งมีความสูงให้เดินเข้าไปเก็บของได้สบายๆ

ขึ้นมาชั้นสองแล้วจะเจอกับ Open Space พื้นที่เชื่อมต่อกับโถงบันได สามารถจัดฟังก์ชันให้เป็นได้หลายอย่าง โซนทำงาน โซนนั่งเล่น หรือโซนสัตว์เลี้ยงแสนรักก็ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์




Master Bedroom จะอยู่ฝั่งหน้าบ้าน ทำให้ได้ช่องแสงถึง 3 ฝั่ง ทั้งด้านหน้าบ้านและด้านข้างบ้านอีก 2 ฝั่ง


โดยแบ่งพื้นที่ใช้งานออกเป็น 3 โซน คือโซนพักผ่อน วางเตียง King Size ก็ยังเหลือพื้นที่ว่างรอบด้าน

ติดกันเป็นโซนนั่งชิลหรือจะเป็นมุมนั่งทำงานก็ได้ครับ


สุดท้ายคือ Walk-in Closet ที่จะกั้นเป็นห้องแยกหรือเปิดคอนเน็กกันก็ดูดีทั้งสองแบบ สามารถบิวท์ได้ทั้งตู้เสื้อผ้าไซส์ใหญ่และโต๊ะเครื่องแป้ง

ติดกันเป็นห้องน้ำ จัดสุขภัณฑ์มาให้ครบทั้งอ่างล้างหน้า กระจกเงา โถสุขภัณฑ์ รวมถึงโซนอาบน้ำมาพร้อม Hand Shower และแยกส่วนใช้งานด้วยธรณีกั้นมาให้เรียบร้อย


ส่วนอีกสองห้องนอนจะอยู่ด้านหลังบ้าน โดยห้องนอนที่ 2 ออกแบบให้ดูเป็นไอเดียว่าสามารถวางเตียง 5 ฟุต ตู้เสื้อผ้า และโต๊ะไว้ที่ฝั่งปลายเตียง ห้องก็ยังดูกว้างขวางอยู่พอสมควร




ห้องนอนที่ 3 มีขนาดพอๆ กันกับห้องนอนที่ 2 แต่ตกแต่งให้เป็นห้องวัยรุ่น รูปแบบการจัดวางเฟอร์นิเจอร์จะเหมือนกับห้องที่แล้ว แต่ตกแต่งให้เป็นอีกสไตล์หนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่ายังเหลือพื้นที่โล่งๆ ไม่แพ้กัน




สำหรับห้องน้ำของสองห้องนอนนี้จะใช้ร่วมกัน ซึ่งโครงการออกแบบให้อยู่ระหว่างตรงกลาง เพื่อให้ผู้อยู่อาศัยทั้งสองห้องได้ใช้งานแบบสะดวกสบาย

