วันนี้อยู่สบายจะพาไปดูคอนโดในระดับราคาเริ่มต้นล้านปลายๆ “ศุภาลัย คิวท์ รัชโยธิน-พหลโยธิน 34” ในซอยพหลโยธิน 34 ใกล้สี่แยกเกษตรของทางศุภาลัยค่ะ  โครงการนี้เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อเดือนก่อนไล่ๆกับโครงการ Supalai Loft แจ้งวัฒนะ  ส่วน “Supalai Cute Ratchayothin-Phaholyothin 34” ส่วนจะน่ารักสมชื่อคอนโดไหม มาติดตามกันได้เลย

จากข้อมูล Fact Sheet ของโครงการค่ะ ^^

ศุภาลัย คิวท์ รัชโยธิน-พหลโยธิน 34 (Supalai Cute Ratchayothin-Phaholyothin 34)

• เจ้าของโครงการ >>> Supalai (บริษัท ศุภาลัย จำกัด)
• ที่ตั้งโครงการ >>>  ถนนพหลโยธิน ซอยพหลโยธิน 34 (เสนานิคม 2)
• ขนาดที่ดิน >>>  10-0-90 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัยสูง 8 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>>  5 อาคาร (อาคารที่พักอาศัย และอาคารจอดรถรวมกัน)
• ประเภทห้อง >>>  สตูดิโอ / 1 ห้องนอน
• ขนาดห้อง >>> สตูดิโอ 33.5 – 37.5 ตารางเมตร / 1 ห้องนอน 40.5 – 49.0 ตารางเมตร
• จำนวนยูนิต >>>  ห้องพักอาศัย 882 ยูนิต ร้านค้า 6 ยูนิต
• ที่จอดรถ >>> 60% รวมจอดรถซ้อนคันแล้ว (529 คัน)
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว >>>  1.96ล้านบาท (ราคาห้องขนาด 33.5 ตารางเมตร ณ วันที่ 30/4/2014)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ยประมาณ 59,000 – 62,000 บาท/ตารางเมตร
• พิกัด GPS >>> 13.837245, 100.581318

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

วันนี้เราใช้เส้นทางจากถนนงามวงศ์วานวิ่งเลียบผ่าน ม.เกษตร แล้วไปเลี้ยวขวาที่แยกเกษตรค่ะ  พอเลี้ยวไปนิดเดียวก็จะเจอซอยพหลโยธิน 34 ซึ่งเป็นที่ตั้งของ Supalai Cute รัชโยธิน-พหลโยธิน 34 เลย

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

หลังจากที่ได้เห็นเส้นทางการเดินทางมายังโครงการ ศุภาลัย คิวท์ รัชโยธิน-พหลโยธิน 34 แล้ว ทีนี้ลองมาดูบริเวณโดยรอบในมุมกว้างๆ กันค่ะ ว่ามีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรบ้าง และมีโครงการอะไรที่อยู่ในย่านนี้กันบ้าง เริ่มต้นจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก่อนเลย อยู่บริเวณสี่แยกเกษตรค่ะ ห่างจากโครงการประมาณ 1.2 กิโลเมตร บริเวณนี้จะมีโครงการ Chapter One: The Campus Kaset (หมายเลข 8) อยู่ด้วยค่ะ ตอนนี้อยู่ในระหว่างการก่อสร้าง มีโรงพยาบาลเมโยที่มีทางเข้าหลักอยู่บนถนนพหลโยธิน แต่ถ้ามาโรงพยาบาลเมโยจากคอนโดศุภาลัย คิวท์ เดินทางด้วยรถยนต์จะมีทางเข้าที่จอดรถจากในซอยเสนานิคม 2 เลยไม่ต้องเข้าทางถนนพหลโยธินก็ได้ค่ะ ระยะทางก็ประมาณ 850 เมตร โดยมี BigC สาขาเสนานิคม (หมายเลข 9) อยู่ติดกับโรงพยาบาลค่ะ

จากสิ่งอำนวยความสะดวก เราลองมาดูโครงการอื่นๆ ในย่านพหลโยธินกันบ้าง ว่านอกจากโครงการ ศุภาลัย คิวท์ รัชโยธิน-พหลโยธิน 34 แล้ว ก็จะมีโครงการเพื่อนบ้าน อย่าง คอนโดศุภาลัย ปาร์ค แยกเกษตร (หมายเลข 1) อยู่ติดกันเลยค่ะ ถัดไปข้างๆ จะเป็นคอนโดเปรมสิริ บูทิค ปาร์ค (หมายเลข 2) ด้านข้างอีกด้านที่ติดกัน คือ You Condo (หมายเลข 3) เจ้าของโครงการคือ บริษัท บูทิลิตี้แลนด์ จำกัด โครงการที่พักอาศัยที่ได้บอกไป ส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ก่อสร้างแล้วเสร็จได้ประมาณ 3-5 ปี แล้วค่ะ ในเรื่องของความสูง เดี๋ยวจะอธิบายอย่างละเอียดอีกครั้งในส่วนทิศทางแดดค่ะ สำหรับบริเวณที่อยู่ติดกับถนนประเสริฐมนูญกิจนั้น จะเป็นโชว์รูมนิสสัน (หมายเลข 4) และโชว์รูมโตโยต้า (หมายเลข 5) ค่ะ

ยังมีอีก 2 โครงการที่อยู่ในซอยพหลโยธิน 34 (ซอยเสนานิคม 2) คือ โครงการ The Key พหลโยธิน (หมายเลข 6) สร้างเสร็จเมื่อช่วงปีที่แล้ว และโครงการบ้านกลางเมือง รัชโยธิน (หมายเลข 7) อยู่ระหว่างการก่อสร้างค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

รอบคอนโด Supalai Cute Ratchayothin-Phaholyothin 34 มีอะไรน่าสนใจบ้าง มาดูกันเลยค่ะ

ฟุตบาทด้านหน้าโครงการ บล็อคตัวหนอนไม่ค่อยเรียบเท่าไหร่ เดินระวังสะดุดนะคะ ถ้าโครงการปรับปรุงให้ใหม่จะดีมาก

ยืนอยู่หน้าโครงการ แล้วมองไปทางขวามือ จะเจอโครงการบ้านกลางเมือง รัชโยธินค่ะ กำลังจะเปิดขายช่วงเดือนนี้พอดี (พ.ค.57)

จากหน้าโครงการมองมาทางซ้าย เป็นกลุ่มอาคารพาณิชย์ 3 ชั้น เปิดเป็นร้านขายอาหารตามสั่งบ้าง ร้านซักรีดบ้าง

ตลาดศรีเสนา เป็นตลาดสดอยู่ฝั่งตรงข้ามคอนโดค่ะ

บรรยากาศด้านในตลาดศรีเสนาค่ะ ของสด ผัก ผลไม้ เพียบเลย

จากด้านหน้าตลาดศรีเสนา มองมาทางฝั่งของคอนโดค่ะ ตึกสูงๆ นั่นคือ คอนโดศุภาลัย ปาร์ค แยกเกษตร

พี่วินมอเตอร์ไซค์ค่ะ อยู่ฝั่งเดียวกับคอนโดเลย

7-Eleven ค่ะ ออกจากคอนโดแล้วเดินมาทางซ้ายมือ เผื่อหิวตอนดึก ^^

เดินเลย 7-Eleven ไปหน่อย ก็จะมี Tesco Lotus Express เปิด 24 ชม. ค่ะ

U Condo ค่ะ อยู่ติดกับคอนโดศุภาลัย คิวท์เลย แต่ทางเข้าจะอยู่ฝั่งซอยเสนานิคม  2

พื้นที่ว่างด้านข้าง U Condo ยังไม่มีโครงการไหนมาติดป้ายนะคะ ส่วนตึกสูงด้านหลังก็คือ คอนโดศุภาลัย ปาร์ค แยกเกษตรค่ะ (สูงจริงๆ)

ตึกสีสันสดใสทั้ง 2  ตึกนี้คือ คอนโดเปรมสิริ บูทิค ปาร์ค

คอนโดเปรมสิริ บูทิค ปาร์ค ในส่วนที่เป็นตึกสูงค่ะ

เดินวนมาดูทางเข้าคอนโดศุภาลัย ปาร์ค  แยกเกษตร ทางฝั่งถนนประเสริฐมนูกิจค่ะ

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

แวะเข้าไปดูด้านในสำนักงานขายโครงการกัน มีบรรยากาศรอบสำนักงานขายมาให้ชมกันด้วย

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

คอนโดศุภาลัย คิวท์ ประกอบไปด้วยกลุ่มอาคารทั้งหมด 5 อาคาร มีชื่อเรียกแต่ละอาคารตามชื่อของดอกไม้ในตระกูลเดซี่ (Daisy) ที่มีสีและสายพันธุ์ที่แตกต่างกันไป ได้แก่ ASTER, BELLIS, DAISY, GERBERA และ COSMOS โดยแต่ละอาคารจะมีทั้งหมด 8 ชั้น เท่ากัน ลักษณะของอาคารที่อยู่หัวมุมแต่ละมุมจะมีลักษณะเป็น L-Shape ค่ะ ส่วนอาคารที่อยู่ตรงกลางจะมีลักษณะเป็นเส้นตรงจะอยู่ใกล้กับ Facilities ส่วนกลางทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย และสวนพักผ่อน เรียกได้ว่า COSMOS เป็นอาคารที่ทำเลดีที่สุดเลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะมี Concept ในการเรียกชื่ออาคารให้ต่างกัน แต่ว่าหน้าตาของแต่ละอาคาร สีสัน และวัสดุ เหมือนกันหมดเลยค่ะ ต้องรอดูกันว่า พอสร้างจริงแล้ว Lobby จะแตกต่างตาม Concept หรือจะเหมือนกันไปหมดทุกอาคาร

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ขออธิบายในส่วนของวิวก่อนนะคะ ต้องดูรูปภาพประกอบกันระหว่าง “ผังโครงการกับพื้นที่ใกล้เคียง”(รูปด้านบน) และ “ทิศทางแดดกับการวางตัวของอาคาร”(รูปด้านล่าง) จะได้เข้าใจและเห็นภาพมากขึ้นค่ะ ทางทิศตะวันออกของโครงการจะมี You Condo ซึ่งมีความสูง 8 ชั้น อยู่ใกล้กันเลย มีผลโดยตรงกับห้องที่หันหน้าไปทางทิศตะวันออกของอาคาร Daisy (ทุกชั้นเลยนะคะ เพราะความสูงเท่ากัน) ต่อมาเป็นทิศเหนือค่ะ จะติดกับคอนโดศุภาลัย ปาร์ค แยกเกษตร ซึ่งมีความสูงถึง 26 ชั้น และคอนโดเปรมสิริ บูทิค ปาร์ค มีความสูง 9 ชั้น โดยจะมีผลกับห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนือของทั้งอาคาร Aster และ Bellis ค่ะ โดนยังเต็มๆ เลย ส่วนทางด้านทิศใต้ กับทิศตะวันตก กลุ่มอาคารส่วนใหญ่เป็นบ้านพักอาคารที่มีความสูงไม่เกิน 2 ชั้น อาจจะมีผลต่อวิวบ้างเล็กน้อยนะคะ

สำหรับอาคาร Cosmos ที่อยู่ตรงกลางนั้น ถ้าเป็นห้องที่หันหน้ามาทางทิศใต้ และอยู่ในตำแหน่งช่วงกลางอาคาร ก็จะมองผ่านช่องระหว่างอาคาร Gerbera กับ Daisy ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นห้องที่อยู่ช่วงกลางอาคารแต่หันไปทางทิศเหนือ ก็จะโดนบังวิวเต็มๆ แต่จะมีวิวของสระว่ายน้ำมาชดเชยให้ ถ้าชอบวิวสระว่ายน้ำ ก็จะมีวิวตึกสูงมาบัง อาจจะต้องลองชั่งน้ำหนักดูว่า เวลาที่มองออกไปนอกหน้าต่างห้องแล้วอยากมองเห็นวิวได้ไกลๆ หรือถ้าไม่ซีเรียสมาก ก้มลงมามองเห็นสระว่ายน้ำก็ได้ (Aster กับ Bellis ก็พอจะมองเห็นสระว่ายน้ำได้นะคะ ต้องเป็นห้องที่หันหน้ามาทางทิศใต้ ทิศตะวันออก และทิศตะวันตกค่ะ แต่สระก็จะอยู่ไกลหน่อย)

ต่อไปก็เป็นเรื่องของทิศทางแดดค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วพระอาทิตย์จะโคจรจากทิศตะวันออกไปทิศตะวันตกในลักษณะโค้งลงทางทิศใต้ค่ะ หริอที่เรียกว่า อ้อมใต้ เพราะฉะนั้น จากรูปด้านล่างนะคะ ห้องที่หันหน้าออกไปนอกโครงการ ของทุกอาคาร (ยกเว้นห้องที่หันหน้าไปทางทิศเหนืแอ) จะโดนแดดทั้งวันตั้งแต่เช้าถึงเย็นเลยค่ะ ส่วน Cosmos ที่อยู่ตรงกลางนั้น ก็ไม่รอดนะคะ ^^ ความสูงของอาคารรอบๆ ไม่พอบังแดดให้ค่ะ จะมีทางทิศตะวันออกของอาคาร Daisy จะมี You Condo บังแดดให้ได้เล็กน้อยค่ะ (บังแดด แต่วิวไม่ดี เป็นข้อดี-ข้อเสียที่คิดหนักเหมือนกัน) ถึงจะโดนแดด แต่ก็ยังมีลมมาช่วยด้วย โดยช่วงหน้าร้อน จะมีลมมาจากทิศตะวันตกเฉียงใต้ ส่วนช่วงหน้าหนาวจะเป็นลมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือค่ะ น่าจะพอเปิดหน้าต่างห้อง และประตูห้องเพื่อช่วยระบายความร้อนได้บ้าง

ส่องโมเดล

ภาพรวมของตำแหน่งการวางอาคารทั้ง 5  อาคารค่ะ ตึกใกล้ตัวฝั่งซ้ายมือคือ Bellis และฝั่งขวามือคือ Aster ส่วนตึกตรงกลางคือ Cosmos โมเดลทำมาให้ดูเพียง  2 ชั้น ซึ่งจริงๆก็คือการหลอกตาทำให้ดูว่าโล่งขึ้นนั่นเอง  อย่าลืมจินตนาการต่อว่าของจริงจะมีตึกตรงกลางอีกตึกนึงโผล่ขึ้นมาด้วยนะคะ

อาคาร Cosmos ตรงกลางค่ะ มองเห็นสระว่ายน้ำ และสวนหย่อม

อาคาร Bellis

อาคาร Aster

วิวจากฝั่งทิศตะวันตก ตึกซ้ายมือคือ Aster ส่วนฝั่งขวาคือ Gerbera ค่ะ

มุมนี้จากทางเข้าโครงการด้านหน้าค่ะ จะอยู่ระหว่างอาคาร Gerbera ซ้ายมือ และอาคาร Daisy ขวามือ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

พื้นที่ส่วนกลางจะอยู่ที่ชั้นล่างชั้นเดียวค่ะ (ดูรูปประกอบด้านล่าง) พื้นที่พักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – ชั้น 8 โดยจะแบ่งเป็นพื้นที่ของสระว่ายน้ำแบบ outdoor เป็นสระเกลือแบบ Infinity Edge (จริงๆ แล้วจะเหมาะกับสระที่อยู่บนชั้นสูงๆ ว่ายน้ำแล้วมองเห็น city view สวยๆ มากกว่านะเนี่ย) ตรงนี้ลืมถามมาเหมือนกันว่าความลึกของสระว่ายน้ำเท่าไหร่(โครงการหลังๆทางศุภาลัยทำมาลึกแค่ 1.1 เมตรเท่านั้นเอง)

ส่วน Fitness จะอยู่ที่ ชั้น 1 ของอาคาร Cosmos หันหน้าไปทางสระว่ายน้ำค่ะ พื้นที่สีเขียว ที่เห็นภายในผังพื้นที่ส่วนกลางนั้น ก็ถือเป็นพื้นที่ใช้สอยนะคะ ถ้าจากรูปโมเดลก็คงจะใช้งานยากอยู่ ไม่มีม้านั่ง ไม่มีทางเดิน ไม่มีส่วนที่เตรียมไว้สำหรับมานั่งพักผ่อนเลย คงต้องรอดูลักษณะของ Landscape บริเวณสวน / พื้นที่โล่ง รอบๆ อาคาร ว่าพอสร้างจริงแล้วจะออกมาในลักษณะไหน แต่ถ้าปูหญ้าสีเขียวๆ อย่างเดียว คงไม่มีเข้าไปใช้งานแน่ๆ

พื้นที่จอดรถทั้งหมด จะอยู่บริเวณชั้น 1 ของทุกอาคาร และบริเวณโดยรอบภายในโครงการ จอดได้ประมาณ 529 คัน (จากจำนวนทั้งหมด 882 ยูนิต) รวมจอดซ้อนคันแล้ว (ดูจากแปลนแล้วไม่น่าจะจอดได้เยอะขนาดนั้น แอบลองนับคร่าวๆ จากโมเดลของโครงการ ยังไงก็ไม่ถึง ^^) สำหรับอาคาร Cosmos จะมีจำนวนที่จอดรถใต้อาคารน้อยกว่าอาคารอื่นๆ เพราะว่าแบ่งพื้นที่ไปเป็นส่วนของร้านค้าให้เช่าถึง 6 ยูนิตด้วยกัน เส้นทางการเดินรถภายในโครงการตามลูกศรสีแดงเลยค่ะ เป็นแบบเดินรถทางเดียว (one way) โดยความกว้างของถนนภายในโครงการอยู่ที่ 7 เมตร เป็นแบบ 2 ช่องทาง ขับลอดใต้อาคารเลยค่ะ เส้นทางจะงงๆ หน่อย เวลาวนเข้ามาที่ถนนด้านใน (รอบๆ อาคาร Cosmos) ลองทำลูกศรให้ดูคร่าวๆ นะคะ

ลิฟต์โดยสารจะมีทั้งหมด 10 ตัว แบ่งเป็นอาคารละ 2 ตัวค่ะ ไม่มีลิฟต์ขนของ จากสัดส่วนของยูนิตต่อจำนวนลิฟต์ที่มีอยู่ในแต่ละอาคาร ถือว่าค่อนข้างเพียงพอทีเดียว เพราะเป็นคอนโดที่มีราคาต่อตารางเมตรไม่ถึง 100,000 บาท จะใช้สัดส่วน 150 ยูนิตต่อลิฟต์โดยสาร 1 ตัว เพราะฉะนั้น ใน 1 ชั้นจะมี 25 ยูนิต ยกเว้นอาคาร Cosmos ที่จะมี 26 ยูนิต ต่อชั้น หลังจากคำนวนดูแล้ว แต่ละอาคารก็จะมีจำนวนยูนิตรวม 175 – 182 ยูนิต เท่านั้นเองค่ะ เพียงพอต่อการใช้งานแน่นอน ส่วนเรื่องบันไดหนีไฟ ถ้าเป็นอาคารบริเวณหัวมุมทั้ง 4 มุม จะมีบันไดหนีไฟ 3 ที่ ส่วนอาคาร Cosmos ที่อยู่ตรงกลาง ก็จะมีบันไดหนีไฟน้อยกว่า คือ 2 ที่

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

ลักษณะ Floor Plan ของ 4 อาคารที่อยู่บริเวณหัวมุม คือ Aster, Bellis, Daisy และ Gerbera จะเหมือนกันค่ะ เป็นแปลนรูป L-Shape ตำแหน่งของห้องแบบ 1 ห้องนอน ส่วนใหญ่จะหันหน้าเข้าหาตึก Cosmos ค่ะ ส่วนห้องแบบ Studio ก็จะหันหน้าออกไปด้านนอกโครงการ ยกเว้นห้องที่อยู่บริเวณหัวมุมของแต่ละชั้น จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนค่ะ

ส่วนอาคาร Cosmos ที่มีลักษณะอาคารเป็นแนวยาวเป็นเส้นตรงนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นห้องแบบ Studio ค่ะ ยกเว้นห้องหัวมุมของแต่ละชั้น ที่จะเป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนเช่นกันกับอาคารอื่นๆ

หลายคนอาจจะตัดสินใจเลือกตำแหน่งห้อง รวมถึงตำแหน่งอาคารไม่ถูก เพราะมีให้เลือกเยอะเหลือเกิน แนะนำว่า ให้ดูเรื่องช่วงเวลาที่เราใช้ห้องค่ะ ถ้าออกไปทำงาน ทำธุระ หรือเรียนในช่วงเช้า – เย็น กว่าจะกลับห้องก็มืดแล้ว แบบนี้ เลือกตึกไหนก็ได้ค่ะ ไม่มีผลต่างกันมาก ตามด้วย วิวที่อยากได้ ก็จะสอดคล้องกับช่วงเวลาที่เราอยู่ในห้องเป็นส่วนใหญ่นะคะ เป็นความชอบส่วนตัว ถ้าอยากเห็นสระว่ายน้ำ ก็ต้องอาคาร Cosmos น่าจะดีกว่า ทีนี้ก็จะเป็นตำแหน่งของห้องในแต่ละชั้น ก็อยู่ที่ว่า ชอบใกล้ลิฟต์แค่ไหน รวมถึงชอบความเป็นส่วนตัวแค่ไหนด้วยค่ะ เพราะระเบียงห้องส่วนใหญ่ก็จะหันหน้าเข้าหากัน จะมีเพียงห้องทางทิศใต้ของอาคาร Daisy กับ Gerbera และห้องทางทิศตะวันตกของอาคาร Gerbera และ Aster ที่ไม่ต้องมองเห็นระเบียงของห้องอื่นค่ะ (แต่ก็เป็นทิศที่โดนแดดเนอะ ต้องลองให้ความสำคัญกับแต่ละปัจจัยดูค่ะ)

Floor Plan คอนโด Supalai Cute

แปลนห้องดีไหม?

เนื่องจากคอนโดศุภาลัย คิวท์ มีห้องเพียง 2 แบบ คือ สตูดิโอ และ 1 ห้องนอน ขนาดห้องส่วนใหญ่จะไม่ต่างกันมาก ถ้าเป็นแบบสตูดิโอ จะมีขนาดตั้งแต่ 33.50 – 37.50 ตารางเมตร ส่วนห้องแบบ 1 ห้องนอน จะมีขนาดตั้งแต่ 40.50 – 49 ตารางเมตรค่ะ อย่างที่ได้บอกไปในตอนต้นว่า ตำแหน่งห้องแบบ 1 ห้องนอนนั้น ส่วนใหญ่แล้วจะหันหน้าเข้าหาอาคาร Cosmos จะมองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และสวนภายในโครงการ แล้วแต่ว่าจะเลือกอยู่อาคารไหน ถ้าต้องการห้องที่มีขนาดพื้นที่ค่อนข้างกว้าง ก็ต้องเป็นห้องหัวมุมของแต่ละอาคารค่ะ จะมีขนาดตั้งแต่ 45 – 49 ตารางเมตร แต่ถ้าชอบห้องแบบสตูดิโอ ส่วนมากจะอยู่ที่อาคาร Cosmos เห็นทั้งวิวสระว่ายน้ำด้านหนึ่ง และสวนหย่อมขนาดใหญ่อีกด้านหนึ่ง (แต่ก็จะมองเห็นระเบียงห้องอื่นๆ ด้วยเหมือนกัน เพราะว่า Cosmos อยู่ตรงกลางพื้นที่ของโครงการศุภาลัย คิวท์ พอดี) ลองมาดูแปลนห้องกันค่ะ เลือกมาเฉพาะห้องที่ทำเป็นห้องตัวอย่าง และห้องขนาดใหญ่มาให้ดูกัน

แปลนห้องคอนโด Supalai Cute พหลโยธิน 34

แบบ Studio ขนาด 33.50 ตารางเมตร

เป็นแปลนที่นำมาทำเป็นห้องตัวอย่างค่ะ สำหรับห้องแบบสตูดิโอ ในแต่ละอาคารจะมีจำนวนห้องแบบสตูดิโอ และห้องแบบ 1 ห้องนอนเกือบเท่ากันค่ะ ยกเว้นอาคาร Cosmos ที่จะเน้นห้องแบบสตูดิโอเป็นส่วนใหญ่

รูปแบบของสเปซภายในห้องจะเป็นแบบลึกเข้าไปด้านใน (ไม่ใช่หน้ากว้าง) และจะแบ่งพื้นที่เป็นซ้าย-ขวา เปิดประตูมาก็จะเจอกับโซฟารับแขกก่อนเลย ถัดไปเป็นโต๊ะทานข้าว วางไว้ชิดผนังตรงข้ามกับห้องครัว และห้องนอนจะอยู่ติดกับผนังด้านนอก โดยมีตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งอยู่ปลายเตียงค่ะ มีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นพื้นที่ระหว่างโซนพักผ่อนกับห้องครัว

แปลนห้องคอนโด Supalai Cute พหลโยธิน 34

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 40.50 ตารางเมตร

เป็นห้องแบบ 1 ห้องนอนที่ทำเป็นห้องตัวอย่างเช่นกันค่ะ ความแตกต่างระหว่างห้องแบบ 1 ห้องนอนกับสตูดิโอ คือ ห้องนอนจะถูกกั้นให้เป็ดสัดเป็นส่วนมากขึ้น โดยมีห้องน้ำอยู่ภายในห้องนอนเลย ห้องครัวยังมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นเหมือนเดิม ทีนี้เวลาทานอาหารภายในห้อง ก็จะไม่มีกลิ่นเข้าไปรบกวนถึงในห้องนอนได้ แต่ถ้าเป็นห้องแบบ 1ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่กว่านี้ การจัดวางฟังก์ชั่นการใช้งานก็จะเป็นอีกแบบนะคะ ลองดูจากแปลนถัดไปได้เลยค่ะ

แปลนห้องคอนโด Supalai Cute พหลโยธิน 34

แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 48.50 ตารางเมตร

เป็นแปลนห้องแบบ 1ห้องนอนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นค่ะ ส่วนใหญ่จะเป็นห้องหัวมุมของทุกชั้นและทุกอาคารเลย จะเป็นห้องหน้ากว้างที่มีพื้นที่บริเวณห้องรับแขกกว้างขึ้น แต่ห้องครัว และห้องน้ำขนาดเท่าเดิมนะคะ ส่วนห้องนอนอาจจะมีพื้นที่เพิ่มขึ้นมาบ้างในบางตำแหน่งค่ะ ต่างกันไม่มาก ระเบียงห้องก็เช่นกันค่ะ มีขนาดยาวขึ้น เท่ากับว่ามีที่ตากผ้าเพิ่มขึ้นด้วย

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

หลังจากที่ได้เห็นแปลนห้องกันไปแล้ว ทีนี้จะมาลงรายละเอียดภายในห้องกันค่ะ โดยความสูงภายในห้อง จากพื้นถึงฝ้าเพดานอยู่ที่ 2.55 เมตร แต่ในห้องน้ำความสูงจะลดลงเหลือ 2.40 เมตร และเป็นฝ้าแบบทีบาร์ (T-Bar) ไม่ใช่ฝ้าฉาบเรียบ ถ้าใครนึกไม่ออก เดี๋ยวจะมีรูปให้ดูด้านล่างค่ะ ตรงนี้ดูจะลดสเปคไปหน่อย ^^”

ส่วนเฟอร์นิเจอร์ภายในห้อง สามารถเลือกได้ว่าต้องการแบบ Fully Furnished หรือเป็นห้องเปล่าก็ได้ค่ะ แต่ก็จะได้ชุดครัว กับห้องน้ำเหมือนในห้องตัวอย่างนะคะ แต่ละแบบก็จะมีส่วนลดที่แตกต่างกันไป ผนังภายในห้องจะติดวอลเปเปอร์มาให้เลยค่ะ ออกสีครีมๆ ไม่มีเครื่องใช้ไฟฟ้านะคะ ยกเว้นแอร์ที่ทางโครงการจะติดตั้งมาให้เลย เป็นของไดกิ้นค่ะ

ห้องตัวอย่างของศุภาลัยนั้นเวลาทำ mock-up ขึ้นมามักจะไม่มีผนังด้านหน้าตรงทางเข้ามาด้วย  เลยทำให้ดูโล่งกว่าปกติหน่อย  เวลาไปดูห้องตัวอย่างก็อย่างลืมนึกว่าของจริงเป็นผนังทึบด้วยนะคะ

ห้องตัวอย่างคอนโด Supalai Cute พหลโยธิน 34 แบบ Studio 33.50 ตารางเมตร

เปิดประตูห้องเข้ามาก็จะเจอกับห้องทั้งห้องเลย เห็นไปถึงเตียงนอน มีโต๊ะทานข้าววางกั้นสเปซระหว่างโซฟากับเตียงนอน

บริเวณชุดวางทีวีค่ะ มีตู้รองเท้าเล็กๆ อยู่ด้านซ้ายมือ ประตูเข้าห้องครัวเป็นประตูบานเลื่อน

เดินเข้ามาดูบริเวณเตียงนอน ก็จะมีโต๊ะแต่งหน้าและตู้เสื้อผ้าอยู่ปลายเตียง

พื้นที่ข้างเตียง กว้างประมาณ 40-50 ซม. โต๊ะหัวเตียงเป็น Built-in แบบลอยจากพื้น

มองย้อนกลับมาทางประตูเข้าห้อง มีระยะห่างระหว่างโซฟากับทีวีประมาณ 3.60 เมตร วางทีวีจอใหญ่ได้ถึง 47 นิ้วค่ะ

จากห้องครัว  มองออกมาที่เตียงนอน ชุดหัวเตียงและโครงเตียงเป็น Built-in ค่ะ

ห้องครัว และระเบียงตากผ้า (ไฟรางที่ส่องชุดครัวไม่มีให้นะคะ อันนี้เอาไว้ตกแต่งในห้องตัวอย่างเฉยๆ)

ห้องตัวอย่างคอนโด Supalai Cute แบบ 1 ห้องนอน ขนาด 40.50 ตารางเมตร 

เปิดประตูเข้าห้องมาจะเจอห้องนั่งเล่นค่ะ มีโต๊ะทานข้าวอยู่ในส่วนหน้าห้องด้วย ทางด้านหลังจะเป็นห้องนอน (ซ้ายมือ) และห้องครัว (ขวามือ)

เดินมาดูห้องครัวกัน ประตูเข้าห้องครัวเป็นประตูบานเลื่อนกระจกค่ะ

หน้าตาของชุดครัวค่ะ

ก่อนจะไปสำรวจห้องนอน มาดูด้านนอกห้องนอนจะมีตู้เก็บรองเท้าให้ค่ะ ใช้งานลำบากเพราะไม่ได้อยู่ใกล้กับประตูเข้าห้อง ต้องถือรองเท้าเดินเข้ามาเก็บถึงหน้าห้องนอนเลยทีเดียว

ภายในห้องนอนจะจัดวางเฟอร์นิเจอร์แบบในรูปค่ะ ทีวีจะวางบนโต๊ะวางทีวี หรือจะแขวนผนังก็ได้ มีตู้เก็บของด้านบน และติดแอร์ที่ตำแหน่งปลายเตียง

พื้นที่ข้างเตียง จะแคบกว่าห้องแบบ studio เล็กน้อย แต่ก็ยังเดินได้สะดวกค่ะ มีปลั๊กหัวเตียงให้พร้อม

ตู้เสื้อผ้าจะอยู่หน้าห้องน้ำค่ะ ถัดมาเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

ภายในห้องน้ำ มีฉากกระจกกั้นอาบน้ำมาให้ ใช้กระจกนิรภัย (Tempered Glass) และฝ้าทีบาร์ (T-Bar) ไม่สวยเลยจริงๆ -.-‘

จากในห้องน้ำ มองออกมา ระยะห่างระหว่างหน้าบานตู้เสื้อผ้ากับผนังด้านขวามือประมาณ 1 เมตรค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุภายในห้องทุกแบบจะได้เหมือนกันค่ะ คุณภาพตามระดับราคา สีของเฟอร์นิเจอร์ Built-in จะไม่เหมือนกัน ถ้าเป็นห้องแบบ Studio จะปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน ส่วนแบบ 1 ห้องนอน จะปิดผิวด้วยลามิเนตลายไม้สีเข้มค่ะ ให้ความรู้สึกต่างกัน เปลี่ยนสีไม่ได้ด้วย และเลือก Built-in เป็นบางชิ้นไม่ได้ด้วยเช่นกัน

โดยอยู่สบายจะแบ่งรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร(pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  ลองมาดูรายละเอียดกันค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

Sink แบบ 1 หลุม มีที่พักจานด้านขวา ของ MEX

วัสดุ Top ครัวเป็นไม้พาติเคิลเคลือบผิวเมลามีน กันน้ำได้แต่ไม่กันรอยขีดข่วนค่ะ

ตู้ลอยหน้าบานเปิด ชั้นวางภายในปรับระดับได้ บานพับปกติไม่ใช่แบบ soft close ค่ะ

เว้นที่ไว้ให้วางตู้เย็น เตรียมปลั๊กไฟให้เรียบร้อย

ผนังด้านหลังชุดครัว ปูกระเบื้องขนาด 30×30 สีเทาไม่ต้องห่วงเรื่องผนังเลอะเพราะเช็ดทำความสะอาดได้ง่ายค่ะ

ไฟในห้องครัวเป็นไฟซาลาเปา ไม่ค่อยสว่างเท่าไหร่ ถ้าอยากติดเพิ่ม แนะนำให้ติดบริเวณใต้ตู้ลอย จะได้ไม่ต้องยุ่งกับงานฝ้าค่ะ (ไฟรางไม่มีให้ สำหรับตกแต่งในห้องตัวอย่างค่ะ)

หน้าตาของชุดครัวค่ะ ไม่มีเตาไฟฟ้าและที่ดูดควันมาให้นะคะ และทางโครงการไม่ได้เตรียมปลั๊กไฟไว้ให้ด้วย ใครที่คิดจะซื้อเตาแม่เหล็กไฟฟ้าแบบลอยตัวมาใช้ก็อาจจะต้องอาศัยปลั๊กพ่วงเสียบเข้ากับปลั๊กไฟหลังตู้เย็นแทน หรือถ้าจะให้ช่างไฟลากสายจากปลั๊กตู้เย็นมาให้ ก็จะหาตำแหน่งติดตั้งปลั๊กยุ่งยากอีก เพราะผนังตรงชุดครัวปูกระเบื้องมาแล้วด้วย -.-” (ไม่เอาชุดครัวเลยง่ายกว่านะเนี่ย)

วัสดุห้องน้ำ

ชักโครกของ Cotto

อ่างล้างหน้าและก๊อกน้ำก็ของ Cotto มีราวแขวนผ้าข้างใต้อ่าง แต่อ่างทรงกลมไม่ค่อยสวยเท่าไหร่ มีที่วางของน้อยด้วย

ราวแขวนผ้าเช็ดตัวในห้องน้ำ หน้าตาธรรมดาๆ

ฝ้าห้องน้ำแบบใกล้ๆ เห็นกี่ทีก็ขัดใจ ไม่ชอบเลย

อ่างล้างหน้าพร้อมกระจกเงา นอกจากบนอ่างจะมีที่วางขวดนิดเดียวแล้ว กระจกยังไม่มีที่เก็บของด้านหลังอีก

ฝักบัวปรับระดับความสูงได้ และเครื่องทำน้ำอุ่น Electrolux

ภาพรวมภายในห้องน้ำ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

มุมนี้จากด้านในห้องน้ำภายในห้องแบบ Studio ค่ะ ระดับพื้นในห้องน้ำกับห้องครัวด้านนอกเท่ากัน ธรณีประตูเป็นหินแกรนิต สูงกว่าระดับพื้นเล็กน้อย

ส่วนเปียกและส่วนแห้งในห้องน้ำ จะมีหินแกรนิตวางกั้นไว้ ระดับความสูงนิดเดียวค่ะ

โทนสีของกระเบื้องในห้องน้ำค่ะ ใช้ตะแกรงระบายน้ำ หรือ Floor Drain แบบเหลี่ยม

ส่วนที่เป็นกระเบื้องจะเป็นห้องครัว ส่วนพื้นลามิเนตจะเป็นส่วนของห้องนอนและห้องนั่งเล่น รูปนี้จากห้องแบบ Studio ค่ะ

มุมนี้อยู่ในห้องครัวของห้องแบบ 1  ห้องนอนค่ะ มีกรอบอลูมิเนียมของประตูบานเลื่อนเป็นตัวแบ่งพื้นที่การใช้งานระหว่างห้องครัวกับห้องนั่งเล่น

มุมจากหน้าตู้เสื้อผ้า จะเห็นว่าระดับพื้นห้องน้ำไม่ได้ต่ำลง และธรณีประตูไม่ได้สูงมาก  ถ้าล้างห้องน้ำห้ามลืมปิดประตูห้องน้ำเด็ดขาด ระวังพื้นลามิเนตบวม (ตู้เสื้อผ้าก็บวมน้ำได้นะ)

กรอบอลูมิเนียมสีดำ ในรูปดูแล้วจะแปลกๆ หน่อย เพราะเค้าติด wallpaper ทับกรอบอลูมิเนียมไปเลยค่ะ

ระดับพื้นระเบียงด้านนอกกับพื้นห้องครัวจะเท่ากันค่ะ กั้นด้วยขอบปูนสูง 10ซม.

ราวกัันตกตรงระเบียงเค่ะ ราวจับด้านบนเป็นสแแตนเลสแท่งกลม มีระแนงบังคอมเพรสเซอร์แอร์ทางด้านซ้ายมือ

ปลั๊กและสวิชต์ไฟใช้ของ Schneider

ไฟซาลาเปาในห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ ไม่แน่ใจว่ามีพื้นที่เหนือฝ้าพอสำหรับเปลี่ยนเป็น Downlight  หรือเปล่า

บัวพื้นเป็น PVC ลายไม้ สูง 10 ซม.

ห้องครัวก็เป็นไฟซาลาเปาค่ะ (ย้ำอีกรอบว่าไฟรางไม่มีนะคะ ^^) ส่วนท่อแอร์ด้านขวามือ เป็นท่อแอร์จากในห้องนอนค่ะ (ห้องแบบ Studio) ห้องจริงๆ ก็จะมีท่อโผล่มาแบบนี้เลย

ลักษณะของประตูบานเลื่อนที่จะออกไประเบียงค่ะ ติดตั้งคอมเพรสเซอร์แอร์แบบแขวน ส่วนด้านล่างวางเครื่องซักผ้าฝาหน้าได้ค่ะ ฝาบนอาจจะเปิดแล้วติด

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาเปิดขายเริ่มต้นตารางเมตรละ 58,000 บาท แต่ความสูงแต่ละชั้นที่เพิ่มขึ้น ราคาก็จะเพิ่มขึ้นด้วย เป็น 17,000 – 24,000 บาท ต่อห้อง ขึ้นอยู่กับว่าห้องขนาดเท่าไหร่ และอยู่ชั้นที่เท่าไหร่ ส่วนราคาแต่ละอาคารจะเรียงลำดับจากราคาต่ำสุดไปสูงสุดนะคะ คือ Gerbera และ Daisy (ติดซอยพหลโยธิน 34) < Aster และ Bellis (ติดคอนโดสุภาลัย ปาร์ค เกษตร) < Cosmos (พื้นที่ส่วนกลางของโครงการ) วันที่แวะเข้าไปทำรีวิว (11 เมษายน 2557)

ราคา ณ วันที่ 30 เมษายน 2557 

ราคาเริ่มต้น :

Studio อาคาร  Cosmos  ชั้น 2  ยูนิต 204  พื้นที่ 33.50 ตารางเมตร ราคา 1,989,500 บาท เฉลี่ย 59,388 บาท/ตร.ม.

Studio อาคาร  Gerbera  ชั้น 4  ยูนิต 411  พื้นที่ 33.50 ตารางเมตร ราคา 1,843,000 บาท เฉลี่ย 55,015 บาท/ตร.ม.

1 Bedroom อาคาร  Daisy  ชั้น 2  ยูนิต 225  พื้นที่ 40.50 ตารางเมตร ราคา 2,228,000 บาท เฉลี่ย 55,012 บาท/ตร.ม.

1 Bedroom อาคาร  Daisy  ชั้น 8  ยูนิต 825  พื้นที่ 40.50 ตารางเมตร ราคา 2,349,000 บาท เฉลี่ย 58,000 บาท/ตร.ม.

เงื่อนไขการจอง :

• เงินจอง

Studio จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 79,000 บาท

1 Bedroom จอง 10,000 บาท / ทำสัญญา 99,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

Studio  ผ่อน 7,900 บาทต่องวด (24 งวด)

1 Bedroom  ผ่อน 9,900 บาทต่องวด (24 งวด)

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง   35  บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1  ปี ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)

ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  350 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

ค่าธรรมเนียมการโอน 1% (ผู้ซื้อ 1% , ผู้ขาย 1%)

ค่าจดจำนอง

ประมาณอัตราการผ่อน (คิดจากราคาเริ่มต้นด้านบน) 

(เพื่อให้เห็นกรอบของค่าใช้จ่ายคร่าวๆและนำไปวางแผนประมาณการของแต่ละคนครับ  ถึงไม่ได้ซื้อห้องที่ยกมาเป็นตัวอย่างก็ใช้ตัวเลขได้ ซึ่งผมประมาณการอัตราดอกเบี้ยให้สูงกว่าปกติหน่อย  เพื่อป้องกันความเสี่ยงและรองรับความสามาารถในการผ่อน  รวมถึงให้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายแฝงต่างๆที่เกิดขึ้น  เช่น  ค่าส่วนกลาง ไปด้วยในตัว) :

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 30 ปี

Studio อาคาร  Cosmos      พื้นที่ 33.50 ตารางเมตร  ราคา 1,989,500 บาท  ผ่อนประมาณ  12,856 บาท/เดือน

1 Bedroom อาคาร  Daisy   พื้นที่ 40.50 ตารางเมตร  ราคา 2,228,000 บาท  ผ่อนประมาณ  14,398 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 25 ปี

Studio อาคาร  Cosmos      พื้นที่ 33.50 ตารางเมตร  ราคา 1,989,500 บาท  ผ่อนประมาณ  13,588 บาท/เดือน

1 Bedroom อาคาร  Daisy   พื้นที่ 40.50 ตารางเมตร  ราคา 2,228,000 บาท  ผ่อนประมาณ  15,217 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 20 ปี

Studio อาคาร  Cosmos      พื้นที่ 33.50 ตารางเมตร  ราคา 1,989,500 บาท  ผ่อนประมาณ  14,812 บาท/เดือน

1 Bedroom อาคาร  Daisy   พื้นที่ 40.50 ตารางเมตร  ราคา 2,228,000 บาท  ผ่อนประมาณ  16,588 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 15 ปี

Studio อาคาร  Cosmos      พื้นที่ 33.50 ตารางเมตร  ราคา 1,989,500 บาท  ผ่อนประมาณ  17,045 บาท/เดือน

1 Bedroom อาคาร  Daisy   พื้นที่ 40.50 ตารางเมตร  ราคา 2,228,000 บาท  ผ่อนประมาณ  19,088 บาท/เดือน

บนสมมติฐาน กู้  93% / ดอกเบี้ย 7.5% ต่อปี / ระยะเวลา 10 ปี

Studio อาคาร  Cosmos      พื้นที่ 33.50 ตารางเมตร  ราคา 1,989,500 บาท  ผ่อนประมาณ  21,826 บาท/เดือน

1 Bedroom อาคาร  Daisy   พื้นที่ 40.50 ตารางเมตร  ราคา 2,228,000 บาท  ผ่อนประมาณ  24,442 บาท/เดือน

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ทำเลที่ตั้งโครงการศุภาลัย คิวท์  เป็นย่านที่อยู่อาศัยที่มีสถานศึกษา อย่างมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีโรงพยาบาลเมโย การเดินทางมายังที่ตั้งโครงการ ถ้าเป็นรถยนต์ส่วนตัว สามารถมาได้ทั้งจากทางถนนงามวงศ์วาน ผ่านแยกเกษตร จากนั้นเลี้ยวเข้ามายังซอยพหลโยธิน 34 ก็ได้ หรือถ้ามาจากทางถนนเกษตร-นวมินทร์ สามารถเลี้ยวเข้าซอยประเสริฐมนูญกิจ 2 ก็ได้เช่นกัน

ระบบขนส่งสาธารณะในปัจจุบัน จะมีวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างให้บริการตั้งแต่บริเวณหน้าปากซอยพหลโยธินมายังที่ตั้งโครงการ และด้านหน้าโครงการเองก็มีวินมอเตอร์ไซค์ให้บริการสำหรับนั่งไปยังปากซอย หรือรถไฟฟ้าใต้ดินสถานีพหลโยธินก็ได้  จุดที่อาจจะดูด้อยไปนิดนึงในเรื่องการเข้าถึงคือเรื่องความแคบของซอยพหลโยธิน 34 ซึ่งเป็นแค่ถนน 2 เลนสวนกัน

สำหรับปัญหาเรื่องการจราจรนั้น ย่านไหนที่เป็นย่านที่อยู่อาศัยหนาแน่นมาก หรือมีคอนโดอยู่รวมกันหลายๆ โครงการ ย่อมมีปัญหาเรื่องการสัญจรเป็นธรรมดาค่ะ ยิ่งเป็นย่านเกษตรด้วยแล้ว ในช่วงเช้าตอนออกไปทำงาน และช่วงเย็นหลังเลิกงาน บริเวณนี้ปริมาณรถค่อนข้างหนาแน่นค่ะ ต้องลองเผื่อเวลากันดีๆ ค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ศักยภาพการเติบโตภายในบริเวณโดยรอบโครงการ เท่าที่สำรวจพื้นที่โดยรอบนะคะ พบว่ามีพื้นที่ว่างอยู่หลายตำแหน่งภายในซอยพหลโยธิน 34 และในซอยประเสริฐมนูญกิจ 2 ทั้งพื้นที่ว่างแบบมีสิ่งปลูกสร้างถูกทิ้งร้าง และพื้นที่ว่างแบบที่เป็นพื้นที่โล่ง มีความเป็นไปได้ว่าจะมีการพัฒนาที่ดินเหล่านี้เป็นกลุ่มอาคารที่อยู่อาศัย ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม หรือโครงการบ้านจัดสรรค่ะ รวมๆก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกค่อนข้างหลากหลาย ตามความต้องการพื้นฐานปัจจัย 4 นะคะ

ส่วนโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานที่กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการในขณะนี้ จะเป็นโรงการส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวเข้ม (หมอชิต-สะพานใหม่) ค่ะ ความคืบหน้าของโครงการตอนนี้ก็ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เรียบร้อยแล้ว เมื่อช่วงปลายปี 2556 ปัจจุบันอยู่ระหว่างการเปิดประมูลโครงการ โดยรูปแบบของรถไฟฟ้าจะเป็นทางวิ่งยกระดับตลอดสาย สำหรับตำแหน่งของสถานีที่คาดว่าจะอยู่ใกล้กับโครงการ คือสถานีเสนานิคม เบื้องต้นจะอยู่ระหว่างถนนเสนานิคม 1 กับซอยพหลโยธิน 34 (หน้าปากซอยโครงการ) โครงการรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายสายสีเขียวเข้มนี้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 2561 ค่ะ ส่วนโครงการศุภาลัย คิวท์ มีกำหนดก่อสร้างเสร็จในช่วงปลายปี 2559 ต้องอดใจรอรถไฟฟ้ากันต่อไปอีกหน่อย แต่คิดว่าน่าจะทำให้การเดินทางภายในเมืองสะดวกมากขึ้นค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

ว่ากันด้วยชื่อของโครงการก่อนเลย ศุภาลัย คิวท์ แอบคาดหวังเล็กๆ ว่าลักษณะการดีไซน์น่าจะมีส่วนที่น่ารัก หรืออาจจะมีลูกเล่น Gimmick บ้าง แต่หลังจากที่สำรวจรอบๆ โมเดลของคอนโดแล้ว พบว่าเป็นการออกแบบที่ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่หวือหวาเหมือนชื่อโครงการเท่าไหร่ นอกจากการตั้งชื่ออาคารทั้ง 5 เป็นชื่อดอกไม้ ใช้สีขาวตัดด้วยสีน้ำตาลอ่อน

ลักษณะการวางตัวของอาคาร จะคล้ายกับการโอบล้อมพื้นที่ตรงกลางด้วยอาคารรูปทรงตัวแอล (L-Shape) ทั้ง 4 มุม ได้แก่ อาคาร Aster, Bellis, Daisy และ Gerbera ส่วนอาคาร Cosmos ที่อยู่ตรงกลางนั้น จะมีลักษณะเป็นเส้นตรง  ลักษณะของการโอบล้อมพื้นที่ดังกล่าว ทำให้สามารถมองเห็นระเบียงห้องอื่นๆ ได้ ไม่ค่อยมีความเป็นส่วนตัวเท่าไหร่ อาจจะรู้สึกเหมือนมีคนแอบมองตลอดเวลา

ส่วน Floor Plan จะเหมือนกันทุกชั้น โดยเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 – ชั้น 8 กังวลเล็กน้อยว่าแสงสว่างบริเวณทางเดินหน้าห้องอาจจะไม่เพียงพอ ในช่วงเวลากลางวันคงต้องเปิดไว้บริเวณทางเดินตลอดเวลา เนื่องจากไม่มีช่องเปิดให้แสงธรรมชาติจากภาพนอกส่องเข้ามาเท่าไหร่ มีเพียงบริเวณปลายทางเดิน 2 ด้านเท่านั้นเอง แม้แต่บริเวณลิฟต์ก็ไม่มีช่องแสง

เหตุที่ควรเพิ่มลูกเล่นภายใน Floor Plan นั้น เพื่อไม่ให้เกิดความน่าเบื่อค่ะ ยกตัวอย่างอาคาร Cosmos ที่อยู่ตรงกลาง ออกจากลิฟต์มาก็จะมองเห็นเป็นประตูมากมายยาวตลอดทางเดิน ต้องมีการเดินเลยห้อง หรือไขกุญแจห้องผิดกันบ้างแน่ๆ ในช่วงแรกๆ ^^ ถ้าหากมีช่องแสงบ้าง หรือมีการเปลี่ยนมุมมองทางเดิน มีจุดหักมุม ฯลฯ จะช่วยให้เกิดจุดสังเกตช่วยจำได้ค่ะ

ภาพรวมของวัสดุที่ใช้ภายในโครงการค่อนข้างธรรมดา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของโทนสีของเฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้สีไม้เข้ม ยิ่งทำให้ห้องดูแคบ และอึดอัดจากความทึมๆ ของสี และที่สำคัญคือ ฝ้าในห้องน้ำค่ะ ใช้ฝ้าทีบาร์ (T-Bar) เป็นลักษณะการทำฝ้าที่ถูกที่สุดค่ะ สมัยนี้ไม่ค่อยนิยมฝ้าทีบาร์กันแล้วค่ะ มักจะพบฝ้าลักษณะนี้ได้ในบ้านเก่าที่มีอาจะมากกว่า 25 ปีขึ้นไป และอีกจึดหนึ่งที่ดูขัดใจอยู่นิดๆ คือการใช้โคมไฟนีออนหลอดกลม หรือที่เรียกกันว่า โคมซาลาเปาค่ะ อาจจะเป็นความไม่ชอบส่วนตัวนะคะ ฮ่าๆ แต่เห็นทีไรขัดใจทุกที

ด้านพื้นที่ส่วนกลางก็ให้มาไปรวมกันอยู่ตรงตึก Cosmos ตรงกลางเป็นส่วนใหญ่  สัดส่วนลิฟต์นั้นโอเคทีเดียวค่ะ  ที่จอดรถ 60% สำหรับระดับราคาประมาณนี้ก็ถือว่าใช้ได้(ถ้าจอดได้จริงๆอย่างตัวเลขที่โครงการแจ้งไว้นะคะ)

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆ ค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆ เข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์  ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะครับ