นายปิยะ ประยงค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า “ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ในเขตกรุงเทพและปริมณฑลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา มีมูลค่า 223,614 ล้านบาท เติบโต 7%  โดยตลาดบ้านเดี่ยวเติบโตสูงขึ้นอย่างชัดเจนถึง 30% ในขณะที่เซกเมนต์อื่นยังติดลบ หรือทรงตัว ส่วนสินค้าคงค้าง (Inventory) ในตลาดฯ มีจำนวน 204,199 ยูนิต ลดลง 8%  เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

สำหรับสถานการณ์ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมายังค่อนข้างมีความกดดัน มีปัจจัยลบจากภาวะเศรษฐกิจและการล็อกดาวน์ ทำให้ต้องเลื่อนการเปิดโครงการออกไป แต่ภาพรวมผลประกอบการยังคงอยู่ในเกณฑ์ที่ดี  โดยสามารถทำยอดขาย 9 เดือนแรกได้ 20,067 ล้านบาท เติบโต 24% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ทำรายได้ 19,192 ล้านบาท ใกล้เคียงกับในช่วงเดียวกันที่ของที่ผ่านมา และมีกำไรสุทธิ 1,364 ล้านบาท โดยสามารถลดสินค้าคงค้างลงไปได้ถึง 57% จากปีก่อน และมียอดขายที่รอรับรู้รายได้ (Backlog) ที่ 22,958 ล้านบาท”

“สำหรับช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา บริษัทเปิดโครงการใหม่ไปแล้ว 22 โครงการ มูลค่า 13,040  ล้านบาท ซึ่งในไตรมาส 4  บริษัทฯ มีแผนเปิดโครงการใหม่จำนวน 9 โครงการ มูลค่า 8,540 ล้านบาท ประกอบด้วย

• ทาวน์เฮาส์ 5 โครงการ
• บ้านเดี่ยว 3 โครงการ
• คอนโดมิเนียม 1 โครงการ

และในไตรมาสสุดท้าย เพื่อขานรับนโยบายการผ่อนปรนมาตรการ LTV  ซึ่งจะทำให้ลูกค้าสามารถกู้ได้ 100% ไม่ต้องวางเงินดาวน์แล้ว พฤกษายังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายอื่นๆ ด้วยแคมเปญ “ลดเด็ด ยกกำลัง 3” !!  ส่งท้ายปี ! ใหญ่! ไม่งอก ! พิเศษ! ได้แก่

• (1)แคมเปญจัด ใหญ่! ลดใหญ่  แห่งปี
• (2)ไม่งอก! ไม่มีค่าใช้งอก เพราะฟรีค่าโอน อยู่ฟรี ฟรีค่าส่วนกลาง สูงสุด 3 ปี* !
• (3)พิเศษ! ปลดล็อก LTV กู้สุงสุด 110% ฟรีดาวน์ พร้อมสิทธิและข้อเสนอพิเศษเพิ่มเติมจากธนาคารพันธมิตร

โดยมีโครงการบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม คอนโดพร้อมอยู่กว่า 140 โครงการ 1,500 ยูนิต ที่เข้าร่วมด้วยราคาเริ่มต้น 1.29 ล้านบาท ถึง 31 ธ.ค. 64 นี้เท่านั้น”

นพ.กฤตวิทย์ เลิศอุตสาหกูล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลวิมุต โฮลดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “โรงพยาบาลวิมุตเปิดให้บริการมาแล้วประมาณ 6 เดือน มีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรการแพทย์ เครื่องมือและเทคโนโลยีต่างๆ  โดยล่าสุดได้เปิดตัวศูนย์เบาหวาน ไทรอยด์ ต่อมไร้ท่อ และควบคุมน้ำหนัก ซึ่งได้ทีมแพทย์จากโรงพยาบาลเทพธารินทร์ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลในเครือที่มีชื่อเสียงเชี่ยวชาญในด้านโรคเบาหวานและต่อมไร้ท่อมานานกว่า 36 ปี มาร่วมพัฒนาให้ศูนย์เบาหวานของวิมุต มีความเป็นเลิศในระดับชั้นนำของประเทศไทย

ด้วยจุดขายที่แตกต่างไม่ว่าจะเป็นทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ให้การดูแลอย่างใส่ใจ วิทยาการใหม่ๆ ที่ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้งนักกำหนดอาหาร Wellness Trainer สปาเท้า หรือเทคโนโลยี Fundus Camera  ที่ใช้ตรวจวินิจฉัยภาวะเบาหวานขึ้นตาอย่างมีประสิทธิภาพ  พร้อมแพ็คเกจราคาพิเศษสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่สามารถควบคุมค่าใช้จ่ายในการรักษา รวมถึงแพ็คเกจลดน้ำหนักเพื่อลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวานด้วย

ส่วนเรื่อง Safe Save Surgery โรงพยาบาลได้จัดกลุ่มการรักษาด้วยการผ่าตัดบางรายการ เช่น ผ่าตัดข้อเข่า ผ่าตัดตา ผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี ฯลฯ เน้นความปลอดภัย มาตรฐานดี ควบคุมราคา ประหยัด และฟื้นตัวเร็ว เพื่อให้คนไข้ได้เข้าถึงบริการได้ง่ายขึ้น

ส่วนการลงทุนโครงการ ViMUT Health Center ที่โครงการ Pruksa Avenue ในย่านบางนา-วงแหวน อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ใช้งบลงทุนรวม 150 ล้านบาท ขนาด 50 เตียง ซึ่งจะเป็นศูนย์สุขภาพ ที่ครอบคลุมบริการที่หลากหลาย อาทิ ศูนย์กายภาพ ศูนย์ดูแลและบริบาลผู้สูงอายุ รวมทั้งการให้บริการดูแลสุขภาพถึงบ้าน (Home Health Care) คาดว่าจะเปิดให้บริการในปลายปี 2565

นอกจากนี้ ยังมีแผนร่วมกับพฤกษาในการติดตั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกภายในบ้านของพฤกษา เช่น ปุ่มกดฉุกเฉิน ที่จะสามารถเชื่อมต่อมายัง ViMUT Health Center หรือโรงพยาบาลที่เป็นพาร์ทเนอร์กับวิมุตที่อยู่ใกล้ที่สุด  รวมถึงการดีไซน์พื้นที่ใช้สอย และพื้นที่ส่วนกลางในโครงการที่เป็นแบบ Universal Design เพื่อรองรับการใช้งานกับผู้อยู่อาศัยได้ทุกวัย เช่น ทางลาดสำหรับรถเข็น สวนเสริมสร้างพัฒนาการสำหรับเด็ก และยังมีสิทธิพิเศษที่มอบให้กับลูกบ้านพฤกษา ทั้งส่วนลดค่าห้อง ค่ายา โปรแกรมตรวจสุขภาพ วัคซีนไข้หวัดใหญ่ราคาพิเศษ เรียกได้ว่าพฤกษาและวิมุตดูแลความเป็นอยู่ของลูกค้าทั้งก่อนและหลังเข้าอยู่อาศัยแบบครบวงจร

นอกจากนี้ โรงพยาบาลวิมุต ได้ร่วมมือกับภาครัฐฉีดวัคซีนช่วยชาติ เช่น Sinovac, AstraZeneca, Sinopharm และ Pfizer ตั้งแต่ พ.ค. – ต.ค. ให้คนไทย และต่างชาติ รวมเกือบ 1 แสนรายแล้ว และตั้งแต่เดือน พ.ย. 64 เป็นต้นไป ได้เริ่มฉีดวัคซีน โมเดอร์นาให้กับประชาชนที่จองวัคซีนผ่านทางโรงพยาบาล จนครบทั้งหมดประมาณ 150,000 โดส ประมาณไตรมาสแรกของปี 65  ตามที่ได้สั่งซื้อไว้ในชุดแรกและหลังจากนั้นก็จะทยอยฉีดโมเดอร์นาชุดที่ 2 อีกประมาณ 35,000 โดส ในปี 2565

ทั้งนี้ ตามการส่งยาจากบริษัทฯ ซึ่งคาดว่าวัคซีนทยอยเข้ามาต่อเนื่อง เรื่องการฉีดวัคซีนนี้เป็นการส่งเสริมให้ประชาชนมีการสร้างภูมิคุ้มกันให้แพร่หลายมากขึ้น เพื่อให้สังคมไทยพ้นภัยจากโควิดโดยเร็วต่อไป