The Project
โครงการ Supalai Sense Srinakarin คำว่า SENSE ของโครงการไม่ใช่แบรนด์ใหม่ของศุภาลัยนะคะ แต่เป็นชื่อที่ตั้งขึ้นมาเพื่อโครงการนี้โดยเฉพาะเลย ถ้าเพื่อนๆ สังเกตจะเห็นว่าตัวอักษร EN จะแตกต่างจากตัวอื่นๆ โดยเขาจะเอาตัว EN มาเชื่อมโยงกับจุดเด่นแต่ละอย่างของโครงการค่ะ ไม่ว่าจะเป็น
- Enjoy ที่อยากให้ลูกบ้านได้สนุกกับการใช้ชีวิต ไม่ต้องกังวลเรื่องของการเดินทาง อยู่ใกล้ทั้งรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และเชื่อมต่อถนนเส้นหลักได้หลายเส้นทาง
- Energy ที่สื่อถึงพลังงานบวก อยากให้ลูกบ้านได้ชาร์ตพลังเมื่อได้กลับเข้ามาอยู่ในโครงการ ในห้องของตัวเอง เป็นเหมือน Safe Zone ที่อุ่นใจ
- Entertainment ลูกบ้านจะได้เพลิดเพลินไปกับการใช้ Facilities และพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ มากมายในโครงการ
- Ensure ลูกบ้านสามารถมั่นใจในคุณภาพและมาตรฐานเรื่องความปลอดภัยต่างๆ ของโครงการได้
ถ้าเพื่อนๆ อยากติดต่อสอบถามหรือดูห้องตัวอย่าง ทางศุภาลัยเขาจะจัด Sale Gallery ไว้ในห้างซีคอน สแควร์ ศรีนครินทร์ บริเวณชั้น 3 ฝั่งโลตัส จะมีห้องตัวอย่างให้ดูทั้งหมด 2 ห้องด้วยกันค่ะ แล้วก็จะมีในส่วนของ Model โครงการด้วย
ขึ้นบันไดเลื่อนมาก็จะเจอกับ Sale Gallery เลย ด้านหน้าจะโล่งๆ มีที่ให้นั่งพูดคุยกับเซลล์ มีโมเดลอยู่ตรงกลาง และด้านในจะเป็นห้องตัวอย่างค่ะ
ทางเข้าโครงการค่อนข้างสวยเลย เป็นซุ้มขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างอาคารของนิติบุคคล กับอาคาร A ตัวอาคารโทนสีเทา ตัดกับสีส้มที่แทรกตัวอยู่ตามจุดต่างๆ ได้อย่างลงตัว ในอาคารนิติบุคคลจะมีห้อง Drop Store ด้วย เวลาที่ขนส่งมาส่งของก็ไม่จำเป็นต้องเข้าไปในอาคารของลูกบ้าน แต่สามารถเอามาไว้ได้ตั้งแต่ด้านหน้าโครงการ ก็สะดวกทั้งต่อขนส่ง นิติบุคคล และลูกบ้านเลย
ตัวบันไดสีส้มของอาคาร A เป็นบันไดหนีไฟที่เขาเอามาทำเป็น Trail Running เราสามารถวิ่งขึ้นลงจากชั้น 1 ไปยังชั้นดาดฟ้าได้ เป็นการวิ่งแบบแนวตั้ง รับรองว่าเหนื่อยแน่นอนค่ะ
ชั้นบนก็ไม่ได้ปล่อยให้เป็นพื้นที่ชั้นดาดฟ้าโล่งๆ แต่ทำเป็นสวนสีเขียวให้ลูกบ้านสามารถมาพักผ่อนกันได้
เช่นเดียวกับชั้นดาดฟ้าของอาคาร A ที่ได้สวนขนาดใหญ่มาด้วย
อาคาร A จะเป็นเหมือนอาคารส่วนกลาง ที่รวม Facilities ต่างๆ ไว้หมดเลย
รอบๆ โครงการก็จะมีต้นไม้อยู่ริมรั้วด้วย
ภายในโครงการจะมีทั้งหมด 3 อาคาร อาคาร A จะมี 7 ชั้น ส่วนอาคาร B กับ C จะมี 8 ชั้น
ถ้าดูจากแปลน บริเวณชั้น 1 จะเป็นพื้นที่จอดรถทั้งหมด มี EV Charger ด้วย อาคารนิติจะแยกออกมา ส่วน Lobby ก็จะอยู่ที่อาคาร A อาคารอื่นๆ จะเป็นแค่ Lift Lobby ไม่มีพื้นที่นั่งรอ สามารถขึ้นลิฟต์ไปยังห้องของตัวเองได้อย่างเดียว
นอกจากอาคารนิติบุคคลจะมี Drop Store แล้ว แต่ละอาคารจะมี Food Drop แยกอาคารใครอาคารมันด้วย ลูกบ้านไม่จำเป็นต้องเดินออกไปด้านนอกอาคารเพื่อรับอาหาร แต่สามารถรับจาก Lift Lobby ได้เลย
ตรงอาคารนิติบุคคลจะมีป้อมรปภ. ที่มีรปภ. ตลอด 24 ชั่วโมง มีกล้อง CCTV ภายในโครงการ สามารถเข้าออกโครงการได้ด้วยระบบสแกนป้ายทะเบียนรถ ส่วนอาคารเข้าออกได้ด้วยระบบ Face Scan
พื้นที่ส่วนกลางก็จะอยู่ชั้น 2 อาคาร A ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Fitness, Co-working Space และสระว่ายน้ำ
ชั้น 3 จะมีพื้นที่สวนสีเขียวที่อยู่บนซุ้มทางเข้าของโครงการค่ะ ส่วนด้านในของแต่ละอาคารก็จะเป็นห้องพักอาศัย
ชั้น 4 – 7 จะเป็นชั้นพักอาศัยทั้งหมด อาคาร A จะมีแต่ 10 ยูนิต ก็ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัว อาคาร B และอาคาร C จะมี 30 ยูนิต และถ้าลองสังเกตจะเห็นว่าอาคาร A เป็นอาคารเดียวที่เป็น Single Corridor
และอาคาร A ก็เป็นอาคารเดียวที่ชั้นดาดฟ้ามีสวนข้างบนค่ะ