รีวิวโครงการ The Cuvee Rama 3-Suksawat (เดอะ คิวเว่ พระราม 3-สุขสวัสดิ์) คอนโดมิเนียมใหม่ มาพร้อมแนวคิดที่รวมทุกสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ในที่เดียว ด้วยการเดินทางสะดวกทั้งขนส่งสาธารณะ และอยู่ใกล้ทางด่วน ทำให้การไปทำงานในแต่ละวันนั้นไม่ได้ยากจนเกินไป

นอกจากความสะดวกสบายในการเดินทางแล้ว ยังมีพื้นที่สำหรับกิจกรรมที่หลากหลายถึง 60 ฟังก์ชัน รวมถึงเป็นคอนโด Pet-Friendly และสามารถเทควิวไปยังปอดของกรุงเทพอย่างโค้งน้ำบางกระเจ้าได้อีกด้วย

โครงการ The Cuvee Rama 3 – Suksawat ประกอบด้วยอาคารคอนโดขนาด 39 ชั้น 1 อาคาร และอาคารจอดรถ 8 ชั้น 1 อาคาร มีขนาดห้องให้เลือกตั้งแต่ 22.85 – 64.85 ตร.ม. ตั้งอยู่ริมถนนสุขสวัสดิ์ สามารถเดินทางได้สะดวก เพราะใกล้กับทางขึ้นทางพิเศษเฉลิมมหานคร และรถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีราษฎร์บูรณะ ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 2 ล้านบาท 

คาดว่าโครงการนี้จะแล้วเสร็จภายในปี 2570 พร้อมกับโครงการรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง มาดูกันว่า The Cuvee Rama 3 – Suksawat มีอะไรที่น่าสนใจบ้าง

ข้อมูลโครงการ

เดอะ คิวเว่ พระราม 3 – สุขสวัสดิ์

(The Cuvee Rama 3 – Suksawat)

LOCATION : ทำเลโครงการ The Cuvee Rama 3 – Suksawat

โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ เป็นถนนเส้นหลักที่เชื่อมต่อย่านที่อยู่อาศัยหลายพื้นที่ ได้แก่ พระราม 2, จอมทอง, ดาวคะนอง, บางปะกอก, ประชาอุทิศ รวมไปถึงพระประแดง จ.สมุทรปราการ ที่ตั้งของโครงการ เดอะ คิวเว่ พระราม 3-สุขสวัสดิ์ จะอยู่ในเขตกรุงเทพมหานคร ใกล้กับเส้นแบ่งเขตจังหวัดสมุทรปราการเลยทีเดียว

ทำเลของโครงการนี้สามารถเดินทางเข้าเมืองได้อย่างสะดวกสบาย เนื่องจากอยู่ใกล้จุดขึ้นรถโดยสารสาธารณะหลากหลายรูปแบบ ได้แก่ รถไฟฟ้าสายสีม่วงสถานีราษฎร์บูรณะ และบริเวณแยกวัดสนฝั่งตรงข้ามโครงการ ซึ่งเป็นป้ายรถเมล์และวินรถตู้สำหรับเข้าเมือง

หากใช้รถยนต์ส่วนตัว โครงการนี้ยังมีทำเลที่ใกล้กับทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทำให้การเชื่อมต่อไปยังพื้นที่ย่านสำคัญใจกลางเมืองสามารถทำได้อย่างง่ายดาย เช่น พระราม 3, สาทร, อโศก หรือ สยาม ซึ่งเป็นพื้นที่ของแหล่งงาน

นอกจากนี้ ยังสามารถใช้ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม ผ่านสะพานภูมิพล และเชื่อมต่อไปยังย่านสำคัญได้ เช่น พระราม 3, บางนา ไปจนถึงปอดของกรุงเทพฯ อย่างคุ้งบางกระเจ้าได้อีกด้วย

เมื่อก่อน คอนโดมิเนียมในย่านนี้จะเน้นในเรื่องวิว และอยู่ติดแม่น้ำเป็นส่วนใหญ่ แต่ The Cuvee พระราม 3-สุขสวัสดิ์ จะเน้นที่การเดินทางสะดวก มีทำเลติดถนนใหญ่และสายรถไฟฟ้า โดยในชั้นสูง ๆ จะยังได้วิวแม่น้ำอยู่ เพราะพื้นที่รอบ ๆ ส่วนใหญ่จะยังหนาแน่นไม่มากนั่นเอง

บริเวณโดยรอบโครงการนี้ยังใกล้กับห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล สถานศึกษา รวมถึงมีตลาดที่กระจายตัวอยู่ตามริมถนนและหน้าปากซอย นับว่ามีความสะดวกสบายอยู่พอสมควร สำหรับห้างสรรพสินค้าที่อยู่ใกล้กับโครงการ ได้แก่ Big C บางปะกอก, Lotus’s บางปะกอก

ตัวโครงการยังอยู่ใกล้กับโรงพยาบาลในระยะทางเพียงไม่กี่กิโลเมตร ได้แก่ โรงพยาบาลบางปะกอก1 , โรงพยาบาลบางปะกอก 3, โรงพยาบาลราษฎร์บูรณะ, โรงพยาบาล IMH ธนบุรี และโรงพยาบาลสุขสวัสดิ์

นอกจากนี้ จากโครงการยังสามารถเดินทางไปยังสถานศึกษาได้อย่างสะดวก เช่น มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี (มจธ.) ในระดับอุดมศึกษา วิทยาลัยพณิชยการเชตุพน ในระดับอาชีวศึกษา รวมถึงสถานศึกษาในระดับอื่น ๆ

มาดูโดยรอบโครงการกันบ้าง เราจะเห็นได้ว่ามีสะพานลอยอยู่ที่หน้าโครงการ เราสามารถข้ามถนนสุขสวัสดิ์ได้สะดวก พอข้ามไปก็จะพบธนาคาร ซึ่งเพิ่มความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ

ใกล้กันนั้นเราจะเห็นป้ายรถเมล์อยู่หน้าโครงการ สะดวกต่อการเดินทางด้วยขนส่งสาธารณะ สำหรับถนนหน้าโครงการจะเป็นทิศทางที่มุ่งสู่ อ. พระประแดง ที่จะไปสู่ถนนวงแหวนอุตสาหกรรม สะพานภูมิพล และสามารถเชื่อมต่อไปยังย่านบางนา บางกระเจ้า หรือพระราม 3 ได้

ส่วนในทิศทางตรงข้ามจะเป็นการเข้าเมือง ซึ่งจะเชื่อมไปยังย่านพระราม 2 ดาวคะนอง หรือจอมทองต่อไป

The Project

จุดเด่นของโครงการ The Cuvee Rama 3 – Suksawat อยู่ที่แนวคิด “Never-Ending Lifestyle – โลกที่ความสุขของคุณ…ไม่มีวันสิ้นสุด” ซึ่งจะเน้นดีไซน์ในภาพรวมที่หรูหรา และสามารถเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกได้อย่างครบครัน มีพื้นที่กิจกรรมที่หลากหลาย พร้อมวิวธรรมชาติจากโค้งน้ำบางกระเจ้า โทนสีหลักของโครงการนี้จะเป็นสีขาว ตัดด้วยสีเทาเข้มและสีทอง เพื่อความหรูหรา ตัวอาคารจอดรถจะเป็นโทนสีขาว แทรกด้วยการปลูกพื้นที่สีเขียวแนวตั้งรอบอาคารเพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวในโครงการ

ตัวอาคารดีไซน์ฟังก์ชันภายในให้เหมือนกับที่เราเข้าไปสำรวจธรรมชาติ ทำให้เราค่อย ๆ เห็นสิ่งที่น่าสนใจของที่นี่ไปเรื่อย ๆ ตั้งแต่ทางเข้า จนไปถึงชั้นดาดฟ้า ฟังก์ชันต่าง ๆ ในโครงการถูกออกแบบให้คล้ายกับองค์ประกอบในธรรมชาติ ได้แก่ ป่า ลำธาร ถ้ำ ใต้ท้องทะเล จนถึงหน้าผา ด้วยตัวโครงการที่หรูหรา ทำให้เราเหมือนกำลัง Glamping อยู่ท่ามกลางธรรมชาตินั่นเอง

โดยทางเข้าโครงการเราจะเห็นอาคารสีเทาเข้มตัดสีทองหลังนี้ ซึ่งจะยังเป็นสำนักงานขายพร้อมที่จัดห้องตัวอย่างในปัจจุบัน แต่จะกลายเป็นส่วนของร้านค้าในอนาคต และบริเวณที่จอดรถของสำนักงานขายจะกลายเป็นพื้นที่สีเขียวของโครงการ

โครงการนี้จะมีอาคารจอดรถแยกจากอาคารพักอาศัย เมื่อขับรถเข้ามาด้านในโครงการแล้ว เราจะเห็นทางแยกระหว่างไปยังอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น หรือวนเพื่อจอดรถรอบอาคารพักอาศัย โดยโครงการมีที่จอดรถสำหรับผู้พิการและ EV Charger มาให้ด้วย นอกจากนี้ ส่วนของอาคารจอดรถจะมีการปลูกพืชสวนแนวตั้งไว้ที่ภายนอกอาคารเพื่อช่วยให้โครงการมีความร่มรื่นมากขึ้น

Facilities : พื้นที่ส่วนกลาง

พื้นที่ส่วนกลางถือเป็นจุดเด่นของโครงการนี้เลยก็ว่าได้ เพราะประกอบด้วยพื้นที่ส่วนกลางกว่า 60 โซนกิจกรรม และยังเป็นคอนโด Pet-Friendly ที่นอกจากจะเลี้ยงสัตว์ได้แล้ว ยังมีพื้นที่ส่วนกลางสำหรับสัตว์เลี้ยงอีกด้วย ระหว่างอาคารพักอาศัยกับอาคารจอดรถจะสามารถเชื่อมต่อกันได้ นอกจากบริเวณชั้น 1 แล้ว อาคารทั้ง 2 หลังจะเชื่อมกันด้วยทางเดินที่ชั้น 7  ส่วนชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถ จะมีฟังก์ชันเป็นบ่อออนเซน มีหลังคาและต้นไม้ล้อมรอบเพื่อให้ความเป็นส่วนตัวครับ

สำหรับชั้น 1 จะมีสวนซึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวอยู่ถึง 2 ตำแหน่ง โดยโซนแรกเป็นสนามเด็กเล่นกับ Pet Park รองรับเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงให้มาวิ่งเล่น

และอีกแห่งจะเป็นลานกิจกรรมครับ สำหรับลูกบ้านที่ชอบทำกิจกรรมกลางแจ้ง

มาดูกันที่แปลนของอาคารพักอาศัยกันครับ ตัวอาคารจะเป็นรูปทรงแนวยาว เมื่อเข้าภายในอาคาร เราจะถูกรับด้วยพื้นที่ของ Lobby เพดานสูง ที่แบ่งโซนนั่งรอออกเป็น 3 – 4 โซน มีต้นไม้อยู่ตรงกลางพื้นที่เพื่อเพิ่มความร่มรื่น เมื่อเดินผ่านต้นไม้เข้าไปก็จะเป็นส่วนของ Reception ที่มีเจ้าหน้าที่ต้อนรับ

สำหรับชั้น 2 – 6 จะเริ่มเป็นยูนิตของห้องพักอาศัยแล้ว โดยจะเป็นห้องแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด

ส่วนชั้น 7 จะมีการวางห้องต่างออกไป เนื่องจากมีทางเชื่อมมาจากดาดฟ้าอาคารจอดรถเข้ามายังอาคารพักอาศัย พื้นที่รับคนจากทางเชื่อมบางส่วนเป็นพื้นที่ Semi-Outdoor  มีฟังก์ชันเป็น Lobby ที่มีเพดานสูง ส่วนห้องพักยังเป็นแบบ 1 Bedroom ทั้งหมด

สำหรับชั้นดาดฟ้าของอาคารจอดรถจะเป็นบ่อออนเซนที่มีสวนล้อมรอบที่มีทางเชื่อมกับชั้น 7 ของอาคารพักอาศัยแบบนี้ครับ

ฟังก์ชันของสวนจะมีที่ให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ และมีห้องน้ำเอาไว้ให้ด้วยครับ

ในชั้น 8 จะวางห้องเหมือนกับชั้น 7 เนื่องจากต้องเว้นเพดานให้กับทางเชื่อม

บริเวณชั้น 9-10 นอกจากห้อง 1 Bedroom แล้ว จะมีห้องขนาด 2 Bedroom อยู่สุดทางเดินฝั่งใกล้ลิฟท์นั่นเอง

บริเวณชั้น 11 จะต่างออกไปเล็กน้อย โดยพื้นที่สุดทางเดินนั้นจะกลายพื้นที่ Pet Zone ซึ่งประกอบด้วยพื้นที่กิจกรรมสำหรับน้องหมาน้องแมวโดยเฉพาะ 

สำหรับชั้น 12 ตรงกลางของแปลนถูกแทนที่ด้วยพื้นที่ส่วนกลาง ประกอบด้วย ห้องสมุด, ห้องประชุม, ห้องสตูดิโอ, ห้อง Learning Room, Kids Room รวมถึงมีพื้นที่พักผ่อนที่สามารถออกไปสูดอากาศภายนอกได้อีกด้วย

ชั้น 12A จะต่อเนื่องมาจากชั้น 12 ออกแบบไว้ให้มีความผ่อนคลายมากขึ้น โดยสามารถเป็นห้อง E-Sport Room ห้อง Theater Room และห้องคาราโอเกะได้อีกด้วย

ชั้นที่ 14 – 17 จะมีห้องพักอาศัยเต็มพื้นที่ ประกอบด้วยห้อง 1 Bedroom และ 2 Bedroom อยู่ด้วยกัน

ขึ้นมายังชั้นที่ 18 ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ส่วนกลางในลักษณะของกิจกรรมที่ต้องออกแรง  ได้แก่ CO-Kitchen, ห้องเล่นเกม Arcade, ห้องนั่งเล่นกลางแจ้ง, ห้องเล่นกีฬาต่าง ๆ เช่น Golf Simulation, VR Cycling, ห้องซ้อมมวย และห้องซ้อมดนตรี นอกจากนั้นจะเป็น Outdoor Living ที่มีพื้นที่สีเขียวไว้พักผ่อนหย่อนใจ ที่ชั้นนี้จะมีเพดานที่สูงกว่าชั้นอื่น ๆ จึงทำให้มีพื้นที่มากพอสำหรับชั้นลอยของห้อง Loft 2 Bedroom ซึ่งมีเฉพาะที่ชั้นนี้เท่านั้น

ส่วนของ Outdoor Living ชั้น 18 จะเป็นพื้นที่สวนและที่นั่งพักผ่อน โดยมีบรรยากาศแบบนี้ครับ

ภาพบรรยากาศของฟังก์ชันต่าง ๆ ในชั้นที่ 18

สำหรับชั้น 19 – 28 มีจัดเรียงห้องที่คล้ายกันกับชั้น 14 – 17 โดยยังเป็นการผสมผสานกันระหว่างห้อง 1 และ 2 Bedroom

ส่วนชั้นที่ 29 จะมียูนิตที่น้อยกว่า เนื่องจากเป็นพื้นที่สำหรับงานระบบของสระว่ายน้ำชั้นบน และบางส่วนถูกทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

ในชั้นที่ 30 ประกอบด้วยสระว่ายน้ำ และห้องพัก 1 Bedroom และเป็นชั้นแรกที่มีห้อง 2 Bedroom ขนาดใหญ่มาให้แล้ว

โดยสระว่ายน้ำในโครงการนี้มีถึง 2 แห่งด้วยกัน ได้แก่ บริเวณชั้น 30 และชั้น 38 ถือเป็นไฮไลท์ของโครงการนี้เลยก็ว่าได้

สำหรับชั้น 31 ยังจัดยูนิตของห้องในลักษณะเดียวกัน และต้องเว้นพื้นที่ให้สระว่ายน้ำด้วยเช่นกัน

ในชั้น 32 – 36 ส่วนของสระว่ายน้ำจะกลายเป็นพื้นที่สำหรับห้อง 1 Bedroom

ในชั้นที่ 38 จะมีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ ขณะที่สระว่ายน้ำที่ชั้น 30 จะเป็นแบบขนาดย่อม ยาวเพียง 22 เมตร แต่สระว่ายน้ำชั้น 38 จะเป็นขนาดมาตรฐาน และเป็นแบบ Infinity Edge สามารถชมวิวได้โดยไม่มีอะไรกั้น และชั้น 38 ยังเป็นพื้นที่ Sky Gym ซึ่งเป็น Fitness ของโครงการ สามารถออกกำลังกายพร้อมกับชมวิวรอบโครงการได้อีกด้วย

พื้นที่ส่วนกลางส่วนสุดท้ายอยู่ชั้น 39 ซึ่งเป็นดาดฟ้าของอาคาร จะเป็นส่วนของ Club House ทำหน้าที่เหมือนกับเป็น Sky Lounge ประกอบด้วย บาร์ พื้นที่เตรียมอาหาร และพื้นที่นั่งพักผ่อน

Room Type  : แบบห้อง The Cuvee Rama 3 – Suksawat

โครงการ The Cuvee พระราม 3-สุขสวัสดิ์ ประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 3 รูปแบบใหญ่ ๆ ได้แก่ 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Loft 2 Bedroom ขนาดเริ่มต้นที่ 22.85 – 64.85 ตร.ม. การจัดวางพื้นที่ใช้สอยของแต่ละห้องจะเน้นความเป็นสัดส่วนที่ชัดเจน แต่ยังคงความน่าอยู่เอาไว้

โดยตอนนี้โครงการจะขายในแบบ Fully Fitted ภายในห้องมาตรฐานที่ส่งมอบลูกค้าจะได้ ตู้เสื้อผ้า ผนังฉาบเรียบ ห้องน้ำจะมี สุขภัณฑ์ ฉากกั้นอาบน้ำ ตู้เก็บของ เครื่องปรับอากาศ 2 ตัว และยังแถมเครื่องกรองน้ำ บริการล้างแอร์ และเครื่องกรองอากาศ พร้อมเซอร์วิสตลอดระยะเวลา 3 ปีอีกด้วย

และสำหรับครอบครัวไหนที่มีน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงบอกเลยว่าต้องถูกใจสิ่งนี้แน่นอน เพราะเค้าเลือกใช้วัสดุที่เอื้อต่อการใช้งานของน้อง ๆ สัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็น กระเบื้อง SPC CLICK LOCK ที่ช่วยถนอมข้อต่อของสัตว์เลี้ยง ทนไฟ ทนน้ำ และรอยขีดข่วน , AIR PURIFIER เครื่องฟอกอากาศ  หมดกังวลเรื่องขนน้อง ๆ สัตว์เลี้ยงภายในห้อง, AIR TIGHT RUBBER ยางรองกรอบประตูชนิดกันเสียงน้อง ๆ เล็ดลอดออกนอกห้อง และ MELAMINE FILMS เฟอร์นิเจอร์เคลือบเมลานีน ที่สามารถทนความร้อน ความชื้นและรอยขีดข่วนได้ดี

นอกจากนี้โครงการก็มีบริการ Pet Service Solution ที่สามารถดูแลสัตว์เลี้ยงได้ครบวงจร ทั้ง

• โรงพยาบาล ไม่ต้องกังวลเวลาสัตว์เลี้ยงเจ็บป่วย
• บริการฝากเลี้ยง เวลาที่มีธุระด่วนหรือต้องเดินทาง
• อาบน้ำตัดขน ให้สัตว์เลี้ยงดูน่ารักและน่ากอด
• Pet Shop ซื้ออุปกรณ์หรืออาหารให้น้อง ๆ ได้สะดวก

ห้องตัวอย่าง 1 Bedroom

พื้นที่ใช้สอย 26 ตร.ม.

ภายในห้องตัวอย่างนี้มีการจัดพื้นที่ใช้สอยให้ทุกห้องแบ่งเป็นสัดส่วน เมื่อเดินเข้ามาในห้อง เราจะพบห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องครัว และห้องนอน ตามลำดับ โดยมีห้องนั่งเล่นเท่านั้นที่เป็นห้องเปิด ห้องครัวจะถูกกั้นด้วยประตูกระจกเลื่อนอย่างชัดเจน และสามารถเลื่อนประตูไปยังระเบียงห้องผ่านทางนี้ได้

สำหรับพื้นที่ของห้องนั่งเล่นนั้นมีขนาดที่พอดี ๆ แต่ประโยชน์ใช้สอยครบครัน สามารถวางโซฟา โต๊ะกินข้าวขนาดเล็ก และชั้นวางทีวีได้เลย

มาดูกันที่ห้องน้ำกันครับ ส่วนของห้องน้ำมีการแบ่งสัดส่วนระหว่างส่วนเปียกและแห้งอย่างชัดเจน ด้วยพื้นที่ยกขึ้นมาและฉากกั้นอาบน้ำ สุขภัณฑ์จะเป็นของแบรนด์ Nantes ส่วนก๊อกน้ำจะเป็นของ Schon สามารถติดตั้งชั้นวาง Built-in เพื่อวางของตกแต่งได้อีกด้วย

สำหรับห้องครัว จะถูกแบ่งจากห้องนั่งเล่นอย่างชัดเจนด้วยประตูเลื่อนกระจก ช่วยให้กลิ่นของอาหารเข้ามาน้อยลง แต่คงความโปร่งของห้องเอาไว้ ห้องนี้ยังสามารถเชื่อมต่อไปยังระเบียงข้างนอกได้

เข้ามาในส่วนของห้องนอน ฉากกั้นห้องจะเป็นแบบผนังทึบ ช่วยเพิ่มความเป็นส่วนตัว แต่อาจทำให้ห้องดูไม่กว้างนัก ขณะเดียวกันก็มีหน้าต่างบานใหญ่ ที่ช่วยให้แสงจากภายนอกเข้ามาได้มาก ทำให้ห้องดูโปร่งโล่งสบาย

ห้อง 2 Bedroom

พื้นที่ใช้สอย 55 ตร.ม.

สำหรับห้อง 2 Bedroom ของโครงการนี้ ยังคงแนวคิดของการจัดประโยชน์ใช้สอยที่ชัดเจนเช่นกัน ประกอบด้วย 2 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องครัว ห้องนั่งเล่น พร้อมพื้นที่ทำงาน แบ่งเป็นสัดส่วน

เมื่อเปิดห้องเข้ามาเราจะเห็นพื้นที่ที่เหมือนเป็นชานพักหน้าประตู มีพื้นที่สำหรับการวางรองเท้า และมีระยะพอสมควรก่อนจะไปถึงห้องนั่งเล่น ติดกับกับห้องนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่นั่งกินข้าวได้มากสุดถึง 4 คน ใกล้กันนั้นยังมีพื้นที่สำหรับโต๊ะทำงานเล็ก ๆ อีกด้วย

ส่วนของห้องครัวถูกกั้นไว้ด้วยประตูเลื่อน สามารถเพิ่มพื้นที่ติดตั้งเตาไฟฟ้าได้ สำหรับห้องนอนมีทั้งหมด 2 ห้อง ได้แก่ Master Bedroom ที่มีห้องน้ำในตัว ส่วนอีกห้องจะต้องออกมาที่ทางเดินก่อนครับ

ห้อง Loft 2 Bedroom

พื้นที่ใช้สอย 47 – 59 ตร.ม.

สำหรับห้อง Loft 2 Bedroom จะเป็นห้องแบบ Duplex ที่อยู่ในชั้น 18 เท่านั้น เนื่องจากเป็นชั้นที่มีเพดานสูงกว่าชั้นอื่น ๆ จึงสามารถทำชั้นลอยได้ ห้องแบบนี้มีข้อดีตรงที่ให้ความโปร่งเพราะมี 2 ชั้น โดยห้องนอนแต่ละห้องสามารถเทควิวที่เหมือนกันได้ทั้ง 2 ห้องเลยทีเดียว

ฟังก์ชั่นของห้องนี้ไม่ต่างกับห้อง 2 Bedroom เท่าไหร่นัก เพียงแต่จะมีชั้นลอยแยกออกมา โดยห้องด้านบนนั้นดูให้ความเป็นส่วนตัวมากกว่า เพราะมีห้องน้ำในตัว แต่บางยูนิตจะมีเพียงห้องน้ำเดียวด้านล่าง ดังนั้นจึงต้องพิจารณาดี ๆ ว่าเป็นห้องที่เราต้องการหรือไม่

ราคา เดอะ คิวเว่ พระราม 3 – สุขสวัสดิ์

(The Cuvee Rama3 – Suksawat)

โครงการ The Cuvee Rama 3 – Suksawat คาดว่าจะสร้างเสร็จภายในปี 2570 พร้อมกับรถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง เริ่มที่ 1 Bedroom ขนาด 22.85 ตารางเมตร ราคาช่วงโปรโมชั่นอยู่ที่ 1.79 ล้านบาท* โดยขายแบบ Fully Fitted ที่ให้เฟอร์นิเจอร์มาบางส่วน ผู้ซื้อมีอิสระตกแต่งห้องเพิ่มเติมได้อย่างเต็มที่ สำหรับค่าส่วนกลางของโครงการอยู่ที่ 45 บาท/ตร.ม./เดือน

*หมายเหตุ  รายละเอียดราคา เป็นข้อมูลที่ทางทีมงานเก็บรวบรวม ณ วันที่เขียนบทความเท่านั้น  โครงการอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้  รายละเอียดและโปรโมชั่นต่าง ๆ  กรุณาสอบถามโดยตรงจากทางโครงการอีกครั้ง

Summary

.

ภาพรวมโครงการ

• โครงการ The Cuvee Rama 3 – Suksawat เป็นคอนโดมิเนียมสูง 39 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถสูง 8 ชั้น พัฒนาอยู่บนที่ดินขนาด 4-3-71.5 ไร่ มียูนิตพักอาศัยทั้งหมด 821 ยูนิต และร้านค้า 6 ยูนิต
• จุดเด่นของโครงการคือพื้นที่ส่วนกลาง เพราะมีพื้นที่กิจกรรมกว่า 60 ฟังก์ชัน เช่น สระว่ายน้ำชั้น 30 และ 38 , ห้อง e-sport, Club House บนชั้นดาดฟ้า, หรือพื้นที่ Pet Zone
• ห้องพักอาศัยมีให้เลือกทั้งหมด 3 รูปแบบ ได้แก่ 1 Bedroom, 2 Bedroom และ Loft 2 Bedroom
• เดินทางสะดวกไม่ว่าจะใช้รถสาธารณะหรือรถยนต์ส่วนตัว
• ฟังก์ชั่นของห้องแบ่งออกมาได้ชัดเจน จัดสรรพื้นที่ได้เป็นสัดส่วน
• เป็นคอนโดมิเนียม Pet-Friendly เลี้ยงสัตว์ในโครงการได้
• ในห้องเลือกใช้วัสดุที่เอื้อต่อการเลี้ยงสัตว์ มาพร้อมบริการ Pet Service Solution ที่ช่วยดูแลสัตว์เลี้ยงได้ครบวงจร
• สามารถเทควิวแม่น้ำเจ้าพระจ้าและคุ้งบางกระเจ้าได้

ทำเล / การเดินทาง

• โครงการตั้งอยู่บนถนนสุขสวัสดิ์ เป็นถนนสายหลักที่สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่เมืองได้ง่าย
• สามารถเชื่อมต่อไปยังพื้นที่เมืองได้รวดเร็ว เนื่องจากอยู่ใกล้ทางพิเศษเฉลิมมหานคร และสะพานภูมิพล
• ใกล้รถไฟฟ้า MRT สายสีม่วง สถานีราษฎร์บูรณะ ภายในไม่กี่นาที รวมถึงขนส่งสาธารณะรูปแบบอื่น ๆ ได้แก่ ป้ายรถเมล์ วินรถตู้
• ล้อมรอบไปด้วยห้างสรรพสินค้าอย่าง Lotus บางปะกอก และ Big C ราษฎร์บูรณะ ตลาด รพ.บางปะกอก 1 และสถานศึกษาอย่าง ม.เทคโนฯ พระจอมเกล้าธนบุรี

เหมาะกับใคร?

• คนที่คุ้นชินกับโซนสุขสวัสดิ์ ประชาอุทิศ พระประแดง
• คนที่ทำงานในเมืองฝั่งพระราม 3 สาทร และต้องการที่พักมีราคาเข้าถึงได้ง่าย เดินทางสะดวก
• คนวัยทำงานที่ต้องการแยกครอบครัว หรือขยายจากครอบครัวที่อยู่ในพื้นที่โซนนี้
• คนที่ต้องการคอนโดวิวริมแม่น้ำ และเดินทางสะดวก
• คนที่ต้องการอยู่คอนโด และมีสัตว์เลี้ยง
• คนที่ต้องการคอนโดที่มีส่วนกลางครบครันตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์
• สำหรับคนที่มีงบประมาณในการซื้อคอนโดเริ่มต้นไม่เกิน 2 ล้านบาท