Singha Estate เปิดแผนปี 60 เตรียมเปิด The ESSE at Singha Complex ไตรมาส 1 พร้อมคอนโดติด BTS ทองหล่อ ปลายปี
· ~ 1 min readบริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) เปิดแผนธุรกิจปี 2560 เน้นคุณภาพตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์์คนยุคใหม่ โดยเน้นสร้างมูลค่าเพิ่มในสินทรัพย์ และพัฒนาโครงการในระดับ Super Luxury ทั้งคอนโดมิเนียม โรงแรม อาคารสำนักงาน และบ้านพักอาศัย โดยใช้งบประมาณกว่า 15,000 ล้านบาท
นายนริศ เชยกลิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีที่ผ่านมาทางสิงห์ได้ดำเนินการตามแผนที่วางเอาไว้ ทำให้บริษัทมีกำไรขั้นต้นในช่วง 9 เดือนแรก ของปี 2559 เพิ่มขึ้น 492 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 7 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงปี 2558
ผลการดำเนินงาน ปี 2016
โดยใน 9 เดือนแรก มีรายได้ (9M-YoY) 1,713 ล้านบาท และ EBITDA 561 ล้านบาท ในหลากหลายธุรกิจ
- คอนโดมิเนียม The ESSE มียอดขาย 3,567 ล้านบาท โดยเมื่อธันวาคม 2559 ขายไปได้แล้วประมาณ 80% มีสัดส่วนผู้ซื้อต่างชาติประมาณ 30% พร้อมซื้อที่ดินสุขุมวิท 36 เพื่อพัฒนาคอนโดมิเนียมในปลายปี 2560
- ธุรกิจโรงแรมมีรายได้ 730 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37% มีการซื้อโรงแรมใน UK เพิ่ม 3 โรงแรม ทำให้ในปัจจุบันสิงห์เป็นเจ้าของโรงแรม 29 แห่งในสหราชอาณาจักร ทั้งในอังกฤษ และสก็อตแลนด์ รวมถึงเพิ่มห้องพักที่โครงการสันติบุรี และปรับปรุงห้องพักและพื้นที่ส่วนกลางที่ ไอส์แลนด์ วิลเลจ บีช รีสอร์ท ใหม่ทั้งหมด และยังได้รับมอบหมายจากเครือบุญรอด ให้เป็นผู้บริหารโครงการเมกะโปรเจคที่มัลดีฟ ซึ่งจะสร้างเสร็จในปี 2561 ด้วย
- บ้านจัดสรรในแบรนด์ Nirvana มียอดขาย 1,945 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 90% จากปี 2558 (1,021 ล้านบาท) และมีการซื้อที่ดินบนถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ และนำ Nirvana เข้าเป็นส่วนหนึ่งของไดอิ
- ธุรกิจค้าปลีก มีรายได้ 445 ล้านบาท EBITDA 282 ล้านบาท มีการปรับปรุงอาคารซันทาวเวอร์ บนถนนวิภาวดีรังสิต
และในปี 2560 สิงห์ เอสเตท ยังคงจะพัฒนาโครงการเพื่อให้เป็น Best in Class ในตลาด Super Luxury ที่มีศักยภาพสูง พร้อมปลูกผังแนวคิดการทำงานภายใต้บรรรษัทภิบาลกับพนักงาน และมุ่งหาพันธมิตรเพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน และสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในระดับโลก
แผนธุรกิจ ปี 2017
สำหรับภาพรวมในตลาดอสังหาฯ ปี 2560 ยังมองว่ามีแนวโน้มที่ดี และภาวะเศรษฐกิจที่ดีขึ้น ทั้งจากปัจจัยการลงทุนจากภาครัฐ และในส่วนของคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัย สิงห์ เอสเตท มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 3 โครงการ ในระดับ Super Luxury ซึ่งจัดอยู่ใน Segment A+ รวมมูลค่า 15,138 ล้านบาท โดยตั้งเป้า Pre-sale 6,760 ล้านบาท
- คอนโดมิเนียม The ESSE at Singha Complex ในโครงการสิงห์ คอมเพล็กซ์ (Singha Complex) บริเวณแยกอโศก-เพชรบุรี ในปลายเดือนกุมภาพันธ์
- Santiburi Residences โครงการคฤหาสน์ระดับ 6 ดาว บนถนนประดิษฐ์มนูธรรม (เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา) ในไตรมาส 4
- คอนโดมิเนียมติดสถานีรถไฟฟ้า BTS ทองหล่อ ซึ่งซื้อที่ดินมาจาก Fragrant Property ประมาณ 2.5 ไร่ ในราคาตารางวาละ 1.75 ล้านบาท จะเปิดตัวในไตรมาส 4 เช่นกัน โดยมีมูลค่าโครงการ 6,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ยังมีแผนจะเปิดตัวโครงการบ้านภายใต้แบรนด์เนอร์วาน่าในปีนี้อีกอย่างน้อย 4 โครงการ รวมมูลค่ากว่า 8,000 ล้านบาท
สำหรับธุรกิจอาคารสำนักงานและพื้นที่ค้าปลีก โครงการหลักยังเป็น Singha Complex ซึ่งมีความคืบหน้าในการก่อสร้างไปแล้ว 15% เมื่อแล้วเสร็จจะเป็นอาคารสำนักงานสูง 44 ชั้น นอกจากนี้ยังได้ปรับปรุงอาคารสำนักงาน Suntowers เสร็จสิ้น และตั้งเป้ารายได้ค่าเช่าของ Suntowers เติบโตปีนี้ 3-5% โดยมี Occupancy Rate 97.8%
ธุรกิจโรงแรม วางแผนซื้อโรงแรมทั้งในและนอกประเทศ 1-3 แห่ง และได้รับแต่งตั้งจากทางบุญรอด ให้เป็นผู้บริหารโรงแรมในมัลดีฟหลังสร้างเสร็จในปี 2561 และมั่นใจว่ารายได้จาก 2 โรงแรมที่มีอยู่ (สันติบุรี และ พีพี ไอส์แลนด์ วิลลเลจ) จะเพิ่มอีก 13% ในปี 2560 นี้
แผนระยะยาวในอนาคต ปี 2017-2021
ในธุรกิจที่พักอาศัย สิงห์ เอสเตท ยังเน้นการพัฒนาโครงการในระดับ Super Luxury ส่วนไดอิและเนอร์วาน่า จะพัฒนาโครงการในตลาดรองลงมาจนถึงตลาดกลาง เพื่อแยกธุรกิจแต่ละตัวให้ชัดเจน ซึ่งเนอร์วาน่าจะขยับลงมาพัฒนาโครงการในราคาถูกลงกว่าที่เคยทำมา เริ่มที่ 8-10 ล้านบาท ทั้งนี้ทาง สิงห์ เอสเตท ตั้งเป้ารายได้แตะ 20,000 ล้านบาท ในปี 2,020 และจะต้องการให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ เพื่อเป็นการขยายตลาดในอนาคตด้วย
สำหรับโครงการเชิงพาณิชย์ ทั้งสำนักงานและรีเทล เมื่อพัฒนาจนมีมูลค่าสูงขึ้นแล้ว ทาง Singha Estate ก็จะมีแผนนำอสังหาฯ ที่พัฒนาเพิ่มมูลค่าแล้วเข้ากอง REIT เพื่อนำเงินมาพัฒนาโครงการอื่นต่อไป ในอนาคตตั้งเป้าหมายว่าจะมีสัดส่วนรายได้ประจำ, ค่าเช่า ที่เป็น recurring income ประมาณ 50%
ทั้งนี้ ทางสิงห์ เอสเตท คาดว่าจะสามารถเปิดโครงการ Singha Complex ได้ในช่วงเดือนมีนาคม ปี 2561
ข้อมูลเบื้องต้นโครงการ The Esse at Singha Complex
- จำนวนยูนิต 319 ยูนิต
- 1 ห้องนอน 35-48 ตารางเมตร
- 2 ห้องนอน 70-77 ตารางเมตร
- Penthouse 215 ตารางเมตร
- ราคาขาย (คาดว่า) เริ่มต้นที่ไม่ต่ำกว่า 275,000 บาท / ตร.ม.