รีวิววันนี้พามาดูคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat คอนโดหรูอีกแบรนด์จากพฤกษาค่ะ  เดอะรีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์ เป็นคอนโดสูง 25 ชั้น 1 อาคาร บนถนนประดิพัทธ์  ระยะห่างจาก BTS สถานีสะพานควาย 450 ม.  แบรนด์ The Reserve นั้นจัดเป็น “Top Brand” ตัวบนสุดของทางพฤกษา  โดยในปีนี้เปิดเป็นโครงการที่ 2 ต่อจาก The Reserve ทองหล่อ ที่ขายหมดไปแล้วค่ะ

โดยธรรมชาติของทำเลย่าน “สะพานควาย-ประดิพัทธ์”  อาจจะไม่ได้ป็อปปูล่าร์สำหรับตลาดคอนโดนักเมื่อเทียบกับโซนอื่น  ดังนั้นพฤกษาเลยจัดเต็มในเรื่องของดีไซน์และตัวโปรดักส์ของ The Reserve Phahol-Pradipat อย่างมาก  เพื่อเอา weight ชูเป็นจุดขายให้กับโครงการค่ะ   ในส่วนของโปรดักส์นั้นเน้นแบบ loft เพดานสูงในสัดส่วนที่เยอะมาก  สามารถใช้พื้นที่ส่วนกลางได้ตลอด 24 ชั่วโมง และยังมี Concierge Service ช่วยติดต่อเรื่องบริการซักรีดหรือรับส่งของ จองตั๋ว ให้กับลูกบ้านเพิ่มความไฮโซอีกด้วย

ไปดูรายละเอียดโครงการเบื้องต้นและรีวิวแบบละเอียดกันเลย

The Reserve Phahol – Pradipat
(เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์)

• เจ้าของโครงการ >>>  Pruksa Real Estate PCL
• ที่ตั้งโครงการ >>> ปากซอยประดิพัทธ์ 23
• ขนาดที่ดิน >>> 1-2-43 ไร่
• จำนวนชั้น >>> อาคารที่พักอาศัย 25 ชั้น
• จำนวนอาคาร >>> 1 อาคาร
• จำนวนห้อง >>> 260 ยูนิต
• ขนาดห้อง >>>
  • 1 Bedroom Loft ขนาด 28.40 – 38.95 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Simplex ขนาด 29.45 – 40.40 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Simplex Plus ขนาด 47.30 – 48.70 ตร.ม.
• ที่จอดรถ >>> 55% ไม่รวมจอดซ้อนคัน, 65% รวมจอดซ้อนคัน  (รวมที่จอดแบบ Conventional และ Automatic Car Parking )
• ราคาขายเริ่มต้น >>> กันยายน 2560 เริ่มต้น 5.9 ล้านบาท
  (อัพเดต พฤษภาคม 2561 ราคาเริ่มต้นที่ 6.5 ล้านบาท)
• ราคาเฉลี่ยต่อตารางเมตร >>> ราคาเฉลี่ย 149,000 บาท/ตร.ม. (คิดจากพื้นที่ใช้สอย) กันยายน 2017
• พิกัด GPS >>> 13.790049, 100.547449
• เริ่มก่อสร้าง >>> Q4 ปี 2560
• คาดว่าแล้วเสร็จ >>> ตุลาคม 2562
• โทร >>> 1739
• เว็ปไซต์โครงการ >>> http://thereservecondo.com

เริ่มเดินทาง ดูทำเล

การเดินทางของเราวันนี้จะไปด้วย BTS สะพานควายค่ะ  แล้วพาเดินเล่นไปยังโครงการ The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะได้รู้ด้วยว่าเดินทางจริงๆ จะสะดวกแค่ไหน

ตอนนี้เรามาลง BTS สะพานควายแล้วค่ะ ให้เดินออกทางออก 1

ลงทางออก 1 ค่า

เดินไปทางแยกประดิพัทธ์ค่ะ ร้านค้าต่างๆ ตามตึกแถวคึกคักตั้งแต่ตรงสถานี

เดินผ่านคอนโด The Signature by Urbano คอนโดอีกโครงการจาก Pruksa ที่สร้างเสร็จไปแล้วพักใหญ่ๆ ค่ะ

เดินมาถึงซอยประดิพัทธ์ 25

แล้วก็จะถึงสำนักงานขาย The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ แล้วหล่ะค่ะ  อยู่ติดกับทางขึ้นสะพานลอยพอดี

เดินเลาะถนนไปเลย

แล้วก็จะมาออกหน้าสำนักงานขาย มองเห็นตึกแถวที่อยู่ฝั่งตรงข้าม

มีที่จอดรถด้านหน้าค่ะ ส่วนที่ตั้งคอนโดจะอยู่ลึกเข้าไปด้านใน ตรงที่มีกำแพงเขียวๆ บังอยู่ รวมแล้วการเดินมายังสำนักงานขายก็สบายๆ และไม่เปลี่ยวและไม่อดอยากแน่นอน

มาดูตำแหน่งรอบๆตัวคอนโดก่อนว่ามีอะไรอยู่ตรงไหนกันบ้าง

ก่อนเข้าสำนักงานขายมาดูแผนที่กันก่อน … The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ ตั้งอยู่บนถนนประดิพัทธ์ ห่างจากแยกสะพานควาย 50 เมตร และสามารถเดินไปยังบันไดเลื่อนขึ้น สถานี BTS สะพานควาย ได้ในระยะ 450 เมตรค่ะ  ซึ่งก็ถืออยู่ในระยะเดินได้อยู่ บรรยากาศแถว BTS สะพานควาย พื้นที่บริเวณรอบโครงการในโซนสะพานควายนั้นจะเป็นชุมชนที่พลุกพล่าน ส่วนมากเป็นอาคารพาณิชย์ค้าขายกันมานาน  มี Big C สาขาสะพานควาย อยู่ใกล้สี่แยกประดิพัทธ์ และมีโรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล พหลโยธิน อยู่ฝั่งเดียวกัน

ส่วนบริเวณแยกสะพานควายจะเป็นจุดเชื่อมของถนนพหลโยธิน ถนนประดิพัทธ์ และถนนสุทธิสารวินิจฉัย (ถนนอินทามระ) มีสำนักงานใหญ่ธนาคารออมสิน, สถานีสำรวจบางซื่อ  ถ้าเลี้ยวเข้าถนนสุทธิสารฯ จะไปออกถนนวิภาวดีรังสิต  ขึ้นดอนเมืองโทลเวย์ได้  (ถ้าไม่ได้ไปทางจตุจักร) ส่วนถนนประดิพัทธ์จะวิ่งไปตัดกับถนนพระราม 6  ที่วิ่งขนานไปกับทางพิเศษศรีรัชด้านบน   ถ้าหากจะใช้ทางด่วน  ด่านเก็บเงินจะมีให้เลือก 2 จุด คือด่านพระราม 6 หรือกำแพงเพชร  ระยะทางไม่ต่างกันมากค่ะ

ในภาพรวมฝั่งทิศเหนือของโซนสะพานควายจะเป็นโซนจตุจักร (หมอชิต) และบางซื่อ ซึ่งในอนาคตจะพัฒนาเป็น Bangsue Complex ศูนย์กลางการเดินรถระบบรางของประเทศ เป็น mix-used มีอาคารสำนักงาน, ศูนย์การค้า และพื้นที่นันทนาการเพิ่มขึ้นอีกด้วย  จากเดิมที่มีตลาดสด อตก., ตลาดนัดสวนจตุจักร และสวนสาธารณะใหญ่ๆ 3 แห่งอยู่แล้ว คือ สวนจตุจักร, สวนรถไฟ และสวนสมเด็จย่าฯ  ….  ส่วนศูนย์การค้าใหญ่ๆ ในย่านนี้จะไปกระจุกตัวอยู่แถวห้าแยกลาดพร้าวค่ะ มี Central ลาดพร้าวและ Union Mall   

ถ้าลงใต้จากสะพานควายจะเข้าย่านอารีย์  โซนนั้นจะมีความเป็น lifestyle มากกว่าหน่อย   มี La Villa Aree และตึกสำนักงานใหญ่ๆ เยอะมาก อย่างเช่น อาคาร Exim Bank, Pearl Bangkok ที่เป็นสำนักงานใหญ่ของพฤกษาเอง, SME Bank Tower เป็นต้น

ทีนี้มาดูเพื่อนบ้านใกล้เคียง เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์ บ้าง โครงการจะอยู่ระหว่างซอยประดิพัทธ์ 23 และ 25  ตรงหัวมุมปากซอยประดิพัทธ์ 23 จะเป็นตึกแถวสูง 3 ชั้น (หมายเลข 1)  ส่วนด้านหลังก็ติดกับตึกแถวสูง 4 ชั้นในซอย (หมายเลข 2) ส่วนข้างซอยประดิพัทธ์ 25 จะเป็นตึกแถว 5 ชั้น กับอาคารสูง 8 ชั้นตรงหัวมุมแยกสะพานควายค่ะ (หมายเลข 3)  … ฝั่งตรงข้ามถนนประดิพัทธ์เองก็เป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์ยาวตลอดแนว (หมายเลข 4)  และจะมองเห็นคอนโด Life พหล-อารีย์ (หมายเลข 5) เป็นฉากหลัง ซึ่งถนนเส้นนี้คือว่ามีคอนโดสูงอยู่พอสมควร  เพื่อนบ้านที่ใกล้กันมากที่สุดเป็นคอนโด The Line พหลโยธิน-ประดิพัทธ์ (หมายเลข 6) ค่ะ

สภาพแวดล้อมรอบคอนโด

พาไปเดินเล่นรอบๆ ก่อนเข้าคอนโด The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ ค่ะ

หน้าทางเข้าโครงการจะมีสะพานลอยข้ามไปยังตึกแถวอีกฝั่ง

บรรยากาศตลอดถนนประดิพัทธ์เป็นตึกแถวสูง 4 ชั้นตลอดแนว

เดินไปทางซอยประดิพัทธ์ 21 จะมีร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven

มีร้านแลกเงินอยู่หลายร้านเลยค่ะ

ร้านขายยาและร้านอาหารก็มีอยู่เป็นระยะๆ  ใช้ชีวิตทั่วไปไม่ลำบากค่ะ

กลับมาขึ้นสะพานลอยที่อยู่หน้าโครงการกันบ้าง แล้วมองเข้าถนนประดิพัทธ์ ตึกแถวล้วนๆ

หันกลับมาอีกฝั่งมองไปทางแยกสะพานควายค่ะ เราเดินไปสำรวจบริเวณแยกกันต่อดีกว่า

เราเดินกลับมาผ่านหน้าโครงการมานิดเดียว จะมีซอยประดิพัทธ์ 25  เข้าไปหน่อยมีตลาดสด  แต่ก็คงไม่ได้ซื้ออะไรหรอก  อยู่คอนโดนี้ก็เข้าห้าง ไป Gourmet Market กันอยู่แล้ว

ทางเดินตามถนนหลักก็มีร้านค้าบนทางเท้า เราเดินผ่านกันมาแล้วรอบนึง  ก็เป็นธรรมชาติของโซนนี้นะคะ

ตรงแยกสะพานควายมีสะพานลอยเชื่อมโดยรอบด้วย จะได้ไม่ต้องเดินข้ามถนนให้อันตรา เราเดินขึ้นไปดูกันดีกว่า

เรามองกลับไปที่ต้นถนนประดิพัทธ์ จะเห็นตึกสูง 8 ชั้นอยู่ติดหัวมุม

ถ้ามองไปทาง BTS สะพานควายจะเห็นตึกนี้กินพื้นที่ไปหลายคูหา

อีกฝั่งเป็นตึกแถวสูง 4 ชั้น ของขายเยอะพอกัน มีร้านขายทอง

มองไปทางถนนอินทามระจะเข้าถนนสุทธิสารวินิจฉัยไปออกถนนวิภาวดีรังสิตได้  ถ้าจะไปบิ๊กซี สะพานควาย  สามารถเข้าทางด้านหลังจากถนนอินทามระได้นะคะ  ไม่จำเป็นต้องไปกลับรถเข้าทางพหลโยธินอย่างเดียว

สุดท้ายมองไปทางพหลโยธินฝั่งขาเข้า มุ่งหน้าไปทางอารีย์ค่ะ ตึกแถวยาวๆ

เดินกลับไปที่ BTS สะพานควายกันค่ะ ดูซิว่ามีไรกินบ้าง

อย่างร้านนี้เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อตุ๋น ร้านข้าวมันไก่ด้านใน ราคาย่อมเยาว์

ฝั่งตรงข้ามเป็น Big C สะพานควาย เดินข้ามทางม้าลายไปได้

ร้านสะดวกซื้อ 7-Eleven มีอยู่เรื่อยๆ  ทุกระยะ เพราะคนเยอะจริงๆ

ร้านก๋วยเตี๋ยวหมูต้มยำนัว ร้านนี้อร่อยค่ะ คอนเฟิร์ม

คอนโด ONYX Phahonyothin อยู่ตรงข้าม Big C

The Signature by Urbano จะอยู่ถัดมา

คอนโด The Editor สะพานควาย ที่อยู่ติดสถานี

โรงพยาบาลเปาโล เมมโมเรียล พหลโยธิน ค่ะ

ทีนี้นั่งรถไฟฟ้าไปทำสำรวจย่านอารีย์กันบ้าง

อารีย์จะมีตึกสำนักงานและคอนโดสูงอยู่พอสมควร บรรยากาศจะคนละแบบเลย

มีคอมมูนิตี้มอลล์อย่าง  La Villa อารีย์

ตึกธนาคาร SME

ตึกสำนักงาน EXIM

อาคารเพิร์ล แบงก์ค็อก

อาคารปิยวรรณ อยู่ติดสถานี BTS อารีย์เลยค่ะ

ทีนี้นั่งมายัง BTS หมอชิต ที่เป็นสถานี Interchange กับ MRT จตุจักร

นอกจากเป็น Interchange แล้วยังเป็นจุดรับส่งของรถโดยสารต่างๆ ทั้งรถเมล์ ท่ารถตู้ค่ะ  มีสวนจตุจักรมาวิ่งออกกำลังกายได้ค่ะ  ถ้านั่งรถต่อไปอีกหน่อยจะมีสวนรถไฟกับสวนสมเด็จ พระนางเจ้า สิริกิติ์ อีกด้วย

กลุ่มตึกหลังสวนจะเป็นพวก JJ Mall อยู่หลังตลาดนัดจตุจักรค่ะ ถัดจาก JJ Mall ไปจะเป็น Bangsue Complex ฮับใหญ่ของรถไฟ และรถไฟฟ้าหลายสายในอนาคต

และมีที่จอดรถและศูนย์ซ่อมบำรุง BTS อยู่แถวสถานีค่ะ

ถ้านั่ง MRT ไปอีกสถานีจะถึงห้าแยกลาดพร้าว มี Central ลาดพร้าวและ Union Mall ให้ไปช้อปปิ้งกัน

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

สำรวจทำเลรอบๆ กันจนเหนื่อยแล้ว เข้าไปนั่งพักในสำนักงานขาย The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ ดีกว่า

ตัวสำนักงานขายจะอยู่ปากซอยประดิพัทธ์ 21 พอดี เป็นที่ตั้งจริงๆ ของโครงการ 

เข้ามาในสำนักงานขายจะเจอกับเคาน์เตอร์ต้อนรับ

โลโก้โครงการ The Reserve Phahol-Pradipat

โถงต้อนรับจะสูง Double Floor มีห้องตัวอย่างอยู่ที่ชั้น 2  ตกแต่งหรูหราทันสมัย บรรยากาศโดยรวมเลียนแบบ Mood & Tone ของโถงล็อบบี้ในโครงการจริงๆ  เวลาเข้ามาข้างในแล้วรู้สึกได้ชัดเจนว่าบรรยากาศแตกต่างจากด้านนอกเลย

ข้างๆ โถงก็ทำเป็นสวนหิน ตกแต่งด้วยผนังต้นไม้ โชว์หน้าต่างบานใหญ่และพื้นที่ Double Floor แบบนี้ แสดงถึง Idea ออกแบบห้อง Loft ที่ให้ฝ้าสูงแน่เลย

ชุดรับลูกค้าหลายจุดและมีมอนิเตอร์อยู่ด้านหน้า แสดงรูปแบบอาคาร พื้นที่ส่วนกลางต่างๆ  นั่งดู Animation กันได้เพลินๆ

มีบางส่วนกั้นเป็นห้องเล็กแยก

ก่อนขึ้นบันไดไปดูห้องตัวอย่าง The Reserve Phahol-Pradipat  ที่ชั้นสองจะเจอรูปปั้นเสือหิมะ ที่เป็น Symbolic ของโครงการนี้ค่ะ สื่อถึงกลุ่มเป้าหมายวัยทำงาน นักธุรกิจรุ่นใหม่ไฟแรง (อ่อ… แต่โครงการห้ามเลี้ยงเสือในคอนโดนะคะ :P)

ห้องตัวอย่างมีให้ดู 2 ห้อง คือ 1 Bedroom Loft ห้องฝ้าสูง Type A 3 และ 1 Bedroom Simplex Plus แบบ C3 ที่เราจะพามาเจาะลึกกัน

ดูผังโครงการ  ตำแหน่งการเข้าถึง

ที่ดินของโครงการ  The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์  จะขนาบข้างด้วยซอยประดิพัทธ์ 23 และ 25 ดังนั้น รั้วด้านข้างจะไม่ติดกับใคร  ฝั่งซอยประดิพัทธ์ 23 หรือทิศตะวันตก จะหันไปเจอบ้านและตึกแถวสูง 3 ชั้น  ทิศตะวันออกจะเจอตึกสูง 8 ชั้นที่อยู่ตรงหัวมุมแยกสะพานควายค่ะ  ส่วนทิศเหนือหรือด้านหลังจะติดกับตึกแถวในซอยสูง 4 ชั้น ระยะใกล้ๆ จะไม่มีตึกสูงอยู่ติดแบบกระชั้นเลย

โครงการวางผังตัวคอนโดโดยจะร่นเข้ามาด้านในมากที่สุดเท่าที่จะทำได้  เพื่อทิ้งระยะห่างจากถนนใหญ่ใหม่มาที่สุด  แล้วจัดสวนเอาคั่นไว้เพื่อให้ลูกบ้านเป็นส่วนตัวมากขึ้น ลดความวุ่นวายจากถนนไป

ถ้าเดินมาด้านหลังสำนักงานขาย คือเข้าซอยประดิพัทธ์ 23 มาอีกนิด บริเวณที่ล้อมรั้วเอาไว้จะเป็นที่ตั้งโครงการค่ะ 

บ้านเดี่ยวจะอยู่ฝั่งตรงข้าม ปลูกต้นไม้เอาไว้ร่มรื่น มีพี่วินมอไซต์พอดีเลย

ฝั่งทิศเหนือจะติดกับด้านข้างของตึกแถวสูง 4 ชั้น

ถ้าลึกเข้าไปในซอยอีกจะมีอพาร์ตเมนต์ต่างๆ สูง 8 ชั้นเต็มเลยค่ะ

ส่วนด้านข้างฝั่งทิศตะวันออก เป็นตึกสูง 5 – 8 ชั้นอยู่ติดหัวมุมแยกสะพานควาย แต่จะมีซอยประดิพัทธ์ 25 คั่นกลาง  ด้านหลังอาคารที่ติดกันฝั่งนี้จะทึบไปเลย

ที่ดินภายในโครงการตอนนี้ก็เคลียร์ไว้โล่งๆ แล้ว

ฝั่งทิศใต้ที่หันเข้าถนนประดิพัทธ์ จะเห็นคอนโด Life พหล-อารีย์ สูง 20 ชั้น  แต่ไม่ได้อยู่ติดกันนะคะ อยู่ห่างออกไปพอสมควร

หากเข้ามาในซอยประดิพัทธ์ 25 ก็จะเห็นรั้วโครงการกั้นเป็นแนวยาวอยู่แบบนี้ค่ะ

ทิศทางแดด  ฝั่งไหนร้อน?  ฝั่งไหนร่ม?

ตัวคอนโด  เดอะรีเซิร์ฟ พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะมีแปลนรูปตัว L วางตัวแนวยาวในแนวทิศเหนือ-ใต้  มียูนิตให้เลือกครบทุกทิศค่ะ  ทิศเหนือจะหันเข้าไปในซอย เป็นทิศที่อากาศเย็นสบายที่สุด เพราะไม่โดนแดดทั้งวันและยังหันออกจากถนนใหญ่ทำให้หลบเสียงดังวุ่นวายด้วยค่ะ  ทิศตะวันออกจะติดกับซอยประดิพัทธ์ 25 ฝั่งที่ตึกสูง 5 – 8 ชั้นอยู่ เลือกชั้น 10 ขึ้นไปน่าจะพ้น เป็นด้านที่เห็นพระอาทิตย์ขึ้นช่วงเช้าๆ  แดดยังไม่แรง  ฝั่งทิศใต้จะหันหน้าเข้าถนนประดิพัทธ์ ร้อนตอนบ่ายๆ มากกว่าเพื่อน  มองเห็นคอนโด Life  สุดท้ายฝั่งทิศตะวันตกที่หันเข้าซอยประดิพัทธ์ 23 จะร้อนช่วงบ่ายแก่ๆ ถึงช่วงเย็นๆ เห็นพระอาทิตย์ตกดินค่ะ

ตำแหน่งอาคารสูงรอบๆที่มีผลต่อมุมมองจากตัวคอนโด

ทีนี้มาดูภาพมุมสูงกันบ้าง The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะสูง 25 ชั้น โดยเริ่มชั้นพักอาศัยตั้งแต่ชั้น 8 ขึ้นไป  ซึ่งก็น่าจะพ้นระยะจากคอนโดรอบๆ แล้วหล่ะ

• ห้องที่หันเข้าทิศตะวันออกอาจจะเห็นหลังคาของอาคารสูง 8 ชั้นที่หัวมุมถนนหน่อย ส่วนชั้นบนๆ ฝั่งทิศตะวันออกไม่มีปัญหาค่ะ ได้วิวเปิดโล่งไปไกลเลย
• ทิศใต้ฝั่งที่หันออกหน้าโครงการจะได้วิวถนนประดิพัทธ์ เห็นคอนโด Life พหล-อารีย์ สูง 20 ชั้น  ยังดีหน่อยที่ไม่ได้กระชั้นมาก  อยู่ห่างออกไป
• ทิศตะวันตกจะหันเข้าหาบ้านเรือนในซอยประดิพัทธ์ต่างๆ เยื้องๆ กันจะเจอคอนโด The Line พหล-ประดิพัทธ์ สูง 46 ชั้นค่ะ แต่ตำแหน่งตึกไม่ได้อยู่ตรงกันและอยู่ห่างออกไปพอสมควร มุมนี้ก็เลยยังถือว่าได้วิวเปิดโล่งอยู่ค่ะ
• สุดท้ายห้องทิศเหนือจะไปในซอย ซึ่งจะมีอพาร์ตเมนต์สูง 8 ชั้นอยู่ห่างๆ ถือว่าได้วิวมองไปทางบางซื่อ, ถนนกำแพงเพชร แต่ถ้าหันขวาไปทางตะวันออกเฉียงเหนือหน่อยจะเห็นคอนโด Onyx พหลโยธิน ที่สูง 26 ชั้น  แต่ก็ไม่ถึงว่าบังวิวกันค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

สำรวจความเรียบร้อยรอบตัวคอนโดกันแล้ว ก็ไปดูพื้นที่ส่วนกลางของ The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ ต่อดีกว่า

The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะมีส่วนกลางให้มาครบถ้วน  และมีจุดเด่นตรงที่การบริการที่เพิ่มเข้ามาสะดวกสบายมากขึ้นตามแบบฉบับ Luxury Condominium

• ส่วนกลางสามารถใช้งานได้ 24 ชั่วโมง และสามารถจองห้องใช้งานล่วงหน้าได้ผ่าน Application ของพฤกษา เรียกว่า On-Demand Facilities Control ไม่ต้องเดินไปจองกับนิติบุคคลให้ยุ่งยาก
• มีบริการ Concierge Service by The Reserve เหมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัว ช่วยบริการซักรีด, รับส่งพัสดุ, บริการจองตั๋วต่างๆ ให้ดูแลตลอด 24 ชั่วโมงเช่นกัน
• ที่จอดรถก็มีแบบ Automatic Parking และระบบ Conventional Car Parking พร้อมจุดชาร์ตไฟฟ้าให้กับรถยนต์ไฟฟ้ารองรับการใช้งานในอนาคต
• High Speed Wireless Internet ในพื้นที่ Lobby และพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ

Facilities ชั้นล่างจะมีโถงต้อนรับ, สวนเล่นระดับอยู่ติดถนน  ชั้น 8 มีสวน Pocket Garden ให้ออกมาพักผ่อน  ส่วนใหญ่จะอยู่ที่ยอดอาคารชั้น 25 มี Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 23 x 5 เมตร ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก แต่จะมีสระส่วนตื้นๆ วางเก้าอี้นั่งพักข้างสระ, Sky Fitness, Community Space ที่สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง มี Co-Working Space แบบ Indoor & Outdoor,  All-day Pantry และ Multi-Purpose Room โดยห้องอเนกประสงค์สามารถปรับเป็น Meeting Room หรือ Amphitheatre ได้ตามต้องการค่ะ  ถ้าเดินขึ้นบันไดมาที่ชั้น 25M หรือชั้นลอย จัดเป็น Skyline Lounge มองลงไปเห็นสระว่ายน้ำค่ะ และสุดท้ายที่ชั้นดาดฟ้าจะเปิดโล่งเป็นสวนและลานปาร์ตี้ค่ะ

สำหรับสัดส่วนการใช้งานนั้น  สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัวกับ 260 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 87 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าออกมาดีมากเลย  ที่จอดรถ 65% ทั้งที่จอดรถปกติและระบบ Auto ตัวเลขอาจดูไม่เยอะ  แต่โดยธรรมชาติของ Luxury Condo ที่คนอยู่กันไม่เต็มอยู่แล้ว  ใช้งานก็เลยไม่น่าจะได้อยู่ค่ะ

.

ดูแปลนชั้นล่างกันก่อนค่ะ สวนเล่นระดับจะอยู่ติดถนนประดิพัทธ์ ซึ่งปัจจุบันเป็นที่ตั้งสำนักงานขาย เดินผ่านสวนเข้ามาถึงจะเจอตัวอาคารที่อยู่ด้านใน   ทางเข้ารถยนต์จะขับเข้ามาในซอยประดิพัทธ์ 23 ค่ะ แล้วก็เลี้ยวเข้ามาในโครงการ วนรถดร็อปคนได้ที่ด้านหน้าแล้วก็ขับขึ้นที่จอดรถ Automatic Parking หรือที่จอดรถธรรมดาด้านข้างได้  เวลาวนรถออกก็วนไปด้านหลังโครงการค่ะ ทางเข้าออกเลยจะมีรถ Cross กันนิดหน่อยตรงทางเข้า ซึ่งรถก็คงไม่ได้เยอะอะไร  ส่วนคนเดินจะเข้ามายังโถงต้อนรับชั้นล่าง ก่อนเข้าโถงลิฟต์ ห้องนิติบุคคลจะอยู่ชั้นล่างติดกับห้องเครื่องค่ะ

ชั้น 8 จะเป็นชั้นเหนือโพเดียมจอดรถ มีสวนหย่อมให้ 1 จุด เหนือโพเดียมที่จอดรถ

ชั้น 25 จะมีส่วนกลางครบถ้วน ทั้งสระว่ายน้ำ, ห้องฟิตเนส, ห้องซาวน่า, ห้องสตรีม, Community Space 24 ชั่วโมง ซึ่งมีบาร์และเครื่องดื่มบริการอยู่ด้านใน มีทั้งที่ทำงานในห้องและกลางแจ้งในสวน รวมถึงห้องอเนกประสงค์ Adaptive Function Room สามารถทำเป็นห้องประชุมหรือดูหนังก็ได้ค่ะ

ชั้นลอย 25M สามารถเดินขึ้นลิฟต์หรือบันไดมายัง Skyline Lounge ได้ เป็นห้องกระจก มองเห็นวิวสระว่ายน้ำ และหันเข้าทิศเหนือด้วย แดดไม่ร้อนทั้งวัน  นั่งเล่นตรงนี้น่าจะเท่ดี

สุดท้ายที่ชั้นดาดฟ้า จัดเป็นสวนและมีมุมนั่งเล่นต่างๆ หลายจุด เช่น Outdoor Cinema, ลานปาร์ตี้กลางแจ้งและ Roof top Pantry มาทำอาหารจัดปาร์ตี้กันได้ค่ะ

งานออกแบบโครงการ The Reserve จะออกแบบภายใต้แนวคิด “STYLISH IS MODERN TIMELESS” ใช้วัสดุที่เรียบง่าย หรูหรา แต่มีความร่วมสมัย เช่น กระจก เหล็ก แสตนเลส และพื้นผิวลายหิน  อิมเมจมันจะไม่ได้หวือหวามาก  แต่เน้นดูเรียบเท่ไปได้นานๆ 

เมื่อเดินผ่านสวนด้านหน้าเข้ามาจะถึงตัวอาคารที่อยู่ด้านใน คุมโทนสีเทาอ่อน-เทาเข้ม  ใช้เส้นสายของสถาปัตยกรรมโดยเน้นเส้นตั้งและเส้นนอนเป็นหลัก

บรรยากาศในโถงต้อนรับค่ะ ดูเรียบหรู คุมโทนสีสบายตา เหมือนกับบรรยากาศในสำนักงานขายแต่ฝ้าไม่สูง

ขึ้นมาชั้น 25 ที่ห้องฟิตเนสได้ฝ้าสูง ติดกระจกสูงมองเห็นวิวเมืองได้ทั่ว

Community Space จองใช้งานได้ 24 ชั่วโมง ใครชอบทำงานกลางคืนหรือมีสมองแล่นไอเดียพลุ่งพล่านตอนกลางคืนต้องถูกใจแน่  ไม่ต้องมานั่งทำงานอยู่แต่ในห้อง  เพราะโดยปกติ facilities ของคอนโดทั่วไปก็จะเปิดแค่ 3-4 ทุ่ม

Skyline Lounge ที่จะอยู่ชั้นลอยเหนือสระว่ายน้ำ เป็นห้องแคบยาวติดหน้าต่าง หันเข้าทิศเหนือ สามารถนั่งเล่นได้ตลอดทั้งวัน  มุมนี้เท่ดีเนอะ

ส่วนชั้นดาดฟ้าก็จัดเป็นสวนและ Outdoor Cinema นั่งดูหนังรับวิวไปด้วย

เปิดผังคอนโด  Typical Floor Plan

Floor Plan คอนโด The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์
ชั้น 9 – 21

ที่ชั้น 8 จะเริ่มเป็นชั้นพักอาศัยและมีสวนหย่อมพักผ่อน แต่แปลนจะเหมือนกับชั้น Typical ชั้น 9 – 21 ค่ะ เลยขอพูดรวบไปพร้อมๆ กัน  ห้องชั้น 8 – 21 มีแต่ห้องแบบ 1 Bedroom Loft มีอยู่ 16 ห้องใน 1 ชั้น  มีห้องให้เลือกครบทุกทิศแล้วแต่ชอบเลยค่ะ (วิเคราะห์ให้อ่านกันไปแล้วว่าแต่ละด้านเป็นยังไงเนอะ ^^)  ขนาดของห้องแต่ละห้องจะไม่เท่ากันนะคะ ต่างกันไม่มาก ลิฟต์โดยสารจะอยู่ตรงกลางอาคารพอดี สามารถเดินไปยังห้องแต่ละตำแหน่งได้ไม่ไกลเกินไป  ไม่ได้มีห้องไหนที่ไกลจากโถงลิฟต์มากเกิน  และมีหน้าต่างระบายอากาศอยู่ปลายโถงทางเดินค่ะ

Floor Plan คอนโด The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์
ชั้น 22-24

แปลนพักอาศัย 3 ชั้นบนสุดจะมีแต่ห้องแบบ 1 Bedroom Simplex และ Simplex Plus ค่ะ  มีจำนวนห้องแค่ชั้นละ 12 ห้องเท่านั้นเอง  ค่อนข้างเป็นส่วนตัว โดยห้องกราฟิกสีเขียวจะเป็นแบบ Simplex Plus ขนาดใหญ่ อยู่ตามหัวมุมอาคารทิศตะวันตกและทิศตะวันออกเท่านั้น จะไม่มีห้องฝั่งทิศใต้ให้เลือก ส่วนห้องกราฟิกสีเทาจะมีขนาดเล็กลงมาหน่อย 29.45 – 40.40 ตร.ม. มีอยู่ทุกทิศเลย แล้วแต่ชอบ

ชั้น 22 จะเริ่มเป็นชั้นลดหลั่นห้องด้านหน้าออกไป จึงมีพื้นหลังคาชั้นล่างให้เห็น

ชั้น 23 – 24 ก็มีแปลนเหมือนชั้น 22 ค่ะ

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะมีห้องแตกต่างจากโครงการอื่นๆ คือการออกแบบให้พื้นที่ในห้องนั่งเล่นเป็น Double Volume ในห้องแบบ Loft และเพิ่มความกว้างของห้องนั่งเล่นให้มากขึ้นในห้องแบบ Simplex … โดยห้องส่วนใหญ่จะเป็น Loft เพดานสูงค่ะ และแต่ละแบบก็จะแบ่งย่อยออกเป็นหลายขนาดดังนี้

• 1 Bedroom Loft ขนาด 28.40 – 38.95 ตร.ม.
• 1 Bedroom Simplex ขนาด 29.45 – 40.40 ตร.ม.
• 1 Bedroom Simplex Plus ขนาด 47.30 – 48.70 ตร.ม.

แปลนห้องคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat

แบบ 1 Bedroom Loft ขนาด 28.40 – 38.95 ตร.ม.

ยกตัวอย่าง Type A 4 มาให้ดูนะคะ Type อื่นๆ ก็จะมีลักษณะคล้ายๆ กัน  สำหรับห้องนี้เมื่อเปิดเข้าห้องจะเจอกับพื้นที่แพนทรี่และโต๊ะรับประทานอาหาร บริเวณนี้ฝ้าจะสูง 2.2 เมตร เนื่องจากมีชั้นลอยที่เป็นห้องนอนอยู่ชั้นบน  ใกล้ๆ กับแพนทรี่จะเป็นห้องน้ำที่แบ่งส่วนเปียก-แห้งเรียบร้อยค่ะ

ถัดจากส่วนแพนทรี่เข้าไปถึงจะเป็นสเปซที่พื้นที่ฝ้าสูง 4.4 เมตร โดยจะทำฝ้ากลางห้องดรอปลงให้ วัดแล้วจะมีความสูง 4.2 เมตรค่ะ  ติดกับประตูบานเลื่อนออกระเบียงที่ยาวเต็มความกว้างของห้อง  ซึ่งกระจกที่ให้มาก็สูงพอๆ กับความสูงผนังเลย  ทำให้สเปซนั่นจะดุโล่งมาก  ทำเป็นพื้นที่นั่งเล่นหรือทำงานรวมกันได้ ด้านหลังโซฟาจะเป็นที่วางตู้เสื้อผ้า ส่วนหลังทีวีจะเป็นบันไดโครงสร้างเหล็กเดินขึ้นไปยังส่วนนอนที่อยู่ชั้นลอยค่ะ

บนชั้นลอยจะไม่มีประตูกั้น พื้นที่พอแค่วางเตียง 5 ฟุต และโต๊ะข้างเตียงเล็กๆ ได้เท่านั้นค่ะ  ถือว่าการเพิ่มพื้นที่ตรงห้องนั่งเล่นนั้นสูงและทำให้ห้องดูใหญ่ขึ้นมาก แต่ก็เปลืองแอร์ตามไปด้วย  อยู่ห้องแบบนี้เน้นคนหนุ่มสาว และวัยผู้ใหญ่เท่านั้น  ถ้าเป็นผู้สูงอายุหน่อย เดินขึ้นลงไม่เหมาะแน่ๆ

แปลนห้องคอนโด The Reserve Phahol-Pradipat

แบบ 1 Bedroom Simplex Plus ขนาด  47.30 – 48.70 ตร.ม.

Type นี้จะเป็นห้องขนาดใหญ่สุด จะอยู่ตามหัวมุมอาคารต่างๆ มีชั้นละแค่ 4 ห้อง  รวมแล้วทั้งโครงการมีแค่ 12 ห้องเท่านั้น ซึ่งเป็น 3 ชั้นบนสุด ดังนั้นเรื่องโดนบล็อควิวไม่มีแน่นอน ก็สบายใจได้เลยถ้าซื้อห้อง Type นี้ค่ะ  เรายกตัวอย่าง Type C3 มาให้ดู พื้นที่ส่วนแรกของห้องก็จะเป็นแพนทรี่ครัว, พื้นที่รับประทานอาหารและห้องนั่งเล่นอยู่ในบริเวณเดียวกัน  ซึ่งพื้นที่นั่งเล่นอยู่ติดระเบียงยาวเต็มความกว้างของห้องนั่งเล่นอีกด้วยทำให้ห้องดูกว้างขึ้น แล้วก็การจัดเฟอร์จะจัดให้โต๊ะและโซฟาอยู่ติดกัน ดู Compact ดี ช่วยประหยัดพื้นที่ค่ะ  อีกด้านนึงของห้องจะเป็นห้องนอนใหญ่อยู่ติดหัวมุมอาคาร จุดเด่นคือหน้าต่างเข้ามุม 2 ด้านเลย  ถัดมาเป็นห้องน้ำที่เข้าออกได้ทั้งจากพื้นที่นั่งเล่นและห้องนอน ส่วนอีกห้องจะเป็นห้องอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องทำงานหรือห้องนอนเล็กได้อีกห้องนึงค่ะ

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่างที่จะพาไปดูวันนี้ คือ แบบ 1 Bedroom Loft Type A4 และ 1 Bedroom Simplex Plus Type C3 ค่ะ  ห้องที่ได้จริงจะเป็นแบบ Fully Fitted  ได้เคาน์เตอร์แพนทรี่ครัว ตู้ครัว ตู้เก็บรองเท้า เครื่องปรับอากาศ และชุดสุขภัณฑ์ห้องน้ำค่ะ  ความสูงฝ้าของห้อง 1 Bedroom Loft ตรงห้องนั่งเล่นบริเวณดรอปฝ้าสูง 4.2 เมตร ฝ้าจริง 4.4 เมตร ส่วนแพนทรี่ใต้ห้องนอนจะสูง 2.2 เมตร ส่วนห้อง 1 Bedroom Simplex และ Plus ความสูงห้องทั่วไปอยู่ที่ 2.7 เมตร นะคะ

ห้องตัวอย่างคอนโด เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์

แบบ 1 Bedroom Loft แบบ A4 ขนาด 29.75 ตร.ม.

เริ่มด้วยห้องแบบ 1 Bedroom Loft ที่มีจำนวนมากที่สุดในโครงการ พอเปิดประตูเข้าห้องจะเจอกับส่วนแพนทรี่และโต๊ะรับประทานอาหาร ยังเป็นส่วนที่ฝ้าสูง 2.2 เมตรค่ะ ถัดเข้าไปถึงจะเป็นสเปซส่วนพื้นที่นั่งเล่นที่ได้ฝ้าสูงเป็น Double Floor

ข้างๆ แพนทรี่ครัวจะมีห้องน้ำ ภายในตกแต่งโทนสีขาว สีเทา ใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ปูดูเรียบหรู

มองกลับไปที่อ่างล้างหน้าค่ะ มีลูกเล่นการซ่อนไฟ Indirect Light ตรงกระจกเงาด้วย

แพนทรี่ครัวจะเข้ามุมรูปตัว L มาครบเซ็ตแบบนี้เลย หน้าบานเป็นกระจก Hi-Gloss และผนังด้านหลังกรุด้วยกระจกชาสีทอง ดูหรูหรา ส่วนตำแหน่งโต๊ะรับประทานอาหารจะจัดไว้ใกล้ๆ กัน กระชับพื้นที่ (แต่ไม่มีแถมให้นะ)

ตรงห้องนั่งเล่นจะอยู่ติดประตูบานเลื่อนขนาดใหญ่ และสูง 3.6 เมตร ส่วนฝ้าสูง 4.2 เมตร ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในห้องเต็มที่ ห้องดูกว้างมากขึ้น

ด้านหลังโซฟาจะเป็นผนังสูง ซึ่งจะมีแถมเป็นตู้เสื้อผ้าล่างซ้ายให้ แต่ตู้โชว์ของทางขวาและตู้ด้านบนเป็นการตกแต่งเพิ่มค่ะ   หน้าบานตู้ที่ได้เป็น Tint Morror สีชาทอง ช่วยสะท้อนให้ห้องกว้างขึ้นด้วย

เหนือแพนทรี่ครัวจะเป็นชั้นลอยซึ่งทำเป็นสเปซส่วนนอนค่ะ ราวกันตกจะเป็นกระจกใสแบบห้องตัวอย่างเลย

ออกมายืนที่จะเบียงก็กว้างประมาณ 80 ซม. และมีความยาวเท่ากับหน้ากว้างของห้องเลยค่ะ

อีกฝั่งนึงของระเบียงจะเป็นที่แขวนคอมเพรสเซอร์แอร์ มีแนวระแนงบังสายตาให้เรียบร้อย

ถ้าวางโซฟาไว้กลางห้องแล้วมองไปยังทีวีจะมีระยะประมาณนี้ค่ะ ด้านหลังเป็นบันไดขึ้นชั้นลอย

ขึ้นมาดูชั้นลอยกันบ้างดีกว่า

พื้นที่จะกว้างพอวางเตียงขนาด 5 ฟุตได้อยู่ รวมกับโต๊ะข้างเตียงซักตัว

มองกลับลงไปด้านล่าง

ห้องตัวอย่างคอนโด เดอะ รีเซิร์ฟ พหลฯ – ประดิพัทธ์

แบบ 1 Bedroom Simplex Plus แบบ C3 ขนาด 48.70 ตร.ม.

เมื่อเข้ามาในห้องจะเจอกับสเปซส่วนนั่งเล่นหน้ากว้าง 5 เมตร มีโต๊ะรับประทานอาหารและโซฟาอยู่ติดกันกลางห้อง เพื่อให้มีพื้นทีว่างเดินรอบๆ ได้ และได้แสงธรรมชาติจากระเบียง

มองกลับไปยังทางเข้าห้องจะเป็นแพนทรี่ยาวเต็มผนัง ซึ่งจะได้แถมครบชุดแบบนี้เลย  ไม่ต้องทำเพิ่มเอง

มุมนั่งเล่นอยู่ติดระเบียง ประตูออกระเบียงบานกว้างมาก

มุมนี้เห็นภาพรวมของห้องมากขึ้น

มองกลับเข้าไปในห้องตรงโซฟาจะเป็นมุมในห้องกว้างๆ

ระยะนั่งดูทีวีจะเห็นทีวีประมาณนี้ค่ะ  สามารถทำชั้น Built-in สูงได้เต็มผนังเลย

ถ้ามองออกมาจากห้องน้ำจะเห็นห้องนั่งเล่นแบบนี้ ห้องจริงจะโล่งๆ สามารถจัดห้องได้หลากหลายตามความห้องการค่ะ

ระเบียงข้างห้องจะยาวเกือบ 5 เมตร เต็มความกว้างของห้องนั่งเล่นเลยค่ะ ความกว้างประมาณ 80 ซม. วางกระถางต้นไม้ได้

หลังโซฟาจะเป็นทางเข้าห้องอเนกประสงค์ทางซ้าย ตรงกลางเป็นห้องน้ำ ห้องนอนใหญ่จะอยู่ทางขวา

ส่วนห้องนอน จะวางเตียง 5 ฟุตได้ และยังพอมีทางเดินโดยรอบ

หน้าต่างในห้องจะเป็นกระจกเข้ามุม 2 มุม ความสูงเกือบเต็มความสูงห้อง ให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง และมีบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศได้ 2 บาน

ปลายเตียงจะตรงกับผนัง ซึ่งยังสามารถแขวนทีวีได้ เหลือความกว้างประมาณ 60 ซม.

ด้านข้างเตียงที่ติดกับตู้เสือผ้า กว้างเกือบ 60 ซม.

ส่วนด้านข้างที่ติดกับหน้าต่างจะเหลือระยะกว้างประมาณ 40 ซม.  เดินรอบเปลี่ยนผ้าปูที่นอนได้

ถ้ามองออกจากห้องนอนจะเห็นมุมนี้

ห้องน้ำจะเข้าได้จากห้องนอนและห้องนั่งเล่นค่ะ แบ่งส่วนเปียก-แห้งเรียบร้อย โทนสีขาว  เน้นดู clean สะอาดตา

จบด้วยห้องอเนกประสงค์ค่ะ สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กได้อีกห้องหรือทำเป็นห้องนั่งเล่นทำงานก็ได้ มีหน้าต่างบานใหญ่ให้ด้วยค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

โครงการนี้ขายห้องแบบ Fully Fitted ได้แพนทรี่ครัว ตู้เก็บของ ตู้เก็บรองเท้าทำงาน ตู้เสื้อผ้า สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และเครื่องปรับอากาศค่ะ  วัสดุปิดผิวแพนทรี่และตู้เสื้อผ้าสวยงาม พื้นห้องน้ำปูแผ่นใหญ่ดีค่ะ รายละเอียดจะแบ่งเป็นรีวิววัสดุออกเป็น 3 ส่วน  คือ  วัสดุครัวและส่วนเตรียมอาหาร (pantry) , วัสดุห้องน้ำ , วัสดุทั่วไปและวัสดุปิดผิวภายในห้อง (Finishing Material)  เพื่อให้ส่องกันง่ายๆ เช่นเคยค่ะ

วัสดุห้องครัว / ส่วนเตรียมอาหาร (pantry)

ห้องแบบ Loft ห้อง Type A4 จะได้ชุดแพนทรี่ครััวเข้ามุม Top เคาน์เตอร์เป็นหิน Quartz

ห้องแบบ Simplex ก็ได้ Built-in ชุดแพนทรี่ครััวและตู้เก็บรองเท้า Top เคาน์เตอร์เป็นหิน Quartz  เช่นกัน

ตู้เก็บของปิดผิวตู้ด้วย Coating Glass

เปิดให้ดูพื้นที่เก็บของที่ตู้ติดผนังเหนือเคาน์เตอร์ค่ะ เก็บของได้พอสมควร

เวลาเปิดตู้จะมีขอบให้จับแบบนี้ ทำให้ภาพรวมของตู้สวยงาม  มีดีไซน์

บานตู้ปิดด้วยลามิเนตลายไม้

อ่างล้างจานยี่ห้อ MEX ขนาดใหญ่ พร้อมก๊อกน้ำทรงสูง

เก็บของที่ตู้ใต้อ่างล้างจานได้ พร้อมถังขยะในตัว

เครื่องดูดควันของ MEX

เตาไฟฟ้า 2 หัว ของ MEX เช่นกัน  

ลิ้นชักเก็บของมีช่องแบ่งช้อนส้อมให้เรียบร้อย ใช้วัสดุดีกว่าโครงการทั่วๆ ไป

ไมโครเวฟจะอยู่ใต้เคาน์เตอร์ มีลิ้นชักด้านล่าง อยู่ข้างๆ กับที่วางเครื่องซักผ้าค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

สุขภัณฑ์สีขาวของ Kohler

ส่วนอ่างล้างหน้าในห้องน้ำ ทรงสี่เหลี่ยมสีขาว มีชั้นเก็บของใต้อ่าง จาก LAVENZ

เก็บอุปกรณ์ห้องน้ำได้ที่ตู้ใต้อ่าง

กระจกเงาจะนูนออกมา ยาวเต็มผนังและมีซ่อนไฟไว้ด้านหลัง

พื้นห้องน้ำปูกระเบื้องแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ ลายหินสีน้ำตาลอ่อนจนเกือบขาว

ธรณีประตูห้องน้ำยกสูงจากพื้นห้องน้ำประมาณ 4 ซม. กันน้ำไหลออก ปิดด้วยแกรนิตโต้

ผนังห้องก็ติดกระเบื้องสีน้ำตาลอ่อนแผ่นใหญ่ทั้งห้องค่ะ มีหน้าต่างระบายกาศเหนือที่อาบน้ำให้ด้วย

ที่อาบน้ำมีทั้งฝักบัวและ Rain Shower ตามรูปค่ะ 

หน้าตาฝักบัวหรูหรา ของ Kohler

ที่วางสบู่เป็นแผ่นหินติดที่ผนัง ดูเรียบหรู ของ Tiffany Decor

พื้นทีอาบน้ำพอดีตัว ติดกระจกกั้นอาบน้ำไว้ตรงธรณี ที่ทำไม่สูงมาก

หน้าต่างบานกระทุ้ง ทำจากอะลูมิเนียมสีเทาเข้ม

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

ตัวล็อคประตูได้ Digital Door Lock รุ่น Top ของ Yale คือกดรหัส ใช้บัตรหรือใช้มือถือแตะเข้าห้องได้

ประตูหน้าต่างในห้อง ทำจากอะลูมิเนียม อบสีเทาเข้ม กระจกเขียวตัดแสง คุณภาพแข็งแรงค่ะ

หน้าตามือจับประตูบานเลื่อน

พื้นปูไม้ลามิเนต หนา 8 มม. ลายไม้สีน้ำตาลอ่อน

ตู้เก็บรองเท้า Bulit-in ติดผนัง ปิดผิวบานตู้ด้วย Coating Glass

เปิดให้ดูช่องเก็บของด้านในค่ะ เก็บไม้กวาด ร่ม ได้หมด  เพราะแบ่งด้านล่างไว้สำหรับเก็บของทรงสูง

ห้องใหญ่จะได้ตู้เก็บของอีกตู้นึงอยู่ข้างตู้เย็น

เครื่องปรับอากาศที่แถมให้ของ DAIKIN

สำหรับห้องแบบ Loft จะได้บันไดสีน้ำตาลเข้มเกือบดำ โครงสร้างเหล็ก แต่ลองเดินดูจากในห้องตัวอย่างแล้วก็แข็งแรงดี  ไม่มีเสียงก๊อกแก๊กค่ะ

ราวกันตกเป็นกระจกใสด้วยนาจา

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องแผ่นใหญ่ สีเทา ลดระดับจากห้องลงไป 10 ซม.

ระเบียงเหล็กสีดำ สไตล์โมเดิร์น เรียบๆ

ตู้เสื้อผ้าสวยค่ะ Built-in ติดผนัง ปิดผิวบานตู้ด้วยกระจก Tint Morror สีชาทอง

ในตู้จะมีช่องๆ แบ่งเก็บของและลิ้นชักให้เรียบร้อยค่ะ

สวิตซ์ไฟสีขาว ของ Legrand

ปลั๊กไฟสีขาวมาเป็นชุดเดียวกัน

วงกบประตูในห้องใช้สีขาว

ส่วนวงกบประตูเข้าห้องจะเป็นสีเทา

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

วันที่เราเข้าไปรีิวิว (31 สิงหาคม 2560) ราคา แบบ 1 Bedroom Loft ชั้น 8 – 12A ขายหมดเกลี้ยงแล้ว  ซึ่งห้องที่ขายออกไปมีราคาเริ่มต้น 4.9 ล้านบาท  และเนื่องจากขายดีเลยเปิดขาย 1 Bedroom Loft ที่ชั้น 14 – 21 เพิ่ม  ด้วยราคาเริ่มต้น 5.9 ล้านบาทค่ะ  สำหรับค่าส่วนกลางนั้น ห้อง loft จะแพงกว่าห้อง simplex อยู่ 10 บาท/ตร.ม./เดือน ค่ะ  เราหยิบราคามาให้ดูกันห้องนึงนะคะ

อัพเดต :  ราคา ณ พฤษภาคม 2561 เริ่มต้น 6.5 ล้านบาท

ราคา ณ วันที่  31 สิงหาคม 2560

ราคาเริ่มต้น :

แบบ 1 Bedroom Loft ชั้น 14 พื้นที่ 28.40 ตร.ม. ราคา 5.9 ล้านบาท  เฉลี่ยประมาณ 207,746  บาท/ตร.ม

เงื่อนไขการจอง :

• 1 Bedroom Loft และ 1 Bedroom Simplex
  จอง 130,000 บาท (รวมทำสัญญา)  ดาวน์ 9,900 บาท 20 งวด
  งวดบอลลูน 4 งวด (งวดที่ 4, 10, 15, 20) 25,000 บาท
• 1 Bedroom Simplex Plus
  จอง 180,000 บาท (รวมทำสัญญา) ดาวน์ 12,900 บาท 20 งวด
  งวดบอลลูน 4 งวด (งวดที่ 4, 10, 15, 20) 30,000 บาท

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

• 1 Bedroom Loft  ค่าส่วนกลาง 75 บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 2  ปี)
• 1 Bedroom Simplex, Simplex Plus   ค่าส่วนกลาง 65 บาท/ตร.ม.   (ชำระล่วงหน้า 2  ปี)
• ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  500 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

ตอนที่เราเดินไปสำรวจก็พบว่าการเดินเท้าจาก BTS สะพานควาย ไม่ถึงกับใกล้มาก แต่ยังเดินได้อยู่ 450 เมตร สภาพทางเดินก็ไม่ได้ลำบากอะไร ช่วงกลางวันมีร้านค้าและคนเดินกันตลอดทาง  ส่วนศูนย์การค้าหรือแหล่งช้อปปิ้งใกล้ๆ มีบิ๊กซี สะพานควาย ไว้สำหรับซื้อหาของใช้ทั่วไป  ส่วนศูนย์การค้าหรือแหล่งช้อปปิ้งอื่นๆ ต้องนั่งรถไฟฟ้าไปอีก 1 – 2 สถานี มี La Villa Aree, สวนจตุจักร, อตก., Central Ladprao, Union mall ค่ะ

การเดินทางด้วยรถส่วนตัว  ถนนประดิพัทธ์หน้าโครงการสามารถเลี้ยวซ้ายไปที่แยกสะพานควายไปทางจตุจักร  ถ้าตรงไปทางถนนอินทามระ (สุทธิสารวินิจฉัย) ก็ไปออกวิภาวดีได้เช่นกัน  ส่วนทางกลับกันไปทางถนนพระราม 6 มีทางพิเศษศรีรัชวิ่งขนานไปตลอดแนว  ถ้าจะขึ้นทางด่วน  ไปด่านพระราม 6 หรือด่านกำแพงเพชรก็ไม่ต่างกันมาก ได้เหมือนกันค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

บริเวณโซนสะพานควาย-ประดิพัทธ์  บรรยากาศเป็นตึกแถวอาคารพาณิชย์, คอนโด, อพาร์ทเม้นท์ และชุมชนเก่าที่มีคนพลุกพล่าน  แต่ที่ว่างเหลือค่อนข้างน้อย  การพัฒนาคอนโดในโซนนี้ส่วนใหญ่ก็จะต้องไปซื้อที่รวมหลายแปลงเพื่อทำโครงการค่ะ

ถ้าเปรียบเทียบกับทำเลใกล้เคียงอย่างอารีย์  ที่ตั้งคอนโดโซนสะพานควายจะมีความเป็นไลฟ์สไตล์ชิคๆ แบบคนเมืองน้อยกว่าอารีย์ชัดเจน  แต่ในแง่ของการเข้าถึงนั้นแทบไม่ได้แตกต่างกันมากนัก บริเวณแยกสะพานควายจะได้เปรียบในเรื่องใกล้กับโครงสร้างพื้นฐานในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่าง Bangsue Complex เป็นศูนย์กลางการเดินรถระบบรางของประเทศ และจะมีสำนักงาน,  ศูนย์การค้า และอื่นๆ อีกมากพอสมควร ซึ่งก็น่าจะเป็นปัจจัยให้ที่ดินรอบๆ ขยับปรับราคาขึ้นได้ค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

โครงการ The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ จะเป็นแบรนด์ระดับบนสุดของ Pruksa  โครงการนี้เน้นออกแบบอาคารสไตล์โมเดิร์น เรียบหรู ใช้ส่วนประกอบหลักเป็นกระจก เหล็ก สแตนเลส และพื้นผิวลายหิน ภาพรวมอาคารคุมโทนสีเทาอ่อน-เทาเข้มค่ะ  ใช้เส้นตั้งและเส้นนอน ไม่หวือหวา แต่เน้นให้ดูสวยเรียบๆ ไปนานๆ ไม่ตกเทรนง่าย

ผังโครงการจะอยู่ระหว่างซอยประดิพัทธ์ 23 และ 25 ทำให้ด้านข้างทั้งสองฝั่งไม่ได้ติดกับตึกใดๆ  ตัวคอนโดจะ Set Back เข้าไปจากถนนพอสมควร แล้วทำพื้นที่ด้านหน้าที่ติดกับถนนเป็นสวน ทำหน้าที่เป็น Buffer กรองความวุ่นวายให้กับผู้อยู่อาศัยได้ส่วนหนึ่งค่ะ … คอนโด The Reserve Phahol-Pradipat  สูง 25 ชั้น จะจอดรถได้ที่ชั้น 2 – 7  และไปเริ่มชั้นพักอาศัยที่ชั้น 8 ถึงชั้น 24 และมีพื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น 25 มองเห็นวิวได้โดยรอบ

จุดเด่นของโครงการนี้อยู่ที่การออกแบบห้องพักอาศัยในแบบ Loft ที่เน้นการออกแบบ Volume Space ในแนวดิ่ง  ได้หน้าต่างบานสูง โปร่ง มีห้องให้เลือก 3 แบบ  แบบหลักคือ 1 Bedroom Loft ขนาด 28.40 – 38.95 ตร.ม. อยู่ที่ชั้น 8 – 21 เท่านั้น ส่วน 1 Bedroom Simplex  ขนาด 29.45 – 40.40 ตร.ม. และ 1 Bedroom Simplex Plus 47.30 – 48.70 ตร.ม. จะอยู่ที่ชั้น 22 – 24 ค่ะ

การเพิ่ม Volume ในแนวดิ่งของพื้นที่ห้องนั่งเล่นจะเห็นได้ชัดจากแบบ 1 Bedroom Loft มีชั้นลอยไปยังห้องนอน ทำให้บริเวณห้องนั่งเล่นได้ฝ้าสูง 4.4 เมตร และอยู่ติดระเบียงที่ให้ประตูกระจกสูง ทำให้ภาพรวมของห้องดูกว้างขวาง  แม้จะเปลืองแอร์ไปหน่อย  แต่ก็ได้สเปซที่น่าสนใจเข้ามา  แต่แปลนแบบนตี้ไม่เหมาะกับผู้สูงอายุที่ต้องเดินขึ้นๆ ลงๆ นะคะ … ส่วนแบบ 1 Bedroom Simplex และ Simplex Plus จะเน้นเพิ่มความกว้างในห้องนั่งเล่น ฝ้าสูง 2.7 เมตร อยู่ติดกับระเบียงยาว รับแสงธรรมชาติได้เต็มที่  หากเลือก 1 Bedroom Plus จะมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มขึ้นมา สามารถทำเป็นห้องนอนเล็กได้อีกห้องค่ะ สัดส่วนการจัดสรรพื้นที่ก็ถือว่าใช้สเปซได้ค่อนข้างลงตัวดีไม่มีข้อติอะไรใหญ่ๆ

ด้านวัสดุ เดอะ รีเซิร์ฟ พหลโยธิน – ประดิพัทธ์  ถือว่าให้ของเกรดดี ได้ห้องแบบ Fully Fitted คือได้ ชุดครัว Top เป็นหิน Quartz ปิดผิวบานตู้ด้วยกระจก ดูเนี้ยบมาก,  ชั้นเก็บรองเท้าก็ใช้วัสดุเดียวกับตู้ครัว, ตู้เสื้อผ้าปิดหน้าบานตู้ด้วย Tint Glass ดูเข้าชุดกับครัวดี ส่วนชุดสุขภัณฑ์ในห้องน้ำส่วนใหญ่จะใช้ของ Kohler ค่ะ  ส่วนมาตรฐานห้องทั่วไปพื้นปูไม้ลามิเนตหนา 8 มม., ฝ้าฉาบเรียบดวงไฟดาวน์ไลท์, และผนังฉาบเรียบสีขาว

จุดเด่นอีกอย่างของ The Reserve พหลฯ-ประดิพัทธ์ คือการบริการพื้นทีส่วนกลางที่สามารถใช้งานได้ 24 ชั่วโมง และสามารถจองห้องผ่าน Application บนมือถือได้อีกด้วย มีบริการ Concierge Service by The Reserve ช่วยเหลือในกิจธุระเล็กๆน้อยๆ เช่น บริการซักรีด บริการรับส่งพัสดุ บริการจองตั๋วต่างๆ พร้อม High Speed Internet บริเวณส่วนกลาง ซึ่งน่าจะตอบโจทย์กลุ่มนักทำงานไฟแรงรุ่นใหม่ นักธุรกิจและกลุ่ม Startup ทั้งหลายค่ะ

ที่จอดรถของโครงการมีทั้งแบบ Automatic car parking และแบบ Conventional car parking ที่รวมกันแล้วจอดได้ถึง 65%  รวมจอดซ้อนคัน ถือว่าไม่ค่อยเยอะ  แต่คอนโดระดับนี้โดยปกติก็มักจะไม่ได้อยู่กันเต็มมากอยู่แล้ว  นอกจากนั้นก็มีในส่วนของ Electric Car Charger ให้บริการ รองรับรถยนต์ไฟฟ้าในอนาคตด้วย … สัดส่วนลิฟต์โดยสาร 3 ตัวกับ 260 ยูนิต  เฉลี่ยออกมาได้ 87 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว  ถือว่าออกมาดีมาก  Facilities ชั้นล่างจะมีโถงต้อนรับ, ส่วนที่ชั้น 8 มีสวน Pocket Garden,  ชั้น 25 มี Infinity Edge Pool ระบบเกลือ ขนาด 23 × 5 ลึก 1.2 เมตร ไม่มีสระเด็ก, Sky Fitness, Community Space ที่สามารถใช้งานได้ตลอด 24 ชั่วโมง มี Co-Working Space แบบ Indoor&outdoor มี All-day Pantry และ Multi-Purpose Room ห้องอเนกประสงค์ที่ปรับเปลี่ยนเป็น Meeting Room หรือ Amphitheatre ได้  และที่ชั้นลอย (ชั้น 25M) จัดเป็น Skyline Lounge มองเห็นวิวสระว่ายน้ำค่ะ สุดท้ายที่ชั้นดาดฟ้าจะเปิดโล่งเป็นสวนและลานปาร์ตี้ค่ะ  ถ้าเทียบกับความหนาแน่นของยูนิตที่ไม่เยอะ  ก็จัดว่าเหลือๆ ค่ะ

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนคอนโดมิเนียมที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ทุกท่านสามารถสนับสนุนให้อยู่สบายสามารถทำรีวิวออกมาได้เรื่อยๆ ค่ะ เพียงแค่เวลาไปดูโครงการบ้านและคอนโดที่ต่างๆ  เพียงช่วยระบุในแบบสอบถามของโครงการว่า ”อยู่สบาย.com” เป็นหนึ่งในเว็บไซต์ที่ท่านติดตามอ่านอยู่  เวลาทางทีมงานขออนุญาตโครงการต่างๆ เข้าไปทำรีวิวจะได้ทำได้ง่ายและสะดวกมากขึ้นค่ะ  (^_____^)

ถ้าหากว่ารีวิวของเรามีประโยชน์ ช่วยกด Like ด้านล่างสำหรับกำลังใจในการทำรีวิวของทีมงานด้วยนะคะ