ต่างชาติยังเชื่อมั่นในธุรกิจอสังหาฯเมืองไทย ทริลเลียน โกลบอล กลุ่มทุนสิงคโปร์ ทุ่มเงินกว่า 1,600 ล้านบาทลงทุนต่อเนื่องในโครงการคอนโดมิเนียมของสิงห์ เอสเตท ประเดิมด้วยโครงการ The Esse Asoke และ The Esse at Singha Complex
![The Esse (ภาพที่ 1)](http://yusabuy.com/wp-content/uploads/2017/05/The-Esse-ภาพที่-1.jpg)
ทริลเลียน โกลบอล บริษัทด้านการลงทุนอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำจากสิงคโปร์ ซึ่งมีพอร์ตการลงทุนในหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในเอเชีย และยุโรป เชื่อมั่นในตลาดอสังหาริมทรัพย์เมืองไทย จับมือ บมจ. สิงห์ เอสเตท ลงทุนต่อเนื่องในโครงการคอนโดมิเนียมที่พัฒนาโดยสิงห์ เอสเตท รวมมูลค่ากว่า 1,600 ล้านบาท
นายวิลเลียม โลค กรรมการผู้จัดการ ทริลเลียน โกลบอล กล่าวว่า “เนื่องจากประเทศไทยมีศักยภาพที่จะเป็นศูนย์กลางการลงทุนของภูมิภาคอาเซียน ในขณะที่ราคาอสังหาฯ ในไทยยังมีมูลค่าไม่สูงนักเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ เราจึงมองเห็นโอกาสการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทย ซึ่งน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต ทริลเลียนฯ เริ่มเป็นพันธมิตรกับ บมจ. สิงห์ เอสเตท ด้วยการลงทุนซื้อห้องชุดในโครงการ The Esse Asoke คอนโดมิเนียม (Big Lot) เป็นที่แรก ใช้เงินลงทุนมูลค่ากว่า 900 ล้านบาท และได้รับผลตอบรับดีมาก หลังจากที่บริษัทฯ ได้นำโครงการฯ ไปโรดโชว์ในหลายๆ ประเทศในแถบเอเชีย อาทิ จีน ฮ่องกง ไต้หวัน และสิงคโปร์
![the esse at singha complex (ภาพที่ 4)](http://yusabuy.com/wp-content/uploads/2017/02/the-esse-at-singha-complex-ภาพที่-4.jpg)
ล่าสุดเราจึงตัดสินใจลงทุนเพิ่มในโครงการ ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ ลักชัวรี คอนโดมิเนียม โครงการใหม่ของ บมจ.สิงห์ เอสเตท มูลค่าทุนรวม 760 ล้านบาท ในเบื้องต้น โครงการ The Esse at Singha Complex ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนต่างชาติเช่นกัน เนื่องจากโครงการตั้งอยู่บนทำเลแยกอโศก-เพชรบุรี ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวต่างชาติอยู่แล้ว และยังเป็นส่วนหนึ่งของ Singha Complex Flagship Mix Used ของสิงห์ เอสเตทอีกด้วย”
ด้านนายณัฐวุฒิ มัธยมจันทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการพัฒนาธุรกิจพักอาศัย บมจ. สิงห์ เอสเตท กล่าวเสริมว่า “การร่วมทำธุรกิจกับทางทริลเลียน โกลบอล ถือเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญของทางบริษัท ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดและการขายคอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ในต่างประเทศ โดยมียอดการขายผ่านทางทริลเลียน ทั้งคอนโดมิเนียม ดิ เอส อโศก และ ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ ทั้ง 2 โครงการ รวม 1,660 ล้านบาท ทั้งนี้จึงส่งผลให้คอนโดมิเนียม The Esse at Singha Complex ทำยอดขายได้เกินเป้าที่เราตั้งไว้ โดยปัจจุบัน มียอดจองรวมกว่า 80% มูลค่ากว่า 3,300 ล้านบาท ซี่งเป็นยอดจองจากต่างชาติมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท”
เกี่ยวกับสิงห์ เอสเตท
บริษัท สิงห์ เอสเตท จำกัด (มหาชน) ดำเนินธุรกิจด้านการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ โดยมุ่งเน้นการขยายธุรกิจและการลงทุนผ่านการซื้อที่ดินในพื้นที่ที่มีศักยภาพสูงและการพัฒนาโครงการที่มีคุณภาพภายใต้แนวคิด “Best in Class” ควบคู่ไปกับการลงทุน หรือร่วมลงทุนในธุรกิจหรือทรัพย์สินที่มีศักยภาพการเติบโตสูง โดยมีเป้าหมายคือ การเป็นผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์โครงการที่เปี่ยมด้วยคุณภาพ ด้วยความประณีต เพื่อสร้างไลฟ์สไตล์ใหม่ ที่ครบถ้วนทั้งการพักอาศัย พักผ่อน ทำงาน และชอปปิ้ง รวมถึงสร้างการเติบโต และส่งมอบคุณค่าที่ยั่งยืนให้กับผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่ม ซึ่งจากการขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สิงห์ เอสเตทมีสินทรัพย์ภายใต้การดำเนินงานของ บริษัทย่อย และกิจการร่วมค้า ทั้งภายในและภายนอกประเทศ ในธุรกิจหลัก 3 ส่วน คือ ธุรกิจอาคารสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก, ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่พักอาศัย
ธุรกิจสำนักงาน พื้นที่ค้าปลีก
- The Lighthouse
- อาคารสำนักงานซันทาวเวอร์ส
- โครงการ Mix Used Singha Complex
ธุรกิจที่พักอาศัย
- คอนโดมีเนียม The ESSE Asoke
- คอนโดมีเนียม The ESSE at Singha Complex
- คอนโดมีเนียม บริเวณ ซ.สุขุมวิท 36
- โครงการที่พักอาศัยระดับไฮเอนด์ Santiburi Residences
- โครงการที่พักอาศัยภายใต้ชื่อ Nirvana
ธุรกิจโรงแรม
- โรงแรม Santiburi Beach Resort & Spa, Samui
- โรงแรม Phi Phi Island Village Beach Resort
- กลุ่มโรงแรมในประเทศอังกฤษ 29 แห่ง