โครงการ One 9 Five อโศก-พระราม 9 ( วันไนน์ไฟว์ อโศก – พระราม9 ) เป็นคอนโดมิเนียมสูง 61 ชั้น พัฒนาโครงการโดยบริษัท TC Development อยู่ใกล้ MRT พระราม 9แค่ 250 เมตร ระยะเดินไม่เกิน 5 นาทีค่ะ  ที่มาของชื่อ One 9 Five นั้นก็มาจากบ้านเลขที่เดิมในที่ดินแปลงนี้ คือเลข 195 นั่นเอง

โครงการ One 9 Five Asoke-Rama 9 ครั้งนี้ได้ถูกรวมพลังจาก 3 บริษัทดีไซน์ ซึ่งก็คือ PIA Interior   , LEO International Design และ Shma มาร่วมกันออกแบบวางแปลนห้อง ดีไซน์พื้นที่ส่วนกลาง และส่วน Landscape ต่างๆ ค่ะ

คอนโด One 9 Five Asoke-Rama 9 ทางทีมงานได้เคยทำพรีวิวไปแล้วช่วงก่อนที่จะเปิดสำนักงานขาย  หากใครที่อยากดูทำเลและการเดินทาง รวมไปถึงสภาพแวดล้อมก็เข้าไปดู พรีวิว ก่อนได้นะคะ  เนื่องจากรายละเอียดของโครงการมีเยอะมากจริงๆ  บทความนี้เลยอยากจะไปเจาะลึกที่ตัวโปรดักส์กันเป็นหลัก  ใครที่ชินทำเลแล้วก็ตามมาดูตัวโครงการกันค่ะ

One 9 Five Asoke – Rama 9
( วันไนน์ไฟว์ อโศก – พระราม 9 )

• เจ้าของโครงการ : ทีซี ดีเวลลอปเม้นท์ ( TC Deveopment )
• ที่ตั้งโครงการ :ถนนพระราม 9 ซอย 5 แขวงห้วยขวาง เขตห้วยขวาง กรุงเทพฯ
• ขนาดที่ดิน : 11-1-6 ไร่
• ประเภท : อาคารชุดเพื่อการพักอาศัย สูง 61 ชั้น
• จำนวนยูนิต : 1,911 ยูนิต (อาคาร A 954 ยูนิต, อาคาร B 957 ยูนิต)
• จำนวนอาคาร  : 1 อาคาร  2 ทาวเวอร์
• จำนวนยูนิตต่อชั้น : สูงสุด 18 ยูนิต ต่อ ชั้น
• ลิฟต์ :  ลิฟต์โดยสาร 6 ตัวต่ออาคาร และลิฟต์ขนของ 1 ตัวต่ออาคาร
• ประเภทห้อง / พื้นที่ใช้สอย
  • 1 Bedroom Deluxe ขนาด 25.5 – 41 ตร.ม.
  • 2 Bedroom Deluxe ขนาด 55 – 68 ตร.ม.
  • 3 Bedroom Exclusive ขนาด 94 – 109.5 ตร.ม.
  • Penthouse ขนาด 194 – 271.5 ตร.ม.
• ราคาขายเริ่มต้น ณ วันทำรีวิว : เริ่มต้น 3.69 ล้านบาท
• เริ่มก่อสร้าง :  ปี 2561
• คาดว่าแล้วเสร็จ : มี.ค. 2565
• เว็บไซต์โครงการ : One9Five.com
• พิกัด GPS : 13.756334, 100.568285
• ติดต่อ : 02 245 0999

โครงการ วันไนน์ไฟว์ อโศก-พระราม 9 ( One 9 Five Asoke – Rama 9 ) ตั้งอยู่บนถนนพระราม 9 การเดินทางนั้นไม่ยาก ถ้าเดินทางด้วยรถไฟฟ้าใต้ดินมาลงที่สถานีพระราม 9 เดินผ่านตึก G Tower และตึก Unilever Thailand  โครงการจะอยู่ทางซ้ายมือค่ะ

(สามารถกดที่แผนที่เพื่อดูภาพขยายใหญ่ได้นะคะ)

เริ่มเปิดประตู  ไปดูในโครงการ

เริ่มมาดูที่ตัวโครงการกันเลยค่ะ ถ้าใครสนใจอยากดูรีวิวทำเลคลิก พรีวิว One9Five Asole – Rama9   ก่อนได้  ส่วนใครที่จะดูโครงการก็ตามมาได้เลยเราจะไปเริ่มกันตั้งแต่หน้าสำนักงานขายกันค่ะ

ที่ด้านหน้าโครงการ One 9 Five อโศก – พระราม 9 อาคารสำนักงานขายเป็นอาคารสูง 6 ชั้น จำหน้าตาสำนักงานไว้หน่อยก็ดีนะคะ เพราะถ้าขับรถมาแล้ว  ไม่ทันสังเกตจะขับเลยเอา

มองย้อนกลับไปทางแยกพระราม 9 จะเห็น ตึกของบริษัท Kvik , Unilever Thailand   และในอนาคตจะมีโครงการของแสนสิริขึ้นมา ซึ่งจะตั้งอยู่ข้างโครงการ One9Five Asoke – Rama 9

มาดูด้านหน้าสำนักงานขาย สามารถขับรถเข้าไปจอดหลังอาคารได้ค่ะ

มีทางลาดเข้าสำนักงานขาย

เมื่อเข้ามาในสำนักงานขายมีโมเดลวางให้เห็นเลยค่ะ

การตกแต่งก็ดูหรูมีระดับ เข้ากับคอนเซ็ปต์ความเป็น Luxury ดี

ด้านขวาจะเป็นชุดเก้าอี้ ให้นั่งพูดคุยนั่งพักได้

พื้นที่ภายในกว้างขวาง ที่นั่งเยอะดี ส่วนห้องตัวอย่างจะอยู่ชั้นบนค่ะ

ดูผังโครงการ การเข้าถึง

ถนนด้านหน้าโครงการคือถนนพระราม 9 เป็นถนนกว้าง 6-8 เลน มีสะพานยกระดับข้ามแยกอยู่ด้านบน สภาพแวดล้อมบริเวณรอบข้างมีอาคารสำนักงาน และอาคารพาณิชย์ แต่ถ้าบริเวณแยกพระราม 9 จะเป็นห้างสรรพสินค้าCentral Plaza พระราม 9 , Robinson พระราม 9 , และศูนย์การค้า Fortune town รวมทั้งมีอาคารสำนักงานที่เป็นอาคารสูง อย่าง G tower  และ The Super tower ที่กำลังจะขึ้นมาใหม่ ทำให้พื้นที่บริเวณนี้เป็นจุดที่มีผู้พัฒนาโครงการอสังหาฯ มาทำคอนโดในบริเวณนี้กันเยอะ  เพื่อรองรับดีมานด์ของคนที่จะเข้ามาทำงานในโซนนี้ในอนาคต

โครงการ One9Five อโศก-พระราม 9 แบ่งเป็น 2 อาคารหลักที่เป็นที่พักอาศัย เชื่อมกันด้วยพื้นที่ส่วนกลางและส่วนจอดรถ บริเวณนี้จะล้อมรอบไปด้วยอาคารที่มีความสูงตั้งแต่ 12 ชั้น ไปจนถึง 42 ชั้น

เนื่องจากเป็นคอนโดในใจกลางเมืองย่านที่ใครๆ ก็อยากอยู่กัน  ทำให้หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่มุมมองต่างๆ จากตัวคอนโด จะต้องเห็นตึกสูงข้างเคียงบ้าง  ไม่ได้เป็นวิวโล่งๆ ไปซะหมดค่ะ  บริเวณรอบข้างมีอาคารสูงที่มองจากโครงการแล้วเห็น  ที่เป็นพระเอกของทำเลนี้เลยในอนาคตก็คงหนีไม่พ้น The Super Tower ที่จะเป็นตึกสูงที่สุดในเมืองไทยถ้าสร้างเสร็จค่ะ   สำหรับอาคารสูงข้างเคียงโครงการ One 9 Five Asoke – Rama 9  ทางตะวันตกก็จะติดที่ดินของแสนสิริ  ส่วนทางทิศตะวันออกจะเป็นตึกอาคารชำนาญเพ็ญชาติ สูง 30 ชั้น  ถ้าจะพักอาศัยแถวนี้  แล้วอยากได้วิวโล่งๆ ก็คงต้องขึ้นไปเลือกห้องที่สูงๆ กันซักหน่อยแหละ สำหรับคนที่ซีเรียสเรื่องวิวนะ

ส่องโมเดล

ดูผังกันไปแล้วทีนี้เรามาดูโมเดลกันบ้าง โครงการ One 9 Five อโศก – พระราม 9  เป็นอาคารสูง 61 ชั้น เรียกว่าถ้าไม่นับ The Super Tower ก็เป็นคอนโดที่สูงสุดในย่านนี้แล้ว  ตัวคอนโดแบ่งเป็น 2 ทาวเวอร์ แต่ละชั้นมียูนิตสูงสุด 18 ยูนิต พื้นที่ส่วนกลางอยู่ที่ชั้น G , ชั้น 8 และ 61 การใช้งานของ Facilities แต่ละชั้นก็จะต่างกันไป  โดยทาง One9Five อโศก – พระราม 9 ให้พื้นทีส่วนกลางมา 8.6 ไร่ มีห้องพักทั้งหมดมี 1,911 ยูนิต ที่จอดรถ 50 % รวมจอดซ้อนคัน เป็นระบบจอดรถแบบ Conventional ตามปกติ  ซึ่งพื้นที่จอดรถจะมี 6 ชั้น + ขั้นใต้ดิน 1 ชั้น ส่วนที่พักอาศัยก็จะเริ่มที่ชั้น 2 เป็นต้นไปจนถึงชั้น 60 ค่ะ

ภาพรวมโมเดลอาคารค่ะ โมเดลนี่ก็ใหญ่ใช่เล่น  รายละเอียดค่อนข้างชัดเจน  พูดถึงเรื่องการวางตำแหน่งอาคาร ถ้ายึดแนวทิศของแผนที่เป็นหลักอาคารวางตัวในแนวเหนือ-ใต้ คือ ด้านหน้าที่เป็นทางเข้าโครงการจะเป็นทิศใต้ ด้านหลังจะเป็นทิศเหนือ  พูดง่ายๆว่า ถ้ายืนอยู่หน้าถนนพระราม 9 แล้วหันเข้าโครงการคือ กำลังหันไปทางทิศเหนือค่ะ

ด้านนี้เป็นด้านหลังอาคารค่ะ เป็นสวนและจัดเป็นพื้นที่สำหรับเด็กมาวิ่งเล่นได้ด้วย

มี Facilities ที่ชั้น 8 เหนือโพเดียมที่จอดรถ เชื่อมเข้าหากันระหว่าง 2 ตึก

อาคารฝั่งนี้เป็นด้านทิศตะวันตกค่ะ ในอนาคตมีอาคาร The Super Tower ขึ้น  ซึ่งจะเป็นเหมือน Landmark สำหรับคนชอบวิวตึก วิวเมือง

ด้านนี้เป็นฝั่งทางเข้าโครงการค่ะ ตึกฝั่งนี้จะหันไปทางทิศใต้ ดังนั้นแดดฝั่งนี้ช่วงบ่ายๆ ก็จะโดนแดดเยอะหน่อย

ในส่วนของทางเข้าอาคาร กล่องสี่เหลี่ยมที่อยู่ด้านหน้าทางเข้า คือสำนักงานขาย ณ ตอนนี้ค่ะ

พื้นที่รอบโครงการ รถสามารถขับวนรอบได้ รวมทั้งมีการจัด Landscape รอบอาคารตั้งแต่หน้าทางเข้าเลยค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางบริเวณชั้น 8 เป็นสระว่ายน้ำ ยาว 100 เมตร ยาวเชื่อมระหว่างสองตึกเข้าด้วยกัน

พื้นที่ส่วนกลางชั้น 8 นี้  หลักๆ จะประกอบไปด้วย Swimming Pool , Kid’s Club , Games Room , Golf Simulator , Theater , Spa ค่ะ  จัดเป็นส่วนกลางที่มีพื้นที่ใหญ่มากทีเดียว

มาดูส่วนที่เป็นสวนด้านหลังกันหน่อย ในส่วน Out Door จะมีสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น  Community kitchen , Playground , Sand play , EV Charge และ Self car Washing  ค่ะ  มุมล้างรถส่วนตัวนี่จัดว่าดีมาก  เพราะโดยส่วนใหญ่คนที่อยู่คอนโดมักจะมีปัญหาเรื่องนี้แหละค่ะ  ต้องไปเข้า car care อย่างเดียว  อยากล้างรถเองก็จะไม่มีพื้นที่เตรียมไว้ให้

พื้นที่ด้านข้างอาคารภายนอก การใช้งานพื้นที่ก็จะประมาณนี้ค่ะ มีการจัด Landscape ใช้น้ำเป็นตัวนำเส้นตาสาย

ส่วนของชั้นที่ 30 ที่จะเป็นจุด tank น้ำบนอาคาร สำหรับงานระบบประปาในอาคาร และเป็นจุดเปลี่ยนถ่ายลิฟต์ของ High zone กับ Low zone เพราะว่าลิฟต์ที่นี่จะไม่ได้ตรงยาวจากชั้นล่างสุดถึงชั้นบนสุด เนื่องจากตึกสูงมาก จะต้องมีการเปลี่ยนลิพต์ที่ชั้น 30 ค่ะ

ลองถ่ายภาพจำลองมุมมอง เวลาเข้าไปจริงๆ ที่ด้านหน้าโครงการค่ะ

พื้นที่ส่วนกลางและความเพียงพอในการใช้งานเป็นอย่างไร

โครงการ One 9 Five อโศก – พระราม 9 เป็นคอนโด High Rise มี 2 ทาวเวอร์ พื้นที่ส่วนกลางนั้นจะอยู่ที่ชั้น G , ชั้น 8 , ชั้น 61 โดยสระว่ายน้ำจะอยู่ที่ชั้น 8 และ Private Lounge อยู่ที่ชั้น 61 จะเป็นส่วนที่ค่อนข้าง Passive Zone ค่ะ ในส่วนของ G Floor  จะเน้นเป็นสวน พื้นที่ร้านค้า และสนามเด็กเล่น  ลักษณะการจัดพื้นที่ส่วนกลางนั้นนำมารวมกันเป็นพื้นที่ผืนใหญ่  ซึ่งถูกนำมาใช้เป็นจุดขายของโครงการด้วยค่ะ

สำหรับที่จอดรถคิดเป็น 50 % ของพื้นที่ เป็นระบบการจอดรถแบบปกติธรรมดาค่ะ  ไม่มี Auto Parking  ชั้นของพื้นที่จอดรถจะเริ่มที่ชั้น G  ไปจนถึงชั้น 6 และบวกชั้นใต้ดินอีก 1 ชั้นค่ะ โดยพื้นที่จอดรถเเต่ละชั้นสามารถเข้าถึงโถงลิฟต์ เพื่อเข้าส่วนที่พักได้เลย ลิฟต์โดยสารมี 6 ตัวต่ออาคาร  เฉลี่ยความหนาแน่นออกมาได้ 159-160 ยูนิต/ลิฟต์ 1 ตัว  ซึ่งก็ถือว่าโอเค  ไม่ได้หนาแน่นค่ะ  และมีลิฟต์ขนของ 1 ตัวต่ออาคาร แต่ลิฟต์ที่นี่จะไม่ได้ยิงตรงยาวถึงชั้นที่ 61 จะต้องมีการเปลี่ยนลิฟต์ที่ชั้น 30

เวลาเข้าโครงการสามารถวนเข้า Drop off ได้ที่ด้านหน้าอาคาร การวนรถ สามารถขับวนได้รอบอาคาร (ตามกราฟิกลูกศรสีน้ำเงิน) การใช้สอยพื้นที่ในชั้น G จะมี สวน สนามเด็กเล่น เป็น Outdoor Facilities

Outdoor

• Retails  Spaces
• Co-working Space
• Sand Play
• Playground
• Community Kitchen
• Hydroponic Garden
• Self-Car Washing
• Ev Charger

Indoor

• Grande Lobby For Both Tower
• Private Mezzanine Lobby
• Lift Lobby
• Mailbox Room
• Laundry Room
• Express Storage Room
• Public Restroom

พื้นที่สวนด้านหลังอาคาร ในบริเวณชั้น G ประกอบไปด้วย สวนไฮโดรโปนิกส์ให้ลูกบ้านได้มาทำกิจกรรมร่วมกัน และมีสนามเด็กเล่น สนามทราย ให้เด็กๆได้สัมผัสธรรมชาติภายในโครงการ

ทางเดินด้านข้างอาคารที่ชั้น G มีการใช้ต้นไม้และน้ำ ยาวไปตลอด ทำให้เวลาเดินจากด้านหลังโครงการออกไปด้านหน้าก็จะช่วยให้รู้สึกเหมือนระยะทางไม่ไกล เดินได้เรื่อยๆ แล้วก็ไม่ร้อนด้วย  ซึ่งการออกแบบตอบรับและสอดคล้องไปในทางเดียวกันกับ Facilities บนชั้น 8

Facilities 8th Floor

ในส่วนของพื้นที่ส่วนกลางชั้น 8 มี Outdoor facilities ที่ใช้ด้วยกัน คือ Swimming Pool , Jacuzzi , Kid’s Club , Pool Lounge (semi outdoor) สำหรับ Indoor facilities จะมีให้แยกกันทั้งตึก A และ ตึก B  สิ่งอำนวยความสะดวกจะมี Golf Simulator ,  Steam room , Sauna room , Gym , Theater room , Residential Lounge , Spa , Game room แต่สามารถใช้ข้ามตึกกันได้ค่ะ

.

มาถึงชั้นสุดท้าย Facilities ส่วนนี้จะเป็น Sky Lounge ไว้นั่งชมวิวบนชั้นที่สูงที่สุดของอาคาร  ที่ชั้น 61 โดยภายใน Sky Lounge จะออกแบบมาให้มีสองชั้น สามารถมาใช้นั่งเล่น นั่งทำงานชมวิวเมืองไปด้วยได้เลย  สำหรับพื้นที่ห้องส่วนอื่นในชั้นนี้เป็นห้อง Penthouse ค่ะ

.

การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางได้คอนเซ็ปต์การออกแบบจาก ป่า ซึ่งจะมี ต้นไม้ , น้ำ และภูเขา มาใช้ในงานการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ทั้งบริเวณสระว่ายน้ำ , สวน และ Landscape

ลองมาดูภาพจำลองบรรยากาศ  ถ้าให้ต้นไม้ใหญ่มาตามนี้ก็จะร่มรื่นดีทีเดียว โดยคอนเซ็ปต์ที่นี่จะเน้นให้มีพื้นที่สีเขียวเยอะๆ อยู่แล้ว   บริเวณทางเข้าอาคารด้านหน้า Drop off  ใช้ต้นไม้ใหญ่สร้าง Landmark ให้กับพื้นที่ส่วนนี้  ทำให้เกิดความสอดคล้องกับการเป็นส่วนต้อนรับของโครงการ One 9 Five อโศก – พระราม 9

จากคอนเซ็ปต์การออกแบบนั้น ตัวอาคารที่เป็น Pool Lounge และ Kid’s room จะออกแบบให้มีการใช้งานได้ทั้งภายในและภายนอก รวมไปถึงหลังคาบนอาคารนั้น สามารถเดินเล่นข้ามผ่านด้านบนหลังคาได้  ทั้งนี้เป็นการเพิ่มพื้นที่การใช้งานให้มากขึ้นรวมทั้งมีที่นั่งพักนั่งเล่นไปด้วยในตัว

สระว่ายน้ำ จะมีขนาดยาว 100 ม. ยาวเชื่อมระหว่างตึกสองตึกเข้าด้วยกัน แบ่งระดับความลึกเป็น 3 ระดับ คือ 1.20 ม , 0.90 ม. และ 0.45 ม. ซึ่งสระผู้ใหญ่จะยาว 50 ม. ลึก 1.20 ม. ความยาวที่เหลืออีก 50 ม. จะลดหลั่นมาเป็น Jacuzzi , สระเด็ก  และจะเป็นส่วนที่เหมือนเป็นสวน มีผืนน้ำตื้นๆ น้ำมานอนแช่น้ำได้ ซึ่งตอบรับการใช้งานของ Pool Lounge (ลักษณะ Semi outdoor) ด้วย  ทั้งนี้มาจากแนวคิดของ ป่า ที่จะต้องมีต้นไม้ น้ำ และภูเขา เป็นองค์ประกอบร่วมกันในพื้นที่

Game Room จะเป็นส่วน indoor ภายในแบ่งเป็น 2 ชั้น ทางเข้าอยู่ที่ชั้น 8 ค่ะ พื้นที่ส่วนกลางชั้นนี้จะเน้นการใช้งานที่เป็น Active Zone ค่อนข้างเยอะค่ะ

Golf Simulator จะแบ่งเป็น 2 ชั้น เหมาะสำหรับคนที่อยากซ้อมมือพัตต์กอล์ฟเล่นๆ  ก็ไม่ต้องไปไกลถึงสนาม

Kid’s Room ห้องนี้เป็นห้องสำหรับเด็ก ให้เด็กๆ มาเล่นกันได้ค่ะ แต่ส่วนนี้จะไม่ได้อยู่ในตึก จะแยกส่วนออกมาตั้งอยู่ตรงบริเวณสระว่ายน้ำ

Library ส่วนนี้ก็เป็นมุมสงบๆ หน่อย มานั่งอ่านหนังสือทำงานทำการบ้านเงียบๆ กันได้ ห้องนี้ก็อยู่ที่ ชั้น 8 เช่นกันค่ะ

มาถึงส่วนของ Spa อย่างที่เล่าไปแล้วค่ะว่า Facilities ที่อยู่ในอาคารนั้นจะแยกให้เป็นของแต่ละตึกค่ะ ตึกใครตึกมัน แต่ก็ข้ามไปใช้กันไปมาได้นะคะไม่ได้ห้ามอะไร

Gym มีขนาดพื้นที่ใช้สอยกว้างเมื่อดูจากแปลน อยู่ในตัวอาคารค่ะ

ส่วนสุดท้ายของชั้น 8 ห้องนี้เป็น Residential Lounge จะได้วิวติดกับสระว่ายน้ำ ซึ่งจะเห็นวิวไปด้านทิศตะวันออกค่ะ ( มองไปฝั่ง แยก อ.ส.ม.ท. )

สำหรับชั้นบนสุด ที่ชั้น 61 จะเป็น Private Lounge  สามารถขึ้นมาใช้งานได้ ลักษณะการใช้งาน ดูจะเป็น passive zone นั่งชิวๆ สบายๆ ไป  กระจก Full Height ช่วยให้เห็นวิวเมืองได้เต็มที่  ฝั่งนี้จะเห็น The Super Tower ด้วยค่ะ

เปิดผังคอนโด Typical Floor Plan

สำหรับผังคอนโด One9Five ห้องพักอาศัยจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 2 เป็นต้นไป  จนไปถึงชั้นที่ 60 ผังห้องแต่ละห้องก็มีหลายขนาดค่ะ แต่ก็จะมี Type หลักๆ อยู่ ก่อนจะไปเริ่มดูผังแต่ละชั้น ขอสรุปเรื่องของวิวที่จะได้รับในแต่ละด้านของตึกก่อนนะคะ เพื่อที่จะได้มองภาพออก เริ่มที่

ทิศตะวันตก จะเป็นฝั่งที่หันไปทาง Central Plaza พระราม 9 , Fortune Town , G Tower ค่ะ

ทิศเหนื่อ จะมองขึ้นไปทางถนนรัชดาภิเษกวิวก็จะเป็นวิวเมือง  เห็นกลุ่มอาคารตามแนวถนนรัชดาภิเษก

ทิศใต้ วิวเมืองฝั่งอโศก จะมองเห็นกลุ่มคอนโดตรงแยกรัชดา-พระราม 9 หลายโครงการ  โดยมีวิวเมืองทางฝั่งสุขุมวิทเป็นฉากหลัง

ทิศตะวันออก เป็นฝั่งที่หันไปทาง แยก อ.ส.ม.ท.  , ศรีนครินทร์ วิวก็จะค่อนข้างโล่งกว่า เพราะว่าหันออกไปทางที่ออกนอกเมืองไม่ค่อยมีอาคารสูงในละแวกนี้  ใกล้ๆ มีแค่ 1 อาคารที่อยู่ติดกัน คือ อาคารชำนาญเพ็ญชาติ ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานสูง 30 ชั้น แต่ตำแหน่งก็อยู่กลางๆระหว่าง ตึก A และ B ไม่ได้บล็อกวิวตรงๆ

Floor Plan คอนโด One 9 Five อโศก – พระราม 9
ชั้น 2-3

เริ่มที่ชั้น 2-3 จะมีลักษณะแปลนคล้ายกัน   ซึ่งชั้น 2 และ 3 นี้ยังเป็นชั้นที่มีที่จอดรถอยู่ แต่ก็คนที่จะเข้าห้องพักชั้นนี้ได้  ก็ต้องมีคีย์การ์ดเท่านั้น เพราะลิฟต์เป็นระบบล็อคชั้นค่ะ  ดังนั้นไม่ต้องห่วงว่าจะไปเข้าชั้นอื่นๆ มั่วได้ค่ะ

การวางตำแหน่งต่างๆ เมื่อเข้ามาในอาคาร  โถงลิฟต์จะอยู่ตรงกลาง ตำแหน่งห้องจะแบ่งซ้ายขวา ตึก A จะหันห้องออกไปทางทิศตะวันตกและทิศใต้ ในสองชั้นนี้ยังไม่ได้อยู่สูงมากเรื่องของแดดก็ไม่น่าจะมีผลมากค่ะ  ส่วน ตึก B  การวางห้องจะหันหน้าออกไปทางทิศเหนือและตะวันตก

Floor Plan คอนโด One 9 Five อโศก – พระราม 9
ชั้น 4 , 4A , 4B , 5 , 6 , 7 และ 8

ชั้น 4-6 ยังเป็นชั้นที่มีพื้นที่จอดรถรวมด้วย  ส่วนชั้น 4A และ 4B จะเป็นพื้นที่จอดรถเพียงอย่างเดียว  มาพูดถึงแปลนห้องสำหรับชั้น 4 , 5 , 6 และ 7 นั้นการจัดวางแปลนห้องเหมือนกันค่ะ ขออธิบายโดยยึดที่อาคาร A  เป็นหลัก มีห้องพัก  แบบ 2 ห้องนอน อยู่ 4 ห้อง (2 ขนาด) ตำแหน่งเป็นห้องมุมตึก และมีแบบ 1 ห้องนอน อีก 11 ห้อง  สำหรับอาคาร B จำนวนห้องและการวางตำแหน่งห้องจะเหมือนกับอาคาร A เพียงแค่สลับฝั่งซ้ายขวากัน พื้นที่ในชั้น 8 นั้น จะเป็นพื้นที่ส่วนกลาง

Typical Floor Plan คอนโด One 9 Five อโศก – พระราม 9
ชั้น 9 – 29

แปลนชั้น 9 – 29 นี้เป็น Typical Floor แปลนเหมือนกันหมด ลักษณะการวางแปลนห้องก็จะเหมือนกัน คือ มีโถงลิฟต์อยู่ตรงกลาง ทางเดินแบ่งซ้าย-ขวา ไม่ได้วนรอบ ห้องยูนิตใหญ่แบบ 2 ห้องนอน (55 และ 68 ตร.ม.) จะอยู่ตรงมุม  และนอกนั้นก็เป็นยูนิตที่เล็กลงมาค่ะ  ด้านทิศเหนือของทาวเวอร์ A จะมองเห็นฝั่งทิศใต้ของทาวเวอร์ B นะคะ

Floor Plan คอนโด One 9 Five อโศก – พระราม 9
ชั้น 30 – 31

ชั้น 30 -31 จะคล้ายกับ Typical Floor ชั้น 9 -29 เพียงแต่ห้องแบบ 1 ห้องนอน ที่หันไปทางทิศตะวันตก (ในรูปแปลนจะเป็นห้องที่อยู่ด้านบน) จะหายไป เนื่องจากพื้นที่ส่วนนี้จะถูกกันให้เป็นที่วางถังเก็บน้ำ ห้องอื่นๆ ตำแหน่งการวางผังจะเหมือนเดิมทั้งหมด  จำนวนยูนิตในชั้นนี้จะเหลือ 14 ยูนิต และตั้งแต่ชั้น 30 นี้ ขึ้นไปน่าจะเริ่มเห็นวิวที่โล่งๆ ได้บ้างแล้วแหละ

Floor Plan คอนโด One 9 Five อโศก – พระราม 9
ชั้น 32 – 55

มาถึงชั้น 32 – 55 ที่จริงแล้วการวางผังของชั้นเหล่านี้ มีลักษณะเหมือนกับชั้น 9 – 29 เพียงแต่ห้อง Type A 40.5 ตร.ม. จะเปลี่ยนเป็น Type A1 ซึ่งจะมีขนาดลดลงเหลือ 36.5 ตร.ม.

.

Floor Plan คอนโด One 9 Five อโศก – พระราม 9
ชั้น 56 – 58

ชั้น 56 – 58 ส่วนใหญ่จะเป็นห้อง Type ใหญ่ ขนาด 67 ตร.ม. ขึ้นไป แต่จะยังคงมีห้องขนาด 36 ตร.ม. อยู่ 2 ห้อง  เป็น Type A1 ( 1 ห้องนอน ) เผื่อไว้สำหรับคนที่ต้องการอยู่สูงๆ แต่ไม่ได้อยากได้ห้องใหญ่ก็ยังมีพอมีห้องเล็กให้เลือกค่ะ  แต่แน่นอนว่าราคาต่อตารางเมตรก็จะสูงขึ้น

.

Floor Plan คอนโด One 9 Five อโศก – พระราม 9
ชั้น 59 – 60

สุดท้ายแล้วสำหรับผังห้อง ชั้นนี้จะเป็นห้อง Penthouse สูง 2 ชั้น เสมือนเป็นบ้านขนาดย่อมๆ คือ อยู่ทั้งชั้น 59 และ 60 ลิฟต์โดยสารที่จะขึ้นไปนั้นจะเลือกจอดที่ชั้น 59 หรือ 60 ก็ได้ ซึ่งลิฟต์นั้นจะต่อยาวไปถึงชั้น 61 ที่เป็น Lounge ที่เป็นพื้นที่ส่วนกลางอีกจุดนึง

แปลนห้องดีไหม?

แปลนของคอนโด One9Five มีแบบ 1 ห้องนอน 2 ห้องนอน และ Penthouse แต่ว่าจะมีแบบที่แยกย่อยลงไปอีกหลายแบบมาก ขึ้นอยู่กับขนาดของห้องและตำแหน่งอีกทีค่ะ

• 1 Bedroom
  • 1 Bedroom Junior : ขนาด 25.5 – 35.5 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Duluxe : ขนาด 36.5 – 41.0 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Elegance : ขนาด 67.0 – 69.5 ตร.ม.
• 2 Bedroom
  • 2 ฺBedroom : ขนาด 55.0 – 68.0ตร.ม.
• 3 Bedroom 
  • 3 Bedroom : ขนาด 94.0 – 109.5 ตร.ม.
• Penthouse
  • Penthouse : ขนาด 194.0 – 271.5 ตร.ม.

แปลนคอนโด One9Five อโศก – พระราม 9
1 Bedroom  Type E   ขนาด 35.50 ตร.ม.

ห้องขนาด 35.50 ตร.ม. เป็นห้องที่คนค่อนข้างนิยมเหมือนกัน  วางแปลนโดยให้ห้องน้ำและห้องครัวอยู่ด้านหนึ่งไปเลย  เมื่อเดินเข้าห้องมาจะมีตู้รองเท้าที่โครงการ Built-in มาให้  และจะเจอพื้นที่รับประทานอาหารและโซนนั่งเล่นเลยค่ะ  ตรงนี้สามารถวางโซฟาและโต๊ะทานข้าวสำหรับ 2 ที่นั่งได้  ในส่วนพื้นที่ครัวจะมีประตูกั้นเป็นห้องให้  ป้องกันกลิ่นรบกวนเข้ามาให้ห้อง เป็นสัดส่วนดี

ถัดจากโซนนั่งเล่นก็จะเป็นห้องนอนมีประตูกระจกบานเลื่อนกั้นแยกโซนให้  แต่ห้องน้ำของ Type นี้ จะอยู่ในห้องนอนค่ะ ถ้าอยู่คนเดียวก็จะรู้สึกว่าได้ห้องน้ำในตัวมีความเป็นส่วนตัวดี   ระเบียงห้องนี้ก็เช่นกัน จะได้ระเบียงยาวเท่ากับความกว้างของห้องเลยค่ะ

แปลนคอนโด One9Five อโศก – พระราม 9
1 Bedroom Typical Type A   ขนาด 40.50 ตร.ม.

แบบ Type A นี้เป็น 1 ห้องนอนที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่  และได้ครัวเปิดค่ะ  ห้องนี้น่าจะเหมาะกับ lifestyle คนที่ไม่ได้เน้นการทำครัวเท่าไหร่  อาจจะเป็นการ soft cooking เบาๆ  เพราะว่าพื้นที่ครัวนั้นต่อเนื่องกับส่วนนั่งเล่นพักผ่อนเลย

เมื่อเปิดห้องเข้ามา จะเจอครัวและห้องน้ำอยู่ส่วนแรก  ห้องน้ำจะเข้าได้ทั้ง 2 ทางคือจากห้องนอนและจากบริเวณพื้นที่ครัว  การวางฟังก์ชั่นเหล่านี้ไว้ตรงหน้าห้อง  ทำให้สามารถเปิดสเปซด้านนอกให้ส่วนของพื้นที่นั่งเล่น และส่วนของห้องนอนได้แสงธรรมชาติเข้ามาได้เต็มที่ค่ะ  โดยพื้นที่ส่วนนั่งเล่นนั้นได้กระจกเข้ามุมด้วยนะคะ

พูดถึงห้องนอนสำหรับ  Type  นี้ในห้องนอนก็จะดูค่อนข้างใหญ่ มี walk-in Closet เป็นส่วนเชื่อมกันระหว่างห้องนอนและห้องน้ำ ดูน่าจะใช้งานได้ดีค่ะ ออกจากห้องน้ำเสร็จก็เจอตู้เสื้อผ้าหาชุดเปลี่ยนได้เลย แต่ระเบียงห้องนี้จะแคบกว่าแบบห้องอื่นๆ มีพื้นที่แค่พอวางคอมเพรสเซอร์แอร์เท่านั้น  ส่วนเรื่องวิว ถ้าดูจากแปลนตำแหน่งห้องจะได้วิวไปทางทิศเหนือและทิศใต้ค่ะ

แปลนคอนโด One9Five อโศก – พระราม 9
1 Bedroom  Type B   ขนาด 41.00 ตร.ม.

อีกหนึ่งห้องในแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ของ Type A และ B จะมีขนาดพอกัน  ต่างกันที่รูปแบบการวางตำแหน่งครัวและห้องน้ำ  รวมถึงคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ

เมื่อเปิดเข้ามาในห้อง จะเจอกับส่วนนั่งเล่น ซึ่งสามารถวางโต๊ะทานข้าวสองที่นั่งได้พอดีๆ  ห้องนี้จะมีระเบียงอยู่ตรงห้องนั่งเล่น  แต่ระเบียงมีขนาดไม่ใหญ่เท่าไหร่เพราะต้องแบ่งพื้นที่ส่วนหนึ่งไว้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ  ครัวก็จะเป็นครัวปิดทำอาหารสบายๆ ห้องน้ำก็เช่นกันค่ะ คือสามารถเข้าได้สองทางแต่ตรงตู้เสื้อผ้าจะทำเป็นลักษณะ Built-in ไม่ได้เป็น Walk-in Closet เหมือนแบบ Type A นะคะ  ห้องนอนของแบบนี้จะได้กระจกเข้ามุมที่บริเวณหัวนอนด้วยค่ะ

แปลนคอนโด One9Five อโศก – พระราม 9
2 Bedroom  Type D   ขนาด 68.00 ตร.ม.

มาถึงแบบห้อง 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ  ที่เป็นแบบใหญ่ที่สุดในโครงการ (ไม่นับห้อง Penthouse) มีให้เลือกเริ่มต้นตั้งแต่ชั้น 4 เป็นต้นไป โดยห้องเหล่านี้จะอยู่ที่มุมของตึกหันไปทางฝั่งทิศตะวันออก  ข้อดีของแบบ 2 ห้องนอน ก็คือจะได้แสงธรรมชาติและเห็นวิวได้จากทั้ง 2 ด้านค่ะ

เมื่อเปิดเข้ามาจะเป็นส่วนครัว มีตู้เก็บรองเท้าจะแยกโซนไว้ที่ด้านหน้า  ซึ่งเป็นครัวเปิด ซึ่งจะมีระเบียงเล็กที่ใช้วางเครื่องซักผ้ากับคอมเพลสเซอร์แอร์ได้ด้วย  เวลาทำครัวก็สามารถเปิดประตูระเบียงนี้ให้อากาศถ่ายเทออกไปได้เลย  จากนั้นเข้ามาส่วนกลางห้องจะสามารถวางโต๊ะทานข้าวใหญ่สำหรับ 4 ที่นั่งได้ ซึ่งสเปซส่วนนี้จะต่อเนื่องกับพื้นที่นั่งเล่นพักผ่อนและสามารถออกไปที่ระเบียงได้ค่ะ

ห้องนอนใหญ่มี walk-in closet  และห้องน้ำในตัว ที่มีอ่างอาบน้ำเป็น Sexy Bathroom สามารถมองเห็นจากส่วนห้องนอนได้  ซึ่งสเปซในห้องนอนขนาดวางเตียง 5 ฟุต กำลังพอดีๆ  ถ้าวางเตียง King size อาจจะเหลือพื้นที่รอบเตียงน้อยไปหน่อยค่ะ  ในภาพรวมการจัดแปลนนี้ก็ถือว่าค่อนข้างเป็นสัดส่วนดีนะคะ  สเปซหลักเกือบทุกจุดได้แสงธรรมชาติเข้ามาด้วย

เปิดห้อง  มองสเปซ  :  Focus  on  “SPACE”  and  “DIMENSION”

ห้องตัวอย่าง One 9 Five อโศก–พระราม 9
1 Bed Room  Type E   ขนาด 35.50 ตร.ม.

ส่วนแรกของห้องเป็นส่วนนั่งเล่น พักผ่อน  ทางด้านขวาจะเป็นครัว การตกแต่งในห้องนี้ถ้าใช้กระจกเข้ามาช่วย จะทำให้ห้องนั้นดูกว้างขึ้นซึ่งก็เป็นวิธีที่ใช้กันทั่วไปเลยค่ะ  ขนาดความกว้างพื้นที่ส่วนนี้พอที่จะวางโซฟาและโต๊ะวางทีวีได้ แต่ก็ต้องเลือกขนาดกว้างของโต๊ะประมาณ 30-40 ซม. ถึงจะพอดีๆ เหลือที่ตรงกลางให้เดินสบายหน่อย

ห้องครัวนั้นจะ Built-in ตู้ เคาน์เตอร์ที่เห็นในรูปนี้มาให้ค่ะ ฮูดดูดควัน เตาไฟฟ้า ก็ให้มาเหมือนกัน  การกั้นแยกส่วนครัวนั้นจะกั้นโดยใช้ประตูบานเลื่อน ขนาดห้องครัวก็ไม่ใหญ่ค่ะ ความกว้างเท่ากับ 1 คนยืนหมุนตัวได้ ถ้าใช้งานพร้อมกัน 2 คน ก็จะเริ่มเบียดแล้วค่ะ

ที่หน้าประตูทางเข้าจะมีตู้เก็บรองเท้า เป็นตู้ Built-in เช่นกัน ทางโครงการติดมาให้เลย  ดูเรียบร้อยสวยงามดี

มองเข้าไปด้านในจะเป็นห้องนอนมีประตูบานเลื่อนกระจกกั้นให้ เป็นกระจกเต็มบานสูงติดฝ้าเพดาน บานกรอบก็จะดีไซน์มาให้ลักษณะนี้ เป็นกรอบบางๆค่ะ

เดินเข้ามาด้านในหน่อย จะเป็นห้องนอน สามารถวางเตียงใหญ่ 5 ฟุตได้ และยังเหลือที่ปลายเตียงอีกเยอะเลย ถัดจากเตียงไปจะเป็นประตูออกไประเบียง ซึ่งการที่ได้ประตูกระจกขนาดเต็มบาน ช่วยทำให้ห้องดูโปร่งดีค่ะ

ลองออกมาดูระเบียงด้านนอก ระเบียงไม่กว้างมากแต่ยาว  มีแผงระแนงอะลูมิเนียมกั้นใช้บังคอมเพรสเซอร์แอร์ติดไว้ให้เพื่อความเรียบร้อยสวยงามค่ะ

มุมจากห้องนอนมองกลับเข้าไป ตู้เสื้อผ้าที่อยู่ทางซ้ายมือเป็นตู้ Built-in ที่ทางโครงการจัดเตรียมมาให้เลย …. สำหรับห้อง Type นี้ ห้องน้ำจะอยู่ด้านในห้องนอนอีกที ถ้าอาศัยอยู่คนเดียวก็จะสะดวกดีเวลาใช้งาน แต่ถ้ามีแขกมาก็อาจจะกวนความเป็นส่วนตัวนิดหน่อยค่ะ

สำหรับห้องน้ำจะมีสุขภัณฑ์เตรียมไว้ให้แล้วซึ่งจะมีอ่างล้างมือพร้อมตู้เก็บของด้านล่างที่ Built-in ไว้ให้  , กระจกติดผนัง , ส่วนอาบน้ำให้ทั้งฝักบัวและ Rain Shower ประตูกระจกนิรภัยกั้นระหว่างส่วนเปียกกับแห้งก็ติดมาให้เลยค่ะ

มุมจากห้องนอนมองกลับออกไปทางฝั่งทางเข้าห้อง โดยภาพรวมแล้วการจัดวางตำแหน่งแต่ละฟังก์ชั่นเป็นสัดส่วนดี

ห้องตัวอย่าง One 9 Five อโศก–พระราม 9
1 Bedroom Type A   ขนาด 40.50 ตร.ม

เปิดเข้ามาในห้องจะเจอส่วนครัว และห้องน้ำก่อนเลย  ถัดไปมีพื้นที่พอวางโต๊ะทานข้าวได้  ส่วนนั่งเล่นพักผ่อนจะอยู่ถัดเข้าไปตามลำดับ

ส่วนครัวนั้นจะเป็นครัวเปิดเข้ามุม ไม่ได้แบ่งเป็นห้องหรือกั้นแยกส่วนออกจากพื้นที่บริเวณอื่นๆ

จากบริเวณทางเข้าห้องมา ห้องน้ำจะอยู่ทางซ้าย ซึ่งเป็นห้องน้ำที่เข้าได้สองช่องทาง  โดยจะสามารถเข้าจากห้องนอนได้อีกทางนึงค่ะ

การกั้นแยกส่วนเปียกและแห้ง จะใช้เป็นแผ่นกระจกใสติดบานพับทำเป็นประตูบานเปิด และมีกระจกติดตายสูงชนฝ้า กั้นเป็นส่วนอาบน้ำให้

ห้องนอนจะติดกับส่วนพักผ่อน ใช้ประตูกระจกบานเลือนกั้นแยกโซนออกจากกัน ซึ่งกระจกที่ใช้ก็เป็นกระจกใสเต็มบาน สูงติดฝ้าเพดานเลย เวลาเปิดประตู สเปซก็จะเชื่อมต่อกันได้  โดยห้อง Type นี้ จะให้แอร์สองตัวเป็นแบบฝังฝ้าเพดานทั้งหมดเลย เพดานห้องก็จะดูโล่งๆ ดีค่ะ

การกั้นประตูกระจกแบบนี้มีข้อดีอย่างนึงคือ ถ้าอยากจะนอนดูทีวีบนเตียง ก็แค่เลื่อนประตูพับเก็บเข้าไป ทีนี้ก็จะเหมือนให้ห้องนั่งเล่น ส่วนพักผ่อนเป็นห้องกว้างไปเลยค่ะ

มุมมองห้องน้ำถ้าเข้าจากฝั่งห้องนอน

หันกลับเข้ามาฝั่งห้องนอนบ้าง บริเวณนี้จะเป็น ตู้เสื้อผ้า built-in มาให้  ซึ่งการจัดให้ตู้เสื้อผ้าอยู่ตรงนี้ จะทำให้เหมือนได้ใช้เป็น walk-in closet เลยค่ะ

ห้องนี้จะใช้กระจกเข้ามาเล่นค่อนข้างเยอะ  ส่วนที่ติดด้านนอกจะเป็นกระจกตลอดแนว  มีกระจกบานกระทุ้งไว้เผื่อเปิดระบายอากาศได้ แบ่งเป็นในห้องนอน 2 บาน โซนนั่งเล่น 2 บาน ซึ่งทำให้อย่างน้อยเวลาจะเข้าครัวทำอาหารมื้อหนักหน่อย ก็เลื่อนประตูห้องนอนปิดและเปิดหน้าต่างในส่วนของห้องนั่งเล่นระบายอากาศออกไป  ก็พอจะกันกลิ่นที่เข้ามาในห้องนอนได้  แต่ห้องนี้จะไม่มีระเบียงยาวๆ ให้ออกไปใช้งานนะคะ

ระเบียงนั้นจะมีก็แต่จะเป็นระเบียงเล็กๆ สำหรับวางคอมเพรสเซอร์ และตากผ้านิดหน่อย ซึ่งจะอยู่ระหว่างโซนนั่งเล่นกับครัว

มีแผงอะลูมิเนียมบังคอมเพรสเซอร์แอร์ไว้เพื่อความเรียบร้อยสวยงามเช่นกัน

จากโซนนั่งเล่นมองกลับเข้าไป  ในภาพรวมแล้วถ้าวางเฟอร์นิเจอร์พอดีๆ ใกล้เคียงกับห้องตัวอย่าง การใช้งานพื้นที่ก็จะสบายๆ ไม่คับแคบ  สามารถใช้งานได้จริงค่ะ

ห้องตัวอย่าง One 9 Five อโศก – พระราม 9
1 Bed Room Type B   ขนาด 41.00 ตร.ม.

ห้องนี้จะมีขนาดใกล้เคียงกับแบบที่แล้วพื้นทีใช้สอยใกล้เคียงกัน แต่การจัดวางแปลนนั้นต่างกัน ทำให้เป็น option ไว้เลือกได้สำหรับคนที่อยากได้ห้องใหญ่หน่อย มองแล้วน่าจะทำมาจับกลุ่มคนวัยทำงานมาพักใหญ่ๆ กลุ่มวัยกลางคน ที่ต้องการพื้นที่แยกเป็นสัดส่วนชัดเจน  โดยภาพรวมจากแปลน ห้องครัว ห้องน้ำ ห้องนอนจะจัดอยู่ด้านหนึ่งของแปลนห้องเรียงกันไปตามลำดับ

ทีนี้ลองเข้ามาดูในห้องกันค่ะ

เมื่อเปิดประตูเข้ามาแล้วครัวจะอยู่ทางซ้ายมือ  ตู้เก็บของ เคาน์เตอร์ครัว เป็น Built-in ให้มาเหมือนกัน  แต่เป็นครัวปิดซึ่งสามารถทำอาหารจริงจังได้

ประตูกั้นห้องครัวใช้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนค่ะ

ห้องน้ำอยู่ติดกับห้องครัว สามารถเข้าได้สองทางเช่นกัน คือ จากในห้องนอนและส่วนโซนนั่งเล่น

มาถึงห้องนอน สามารถวางเตียง 5 ฟุต และโต๊ะหัวเตียง 2 ตัว ได้อยู่นะคะ

ปลายเตียงเหลือพื้นที่เดินได้  แต่ถ้าจะวางทีวีเพิ่มคงต้องยึดติดผนังไป  ถ้าวาง Sideboard จะแน่นไปค่ะ

ส่วนพื้นที่ข้างเตียง กว้างพอที่จะวางโต๊ะหัวเตียงได้อีก 1 ตัว และบานกระจกก็เป็นกระจกเต็มบาน สูงจากฝ้าเพดานยาวลงมาถึงพื้น ทำให้รู้สึกโปร่งเพิ่มมากขึ้น

จากมุมนี้จะเห็นทางเข้าห้องน้ำ ส่วนตู้เสื้อผ้านั้นจะตั้งอยู่ขนาบสองข้างทางเข้าห้องน้ำค่ะ  ทำ Built-in มาให้เรียบร้อยเลย

ห้องนอนของแบบนี้จะกั้นด้วยผนัง ดังนั้นค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวและเป็นสัดส่วนมากเลยทีเดียว

มุมมองจากพื้นที่โซนนั่งเล่น มองกลับออกไปทางฝั่งประตูเข้าห้องค่ะ  แอร์ฝังฝ้าก็จะดูเรียบร้อยดี

ระเบียงห้องนี้ไม่ยาวเท่าไหร่ค่ะ ความกว้างของระเบียงในทุกๆ Type จะกว้างพอกันอยู่แล้ว มีแผงเป็นระแนงสำหรับบังคอมเพรสเซอร์แอร์ให้มาเช่นกันค่ะ

อย่างที่บอกค่ะว่าเมื่อเข้าห้องมา ตำแหน่งของห้องครัว ห้องน้ำ และห้องนอนจะเรียงติดกันมาเลย ส่วนพื้นที่ที่เหลือเป็นส่วนนั่งพักผ่อน

ภาพรวมของห้องนี้ การจัดวางตำแหน่งในแต่ละการใช้งาน เป็นสัดส่วนและมีความเป็นส่วนตัวดีค่ะ

ห้องตัวอย่าง One 9 Five อโศก – พระราม 9
2 Bedroom   Type D   ขนาด 68.00 ตร.ม.

ห้องตัวอย่างที่เป็น 2 ห้องนอน จะมีแบบห้อง 68 ตร.ม. ให้ดูห้องเดียวค่ะ เป็นฟังก์ชั่น 2 ห้องนอน และ 2 ห้องน้ำ

ในส่วนครัวนั้น เป็นครัวเปิด  ลักษณะการวางตัวเคาน์เตอร์ครัวเป็นแนวยาวค่ะ เนื่องจากมีพื้นที่มาก ติดกับครัวจะมีประตูออกไประเบียงเล็กๆ ใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์ค่ะ

ทางออกระเบียงส่วนที่ใช้วางคอมเพรสเซอร์แอร์  ความลึกค่อนข้างมาก เวลายืนตากผ้าก็สามารถใช้งานได้สะดวก

ถัดเข้ามาตรงกลางจะเป็นสเปซกว้าง ส่วนตรงกลางนี้จัดเป็นส่วนนั่งเล่นพักผ่อน  วางโต๊ะทานอาหารได้ด้วย และเป็นโถงเพื่อแยกเข้าไปในห้องนอนใหญ่และห้องนอนเล็กค่ะ

มุมมองของโถงส่วนนี้จะมีรูปร่างเป็นตัว L ซึ่งทำให้ส่วนพื้นที่นั่งพักผ่อนดูเป็นสัดส่วนและทำให้เหมือนได้ห้องอีกห้องนึงไปโดยปริยาย โซนนี้จะติดกับทางออกไประเบียงด้านนอกได้ค่ะ

ถ้าหากจะวางโต๊ะทานข้าวก็สามารถวางโต๊ะ 4 ที่นั่งได้สบายๆ และยังเหลือพื้นที่เดินรอบๆ ได้อีก

มุมมองจากส่วนนั่งเล่นพักผ่อน มองกลับไปทางโต๊ะทานข้าว ในพื้นที่ส่วนนี้ดูเป็นสัดส่วนดีค่ะ วางโซฟาขนาด 5 ที่นั่ง และโต๊ะกลางได้พอดีๆ รวมทั้งสามารถวางโต๊ะวางทีวีได้ด้วยแต่ความกว้างต้องไม่เกิน 30-40 เซนติเมตรนะคะ ไม่งั้นจะเริ่มทำใหทางเดินแคบเกินไปแล้ว

มาดูระเบียงด้านนอกที่ติดกับส่วนพื้นที่นั่งเล่นค่ะ ในส่วนนี้จะไม่ต้องกันพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์แอร์แล้ว ก็ทำให้ได้พื้นที่เพิ่มขึ้น อาจจะตกแต่งวางกระถางต้นไม้ทำเป็นสวนเล็กๆ ได้

ระยะความกว้างของระเบียง

จากมุมนี้มองกลับไป จะเห็นครัว โซนที่รับประทานอาหารและห้องน้ำ

มาถึงห้องนอนใหญ่กันบ้าง  ด้านขวามือในรูปคือกระจกของห้องน้ำในส่วนที่เป็น Sexy Bathroom

แต่เมื่อวางเตียง 5 ฟุตแล้ว ฝั่งซ้ายของเตียงติดกับห้องน้ำ ที่เป็นส่วนอ่างอาบน้ำ ยังพอเหลือพื้นที่ด้านข้างเตียงพอที่จะวางโต๊ะหัวเตียงเล็กๆได้อยู่ค่ะ

ด้านขวาของเตียงก็เช่นกัน ก็ยังเหลือที่เดินรอบได้สะดวก ด้านนี้จะเป็นด้านที่เห็นวิวด้านนอกค่ะ

จากมุมห้องมองกลับเข้าไปจะเห็นห้องน้ำที่อยู่ในห้องนอนใหญ่ การจัดเรียงลำดับการเข้าถึงห้องน้ำ จะเรียงลำดับจาก ตู้เสื้อผ้า Built-in ที่เป็น walk-in closet , ห้องน้ำส่วนแห้ง , ห้องน้ำส่วนเปียก โดยจะแยกเป็นพื้นที่อาบน้ำฝักบัว , Rain Shower กับ อ่างอาบน้ำ  ฟังก์ชั่นถือว่าจัดโซนได้ดีเลยนะคะ

พื้นที่ส่วนแห้ง มีหน้างต่างสูงยาวติดฝ้าเพดาน และมีบานกระทุ้งเปิดระบายอากาศและความชื้นได้

จากส่วนแห้งจะแยกเข้าไปส่วนเปียกซึ่งจะมีทั้งอาบฝักบัวและอ่างอาบน้ำ

การกั้นระหว่างอ่างอาบน้ำกับห้องนอนใช้เป็นกระจกบานใหญ่อย่างเดียว  ถ้าใครไม่ชอบก็อาจจะต้องหาม่านหรือมู่ลี่มาติดเพิ่มค่ะ

มุมจากห้องน้ำมองออกไป จะมีตู้เสื้อผ้าติดตั้งไว้อยู่

มุมมองจากด้านหน้าห้องน้ำค่ะ

มาดูห้องน้ำด้านนอกกันบ้าง ลักษณะการจัดวางสุขภัณฑ์ของห้องน้ำห้องนี้ จะวางเรียงเป็นแนวเดียวกันมีการกั้นพื้นที่ส่วนเปียกและแห้งให้ค่ะ

ห้องนอนห้องเล็กสามารถวางเตียง 5 ฟุตได้นะคะ ทางฝั่งหน้าต่างเป็นบานกระจกติดตายและมีบานกระทุ้งสามารถเปิดให้ระบายอากาศได้ 1 บานค่ะ

ถึงแม้จะเป็นห้องนอนเล็ก แต่ก็ยังมีพื้นที่ข้างเตียงเหลืออยู่เช่นกัน

มุมปลายเตียงกับพื้นที่ข้างเตียง มีขนาดกว้างพอคนเดินได้สบายค่ะ

แต่ด้านข้างเตียงฝั่งที่ติดกับตู้เสื้อผ้านั้นมีพื้นที่เหลือเยอะกว่าค่ะ

มุมรวมๆ ในห้องนอนเล็กอีกมุมค่ะ

โดยรวมห้องนี้ก็จัดได้ลงตัว เป็นสัดส่วน  ใช้พื้นที่ได้คุ้มค่าดีสามารถอาศัยอยู่เป็นครอบครัวได้เลยค่ะ

เปิดห้อง  ส่องวัสดุ  :  Focus  on  “MATERIALS”

วัสดุในภาพรวมของ One9Five อโศก – พระราม 9 

วัสดุห้องครัว

ลักษณะครัวที่ให้มา  โดยภาพรวมแต่ละห้อง จะให้เตาไฟฟ้า ,ที่ดูดควัน เป็นของ MEX  มีอ่างล้างจาน และ built-in ตู้กับเคาน์เตอร์มาให้

สำหรับห้องที่เป็นครัวปิด จะกั้นประตูกระจกบานเลื่อน  บานกรอบเป็นอลูมิเนียมสีเงินค่ะ

ขนาดของครัวจะขึ้นอยู่กับแต่ละห้องค่ะ วัสดุของตู้และเคาน์เตอร์ที่ Built-in ปิดผิวอะคริลิค glossy  เทคนิคการปิดผิวแบบนี้ประสิทธิภาพการกันน้ำจะดีกว่าการปิดผิวแบบลามิเนต และดูมีราคาด้วย

ตู้และเคาน์เตอร์สามารถเปิดเก็บของได้ เรียกว่าบานไหนที่มีมือจับจะสามารถเปิดเก็บของได้หมด

ความลึกของอ่างล้างจานที่ให้มานี้ค่อนข้างลึกค่ะ ล้างหม้ออะไรๆ สะดวก

เตาไฟฟ้าที่ให้มาเป็นเตา 2 หัว ของ MEX แต่ถ้าห้องใหญ่ 2 ห้องนอน จะได้เตา 4 หัวค่ะ

ตู้ใต้ Sink เป็นบานเปิด 2 บาน มีที่เก็บของได้ค่ะ

พื้นที่ระหว่างโซนนั่งเล่นกับครัว มีวัสดุปิดรอยต่อระหว่างกัน เป็นหินแกรนิตสีดำ

ตู้ที่ปิดท่อดูดควันสามารถเปิดได้  ทางโครงการ One9Five ยังกั้นชั้นวางเล็กๆมาให้ด้วย ใช้สำหรับเก็บขวดซีอิ๊ว เกลือ .. ได้ค่ะ

วัสดุห้องน้ำ

ห้องน้ำมีการแยกส่วนเปียก-แห้ง สุขภัณฑ์ใช้ยี่ห้อ Kohler หรือเทียบเท่า

ในห้องน้ำมีที่ดูดอากาศให้ค่ะ สำหรับห้องที่ไม่มีหน้าต่างเปิดระบายอากาศ

ตู้เก็บของ เป็น Built-in จากโครงการ วัสดุเหมือนกับตู้และเคาน์เตอร์ในครัวค่ะ

เป็นบานเปิด สามารถเปิดได้สองบานค่ะ  เอาไว้เก็บพวกน้ำยาล้างห้องน้ำ และอุปกรณ์ต่างๆ ได้

ด้านบนมีพื้นที่วางของได้ วัสดุเคาน์เตอร์เป็นหินสังเคราะห์ลายหินอ่อน สีขาว ดูดี เข้ากับสีของตู้เก็บของและสีของห้องน้ำดีค่ะ

พื้นระหว่างห้องน้ำกับพื้นโซนห้องนั่งเล่น/ห้องนอน วัสดุปิดรอยต่อเป็นหินแกรนิตสีดำ

มีบานกระจกกั้นให้ระหว่างส่วนเปียกส่วนแห้ง ประตูกระจกเป็นบานผลัก 1 บาน

ผนังห้องน้ำปูด้วยหินแกรนิต ส่วนอาบน้ำให้มาทั้งฝักบัวและ Rain Shower ค่ะ

บานประตูกระจก ติดบานพับลักษณะนี้ ยึดกับผนัง

สำหรับส่วนเปียกที่มีการเข้ามุมของบานกระจก ยึดด้วยซิลิโคน   แนวกั้นระหว่างส่วนเปียกกับแห้งมีการยกขอบขึ้นมา ใช้วัสดุหินแกรนิตสีดำ

วัดสุปูพื้นส่วนเปียกและส่วนแห้งจะเหมือนกัน

ฝ้าเพดานดรอปให้ และติดไฟซ่อนให้ด้วยค่ะ

ตู้กระจกติดผนังที่ให้มาจะเป็นลักษณะนี้  แต่ไม่มีกรอบตกแต่งสีดำ ถึงจะไม่ได้กรอบตกแต่งมา  ก็สวยแล้วค่ะเรียบๆดี

สามารถเปิดได้เป็นตู้เก็บของ มีชั้นวางมาให้ค่ะ

วัสดุทั่วไปในห้อง / วัสดุปิดผิว (finishing)

พื้นระหว่างครัวกับโซนนั่งเล่น เป็นพื้นหินแกรนิตกับพื้นไม้ engineering wood 15 มม.  ผิวสัมผัสดีค่ะ ดูแพง

พื้นห้องนอนกับพื้นโซนนั่งเล่น ไม่มีรอยต่อระหว่างกัน เป็นพื้นเรียบระเดียวกันไปเลย

แอร์เป็นแบบฝังฝ้าเพดานจะติดให้ในโซนนั่งเล่นและห้องนอน ยกเว้นห้องนอน ของ Type ห้อง 35ตร.ม.จะเป็นแอร์ติดผนัง

ไฟเป็นดาวน์ไลท์ฝังฝ้าเพดาน

มือจับและกลอนประตูเข้าห้อง / สวิตซ์ไฟเป็นสีทองตามแบบในรูปค่ะ

หน้าประตูเข้าห้อง มีตาแมวมาให้ด้วย

ตู้เก็บรองเท้าบริเวณทางเข้าห้อง วัสดุเดียวกับ ตู้ครัวและตู้ในห้องน้ำค่ะ

ด้านในตู้มีลิ้นชักให้มาด้วย 1 ลิ้นชัก  อีกฝั่งเป็นส่วนไว้เก็บร่มโดยเฉพาะ  การแบ่งฟังก์ชั่นการใช้งานนี้ดีมาก  คิดมาเผื่อไว้แล้ว

ประตูออกด้านนอกระเบียง เป็นประตูกระจกบานสไลด์ กรอบอลูมิเนียมสีดำ

มีการดรอป ฝ้าเพดานสำหรับซ่อนรางผ้าม่านได้

ตู้เสื้อผ้ามีให้มาเหมือนกัน  รวมทั้งไฟส่องสว่างภายในตู้ด้วย

ประตูตู้เสื้อผ้าจะเป็นบานเปิด ทำให้ใช้งานได้ง่าย

พื้นด้านนอกระเบียงปูกระเบื้อง มียกขอบธรณีประตูขึ้นมา

มือจับประตูระเบียงที่เป็นบานสไลด์จะเป็นลักษณะนี้ค่ะ

รั้วกันตกเป็นกระจก ยึดกับราวอลูมิเนียม

เปิดกระเป๋า  ดูสตางค์

ราคาขายเริ่มต้น ณ วันที่ไปรีวิว (12/07/61) ราคาเริ่มต้นที่ 3.69 ล้านบาท  เป็นแบบ  1 Bedroom ขนาด 25.5 ตร.ม. ตอนนี้ราคาเฉลี่ยของโครงการอยู่ที่ 170,000 บาท/ตร.ม.  ค่ะ  โดยราคาเฉลี่ยเริ่มต้นอยู่ที่ 165,000 บาท/ตร.ม. และเนื่องจากมี Type ห้องค่อนข้างเยอะ และมีจำนวนยูนิตมาก ทำให้ช่วงราคาจะค่อนข้างกว้าง ราคาของห้องก็จะขึ้นอยู่กับขนาดและความสูงด้วย  โดยห้องที่ขายทั้งหมดเป็น Fully Fitted นะคะ

ราคา ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2561

ราคาเริ่มต้น :

1 Bedroom ขนาด 25.5 ตร.ม.  ราคาเริ่มต้น 3.69  ล้านบาท เฉลี่ย  144,705  บาท/ตร.ม.  

เงื่อนไขการจอง :

1 ห้องนอน เงินจอง  30,000 บาท ทำสัญญา 50,000 – 80,000 บาท

2 ห้องนอน เงินจอง  50,000 บาท ทำสัญญา 100,000 – 150,000 บาท

2 ห้องนอน  เงินจอง  100,000 บาท ทำสัญญา 200,000 บาท

• ผ่อนดาวน์

30 เดือน

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ :

ค่าส่วนกลาง 55 บาท/ตร.ม.  (ชำระล่วงหน้า 1 ปี  ณ วันโอนกรรมสิทธิ์)
ค่ากองทุนเริ่มแรก (Sinking Fund)  600 บาท/ตร.ม. (ชำระครั้งเดียว ณ วันโอน)

Overview Summary

ด้านการเดินทาง

เรื่องของการเดินทางไป One 9 Five Asoke-Rama 9  นั้นคงไม่ต้องพูดกันเยอะค่ะ  เพราะโซนแยกพระราม 9 จัดเป็นจุดที่ฮอตที่สุดแห่งหนึ่งในตลาดคอนโดช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมานี้อยู่แล้ว  แต่การขับรถในโซนนี้ก็ต้องยอมรับเรื่องของการจราจรอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้นะคะ  ยังไงรถก็ติด  แต่ก็ถือว่าเป็นจุดที่สามารถเข้าถึงโซนสำคัญต่างๆ ของกรุงเทพฯ ได้สะดวก  และมีแนวทางด่วนอยู่ไม่ไกลอีกด้วย  ถ้าวันไหนก่อนออกจากคอนโด เปิดเช็ค Google แล้วรถติด  ก็สามารถใช้รถไฟฟ้า MRT พระราม 9 ได้  ไม่ไกล  เดินลัดเข้าทางตรง G Tower ไปไม่เกิน 5 นาทีก็ถึงแล้วค่ะ

ด้านศักยภาพการเติบโตในอนาคต

ถ้าพูดถึงการเติบโตในอนาคต ตลาดคอนโดในบางทำเลเริ่มที่จะมีสัญญาณอิ่มตัวบ้างแล้ว แต่ด้วยทำเลพระราม 9 ที่มี Office Building ใหม่ๆ เกิดขึ้นมาเยอะ และยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกรอบข้างอยู่แล้ว  มีโครงสร้างพื้นฐานครบ  รวมถึงสามารถเชื่อมต่อกับใจกลางเมืองอย่างสุขุมวิทได้ในระยะที่ไม่ไกลเกินไป  ทำให้เป็นจุดที่ดีเวลลอปเปอร์ยักษ์ใหญ่ทั้งหลายยังเข้ามาลงทุนในบริเวณนี้อย่างต่อเนื่อง  และยังมีสัญญาณการซื้อที่ดีอยู่มากค่ะ

โดยปัจจัยหลักสำคัญที่มากระตุ้นดีมานด์ในทำเลนี้ก็คือ กำลังซื้อจากต่างชาติที่เยอะมากกกก..  โดยเฉพาะตลาดคนจีนซึ่งชื่นชอบทำเลรัชดา-พระราม 9 สุดๆ ค่ะ  เนื่องจากใกล้สถานฑูตจีนด้วย  นอกจากนี้ก็ยังมีพระเอกที่หลายคนรอคอย อย่าง The Super Tower ซึ่งเป็นว่าที่อาคารสูงที่สุดในประเทศไทยในอนาคตอีกด้วย  อนาคตภาพของทำเลนี้ก็จะค่อยๆ มีความเป็น New CBD ชัดเจนขึ้นอีกมากค่ะ

ด้านสถาปัตยกรรมและการออกแบบ

คอนโด One 9 Five Asoke-Rama 9 นั้นถูกนำมาปัดฝุ่น Re-design และทำ Re-branding ใหม่ โดย 3 บริษัทที่มีชื่อเสียงมาออกแบบพัฒนาจากของเดิม วางโปรดักส์ให้เป็น Luxury คอนโด มีอิมเมจของความทันสมัยมากขึ้น ตัวอาคารออกแบบสไตล์โมเดิร์น ใช้สีเทาเป็นหลัก ให้กระจกบานใหญ่ Full Height ส่วนภายในจะเพิ่มสีทองที่มีความ Glow และมันเงา เพิ่มความหรูหราค่ะ

ที่ดินของโครงการเป็นตัว L ยาวลึกเข้าไปจากถนนพระราม 9 แต่ด้วยความที่เป็นที่ดินผืนใหญ่กินพื้นที่ไป 11-1-6 ไร่ ทำให้มียูนิตค่อนข้างเยอะ 1,911 ยูนิต การวางตัวอาคารเลยแยกเป็น 2 ทาวเวอร์และทำสูงมากถึง 61 ชั้น เท่าที่ระยะถอยร่นตามกฎหมายจะทำได้ เพื่อช่วยลดความหนาแน่นให้ไม่มีจำนวนยูนิตต่อชั้นมากจนเกินไป ซึ่งลักษณะของทำเล Prime Area แบบนี้ วิวที่เห็นก็มักจะต้องมีติดอาคารอื่นบ้างอยู่แล้วค่ะไม่ได้โล่งไปทั้งหมด อย่างที่ดินติดกันก็จะเป็นอาคาร Unilever และติดที่ดินของแสนสิริ ส่วนในอนาคตจะมี The Super Tower อาคารสูง 125 ชั้น มาเป็นพระเอกที่จะช่วยเพิ่มมูลค่าของทำเลนี้ด้วยค่ะ

สำหรับแปลนห้องของ One 9 Five Asoke – Rama 9 มีห้องให้เลือกตั้งแต่ 1 ห้องนอน – Penthouse ขนาด 25.5 – 271.5 ตร.ม. และแต่แบบก็แบ่งย่อยเป็นอีกหลายขนาด และมี Layout ที่ต่างกันไป ทั้งครัวเปิด-ครัวปิดให้เลือกตามความชอบค่ะ เนื่องจากเป็นโครงการที่มีจำนวนยูนิตเยอะช่วงราคากว้าง ทำให้กลุ่มลูกค้าจะมีหลายกลุ่ม

วัสดุของโครงการ One 9 Five Asoke – Rama 9 จัดว่าให้ของดีทีเดียว ทุกห้องให้มาแบบ Fully Fitted มีแพนทรี่ครัว, ตู้เสื้อผ้า Built-in, ตู้เก็บรองเท้า , พื้นไม้ Engineering wood หนา 15 มม. , การดรอปฝ้าเพดานเพื่อซ่อนรางผ้าม่าน , ดีไซน์กรอบประตูกระจกบานเลื่อนที่กั้นระหว่างส่วนนั่งเล่นกับห้องนอนให้บางไม่ดูเทอะทะ , ติดไฟส่องสว่างในตู้เสื้อผ้า ซึ่งเป็นดีเทลเล็กๆ น้อยที่บางโครงการจะข้ามส่วนนี้ไป รวมถึงได้เครื่องปรับอากาศแบบฝังฝ้าเพดานด้วยค่ะ

ด้านพื้นที่ส่วนกลางด้วยความที่ยูนิตเยอะ และต้องการให้แข่งขันในตลาดได้ เลยจัดมาเอาใจกันค่อนข้างเต็มที่ แบ่งเป็น 3 ส่วน ที่ชั้น G , ชั้น 8 และชั้น 61 โดยชั้นล่างมีสวนสาธารณะ, Co-Working Space, Playground, Community Kitchen, Hydroponic Garden, Self-Car Washing, EV Charger, Lobby, Laundry Room ชั้น 8 จะมีสระว่ายน้ำยาวถึง 100 เมตร พร้อมที่พักผ่อนริมสระ, Jacuzzi, Pool Lounge ส่วนภายในอาคารก็มี Kid’s Club, Golf Simulator, Gym, Yoga, Library, Theater Room, Residenctial Lounge, Spa, Stream, Suana, Games Room และชั้น 61 จะมี Sky Lounge ไว้สำหรับนั่งชมวิว ซึ่งการออกแบบพื้นที่ส่วนกลางของ One 9 Five Asoke – Rama 9 นั้นสอดคล้องกันดี มีส่วนกลางหลากหลายมากๆ โดยเฉพาะส่วนตรงสระว่ายน้ำที่ได้บรรยากาศสวนไปเต็มๆ

เรื่องสัดส่วนการใช้ลิฟต์อาคาร A และอาคาร B อยู่ที่ 159 และ 160 ยูนิตต่อลิฟต์ 1 ตัว ตามลำดับ โดยจะมีเปลี่ยนลิฟต์ High zone ที่ชั้น 30 ลิฟต์ เพื่อชั้นสูงๆจะไม่ได้ไม่ต้องรอลิฟต์นานเกินไป ส่วนที่จอดรถจอดได้ 50% แบบรวมจอดซ้อนคัน เมื่อดูทำเลและเรตราคานี้ถือโอเคค่ะ เพราะเมื่ออยู่อาศัยจริงก็จะมีคนต่างชาติและตลาดเช่าด้วยส่วนหนึ่ง ทำให้ก็สัดส่วนที่จอดรถน่าจะพอ และโครงการเองก็ใกล้รถไฟฟ้าใต้ดินมากด้วย

Score Summary

สุดท้ายก็ขอจบรีวิวด้วยการให้คะแนนเช่นเคยค่ะ  (อ่านเกณฑ์การให้คะแนนบ้านจัดสรรที่นี่)

และสามารถเข้าไปเยี่ยมชม Fan Page ของเราเพื่อติดตามรีวิวโครงการบ้านและคอนโดได้ที่  https://www.facebook.com/Yusabuy

ถ้าข้อมูลเป็นประโยชน์ ช่วยกด Like กด Share ให้ทีมงานด้วยนะคะ  ^_____^