Chewathai เผยแผนธุรกิจปี 2562 เตรียมเปิด 10 โครงการใหม่ทั้งแนวราบ และคอนโดมิเนียม มูลค่ากว่า 10,651 ล้านบาท และในปีนี้บริษัทยังตั้งทีมงานใหม่ที่ดูแลเรื่องการขายอสังหาฯ ในตลาดต่างประเทศเองอีกด้วย ส่วนตลาดต่างจังหวัดก็มีท่าทีว่าจะขยายการลงทุนเพิ่มเติม โดยคาดว่าปีนี้จะกวาดรายได้ไปถึง 2,880 ล้านบาทเลยทีเดียว

แผนธุรกิจปี 2562

นายบุญ ชุน เกียรติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชีวาทัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่าในปี 2562 นี้ ทางบริษัทระวังในการลงทุนมากขึ้น เนื่องจากตลาดมีอุปสรรคเพิ่มจากปีที่แล้วหลายตัวแต่ทั้งนี้ก็ยังเชื่อว่าบริษัทจะยังคงเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จึงตั้งเป้ารายได้ไว้ 2,880 ล้านบาท โดยจะมีการเปิด 10 โครงการใหม่ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียม 3 โครงการ โครงการแนวราบ 5 โครงการ และโครงการร่วมทุนอีก 2 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 10,651 ล้านบาท

สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมที่จะเปิดใหม่ 3 โครงการ ได้แก่

• Chewathai  Kaset-Nawamin (ชีวาทัย เกษตร-นวมินทร์) เปิดไตรมาส 2
• Chewathai Pinklao (ชีวาทัย ปิ่นเกล้า) เปิดไตรมาส 3
• Hallmark Chokchai 4 (ฮอลล์มาร์ค โชคชัย 4) เปิดไตรมาส 2

โครงการแนวราบเปิดใหม่ 5 โครงการ ได้แก่

• Chewarom Nakorn-In (ชีวารมย์ นครอินทร์) เปิดไตรมาส 4
• Chewawan Pinklap-Sathorn (ชีวาวัลย์ ปิ่นเกล้า-สาทร) เปิดไตรมาส 2
• Chewahome Suksawat Pracha U-Thit (ชีวาโฮม สุขสวัสดิ์-ประชาอุทิศ) เปิดไตรมาส 1
• โครงการใหม่ที่อยู่ระหว่างดำเนินการ อีก 2 โครงการ มูลค่ารวม 1,400 ล้านบาท

โครงการร่วมทุน 2 โครงการ ได้แก่

• Heart Suhumvit 36 (ฮาร์ท สุขุมวิท 36)
• Kamala Senior Living (กมลา ซีเนียร์ ลิฟวิ่ง) ชีวาทัยถือหุ้นอยู่ที่  25 %

และในส่วนของงบเพื่อพัฒนาโครงการปี 2562 Chewathai ตั้งไว้ที่ 5,191 ล้านบาท แบ่งออกเป็นงบซื้อที่ดิน 3,261 ล้านบาท และงบก่อสร้างและพัฒนาที่ดินอีก 1,930 ล้านบาท โดยจะแบ่งใช้ลงทุนในปีนี้ 4,800 ล้านบาท และที่เหลือจะใช้ในการก่อสร้างในปี 2563

ขยายตลาดต่างประเทศ

สำหรับตลาดต่างประเทศทาง Chewathai ได้ตั้งทีมใหม่ขึ้นมาในชื่อ Chewa Inter เพื่อดูแลเรื่องการขายอสังหาฯ ในต่างประเทศโดยเฉพาะ ซึ่งเป้าหมายในปีนี้จะมุ่งเจาะตลาดลูกค้าชาวจีนเป็นหลัก เนื่องจากตลาดจีนปัจจุบันมีความต้องการถืออสังหาฯ ในต่างประเทศมากขึ้นจึงเป็นโอกาสให้บริษัทในการเพิ่มยอดขาย

เจาะตลาดแนวราบต่างจังหวัด

นอกจากการเจาะตลาดต่างประเทศแล้ว ปี 2562 Chewathai ยังมีแผนขยายตลาดแนวราบให้กว้างขึ้นโดยจัดทีม Chewa ภูธร ขึ้นมาเพื่อดูแลตลาดแนวราบในต่างจังหวัดโดยเฉพาะ และจะจับมือกับ partner ในการพัฒนาโครงการอีกด้วย โดยที่แรกที่บริษัทจะไปลงทุนจะเป็นจังหวัดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ก่อน

ขยายธุรกิจ recurring income

ในปีนี้ชีวาทัยมีแผนขยายธุรกิจ recurring income ให้มากขึ้นโดยมีแผนจะ take over โรงงานที่มีการเช่าไว้แล้วประมาณ 2 โรงงาน ซึงปัจจุบันบริษัทได้เตรียมจะซื้อโรงงานไปก่อน 1 โรงงาน มูลค่าประมาณ 250 ล้านบาท

ผลประกอบการปี 2561

สำหรับปี 2561 ที่ผ่านมาชีวาทัยมีรายได้รวมอยู่ที่ 2,676 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 264 ล้านบาท และมียอด Backlog อยู่ที่ 585 ล้านบาท แบ่งเป็นคอนโดมิเนียม 406 ล้านบาท เป็นบ้านและทาวน์อีก 179 ล้าน ซึ่งคาดว่าจะทยอยรับรู้ทั้งหมดในปี 2562