แซมพ์ บิลเดอร์ (SAMPS Builder) บริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีประสบการณ์มากว่า 10 ปี ส่งน้องใหม่ “คราวน์ (CROWN)” ลุยธุรกิจรับสร้างบ้าน จับกลุ่มลูกค้าที่ต้องการสร้างบ้านเองในระดับราคา 3 ล้านบาทขึ้นไป หวังติดปีกให้ บ.แม่และธุรกิจในเครือ ก้าวสู่บริษัทรับสร้างบ้านอันดับต้นๆ ของไทย ด้วยจุดแข็งด้านการออกแบบบ้านที่เข้าถึงไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย และการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายให้กับลูกค้า พร้อมทั้งการลุยสร้างแบรนด์ผ่าน online และ offline คาดยอดจองปีนี้จะได้ถึง 500 ลบ. ยอดทำสัญญา 375 ลบ.

นายพิสิษฐ์  เจียราภิรมย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แซมพ์ ไอคอน ไทยแลนด์ จำกัด (SAMPS Icon Thailand) เผยว่า สถิติจากสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน คาดการณ์ภาพรวมตลาดรับสร้างบ้านในปี 63 ว่าน่าจะมีมูลค่าประมาณ 13,000 – 13,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วประมาณ 5 – 7% โดยบ้านระดับ 3 – 10 ล้านบาท ยังเป็นตัวนำตลาดในกรุงเทพและปริมณฑล ในขณะที่มีการขยายตัวไปสู่ต่างจังหวัดในหัวเมืองใหญ่ เช่น อยุธยา อุบลราชธานี ประจวบคีรีขันธ์ ฯลฯ

ขณะเดียวกัน คราวน์ ได้ทำการสำรวจพฤติกรรมของผู้บริโภค พบว่า กลุ่มลูกค้าจะใช้เงินออมหรือเงินสดในการสร้างบ้าน เฉลี่ยประมาณ 65% ส่วนที่เหลือ 35% จะเป็นลูกค้าที่ขอสินเชื่อหรือกู้ยืมสถาบันการเงิน ซึ่งจากการสำรวจยังพบว่า บ้านในระดับ 3 – 5 ล้านบาท เป็นระดับราคาที่ลูกค้าส่วนใหญ่ตั้งงบประมาณไว้สำหรับการสร้างบ้านเพื่อการอยู่อาศัย

ดังนั้น จากเดิมที่ บ. แซมพ์ บิลเดอร์ ภายใต้ SAMPS Icon Thailand ซึ่งเป็นบริษัทรับสร้างบ้าน ที่มีฐานลูกค้านิยมสร้างบ้านในระดับแสนปลายถึง 2.5 ล้าน ขณะเดียวกันลูกค้าก็มีความต้องการบ้านในขนาดใหญ่ขึ้น หรูหรามากขึ้น บริษัทฯ จึงวางแผนขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มขนาดกลางและใหญ่ โดยได้เปิดตัวบริษัทรับสร้างบ้านในเครือชื่อ “CROWN” เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า

โดยมองว่า ธุรกิจรับสร้างบ้านยังคงมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง แม้ในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจโลกและความผันผวนของเศรษฐกิจไทย โอกาสที่เห็นได้ชัดคือ การขยายตัวในโครงสร้างพื้นฐานคมนาคม (สายสีส้ม สีชมพู สีเหลือง) แต่ในทางกลับกับต้นทุนแรงงานที่สูงขึ้นก็ถือเป็นอุปสรรค

บริษัทพบว่า ปัจจุบันบ้านสร้างเองจะตอบโจทย์ลูกค้าในเรื่องไลฟ์สไตล์  ดีไซน์การออกแบบและปรับรูปแบบบ้านตามความต้องการของผู้อยู่อาศัย รวมไปถึงการเลือกวัสดุที่ใช้ ข้อดีที่ผู้บริโภคยังคงเลือกใช้บริษัทรับสร้างบ้านที่มีความน่าเชื่อถือและมีประสบการณ์ คือ ความต่อเนื่องในการก่อสร้าง ลดความเสี่ยงเรื่องการทิ้งงาน ความสะดวกสบายในด้านการประสานงานกับหน่วยงานราชการ เป็นต้น

นายธาราพล ศุระศรางค์ ผู้อำนวยการสายงานขาย กล่าวเสริมว่า CROWN ใช้สโลแกน “Build for The Future” มาต่อยอดจากคอนเซ็ปต์เดิมของแซมพ์ คือ “สร้างบ้านตามความคิดคุณ” ซึ่งจะเป็นการติดปีกให้กับ SAMPS Icon Thailand ไปถึงเป้าหมายที่วางไว้ในการเป็นบริษัทรับสร้างบ้านชั้นนำอันดับต้นๆ ของไทย สำหรับแผนการดำเนินงานจะใช้ 3 กลยุทธ์หลัก คือ

1. การสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ ซึ่ง CROWN มี SAMPS เป็นเครื่องหมายการันตีถึงประสบการณ์และความชำนาญงานก่อสร้าง ด้วยความเป็นมืออาชีพมาตลอด 10 ปี
2. คุณภาพงาน ด้วยความโดดเด่นของแบบบ้าน ในสไตล์ที่ตอบโจทย์ในปัจจุบันและไม่ล้าสมัยในอนาคต และสถาปนิกสามารถออกแบบปรับเปลี่ยนตามความต้องการของลูกค้าภายใน 3 วันทำการ
3. บริการหลังการขาย CROWN ได้มีการพัฒนาแอปพลิเคชันเพื่อลูกค้าโดยเฉพาะ โดยให้บริการ เช่น การเช็คสถานะความคืบหน้าในการก่อสร้างแบบเรียลไทม์ การชำระค่างวด การตรวจสอบงวดงาน การขอมิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ถาวร และการขอเลขบ้าน เป็นต้น

ปัจจุบัน CROWN มีศูนย์รับสร้างบ้าน 3 สาขาด้วยกัน ได้แก่ อ่อนนุช กัลปพฤกษ์ และชลบุรี และในอนาคตภายในปีนี้ มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 1-2 สาขา ซึ่งอยู่ระหว่างการศึกษาข้อมูล เพื่อเป็นแผนการรองรับการขยายตัวของธุรกิจรับสร้างบ้านไปสู่ต่างจังหวัดโดยเฉพาะในหัวเมืองใหญ่ ส่วนงบการลงทุนโดยรวมที่วางไว้ในปีนี้ ประมาณ 20 ล้านบาท แบ่งเป็นงบการตลาดประมาณ 50% และงบโฆษณาและประชาสัมพันธ์ ผ่านเครื่องมือสื่อสารทั้ง online และ offline ประมาณ 50% ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้ายอดจองประมาณ 500 ล้านบาท เป้ายอดทำสัญญา ประมาณ 375 ล้านบาท